สวัสดีค่ะรีดๆ ขาา TUT ฮ่อลลล
ไหลไปกับกระแสน้ำที่เค้าสาดกันเล่นเลยค่ะ ไรท์ 555555 แต่! ไม่ได้หายไปกะเค้าค่ะ อยู่บ้านโดนแม่จิกหัวใช้จนผมร่วงเลยค่ะ 5555
แล้วแบบว่าโดนใช้ไม่พออากาศดันร้อนจนคิดอะไรไม่ออกอีก แต่ถึงจะหัวไบรท์ยังไงก็โดนแม่ใช้อยู่ดีค่ะรีด
TwT บางทีไรท์ก็อยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครสังเกตเห็นบ้างง่า.....นี่
เอะอะเรียก เอะอะใช้ มากไปและ
เอ่อ
ไรท์นี่แหละค่ะมากไปแล้ว รู้สึกมาฝอยยังไม่รู้ค่ะ
5555555 วันนี้เราก็มาต่อกันกับตอนจบของภาค
1.5 นะคะ >///< อุว๊ายยยยยย ต่อจาก Part ที่แล้วว่าเฮียเค้าจะทำอะไรต่อหลังจากที่คว้ามือเหมียวมาแล้วค่ะ เฮือกกกกก
เฮียถนอมหน่อย ถึงน้องจะหลับก็ขอให้ถนอมหน่อยค่ะ อย่าจับแรง
//กลัวเหมียวโดนทำร้ายจนขึ้นสอง -*-//
Part นี้ไรท์แอบอมยิ้มตอนจบด้วยล่ะค่ะ น้องเหมียวซนน่ารักมาก 55555 อย่าคิดว่าไม่มีคนเห็นนะแจ๊ะ มีคนเหนหนูอยู่วววววว 555555 พอ เลิกรั่ว!
โอเคค่ะ ไรท์จะเรียนรีดๆ
ที่เคารพรักของไรท์ทุกท่านด้วยว่า หลังจากที่จบ Part ไปแล้ว
ไรท์จะงดลงฟิคนะคะ เพราะว่าตอนนี้กำลังเร่งเขียน
รุ่นพี่เฟี้ยวกับแก็งค์น้องเฮี้ยวสุดซ่า : Ronaldo x Messi เล่ม
2 – 3 ให้จบอยู่ค่ะ เนื่องจากไม่สามารถช้าได้ค่ะและไรท์ต้องทำการเองทุกอย่างใหม่อีกครั้งทั้งทำรูปเล่ม
ของแถม แพ็คของ //อันนี้ชอบมากกกก//
ซึ่งไรท์ตื่นเต้นและชอบมากเลยค่ะจะได้ส่งของไปให้รีดๆ อีกแล้ววววว >0<
55555555 และไรท์ก็จะเริ่มเขียนฟิคเรื่องใหม่หลังจากที่ส่งของแล้วนะคะ
ต่อจากความเดิมในตอนที่แล้ว...
----------------------------------------------------------------------------------------
ฝ่ามือน้อยๆ สีขาวราวกับกระดาษสีชมพูอ่อนน่าจับจองและดูเปราะบางเกินไปเมื่อมันเป็นของ
ลีโอเนล เมสซี่
เด็กหนุ่มผู้ไม่เคยแม้แต่จะมองโลกในแง่ร้ายเลยสักครั้ง แต่ทว่าฝ่ามือเย็นเชียบคู่นั้นกลับมีริ้วรอยสีสดสะดุดตาปรากฏชัดอยู่หลายแห่งบนฝ่ามือคู่นั้น......ซึ่งแน่นอน
เมสซี่ได้มันมาจากการเจียดน้ำใจเก็บกุหลาบแล้วส่งคืนให้กับชายโง่เง่าส่งดอกไม้คนนั้น
ร่างสูงชักสีหน้าไม่พอใจ พลันเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่นี้ที่อ่อนลงทันที เค้ารู้สึกโกรธ หงุดหงิด
ที่ความมีน้ำใจของร่างเล็กโดนมองข้ามไปอย่างไม่ใส่ใจ
ถ้าเด็กนี่ไม่เก็บให้แก
แกก็คงจะได้จ่ายค่าดอกไม้ด้วยเงินเดือนทั้งหมดของแกแน่เจ้าเซ่อ....โรนัลโด้นึกติงอยากจะกล่าวออกมาเสียให้ได้ เค้าเห็นควรว่าหลังจากคืนนี้ไปควรจะไปที่ร้านแล้วทำให้ชายคนนี้เดือดร้อนเล่นเสียหน่อย
ฟังแล้วอาจดูเหมือนร่างสูงแข็งแกร่งนี้ร้ายกาจ แต่เค้าเองก็นึกไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรดี
หรือนี่อาจเป็นไปตามพื้นเพนิสัยของเค้าก็เป็นได้
และคงจะใช่ เค้าเองก็ร้ายกาจ........
โรนัลโด้พินิจสายตาไปมา ก่อนจะลุกออกไปแล้วกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว เค้าไม่ได้สนใจสิ่งใดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบตัวเลย ไม่สนใจเสียงของลุงตัวเองที่กำลังขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ
น้อยๆ บนเวที...ไม่ เสียงนั้นไม่เข้าหูร่างสูงอยู่แล้ว ไม่สนใจแม้กระทั่งสายตาของพนักงานเสิร์ฟที่ดูแลความเรียบร้อยที่เพิ่งเดินส่วนเค้าไปที่ผ้าม่านกั้นฉากระหว่างหลังงานและหน้างาน
พนักงานคนนั้นรูดม่านให้ปิดกั้นอย่างพอดี เพื่อไม่ยอมให้มีสิ่งใดโผล่พ้นไปได้อันจะเป็นการทำให้คนภายนอกมองเข้ามาแล้วดูไม่เรียบร้อย ไม่สมบรูณ์แบบสำหรับงานหรูหราเช่นนี้ คนผู้นั้นไม่สนใจโรนัลโด้ที่ควรออกไปหน้างาน และเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในส่วนของหลังงาน
ร่างสูงเดินกลับมานั่งที่เดิม วางของไว้ข้างตัวร่างเล็กของเด็กหนุ่ม แล้วจับมือเล็กๆ
คู่นั้นขึ้นมาอย่างไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอีกครั้ง ก่อนมือแกร่งจะวางแผ่ฝ่ามือของอีกฝ่ายบนมือของตัวเองแล้วเริ่มใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นที่ตนเพิ่งจะหามาได้เมื่อครู่ค่อยๆ
ซับไปตามรอยซับเลือดเหล่านั้น
นี่ในครัว
หาของพวกนี้ได้ง่ายอยู่แล้ว.........
โรนัลโด้ทำอย่างเบามือ ถึงแม้จะไม่เคยมีใครสามารถยืนยันได้ว่าร่างสูงมีประสบการณ์และเคยทำอย่างนี้มาก่อนหรือไม่ แต่เค้าก็เช็ดคราบเลือดแห้งกรังจากฝ่ามือของร่างเล็กออกไปได้อย่างนุ่มนวลและเชี่ยวชาญแล้ว ร่างสูงค่อยๆ ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบจนอาจทำให้อีกฝ่ายตื่นได้ แต่แล้วเมสซี่ก็ขยับตัวเล็กน้อย
จนร่างสูงของรุ่นพี่เกรงว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะตื่นเอา หากแต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เมสซี่เพียงแค่ขยับตัวให้เข้าที่เข้าท่าอย่างรู้สึกอุ่นสบายก็เท่านั้น
ไม่เคยมีใครรู้ว่าร่างสูงทำอะไรเช่นนี้เป็นด้วย ไม่เคยเลย
ไม่มี เว้นเสียแต่เค้าจะอยากให้ใครรู้ ซึ่งก็บอกตามตรงเลยว่าเค้าไม่เคยทำให้ใครถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ ด้วยความที่ว่าดูเข้าถึงยากเพราะเงียบขรึมและดูดุดัน กอปรกับมีฐานะดีจนดูถือตัวไปโดยปริยาย จึงไม่มีใครกล้าคิดภาพที่ร่างสูงคนนี้จะยอมทำตัวอ่อนโยนเพื่อใคร
ใส่หัวของตัวเอง
แต่จะคิดไปก็เท่านั้น เพราจะไม่มีครั้งที่สองที่โรนัลโด้คนนี้จะทำมันอีกเป็นแน่ นั่นก็เพราะว่า.....
ป๊อกก!
เสียงเปิดขวดไวน์รสชาติดีที่สุดของงานได้ถูกเปิดแล้ว พร้อมด้วยร่างกายน้อยๆ ที่สะดุ้งสะเทือนขึ้นอย่างขวัญอ่อน
โรนัลโด้หยุดมือและจ้องมองรุ่นน้องซึ่งยังคงดิ่งตัวลงสู่ห้วงนิทราอย่างที่เป็นในคราแรก ใครกันช่างคิดให้เอาไมค์จ่อจุกก๊อกตอนมันเด้งออกจากขวด
งี่เง่าชะมัด!......โรนัลโด้คิดสบถในใจอีกระรอกหนึ่งแต่ก็มิได้จริงจังนัก
เท่ากับการที่ได้รู้ว่าเมสซี่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างที่เค้าหวั่นเอาไว้
มือข้างหนึ่งถูกซับรอยเลือดออกไปจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงจึงทำแบบเดียวกันกับข้างที่สองอย่างแผ่วเบาและละเมียดละไมเท่าที่เค้าจะทำได้ ผ้าชุบน้ำอุ่นจากหม้อต้มน้ำที่เหลือน้ำอยู่ช่วยได้มากกับการลบรอยบาดแผลเล็กๆ
ซึ่งแห้งกรังนี้ให้ออกไปได้จนหมดจด โรนัลโด้ประคองฝ่ามือของเมสซี่ไว้ในอุ้งมือของตัวเอง
พร้อมกันนั้นมือข้างหนึ่ง เค้าก็ประกบผ้าชุบน้ำอุ่นให้เคลื่อนตัวละเลียดผ่านแผลซึ่งทิ้งรอยเลือดซึมแห้งกรังนั้นไว้ด้วย
ราวกับว่าร่างสูงกำลังประกบมือของตัวเองกอบกุมฝ่ามือของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลับใหลไปไม่ได้สติอยู่ข้างที่หลับนอน
และผ่านไปไม่นานนัก ร่างสูงก็เลิกใช้ผ้าที่สูญเสียความอุ่นนั้น แล้วเปลี่ยนมาเป็นเช็ดน้ำยาทำความสะอาดบาดแผลในรอบๆ
บริเวณนั้นแทน เพื่อไม่เสี่ยงให้มันติดเชื้อ ถึงแม้ว่าจะละเลยมาเกือบร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม ร่างสูงเขี่ยกล่องปฐมพยาบาลเข้าไปใต้มานั่งของเมสซี่แล้วโยนสำลีทิ้งลงข้างตัวอย่างไม่ใคร่สนใจนัก
ในตอนที่เค้าทำทุกอย่างที่พึงทำในตอนนี้เสร็จลงแล้ว
ในยามที่ค่ำคืนเข้าปกคลุมม่านฟ้าของเมือง อากาศดูหนาวเย็นเป็นพิเศษจากบริบทหลายๆ สิ่งรอบตัว เด็กหนุ่มผู้มุ่งมั่น ทุ่มเท
และเศร้าสร้อยนอนอิงราวจับม้านั่งตัวยาวสวยอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเงียบเหงา
ใช่ ถ้าเค้าไม่ลืมตาและรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
จนกระทั่งหลับต่อไปอย่างลืมกังวลเวลา.......
หากเจ้าของร่างนั้นลืมตาขึ้นมาสักนิด เจ้าตัวอาจจะพบเข้ากับร่างสูงผู้ซึ่งแทบจะบดบังวิสัยทัศน์รอบข้างเมื่อมองออกไปของร่างเล็กได้เลยทีเดียว ร่างสูงผู้นั่งนิ่งไม่แสดงกิริยาก่อกวนใดๆ
เช่นที่ปรกติร่างเล็กอาจคิดไปว่าเค้าจะทำเมื่อมีโอกาส แต่ชายผู้นั้น...ชายผู้นั้นที่ร่างสูงและดูสง่า นั่งหลังตรงจ้องมองใบหน้าอ่อนเดียงสาที่ปรากฏความเหนื่อยล้าของรุ่นน้องผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างไร้คำอธิบาย
นั่นอาจเป็นเพราะจิตใจรวมทั้งความคิดของร่างสูงสุดที่จะหยั่งถึงได้ ไม่ว่าใครก็คาดไม่ได้ว่าเค้าคิดจะทำอะไร แม้แต่แม่ของเค้าเอง
ทุกคนจะรู้...ก็ต่อเมื่อเค้าลงมือทำหรือเฉลยคำตอบแล้วท่านั้น
โรนัลโด้กอบกุมฝ่ามืออ่อนนุ่มข้างหนึ่งของร่างเล็กไว้ ซึ่งบัดนี้มันดูน่ามองมากกว่าครั้งแรกนักเป็นไหนๆ
ข้างนอกนั่นกำลังเปิดเพลงเลี้ยงฉลองและสังสรรค์ แต่ไม่สนุกสนานเช่นที่เค้าคิดไว้ โรนัลโด้ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไปที่ข้างมือของเมสซี่เงียบๆ
เช่นเดียวกับที่นิ้วหัวแม่มืออีกข้างหนึ่งของเค้าก็กำลังทำเช่นเดียวกันกับพวงแก้มใสที่เริ่มขึ้นสีระเรื่ออมชมพูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เค้าชอบให้เด็กคนนี้ยิ้ม โรนัลโด้ชอบเสมอ ถึงแม้ว่าเมสซี่จะไม่มีมันให้เค้าก็ตาม แต่ใครจะไปรู้อะไรถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเค้า ไม่มีใครรู้เหตุผลที่เค้าต้องการจะให้เด็กคนนี้ออกจากชมรมด้วยซ้ำ และเหตุผลที่เค้าหน่ายโลกก็คงจะไม่ต่างกัน
ถ้ามีคนแอบดูอยู่แล้วไปเล่าให้เด็กคนนี้ฟังเอาทีหลัง
คงจะโดนหัวเราะเยาะเอาใส่เป็นแน่ เพราะไม่มีวัน ไม่มีทาง ที่เมสซี่จะเชื่อว่ารุ่นพี่ผู้ใจร้ายคนนี้จะนั่งอยู่ข้างๆ
เจ้าตัวอย่างสงบปากคำและท่าทาง พร้อมทั้งอ่อนโยนเช่นนี้ได้
เพราะงั้นให้มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้น่ะดีแล้ว.....มันจะได้เป็นความลับต่อไป และไม่มีใครรู้ว่าเค้าทำเช่นนั้นให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องต้องหัวเราะเยาะหาว่ามันเป็นเรื่องโกหก
บอกใครไปก็ไม่โง่เชื่อกันหรอก.....โรนัลโด้แค้นเสียงดังหึในลำคอ รอยยิ้มแสยะอย่างนึกดูแคลนในใจ เคลือบอยู่บนริมฝีปากของร่างสูง
แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้จนโรนัลโด้ต้องยอมรับเลย
คือการที่เค้าคิดถึงเด็กคนนี้...คิดถึงอย่างมากมายจริงๆ โรนัลโด้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันผ่านมาเพียงแค่ไม่ถึงสองสัปดาห์เท่านั้นที่เค้าไม่ได้พบกับเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้ แต่ในความรู้ในใจของเค้านั้นมันกลับนานแสนนานเหมือนกับวิ่งอยู่ในความฝันที่ไม่มีวันตื่น
และเค้าจะต้องวิ่งต่อไปอย่างไร้จุดหมาย
แต่ทว่าวันนี้ที่ได้บังเอิญพบกับร่างเล็ก ทุกความขุ่นมัวในหัวใจของร่างสูงก็ถูกฉีกกระชากออกไปจนไม่เหลือชิ้นดี และเค้าไม่อาจลืมความรู้สึกของวันนี้ที่ได้ไล่นิ้วไปตามพวงแก้มใสรวมทั้งฝ่ามืออ่อนนุ่มที่ไม่ควรต้องหยิบจับอะไรให้ต้องระคายผิวได้ โรนัลโด้เก็บทุกรายละเอียดไว้จนกว่าจะถึงขีดจำกัดความอยากของฟางเส้นสุดท้ายของเค้า ตราบใดที่เค้ายังสามารถทนคิดถึงเมสซี่ได้ โรนัลโด้ก็จะปล่อยให้เด็กหนุ่มคนนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป.....
วันนี้ท้องฟ้ามืดลงถูกแทนที่ด้วยดวงดาวที่ดาษดื่นเคลื่อนตัวขึ้นมาเต็มท้องฟ้ายามราตรี อากาศเริ่มเย็นลง ผิวเนียนนุ่มที่โรนัลโด้สัมผัสจับอยู่เริ่มเย็นเชียบ แม้แต่ฝ่ามือของเค้าเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเครื่องปรับอากาศในตัวอาคารนี้ทำงานหนักมากจนเกินไปจริงๆ
มือข้างหนึ่งของร่างสูงผู้ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยสิ่งใดถูกยกขึ้นไปแตะแก้มใสอีกรอบ และพบกับความเย็นที่ไม่ต่างอะไรจากน้ำแข็งเลย โรนัลโด้กระชับมือขาวนวลที่จับอยู่โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะละมือออกมาถอดเสื้อนอกของตัวเอง คิดจะห่มคลุมให้ร่างของรุ่นน้องแต่พลันกลับมีเสียงอื่นที่ใกล้ตัวดังขึ้นมาเสียก่อน
ร่างเล็กสะดุ้งตัว ศีรษะที่หนุนอยู่บนราวจับของม้านั่งขยับขึ้นเพราะตกใจมากกับเสียงเรียกเข้าของตัวเอง
ร่างกายของเมสซี่ขยับไปมาอย่างไม่สบายตัวและงอแข้งงอขาเข้าหาตัวเล็กน้อยคล้ายเด็กที่ใกล้จะตื่นนอนแล้ว
โรนัลโด้ซึ่งจับขอบเสื้อนอกทำท่าจะถอดออกอยู่รอมรอก็ชะงักไปและถอยตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างสูงขยับกายออกมาสร้างระยะห่างเมตรครึ่งอย่างเร็วรี่ ก่อนชายหนุ่มร่างสูงจะมองใบหน้าที่กำลังจะตื่นจากนิทราของเมสซี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างทันท่วงที ชายเสื้อของเค้าสะบัดไหวก่อนจะหายเข้าไปในความมืด
“อะ อือ...” ร่างเล็กขยี้ตาแล้วรู้สึกปวดแปลบที่ท้ายทอยขึ้นมา
จากคอที่พาดอยู่บนขอบราวจับม้านั่งแข็งๆ เป็นเวลานาน เด็กหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นมา รู้สึกเหมือนตัวเองหลับไปนานมากหลังจากที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าเผลอหลับไป เมสซี่ยกมือขึ้นนวดท้ายทอยเล็กน้อย
เค้ามีสีหน้าเหยเกแต่ก็กลับเปลี่ยนไปเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับประตูห้องเก็บของที่โล่งเวิ้งว้างไร้สิ่งกีดขว้างใดๆ
ในที่สุด
และโทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ฮะ ฮัลโหลครับแม่” เมสซี่รีบรับ
เอ่ยเสียงตะกุกตะกักตอบไปเมื่อแม่ของเค้าโทรมาหาอีกรอบ
“จะ
จะกลับแล้วครับแม่...เมื่อกี้ผมหลับไป ไม่
ไม่หรอกครับ เอ่อ จอนห์กลับไปแล้วครับ ผมรอ...ฮะ?
ไม่เอาหรอก ผมรอเสื้อผ้าของผมอยู่ ผมจะไม่ให้แม่ล้อผมอีกเด็ดขาดเลย...นั่นไม่ใช่ชื่นชมเลยครับ แม่นั่นล่ะที่....แม่ เเม่ครับเดี๋ยว....โธ่ แม่อ่าา”
เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเจ้าตัวโดนผู้เป็นแม่ที่ไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็ยังมิวายเอ่ยแซวถึงเรื่องชุดที่ได้ข่าวมาว่าลูกชายของเธอใส่แล้วดูหล่อเอามากๆ
ในวันนี้ เมสซี่เริ่มหน้าบูด แม่ของเค้าบอกว่า “ไหนๆ ก็ไหนๆ
กลับมาให้แม่ดูชุดของลูกหน่อยสิ” วางสายตัดไปเสียอย่างนั้น แล้วเด็กหนุ่มก็เอ่ยประท้วงกับตัวเองถึงมารดาที่ไม่เคยหยุดหยอกเย้าเค้าเลย เมสซี่หน้าบูดอีก ริมฝีปากบางด้านล่างยื่นออกมาเล็กน้อยก่อนไหล่เล็กทั้งคู่จะพร้อมใจทิ้งตัวลงมาอย่างหนักอึ้ง
........ไม่มีทาง เค้าจะไม่เดินกลับบ้านด้วยสภาพที่ดูตลกอย่างนี้แน่นอน........
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ร่างที่ไม่ใหญ่โตนักของชายหนุ่มตัวน้อยๆ ก็ผุดลุกขึ้นออกเดินไปยังห้องเก็บของที่เค้ารออย่างใจเย็นมาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ก่อนจะเกือบสะดุดเข้ากับเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ถูกวางขว้างทางเค้าไว้ เมสซี่ชะงักเพื่อเบี่ยงหลบมาได้ ดวงตาคู่กลมโตกวาดมองเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ตรงหน้าเค้าอย่างนึกฉงน
..........ตอนแรกก็ไม่เห็นมีนี่ เอ คนอื่นๆ ออกไปกันหมดแล้วนะ เสียงงาน พวกเค้ากำลังสังสรรค์กันนี่นา คนอื่นๆ คงจะออกไปดูแลความเรียบร้อยของงานกันหมดแล้วล่ะ พวกเค้าอาจรีบมาก.......
เมสซี่มองเก้าอี้ตัวนั้น นึกคิดไปว่าอาจเป็นเพราะความเร่งรีบของคนครัวหลังงานที่ไม่เป็นห่วงความเป็นระเบียบที่จะเก็บข้าวของให้เข้าที่ก็ได้ แล้วละสายตาออกมาอย่างไม่นึกติดใจอะไร ก่อนจะวิ่งเข้าห้องเก็บของไปเปลี่ยนชุดเดิมที่เค้าชอบมากกว่าชุดที่ใส่อยู่เป็นไหนๆ
เด็กหนุ่มหายเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แต่ร่างสูงของรุ่นพี่อย่างโรนัลโด้ก็ยังคงแอบกายอยู่หลังผ้าม่าน เฝ้ามองแผ่นหลังที่ถูกซ้อนทับด้วยบานประตูของร่างเล็กด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกอีกเช่นเคย ใบหน้าโรนัลโด้ดูคล้ายเฝ้ามองสวนหลังบ้านที่น่าพอใจของตัวเองอยู่
เด็กหนุ่มตัวน้อยๆ ของเค้าวิ่งออกมาแล้ว พร้อมกับถุงใส่ชุดสูทที่ดูใหญ่มากเกินไปหน่อยเมื่ออยู่ในมือของเมสซี่ เด็กหนุ่มกอดมันไว้อย่างเบามือ
ปิดประตูห้องเก็บของกลับคืนอย่างสุภาพแม้ไม่มีใครคอยจับผิด เมสซี่ใส่กางเกงขาสั้นรองเท้ากีฬาถุงเท้าสั้นเท่าตาตุ้มและเสื้อยืดลายการ์ตูนตัวโปรดของเจ้าตัว ก่อนจะเดินออกไปจากงานทางประตูหลังอย่างเงียบเชียบและไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็น
ใช่ นั่นล่ะเมสซี่
ลีโอเนล เมสซี่
ที่แสนจะเรียบง่ายและขี้อาย
โรนัลโด้รู้ข้อนั้นดี..........
และนึกขอบคุณที่เด็กหนุ่มไม่เอะใจเลยว่ามีชายคนหนึ่งคอยเฝ้าดูและแตะตัวของเค้าในตอนที่หลับไป โรนัลโด้ที่แอบดูอยู่ตรงรอยแยกของม่านกั้นงานยกยิ้มให้กับตัวเองอย่างเบาบางซึ่งหาดูได้ยากเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งจากชายหนุ่มร่างสูงผู้นี้
“คริส...คริสเตียนโน่ แกหายหัวไปไหนมา?!”
โรนัลโด้หันหลังไปหาต้นเสียงที่สวมรองเท้าหนังขัดมันแว้บ
สาวเท้าก้าวเข้ามาหาเค้าอย่างเอาเรื่อง
ร่างสูงหมุนตัวบนสันเท้า
กลับมาวางตัวสง่าผ่าเผยอีกครั้งและเป็นการเป็นงาน
เค้าเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งรอฟังคำถามในตอนที่ลุงของเค้าทำหน้าโมโหใส่ แล้วสูดหายใจเข้าไปอย่างเบื่อหน่ายเสียเต็มปอด
“แกคิดว่าแกทำอย่างนั้นกับฉันต่อหน้า....”
“หุบปากซะตาแก่...อ่อ
แล้วก็ไปตายซะ ยืนพูดมากอยู่ได้ ไม่รู้เลยรึไงว่ามันน่ารำคาญน่ะ” โรนัลโด้ขยับปากและเปล่งเสียง คิ้วทั้งสองข้างของเค้าวาดอยู่เหนือดวงตาเสมอกันอย่างเฉยเมยในคำเกรี้ยวกราดของลุง ก่อนคำพูดที่ดูแสนธรรมดายิ่งกว่าในความรู้สึกของคนอย่างเค้า
จะสามารถหุบปากลุงบังเกิดเกล้าของตัวเองได้
ชายแก่แต่งตัวดีหน้าแข็งตึง
และถลึงตาใส่หลานชาย คำว่า “แกว่าอะไรนะ?!” ฉาบอยู่บนใบหน้าปรากฏริ้วรอยชัดยามเมื่อโมโหของเค้า
โรนัลโด้อมยิ้ม พลางเลิกคิ้วขึ้นเสสายตามองไปยังด้านหลังของชายแก่เจ้าอำนาจ ก่อนร่างสูงแข็งแกร่งจะเอามืออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วติดกระดุมเสื้อนอกของตัวเองให้เรียบร้อยในขณะที่เดินสวนออกไปอย่างสุภาพ
“ขอบคุณมากที่รับฟัง แต่ผมต้องไปแล้วขอโทษนะครับคุณลุง ผมต้องขอตัวก่อน”
ก่อนร่างสูงจะหันไปยิ้มให้กับคู่ค้าทางธุรกิจเมื่อชั่วโมงที่แล้วของลุงตัวเอง
พร้อมกับลูกสาวที่ดูท่าทางคาดหวังเสียเต็มเปี่ยมของพวกนั้น
โรนัลโด้พยักหน้าให้เธอด้วยรอยยิ้มบาดใจแล้วเดินออกไป แสร้งทำเหมือนว่ามีธุระด่วนจริงๆ บุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่
มาเร็วพอที่จะได้ยินร่างสูงเอ่ยเสียงสุภาพกับชายแก่เมื่อครู่นี้
“อ้าว ไหนบอกเราว่าจะแนะนำเค้าให้รู้จักยังไงล่ะ เค้าจะรีบไปไหนเสียแล้วล่ะ? หลานคุณดูดีมากเลยนะ เมโลดี้น้อยของเราสนใจเค้ามากเลย” เป็นอีกครั้งที่คู่ค้าธุรกิจถามคำถามเสียดหน้าแทงใจ
จนลุงของร่างสูงอยากจะเอาขวดแชมเปญฟาดหน้าเข้าให้เสียจริง
เจ้าคริสเตียนโน่!!
และเป็นอีกครั้งที่โดนหักหน้าจากหลานชายอย่างยับเยิน
**************************************************************
“แม่นะแม่ ให้ตายยังไงผมก็ไม่กลับบ้านไปในสภาพตลกๆ
อย่างนั้นหรอก...แวะเอาชุดไปให้จอนห์ก่อนดีกว่า
กลับไปแม่จะได้ไม่บังคับให้ผมใส่มันอีก” เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ เดินด้วยขาที่แข็งแรงและความเร็วอันคงที่ไปตามทางเดินเท้าแคบๆ
ขนาดเท่าสองคนเดินโอบกันได้ ขาเล็กๆ
เดินไป ปากน้อยๆ ก็บ่นอุ่บอิ่บไปเรื่อย ถึงแม่ที่รอบังคับเค้าอยู่ที่บ้าน
เมสซี่ยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นมาดู และแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อพบว่ามันขาวสะอาด
เค้าจำได้นี่ว่าล่าสุดก่อนจะไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน มันยังซับเลือดเป็นริ้วน้อยๆ
ทั่วมืออยู่เลย
และตอนนี้ก็ไม่ปวดแล้วด้วย.....
มันคงจะหายไปเองล่ะมั่ง แผลเล็กนิดเดียวเองนี่นา.....ร่างเล็กออกความเห็น พลางคิดไปว่าตัวเองเผลอเอามือไปลูบนู่นลูบนี่ในตอนหลับบ้างหรือเปล่า เลอะเทอะน่าดูเลยเมสซี่.....
ร่างเล็กหน้าเหยเกใส่ตัวเอง และไม่รู้เลยว่ามีคนเดินมาส่งเค้าที่บ้านอย่างห่างๆ
ไกลจากเจ้าตัวไปเพียงหกเมตรเท่านั้น
ตลอดทางเดินนั้นมีรั้วถูกสร้างขนานไปตลอดทางและเต็มไปด้วยต้นไม้พืชพันธ์ต่างๆ
ที่ถูกจงใจปล่อยให้ขึ้นกลบรั้วจนดูรกรุงรังไปเสียหมด
ชายหนุ่มร่างสูงที่ใส่ชุดสูทปราศจากไทด์ดูทันสมัยเดินตามมาอย่างเงียบๆ
และรักษาระยะห่าง เดินตามเด็กหนุ่มซึ่งลัดเลาะไปตามรั้วข้างทางไปเรื่อยๆ
อย่างใจเย็น เค้ายังเห็นเด็กหนุ่มแสนซนยื่นมือออกไปตบใบไม้ที่เกาะรั้วเล่นอีกด้วย
ก่อนจะโดนมันดีดกลับมาเข้าเต็มๆ โรนัลโด้ยิ้ม
เมื่อเด็กหนุ่มหยุดแล้วเอามือข้างเดิมถูหน้าตัวเอง ก่อนจะเริ่มเล่นใหม่อีกครั้งอย่างไม่รู้จักเข็ดในอีกสองสามนาทีถัดมา
โรนัลโด้ตามหลังไปจนถึงบ้านหลังน้อยของเมสซี่
เด็กหนุ่มวิ่งเข้าบ้านไปและได้ยินเสียงของแม่ตะโกนออกมา เด็กหนุ่มวิ่งออกมาอีกและหันหลังกอดอกให้แม่
พร้อมกับบอกว่าเจ้าตัวจะไม่ใส่ชุดนั้นอีกแล้ว
แม่ของเค้าถือกล้องเดินตามออกมาแล้วง้องอนลูกชาย ก่อนจะโดนลากเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มของแม่อย่างเสียไม่ได้
โรนัลโด้ยิ้มมีความสุขไปด้วยเป็นครั้งแรกในรอบของอะไรก็ตามแต่ซึ่งคาดว่าน่าจะนานมากๆ
.....นานมากๆ แล้วในความรู้สึกของเค้า เค้าไม่เคยโดนแง่งอนอย่างนั้นมาก่อน โดยเฉพาะกับแม่เพราะเค้าดูจะโตเกินไปแล้วที่จะทำแบบนั้น แต่เด็กคนนั้นกลับแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งนั่นก็บริสุทธิ์อย่างยิ่งในการกระทำของเมสซี่
เพราะเค้าเป็นเด็กหนุ่มแห่งรอยยิ้ม ความสดใส
และความอ่อนโยน
และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ตราบใดที่เมสซี่ยังคงเป็นเมสซี่เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง........
.
.
.
เฮ้ เค้ารู้บ้านของเมสซี่แล้ว ที่นี้จะโผล่หัวมาที่นี่บ้างก็คงจะไม่แปลกสินะ
โรนัลโด้ยิ้มกริ่มขณะหมุนตัวกลับ แล้วติดระดุมเสื้อนอกเหมือนเดิม
.
.
.
THE END
จบภาค Falling In Love Again : 1.5
--------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย!!! >[]< อรั๊ยๆๆๆๆ ขออรั๊ยสักสิบทีเถอะค่ะ! เฮียท่านทำอันใด? ใยจึงได้ดูอ่อนโยนเช่นนั้น ใครโยนสคริปให้ท่านผิดอย่างนั้นหรือ?......ผั๊วะ!
//โดนตบ// โอยยยยยย
พ่อคุณเอ้ยยยยย
บทจะอบอุ่นก็อุ่นจนร้อนจี๊ดจี๊เลยนะคะ >///< รักเค้าทำไมไม่บอกเค้าไปล่ะ
หือออ? ไปแบดใส่เค้าตั้งแต่ตอนแรกงั้นสินะเลยต้องแอบทแบบนี้ตอนหลับน่ะ เหมียวก็น่ารักตลอดเลยค่ะ อร๊ายยยย
//คนนี้ขออรั๊ยสักร้อยครั้ง//
หนูเสียบริสุทธิ์ทั้งตอนตอนและตอนหลับเลยนะจ๊ะ
ไรท์ขอแสดงความเสียใจด้วยจ๊ะ //เช็ดน้ำตา//
หาคำไปบอกพ่อกับแม่ดีๆ นะจ๊ะ พาเฮียไปด้วย ฮะ ฮาาาาา //โดนเหมียวมองจิก//
อันที่จริงไรท์ต้องแสดงความยินดีเนอะ 55555
ยัง...ยังไม่จบ -.-
ค่ะ ก็จบไปแล้วนะคะ
กับภาค 1.5 ของซีรี่ย์เรื่องนี้
หวังว่าคงจะถูกใจรีดๆ ของไรท์ไม่มากก็น้อยนะคะ ^^ ต่อไปเรื่องราวจะดำเนินไปในตอนหลังจากที่เฮียไปแมนยูแล้วค่ะ เหมียวก็จะได้ออกไปเผชิญโลกกว้างแล้วเหมือนกันค่ะ
>< ทั้งสองฝ่ายต่างได้เจอทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าค่ะ....อ้าว?
ยังไง??
และมันจะแบบว่า
//ทำเสียงซาบซึ้ง// เรื่องราวของพวกเค้าจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นค่ะ เพราะว่าพวกเค้าโตกันแล้ว! >< ตอนแรกไม่กะเขียนให้ถึงขนาดนี้เลยนะคะ
กะเอาเรื่องเดียวจบค่ะแต่ว่าแฟนเรียกร้อง 555555 ไรท์เองก็ชอบโครงเรื่องแนวนี้ค่ะ
555555 //ไอ้บ้า!// เฮื้ออออออออออ จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตาม Falling
In Love Again : 3 ค่ะ!!! >///<
และย้ำค่ะ ไรท์จะงดลงฟิคตั้งแต่วันนี้จนถึงตอนที่เขียนเรื่องใหม่เสร็จแล้วนะคะ ตอนนี้หมดมุขแล้วจริงๆ ค่ะ
ไม่มีเรื่องไหนดองไว้แล้วค่ะ TUT ก่อนอื่นต้องเร่งเขียนรุ่นี่เฟี้ยวอย่รางเดียวเลยค่ะ
รักรีดๆ ทุกท่านมากนะค้าาา
>< โอ้ๆๆๆ
แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< แฮ่ๆๆ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund