ฮาาาา สวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักของไรท์ทุกท่านขาา >< //กอดรีดแล้วระดมจูบ// ไรท์มาแล้วค่ะ 555555 รู้สึกดีมากค่ะได้ลงฟิคทีหนึ่งเนี่ยยย >w<
มาต่อกันที่ Part ที่แล้วนะคะ หลังจากที่เรื่องเกินเลยที่ทำให้เกิดบาดแผลในใจของเหมียวใน The
Storm แล้ว ส่วนหนึ่งของเหตุการณ์หลังจากนั้นที่รีดยังไม่รู้และกำลังจะได้รู้เพียงแค่อีกอึดใจหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นแล้วค่ะ
ไรท์ว่าเฮียเค้าก็ Strong อยู่พอตัวเลยนะคะ
เป็นที่เกรงขามของคนอื่น ไม่ทำให้ใครเอาปมเรื่องพ่อตายมาพูดเสียๆ หายๆ ได้
แถมยังรับมือกับลุงสุดจะแย่ชอบบังคับขู่เข็ญได้เป็นอย่างดีอีก...เฮียค่ะ
เรื่องนี้เฮียจเกิดมา Bad โดยที่ค่ะ 555555 //เหมียวเราเรื่องนี้ไม่ชอบเมะสาย Bad ซะด้วย// + //ทำใจจ๊ะเหมียว...เดี๋ยวหนูก็ชอบเค้าเอง....อ้าว
555555// ยังไง? รู้สึกไรท์คุยกับตัวเองบ่อยมากเกินไปแล้วล่ะค่ะ
ชื่อเรื่องภาคนี้
แหม่...ไรท์ก็ลืมคุยไปตั้งแต่ Part 1 ว่าเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องมากแค่ไหน มันเป็นเรื่องราวที่ปราศจากความร้ายกาจของเฮียค่ะ ย้ำ! เรื่องแรกในซี่รี่ย์ Falling
In Love Again เลยค่ะ! >{]< นี่สปอยล์แล้วนะเออ อิ..อิ เป็นเรื่องแรกที่เฮียแกไม่ทำร้ายจิตใจเหมียวค่ะ โฮ่ลลลลลล
ขวัญเอ๋ยย ขวัญมาพ่อคุณเอ้ยย ภาคนี้ลดโทษให้ชั่วคราวก็เด๊ะเฮีย
5555555 //โดนเฮียเตะ// และนอกจากนั้นก็ยังมีกลิ่นอายของความอบอุ่นอบอวลอยู่ในภาคนี้ด้วยค่ะ
ซึ่งมันมากจากความรู้สึกจากใจของเฮียค่ะ
//ทำตัวร้ายกาจกะเหมียวเพื่อเป็นการบังหน้านี่เนอะ// เพราะอย่างชื่อภาคไรท์จึงคัดมาแล้วอย่างดีค่ะ จำได้เลยตอนคิด เขียนไว้อยู่ประมาณ 12 ชื่อ
55555555 บ้ามากเลยค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตาแก่หัวหงอกจะปะทะคารมกับเฮียของเราอย่างไรอีก
//ภาคนี้เราเป็นพันธมิตรกะเฮียคะรีด....เป็นพันธมิตรกัน ห้ามลอบฆ่ากันตอนเผลอค่ะ
เดี๋ยวเหมียวไม่มีสามี TwT // + //นี่ไรท์พูดอะไร?! อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย! >{}< 55555// รีดบางคนก็เป็ฯแม่ยกเหมียวเต็มขั้นค่ะ ปองร้ายเฮียมาตั้งแต่จบภาค 1 แล้ว ไรท์เองก็คนหนึ่งค่ะ 555555555 เอาล่ะค่ะ ไปติดตามกันเลยค้าาาา >{}<
-----------------------------------------------------------------------------------
“นี่แก...!” ชายแก่ที่เอ่ยเสียงคุกคามแต่เบามาก
กำลังจะเกิดอาการปรอทแตก แต่ไม่นานก็สำเหนียกได้ว่าตัวเองไม่ควรทำอย่างนั้นในสถานการณ์ที่ผู้ดีรายล้อมอยู่รอบตัวเช่นนี้ จึงได้สงบสติลง “ฉันจะทำอย่างนั้นก็ต่อเมื่อแกจ่ายค่าเลี้ยงดูตั้งแต่วันแรกที่ฉันเจียดเงินให้จนหมดแล้วนั้นแหละ ฉันถึงจะเลิกลากแกออกมาจากบ้านเน่าๆ ของแก
เมื่อไรก็ได้ตราบใดที่ฉันพอใจ”
และบางทีชายคนนี้อาจคิดผิด ทันทีที่จบประโยคเชือดเฉือน
นั้นหลานชายของเค้าก็ค่อยๆ หันหน้ากลับมามองหน้าเค้าอย่างเรียบเฉย แต่สายตาคมประดุจเหยี่ยวนั้นก็ลุกวาว และค้อนขวางบ่งบอกเลยว่าโรนัลโด้ไม่ชอบให้ใครมาพูดถึงสิทธิ์ของตัวเองราวกับว่าเค้าไม่มีทางเลือกเช่นนั้น และว่าบ้านที่พ่อกับแม่ของเค้าตั้งใจสร้างขึ้นมากับมือแบบนั้นด้วย...........
โรนัลโด้เปลี่ยนสีหน้าและบทบาทของตัวเองเสียใหม่ เมื่อโดนสะกิดถึงต่อมสำคัญเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจของชายแก่ผู้แกว่งปากหาเรื่อง
บ้านของเค้าใหญ่โตและหน้าตาของครอบครัวก็เป็นที่ยอมรับของคนในระแวกนั้นทั้งหมด.........
และสีหน้าที่ร่างสูงแสดงออกไปทำให้คนเป็นลุงรู้สึกถึงความเหนือกว่าที่หดหายไป แต่คนสูงอายุกว่าที่ยังคงมีใบหน้าเย้ยหยันไว้อย่างวางมาดก็ไม่ได้ว่ากะไรต่อ
อันจะเป็นการสร้างความร้าวฉานให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
เค้าเพียงยอมถอยทัพเล็กน้อย เว้นระยะห่างของการยั่วยุโรนัลโด้โดยไม่ตั้งใจ แล้วกล่าวประโยคที่ไม่ลดละความแข็งกระด้าง
“จะยังไงก็ช่าง แต่แกช่วยทำหน้าให้มันเหมือนเต็มใจหน่อยจะได้ไหม”
ชายแก่ว่า พลางจัดทรงเสื้อตัวเองให้ดูดี เพราะถัดไปเบื้องหน้าของพวกเค้าคือคู่ค้าธุรกิจดังกล่าวที่เจริญไมตรีกันด้วยดีมาโดยตลอด และวันนี้ลูกสาวคนเดียวของคนเหล่านั้นก็ติดสอยห้อยตามมาด้วย
ลุงของชายหนุ่มผู้เงียบขรึมสั่งให้หลานชายจอมขว้างโลกปั้นสีหน้าให้ดีๆ
เพื่อพบปะแขกที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ดังนั้นสิ่งที่ดีอย่างคนเป็นหลานเช่นโรนัลโด้ควรพึงกระทำนั่นก็คือทำตามคำสั่งของลุงอย่างเคร่งครัด
“ได้เลย จัดให้ตามสั่ง” ก่อนร่างสูงกำยำโดดเด่นจะดึงเสื้อนอกของตัวเองให้เรียบตึง
แล้วเดินหันหลังออกไปจากจุดยืนของตัวเองไปอย่างสง่างาม ทิ้งให้ลุงของเค้าต้องยืนเดียวดายทำตาลุกวาวแทบไม่ทันเมื่อรู้สึกตัวว่าหลานชายสุดแข็งแรงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ก่อนจะเสียหน้ายับเยินเมื่อคู่ค้าทางธุรกิจเดินเข้ามาหา
ถามหาถึงหลานชายที่เจ้าตัวบอกว่าจะแนะนำให้รู้จักกับลูกสาวของอีกฝ่าย
ก็จะให้พูดอย่างไรดีล่ะ
ก็เจ้าคนที่เพิ่งเดินออกไปหน้าตาเฉยเมื่อครู่นี้นี่แหละ...........
นายขายหน้าจริงๆ !........ชายที่ได้แต่ตีสีหน้ายิ้มแย้มแอบคิดสบถที่มันไม่เป็นดั่งที่คาดในใจ
ด้วยในใจรู้ว่าลูกชายของน้องชายตัวเองนั้นไม่ได้มีใจบูชาตนเสียเท่าไรอยู่แล้ว เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อขว้างคอตน แต่ชายผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่คิดว่าเจ้าเด็กอวดดีคนนั้นจะกล้าหักของของตัวเองได้ถึงเพียงนี้
เจ้าคริสเตียนโน่!.....ชายวัยกลางคนนึกคำกระแทกกระทั้นในใจอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อถูกถามถึงหลานชายอีกรอบ
**********************************************************************************
ร่างสูงที่เพิ่งจากมาและฝากรอยยิ้มเจื่อนฝืดบนใบหน้าแก่ๆ
ของลุงตัวเองได้สำเร็จ ก็วาดรอยยิ้มปรากฏที่มุมปากอย่างนึกสะใจแกมสมเพส
ที่คนเบื้องหลังหลงคิดไปว่าตัวเองจะออกคำสั่งกับเค้าได้ โรนัลโด้เดินดุ่มๆ ออกมาจากหน้างาน เดินผ่านซุ้มจัดอาหาร สาวๆ ซึ่งไม่น่าอยู่ในงานนี้ที่มองเค้า และเดินสบายๆ ผ่านบรรดาคนแก่มีเงินทั้งหลายที่พูดคุยกันอย่างถูกคอ ร่างสูงหายตัวไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยความที่ว่ามันจะเป็นสิ่งรับประกันว่าลุงจะไม่เจอตัวเค้าอีก และเค้าก็จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าที่มีริ้วรอยชวนอารมณ์เสียของลุงอีก จากนั้นเค้าก็ค่อยกลับบ้านอย่างไร้ร่องรอย
เรื่องง่ายๆ
แต่สามารถกระตุกเส้นประสาทของคนอื่นให้สั่นจนแทบระเบิดได้ คริสเตียนโน่
โรนัลโด้ คนนี้ถนัดนักล่ะ
มันเป็นงานอดิเรกของเค้า ถ้าจำไม่ผิด...........
จนกระทั่งโรนัลโด้เดินมาถึงประตูทางออก
อย่างง่ายดาย
ก่อนจะโดนรั้งไว้ด้วยประโยคคำถามอันนอบน้อมของคนถือกุญแจรถประจำงาน
“สวัสดีครับ จะกลับแล้วหรือครับ ผมจะไปเอารถมาให้คุณเอง” ชายคนดังกล่าวกุมมือประสานกันไว้ที่จุดกลางกายด้านหน้าแล้วค่อมหลังเล็กน้อยอย่างละเมียดละมุน
พร้อมกับพูดจากับร่างสูงของชายหนุ่มอย่างแสนสุภาพ เพราะเค้าคิดว่าโรนัลโด้เป็นเศรษฐีมีฐานะที่มาร่วมงานการกุศลในครั้งนี้คนหนึ่ง
และเนื่องจากท่วงท่าบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของร่างสูง ทำให้คนถือกุญแจรถคนนี้ไม่รู้สึกสะกิดใจเลยว่าชายหนุ่มผู้แสนจะดูดีที่อยู่ตรงหน้าตนตอนนี้นั้นมีวุฒิภาวะเป็นแค่เพียงเด็กไฮสคูลปีสุดท้ายเท่านั้น
โรนัลโด้หยุดชะงัก แต่ไม่แสดงอาการเมื่อชายคนนี้เข้ามาขว้างหน้าไว้
“เอ่อ...ไม่ ฉันยังไม่กลับ
แค่ออกมาดูคนที่นัดไว้ก็เท่านั้น” ร่างสูงที่ตกใจเล็กน้อยกับคนถือกุญแจแสนขยันก็เอ่ยปัดอย่างแนบเนียนและรักษาท่วงท่าให้อยู่ในระดับปรกติ
เค้าไม่เคยเลย ไม่เคยเลยที่จะให้คนอื่นจับผิดได้สักครั้ง.......
ก่อนร่างสูงจะพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ฉันยังไม่กลับ อย่างรวดเร็ว พนักงานคนดังกล่าวจึงค้อมศีรษะให้อย่างเข้าใจแล้วเดินไปบริการแขกคนอื่นต่ออย่างแข็งขัน
ชายเก็บกุญแจคนนั้นไปแล้ว โรนัลโด้ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ......ก็จะให้เอ่ยอะไรออกไปได้อย่างไร เมื่อลุงจอมบงการยัดเค้าใส่รถของตัวเองออกมา และไม่ยอมให้เค้ามีทางเลือกเลยแม้แต่นิดเดียว หากจะให้คนขับรถที่รออยู่ไปส่งล่ะก็มีหวังเสียแผนเป็นแน่แท้ ตาแก่นั่นมีหวังต้องรู้ว่าเค้าจะกลับบ้านทั้งๆ ที่ชายหนุ่มยังไม่ได้เคลื่อนกายออกจากงานเสียด้วยซ้ำ
ร่างสูงวางตัวได้อย่างเยือกเย็น เค้าหมุนตัวบนสันเท้า
กวาดสายตามองไปในงานที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดหรูหรา
ก่อนจะสาวเท้าหลบเลี่ยงไปทางฝั่งที่เงียบคนที่สุด จนกระทั่งเดินหลุดเข้าไปในส่วนหลังของการเตรียมงาน มีผู้คนที่ไม่ได้แต่งตัวเหมือนกลุ่มคนเมื่อครู่เดินกันให้ขวัก
ดูน่าเวียนหัวเต็มไปหมด
แต่พวกเค้าไม่ได้สนใจกับการแทรกตัวเข้ามาของร่างสูงเลยแม้แต่นิดเดียว เช่นเดียวกับร่างสูงที่กำลังหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรออกอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว
สัญญาณเกิดการเชื่อมต่อและต่อติดกับปลายสายในที่สุด
“ฮัลโหล นี่ฉันเองนะ....นายรู้ใช่ไหมว่าฉันอยู่ไหน มารับทีสิ” เสียงทุ้มเข้มน่าหลงใหลกรอกไปตามสาย
น้ำเสียงเค้าฟังดูเร่งรีบอยากจะออกจากงานที่ส่งกลิ่นคุณลุงคุณป้าจนเหม็นโฉ่วนี่ใจจะขาด
แว่วเสียงขบขันจากเพื่อนปลายสาย ตามด้วยประโยคสมนาอีกเล็กน้อย
ก่อนเพื่อนปลายสายบอกว่าจะออกไปรับในไม่ช้า
“มาเป็นฉันบ้างสิแล้วนายจะรู้....”
ฝีเท้าหนักๆ เดินจ้ำเป็นจังหวะ ไม่ชะลอเพื่อรอใครทั้งนั้น ที่นี่ไม่มีค่าอะไรให้เค้าอยู่เลย
แต่แล้วฝีเท้าที่เดินจ้ำอย่างเร่งรีบก็เป็นอันต้องชะลอจนหยุดลงไปเสียอย่างนั้น
ใบหน้าหล่อเหลาที่สอดสายตาระแวดระวังภัยให้ตัวเองไปทั่วคลายขมวดปมคิ้วลง มือถือที่ชิดหูก็ถูกยกออกมาให้ห่างโดยอัตโนมัติ
และสายตาของเค้าก็เหม่อมองออกไปในที่สุด..........
“นาย...ไม่ต้องมารับฉันแล้วนะ” ร่างสูงกำยำว่าไปอย่างเมินเฉยต่อเสียงทักท้วงของเพื่อน
พลันโรนัลโด้ก็ชะงักกายลงตรงนั้น
กดวางสายไปโดยไม่ฟังคำของเพื่อนปลายสายเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนเค้าจะเดินเบี่ยงหลบไปแอบกายอยู่ริมทางเข้าของส่วนท้ายสำหรับจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างของงาน แล้วเฝ้ามองเด็กหนุ่มสวมชุดที่ดูหลวมโครกผิดกับร่างกายของเจ้าตัวไปนิดหน่อย
นั่งเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บนม้านั่งตัวยาวอันไร้ผู้มาเยี่ยมเยือน
ชายหนุ่มแอบดูเด็กชายคนนั้นอย่างเงียบเชียบราวกับว่าเค้าไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไร้ผู้คนสนใจ และโรนัลโด้ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจเพียงใดที่ได้บังเอิญพบเข้ากับเด็กคนนี้ อีกทั้งคิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่เป็นฝ่ายเห็นอีกฝ่ายก่อน
.........เพราะมิฉะนั้น เด็กน้อยคนนี้ก็คงจะวิ่งหนีเค้าไปอีกเป็นแน่แท้.........
แต่ไม่หรอก เจ้าตัวจะทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ทั้งสองพบกัน โรนัลโด้ก็ไม่ยอมให้เมสซี่หนีเค้าไปไหนได้อีก หลังจากที่เค้าเฝ้ามองเด็กคนนี้ภายใต้สายตาที่เย็นชาและเชียบคมก็ไม่มีอะไรที่เค้าต้องพูดอีก เมื่อชายหนุ่มไม่ชอบแสดงด้วยอะไรที่พร่ำเพื่อไร้ประโยชน์ และเช่นเดียวกัน ในตอนนี้โรนัลโด้เลือกที่จะไม่พูด
ไม่เข้าไปหาเด็กหนุ่มอย่างที่เค้าควรจะทำเสียด้วยซ้ำ ร่างกายแข็งแรงเกินกว่าใครเลือกที่จะแอบดูอยู่อย่างเงียบๆ
ต่อไปเช่นที่เค้าต้องการ
............แค่มองดูใบหน้าอ่อนเดียงสานั้น ฉายแววตาที่กลมโตสุกใสราวกับลูกแมว และทำตัวสงบเสงี่ยมต่อไป เช่นที่เมสซี่นั้นเป็นมาโดยตลอด ใช่
ร่างเล็กดูบอบบางและน่ารักเกินไปที่จะมานั่งไร้คนสนใจในงานแบบนี้..........
ร่างสูงของลูกชายผู้เป็นที่เชิดชูของวงศ์ตระกูลในตอนนี้ความรู้สึกเกลียด วิตกกังวล
และการที่จะถูกลุงจอมบงการของตัวเองพบเข้า ได้ถูกฉีกกระชากออกไปจนหมดสิ้นและรวดเร็วราวกับโดนพัดปลิวหายไป โรนัลโด้ไม่ได้คิดถึงสิ่งใดในใจเลย นอกเสียจากร่างเล็กผิวขาวกระจ่างใส เนียนนุ่มเช่นที่เค้าเคยจำได้จากการสัมผัส และดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่ฉายแววใสซื่อนั้น โรนัลโด้ไม่เคยลืม
เด็กหนุ่มผู้บิดเร้า แต่ก็ทะนงตัวยามเมื่อถูกเค้ากอด
และทำให้ครางกระเซ้าจนตัวสั่นเทิ้ม..........
โรนัลโด้แอบอิงเหมี่ยงมองอยู่อย่างเงียบเชียบ เค้าเห็นเมสซี่นั่งอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
คล้ายกับรออะไรบางอย่างอยู่ จนกระทั่งร่างสูงเห็นชายวัยฉกรรจ์คนหนึ่ง ดูท่าทางไม่มีพิษมีภัยหอบดอกกุหลาบเกือบร้อยดอกอยู่ในอ้อมแขนดูท่าทางคงจะเป็นคนส่งของที่ไม่สลักสำคัญอะไรในงานนี้ เดินเข้ามาพูดคุยกับร่างเล็ก โรนัลโด้จึงสันนิฐานว่าน่าจะถามทางเสียมากกว่า
เมสซี่ก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจแต่อย่างใด เด็กหนุ่มกลับยิ้มอย่างเป็นมิตรและสนทนาด้วย โรนัลโด้เห็นเด็กหนุ่มชี้ไม้ชี้มือเพื่อบอกทางให้แก่ชายส่งดอกไม้ ในอ้อมกอดของชายผู้นั้นคือดอกกุหลาบหอบใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษกรอบแกรบสองสามแผ่น
เพื่อป้องกันไม่ให้หนามจากก้านกุหลาบซึ่งยังไม่ได้ตัดแต่งแทงทิ่มคนที่กอดมันมาส่งเอาได้
โรนัลโด้เห็นชายส่งดอกไม้ผงกศีรษะเป็นเชิงขอบคุณแก่ร่างเล็กแล้วหมุนตัวเดินออกไปส่งดอกไม้ให้ถึงปลายทางอย่างเร่งรีบ แต่ทันทีที่เค้าหมุนตัว กลับมีดอกกุหลาบตกลงมาจากการกอดรวบที่หมิ่นเหม่อของเค้า ซึ่งดูจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าได้ทำมันตกลงไปจนดูไร้ความรับผิดชอบมากแค่ไหน
เมสซี่มองตามดอกกุหลาบบานสวยที่ทิ้งตัวลงพื้นนั้นอย่างไร้ค่า
ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองแผ่นหลังที่มีโลโก้ของร้านขายดอกไม้ปรากฏอยู่ ใบหน้าอ่อนเดียงสากระพริบตาอย่างสับสน ก่อนจะเดินหน้าไปเก็บกุหลายแสนสวยดอกนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอมแล้วจ้ำเท้าตามชายส่งดอกไม้ไป
โรนัลโด้ลอบเดินตามเมสซี่ที่เก็บดอกที่สองซึ่งร่วงหล่นลงมาจากกระดาษห่ออีก
ไม่รู้ว่าชายเซ่อซ่าที่ส่งดอกไม้จะเดินไปไกลอีกแค่ไหน แต่ที่รู้ๆ คือร่างเล็กซึ่งซอยเท้าเดินตามจนแทบวิ่งนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อ้าปากบอกเตือนสติชายที่เดินลิ่วๆ
อยู่ข้างหน้าเลย เนื่องจากเจ้าตัวเล็กจะต้องเดินไปด้วยและก้มเก็บดอกไม้ที่ถูกงดให้ความสนใจในทุกๆ
สองสามก้าวไปด้วย
เด็กหนุ่มมีสีหน้าเลิกลั่ก แต่ก็ระมัดระวังจนลนลานเพื่อไม่ให้เท้าที่ซอยจ้ำของตนนั้นต้องเผลอเหยียบกับดอกไม้ที่หล่นเป็นทอดๆ
เข้า เมสซี่มีกุหลาบเต็มอ้อมแขน กลุ่มผมนุ่มลื่นราวกับเส้นไหมนั้นก้มผุดๆ โผล่ๆ
จนปอยผมที่ตัดสั้นของเจ้าตัวพลิ้วไปมาเล็กน้อย
โรนัลโด้มองภาพนั้นแล้วอดหลุดยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้
ใบหน้าอ่อนเดียงสาที่แสดงถึงความลำบากใจ แต่ก็เกรงอกเกรงใจในเวลาเดียวกันนั้นทำให้ร่างสูงรู้สึกเพลินตาไปได้ไม่น้อยเลย
โรนัลโด้นึกอยากจะขอบใจชายส่งดอกไม้เซ่อซ่าคนนั้นนักที่ทำให้เค้าได้เห็นเรื่องสนุกๆ
ตรงหน้านี้ และใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้นะที่ทำแบบนี้แล้วจะเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้.......เห็นคงจะมีเพียงแต่เมสซี่เท่านั้นที่สามารถทำให้ร่างสูงแสดงสีหน้าอย่างอื่นนอกจากเงียบขรึมออกมาได้
แต่ไม่นานนักการติดตามของร่างสูงก็ต้องหยุดลงเมื่อจุดหมายของคนส่งของสิ้นสุด
พร้อมกับเด็กหนุ่มที่เริ่มหอบแล้วในตอนที่ขาเล็กๆ คู่นั้นได้หยุดจ้ำอ้าวเสียที
เมสซี่เอ่ยเรียกเพื่อคืนดอกไม้ โรนัลโด้ยังคงแอบดูอย่างแนบเนียนต่อไป
และเงียบเชียบโดยไม่ทำให้ดูเหมือนว่าตัวเองตามคนอื่นมา
เค้ามองดูชายส่งดอกไม้คนนั้นหันหน้ามามองเด็กหนุ่มอย่างไม่คาดคิดว่าจะทำดอกไม้ตก แล้วเอ่ยอะไรบ้างอย่างกับเมสซี่ โรนัลโด้ไม่ได้ยิน เพราะชายนั้นพูดเบามาก
แต่ร่างสูงก็ไม่ได้สนใจในรายละเอียดนั้นแล้วในตอนที่ ชายส่งดอกไม้โง่เง่าที่สวมถุงมือคนนั้นรับดอกกุหลาบหอบหนึ่งมาจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่มผู้มีน้ำใจ
โรนัลโด้สังเกตเห็นหน้าที่เปลี่ยนสีไปของเมสซี่เล็กน้อย นั่นเป็นเพราะว่ากุหลาบที่ยังไม่ได้ตัดหนามออกนั้นทิ่มไปที่มือเล็กๆ
ทั้งสองข้างของร่างเล็กเข้าเต็มๆ
ชายคนนั้นรีบร้อนเกินไป
เพราะอาการลนลานว่ากลัวจะโดนตำหนิ จึงไม่ทันรอให้เมสซี่ปล่อยมือจากก้านกุหลาบเสียก่อน มันจึงตำและครูดกับมือของเด็กหนุ่มโดยตรง
เมสซี่ไม่ว่ากระไร ร่างเล็กไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาว่าเจ็บปวดเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มร่างสูงที่แอบกายอยู่ก็รู้สึกได้ว่าร่างเล็กที่เอ่ยบอกลาก่อนจะเดินหันหลังจากมาโดยไม่ทักท้วงสิ่งใดนั้นแสดงสีหน้าออกมาว่าเจ็บ ร่างสูงกำยำเบี่ยงหลบเข้าไปในมุมบริเวณนั้นเพื่อซ่อนตัวจากร่างเล็กและเค้าไม่แม้แต่จะได้รับความสนใจจากเด็กหนุ่มเลย เจ้าตัวเดินผ่านเค้าไปและนั่งลงตรงที่ม้านั่งตัวเดิม
แผลกุหลาบตำจะปวดมากหากโดนเข้าไปโดยตรง และมันจะปวดตุ้บๆ ไปเลยหากปล่อยไว้นานเกินไปโดยไม่สนใจ..........
เมสซี่ถึงที่แล้ว โรนัลโด้จึงขยับกายออกมาจากตรอกของส่วนเตรียมงานเล็กน้อย ใบหน้าคมสันครึ่งหนึ่งหลบอยู่ในเงามืด สายตาคมประดุจเหยี่ยวมองร่างเล็กๆ
ที่สะดุ้งตัวเนื่องจากเสียงโทรศัพท์ของตัวเองเกิดดังขึ้นขัดกับเสียงดนตรีที่แว่วออกมาจากหน้างาน
คงเป็นแม่ที่โทรมา......
โรนัลโด้เห็นสีหน้าตอนร่างเล็กรับโทรศัพท์
แล้วพูดคุยกลับไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ที่เจ้าตัวรู้ดีว่าผู้เป็นแม่ที่อยู่อีกฝั่งของปลายสายจะต้องไม่ได้เห็นแน่ๆ
หนุ่มน้อยผู้มีหน้าตาและการแต่งตัวสะอาดสะอ้านเอ่ยบางอย่างออกไป ร่างสูงที่แอบดูอยู่ก็คาดว่าคงจะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวกลับบ้านช้าเป็นแน่ ต่อมาเมสซี่ก็เผยรอยยิ้มดีใจ พยักหน้าใส่มือถืออีกสองสามครั้งก่อนจะวางสายไป
บางที
แม่อาจไม่โกรธที่เจ้าตัวกลับบ้านช้า และยินดีรอจนกว่าจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย.......
โรนัลโด้ยิ้มละมุนที่มุมปาก ซึ่งหาดูได้ยากจากชายหนุ่มผู้นิสัยซับซ้อนคนนี้ ร่างเล็กไม่รู้เลยหรือไร ว่าการที่แสดงกิริยาท่าทางใส่โทรศัพท์ทั้งๆ
ที่อีกฝ่ายไม่รับรู้นั่นน่ะมันน่ารักแค่ไหน
แต่ทันทีที่คุยกับแม่เสร็จแล้ว ร่างน้อยๆ ก็เม้มริมฝีปาก มองไปยังหม้อต้มซุปใบเปล่าอย่างรอคอยการเคลื่อนตัวของมัน ก่อนจะก้มใบหน้าลงมองฝ่ามือทั้งสองที่วางหงายอยู่บนตักของตนเองก่อนมันจะเริ่มปวด ร่างสูงเห็นเด็กหนุ่มของเค้าเม้มปากอีก แต่คร่ำเคร่งกว่าเดิมมากนัก
และกระพริบตาถี่ โรนัลโด้พยายามเพ่งมองลงไปบ้าง
แต่ก็ไม่สามารถเห็นอะไรได้เลยจากตรงนี้ที่เค้ายืนอยู่ เพราะห่างกันอยู่พอสมควร
เมสซี่ไม่ได้ทำอะไรต่อไป ได้แต่รอการเคลื่อนย้ายของหม้อซุปอันแสนสำคัญใบนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นด้วยซ้ำ ดวงตากลมโตนอกจากจะเฝ้าคอยหม้อแล้ว ก็ยังเหม่อมองไปทั่วโถงด้านหลังของงานที่เจ้าตัวนั่งอยู่อย่างไม่แสดงตัวตนอีกด้วย เมสซี่พยายามทำเหมือนว่าตัวเองไม่เจ็บแผลที่มือ
แต่โรนัลโด้รู้ดีว่ามันแย่มากแค่ไหน แผลจากหนามกุหลาบจะปวดจนเต้นตุ้บๆ
ไปเลยถ้าไม่ดูแล และนั่นคงไม่ต้องไปพูดถึงฝ่ามือที่โดนทิ่มจนแทบไม่เหลือที่ว่างของร่างเล็ก
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว หลังจากที่เวลาได้ล่วงเลยไป ผู้คนในส่วนหลังของงานก็ออกไปทำหน้าที่ของตัวเองในส่วนหน้างานกันมากโขแล้ว ในส่วนท้ายนี้จึงเกือบร้างผู้คน โรนัลโด้ยืนอยู่ในที่ประจำการเดิมของตัวเองโดยที่ไม่ได้เคลื่อนกายไปไหน มองดูสิ่งเดียวที่ทำให้เค้ายังคงมีความรู้สึกอยากที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปโดยไม่นึกเบื่อ
ในคราแรกร่างสูงคิดว่าเมสซี่ซบตัวลงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ข้างไหล่ของเจ้าตัว แต่ที่ไหนได้ เด็กหนุ่มผู้สุภาพนั้นหลับได้ไปนานแล้ว ด้วยอุณหภูมิและช่วงเวลาของวันที่เป็นใจคงทำให้เด็กหนุ่มผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
โรนัลโด้ขยับตัว ชะโงกหน้าไปมองเด็กหนุ่มให้มากขึ้นอีก ก่อนจะตัดสินใจย่างกายออกมาจากมุมที่ตนยืนอยู่ แล้วเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่นอนหลับซบม้านั่งอยู่อย่างเดียวดาย และถัดไปฝั่งตรงข้ามอีกฝั่งหนึ่งของโถง
พ่อครัวเพิ่งจะช่วยกันยกหม้อใบใหญ่ออกจากการกีดขว้างปากประตูและนำมันไปไว้ในที่เตรียมเก็บล้าง
ร่างสูงแข็งแรงซุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเมสซี่อย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้เจ้าตัวรู้สึกตัวแล้วตื่นขึ้นมาได้
ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจเหล่าพ่อครัวที่เก็บของออกไปได้อย่างไร้เสียงจนน่าเหลือเชื่อ
สายตาที่เย็นชาและวางเฉยในคราแรกอันมีให้แก่คนรอบข้างกลับหลุบแสงไป และบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยแววตาที่อ่อนลงกว่าเดิมมากนัก มือแกร่งถูกดึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงอุ่นสบายตัดกับอากาศเย็นเชียบภายในห้อง รอบข้างไม่มีใครสนใจเค้าเลยแม้แต่คนเดียว โรนัลโด้จึงย่อตัวลงอย่างเงียบเสียง นั่งลงบนข้อเท้าตัวเอง แล้วใช้หลังมืออันอบอุ่นนั้นค่อยๆ
แตะสัมผัสไปบนโหนกแก้มสีขาวกระจ่างของเด็กหนุ่มตัวน้อยที่แอบอิงเผลอหลับอยู่บนม้านั่งตัวยาว
และเป็นดั่งเช่นที่เค้าคิดไว้ ผิวแก้มของเมสซี่เย็นเชียบและอ่อนนุ่ม.......
นั่นทำให้โรนัลโด้อดที่จะใช้นิ้วเกลี่ยอย่างเน้นย้ำไปยังบริเวณที่ตัวเองเคยคลอเคลียเมื่อครั้งก่อนอย่างเสียมิได้เลย มือข้างที่ว่างอยู่ก็พาดอยู่บนเข่าเพื่อรักษาสมดุล
ในขณะที่เจ้าของร่างสูงแกร่งนั้นก็กำลังเพลิดเพลินกับการใช้นิ้วหัวแม่มือของตนละเลียดสัมผัสไปตามพวงแก้มใสระเรื่อที่เนียนนุ่มราวกับเด็กๆ เนินที่พานิ้วของเค้าไปยังสันจมูกที่โด่งรั้นไม่เหมือนใครของร่างเล็ก
และเรื่อยไปจนบริเวณหว่างคิ้วจนถึงเปลือกตาสีมุกที่ปิดสนิทในที่สุด
สีหน้าโรนัลโด้ดูไม่รีบร้อน
เค้าไม่เคยเบื่อเลยที่จะสัมผัสเด็กคนนี้
กระทั่งความอบอุ่นจากนิ้วมือทำให้ใบหน้าของเมสซี่อบอุ่นและหายเย็นชืดขึ้นมาในที่สุด โรนัลโด้จึงเห็นสมควรกับตัวเองแล้วว่าควรละฝ่ามือของตนออกมาได้แล้ว
มิฉะนั้นอาจเป็นการปลุกให้อีกฝ่ายหนึ่งตื่นขึ้นมาได้
เค้าผละมือออกมาในตอนที่เมสซี่ขยับศีรษะและถูใบหน้าไปมากับแขนของตัวเองเพื่อใช้หนุนนอน
ราวกับว่านั่นคือหมอนใบโปรดของเจ้าตัว
โรนัลโด้กระพริบตาเล็กน้อย
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยกเก้าอี้ไม่มีพนักพิงมานั่งข้างตัวของร่างเล็ก เค้าไม่ทำให้เกิดเสียงเลยแม้แต่อย่างใด
เพราะรู้ว่าความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ตื่นขึ้นมาเจอเค้า
และพาลจะเสียเรื่องเอาได้
แต่ก็อย่ากระไรเลย ว่ากันตามตรงโรนัลโด้ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เจอเมสซี่ในที่แบบนี้ และในเวลาที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดแบบนี้ แต่ทว่าหากมันเป็นความบังเอิญที่พวกเค้าจะได้เจอกัน และมันช่างเป็นเหตุที่บังเอิญยิ่งกว่าเมื่อเค้าเองสามารถเข้าใกล้กับเด็กหนุ่มซึ่งเกลียดเค้า
ที่ไม่แม้แต่จะรู้ตัวเลยว่าใครกำลังมานั่งอยู่ด้านหน้าของเจ้าตัวในเวลานี้ เพราะฉะนั้นโรนัลโด้ก็จะใช้โอกาสที่ตัวเองมีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด
เมสซี่หายใจสม่ำเสมอ และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปจนกว่าจะมีคนมาปลุก โรนัลโด้นั่งหลังตรง เชิดคางขึ้นเสี้ยวหนึ่งเพื่อพินิจดูเด็กหนุ่มร่างเล็กตรงหน้าเค้าอย่างห่างๆ
ก่อนดวงตาคมจะกระพริบน้อยๆ หรี่ลงแล้วเบนสายตาไปหามือคู่บอบบางที่คดงอหลบความหนาวเย็นอยู่ในอ้อมกอดหลวมๆ
ของเด็กหนุ่ม
โรนัลโด้โน้มตัวลงไป และค่อยๆ แตะสัมผัสไปบนหลังมือน้อยๆ
นั้นอย่างระมัดระวัง ซึ่งมันเย็นเชียบและเจ้าของก็มิได้สะดุ้งตัวตื่นแต่อย่างใด นิ้วมือแข็งแกร่งที่อบอุ่นกว่าของร่างสูงจึงได้ไล่ไปจนถึงข้อมือบอบบางนั้น สายตาคมก็เหมี่ยงมองจับตาดูปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
ก็ตามจากร่างที่นอนเข้าสู่นิทราตรงหน้าไปด้วย
กระทั่งโรนัลโด้ฉวยข้อมือของเมสซี่ขึ้นมาดูอย่างเบามือได้สำเร็จในที่สุด
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------
โอ๊ะ
ฉวยโอกาสนี่เฮียยยยยยยยย!! ลักหลับเหมียวเหรอ!
>{}< บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ อร๊ายยยยยยย >////< เฮียก้ออออออออ แบบว่ามานั่งดูตอนเหมียวหลับเนี่ยนะ พอเจอเหมียวเฮียเหมือนมนตร์สะกดเลยค่ะ...ไม่คิดว่าจะเจอน้องที่นี่อ่ะสิ
ชิมิคะ 555555 และเรื่องลุง
ไรท์ยกนิ้วให้เลยค่ะ เยี่ยมค่ะเฮียยย 55555
เดินออกไปเลย ต้องเจอซูปเปอร์เอาแต่ใจรับพระกาฬอย่างเฮีย
5555 ไรท์รู้ว่าเฮียไม่ได้เอาแต่ใจค่ะ เฮียแค่โลกส่วนตัวสูง
เหมียวก็มุ้งมิ้งมากเลยค่ะ มุ้งมิ้งเหลือเกิน อิตาคนส่งดอกไม้นี่ก็นิสัยไม่ดีอีกคนหนึ่งค่ะ เหมียวของเราอุตส่าห์เก็บดอกไม้ไปให้ ดูทำอะไรกับเหมียวสิ
>< ชิๆๆๆ เฮียจัดตกงานไปเลย //อ้าว
สายชั่วแล้ว// 55555555 รอติดตามกัน Part หน้านะคะ >< เหมียวจะตื่นมาเจอเฮียหรือไม่ต้องติดตามค่าา
รักรีดทุกท่านนะค้าา
//ส่งจูบ//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น