วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559

[SF - RonalSi] + [Part 1] The Spring...สายลมแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ – Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 1.5]






ว๊ายยยยยยยยย สวัสดีค่ะรีดของไรท์ทุกท่านขาา >{}<!! ตื่นเต้นเล็กๆ เลยล่ะค่ะ  ปล่อยออกมาแล้วๆ  ภาคนี้ลำดับภาคออกมางงๆ เนอะ 1.5  ฮ่าาา  มันเป็นรอต่อระหว่าง ภาค 1 กับ ภาค 2 ค่ะ  ซึ่งภาค 2 ความจริงของความรู้สึกเฮียก็ได้ถูกเปิดเผยไปแล้วเนอะ มัน...//ส่ายหน้า// มันช่างหยิกใจไรท์มากจริงๆ เลยค่ะ.....แล้วทำน้องทำไม?  ไรท์ถามเฮีย(และตัวเอง)เบาๆ ค่ะ  5555555  จะขืนใจน้องไปทำเพื่อ??

แต่เอาเถิด  พระเอกเข้าใจยาก ยังไงก็เข้าใจยากอยู่วันยันค่ำค่ะ  เราจะค่อยๆ แงะปริศนาในใจของเค้าไปเรื่อยๆ นะคะ  ไรท์ขอสารภาพเลยค่ะในใจไรท์ตอนนี้คิดเลยว่า...ชอบจังเลยอ่า  ชอบนิสัยที่ร้ายกาจของเฮีย ถึงแม้เฮียจะไม่มีเหตุผลอะไรให้ร้ายก็เถอะ แต่เฮียก็ยังเป็นพระเอกที่ร้ายแล้วยิ่งขับความหล่อของตัวเองออกมาค่ะ 55555  หลงรักความแบดของเฮียจริงๆ  ชั่วไปเลยเฮีย ชั่วไปเลย แต่ชั่วแล้วอย่าลืมรักน้องนะคะ บอกให้น้องรู้ด้วยว่าเฮียรักน้องเค้ามาก ฮิ้ววววววว  //เสี่ยว...ไปตายซะ -..-//

เฮียร้ายแต่เฮียรักค่ะ 555555555  โอ้ย พอแล้ว!!! 

ยิ่งพูดมากยิ่งไหลค่ะ  โอเคค่ะรีดขา เรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่านะคะ....ในเรื่อง The Spring หรือ Falling In Love Again ภาค 1.5 นี้จะเป็นตอนที่เหมียวโดนเฮียขืนใจไปแล้ว หลังจากที่เหมียวออกมาจากโรงเรียนเก่าได้สัปดาห์หนึ่งค่ะ เป็นช่วงเก็บตัวของเหมียวและเพื่อนๆ ก็กำลังถามหาเค้าเลยค่ะ  ลีโอไปไหน ลีโอไปไหน!  ทำไมไม่ออกมาเล่นบอลด้วยกันอีกล่ะ?

ไปเล่นกันเองก่อนล่ะกันนะจ๊ะ เหมียวมีเจ้าของแล้วค่ะ  เจ้าของเค้าดูด้วยนะเออ 555555 ยังมิวาย ...แอ๊กกกก!  //โดนทุบหัว// T..+   ง่าาา  โอเคค่ะ....ในภาคนี้เฮียยังไม่รู้นะคะว่าตัวเองต้องไปแมนยู เพราะงั้นยังทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ค่ะ  ยังชิลล์อยู่  ไม่รู้ว่าต้องจากเหมียว TwT  //คิดจะเข้าเรื่องก็เข้า.....ต้องขอความอนุเคราะห์รีดอ่านของไรท์หมดเลยค่ะ  ไร้สาระหน่อยแต่สาระก็มีค่ะ 5555 คิดจะพูดก็พูด//

โอเคค่ะ ภาคนี้ เหมียวลาออกจากโรงเรียนเก่ามาแล้วหนึ่งอาทิตย์ เฮียยังไม่รู้ว่าตัวเองไปแมนยูนะคะ........เออ ทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก  //เหมือนลูอิสใน Ant Man เลยค่ะ -..-  แต่ไรท์ชอบนางมาก  จะฮาไปไหน 555555  กะเพื่อนลิงอีกสองตัว 5555  พอแล้ว!//

เอาล่ะค่ะ เกริ่นโหมโรงเสร็จแล้ว เราก็ไปอ่านกันเลยค่าาาา >{}<  หวังว่าจะถูกใจรีดๆ กันนะค้าา ><



-------------------------------------------------------------------------------------



“ลีโอที่รักจ๋า” เสียงค่อนข้างเล็กแหลมเปล่งออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าของตัวเองอยู่ที่หน้าบันไดถึงกับต้องสะดุ้งกาย

อ๊ะ คะ ครับ!” เจ้าตัวสะดุ้งจนตัวโยนอย่างดูค่อนข้างจะเกินจริงไปเสียหน่อย  ก่อนเด็กหนุ่มจะหันหน้าไปมองยังต้นเสียงเห็นเพื่อนบ้านที่คุ้นเคย  พลันรอยยิ้มน่ารักก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงที่สดใสขึ้นมาผิดจากคราแรกที่เจ้าตัวสะดุ้งเนื้อสะดุ้งตัวไปเสียถนัด “อ้าว  ป้าลูล่า  อรุณสวัสดิ์ครับ”

หญิงแก่ที่ยังดูแข็งแรงและมีสีสันชะโงกหน้าออกมาจากขอบรั้วข้างบ้านของเมสซี่  เธอมีรอยยิ้มที่กระปรี้กระเปร้าและเป็นมิตรอยู่เป็นนิจ  ก่อนหญิงไกลวัยสาวมามากแล้วจะละออกมาจากขอบรั้วแล้วเดินอ้อมเข้ามาหาเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านอย่างคุ้นชิน

“โถ่ๆๆๆ  ลีโอที่รัก  ป้าไม่อยากให้หนูตกใจหรอกนะจ๊ะ  ขอโทษจริงๆ ที่เข้ามาในตอนที่หนูกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เธอว่า ยิ้มแย้มเอ็นดูเด็กหนุ่มที่มีลักยิ้มคู่น่ารักที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา  แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนบันไดหน้าบ้านในที่สุด  มือไม้ของเธออยู่ไม่สุขแล้วกรีดกรายไปทั่ว

บางครั้งป้าลูล่าก็ทำให้เค้านึกถึงนางฟ้าแม่ทูนหัวของซินเดอรเรล่า.........

เมสซี่ยิ้มตอบไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อยหน่าย  ก่อนจะเห็นสายตาที่มองมือของตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ “เอ่อ  ผมกำลังจะไปเอาของที่แม่ลืมไว้ที่ร้านซักรีดน่ะฮะ  เดินไปแค่ตรอกเดียวเอง...ป้าลู่ล่ามีอะไรหรือครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยแถลงไขตาใสซื่อ พร้อมทั้งเอ่ยถามออกไปอย่างมีมารยาทเมื่อเค้าหลงคิดไปว่า หญิงใจดีตรงหน้ามีสิ่งใดจะไว้วานเค้าหรือเปล่า

“โอ้ว” เธอย่นคิ้วทำปากจู๋  แล้วยกมือขึ้นมาระดับอก “ป้านึกว่าหนูจะออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ซะอีก  รู้ไหมหลานๆ ของป้าบ่นหาคิดถึงผู้ทำประตูดีเด่นของพวกเค้าแหนะ หนูรู้ไหมจ๊ะ” หญิงที่มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีเป็นเลิศก้มลงหยิกแก้มเด็กหนุ่ม ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ เจ้าตัว  ลูล่าใช้ก้นของเธอเบียดเมสซี่ จนเด็กหนุ่มยอมขยับให้แต่โดยดี

เมสซี่หัวเราะตอบเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก.....

เด็กหนุ่มเพียงแค่ไม่สามารถหาคำตอบได้เช่นกันว่าทำไมเหตุใดความอยากที่จะออกไปสนุกกับเพื่อนๆ ของเค้าถึงได้หดหายไป  เมสซี่พยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น

หญิงแก่แต่มีผมสีดอกเล้าแล้วเกล้ามันไว้ด้วยกันขยับตัวหันมาหาเด็กหนุ่มร่างเล็ก “แต่ป้าไม่ได้มานี่เพื่อทำให้หนูรู้สึกแย่  รู้ใช่ไหมจ๊ะ?” เธอชี้เล็กๆ และเมสซี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ไม่รู้ว่าป้าลูล่ากำลังจะเอ่ยถึงอะไร

หญิงเจ้าของชุดกระโปรงรุงรังฉีกยิ้ม “หนูเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลกเลยป้ามั่นใจได้” เธอเห็นเด็กหนุ่มยิ้มแล้วเลิกคิ้วใส่เธอ  ก่อนหญิงที่อายุอานามมากกว่าแม่ของเมสซี่จะนึกอยากกลอกตาใส่ตัวเองที่พูดอ้อมค้อมแล้วตัดสินใจเอ่ยความต้องการออกไปในทันที

“คืออย่างนี้นะลีโอที่รัก  วันนี้ที่สโมสรป้ามีงานการกุศลและป้าขาดเด็กหนุ่มน่ารักๆ....” ลูล่าหยิกแก้มเมสซี่อีกเบาๆ “....คอยรับบัตรเชิญของแขกที่มาร่วมงานการกุศลให้ป้าน่ะจ๊ะ  ป้าไม่คิดว่าใครจะเหมาะเท่าหนูอีกแล้ว  เพราะงั้นหนูพอจะยืนใส่ชุดหล่อๆ อยู่หน้างานให้ป้าสักชั่วโมงสองชั่วโมงได้ไหมจ๊ะ?” ป้าลูล่าแอบถอนหายใจให้ตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม เมื่อเธอหยุดชักแม่น้ำทั้งห้าได้เสียที

และแน่นอนเด็กหนุ่มคนโปรดของเธอไม่เคยทำให้ความตั้งใจทั้งหลายแหล่ผิดหวังเลย

“ได้ครับ  ไม่มีปัญหา”

“โอ้วว  พระเจ้าส่งเจ้าชายน้อยๆ มาโปรด!” ฝ่ามือมีรอยเหี่ยวย่นแต่ทว่าอ่อนนุ่มประคองอย่างเบามือแต่ตื่นเต้น ล้อมกรอบไปที่พวงแก้มใสของเมสซี่ ป้าลูล่าดีใจแล้วดีใจอีก  ในที่สุดงานการกุศลของเธอก็ครบองค์ประกอบเสียที  ซึ่งเธอก็ได้คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากจะให้เด็กหนุ่มเป็นคนรับแขกอยู่ที่หน้างาน  ซึ่งเธอก็ไม่เคยผิดหวังหากจะฝากความรับผิดชอบไว้กับร่างเล็กผิวขาวผิดจากเด็กหนุ่มทั่วๆ ไปที่แสนจะมีความรับผิดชอบคนนี้

“แต่ว่าป้าลูล่าฮะ”

“จ๊ะที่รัก?” เธอยิ้มแล้วไม่กระพริบตาอย่างตั้งคำถาม  เมื่อเห็นเด็กที่นั่งเบียดอยู่ข้างก้นเธอและพยายามทำตัวให้เล็กลงนั้นมีสีหน้าวิตก

“ป้าบอกว่าผมจะใส่อะไรนะครับ?”

ป้าลู่ล่ายิ้มอ่อนโยนและเปล่งประกาย  ก่อนจะหยิกแก้มเมสซี่เข้าไปอีกทีหนึ่ง



********************************************************************************



“ผมดูตลก...”

“โอ้  ไม่หรอกที่รัก  นี่ล่ะดูดีแล้ว หนูดูหล่อที่สุดในงานเลยนะ”

“เอ่อ..” เมสซี่ไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก  หลังจากที่ป้าลูล่าไว่วานเค้าหนึ่งชั่วโมงเศษเมสซี่ก็ถูกพามาที่สโมสรของป้าแล้วโดนจับแต่งตัวเสียใหม่เพื่อเตรียมพร้อมทันทีที่งานเริ่ม  เด็กหนุ่มกำลังอ้าแขน  กางมันออกเพื่อให้คนที่ลากเค้ามาที่นี่เห็นว่าเค้าดูไม่ดีแค่ไหนนี่เค้าอายุเกือบจะยี่สิบอยู่แล้วนะ  แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความไม่สนิทใจของเจ้าตัวเพราะไม่เคยใส่ชุดอย่างเป็นทางการนี้ก็เท่านั้น  ความจริงแล้วร่างเล็กดูดีมากๆ เลยทีเดียว  เว้นเสียแต่ว่าเสื้อที่ลูล่าสั่งมาจะดูหลวมกว่าตัวของเด็กหนุ่มไปเล็กน้อยก็เท่านั้น

“เริ่ดจ๊ะ” เธอดึงหูกระต่ายสีดำที่รัดรอบคอของเมสซี่ให้เรียบร้อย  แล้วตบมือเข้าหากันเสียงดังเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ “เอาล่ะลีโอที่รักของป้า  อีกห้านาทีงานเริ่ม  จอนห์จะมาหาหนูแล้วพาหนูไปที่ของหนูเองนะจ๊ะไม่ต้องห่วง  ตอนนี้ป้าจะต้องไปดูส่วนอื่นๆ ของงานแล้ว....โชคดีนะจ๊ะ” หญิงที่อยู่ในชุดฟู่ฟ่าแต่สะดุดตาง่ายที่สุดของงานโบกมือแล้วเดินกรีดนิ้วออกไปอีกทางด้านหนึ่งอย่างเร่งรีบ

“ไงลีโอ”

อา  สวัสดีจอนห์

และช่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ  เด็กหนุ่มดังกล่าวที่ถูกเอ่ยถึงอยู่เมื่อครู่นี้ ก็มายืนกำหูกระต่ายบนคอตัวเองอย่างซังกะตายอยู่ข้างหลังของเมสซี่เสียแล้ว  ร่างเล็กถอยออกมาเล็กน้อย  นึกตกใจอยู่เหมือนกันที่หลานแท้ๆ ของป้าลูล่ากลายเป็นคนที่เก็บเสียงฝีเท้าได้เงียบถึงขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

“ฉันเบื่อป้าตัวเอง” จอนห์พ่นลมหายใจออกมา

“ไม่เอาน่า  นี่งานของป้าลูล่านะ ได้ข่าวว่าเป็นความคิดของป้าเค้าน่ะ” เมสซี่ที่ถูกขอร้องมาอีกคนหนึ่งกล่าวแทนหญิงที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้   แต่คู่สนทนาของเค้ากลับเปลี่ยนประเด็นไปอย่างกะทันหัน

“เป็นอะไรไป  ทำไมวันนี้สีหน้าดูไม่ดีเลยล่ะ.....โอ้ว  ป้าลูล่าของฉันคงจะทำให้นายลำบากใจอีกแล้วล่ะสินะ  นายคงจะไม่อยากมาหรอกใช่ไหม  ฉันรู้ฉันเองก็เป็น  ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นหลานของป้าลูล่า ป่านนี้ฉันคงจะนอนกดวีดิโอเกมส์อยู่ที่บ้านไปแล้ว  ขอโทษนะที่ป้าของฉันทำให้นายต้องฝืนมาก”

“โอ้ๆ  ไม่หรอก  ฉันเต็มใจมาช่วยน่ะ  ไม่ได้รบกวนเลยสักนิด” เมสซี่ยักไหล่แล้วโบกมือน้อยๆ

“แต่นายดู  เอ่อ ไม่ค่อยดีเลยนะ  ป่วยอีกหรือเปล่า?”

“อะ เอ่อ มะ ไม่...ฉันสบายดี” คนโดนชักสะอึกเล็กน้อย  เจ้าตัวหวังในใจว่าเพื่อนตรงหน้าจะไม่สังเกตเห็นอาการตาบวมเพราะร้องไห้จากฝันร้ายที่ไม่อยากจำเมื่อคืนนี้จนกลายเป็นข้อสังเกตที่น่าสงสัยไป

“แน่ใจนะ” จอนห์ถามย้ำอีก  เพราะดูสีหน้าของอีกคนหนึ่งแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเลย.....ปรกติเมสซี่ก็ดูสดชื่นและร่าเริงที่สุดมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว  แต่เค้าก็โดนปฏิเสธกลับมาในทันใด

“ฉันแน่ใจ” ร่างเล็กพยักหน้าเอ่ยออกไปพร้อมด้วยรอยยิ้มหนักแน่นที่ไม่แสดงออกถึงความเซื่องซึมเช่นเมื่อครู่  จนเพื่อนที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันพยักหน้ารับและไม่ติดใจชักถามในที่สุด.......แค่ในวันแรกที่จอนห์รู้ว่าเพื่อนร่างเล็กลาออกจากชมรมและโรงเรียน เค้าก็ตกใจพอตัวอยู่แล้ว  ถึงแม้ว่าเค้าจะพยายามตะล่อมถามอย่างนุ่มนวลอยู่อย่างไม่ลดละความพยายามอยู่กี่ครั้งก็ตาม  แต่ก็โดนท่าทีไม่ยินยอมพร้อมให้ข้อมูลของเมสซี่ทุกครั้งไป  จนจอนห์เองก็รู้สึกว่าตัวเองเซ้าซี้มากเกินไปแล้ว จึงล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองไปซะ เพราะกลัวว่าเมสซี่จะลำบากใจที่จะเจอหน้าเค้า

“งั้นก็ไปกันเถอะ  งานกำลังจะเริ่มแล้ว  เรามีคิวยืนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนฉันจะย้ายก้นกลับบ้านไปกดเกมส์ต่อ” จอนห์กล่าวอย่างติดตลกและคิดเห็นเป็นเช่นนั้นจริง ก่อนร่างเล็กที่โดนเป็นห่วงในด้านของความรู้สึกมากที่สุดจะหลุดหัวเราะคิกคักเดินตามหลังของหลานชายแท้ๆ ผู้ไม่ใคร่ให้ความร่วมมือกับป้าลูล่าเท่าไรนัก

แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ผู้คนล้มหลามทะลักเข้ามาในงาน  เด็กหนุ่มทั้งสองก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ปริปากบ่นสักคำโดยเฉพาะจอนห์ผู้เกลียดงานการกุศลของคนแก่

“ขอบคุณครับ...” ร่างเล็กรับบัตรเชิญจากคู่สามีภรรยาที่มีฐานะคู่หนึ่งแล้วกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มน่ามอง  ก่อนจะได้รับความเอ็นดูทางสีหน้าตอบกลับมา  สองคนนั้นเดินเข้าไปในงานและเวลาก็ล่วงเลยมาถึงอย่างรวดเร็ว

เมสซี่หันไปหาเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วยื่นบัตรเชิญไปให้จอนห์

“คุณและคุณนายเบอร์ลีแมน...” จอนห์รับบัตรมาแล้วเช็คในตารางของรายชื่อแขกที่เค้าถืออยู่  เค้าสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่อย่างสิ้นสุดการรอยคอย “...เท่านี้ก็ครบ  เราเสร็จงานแล้วล่ะ  ฉันต้องขอบคุณที่งานนี้รับเฉพาะคนมีตังค์ เพราะแถวนี้ไม่ค่อยจะมีกันเยอะนัก”

“ฮ่ะๆๆ ดูท่าวิดีโอเกมส์คงจะคิดถึงนายมากเลยนะ” เมสซี่ว่าเย้า จงใจย้ายคำเพื่อเล่นมุขกับจอนห์  เด็กชายที่ใส่แว่นเหมือน แฮร์รี่   พอตเตอร์  ผมสีดอกเล้าเหมือนเฮอร์ไมโอนี่ตอนแก่  และฝีปากจัดเหมือนรอนตอนเป็นเด็กๆ  ไหวไหล่ยอมรับคำของเมสซี่

“ก็ช่ายย  นายถูก” หลานชายของลูล่าเดินไปที่หลังงานซึ่งคอยจัดเตรียมอาหารและสิ่งต่างๆ ในส่วนท้ายของตัวอาคารและเปลี่ยนชุดเตรียมตัวจะกลับบ้าน  แต่กลับมีบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองยังคงต้องติดแหงกอยู่ในชุดสูทของเด็กหนุ่มต่อไป

“...เยี่ยม  ใครเป็นคนบอกให้เค้าเอาหม้อต้มซุปไปตั้งไฟไว้ตรงนั้นกัน” จอนห์พ่นคำเบาๆ แล้วมองดูหม้อซุปที่เดือดปุดๆ อยู่หน้าห้องเก็บของที่พวกเค้าทั้งสองใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า  และแน่นอนเสื้อผ้าชุดเก่าของเด็กหนุ่มอยู่ในนั้น

เมสซี่มองดูหม้อซุปอีกคน  แต่ไม่ได้มีท่าทีเหมือนจอนห์  ร่างเล็กมองว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ “พวกเค้ากำลังจะเสิร์ฟซุปเป็นรายการต่อไปนะ” ร่างของเด็กผู้ชายผิวขาวใสมองดูเหล่าพ่อครัวช่วยกันเตรียมถ้วยใส่ซุปอย่างเชื่องช้า

อ๊ากก  พระเจ้าช่วย” จอนห์โอดครวญแล้วตบหน้าผากตัวเอง “ฉันจะกลับล่ะ  ไม่ว่างอยู่งานน่าเบื่อนี่ทั้งวันหรอก  ป้าไม่รู้รึไงว่าวันเสาร์เป็นวันทำการบ้านของฉันน่ะ  พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเสริม...พระเจ้า  ฉันจะต้องไปแล้วล่ะลีโอ  ขอโทษทีนะ แต่ถ้าต้องรอจนกว่าพวกเค้าจะยกหม้อบ้านั่นออกฉันมีหวังทำไม่เสร็จแหงๆ เลย  เรื่องชุดฉันไม่ต้องห่วงฉันจะเป็นคนบอกป้าลูล่าเอง  นายจะไปกับฉันด้วยไหม?” เด็กหนุ่มที่ใส่แว่นสะท้อนกับแสงของหลอดไฟรุดหน้าไปสองสามก้าวก่อนจะหันมาชักชวนเพื่อนตัวเล็กให้กลับไปด้วยกัน

......แต่ถ้าเมสซี่กลับบ้านในสภาพนี้จะต้องโดนแม่พูดถึงไม่หยุดปากแน่ๆ เลย.......

“อะ เอ่อ  ไม่ล่ะ  ขอบคุณ  ฉันรอให้พวกเค้าเสิร์ฟซุปก่อนดีกว่า” เมสซี่ว่า....จะแม่ก็แม่เถอะ  เค้าก็อายเป็นเหมือนกันนะ  เด็กหนุ่มร่างเล็กพูดยิ้มๆ ก่อนจะโบกมือลากับเพื่อนในระแวกบ้านเดียวกัน แล้วนั่งรออยู่บนม้านั่งข้างตัวอย่างใจจดใจจ่อ

ร่างเล็กของ ลีโอเนล   เมสซี่ เหมือนเด็กชายตัวน้อยๆ ที่รอผู้ปกครองมารับกลับบ้านในวันที่มีงานโรงเรียน มากกว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ถึงระดับไฮสคูลแล้วเสียอีก  เค้านั่งอยู่บนม้านั่งและกอบกุมฝ่ามือเข้าด้วยกันอย่างรอยคอยและไม่รีบร้อน  มองดูพ่อครัวใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องงานอาหารค่อยๆ บรรจงตักซุปโดยที่ไม่ให้มันเลอะไปบนขอบถ้วย

ผิวขาวกระจ่างใสและดูอ่อนนุ่มดูเด่นตา แต่ทว่าเจ้าของร่างกลับเงียบงัน  ไม่มีเสียงใดๆ หลุดลอดออกมาจากกิริยาใดๆ ของร่างเล็กเลย  เมสซี่อยู่เฉยๆ เพราะไม่อยากจะทำตัวให้เป็นจุดสนใจจนผู้อื่นจะต้องจ้องมองมาที่เค้า  หลายๆ คนในที่นี้ล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ให้กุลีกุจอทำอยู่แล้ว  ตั้งแต่คนเตรียมงานไปจนถึงเด็กเสิร์ฟใครๆ ก็ดูกระตือรือร้นกันทั้งนั้น  งานนี้ของป้าลูล่าคงจะสำคัญมากเป็นอย่างยิ่งแน่นอน  ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหญิงแก่ที่จิตใจดีนั้นจะเปิดงานระดมทุนเพื่อสิ่งใด 

แต่เมสซี่ผู้นั่งเงียบไม่เกะกะผู้ใด ก็ไม่เห็นทีท่าว่าหัวหน้าพ่อครัวจะยกหม้อซุปและเตาแก๊สเคลื่อนที่นั่นออกไปจากหน้าประตูห้องเก็บของที่มีเสื้อผ้าของเค้าอยู่ในนั่นเลยแต่อย่างใด

เจ้าตัวนั่งรอแล้วจนเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนใหญ่เคลื่อนไปเป็นเวลาร่วมชั่วโมง  เด็กหนุ่มก็ได้รับการไววานอีกเล็กน้อยจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก  จนกระทั่งเด็กหนุ่มได้รับคำขอบคุณอย่างรวดเร็วติดจะไม่ใคร่สนใจนัก ก่อนจะกลับมานั่งรอประตูห้องที่ยังคงไม่ว่างนั่นต่อไปจนเจ้าตัวผล็อยหลับไปบนม้านั่งตัวนั้นนั่นเองในที่สุด

ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นส่วนหลังของงาน  แต่เครื่องปรับอากาศก็เปิดเสียเย็นฉ่ำไปเลยทีเดียวเชียวล่ะ  และในขณะนี้ก็ใกล้เวลาย่ำเย็นเต็มทีแล้วด้วย  ด้วยเหตุผลเหล่านั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเผลอเอนกายนอนซบลงไปบนม้านั่งตัวยาวด้วยความง่วงเหงาได้อย่างไม่ยากนัก

คนเตรียมงานในส่วนท้ายทยอยกันออกไปทำหน้าที่สำคัญในหน้างานกันเกือบหมดแล้ว  จึงเหลือเพียงแต่เด็กหนุ่มที่นอนขดตัวกอดกุมฝ่ามือของตัวเองอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว



*************************************************************************************



น่าเบื่อ  น่าเบื่อมาก........

งานน่าเบื่อของคนที่น่าเบื่อยิ่งกว่า.....ทำไมกันนะ  ทำไมคนอย่างเค้าถึงจะต้องมาด้วย  ไม่เข้าท่าเลยจริงๆ

“คริส ทำหน้าให้มันดูดีกว่านี้หน่อยสิ  แกจะทำให้คนอื่นมองว่าลุงเป็นคนชอบบังคับไปถึงไหนกัน” ชายวัยกลางคนดูมีภูมิฐานซึ่งกำลังปรับสายเน็กไทด์ของตัวเองเอ่ยกระซิบเสียงแข็งกับชายหนุ่มวัยห่างกันลิบลับที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆ  คนส่งเสียงตำหนิพูดโดยไม่หันไปมองโดยตรง แต่เลือกที่จะกวาดสายตาชื่นชมไปทั่วงานแทน  ราวกับว่าเค้าไม่ได้กำลังดุหลานชายตัวเองอยู่

............ชายแก่คนนี้ดูไม่สบอารมณ์มากกว่าหลานชายที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับของตัวเองเสียอีก........

ร่างสูงแข็งแรงกำยำในชุดสูทสั่งตัดเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่ เป็นเรียบเฉย  แต่ก็ยังไม่ใคร่ว่ามีแววที่ยินยอมพร้อมใจจะร่วมมือด้วยเลย

“ผมไม่ได้เป็นคนร้องขอมางานนี้ซะหน่อย”

“แต่แกต้องมา” ชายผู้ดูมีหน้ามีตาคำรามรอดไรฟัน

โรนัลโด้ถอนหายใจฟังดูไม่อภิรมย์อย่างยิ่ง  สูทนี้ที่เค้าใส่อยู่ลุงของเค้าก็เป็นคนสั่งตัดและเอามาให้ถึงบ้าน พร้อมทั้งบอกให้เค้าใส่ชุดนี้ออกมากับลุงโดยไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ ทั้งสิ้น  ไม่ถามความเห็นอะไรเค้าเลยสักคำ

ทำไงได้  ในเมื่อสายตาเกรงอกเกรงใจของแม่ก็เว้าวอนมาหาเค้าซะขนาดนั้น  ร่างสูงของโรนัลโด้จึงจำยอมสวมสูทปั้นหน้าบูดมาที่นี่

น่าเบื่อเกินจะบรรยายเลย  มีแต่ผู้รากมากดีแก่ๆ และ..........

“นี่ลุงคงไม่คิดที่จะจับคู่ผมกับใครใช่ไหม?”  ชายหนุ่มร่างสูงผู้ดูดีทุกระเบียบนิ้วพูดขึ้น  เสียงฟังดูกระด้างขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ถึงขนาดนั้น  ก็แค่...แนะนำลูกสาวของเค้าให้รู้จักหลานชายจอมอวดดีของฉันก็เท่านั้น” ลุงของเค้าตอบแต่ก็ยังมิวายเหน็บแนม  โรนัลโด้จึงจำต้องฝืนความพยายามที่จะฉีกชุดที่เค้าใส่อยู่ให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ

ตาแก่หัวหงอกนี่มีสิทธิ์มาทำเรื่องตามอำเภอใจกับชีวิตของเค้าถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน..........

ไปตายซะ......โรนัลโด้สบถนึกฉุนในใจ เพราะแต่ไหนแต่ไร ลุงของเค้าก็ไม่เคยญาติดีด้วยอยู่แล้ว  หลังจากที่พ่อของเค้าตายไป ลุงที่ดูถือตัวและหัวสูงก็ยื่นข้อเสนอว่าจะส่งเสียงเลี้ยงดูเค้าเอง  นั่นเลยทำให้แม่ซึ่งเป็นคนเดียวที่ร่างสูงให้ความเคารพพลอยเกรงใจชายแก่บ้าบอนี่ไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

แต่ร่างสูงก็รู้ดี  ตาแก่ที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของพ่อเค้า แค่รู้สึกกลัวว่าตัวเองจะเสียหน้าและถูกมองไปในทางที่ไม่ดีก็เท่านั้น  เพราะงั้นถึงได้จำใจเสนอตัวดูแลร่างสูงแทนพ่อที่เสียไปนานแล้ว

แต่โรนัลโด้ไม่เคยลืมว่าลุงของเค้าเป็นเช่นไร  คนๆ นั้นมีธาตุแท้เป็นยังไง และจะไม่มีวันดีขึ้นมากกว่านั้นแน่นอน............

ถือตัว  หยิ่งยโส  และหวังผลกำไร

“เมื่อไรลุงจะเลิกเห็นหัวผมสักที  คนอื่นจะมองว่าลุงขาดความรับผิดชอบยังไงก็ช่างหัวเค้าสิ  ผมเบื่อที่จะต้องคอยตามมาเป็นรูปปั้นเสริมดวงของลุงทุกครั้งที่ลุงออกงานเต็มทีแล้วรู้ไหมครับ?” ร่างสูงผู้ไร้ความนับถือลุงของตัวเองเอ่ยขึ้นอย่างหน้าตาเฉย  สายตาเค้าฉายแววถึงความเบื่อหน่ายอย่างยิ่งยวด  และโรนัลโด้จงใจใช้คำสุภาพในท้ายประโยคเพื่อใส่ความประชดประชันเข้าไปด้วย  แม่รู้ดีว่าเค้าค่อนข้างจะปากร้ายและอารมณ์เสียง่าย

มือแกร่งถูกยกขึ้นมาล่วงกระเป๋ากางเกง  ก่อนเค้าจะมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นหลังจากที่ได้พ่นคำในใจออกมาเล็กน้อย  โรนัลโด้แสร้งทำเป็นชื่นชมบรรยากาศรอบข้างโดยการกวาดสายตาออกไปเบื้องหน้าผ่านๆ

แต่ลุงของเค้ากลับหน้าแดงด้วยความโมโห แล้วหันควับกลับมาราวกับโดนตบบ่าจากทางด้านหลังอย่างแรง  แล้วคำรามรอดไรฟันอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง

นี่แก...!



.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยย เหมียวจ๋าาา >{}< !! หนูเป็นเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ จริงๆ เลยจ๊ะ  เด็กน้อยมากกกก  เหมือนเป็นเด็กประถมเลยค่ะ TUT  //นี่ไรท์เขียนอะไร เค้าโตแล้วนะ ทำให้เหมียวดูเข้ากับอายุของตัวเองหน่อยสิ//  น่ารักมากมายเลยค่ะ 555 //ก็ยังทำเป็นไมได้ยินเสียงเรียกร้อง(ด่า)ของตัวเอง// 55555  ระแวกบ้านเหมียวมีแต่คนอบอุ่นและใจดีค่ะ  บ่งบอกเลยว่าถูกเลี้ยงมาดู สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยอย่างยิ่งให้อ่อนต่อโลกค่ะ 5555555  //นางนี่คิดชั่ว// 

ไรท์รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นป้าลู่ล่าเลยค่ะ  รู้สึกอินกับบทของท่านเหลือเกิน =..= ….แฮ่ะ ยังไง? รู้สึกเอ็นดู๊ เอ็นดู เด็กที่ว่านอนสอยง่ายค่ะ  ชอบมากกก โดยพื้นเพก็ชอบเด็กอย่างนี้อยู่แล้ว...เดี๋ยว เหมียวไม่ใช่น้องเธอนะ......อุ ลืมค่ะ  โทษที เด็กของเฮียนี่เนอะ 5555555555  แอแฮ่

พูดถึงเฮียแล้วก็ว่าหน่อยค่ะ....แต่คนที่ดูเหมือนจะสมวัยที่สุดดูจะเป็นเฮียค่ะ...เหมียวดูเฮียเค้าเป็นตัวอย่างนะลูก  //เหมียวทำปากสั่น ตารื้น// เฮียมางานคนแก่เป็นเพี่อนลุงค่ะ 55555  55555 //ขอหัวเราะอีกทีหนึ่ง...โดนเฮียต่อย// + //เฮียยิ่งอยากออกไปอยู่//  แหม่ นิสัยคงเส้นคงวาจริงๆ เลยนะคะเฮีย โผล่มานาทีแรกก็กวนประสาทลุงตัวเองซะแล้ว  ดีลุงไม่ตัดหางปล่อยวัดเอา //แต่แกไม่ทำหรอก// 5555  เฮียเราโผล่มาแบบ...จะบอกว่ายังไงดีคะรีดๆ ขา  พระเอกเหรอ?  อืม  ขวางโลกน่าดูเลย..เอาเป็นตัวร้ายดีกว่า 5555555  แล้วใครจะเป็นพระเอก?

ก็เดี๋ยวพอถึงเวลาค่อยสวมบทใหม่ 5555555 จะยังไงเฮียก็แบบ....ดูเป็นทุกบทบาทสำหรับไรท์จริงๆ เลยค่ะ   สงสัยเป็นเด็กเก็บกดตั้งแต่พ่อเสีย 5555555  //เดี๋ยวโดนเค้าฆ่าจริงๆ//   เฮียแบดเว่อร์เลยค่ะรีดขาาา ><  จิเจอนุ้งเหมียวเรายังไงนะ เหมียวก็มุ้งมิ้งมาก จะโดนทำอะไรอีกหรือเปล่าน้า??  ต้องคอยติดตามค่าาา Part หน้าาา

รักรีดทุกท่านนะคะ  ส่งจูบ  แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<


ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund




1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไมพึ่งมาเจอเรื่องนี้ฮืออออไรท์เขียนได้น่ารักมากเลยค่ะรักเรื่องนี้จังเหมือนจะเคยอ่านมานานแล้วแล้วกละบมาอ่านให้จบอีกรอบบบบฟินไปด้วย💞💞💞💞😭