ว๊ายยยยยยยยย
สวัสดีค่ะรีดของไรท์ทุกท่านขาา >{}<!! ตื่นเต้นเล็กๆ เลยล่ะค่ะ ปล่อยออกมาแล้วๆ ภาคนี้ลำดับภาคออกมางงๆ เนอะ 1.5 ฮ่าาา
มันเป็นรอต่อระหว่าง ภาค 1 กับ ภาค 2 ค่ะ ซึ่งภาค 2 ความจริงของความรู้สึกเฮียก็ได้ถูกเปิดเผยไปแล้วเนอะ
มัน...//ส่ายหน้า// มันช่างหยิกใจไรท์มากจริงๆ เลยค่ะ.....แล้วทำน้องทำไม? ไรท์ถามเฮีย(และตัวเอง)เบาๆ ค่ะ 5555555
จะขืนใจน้องไปทำเพื่อ??
แต่เอาเถิด พระเอกเข้าใจยาก
ยังไงก็เข้าใจยากอยู่วันยันค่ำค่ะ
เราจะค่อยๆ แงะปริศนาในใจของเค้าไปเรื่อยๆ นะคะ ไรท์ขอสารภาพเลยค่ะในใจไรท์ตอนนี้คิดเลยว่า...ชอบจังเลยอ่า ชอบนิสัยที่ร้ายกาจของเฮีย
ถึงแม้เฮียจะไม่มีเหตุผลอะไรให้ร้ายก็เถอะ แต่เฮียก็ยังเป็นพระเอกที่ร้ายแล้วยิ่งขับความหล่อของตัวเองออกมาค่ะ
55555 หลงรักความแบดของเฮียจริงๆ ชั่วไปเลยเฮีย ชั่วไปเลย แต่ชั่วแล้วอย่าลืมรักน้องนะคะ
บอกให้น้องรู้ด้วยว่าเฮียรักน้องเค้ามาก ฮิ้ววววววว //เสี่ยว...ไปตายซะ -..-//
เฮียร้ายแต่เฮียรักค่ะ
555555555 โอ้ย พอแล้ว!!!
ยิ่งพูดมากยิ่งไหลค่ะ โอเคค่ะรีดขา เรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่านะคะ....ในเรื่อง
The Spring หรือ Falling In Love Again ภาค 1.5 นี้จะเป็นตอนที่เหมียวโดนเฮียขืนใจไปแล้ว
หลังจากที่เหมียวออกมาจากโรงเรียนเก่าได้สัปดาห์หนึ่งค่ะ
เป็นช่วงเก็บตัวของเหมียวและเพื่อนๆ ก็กำลังถามหาเค้าเลยค่ะ ลีโอไปไหน ลีโอไปไหน! ทำไมไม่ออกมาเล่นบอลด้วยกันอีกล่ะ?
ไปเล่นกันเองก่อนล่ะกันนะจ๊ะ
เหมียวมีเจ้าของแล้วค่ะ เจ้าของเค้าดูด้วยนะเออ
555555 ยังมิวาย ...แอ๊กกกก! //โดนทุบหัว// T..+ ง่าาา โอเคค่ะ....ในภาคนี้เฮียยังไม่รู้นะคะว่าตัวเองต้องไปแมนยู
เพราะงั้นยังทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ค่ะ
ยังชิลล์อยู่
ไม่รู้ว่าต้องจากเหมียว TwT
//คิดจะเข้าเรื่องก็เข้า.....ต้องขอความอนุเคราะห์รีดอ่านของไรท์หมดเลยค่ะ ไร้สาระหน่อยแต่สาระก็มีค่ะ 5555
คิดจะพูดก็พูด//
โอเคค่ะ ภาคนี้
เหมียวลาออกจากโรงเรียนเก่ามาแล้วหนึ่งอาทิตย์
เฮียยังไม่รู้ว่าตัวเองไปแมนยูนะคะ........เออ ทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก //เหมือนลูอิสใน Ant Man เลยค่ะ
-..- แต่ไรท์ชอบนางมาก จะฮาไปไหน 555555 กะเพื่อนลิงอีกสองตัว 5555 พอแล้ว!//
เอาล่ะค่ะ
เกริ่นโหมโรงเสร็จแล้ว เราก็ไปอ่านกันเลยค่าาาา >{}< หวังว่าจะถูกใจรีดๆ กันนะค้าา ><
-------------------------------------------------------------------------------------
“ลีโอที่รักจ๋า”
เสียงค่อนข้างเล็กแหลมเปล่งออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าของตัวเองอยู่ที่หน้าบันไดถึงกับต้องสะดุ้งกาย
“อ๊ะ คะ ครับ!” เจ้าตัวสะดุ้งจนตัวโยนอย่างดูค่อนข้างจะเกินจริงไปเสียหน่อย
ก่อนเด็กหนุ่มจะหันหน้าไปมองยังต้นเสียงเห็นเพื่อนบ้านที่คุ้นเคย
พลันรอยยิ้มน่ารักก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงที่สดใสขึ้นมาผิดจากคราแรกที่เจ้าตัวสะดุ้งเนื้อสะดุ้งตัวไปเสียถนัด
“อ้าว ป้าลูล่า อรุณสวัสดิ์ครับ”
หญิงแก่ที่ยังดูแข็งแรงและมีสีสันชะโงกหน้าออกมาจากขอบรั้วข้างบ้านของเมสซี่
เธอมีรอยยิ้มที่กระปรี้กระเปร้าและเป็นมิตรอยู่เป็นนิจ
ก่อนหญิงไกลวัยสาวมามากแล้วจะละออกมาจากขอบรั้วแล้วเดินอ้อมเข้ามาหาเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านอย่างคุ้นชิน
“โถ่ๆๆๆ ลีโอที่รัก ป้าไม่อยากให้หนูตกใจหรอกนะจ๊ะ ขอโทษจริงๆ
ที่เข้ามาในตอนที่หนูกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เธอว่า
ยิ้มแย้มเอ็นดูเด็กหนุ่มที่มีลักยิ้มคู่น่ารักที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา
แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนบันไดหน้าบ้านในที่สุด มือไม้ของเธออยู่ไม่สุขแล้วกรีดกรายไปทั่ว
บางครั้งป้าลูล่าก็ทำให้เค้านึกถึงนางฟ้าแม่ทูนหัวของซินเดอรเรล่า.........
เมสซี่ยิ้มตอบไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเห็นสายตาที่มองมือของตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่
“เอ่อ ผมกำลังจะไปเอาของที่แม่ลืมไว้ที่ร้านซักรีดน่ะฮะ
เดินไปแค่ตรอกเดียวเอง...ป้าลู่ล่ามีอะไรหรือครับ?”
เด็กหนุ่มเอ่ยแถลงไขตาใสซื่อ
พร้อมทั้งเอ่ยถามออกไปอย่างมีมารยาทเมื่อเค้าหลงคิดไปว่า
หญิงใจดีตรงหน้ามีสิ่งใดจะไว้วานเค้าหรือเปล่า
“โอ้ว” เธอย่นคิ้วทำปากจู๋ แล้วยกมือขึ้นมาระดับอก
“ป้านึกว่าหนูจะออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ซะอีก
รู้ไหมหลานๆ ของป้าบ่นหาคิดถึงผู้ทำประตูดีเด่นของพวกเค้าแหนะ
หนูรู้ไหมจ๊ะ” หญิงที่มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีเป็นเลิศก้มลงหยิกแก้มเด็กหนุ่ม
ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ เจ้าตัว
ลูล่าใช้ก้นของเธอเบียดเมสซี่ จนเด็กหนุ่มยอมขยับให้แต่โดยดี
เมสซี่หัวเราะตอบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก.....
เด็กหนุ่มเพียงแค่ไม่สามารถหาคำตอบได้เช่นกันว่าทำไมเหตุใดความอยากที่จะออกไปสนุกกับเพื่อนๆ
ของเค้าถึงได้หดหายไป
เมสซี่พยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น
หญิงแก่แต่มีผมสีดอกเล้าแล้วเกล้ามันไว้ด้วยกันขยับตัวหันมาหาเด็กหนุ่มร่างเล็ก
“แต่ป้าไม่ได้มานี่เพื่อทำให้หนูรู้สึกแย่
รู้ใช่ไหมจ๊ะ?” เธอชี้เล็กๆ
และเมสซี่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ไม่รู้ว่าป้าลูล่ากำลังจะเอ่ยถึงอะไร
หญิงเจ้าของชุดกระโปรงรุงรังฉีกยิ้ม
“หนูเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลกเลยป้ามั่นใจได้”
เธอเห็นเด็กหนุ่มยิ้มแล้วเลิกคิ้วใส่เธอ
ก่อนหญิงที่อายุอานามมากกว่าแม่ของเมสซี่จะนึกอยากกลอกตาใส่ตัวเองที่พูดอ้อมค้อมแล้วตัดสินใจเอ่ยความต้องการออกไปในทันที
“คืออย่างนี้นะลีโอที่รัก วันนี้ที่สโมสรป้ามีงานการกุศลและป้าขาดเด็กหนุ่มน่ารักๆ....”
ลูล่าหยิกแก้มเมสซี่อีกเบาๆ
“....คอยรับบัตรเชิญของแขกที่มาร่วมงานการกุศลให้ป้าน่ะจ๊ะ ป้าไม่คิดว่าใครจะเหมาะเท่าหนูอีกแล้ว เพราะงั้นหนูพอจะยืนใส่ชุดหล่อๆ อยู่หน้างานให้ป้าสักชั่วโมงสองชั่วโมงได้ไหมจ๊ะ?”
ป้าลูล่าแอบถอนหายใจให้ตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม
เมื่อเธอหยุดชักแม่น้ำทั้งห้าได้เสียที
และแน่นอนเด็กหนุ่มคนโปรดของเธอไม่เคยทำให้ความตั้งใจทั้งหลายแหล่ผิดหวังเลย
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
“โอ้วว พระเจ้าส่งเจ้าชายน้อยๆ มาโปรด!” ฝ่ามือมีรอยเหี่ยวย่นแต่ทว่าอ่อนนุ่มประคองอย่างเบามือแต่ตื่นเต้น
ล้อมกรอบไปที่พวงแก้มใสของเมสซี่ ป้าลูล่าดีใจแล้วดีใจอีก ในที่สุดงานการกุศลของเธอก็ครบองค์ประกอบเสียที ซึ่งเธอก็ได้คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากจะให้เด็กหนุ่มเป็นคนรับแขกอยู่ที่หน้างาน ซึ่งเธอก็ไม่เคยผิดหวังหากจะฝากความรับผิดชอบไว้กับร่างเล็กผิวขาวผิดจากเด็กหนุ่มทั่วๆ
ไปที่แสนจะมีความรับผิดชอบคนนี้
“แต่ว่าป้าลูล่าฮะ”
“จ๊ะที่รัก?” เธอยิ้มแล้วไม่กระพริบตาอย่างตั้งคำถาม เมื่อเห็นเด็กที่นั่งเบียดอยู่ข้างก้นเธอและพยายามทำตัวให้เล็กลงนั้นมีสีหน้าวิตก
“ป้าบอกว่าผมจะใส่อะไรนะครับ?”
ป้าลู่ล่ายิ้มอ่อนโยนและเปล่งประกาย ก่อนจะหยิกแก้มเมสซี่เข้าไปอีกทีหนึ่ง
********************************************************************************
“ผมดูตลก...”
“โอ้ ไม่หรอกที่รัก นี่ล่ะดูดีแล้ว หนูดูหล่อที่สุดในงานเลยนะ”
“เอ่อ..”
เมสซี่ไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก
หลังจากที่ป้าลูล่าไว่วานเค้าหนึ่งชั่วโมงเศษเมสซี่ก็ถูกพามาที่สโมสรของป้าแล้วโดนจับแต่งตัวเสียใหม่เพื่อเตรียมพร้อมทันทีที่งานเริ่ม เด็กหนุ่มกำลังอ้าแขน
กางมันออกเพื่อให้คนที่ลากเค้ามาที่นี่เห็นว่าเค้าดูไม่ดีแค่ไหนนี่เค้าอายุเกือบจะยี่สิบอยู่แล้วนะ
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความไม่สนิทใจของเจ้าตัวเพราะไม่เคยใส่ชุดอย่างเป็นทางการนี้ก็เท่านั้น ความจริงแล้วร่างเล็กดูดีมากๆ เลยทีเดียว
เว้นเสียแต่ว่าเสื้อที่ลูล่าสั่งมาจะดูหลวมกว่าตัวของเด็กหนุ่มไปเล็กน้อยก็เท่านั้น
“เริ่ดจ๊ะ” เธอดึงหูกระต่ายสีดำที่รัดรอบคอของเมสซี่ให้เรียบร้อย
แล้วตบมือเข้าหากันเสียงดังเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ “เอาล่ะลีโอที่รักของป้า อีกห้านาทีงานเริ่ม จอนห์จะมาหาหนูแล้วพาหนูไปที่ของหนูเองนะจ๊ะไม่ต้องห่วง ตอนนี้ป้าจะต้องไปดูส่วนอื่นๆ
ของงานแล้ว....โชคดีนะจ๊ะ” หญิงที่อยู่ในชุดฟู่ฟ่าแต่สะดุดตาง่ายที่สุดของงานโบกมือแล้วเดินกรีดนิ้วออกไปอีกทางด้านหนึ่งอย่างเร่งรีบ
“ไงลีโอ”
“อา สวัสดีจอนห์”
และช่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ เด็กหนุ่มดังกล่าวที่ถูกเอ่ยถึงอยู่เมื่อครู่นี้
ก็มายืนกำหูกระต่ายบนคอตัวเองอย่างซังกะตายอยู่ข้างหลังของเมสซี่เสียแล้ว ร่างเล็กถอยออกมาเล็กน้อย นึกตกใจอยู่เหมือนกันที่หลานแท้ๆ
ของป้าลูล่ากลายเป็นคนที่เก็บเสียงฝีเท้าได้เงียบถึงขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
“ฉันเบื่อป้าตัวเอง” จอนห์พ่นลมหายใจออกมา
“ไม่เอาน่า นี่งานของป้าลูล่านะ ได้ข่าวว่าเป็นความคิดของป้าเค้าน่ะ”
เมสซี่ที่ถูกขอร้องมาอีกคนหนึ่งกล่าวแทนหญิงที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่นี้ แต่คู่สนทนาของเค้ากลับเปลี่ยนประเด็นไปอย่างกะทันหัน
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้สีหน้าดูไม่ดีเลยล่ะ.....โอ้ว ป้าลูล่าของฉันคงจะทำให้นายลำบากใจอีกแล้วล่ะสินะ นายคงจะไม่อยากมาหรอกใช่ไหม ฉันรู้ฉันเองก็เป็น ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นหลานของป้าลูล่า
ป่านนี้ฉันคงจะนอนกดวีดิโอเกมส์อยู่ที่บ้านไปแล้ว
ขอโทษนะที่ป้าของฉันทำให้นายต้องฝืนมาก”
“โอ้ๆ ไม่หรอก
ฉันเต็มใจมาช่วยน่ะ ไม่ได้รบกวนเลยสักนิด”
เมสซี่ยักไหล่แล้วโบกมือน้อยๆ
“แต่นายดู เอ่อ ไม่ค่อยดีเลยนะ ป่วยอีกหรือเปล่า?”
“อะ เอ่อ มะ ไม่...ฉันสบายดี” คนโดนชักสะอึกเล็กน้อย
เจ้าตัวหวังในใจว่าเพื่อนตรงหน้าจะไม่สังเกตเห็นอาการตาบวมเพราะร้องไห้จากฝันร้ายที่ไม่อยากจำเมื่อคืนนี้จนกลายเป็นข้อสังเกตที่น่าสงสัยไป
“แน่ใจนะ” จอนห์ถามย้ำอีก
เพราะดูสีหน้าของอีกคนหนึ่งแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเลย.....ปรกติเมสซี่ก็ดูสดชื่นและร่าเริงที่สุดมากกว่าใครๆ
อยู่แล้ว แต่เค้าก็โดนปฏิเสธกลับมาในทันใด
“ฉันแน่ใจ”
ร่างเล็กพยักหน้าเอ่ยออกไปพร้อมด้วยรอยยิ้มหนักแน่นที่ไม่แสดงออกถึงความเซื่องซึมเช่นเมื่อครู่
จนเพื่อนที่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันพยักหน้ารับและไม่ติดใจชักถามในที่สุด.......แค่ในวันแรกที่จอนห์รู้ว่าเพื่อนร่างเล็กลาออกจากชมรมและโรงเรียน
เค้าก็ตกใจพอตัวอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าเค้าจะพยายามตะล่อมถามอย่างนุ่มนวลอยู่อย่างไม่ลดละความพยายามอยู่กี่ครั้งก็ตาม
แต่ก็โดนท่าทีไม่ยินยอมพร้อมให้ข้อมูลของเมสซี่ทุกครั้งไป จนจอนห์เองก็รู้สึกว่าตัวเองเซ้าซี้มากเกินไปแล้ว
จึงล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองไปซะ เพราะกลัวว่าเมสซี่จะลำบากใจที่จะเจอหน้าเค้า
“งั้นก็ไปกันเถอะ งานกำลังจะเริ่มแล้ว
เรามีคิวยืนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนฉันจะย้ายก้นกลับบ้านไปกดเกมส์ต่อ” จอนห์กล่าวอย่างติดตลกและคิดเห็นเป็นเช่นนั้นจริง
ก่อนร่างเล็กที่โดนเป็นห่วงในด้านของความรู้สึกมากที่สุดจะหลุดหัวเราะคิกคักเดินตามหลังของหลานชายแท้ๆ
ผู้ไม่ใคร่ให้ความร่วมมือกับป้าลูล่าเท่าไรนัก
แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ผู้คนล้มหลามทะลักเข้ามาในงาน
เด็กหนุ่มทั้งสองก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ปริปากบ่นสักคำโดยเฉพาะจอนห์ผู้เกลียดงานการกุศลของคนแก่
“ขอบคุณครับ...” ร่างเล็กรับบัตรเชิญจากคู่สามีภรรยาที่มีฐานะคู่หนึ่งแล้วกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มน่ามอง ก่อนจะได้รับความเอ็นดูทางสีหน้าตอบกลับมา
สองคนนั้นเดินเข้าไปในงานและเวลาก็ล่วงเลยมาถึงอย่างรวดเร็ว
เมสซี่หันไปหาเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วยื่นบัตรเชิญไปให้จอนห์
“คุณและคุณนายเบอร์ลีแมน...” จอนห์รับบัตรมาแล้วเช็คในตารางของรายชื่อแขกที่เค้าถืออยู่
เค้าสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่อย่างสิ้นสุดการรอยคอย “...เท่านี้ก็ครบ เราเสร็จงานแล้วล่ะ ฉันต้องขอบคุณที่งานนี้รับเฉพาะคนมีตังค์
เพราะแถวนี้ไม่ค่อยจะมีกันเยอะนัก”
“ฮ่ะๆๆ ดูท่าวิดีโอเกมส์คงจะคิดถึงนายมากเลยนะ”
เมสซี่ว่าเย้า จงใจย้ายคำเพื่อเล่นมุขกับจอนห์
เด็กชายที่ใส่แว่นเหมือน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผมสีดอกเล้าเหมือนเฮอร์ไมโอนี่ตอนแก่ และฝีปากจัดเหมือนรอนตอนเป็นเด็กๆ ไหวไหล่ยอมรับคำของเมสซี่
“ก็ช่ายย นายถูก” หลานชายของลูล่าเดินไปที่หลังงานซึ่งคอยจัดเตรียมอาหารและสิ่งต่างๆ
ในส่วนท้ายของตัวอาคารและเปลี่ยนชุดเตรียมตัวจะกลับบ้าน แต่กลับมีบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองยังคงต้องติดแหงกอยู่ในชุดสูทของเด็กหนุ่มต่อไป
“...เยี่ยม
ใครเป็นคนบอกให้เค้าเอาหม้อต้มซุปไปตั้งไฟไว้ตรงนั้นกัน” จอนห์พ่นคำเบาๆ
แล้วมองดูหม้อซุปที่เดือดปุดๆ อยู่หน้าห้องเก็บของที่พวกเค้าทั้งสองใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า
และแน่นอนเสื้อผ้าชุดเก่าของเด็กหนุ่มอยู่ในนั้น
เมสซี่มองดูหม้อซุปอีกคน แต่ไม่ได้มีท่าทีเหมือนจอนห์ ร่างเล็กมองว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
“พวกเค้ากำลังจะเสิร์ฟซุปเป็นรายการต่อไปนะ”
ร่างของเด็กผู้ชายผิวขาวใสมองดูเหล่าพ่อครัวช่วยกันเตรียมถ้วยใส่ซุปอย่างเชื่องช้า
“อ๊ากก พระเจ้าช่วย” จอนห์โอดครวญแล้วตบหน้าผากตัวเอง
“ฉันจะกลับล่ะ
ไม่ว่างอยู่งานน่าเบื่อนี่ทั้งวันหรอก
ป้าไม่รู้รึไงว่าวันเสาร์เป็นวันทำการบ้านของฉันน่ะ พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเสริม...พระเจ้า ฉันจะต้องไปแล้วล่ะลีโอ ขอโทษทีนะ แต่ถ้าต้องรอจนกว่าพวกเค้าจะยกหม้อบ้านั่นออกฉันมีหวังทำไม่เสร็จแหงๆ
เลย
เรื่องชุดฉันไม่ต้องห่วงฉันจะเป็นคนบอกป้าลูล่าเอง นายจะไปกับฉันด้วยไหม?”
เด็กหนุ่มที่ใส่แว่นสะท้อนกับแสงของหลอดไฟรุดหน้าไปสองสามก้าวก่อนจะหันมาชักชวนเพื่อนตัวเล็กให้กลับไปด้วยกัน
......แต่ถ้าเมสซี่กลับบ้านในสภาพนี้จะต้องโดนแม่พูดถึงไม่หยุดปากแน่ๆ
เลย.......
“อะ เอ่อ ไม่ล่ะ
ขอบคุณ ฉันรอให้พวกเค้าเสิร์ฟซุปก่อนดีกว่า”
เมสซี่ว่า....จะแม่ก็แม่เถอะ เค้าก็อายเป็นเหมือนกันนะ เด็กหนุ่มร่างเล็กพูดยิ้มๆ
ก่อนจะโบกมือลากับเพื่อนในระแวกบ้านเดียวกัน
แล้วนั่งรออยู่บนม้านั่งข้างตัวอย่างใจจดใจจ่อ
ร่างเล็กของ ลีโอเนล เมสซี่ เหมือนเด็กชายตัวน้อยๆ
ที่รอผู้ปกครองมารับกลับบ้านในวันที่มีงานโรงเรียน มากกว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ถึงระดับไฮสคูลแล้วเสียอีก
เค้านั่งอยู่บนม้านั่งและกอบกุมฝ่ามือเข้าด้วยกันอย่างรอยคอยและไม่รีบร้อน มองดูพ่อครัวใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องงานอาหารค่อยๆ
บรรจงตักซุปโดยที่ไม่ให้มันเลอะไปบนขอบถ้วย
ผิวขาวกระจ่างใสและดูอ่อนนุ่มดูเด่นตา
แต่ทว่าเจ้าของร่างกลับเงียบงัน
ไม่มีเสียงใดๆ หลุดลอดออกมาจากกิริยาใดๆ ของร่างเล็กเลย เมสซี่อยู่เฉยๆ
เพราะไม่อยากจะทำตัวให้เป็นจุดสนใจจนผู้อื่นจะต้องจ้องมองมาที่เค้า หลายๆ คนในที่นี้ล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ให้กุลีกุจอทำอยู่แล้ว ตั้งแต่คนเตรียมงานไปจนถึงเด็กเสิร์ฟใครๆ
ก็ดูกระตือรือร้นกันทั้งนั้น
งานนี้ของป้าลูล่าคงจะสำคัญมากเป็นอย่างยิ่งแน่นอน
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหญิงแก่ที่จิตใจดีนั้นจะเปิดงานระดมทุนเพื่อสิ่งใด
แต่เมสซี่ผู้นั่งเงียบไม่เกะกะผู้ใด
ก็ไม่เห็นทีท่าว่าหัวหน้าพ่อครัวจะยกหม้อซุปและเตาแก๊สเคลื่อนที่นั่นออกไปจากหน้าประตูห้องเก็บของที่มีเสื้อผ้าของเค้าอยู่ในนั่นเลยแต่อย่างใด
เจ้าตัวนั่งรอแล้วจนเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนใหญ่เคลื่อนไปเป็นเวลาร่วมชั่วโมง
เด็กหนุ่มก็ได้รับการไววานอีกเล็กน้อยจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก จนกระทั่งเด็กหนุ่มได้รับคำขอบคุณอย่างรวดเร็วติดจะไม่ใคร่สนใจนัก
ก่อนจะกลับมานั่งรอประตูห้องที่ยังคงไม่ว่างนั่นต่อไปจนเจ้าตัวผล็อยหลับไปบนม้านั่งตัวนั้นนั่นเองในที่สุด
ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นส่วนหลังของงาน
แต่เครื่องปรับอากาศก็เปิดเสียเย็นฉ่ำไปเลยทีเดียวเชียวล่ะ
และในขณะนี้ก็ใกล้เวลาย่ำเย็นเต็มทีแล้วด้วย ด้วยเหตุผลเหล่านั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเผลอเอนกายนอนซบลงไปบนม้านั่งตัวยาวด้วยความง่วงเหงาได้อย่างไม่ยากนัก
คนเตรียมงานในส่วนท้ายทยอยกันออกไปทำหน้าที่สำคัญในหน้างานกันเกือบหมดแล้ว จึงเหลือเพียงแต่เด็กหนุ่มที่นอนขดตัวกอดกุมฝ่ามือของตัวเองอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
*************************************************************************************
น่าเบื่อ น่าเบื่อมาก........
งานน่าเบื่อของคนที่น่าเบื่อยิ่งกว่า.....ทำไมกันนะ ทำไมคนอย่างเค้าถึงจะต้องมาด้วย ไม่เข้าท่าเลยจริงๆ
“คริส
ทำหน้าให้มันดูดีกว่านี้หน่อยสิ
แกจะทำให้คนอื่นมองว่าลุงเป็นคนชอบบังคับไปถึงไหนกัน”
ชายวัยกลางคนดูมีภูมิฐานซึ่งกำลังปรับสายเน็กไทด์ของตัวเองเอ่ยกระซิบเสียงแข็งกับชายหนุ่มวัยห่างกันลิบลับที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆ
คนส่งเสียงตำหนิพูดโดยไม่หันไปมองโดยตรง
แต่เลือกที่จะกวาดสายตาชื่นชมไปทั่วงานแทน ราวกับว่าเค้าไม่ได้กำลังดุหลานชายตัวเองอยู่
............ชายแก่คนนี้ดูไม่สบอารมณ์มากกว่าหลานชายที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับของตัวเองเสียอีก........
ร่างสูงแข็งแรงกำยำในชุดสูทสั่งตัดเปลี่ยนสีหน้าเสียใหม่
เป็นเรียบเฉย
แต่ก็ยังไม่ใคร่ว่ามีแววที่ยินยอมพร้อมใจจะร่วมมือด้วยเลย
“ผมไม่ได้เป็นคนร้องขอมางานนี้ซะหน่อย”
“แต่แกต้องมา” ชายผู้ดูมีหน้ามีตาคำรามรอดไรฟัน
โรนัลโด้ถอนหายใจฟังดูไม่อภิรมย์อย่างยิ่ง
สูทนี้ที่เค้าใส่อยู่ลุงของเค้าก็เป็นคนสั่งตัดและเอามาให้ถึงบ้าน
พร้อมทั้งบอกให้เค้าใส่ชุดนี้ออกมากับลุงโดยไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ถามความเห็นอะไรเค้าเลยสักคำ
ทำไงได้ ในเมื่อสายตาเกรงอกเกรงใจของแม่ก็เว้าวอนมาหาเค้าซะขนาดนั้น ร่างสูงของโรนัลโด้จึงจำยอมสวมสูทปั้นหน้าบูดมาที่นี่
น่าเบื่อเกินจะบรรยายเลย มีแต่ผู้รากมากดีแก่ๆ และ..........
“นี่ลุงคงไม่คิดที่จะจับคู่ผมกับใครใช่ไหม?”
ชายหนุ่มร่างสูงผู้ดูดีทุกระเบียบนิ้วพูดขึ้น เสียงฟังดูกระด้างขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ถึงขนาดนั้น ก็แค่...แนะนำลูกสาวของเค้าให้รู้จักหลานชายจอมอวดดีของฉันก็เท่านั้น”
ลุงของเค้าตอบแต่ก็ยังมิวายเหน็บแนม
โรนัลโด้จึงจำต้องฝืนความพยายามที่จะฉีกชุดที่เค้าใส่อยู่ให้ขาดออกเป็นชิ้นๆ
ตาแก่หัวหงอกนี่มีสิทธิ์มาทำเรื่องตามอำเภอใจกับชีวิตของเค้าถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน..........
ไปตายซะ......โรนัลโด้สบถนึกฉุนในใจ
เพราะแต่ไหนแต่ไร ลุงของเค้าก็ไม่เคยญาติดีด้วยอยู่แล้ว หลังจากที่พ่อของเค้าตายไป
ลุงที่ดูถือตัวและหัวสูงก็ยื่นข้อเสนอว่าจะส่งเสียงเลี้ยงดูเค้าเอง
นั่นเลยทำให้แม่ซึ่งเป็นคนเดียวที่ร่างสูงให้ความเคารพพลอยเกรงใจชายแก่บ้าบอนี่ไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ร่างสูงก็รู้ดี ตาแก่ที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของพ่อเค้า
แค่รู้สึกกลัวว่าตัวเองจะเสียหน้าและถูกมองไปในทางที่ไม่ดีก็เท่านั้น เพราะงั้นถึงได้จำใจเสนอตัวดูแลร่างสูงแทนพ่อที่เสียไปนานแล้ว
แต่โรนัลโด้ไม่เคยลืมว่าลุงของเค้าเป็นเช่นไร คนๆ นั้นมีธาตุแท้เป็นยังไง
และจะไม่มีวันดีขึ้นมากกว่านั้นแน่นอน............
ถือตัว หยิ่งยโส
และหวังผลกำไร
“เมื่อไรลุงจะเลิกเห็นหัวผมสักที คนอื่นจะมองว่าลุงขาดความรับผิดชอบยังไงก็ช่างหัวเค้าสิ
ผมเบื่อที่จะต้องคอยตามมาเป็นรูปปั้นเสริมดวงของลุงทุกครั้งที่ลุงออกงานเต็มทีแล้วรู้ไหมครับ?”
ร่างสูงผู้ไร้ความนับถือลุงของตัวเองเอ่ยขึ้นอย่างหน้าตาเฉย
สายตาเค้าฉายแววถึงความเบื่อหน่ายอย่างยิ่งยวด และโรนัลโด้จงใจใช้คำสุภาพในท้ายประโยคเพื่อใส่ความประชดประชันเข้าไปด้วย
แม่รู้ดีว่าเค้าค่อนข้างจะปากร้ายและอารมณ์เสียง่าย
มือแกร่งถูกยกขึ้นมาล่วงกระเป๋ากางเกง
ก่อนเค้าจะมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นหลังจากที่ได้พ่นคำในใจออกมาเล็กน้อย โรนัลโด้แสร้งทำเป็นชื่นชมบรรยากาศรอบข้างโดยการกวาดสายตาออกไปเบื้องหน้าผ่านๆ
แต่ลุงของเค้ากลับหน้าแดงด้วยความโมโห
แล้วหันควับกลับมาราวกับโดนตบบ่าจากทางด้านหลังอย่างแรง แล้วคำรามรอดไรฟันอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง
“นี่แก...!”
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยยย
เหมียวจ๋าาา >{}< !! หนูเป็นเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ จริงๆ
เลยจ๊ะ เด็กน้อยมากกกก เหมือนเป็นเด็กประถมเลยค่ะ TUT //นี่ไรท์เขียนอะไร เค้าโตแล้วนะ ทำให้เหมียวดูเข้ากับอายุของตัวเองหน่อยสิ// น่ารักมากมายเลยค่ะ 555
//ก็ยังทำเป็นไมได้ยินเสียงเรียกร้อง(ด่า)ของตัวเอง// 55555 ระแวกบ้านเหมียวมีแต่คนอบอุ่นและใจดีค่ะ บ่งบอกเลยว่าถูกเลี้ยงมาดู
สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยอย่างยิ่งให้อ่อนต่อโลกค่ะ 5555555 //นางนี่คิดชั่ว//
ไรท์รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นป้าลู่ล่าเลยค่ะ รู้สึกอินกับบทของท่านเหลือเกิน =..= ….แฮ่ะ
ยังไง? รู้สึกเอ็นดู๊ เอ็นดู เด็กที่ว่านอนสอยง่ายค่ะ ชอบมากกก
โดยพื้นเพก็ชอบเด็กอย่างนี้อยู่แล้ว...เดี๋ยว เหมียวไม่ใช่น้องเธอนะ......อุ
ลืมค่ะ โทษที เด็กของเฮียนี่เนอะ
5555555555 แอแฮ่!
พูดถึงเฮียแล้วก็ว่าหน่อยค่ะ....แต่คนที่ดูเหมือนจะสมวัยที่สุดดูจะเป็นเฮียค่ะ...เหมียวดูเฮียเค้าเป็นตัวอย่างนะลูก //เหมียวทำปากสั่น ตารื้น//
เฮียมางานคนแก่เป็นเพี่อนลุงค่ะ 55555
55555 //ขอหัวเราะอีกทีหนึ่ง...โดนเฮียต่อย// + //เฮียยิ่งอยากออกไปอยู่// แหม่ นิสัยคงเส้นคงวาจริงๆ เลยนะคะเฮีย โผล่มานาทีแรกก็กวนประสาทลุงตัวเองซะแล้ว ดีลุงไม่ตัดหางปล่อยวัดเอา //แต่แกไม่ทำหรอก//
5555
เฮียเราโผล่มาแบบ...จะบอกว่ายังไงดีคะรีดๆ ขา พระเอกเหรอ?
อืม ขวางโลกน่าดูเลย..เอาเป็นตัวร้ายดีกว่า
5555555 แล้วใครจะเป็นพระเอก?
ก็เดี๋ยวพอถึงเวลาค่อยสวมบทใหม่
5555555 จะยังไงเฮียก็แบบ....ดูเป็นทุกบทบาทสำหรับไรท์จริงๆ เลยค่ะ สงสัยเป็นเด็กเก็บกดตั้งแต่พ่อเสีย
5555555 //เดี๋ยวโดนเค้าฆ่าจริงๆ// เฮียแบดเว่อร์เลยค่ะรีดขาาา >< จิเจอนุ้งเหมียวเรายังไงนะ เหมียวก็มุ้งมิ้งมาก
จะโดนทำอะไรอีกหรือเปล่าน้า?? ต้องคอยติดตามค่าาา
Part หน้าาา
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
ทำไมพึ่งมาเจอเรื่องนี้ฮืออออไรท์เขียนได้น่ารักมากเลยค่ะรักเรื่องนี้จังเหมือนจะเคยอ่านมานานแล้วแล้วกละบมาอ่านให้จบอีกรอบบบบฟินไปด้วย💞💞💞💞😭
แสดงความคิดเห็น