//ไม่ได้ขี้เกียจแต่งภาพแต่อย่างใดนะคะ เพียงแต่ว่าชอบรูปนี้มากๆ เท่านั้นค่ะ
5555 แต่ทำไมมันดูมืดและสลัวมากล่ะหาาา??? คือเบคน้อยคุดคู้น่ารักมากเลยค่ะ >//< อยู่ภายในอ้อมกอดของฮอรัส ฮ่อวววว
อร๊ายยย ฟินไม่จบไม่สิ้นนนน ภาพนี้เหมือนต่อจาก Part ที่แล้ว...ก็ใช่น่ะสิ -*-//
อร๊ายยยยย มาลงต่อแล้วค่ะรีดขาา >< สวัสดีตอนค่ำค่ะ 555555
หายไปสองวันไรท์ไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำตามบัญชาของแม่ค่ะ 5555 เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านุ ^^
ถึงจะไม่ใช่ NC แต่รีดหลายๆ
ท่านก็อยากจะรู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรกับความรู้สึกของทั้งคู่ที่รักนะ...แต่ไม่พูด
----- ไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ
ท่านฮอรัสก็กำลังจะพูดแต่ก็โดนสัญชาติญาณดิบของตัวเองชิงตัดหน้าไปก่อนซะได้
โธ่....อั๊กๆๆๆ! //โดนหอกแหลมแทงรัวๆ// เบคน้อยที่ควรโกรธก็เริ่มหวั่นไหวกับความรู้สึกหวั่นไหวของตัวเองแล้วล่ะค่ะ
>< (?)
ซาญ่าใส่ไฟเยอะๆ 55555
//นางพยักหน้ารับ//
เป็นครั้งแรกอ่ะที่ได้เขียนให้ผู้หญิงในเรื่องมีบทแบบนี้ โอ้ คาดตัวเองไม่ถึงจริงๆ ค่ะ 555
//ลั่นดังมาก//
ไรท์อยากจะบอกว่าตอนที่เขียนเรื่องนี้ไรท์เปิด
Google ถามอากู๋ไปด้วยค่ะ
55555 เพราะฉะนั้นจะมีข้อมูลที่เป็นข้อมูลเฉพาะอยู่นะคะ สนุกมากเลยค่ะได้เขียนแบบอิงศาสตร์และวัฒนธรรมจริงของพวกเค้า โดยส่วนตัวแล้วไรท์หลงใหลประเทศแถบตะวันออกกลางมากเลยค่ะ
^^ รู้สึกคู่วายแถบนั้นดูเซ็กซี่
5555555 //มีความบ้าคลั่ง//
อะไรที่เป็นตะวันออกกลางไรท์จะชอบมากเป็นพิเศษค่ะ
แต่ว่าฟิคเรื่องนี้ไรท์ให้ความสำคัญเช่นเรื่องอื่นๆ ค่ะ สนุกและตั้งใจเขียนเหมือนกันเลยเพียงแต่ว่าฟิคสไตล์ตะวันออกลางทะเลทรายแบบนี้เพิ่งจะเคยเขียนเป็นครั้งแรก
(และเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้เกี่ยวหรืออิงกับสภาพแวดล้อมของเค้าเสียเท่าไรเลย -*-)
แฮ่ะๆ แต่ว่าก็ยังมีกลิ่นอายของตะวันออกอยู่ดี แล้วยิ่งหนังเรื่องนี้ฟินมากมายไรท์ก็ยิ่งกระชุ่มกระชวยค่ะ
55555 หลังอะไรใครเป็นคนเขียนบทและสร้างกัน โดยใจไรท์ทั้งกราฟฟิก เอฟเฟค และบทสวาท....เอ้ยย! บทบาทเลยค่ะ
5555 //บทสวาทนั้นเป็นตอนที่เรามโนเองไม่ใช่หรือห๊ะ?!//
555555 โอเคพอแล้วฝอยมาก น้ำลายกระจุย 5555 เชิญรีดๆ ไปหาคำตอบที่เมืองเลียบแม่น้ำไนล์ของฮอรัสได้เลยค่ะ
เค้ากำลังรอรีดไปอ่านอยู่ ^^
-------------------------------------------------------------------------------
หลายวันผ่านไปหลังจากเทพแห่งท้องนภาพาสหายรักถลาลมกลับห้องของตัวเองอย่างแนบเนียน
และตอบคำถามการหลบหน้าเลี่ยงงานเลี้ยงของทุกคนได้อย่างเข้าที งานของกษัตริย์แห่งอียิปต์ก็เริ่มต้นขึ้น และเป็นดั่งเช่นที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้
พระองค์ทรงทำงานหนักมากกว่าผู้รักษาการณ์เป็นสองเท่า ให้ทางออกที่ดีและรวดเร็วกว่าสามเท่า
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนแนะนำให้เทพฮอรัสปรึกษาที่ปรึกษาส่วนพระองค์บ้างเพื่อแบ่งเบาภาระในเรื่องยิบย่อยต่างๆ
ของพระองค์ แต่คนได้รับการแนะกลับเฉย โบกมือปัดอย่างใจเย็นแล้วบอกว่าไม่จำเป็นเรื่องเพียงแค่นั้นไม่ได้ยากเย็นอะไร
เพราะด้วยในใจรู้ว่าอีกคนหนึ่งกำลังหลบหน้าเค้าอยู่
หลังจากวันสุดท้ายที่คุยกัน ร่างเล็กของสหายมนุษย์ก็คอยแต่หาทางเดินผ่านไปโดยไม่มีโอกาสได้สบตากันตลอด ช่วงนี้จึงถูกพวกผู้ใหญ่ตำหนิว่าเอาแต่เก็บตัวไม่เหมาะสมกับหน้าที่การงาน ซึ่งแน่นอนล่ะ เบคไม่เคยสนใจ แต่ฮอรัสอ่านท่าทียามเมื่อเห็นแผ่นหลังและเส้นผมที่เค้าชื่นชอบอยู่ไวๆ
นั้นออก มองออกว่าเบคคงไม่อยากที่จะเจอหน้ากันอีก
การเผชิญหน้ากันคงยากเกินไปสำหรับเจ้าตัวถึงแม้จะมีผู้อื่นรายล้อมอยู่รอบตัวเค้าทั้งสองอยู่มากมายก็ตาม
เหล่าขุนนางพากันกล่าวชมการบริหารดูแลของฮอรัส
เฉกเช่นที่เหล่าราษฎรก็สรรเสริญกษัตริย์ของพวกเค้าที่นำพาความร่มเย็นและผาสุกมาให้เช่นกัน เทพแห่งท้องฟ้าทำหน้าที่ได้ดีมากเกินกว่าที่บิดาของเค้าจะคาดหวัง
แต่ตัวเค้าเองในบัดนี้กลับดูเศร้า
ใบหน้าหล่อเหล่าที่เรียบเฉยในเวลาว่าราชการนั้นเป็นสิ่งที่ข้าราชบริพารมองข้ามไปอย่างผิวเผินด้วยเหตุผลที่ว่านายเหนือหัวคงกำลังมุ่งมั่นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่และพ้อมรับมือกับปัญหาหนักหัวทุกอย่างของอียิปต์
แต่ไม่เลย ฮอรัสกำลังเหนื่อยใจ......
ในค่ำวันหนึ่ง หลังจากการถกเถียงอย่างน่าเบื่อและชวนหัวเป็นบางครั้งของเหล่าขุนนางอำมาตย์ในห้องประชุมว่าด้วยเรื่องปากท้องของประชาชนหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้ ฮอรัสนั่งพิงเก้าอี้ประจำตน พยายามทำตัวให้ตรงและดูตั้งใจฟังเข้าไว้
ก่อนเค้าจะนั่งท้าวคางและห้าวออกมาในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควรจนกระทั่งจบการประชุม และจบด้วยการปิดท้ายสั้นๆ จากองค์กษัตริย์
“ข้าว่า เราอาจต้องการพีระมิดเพิ่มหลังพิธีขอบคุณเทพฮาปิของพวกชาวนา
หลังจากช่วงนั้นแล้วก็เป็นฤดูอาเคต .....หากชอบใจความคิดข้าก็บอกพวกเค้าว่าเราจะจ่ายค่าจ้างเป็นอาหารและค่าตอบแทนอีกเล็กๆ
น้อยๆ จากเบี้ยมากล้นจนเหลือใช้ของพวกท่านที่เรี่ยไรกันลงขันกันมาก็แล้วกัน......มันมากพออยู่แล้วนี่
จริงไหม?” ฮอรัสพูด เสียงถอนหายใจอย่างสิ้นสุดการรอคอยถูกพ่นออกพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เดินออกไปเป็นคนแรก ประโยดยืดยาวของเค้าดูไม่เปลืองเวลาเลยเมื่อเทียบกับสงครามน้ำลายของเหล่าขุนนางที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้
[เทพฮาปิ
เป็นเทพแห่งความอุดมสมบรูณ์ เชื่อว่าเป็นเทพที่ดลบันดาลให้เกิดแม่น้ำไนล์และโอเอซิสต่างๆ
ในทะเลทรายค่ะ ^^]
[ฤดูอาเคต
คือช่วงต้นปีในอียิปต์ที่น้ำหลาก น้ำจากแม่น้ำไนล์จะท่วมริมฝั่งทั้งสองที่ใช้สำหรับเป็นพื้นที่เพาะปลูก
ทำให้ทำการเกษตรไม่ได้
และหลังจากน้ำลดก็จะทิ้งโคลนและสารอาหารไว้เป็นแร่ธาตุที่ดีในการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปค่ะ
^^]
จบกระบวนไป......
หากมองข้ามถึงความเห็นแก่ตัวของพวกมียศถาบรรดาศักดิ์เสีย
การดูแลราษฎรก็จะง่ายขึ้น เทพเพียงหนึ่งเดียวในบัลลังของอียิปต์ย่อมรู้เรื่องนี้ดีและยินดีที่จะนำเงินเหลือใช้เหลือขว้างที่ขุนนางกำลังจะได้
ไปแบ่งปันให้ชาวนาที่ต้องการทางออก
เรื่องเพียงแค่นี้จะเปลืองน้ำลายเสียเวลามาเถียงกันทำไม ฮอรัสไม่เข้าใจพวกมนุษย์หนังเหี่ยวที่แก่ความรู้จนผมร่วงหมดหัวพวกนั้นว่าเงินทองจะสงวนไว้ใช้เพื่ออะไรในเมื่อไม่นานก็จะไปอยู่ในโลกหลังความตายกันอยู่รอมร่อแล้ว
ฮอรัสเดินกลับมาที่ปีกตะวันตกหรือวิหารห่วงห้ามที่เป็นของเค้านั่นเอง ช่วงนี้เทพร่างสูงรักความสงบมากเป็นพิเศษ หลังจากเวลาทรงงานแล้วก็แทบจะไม่เห็นเค้าออกมาเดินปรากฏกายให้ใครเห็นเลย
ถึงแม้จะได้รับความเห็นใจจากผู้อื่นว่ากษัตริย์รู้สึกเหนื่อยเพลียจากการโหมงานแต่นางกำนันที่เข้าไปให้การรับใช้ก็ยังเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าพระองค์ทรงดูเหม่อลอยยิ่งนัก
และวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่เปลี่ยนชุดใหม่ภายในห้องบรรทมของตัวเองเสร็จอย่างที่ชอบทำเป็นประจำแล้ว นางกำนันที่เตรียมกระยาหารก็เข้ามาพร้อมกับ......แน่นอน
อโนซิสที่คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ในทุกๆ วัน
นางคอยชี้นิ้วสั่งนู่นนั่นเมื่อเห็นอะไรที่ไม่เข้าตา แม้แต่ฮอรัสเองก็ยังถอนหายใจแทนเหล่านางกำนัน
“อโนซิส มื้อเย็นข้าไม่เคร่งนะ”
“ฝ่าบาทอย่างเพิ่งทรงพูดเพคะ
หม่อนฉันกำลังทำงานถวายพระองค์อยู่” นั่นอย่างไรล่ะ
ถึงแม้จะเป็นผู้ที่มีฐานะต่างกัน แต่อโนซิสก็ทำตัวไม่ต่างราวกับเป็นแม่นมของเค้าเลย เผลอๆ อาจจะมากกว่าคนที่เลี้ยงเค้ามาเสียด้วยซ้ำ
“เฮ้อ เอาเถอะ” เถียงกับนางไปก็ป่วยการณ์ แต่หากขาดหญิงแก่ผู้ไม่มีเชื้อเทพคนนี้เทพร่างสูงก็คงจะรู้สึกเงียบเหงาไปด้วยเช่นกัน ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เทพแห่งท้องฟ้าที่แต่งกายแต่เพียงท่อนล่างด้วยผ้าฝ้ายเนื้อหนาสีขาวสะอาดนั้นจึงนอนเอนกายลงบนม้านอนตัวยาวที่ตั้งรับลมเฉื่อยเย็นกายจากระเบียงช่องมโหฬาร
คิดเสียว่าอโนซิสไม่ได้ออกปากเขี้ยวเข็ญนางกำนันอยู่ในห้องก็แล้วกัน......ฮอรัสปลอบตัวเองว่าเช่นนั้น
และว่ายังไม่ทันขาดคำ เมื่อกีดกันตัวเองออกจากโลกรอบตัวได้สำเร็จ
ฮอรัสก็นำเรื่องของเบคกลับมาขบคิดในใจอีกครั้ง คนที่ทำเรื่องร้ายแรงผู้นี้ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าความผิดของตนยากจะให้อภัย
ยิ่งเป็นคนอย่างเบคด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้แล้วใหญ่ แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็ยังคงคิดว่าจะต้องทำอย่างไรหนอจึงจะได้เห็นใบหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงและได้ยลยินเสียงพูดคุยที่แสนคุ้นหูนั่นอีกครั้ง จะผิดหรือไม่หากผู้ที่เป็นคนผิดเช่นเค้าอยากที่จะได้อยู่ใกล้ชิดอีกฝ่ายหนึ่งอีกครั้ง
และในขณะนายเหนือหัวแห่งอียิปต์กำลังเอนกายทำหน้าเคร่งเครียดและถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นั้นเองนางกำนันคนหนึ่งก็ยกเครื่องดื่มมาถวายพระองค์เพื่อรอเวลาที่หัวหน้านางกำนันจะจัดแจงทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย
“พระองค์ไม่ควรเก็บกดความกังวลเอาไว้คนเดียวนะเพคะ
เพราะมันจะทำให้ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์รู้สึกเช่นไรและสุดท้ายแล้วจะไม่มีใครเห็นใจพระองค์เลยแม้สักคนเดียว”
“ซาญ่า”
หญิงสาวเจ้าของชื่อที่ถือถาดทองคำวางแก้วสีเดียวกันนั้นยิ้มหวานเช่นอิสตรีวัยเยาว์ให้คนที่เอ่ยชื่อนางออกมา ซาญ่าคุกเข่าลงข้าม้านั่งยาวในตอนที่ฮอรัสรับแก้วทองคำนั้นมา นางแต่งตัวดีมากกว่านางกำนันทั่วๆ ไป เนื่องจากหญิงผู้นี้เป็นถึงนางกำนันชั้นรองมาจากอโนซิสจึงมีตำแหน่งการงานที่ดีกว่ามาก
“ฝ่าบาท” ซาญ่าขานรับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบกับพระพักตร์ที่ยังคงมีริ้วรอยแห่งความครุ่นคิดอยู่ไม่หายของฮอรัส
“เบคเป็นคนบอกกับหม่อมฉันเมื่อนานมาแล้วเพคะ” ก่อนจะบอกถึงที่มา หากกษัตริย์ของนางจะอยากรู้......และแน่นอน
เค้าต้องอยากรู้แน่
“งั้นเหรอ ข้านึกว่าเค้าเป็นเพียงแค่เด็กพูดมากจอมมุทะลุอย่างเดียวเสียอีก”
คนว่ายิ้ม และได้ยินเสียงหัวเราะจากซาญ่า
นางนั่งลงกับพื้นหินอ่อนโดยเรียบร้อย
“ก็มีบางครั้งที่เค้าพูดเรื่องดีๆ บ้างเพคะ
ถึงแม้จะเป็นอย่างที่พระองค์ว่าตลอดเวลาก็ตาม” นางกำนันผู้สูงศักดิ์ได้รับอนุญาตให้สนทนากับเชื้อเทพวงศ์แห่งเทพรา
เพื่อกันไม่ให้พวกเค้าเหล่านั้นเฉาปากเอาได้และซาญ่าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นถึงแม้ว่านางจะเคยอาศัยอยู่อยากยากไร้มาก่อนก็ตาม
ฮอรัสยิ้ม เอนตัวลงนอนบนหมอนขนสัตว์และผ้าไหมใบเล็กใบน้อยหลายใบอย่างผ่อนคลายและเหนื่อยล้าในเวลาเดียวกัน ชายผู้อยู่สูงเหนือทุกผู้ทุกคนในอียิปต์ประสามือรองไว้ใต้ศีรษะของตนเองก่อนจะสูดเอากลิ่นทะเลทรายเข้าไปเต็มปอดแล้วพ่นออกมาอย่างไม่ปกปิด คิดว่าพอแล้วเสียทีกับความกดดันที่แสนจะเดียวดายของตนเอง
บางทีเค้าอาจพูดบางเรื่องกับซาญ่าได้
“เบคเป็นอย่างไรบ้าง?” เทพร่างสูงเอ่ยถามอย่างไม่ปกปิด สายตาเหม่อมองออกไปนอกวิหารที่คลาคล่ำเต็มไปด้วยบ้านเรือนของประชาชนและนึกภาพของตนเองที่อุ้มพาเบคบินออกไปในวันนั้น
นางกำนันที่นั่งอยู่ข้างๆ มองฝ่าบาทของนางเล็กน้อยและใช้เวลาอยู่พอสมควรก่อนจะผลักตัวเองออกมาจากภวังค์ได้ ซาญ่าก้มหน้าตอบอย่างมีมารยาท “ไม่ค่อยดีนักเพคะ หม่อนฉันคิดว่าเค้าไม่ค่อยเหมือนเดิมนัก ดูเค้า...เซื่องซึมไป เหม่อลอยอยู่บ่อยครั้งมากกว่าแต่ก่อนที่พระองค์จะกลับมาเพคะ”
ฮอรัสรู้สึกฉงน ไม่บ่อยนักที่เบคจะหยุดความลิงโลดและคึกคะนองของตนได้ แต่ทว่ากลับไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเบคมีท่าทางเหม่อลอยเป็นกับเค้าด้วย ช่างผิดวิสัยของเจ้าตัวเสียจริง เมื่อได้ยินเรื่องน่าสนใจดังนั้นเทพร่างสูงจึงใช้ข้อศอกค่ำยันตัวเองขึ้นมาในทันใด
“ก่อนข้าจะกลับมายังงั้นหรือ?” เค้าทวนถาม
น้ำเสียงฟังดูกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันเรียกรอยยิ้มจากซาญ่าอย่างเสียมิได้
“เพคะ หากไม่เป็นการบังอาจเกินไปหม่อนฉันขอทูลว่าพระองค์คงไม่รู้ว่าเค้าว้าวุ่นใจแค่ไหนหลังจากท่านไปได้เพียงไม่ถึงปี”
“ช่างเรื่องมารยาทที่อโนซิสบอกเถอะซาญ่า
เจ้าจงโปรดพูดต่อเถอะ” ในตอนนี้บุตรชายผู้รับหน้าที่ต่อจากเทพโอซิริสผู้เป็นบิดาก็ลุกขึ้นนั่งพร้อมฟังนางอย่างเต็มที่แล้ว เค้าไม่หวังให้ตำแหน่งของใครมาเป็นอุปสรรค์ในการรับรู้เรื่องที่ตนอยากรู้อีกแล้ว ฝ่ายนางกำนันผู้เป็นหญิงคนสนิทของสหายพระราชาก็อมยิ้มหวานแล้วเล่าต่ออย่างไม่ปกปิด
ไม่กลัวว่าคนที่โดนเปิดโปงจะโกรธใส่เลยแม้แต่น้อย......หึ ถ้าเบคได้มานั่งฟังอยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะโกรธนางได้อยู่หรอก
“เค้า เอ่อ...ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลยเพคะ
หลายครั้งหม่อมฉันเห็นเค้าทำหน้าเหงาใจราวกับอยู่เพียงลำพังคนเดียวบนโลกแล้วก็เหม่อลอยตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่อยู่กับหม่อมฉัน”
ซาญ่าบอกตามตรง
ฮอรัสกลืนน้ำลาย รู้สึกผิดเล็กน้อยหากเบคเป็นแบบนั้นเพราะเค้าจริงๆ
ก็ไม่ใคร่ดีนักหากได้ยินมันจากปากของซาญ่าเอง “โอ้” เทพแห่งท้องฟ้าเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะส่งเสียงออกมาเป็นเชิงว่าเสียใจด้วย
แต่ซาญ่ากลับยิ้มตอบแล้วส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้ทำให้นางติดใจอะไรเลย
สิ่งที่อยู่ในใจเบคนางมองออกตั้งแต่แรกเห็นเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งมีท่าทางเปลี่ยนไป
“แล้วเค้ายังเอาแต่ค่อนค้อนถึงท่านอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย...”
“งั้นเหรอ?” ฮอรัสขมวดคิ้ว
และนึกดีใจที่อีกฝ่ายเลิกใช้คำราชาศัพท์อ้อมค้อมแล้วสื่อความหายให้เข้าใจอย่างรวดเร็ว
“เค้า...ค่อนค้อนข้า แม้ข้าจะไม่อยู่อย่างนั้นหรือ?”
“ชอบเอ่ยถึงพระองค์โดยไม่รู้ตัวด้วยเพคะ บางครั้งต้องให้หม่อมฉันเป็นคนเตือนเสียด้วยซ้ำว่าอย่าเปรยถึงพระองค์ในทางไม่ดีบ่อยนัก”
ฮอรัสหัวเราะในขณะที่ซาญ่าเริ่มใช้ปลายนิ้วถูผิวเล็บที่หัวแม่มือของตัวเอง โอกาสนี้สำคัญที่สุดแล้ว ใช่ นางรู้
นางรู้ อโนซิสให้เวลาน้อยและไม่คอยท่านักแต่การจะพูดเช่นนั้นมันก็ยากไม่หยอกอยู่เหมือนกัน
“...เอ่อ หม่อนฉันรู้มันอาจฟังดูแปลกพิกลแต่ว่า
ฝ่าบาทหม่อมฉันคิดว่าเบคไม่ได้มีใจรักหม่อมฉันอีกต่อไปแล้ว” หญิงสาวรู้สึกเหมือนได้ขว้างพีระมิดออกจากอกและต่อมานางก็รู้สึกเหมือนจมอยู่ที่ก้นแม่น้ำไนล์แทน เมื่อบุรุษผู้อยู่เหนือทุกคนนิ่งเงียบไปราวกับจะให้ซาญ่าพูดอะไรต่อเพื่อทำลายอาการนิ่งของเค้าไปด้วย แต่จะให้พูดอะไรต่อเล่าในเมื่อนางก็รอคำโต้ตอบจากเค้าอยู่เช่นกัน
ข้าพูดอย่างนั้นออกไปดีหรือไม่นะ......ซาญ่าประวิงในใจ ชั่วเสี้ยววินาทีนึกเข้าใจเช่นเดียวกับเบคว่าฮอรัสอาจไม่ได้มีใจเช่นที่อีกฝ่ายคอยหลบเลี่ยงอยู่บ่อยๆ
จากการนิ่งเงียบเช่นนี้ก็เป็นได้
......แต่ไม่ใช่เลย เทพร่างสูงกลับโดนคำพูดนั้นฟาดเข้าอย่างจังที่หน้าอกและความรู้สึกยามเมื่อบอกลากับฮาทอร์หวนกลับมาอีกครั้งราวกับว่าเค้าได้โผบินกลับคืนสู่อียิปต์เพื่อมาหาเบคอีกครา
ซึ่งช่วงเวลานั้นมันช่างพาให้หัวใจอันเฉื่อยชาของฮอรัสรู้สึกเป็นสุขได้อย่างน่าประหลาด
คล้ายกับคนพเนจรหลงทางกลางทะเลทรายที่เจอโอเอซิส......
กระทั่งหญิงสาวผู้เป็นนางกำนันทำลายความเงียบได้สำเร็จ
“พระองค์...ฝ่าบาท เอ่อ ท่านฮอรัสเพคะ”
ซาญ่าเอ่ยสะกิดทุกราชศัพท์กว่าจะได้ผล
โอรสแห่งโอซิริสถูกเรียกสติกลับมาและได้รับการยืนยันจากซาญ่าอีกครั้งหนึ่งว่านางไม่บังอาจล้อเล่นกับกษัตริย์เป็นแน่
อีกทั้งนางยังแน่ใจอีกด้วยว่าความอ้างว่างที่ทำให้เหม่อลอยไม่รู้สึกตัวของเบคนั้นเป็นเหตุว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงได้มีท่าทีหงุดหงิดใจใส่ฮอรัสนักทันทีที่กลับมาถึงบ้าน
ไปตายซะ!......เทพแห้งท้องนภานึกภาพอีกคนหนึ่งถลึงตาใส่พร้อมกับคำพูดไม่ระวังปากอย่างที่ชอบทำเวลาไม่สบอารมณ์ได้เลย และเดาว่าเบคคงคิดแบบนั้นเช่นกันในตอนที่ตัวเค้าเค้นถามว่าเป็นอะไร
ทำไมจึงได้โกรธเคืองกันนักหนา......ก็สมควรอยู่หรอก ฮอรัสลืมคิดถึงเรื่องการรอยคอยของเบคไปเสียสนิทเลย
“ข้าคงแย่มากสินะ ที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเค้าในช่วงเวลาที่แสนนานขนาดนั้น”
“เรียนพระองค์ ห้าปีในช่วงชีวิตของมนุษย์ไม่นานขนาดนั้นหรอกเพคะ
หากแต่เพียงว่าเค้าไม่ได้รอพระองค์กลับมาด้วยความรู้สึกของสหาย เบคทำหน้าเหมือนจะตายทุกครั้งที่เค้าถอนหายใจและพบว่าตัวเองต้องทำแบบนั้นต่อไปอีกอย่างไม่มีวันสิ้นสุด”
“เจ้ากำลังจะบอกอะไรข้างั้นหรือซาญ่า?”
ฮอรัสรู้อยู่แล้วว่าการสนทนานี้ว่าด้วยหัวข้อเรื่องอะไร แต่การเปลี่ยนผันหัวใจของเบคอาจทำร้ายซาญ่าเช่นเดียวกับที่เค้าทำให้ฮาธอร์เป็นเช่นนั้น ร่างสูงไม่แน่ใจนักว่าหญิงสาวตรงหน้าจะยอมรับมันได้
“เบครักพระองค์เพคะ” นางกระซิบ
สีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัดแต่ทว่าไม่มีแววลังเลเลยราวกับว่านางรอที่จะพูดคำนี้มาทั้งชีวิต
“จะว่าหม่อนฉันทูลอย่างไม่บังควรก็ได้แต่ว่าเค้าดูไม่ได้เป็นอื่นไปเลยจากที่...พระองค์
เอ่อ พระองค์ ท่านฮอรัส”
“ฮอรัส...เอ่อ ฝ่าบาทจะเสด็จไปไหนหรือเพคะ
ทุกอย่างพร้อมแล้ว...”
“ข้าไม่หิวอโนซิส ขอโทษด้วยข้าเพิ่งรู้ตัวว่าอิ่มแล้ว” สุรเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกไป
ฟังดูรีบเร่งทำให้ไม่ได้ควบคุมเสียงจนมันกังวานก้องไปทั่วทั้งห้องบรรทม ซาญ่าที่เห็นฮอรัสผุดลุกขึ้นต่อหน้ามีอาการตื่นตกใจยิ่งกว่าอโนซิสเสียอีก
เพราะไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันจนเป็นเหตุทำให้เทพร่างสูงพรวดพลาดออกไป มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่าฮอรัสจะไปไหน แต่ทว่ากษัตริย์หนุ่มกลับเดินเลี่ยง ไม่ได้เดินไปทางประตูหน้า
เหล่านางกำนันที่อยู่ใกล้ระเบียงต่างรีบรี่ถอยเมื่อฮอรัสเดินมาถึง ก่อนพวกนางจะส่งเสียงอื้ออึงจนเกิดกลายเป็นความฮือฮา
“เค้าจะบิน...ท่านฮอรัสกำลังจะบิน!” ด้วยความแตกตื่นพวกนางจึงเผลอพูดคำสามัญชนออกไป
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ทำให้ความตื่นตาของพวกนางลดน้อยลงเลย เหล่านางกำนันที่หลีกทางให้เทพแห่งท้องฟ้าต่างมองภาพตรงหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่ง
เนื่องจากไม่เคยได้เห็นการแปลงร่างกลับไปเป็นเทพเยี่ยงนี้มาก่อนเลยในชีวิต
อโนซิสรีบเดินตามมา หวังจะตามให้ทันและฉุดรั้งฮอรัสเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตาของนางไปได้
“ท่านจะบิน...” จะบินไปไหนอย่างนั้นหรือ นางคงไม่มีโอกาสได้พูดประโยคนั้นต่อให้จบเสียแล้วกระมัง
เพราะแรงลมที่กระพือพัดเข้ามาอย่างไม่เกรงใจนั้นได้ส่งตัวของเทพร่างสูงออกไปแล้วในตอนที่อโนซิสมาถึงพอดี
ไม่ทันเสียแล้ว นางกำนันได้แต่มองและกระซิบใส่กันอย่างกล่าวขวัญถึงความสง่างามของเทพฮอรัส อโนซิสทำได้เพียงแค่กดเสียงถอนหายใจของตนเองให้ฟังดูเบาที่สุด ส่วนซาญ่านั้นนางยืนแตะมือไปที่เสาโอเบลิคก์มองดูภาพของชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ด่วนรี่หายไปบนท้องฟ้า
เมื่อนางบอกว่าคนที่เป็นสหายหนุ่มของนางในตอนนี้ว้าวุ่นใจแค่ไหนเมื่อครั้งที่ร่างสูงไม่อยู่
“ขอให้เจ้าโชคดีเบคนะ ข้าว่าข้าคงไม่พูดมากเกินไปหรอกสำหรับความปากแข็งเยี่ยงเด็กที่ไม่ยอมโตของเจ้า”
หญิงสาวกระซิบ กระแสลมจากปีกของฮอรัสพัดปอยผมของนางให้ปลิวประโลมผ่านแก้มไปแทนคำขอบคุณ ซาญ่ายิ้ม รอเรื่องสนุกของเบคที่กำลังจะเกิดขึ้น
หลังจากที่นางได้ทำในส่วนของตัวเองแล้ว
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ซาญ่าเป็นสาววาย!! ยุคนั้นมีสาววายไหม? //โดนต่อยหน้า// 55555
คือใช่เลยค่ะ การเชียร์แบบหัวเด็ดตีนขาดแบบนั้น แถมยังอมยิ้มกรุ่มกริ่มตอนที่ยกแฟนตัวเองให้ผู้ชายอีก(?) นี่แหละค่ะอาการของสาววาย....ซาญ่าถือว่าเธอโชคดีมากเลยนะที่ได้รับการละเว้นให้ถ่ายทอดบทนี้จากไรท์ เพราะปรกติแม่หญิงทั้งหลายจะถูกไรท์ไล่ออกอย่างไม่ใยดีเลยค่ะ
55555 เธอได้อยู่ซาญ่าเธอได้อยู่ 55555 เพราะได้เล่นบทดันความรักของทั้งคู่
ฮอรัสไปแล้วค่ะ...ฮอรัสไปหาเบคแล้วค่ะรีดด
>{}< //ทำตัวดี๊ด๊า// กรี๊ดดดดดด จะเกิดอะไรขึ้นน้า?? //อมยิ้มมองบน// พ่อเทพสุดเซ็กซี่เปิดเผยมากเลยค่ะว่าคิดถึงเบคคค อร๊ายยยย....ไปหาเบคแล้วล่ะค่ะ >////< ไรท์ไม่ใช่คนโหดร้ายกับเคะที่จะทำให้เค้าเจ็บเป็นครั้งที่สองทั้งๆ
ที่แผลเก่ายังไม่หายหรอกนะคะ....อุ๊บบบบ!!
ง่างงง ไม่ได้สปอยล์หรอกนะคะ
^^ คือ Part หน้าจะเป็นเยี่ยงไรรีดๆ ต้องลองคิดเล่นๆ กันรอก่อนแล้วล่ะค่ะ ><
Part หน้าเป็นบทสรุปแล้วล่ะค่ะ...โอ่วววว
ไม่น้าาา >0< ม่ายยย
ฮอรัสเบคน้อยอยู่กับเราก่อนนน //เอื้อมมืออกไป// รักรีดๆ นะคะ ^^ มาคุยกันได้ที่ >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<< ค่ะ จิ้มโล้ดด
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
ม่ายยยยยย ไรท์ทำให้รีดๆ เขินค้างน๊าาาา // เขินแทนเบค >////<
ซาญ่าเธอได้ไปต่อ ฮาตรงนี้ล่ะ ฮ่าๆๆๆ
รีบมาต่อน๊าจ๊ะไรท์ อย่าปล่อยไว้นานเลย ได้โปรด~~~
ตัดฉับได้เจ็บใจมาก----- #ลงแดงแปป
ตัดฉับได้เจ็บใจมาก----- #ลงแดงแปป
ซาญ่า!!!!เธอทำดีมาก-..,- เบคคค ระวังนะลูกกก เขาจะไปหาหนูแล้วว กรีดดดดดดด//หวีดดดด😂
รอติดตามตอนต่อไปมากกก เข้ามาดูทุกวัน😂ว่าเมื่อไหร่ไรท์จะอัพพ ฮรึกกกนางทำดีมากค่ะ!!! ช๊อบชอบบบ
ซาญ่า กู๊ด จ็อบค่ะลูกกกกก 555555555
แสดงความคิดเห็น