วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

[Fic For Jared Leto] + [Part 3] Stalker Joker – Jared Leto x XXX



มาแล้วค่ะรีดๆ ขาาา >0<  ฮาาาา  รู้ตัวหายไปนาน 5555 //หัวเราะแห้ง//  ขอโทษนะคะที่หายไปนาน  ตอนนี้งานหนักมากจริงๆ ค่ะ  คิดจะมาก็มาไม่บอกไม่กล่าวเลยค่ะ เฮ้อออ  ยังไม่จบมิดเทอมเลยค่ะ  อ๊ากกกกกกก  //เอาหัวทุบโต๊ะ//

และวันนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรที่ไรท์จะลงฟิคของจาเณ้ดคนสวยของเราได้แล้วเสียค่ะ >///<  //ลุกขึ้นมาเอาพลาสเตอร์แปะหัว// อร๊ายยยยยยยย!! ผะ ผะ ผู้ชายคนนั้นเค้า....!!  อร๊ายยยยย  จาเร็ด  จาเร็ดฟื้นสิคะฟื้น!!  //อันที่จริงถึงฟื้นมาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี  ทุกอย่างมันก็จะเป็นไปตามแผนของเค้าคนนั้นเลยล่ะนะ//  ฮ๊ากกกกกกก  เรื่องมันชักจะ....ไรท์ไม่สามารถพูดต่อไปได้ค่ะ เพราะ Nc ไม่มีคำอธิบายใดๆ ค่ะ 55555

งั้นเอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยเนอะ  ไปกันเลยค้าาา >////<  อย่าเอาใจจาเร็ดกันด้วยนะคะ


ผมทรงนี้ของเค้าเป็นอีกหนึ่งในทรงโปรดที่ไรท์ชอบค่ะ 555555  เข้ากับจาเร็ดมากเลยค่ะ  





งืออ ช่วงนี้ไม่ได้นอน  ตาแดงเลยค่ะ 5555  ชอบเค้าแต่งตัวออกไปข้างนอกจังค่ะ 55555



ออกไปห่างๆ นะคานเย่! ><  อย่าแตะจาเร็ดเยอะ  ไปยุ่งกะคิมนู่นนน







-------------------------------------------------------------------------------------



มันดูดีมากเมื่ออยู่ในก้นของจาเร็ด  แล้วทีนี้ผมก็แค่รอให้เค้าฟื้น



.



.



.



ความรู้สึกมึนตื้อคล้ายวิงเวียนแล่นเข้ามาทำร้าย  มันเจ็บปวดแต่ก็เบาบางมากพอที่จะข่มความรู้สึกนั้นไว้  แต่ไม่เพียงเท่านั้นร่างที่จำได้ว่านอนพักอยู่บนเตียงของตัวเองในบ้านที่เป็นของเค้าและมีน้องหมาน่ารักๆ เพียงห้าตัวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน กลับรู้สึกเจ็บปวดที่ข้างล่างด้วยราวกับว่ามีบางสิ่งแทรกตัวเข้ามาและเนื้อของเค้าก็ฉีกขาดไป......บ้าสิ จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน ก็เค้าอยู่คนเดียวนี่นา

“อึ อือ” เสียงอุทานเมื่อตื่นเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากคู่บางสีชมพูระเรื่อ  จาเร็ดขยับตัวและพบว่าตัวเองไม่ได้ขยับแขนขาบนผ้าปูที่นอนอีกต่อไปแล้วอีกทั้งยังรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย

“อ่าา” เจ้าตัวนิ่วหน้าเพราะความเจ็บแปลบที่แล่นเข้ามาทำร้ายโสตประสาท  ร่าบางพยายามขยับแขนขาแต่ลุกขึ้นไม่ได้ “อะไรกัน...” และแล้วเสียงหวานงัวเงียนั้นก็หยุดไปเมื่อพบคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเค้า

“เฮ้  นายเป็นใครน่ะ...โอ๊ย!

“โอ้ อย่าเพิ่งขยับสินั่นมันจะทำให้คุณเจ็บมากนะ” เสียงทุ้มนุ่มของอีกคนหนึ่งว่าอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าจาเร็ดกลับรู้สึกแปลกพิกล  กระทั่งเจ้าตัวมองเห็นสภาพตัวเองในตอนนั้นจึงร้องโวยวายออกมา  ร่างบางตะโกนด่าทอ ตั้งคำถาม  และดีดดิ้นหวังสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากเชือกที่ส่งเสียงอี๊ดอ๊าดแต่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บอย่างไม่น่าเชื่อนั้น

“โว้วๆๆ คุณอยากให้ข้างบ้านโทรแจ้งตำรวจเหรอ?”

“มาจับแกไง!” ร่างบางขู่ฟ่อ

“แล้วเห็นคุณน่ะเหรอ  หึๆ ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นแน่  จริงไหม?

“ให้ตายเถอะ แกต้องการอะไร?!” ร่างบางตวาด กำลังคิดในใจว่าคนที่ไม่รู้จักตรงหน้านี้อยากจะแบล็คเมย์เค้าหรือเปล่า “ปล่อยฉัน!” เค้าสะบัดขาอีก ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดูดดุนอยู่ข้างในตัวเองและความชุ่มแฉะที่มีบางอย่างไหลย้อนออกมาจากด้านหลังของเค้า

“ผมไม่ได้ต้องการอะไร” เสียงนั้นกล่าวเรียบๆ ราวกับว่าจาเร็ดไม่ได้ถูกมัดและแก้ผ้าอยู่

“แล้วแก...”

“และเฮ้...” ชายหนุ่มร่างสูงปริศนาที่เปิดหน้าตาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรนั้นเอ่ยขัดขึ้นด้วยโทนเสียงเดิม “คุณ...ช่วยใช้คำสุภาพกับผมดีๆ หน่อยได้ไหม  ผมรู้ว่าคุณจะฉลาดพอ” เค้ายกยิ้มและกอดอก ดูเหมือนกำลังรับลมอยู่ที่บ้านพักต่างอากาศของตัวเอง

ร่างบางทำหน้าผงะ  เส้นเลือดบนหัวเต้นตุ้บๆ เพราะความไม่พอใจ  ขบคิดในเวลาอันรวดเร็วถึงแนวโน้มที่คนตรงหน้านี้จะทำอะไรต่อไปกับตัวเองบ้างก่อนจะกัดฟันกรอด “แล้วนายทำแบบนี้ทำไมมิทราบยังงั้นเหรอ?” จาเร็ดกระแทกเสียงแล้วด่าร่างสูงที่ก้มลงมาคร่อมเจ้าตัว

“เดี๋ยวคุณก็รู้  ผมจะบอกคุณ” ชายหนุ่มหมายถึงการกระทำทางร่างกายที่เค้ากำลังจะมอบให้  ร่างของผู้ชายที่เพรียวบางซึ่งกำลังดิ้นเร่าให้หลุดพ้นจากพันธาการอย่างแผงแววของความขลาดกลัวนั้นช่างปลุกเร้าอารมณ์เค้ายิ่งนัก  เป็นเพราะจาเร็ดด้วยกระมังที่ทำให้เค้ารู้สึกอยากได้จนหน้ามืดตามัวขนาดนี้  ร่างสูงทาบฝ่ามือลงไปที่ข้างแก้มสั่นๆ ของจาเร็ด  นิ้วโป้งของเค้าแตะอยู่บนริมฝีปากที่สั่นไม่แพ้หน้าของอีกฝ่าย  ดวงตากลมโตสีฟ้ากระจ่างสวยเบิกกว้างจ้องใบหน้าที่เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างหวาดวิตก

ร่างสูงเกลี่ยนิ้วไปตามเรียวปากสีน่าประทับใจนั้นช้าๆ ราวกับตกอยู่ในภวังค์  ก่อนเค้าจะโน้มหน้าลงไปจูบกับเจ้าของริมฝีปากคู่นั้นอย่างอดใจไม่ไหว  ความอดทนถูกฉีกกระชากออกในตอนที่ชายหนุ่มได้สัมผัสกลีบปากและได้ลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากชื่นแฉะแต่ให้ความรู้สึกดีนั้นเอง  เค้าจาบจ้วง  ดูดดึง  และควานลิ้นไปทั่วราวกับคนขาดสติแต่ทว่ากลับทำให้คนที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้างไม่สามารถปฏิเสธหรือทำการขัดขืนใดๆ ได้เลย

......เค้าเก่ง  เก่งมาก  เก่งเสียจนจาเร็ดปฏิเสธไม่ได้เลย......

ชายปริศนาจูบหนัก มีหลายครั้งที่เค้าบีบแก้มให้อีกคนหนึ่งยอมอ้าปากให้กว้างขึ้นจากความไม่ยินยอมพร้อมใจและก็มีอยู่หลายครั้งเช่นกันที่จาเร็ดเผลอจูบตอบไปด้วย

ให้มันได้อย่างนี้สิ! หมอนี่มันจะเก่งไปไหนนะ......ร่างบางสบถในใจเพราะความหนักหน่วงแต่ทว่าอ่อนโยนอย่างน่าประหลาดใจของอีกคนหนึ่ง  เจ้าตัวอยากที่จะสะบัดหน้าหนีแล้วถ่มน้ำลายใส่คนที่บุกเข้าบ้านแล้วมัดเค้าไว้บนเตียงด้วยสภาพน่าอายเช่นนี้เสียจริง  แต่กลับไม่รังเกียจลิ้นอุ่นร้อนที่เข้ามาเล่นสนุกอย่างแผลงพิเรนทร์ในปากเลย

ไอ้บ้านี่มันเป็นใครกัน!

ร่างสูงผละจูบออกมา  มีเสียงดังเกิดขึ้นก่อนปากของจาเร็ดจะบวมเจ่อ  การกระทำที่จาบจ้วงและปุบปับนี้ทำให้ร่างบางด้านล่างเก็บอากาศหายใจไม่ทันจึงทำให้เจ้าตัวหน้าชาเห่อและนอกจากน้ำลายที่ไหลเปรอะไปทั่วแล้วยังมีน้ำตาคลอล้นออกมาจากหางตาคู่สวยนั้นอีกด้วย  ชายนิรนามยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าให้ช้าๆ เลื่อนนิ้วไปเกลี่ยใบหน้าของอีกฝ่ายหนึ่งอีกครั้งแล้วก้มลงละเลียดเช็ดน้ำใสๆ ที่เค้าทำหกออกมาจนสะอาดสะอ้าน

“ปล่อยฉัน!” จาเร็ดดิ้นอีกครั้ง  หน้าแดงจากการถูกปล้นจูบและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองก็ตอบรับ  ชายที่อยู่บนร่างบางๆ นั้นหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าระรื่นเหมือนตัวเองไม่ได้ทำเรื่องผิดอยู่

“ผมไม่อยากให้มันจบเร็วนักหรอกนะ  แค่จูบเสร็จครั้งเดียวคุณก็จะถอนตัวแล้วเหรอ?”

“ไม่...โอ้ ให้ตายเถอะ! ใครเชิญให้นายจูบฉันแต่แรกกัน” ร่างด้านใต้ตวาดใส่

“ไม่มีหรอก” เค้ายิ้มอีก “แต่คุณก็จูบเก่งใช้ได้เลยนะเมื่อกี้นี้น่ะ”

จาเร็ดดิ้นอีก สะบัดหน้าออกจากนิ้วเรียวยาวที่เกลี่ยแก้มของเจ้าตัวเล่นราวกับเด็กๆ

“ผมคอยอยู่ข้างหลังคุณมาตลอดเลยรู้ไหม  เฝ้ามองคุณโดนที่คุณไม่รู้ตัวเลย  ผมอยู่ข้างหลังคุณมาตลอดและตอนนี้ก็...” ร่างสูงลูบไปที่เซ็กซ์ทอยของเค้า  ร่างบางที่สะดุ้งเฮือกจนตัวสั่นก็ดิ้นอีก ใบหน้าของเจ้าตัวเมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าอะไรอยู่ด้านหลังก็พลันพรั่นพรึงขึ้นมา  จาเร็ดหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัดเค้าส่ายหน้าไปมาและพยายามปลอบใจตัวเองด้วยคำโกหกในความนึกคิด

“อย่านะ...เฮ้ นี่ ฉันเป็นผู้ชาย” เค้าบอกช้าๆ แต่เป็นเพราะความกลัวไม่ใช่ความสุขุม

คนตรงหน้าแสยะมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วแทรกนิ้วเข้าไป  มันเข้าไปไม่ได้เพราะแค่มีของปลอมนั่นก็คับแน่นจะแย่อยู่แล้ว ร่างสูงยังไม่ได้เอานิ้วออกมาแต่ก็ไม่ได้ดึงดันไปต่อด้วยเช่นกัน แต่ร่างบางกลับดิ้นขลุกขลัก  นึกอยากจะขยับร่างกายแต่ก็ทำไม่ได้จึงได้เพียงแค่ตะโกนด่าทอสาปแช่งอีกคนหนึ่งไปพลางๆ เท่านั้น

จาเร็ดทำเป็นปากเก่ง  แต่ร่างสูงก็รู้ว่าคนสวยของเค้าก็ทำได้เพียงแค่พูดเท่านั้นถึงแม้จะไม่ได้ถูกผูกมัดอยู่จาเร็ดก็สู้เค้าไม่ได้อยู่fuเพราะด้วยขนาดตัวที่ต่างกว่ากันมาก หากจะใช้กำลังปลุกปล้ำยังไงเค้าก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดี  แต่เฮ้......นั่นมันจะไปสนุกอะไรล่ะ  ไม่เห็นจะสนุกเลยสักนิด  ร่างสูงไม่อยากทำให้คนพิเศษของตัวเองต้องเจ็บ  ให้มีตำหนิบนร่างกายแม้แต่นิดเดียวเค้าก็ไม่เห็นด้วยดังนั้นมัดเอาไว้แบบนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

......เค้าจะได้เลียผิวขาวๆ และเนียนสวยนั้นได้อย่างถนัด......

คนด้านใต้เอาแต่ร้องประท้วงพร้อมทั้งด่าทอด้วยความไม่พอใจแต่ร่างสูงกลับมองว่ามันน่ารัก  เค้าชอบเสียงของจาเร็ดจึงปล่อยให้อีกคนหนึ่งทำแบบนั้นต่อไปส่วนตัวเค้าก็ย้ายมาคุกเข่าอยู่ตรงสะโพกของร่างบางที่ถูกอ้าออกกว้างจนเห็นปลายเซ็กซ์ทอยซึ่งโผล่ออกมา

ร่างสูงถอดเสื้อในตอนที่จาเร็ดตะโกนถามเค้าว่าถอดทำไม!

และในตอนนั้นเองที่กล้ามเนื้อเป็นมัดอย่างสวยงามซึ่งถูกซ่อนรูปไว้ภายใต้เสื้อยืดสีดำเข้มได้ถูกเปิดเผยสู่สายตาของร่างบาง  เจ้าตัวจึงเงียบเสียงลงได้เสียทีเพราะความคาดไม่ถึง  ไม่นึกเลยว่าจะตัวใหญ่ขนาดนี้หากต้องสู้กัน บางทีร่างบางอาจไม่สามารถเอาชนะได้   ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องจริง

ร่างสูงไม่ได้ฟังคำพูดของคนด้านใต้เลยสักนิด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเงียบเสียงลงแล้วแต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพื่อเอ่ยชมที่ให้ความร่วมมือเป็นเด็กดี  ชายหนุ่มคร่อมแขนอยู่เหนือร่างที่เริ่มจะกลับมาสั่นกลัวอย่างประวิงหัวใจ ก่อนคนที่วาดยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ตลอดเวลานั้นจะก้มลงใช้ลิ้นของตัวเองตักตวงความกระจ่างและอ่อนนุ่มของคนอื่นดั่งใจคิด  ชายร่างสูงสำรวจไปทั่วและไม่ลืมที่จะทิ้งร่องรอยของความเป็นเจ้าของเอาไว้ด้วย

ร่างบางที่เอาแต่ร้องและพ่นคำไม่พอใจตั้งแต่แรกก็เริ่มเสียงอ่อนลงและเกิดความไม่เข้าใจขึ้นกับตัวเองอย่างยิ่งยวด  ไฉนเลยเมื่อเค้าตะโกนปาวๆ ว่าตัวเองเป็นผู้ชายแถมจะบอกว่าชอบผู้หญิงอยู่นัยๆ จะต้องตัวสั่นไหวกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นเพียงแค่โจรโรคจิตบัดซบคนนี้ด้วย  ลิ้นร้อนนั้นตวัดเลียไปทั่วราวกับสัตว์เลี้ยงไม่มีเจ้าของ  มันลากผ่านแอ่งชีพจรของร่างบาง ร่างบางก็สั่นพร่าราวกับสาวน้อยแรกแย้มที่โดนปลุกเร้า

มันช่างง่ายเหลือเกิน  ง่ายดายเกินไปหากจะบอกว่าคนที่ดิ้นเร้าอยู่นั้นคือชายที่เคยคบหญิงสาวสวยมาแล้วนับไม่ถ้วน  ร่างสูงผู้กระทำลูบไล้ไปตามเนินและลาดผิวอย่างหลงใหลพร้อมทั้งยังคิดอีกว่าร่างบางของเค้าไม่ประสาเอาเสียเลย เมื่อรับรู้ถึงความสั่นไหวและเสียงครางน้อยๆ ที่เล็ดรอดออกมาจากปากของจาเร็ดนั้น

แพขนตาหนาที่เรียงตัวสวยบดขยี้ปิดลงกับเปลือกตาอยู่เกือบตลอดเวลา  มันไหวระริกอยู่บ่อยครั้งเมื่อคนด้านบนลากลิ้นไปทั่วอย่างถือวิสาสะราวกับว่าเป็นเจ้าของร่างกายนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรซึ่งมันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย  และร่างบางมักจะหายใจสะดุดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสร้างรอยจูบของร่างสูง

......ช่างถือวิสาสะและน่ารังเกียจ......

นั่นสิ  จาเร็ดควรเกลียด  ควรรู้สึกแย่มากกว่านี้  แต่ความรู้สึกแปลกออกไปนี้มันคืออะไรกัน?  ความรู้สึกวาบหวามจนรู้สึกเจ็บในอกและทำให้รู้สึกจั๊กจี้ไปหมด  ความร้อนที่พาให้รู้สึกร้อนไปด้วย  ความเปียกชื่นและเสียงจูบที่ทำให้ไม่อาจต่อต้านได้  และความรู้สึกดีเสียจนสมองขาวโพลน  สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้หัวใจของร่างบางกระตุกรัวราวกับโดนเครื่องจั้มพ์หลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน

ร่างสูงได้โลมเลียละเลียดคนตรงหน้าสมใจของเค้าแล้ว  มือใหญ่สอดเข้าไปสัมผัสเส้นผมไร้การจัดแต่งที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นก่อนจะจับให้จาเร็ดเอียงคอแล้วพรมจูบซอกคอขาวนั้นอย่างหื่นกระหาย  การกระทำของร่างสูงดูบ้าคลั่งแต่ร่างบางกลับเงียบเสียงด่าทอลงไปโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยเช่นกัน  เสียงเสียดสีของเนื้อหนัง  การพรมจูบที่ทำให้เกิดเสียงเฉอะแฉะ  เสียงลมหายใจที่หอบดังขึ้นอย่างเร้าร้อนทรมาน  และรวมทั้งเสียงถอดกางเกงของร่างสูงดังปนรวมกันคล้ายกับสถานการณ์ในห้องนั้นจะไม่มีวันสงบลงเลย  เมื่อพายุแห่งความต้องการซัดโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วงและคนก็อ้าแขนรับมันไว้อย่างเต็มแรงด้วยตัณหาของเค้าที่มีทั้งหมด

ข้อมือสวยของจาเร็ดขึ้นรอยแดงแล้วจากการดิ้นเมื่อก่อนหน้านี้ รวมทั้งการปล่อยให้ล่วงเวลาหยอกล่อที่นานเกินไปของร่างสูง นั่นจึงทำให้ทั้งสองคนไม่ได้สนใจเชือกเนื้อละเอียดที่กำลังบาดผิวของร่างบางอย่างช้าๆ เลยแม้แต่น้อย  ซึ่งจะอย่างไรก็ตามความสนใจของพวกเค้ากำลังอยู่ที่รอยจูบสุดท้ายของร่างสูงที่ทิ้งมันไว้ในโพรงปากหวาน  เสียงดังขึ้นจากการแลกลิ้นซึ่งเกิดจากการชักนำของร่างสูงนั้นช่างพาให้รู้สึกจะขาดใจเสียจริง  เค้าลากลิ้น หยอกล้อไปทั่วทำราวกับว่าจาเร็ดเป็นเพียงแค่เด็กน้อย

ร่างบางนึกฉุนขาดอย่างเสียไม่ได้ อยากจะกัดลิ้นที่ทำเป็นได้ใจของอีกคนหนึ่งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อยู่ดี......มันเป็นเพราะอะไรกัน?  ความงุนงง  ตื่นตระหนกหรือตื่นตกใจเหรอ?  นั่นอาจจะใช่  ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ถูกย่ำยีอย่างไม่ได้รับความปราณีคิดเช่นนั้น

คนด้านบนถอนปากออกมา คนด้านล่างก็อ้าปากโกยอากาศตัวแอ่นเสียจนเหมือนคนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ “ฮา...ฮา” ร่างบางมองคนที่คร่อมค้ำตัวเองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะส่งเสียงและกระตุกข้อมือซึ่งถูกมัดของตัวเองอย่างประทัดประท้วง

“ปล่อยฉันไปป!” เค้าหลับตาตะโกนสุดเสียง  จะขอบคุณมากเหลือเกินหากมีใครสักคนเข้ามาช่วยเค้าไว้  แต่อีกคนหนึ่งกลับเพียงแค่ยิ้มแบบเดิมแล้วยื่นข้อเสนอน่ายั่วใจไปให้

“คุณลองว่าง่ายก่อนสิแล้วผมอาจจะลองคิดใหม่เรื่องปล่อยคุณ” จาเร็ดแว่วได้ยินเสียงหัวเราะ

“ไปตายซะ!” เค้าบอก “แกสนุกมากเลยรึไงห๊า!

คำถามแกมประชัดประชันนั้นทำเอาคนที่ยืดตัวตรงตาลุกวาว “ใช่ ผมกำลังสนุกเลย” เค้าบอก

และไม่บอกก็รู้ว่าเรื่องสนุกนั้นของร่างสูงคืออะไร  จาเร็ดเกร็งตัวแน่นและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการอันแสนหยาบคายนี้ไปให้ได้  แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์เพราะร่างบางถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา มีเสียงเล็กๆ หลุดออกมาจากลำคอขาวสวยในตอนที่เจ้าตัวดิ้นขลุกๆ อย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็เป็นได้เพียงแค่การทำตัวน่ารักๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้เอ็นดูเท่านั้น

“ไม่ต้องเอะอะไป  เดี๋ยวคุณจะได้ร้องแน่” ผู้ที่มีอิสระอยู่เต็มอ้อมแขนว่าก่อนจาเร็ดจะหน้าซีดเผือด  แล้วชายหนุ่มร่างสูงก็นวดนิ้วหัวแม่มือไปบนยอดอกซึ่งถูกอมจนช้ำแล้วของร่างบางอย่างบรรจง

“อ้าา!

“สีชมพู?” เค้าแกล้งอุทานเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นก่อนจะเลื่อนมือลงไปในส่วนที่อยู่ต่ำกว่าใต้สะดือของร่างบางผู้เริ่มมีน้ำตารื้น “ตรงนี้ก็ด้วย...สีชมพูน่ารักเชียว  ฮ่ะ ดูสิ มันสั่นอยู่ในมือผมด้วยล่ะ” ร่างสูงก้มลงกระซิบแนบหูขาวผ่องที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงระเรื่อของจาเร็ด

จาเร็ดหลับตาปี๋ นึกไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้นก่อนจะตะโกนออกไป “หยะ หยุดสักทีเถอะน่า! เลิกพูดบ้าๆ ได้แล้ว...ละ แล้วก็เอามือแกออกไปด้วย อย่ามาแตะของฉัน...อา อึก อื้ออ” แต่ในทันใดนั้นเองร่างบางก็สะดุ้งเฮือก ขบกัดริมฝีปากตัวเองแทบไม่ทัน

“หา อะไรนะ? ผมฟังไม่ค่อยถนัดเลย” ร่างสูงเงี่ยหูหลังจากที่ขยับมือที่กอบกุมมอบความอุ่นให้แก่จาเร็ดอยู่ด้านล่าง  และในตอนนี้เค้าก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  แกนกายที่สั่นระริกเพราะถูกเร้าด้วยความกลัวขยายขึ้นและร้อนขึ้นมา

“ฮึก อา...อึก” คนถูกกลั่นแกล้งหันหน้าไปซบกันหมอนใบฟู  ร่างสูงจึงก้มลงจูบแอ่งชีพจรเพื่อแต่งแต้มงานศิลปะด้วยลิ้นของเค้าอีกครั้ง  ชายหนุ่มไล่ริมฝีปากไปทั่วลำคอสวยเรื่อยไปยังบ่าที่เชื่อมอยู่กับหัวไหล่มน  เสียงจูบดังขึ้นพอๆ กับเสียงกักเก็บอย่างทรมานของคนด้านล่าง......ร่างบางเคยทนไหว  เคยไม่รู้สึกเมื่อตัวเองไม่อยากรู้สึก แต่ทว่าทำไมเมื่อบอกว่ารังเกียจปากและมือคู่นี้แล้วร่างกายของเจ้าตัวถึงไม่ยอมฟัง  มันกระส่ำเร้าและเต้นตุ้บๆ ด้วยความอยากตอบสนองอีกคนหนึ่งราวกับว่าเต็มใจที่จะมีเซ็กซ์ด้วย

ไม่! นี่ต้องมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่เพราะประสบการณ์ของหมอนี่ ร่างบางก็คงต้องโดนวางยาอย่างแน่นอน......จาเร็ดตัวสั่นและเริ่มหายใจไม่เต็มปอด

“อ้าปากสิ  ร้องออกมา  ถึงเวลาที่คุณต้องร้องแล้วอย่าทรมานตัวองไปเลย”

“หุบปากไปเลย! แกนั่นแหละที่...อ้า! อ่าา อือ อ๊ะ” ร่างบางตัวสั่นกระตุก

“ผมบอกแล้ว” ร่างสูงทำหน้าพอใจเหมือนผู้ใหญ่ที่ได้รับความพึงใจจากเด็กหัวรั้น และมือของเค้าก็ขยับเร็วขึ้นพร้อมกับออกแรงบีบแรงขึ้น “เห็นไหม...ดูคุณจะชอบมันนะ”

กล้ามแขนของท่อนแขนเล็กๆ นั้นหดเกร็งจึงขึ้นรูป ดึงรั้งเชือกที่มัดตัวเองไว้จนมันขึงเป็นเส้นตึง  ใบหน้าสวยที่ถูกล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีสลวยนั้นก็พยายามหันไปทางอื่นอย่างไม่ยอมรับร่างสูงที่กำลังปลุกปั่นเค้า  และนั่นยิ่งทำให้คนที่มองดูอยู่วาดยิ้มขึ้นสูงเสียจนกลายเป็นแสยะ....เค้าชอบเสมอเมื่อจาเร็ดของเค้าทำตัวดื้อดึง  ดังนั้นร่างสูงจึงก้มลงขบกัดยอดอกสีสวยนั้นอย่างตั้งหน้าตั้งตา และใช้อีกมือหนึ่งเข้าไปทำธุระใกล้ๆ กับมือที่ติดภารกิจอยู่

อื้อ อาา...อือ ไม่...อย่า  อย่า...อ่าา..า ฮา อย่า ไม่เอา...อ๊าา!” เสียงหวานไม่ได้ถูกปิดกั้นอีกต่อไปแล้วเมื่อหัวสมองขาวโพลนด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดและสั่งให้ร่างบางหวีดร้องอย่างสุดเสียง  สายธารสีขาวพุ่งทะยานออกมาละเลงเต็มกำมือของชายหนุ่มร่างสูง  เค้าก้มมองมันอย่างพอใจก่อนจะหันไปพูดกับคนที่ซบใบหน้าลงกับหมอนอย่างเหนื่อยหอบ

“ผมกะแล้วว่าคุณต้องชอบมัน  ผมหมายถึง...” เค้าชูมือที่เต็มไปด้วยน้ำหวานจากจาเร็ด “มือของผมน่ะ”

            “ไปตายซะ”



.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------



พระเจ้าช่วย.....โชคดีนะจาเร็ด  ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากคำนี้เลยค่ะ -.,-  ไรท์พยายามใส่ความเป็นเค้าลงไปให้มากที่สุด (แหงล่ะ เป็นใครเจอแบบนี้จะพูดดีและทำตัวเรียบร้อยอยู่ได้ยังไง...ถึงจะเป็นงั้นจาเร็ดก็ไม่ใช่คนที่เรียบร้อยอยู่แล้วด้วยนะเออ...เฮ้อ -^-)   

แหม่ พ่อคุณช่างเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่เหลือเกินค่ะ //ซับเลือด//  คือไม่หวั่นใครหรืออะไรเลย  อืม ขนาดหมาของจาเร็ดก็ยังเป็นพวกของเค้าอ่ะเนอะ  อืมๆๆๆ  จริงด้วยสิเนอะ  //คิดเองเออเอง// 555555  หวังว่ารีดๆ คงจะชอบ Part นี้และเรื่องนี้นะคะ  แค่สักนิดหนึ่งไรท์ก็ดีใจแล้วค่ะ ><

อ้ะ  นี่เฟสไรท์ค่ะ  แปะ ป้าบ!! >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<

วันนี้เมาท์น้อยแฮ่ะ  สงสัยพลังงานเหือดค่ะ  โหมงานจนโทรมเลยค่ะตอนนี้ 5555  ส่องกระจกแล้วแอบด่าตัวเองที่ทำให้ตกใจ 555555 //สรุปว่านอกจากเป็นซอมบี้แล้วไรท์ยังเป็นบ้าอีก//  ขอบคุณที่แวะและหลง (?) เข้ามาอ่านนะค้าาา  รักรีดทุกๆ ท่านมากเลยค่ะ >///<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

[Fic For Jared Leto] + [Part 2] Stalker Joker – Jared Leto x XXX




(ดูสิ...ให้ตายเถอะ  เค้าเดินท่าสโลว์ด้วย  ทุกคนเห็นไหมคะ   อ่าห์ //เลื่อนลอย//)


สวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักของไรท์ทุกท่านขาาาา >////<  อร๊ายยยยย ขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะ ที่กรุณาให้โอกาสฟิคเรื่องนี้ให้เข้าไปอยู่ในอ้อมใจของทุกๆ ท่าน  ฮ่อลลลล  ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้วล่ะค่ะแต่ว่าพอดูยอดวิวแล้วตกใจเลย  อร๊ายยยยยยยยยย!! จาเร็ดสวยใช่ไหมคะ??  น่ารักมากมายผู้ชายคนนี้ โอยยยยยย  ดิ้นตายเลยค่ะ  ถึงตาย  ถึงตายเลยจริงๆ

อร๊าย! สีชมพู!......ชมพู......แฮ่ 5555555  ฮืมม ขาวมากเลยค่ะ  น่าบีบน้ำหวานและวิปครีมตบท้ายด้วยผลไม้ตกแต่ง 55555 เฮ้ย ไม่ใช่และ

ข้อมือมีความมุ้งมิ้งค่ะ  ฮาาา  ชอบจังเลยย >< มันเหมาะกับจาเร็ดมากเลยนะคะ //ล่องลอย//


ชอบตาเค้าแรงค่ะ  มีความกระแตนิดๆ  555555  //โดนตบด้วยป้าย//  จิกอ่ะ อร๊ายยยยยย  ละลายแล้วค่ะ ชอบๆๆๆๆ ><




 Part ที่แล้วลืมฮาไปค่ะ  คุณพี่ชายก็ช่างทำร้ายจิตใจคุณน้องชายจริงๆ  แต่ชอบความไม่สนของจาเณ้ดค่ะ......แล้วไง นายก็ว่าฉันอย่างงี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่  ฉันเคยแคร์เหรอ? >>  จาเร็ดมิได้กล่าวไว้ 55555555  คุณพี่แชนอนก็ช่างประชดแรงค่ะ 555555 F--- 55555  ให้ตายเถอะ  น้องชายก็ยิ้มกลับตาใส

ส่วนเมะนิรนามของเราก็หวังว่าคงจะถูกใจรีดๆ ไม่น้อยนะคะ  //รีดค้อน....พวกฉันรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้างยะ ถามหน่อย?//  หล่อค่ะ....(คำแคบดีเนอะ -^-) หล่อคม  จมูกโด่งเป็นสัน  ผมเข้ม กล้ามเนื้อเป็นมัด  แข็งแรง ไม่เกินงามค่ะ  แบบว่าล้ำน่าซบประมาณนั้น 55555555

อร๊ายยยยยยย พวกเค้าจะได้เจอกันแล้วค่าา >//<  ฮาา  น่าลุ้นเป็นที่สุด  นี่ไรท์แอบบอกแล้วนะคะ 555555  จะได้ป๊ะหน้ากันแบบไหนน้าา  ต้องไปดูกันค้าาา  ฮ่อลลลล  ไปหาคนสวยกันได้เลยค่าาา



-------------------------------------------------------------------------------------------



ไม่นานนักแชนอนกับโทโมะก็ขับรถมาส่งจาเร็ดและหมาตัวใหม่ที่บ้าน  ก่อนแชนอนจะขับไปส่งโทโมะและตรงไปที่บ้านของเค้า

“ฉันขอให้นายไม่ได้นอนเพราะหมาเวรของนายป้วนจนบ้านยับนะไอ้น้อง” พี่ชายว่าพลางชี้หน้า  แต่น้องชายยักไหล่ไม่แคร์พร้อมกับอุ้มฟัคกี้ในอ้อมกอดขึ้นมาสูงๆ

“ไม่เป็นไร ฉันจำได้ว่าล็อคห้องนอนไว้” ว่าพลางทำตาโตใส่พี่ชายอย่างได้ชัยแล้วเดินเข้าบ้านไป

“เฮ้ หวัดดีฟัคกี้ ยินดีต้อนรับสู่บ้านใหม่นะ ฉันหวังว่าแกคงชอบ ฮ่าๆ เพื่อนๆ แกอีกสี่ตัวยังชอบเลย  ป่านนี้คงจัดปาร์ตี้ต้อนรับแกกันอยู่ล่ะมั้งฉันว่า” เจ้าของบ้านหัวเราะคิกคักตามประสาคนชอบคุยกับหมา  เค้ารู้ว่ามันฟังดูเพี้ยนแต่ใครๆ ก็ว่าเค้าเพี้ยนกันทั้งนั้น  ก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปแล้วยืนอึ่งดวงตาเบิกโพลงโดยที่มือก็ยังไม่ปล่อยจากลูกบิด

Oh fuck…” เค้าสบถ  หมาวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างร่าเริง “...ฟัคกี้” จาเร็ดเรียก  นึกอยากรั้งมันไว้ก่อนเพราะสภาพบ้านที่เค้าเห็นมันไม่ได้เป็นไปด้วยความปรกติ  ทิ้งหมาจอมทำลายสี่ตัวที่บ้านมันจะต้องไม่น่าดูสิ  แต่สิ่งที่ร่างบางกำลังเห็นอยู่นี้คือสะอาดเอี่ยมทุกซอกทุกมุม

“หมาฉันไปไหนวะเนี่ย...” ชายร่างบางเจ้าของบ้านขมวดคิ้วพลางทำหน้าไม่ชอบมาพากล กระเป๋าเป้สะพายข้างของเค้าหล่นลงมาจากไหล่และตกลงพื้นอย่างเลื่อนลอย  อันที่จริงบ้านของเค้าต้องเละจนดูไม่ได้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ?  มันไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลยหนิ แล้วลูกชายอีกสี่ตัวของเค้าไปไหนเสียล่ะ?

ท่าไม่ดีแฮ่ะ......จาเร็ดคิดในใจก่อนจะทดสอบออกไปด้วยประโยคที่มีน้ำเสียงใจกล้าแต่ก็ฟังดูลังเลอยู่ในที “เฮ้ ดักกี้  โบรกกี้  แฟรงกี้ ฮักกี้  เด็กๆ” ใบหน้าหวานได้รูปเอียงบิดไปด้านซ้ายนิดหน่อยอย่างระแวงใจ  แต่ดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์นั้นก็กวาดเขม็งไปรอบๆ ห้องโถงด้วยเช่นกัน  และทันใดนั้นเองเสียงกีบเท้าเล็กๆ ที่กระทบกับพื้นไม้เทียมเคลือบเงาก็วิ่งรัวออกมาจากห้องนั่งเล่น ตรงดิ่งมาหาเจ้าของบ้านที่ไม่ไว้ใจสถานการณ์แต่พอเห็นเด็กๆ ของเค้าก็วางใจได้ในที่สุด

จาเร็ดทรุดลงกับพื้นแล้วเกาหัวสัตว์เลี้ยงของเจ้าตัวด้วยความรักและรอยยิ้ม  ก่อนพวกมันจะกระโดดขึ้นทับจนเค้าต้องหงายหลังลงกับพื้นไป  เสียงหัวเราะของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวในบ้านจึงแว่วขึ้นด้วยความสุข  เค้าได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้ถูกบนพื้นและกลิ่นแชมพูบนตัวของลูกหมา

“แม่บ้านมาหาพวกแกเหรอ?  ป้าแคนดิสแวะมาดุพวกแกอีกแล้วใช่ไหมหนูน้อยจอมป่วนของฉัน หืม  หืม?” พวกมันเห่ารับ  จาเร็ดหัวเราะแล้วโดนรุมอีก  หมาโกเด้นห้าตัวรุมเลียเค้าไม่ต่างอะไรไปจากไอศกรีมในมือของเด็กน้อย  หางที่กระดิกไปมาชวนให้ดูน่าปวดหัวเสียเหลือเกิน แต่เจ้าของบ้านร่างบางก็ชอบมัน  เค้ารักสัตว์หน้าขนของเค้าเพียงเพราะมันเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่เค้าจะพูดด้วยได้หลังกลับจากงานที่ทำให้หน่ายเหนื่อยอยู่บ่อยครั้ง

“เอาล่ะ อ่าา ถึงเวลาต้องไปอาบน้ำแล้ว” จาเร็ดพาตัวเองลุกขึ้นมาได้สำเร็จ ถึงแม้จะชอบให้สัตว์เลี้ยงตอมหน้าตอมหลังอยู่บ้างแต่วันนี้เค้าก็รู้สึกเหนื่อยมากเกินกว่าจะนอนเล่นอยู่กับลูกหมาเหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อวันก่อน  ร่างบางเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำแร่เย็นๆ ติดมือขึ้นมาขวดหนึ่ง  เค้าดื่มมันไปด้วยขณะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำแล้ววางมันไว้บนโต๊ะเหมือนอย่างที่เคยทำอยากปรกติสุข

ใช้เวลาไม่นานนักศิลปินที่ควบตำแหน่งนักแสดงชื่อดังก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ  เค้าเช็ดหัวยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำก่อนจะผล็อยหลับไปบนเตียงของตัวเอง

จาเร็ดหลับไปแล้ว หลังจากนั้นจึงมีเสียงเปิดประตูเกิดขึ้น  แต่ทว่าเบามาก มันเกือบจะเงียบไปเลยแต่เพราะเจ้าของห้องนั้นนอนอยู่จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องทำตัวไร้สุ่มเสียงนัก

ร่างสูงปริศนาแทรกตัวครึ่งหนึ่งออกมาจากหลังบานประตู มองดูคนที่นอนแผ่กายอยู่บนเตียงอย่างเงียบงัน  ดวงตาที่ส่อแววคมบาดลึกนั้นจอบจ้องอย่างราบเรียบไปบนเรือนร่างของเจ้าของบ้านที่เค้าถือวิสาสะเข้ามา......หลับสนิทเลยหรือ  โอ้ คงจะเพลียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วสินะ  ถึงแม้เค้าจะใส่ยานอนหลับไปเพียงเล็กน้อยให้ค่อยๆ หลับไปช้าๆ ตื่นมาจาเร็ดจะได้ไม่เจ็บจี๊ดเพราะผลข้างเคียง

เห็นทีวันนี้พระเจ้าคงจะเข้าข้างเค้าเสียแล้ว

ร่างสูงโปร่งอกลำดูกำยำในทีวาดยิ้มขึ้นบนเรียวปากหยักของตัวเอง  ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อการสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนของจาเร็ดนั้นถูกก่อกวน  ชายหนุ่มหันกลับมา  มือคว้าจับลูกปิดแง้มประตูปิดไม่ให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้าไปทำให้คนสวยของเค้าต้องตื่นได้พร้อมกับใช้เท้าของตนเองกันทางเล็ดรอดอันน้อยนิดนั้นเอาไว้ด้วย

ชู่ว์  เฮ้ เด็กๆ ไม่เอาน่า...โบรกกี้อย่าทำอย่างงั้น  อย่านำน้อง  ฉันบอกว่าไง” คนพูดปรามรอดไรฟันทำหน้าดุเพื่อให้เหล่าพรวนหมายอมฟังเค้า  “เฮ้  ออกไปได้แล้ว  เร็วเข้า  ลงไปข้างล่าง...ไปสิ” เค้าว่า  เสียงไม่ดังนัก แต่เหล่าลูกหมาห้าตัวที่หากก่อเรื่องขึ้นเมื่อไรอาจไม่มีใครทานรับมือไหวก็ยอมเชื่อฟังและทำตัวเป็นเด็กดีอย่างน่าประหลาดใจ  พวกมันทำลิ้นห้อยแล้วส่ายหางดุ๊กดิ๊กพากันวิ่งลงบันไดไปข้างล่างอย่างว่องไว

ชายหนุ่มนิรนามถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะทำการอ้าประตูออกแล้วแทรกกายเข้ามาใหม่อีกครั้งและครั้งนี้เค้าทำสำเร็จ  มือแข็งแรงหมุนลูกบิดให้ลงล็อคอย่างไรสุ่มเสียงราวกับแมวขโมยก็ไม่ปาน  เค้าสาวเท้าเข้ามาใกล้เตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง  เอียงคอมองร่างที่นอนราบอย่างไร้การป้องกันอยู่บนเตียงหลังนั้นแล้วลอบยิ้มด้วยความยินดีระคนหลงใหล

แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ห้วงนิทรา  ลำแขนเพรียวที่ต่ออยู่กับหัวไหล่บางไม่แพ้กันนั้นขาวกระจ่างใสแต่ก็ดูเล็กจนทำให้รู้สึกบอบบางเหลือเกินและกลัวว่าหากเผลอฉุดกระชากแรงๆ จะพลั้งหักเอาได้  หน้าท้องแบนราบที่มีคลื่นกล้ามเนื้ออย่างเบาบางเพราะช่วงนี้ไม่ได้มีเวลาว่างคอยออกกำลังกายนั้นก็กระเพื่อมขึ้นลงตามแผ่นอกบางสีขาวละมุ่นไปด้วย  ร่างสูงไล่สายตาผ่านผ้าขนหนูผืนสะอาดตาลงไปยังขาคู่เรียวที่เหยียดออกราวกับหมดแรงเพราะความเหนื่อยล้านั้นของจาเร็ดแล้วขบกัดริมฝีปากล่างตนเองเบาๆ

ดูจาเร็ดที่รักของเค้าสิ......ใบหน้างดงามบริสุทธิ์ที่หลับตาพริ้มเพราะความเหนื่อยเพลียนั้นยิ่งคับให้ความชวนเสน่หาฟุ้งซ่านออกมาจากร่างบางๆ นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก  แพขนตาเรียงตัวสวยที่ปิดสนิทนั้นช่างเกินคำบรรยาย  เรื่อยลงมาคือจมูกที่ดูโด่งรั้นมากกว่าที่ร่างสูงซึ่งคอยแอบมองอยู่ห่างๆ คาดเอาไว้  ไหนจะยังริมฝีปากปากเชียบเป็นรอยจะงอยน้อยๆ สีอมชมพูที่เผยอออกออกมานั้นอีกล่ะ  ทำไมถึงได้สวยงามอย่างนี้

เค้าเอื้อมมือลงไปไล่นิ้วชี้กับโครงหน้าสวยและพบว่ามันนุ่มมือมากกว่าที่คิดเอาไว้  และขยับลงมาสัมผัสปลายผมนุ่มลื่นซึ่งยังคงมีความชื่นของหยาดน้ำอยู่ไม่หาย......คุณคงคิดจะไว้ผมยาวอีกแล้วสินะ  เค้าคิดขณะหัวเราะในลำคอเสียงนุ่มนวลและวาดยิ้มบนเรียวปาก เนื่องจากผมสีน้ำตาลเข้มธรรมชาติของคนที่หลับใหลนั้นกระจายตัวอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดอย่างไม่เป็นระเบียบนัก  มันยาวขึ้นจากเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งเค้ายังเห็นจาเร็ดเดินอยู่ในห้องนอนของเจ้าตัว อยู่มากทีเดียว

ทั้งเส้นผมที่ทอเส้นกระจายอยู่รอบใบหน้าหวานอันเหนื่อยอ่อน  ทั้งแขนเพรียวที่กางห่างจากลำตัวออกมาเล็กน้อย  และขาเรียวคู่นั้นที่ได้สัดส่วนน่าไล่มือสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ทำให้ร่างบางบนเตียงดูราวกับลอยตัวยู่อย่างไร้สติในเวิ้งน้ำที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา  จมอยู่ในมหาสมุทรที่มีเพียงแค่เค้าเท่านั้นที่จะช่วยดึงขึ้นมาแล้วปลุกให้ตื่นได้

ร่างสูงที่ละมืออกมาแล้วระบายยิ้มอีก......ช่างน่าหลงใหล  จาเร็ดของเค้าช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน  การที่ได้ยลโฉมพินิจกายใกล้ๆ นี้ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

“จาเร็ด...” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูกำยำกระซิบเรียกแต่เค้ายังไม่หวังอยากให้อีกคนหนึ่งตื่นตอนนี้แต่อย่างใด



.



.



.



ผมเข้ามาแล้ว  ตัดสินใจเข้ามาที่บ้านของจาเร็ดได้สำเร็จซึ่งอันที่จริงผมก็เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นของเค้าอยู่นานแล้ว หลังจากเก็บกวาดซากหายนะที่ลูกชายของผมทำรกเอาไว้  ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าลูกหมาสี่ตัวจะทำได้วินาศถึงขนาดนี้  ผมขอใช้คำว่าวินาศเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ง่ายเลยถึงแม้ผมจะเคยใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาถึงสิบห้าปีแต่การมาเปลี่ยนแปลงให้บ้านของคนสวยของผมกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันก็ยากเอาการอยู่

เอาเถอะ ช่างเรื่องหมาไปก่อน  ใช่ อย่างที่อาจเพิ่งรู้ไปแล้ว  โบรกกี้และน้องๆ ของมันเคยถูกผมเลี้ยงมาก่อนที่จะถูกส่งมาให้จาเร็ด ผมทำความรู้จักกับมันเพียงไม่กี่วันแต่ก็ถือว่าว่ามันเชื่อฟังผมดีมากเพราะมันยังคงจำผมได้อย่างดีจนขึ้นใจ  แม้แต่ฟัคกี้ที่ผมยกให้เค้าเป็นคนตั้งชื่อมันก็ยังส่ายหางพร้อมทำเสียง หงี้ด หงี้ด ในตอนที่วิ่งเข้ามาหาผม

ผมมาถึงจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วพาเด็กๆ ไปรวมกันที่ห้องนั่งเล่น  พวกมันหมอบอยู่ข้างตัวผม  และแล้วในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงที่หน้าประตูพร้อมด้วยใบหน้าของคนที่ผมตามติดมาโดยตลอด  ในตอนนั้นผมเลื่อนมือที่กำอยู่ให้ออกจากข้างแก้มก่อนจะจ้องมองเค้าที่มองไปรอบๆ เหมือนไม่ใช่บ้านของตัวเอง  ก่อนผมจะกระซิบบอกเด็กๆ ให้ออกไปหาจาเร็ด  ทุกตัวเป็นเด็กดี(ถึงแม้ผมจะเคยสงสัยว่าพวกมันว่าง่ายกับผมมากกว่าจาเร็ดหรือเปล่า)

และเค้าก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม  ไม่สิ อันที่จริงน่ารักมากกว่าเดิมซะอีก...มากกว่าครั้งไหนที่ผมเคยเห็นเค้า  ผมรอจนเค้าขึ้นไปอาบน้ำและเข้าไปยืนชื่นชมร่างที่เข้าสู่ห้วงนิทรานั้นได้ในระยะใกล้ชิดในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ  ยานอนหลับอ่อนๆ ของผมดูเหมือนจะได้ผลกับคนที่อ่อนเพลียอยู่แล้ว  ใบหน้าของเค้าจึงมีนิ้วมือของผมไล่เลื่อนไปมาอย่างเพลิดเพลิน......บ้าจังเลย การที่รู้ว่าเค้าเหนื่อยทำให้ผมรู้สึกลำบากใจพิลึก  แต่นั่นมันก็แค่ความรู้สึกผิดชอบดีชั่วที่แล่นเข้ามาทดสอบผมเท่านั้น

คิดว่าผมเป็นพวกชอบยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ? ถ้าเป็นงั้นจริงผมคงไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้หรอก

ผมได้จาเร็ดที่ไม่มีความรู้สึกนอนนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวมาแล้ว  ผมอยากจูบเค้าตอนนี้เลย  สัมผัสเค้าด้วยปลายลิ้นว่าผิวขาวกระจ่างนั้นดูอ่อนนุ่มอย่างที่เห็นหรือเปล่า......แต่นั่นมันทำให้เสียเวลา

ผมนั่งลงข้างตัวเค้า  วางมือลงบนหน้าขาของเค้า  จาเร็ดสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวอย่างแผ่วเบา  คงเพราะฝ่ามือของผมอุ่น  มันอุ่นมากทีเดียวและยอมรับอย่างเต็มปากว่าความตื่นเต้นดีดปะทุอยู่ในอกผมจนตัวเองแทบอดรนทนทำกิริยาอ่อนโยนจะไม่ได้อยู่แล้ว  ผมรู้สึกว่ามือตัวเองสั่นน้อยๆ จึงแนบมันกับผิวอ่อนนุ่มที่ยุบตัวรับมือของผมไว้......มันเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ  อา ให้ตายสิพระเจ้า  ทำไมถึงได้ชอบแกล้งผมนัก  ผมสัมผัส  ซึมซับ  แล้วอาการสั่นของผมก็หายไป

มือของผมไล่ละเลียดขึ้นไปบนหัวเข่า  ลงไปลูบคล่ำที่ขาอ่อนก่อนจะวนกลับขึ้นมาที่ต้นขาตามลำดับ  ถึงจะกดด่าตัวเองเพราะความเสียดาย  แต่รวบรัดไปมันจะสนุกอะไร......ผมคิดในตอนที่สอดมือเข้าไปใต้ผ้าขนหนูผืนนั้นแล้วถอดมันออก

เบามือ...ผมบอกตัวเองให้เบามือแต่ก็พลั้งทำให้เร็วทันใจไปบางครั้ง  ซึ่งโชคยังเข้าข้าง  เค้าไม่ตื่น  จาเร็ดยังไม่ได้ตื่นขึ้นมาชกผม  แต่แค่นี้ก็เพียงพอให้ผมจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว  ผมมัดเค้าไว้ด้วยเชือกนิ่มที่ไม่ทำให้บาดผิวและทำเช่นเดียวกันกับขาที่ถูกจับให้งอขึ้นของเค้า ตรึงเค้าไว้กับเตียงของเค้าเอง  มันฟังดูไม่ยุติธรรมแต่จาเร็ดไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเมื่อเค้ากำลังหลับอยู่  ผมใช้คำนี้นะ เพราะเค้าไม่ได้หมดสติไปเพราะยาของผมอย่างเดียว เค้าเหนื่อยด้วย

ผมก้มลงฝากจูบไว้บนหน้าอกผอมบางของเค้าหลายรอย  อดใจไม่ไว้ไปชั่วครู่  ผมไล่ลิ้นและริมฝีปากไปตามร่างกายของเค้า  มือหนึ่งค้ำตัวไว้อยู่เหนือจาเร็ดอีกมือหนึ่งก็ประคองลูบไล่ลำตัวบอบบางนั่นไปด้วย ปล่อยให้น้ำลายของผมได้ละเลงอยู่บนตัวเค้าได้อย่างทั่วถึง  ผมฝากรอยสร้างสัญลักษณ์เอาไว้อย่างหลงใหล ทำอย่างที่อยากทำแต่จาเร็ดก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเลย  ดีจริงที่เค้ายังหลับอยู่  เพราะเป็นงั้นผมจึงกลับมาทำตามแผนต่อได้อย่างไม่สะดุด หลังจากแอบแวะไปทักทายกับเรือนอกของเค้ามาจนพอให้ได้หายใจหายคอ

ผมนั่งอยู่เกือบประชิดสะโพกที่อ้าออกของเค้า......สี  สวยมาก  ดูนุ่มนิ่ม  เนียนละเอียดไปหมดไม่ต่างอะไรไปจากผิวกายขาวกระจ่างของเค้าเลยเพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมกำลังมองอยู่นี้จะมีสีชมพูระเรื่อกว่าเท่านั้น

ยอดเยี่ยมจริงๆ จาเร็ดของผม  อา ผมใช้มือคู่เดิมของตัวเองลูบไล่ต้นขาของเค้า  เข้ามาตามขาอ่อนอย่างอ่อยอิ่งเพราะเจตนาจะปลุกเร้า ลากผ่านไปยังก้นพอดีมือแต่ก็กลมกลึงตึงเน้นอย่างน่าไม่น่าเชื่อ  เรื่อยขึ้นไปยังสะโพกและเนินสะโพกลื่นมือนั้นแล้ววกกลับมาไล่มือใหม่ตามใจชอบ

และมันได้ผล  น้องชายน่ารักๆ ของจาเร็ดที่ส่ายหน้าไปมาอย่างกระสับกระส่ายถึงแม้จะไม่ได้สติ  อยู่ๆ มันก็ค่อยๆ เป็นเหมือนของผมแล้วตอนนี้  ให้ตายสิ ผมอมมันเข้าไป  หยุดไม่ได้เลย  ใช้ลิ้นไล่เลียกับทุกรายละเอียดตั้งแต่โคนจนถึงส่วนปลาย  จาเร็ดร้องเสียงอยู่ในลำคอ  ผมไม่ได้หยุดยังคงทำอย่างนั้นต่อไป  มือก็เค้นคลึงเนินนุ่มนิ่มของเค้าไปด้วยและบีบแยกรูนั้นในบางครั้ง  ผมออรัลให้เค้าจนรู้สึกถึงน้ำคาวๆ ในปากแล้วผละออกมา  ผมกลืนมันลงไป  ใช้นิ้วเช็ดส่วนที่เลอะออกมานอกปากแล้วอมมันกลับไปใหม่

ดี  มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก  จาเร็ดอร่อยไปหมดจริงๆ  แต่ผมยังชิมได้ไม่หมดเลย

ผมก้มลง  ทำเป็นไม่สนใจน้องชายที่เต้นตุ้บๆ ประท้วงอยู่ในกางเกงของตัวเองแล้วใช้นิ้วชี้อีกข้างหนึ่งของตัวเองแตะเข้าไปที่รูเล็กๆ สีชมพูสดนั้น  น่าประหลาด...พอโดนมันจาเร็ดก็สะดุ้งเฮือก ขาของเค้าเกร็งแน่นและนิ้วเท้าก็จิกเข้าหากันดูทรมาน  แต่ผมรู้สึกดีที่ปลายนิ้วคล้ายกับว่าชื่นแฉะแต่ไม่มีน้ำติดนิ้วของผมมาเลยแม้แต่น้อย  ผมขยี้นิ้วเข้าหากันดู  มันแห้งสนิท เลยลองแตะไปอีกครั้งแต่แรงกว่าเดิม  เนื้อนุ่มสีชมพูนั้นเหมือนจะติดนิ้วของผมกลับมา ก่อนคนที่อยู่ใต้การควบคุมของผมจะกระตุกแรงและส่งเสียงดังกว่าเดิม  จาเร็ดบิดเร้าน้อยๆ ไหล่คู่สวยของเค้าห่อเข้าหากันและคิ้วคู่สวยก็เช่นกัน  มันเลิกขึ้นสูง ขมวดมุ่นเข้าหากัน

ผมเลยคาดว่าเค้าอาจจะรู้สึกดีก็ได้ถึงแม้จะดูทรมานอย่างนั้นก็เถอะ......ก็แหงล่ะ เดาว่าเค้าคงจะเคยเป็นครั้งแรก  ผมจึงขยี้ปลายนิ้วลงบนรูน้อยๆ ของเค้าซ้ำไปซ้ำมาและค่อนข้างมีน้ำหนัก  ตัวเค้ากระตุกและหนีบขาเข้าหากันแต่ผมก็จับเอาไว้  ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างบีบแยกกลีบก้นที่เบียดช่องทางนั้นออกแล้วแลบลิ้นเลียมันไปหลายที  เลียและแหย่เข้าไปบ้างเป็นบางครั้งจนสิ่งนั้นของจาเร็ดกลับมาขยายอีกครั้ง  ผมจึงใช้มือนวดมันให้เค้าผ่อนคลายและชิมรสนิ่มลิ้นนั้นต่อไปจนรู้สึกว่าน้ำลายของตัวเองเข้าไปข้างในตัวของเค้ามากเกินไปแล้ว

ผมผละออกมา  ลองเอานิ้วล่วงเข้าไปและพบว่าง่ายดายแต่ก็คับแน่นเหลือเกิน ได้แค่นิดเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมเลยตั้งใจดูแลเค้าอยู่พักใหญ่อย่างค่อยเป็นค่อยไปอยู่สามสิบวินาทีจนนิ้วเข้าไปได้สองนิ้ว......ผมทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ? รูน้อยๆ ของเค้าเปลี่ยนเป็นสีเข้มมากกว่าเดิมแล้ว  เอิ่ม ผมคิดว่ามันเป็นสีแดงนะ

ไม่  แดงอ่อนๆ น่ะ  ผมจึงถอนนิ้วออกมา เลิกแกล้งเค้าด้วยน้ำลายแล้วบีบเจลหล่อลื่นลงบนนิ้วตัวเอง  ผ่านไปอีกสิบวินาทีช่องทางของเค้าจึงมีนิ้วของผมอยู่สามนิ้วและเป็นสีแดง

ผมหมายถึงแดงจริงๆ น่ะ  ไม่ใช่แดงระเรื่อนะ  มันเป็นเลือดที่เค้าจำเป็นต้องเสียให้ผม

ผมไม่ได้บอกตัวเองว่าทำเร็วรวบรัดไปหรือเปล่าแต่ผมคิดว่าจาเร็ดคงไม่ชอบให้ทำแบบอ่อนโยนนัก  ก็เค้าออกจะ แบบว่า...นะ อย่างที่รู้กัน  เพราะงั้นผมเลยแหย่นิ้วที่ลงความเห็นแล้วว่าเยิ้มเกินไปของตัวเองเข้าออกอยู่ในนั้นซะพักใหญ่  รู้สึกถึงความลื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และความนุ่ม  นุ่มแต่ก็บีบรัดอย่างดื้อรั้นด้วยเช่นกัน  ผมทำแบบนั้นอยู่นาน......ก็ได้  ไม่นานนัก  ก่อนจะใส่เซ็กซ์ทอยเข้าไปเพื่อขยายช่องทาง

มันดูดีมากเมื่ออยู่ในก้นของจาเร็ด  แล้วทีนี้ผมก็แค่รอให้เค้าฟื้น



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------



อ๊ากก ทำไมทำงี้คุณ...คุณ...กะ แก  เป็นใคร?  โห มีความจิตอยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะงั้นไงคะไรท์ถึงบอกว่ามีสะพรึงพออ่านเจอ.........พระเจ้าช่วย เห็นทีจาเร็ดคงจะน่าเห็นใจเสียแล้วล่ะหนาเจอคนแบบนี้เข้าซะได้  งืมๆๆๆ  แต่เค้าหล่อนะ....//โดนตบผั๊วะด้วยความเร็วแสง//  อ๊ากกก อย่าเพิ่งฆ่าไรท์สิคะ  อึก เราต้องรอให้เค้าฟื้นก่อน  อึก ฮืออ

และแล้วเค้าก็ได้เจอกันสักทีค่ะ เจอกันในแบบที่ว่า....ละเอาไว้เนอะ  เราก็เห็นๆ กันอยู่  อืมมมม ยังจะให้พูดอะไรมากมายอีกเนอะ 555555555  และลูกสมุนเค้าก็เชื่อฟังดีจริงๆ เลยค่ะ  เด็กกำลังหักหลังจาเร็ดซะแล้วล่ะค่ะ 555555

ต่อไปจะเป็นอย่างไรกันน้าาา [ ‘_’]?

55555  ฝากติชมด้วยนะจ้าา  และนี่คือเฟสของไรท์เองค่าา  เข้าไปเป็นเพื่อนและพูดคุยกันได้นะเออ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<    ร๊ากกกกรีดทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ><  ขอบคุณที่ติดตามและเข้ามาอ่านกันค่ะ  รอลุ้นกันต่อไปใน Part หน้านะคะ  จาเร็ดฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงนะ?  อร๊ายยยยยย ฟกฟกหฟกฟหกหฟ  //ไปก่อนรีด -..-//  ขอบคุณค่าาา  ให้จุ๊บคนละที >3<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund

**ตบท้ายนิด**


เค้าดูเหมือนผู้ชายตวเล็กๆ ที่กำลังหาเพื่อนเลยค่ะ  ฮ่อลลลล  มองผ่านๆ นึกว่า ทอม  ฮิเดอร์สตัน ซะอีกค่ะ 55555