อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! กราบบสวัสดีค่ะรีดๆ
มิตรรักแฟนเพลงทุกท่านค่ะ อร๊ายๆๆๆๆๆ ถถถถถถ //กรีดร้อง// ไรท์...เฮือกก
หายใจไม่ออกค่ะ เฮือกกกก //รีดบอกใจเย็นๆ
-..-//
คือไรท์กำลังจะบอกว่า
//ทำเสียงแตก// + //เออ พอแล้วล่ะ
เลิกบ้าได้แล้ว Ray – Aund// จาเร็ดเค้าได้ใจไรท์ไปเต็มเปาเลยค่ะ หน้าของเค้า
เสียงของเค้าตอนร้องเพลง ผมขงเค้า
ลุคของเค้า อะไรๆ ของเค้า......มันช่างเหมาะกับการเป็นเกย์ซะจริงๆ เลยค่ะ อร๊ายยยยยยย
ละลายเบยยยย
โอยยยย อิชั้นจะเป็นลมม...พอก่อน หยุดก่อนนนนน ตาสวยจิกไรท์จนละลายเเล้วค่ะ อ๊ากกกกกกกกก นางฟ้าาาาาาาา อันที่จริงอยากลงหมด แต่กั๊กไว้ให้ Part อื่นบ้าง แต่ถึงไงก็ลงไม่หมดหรอกค่ะ 55555555
แล้วตัวก็บางๆ เล็กๆ
เป็นโจ๊กเกอร์ที่น่าเอ็นดูที่สุดในประวะติศาสตร์เลยค่ะ อ๊ากกกกๆๆๆๆ ดูสิคะ ให้ตายเถอะ อย่างเพลง Closer to the Edge ที่ไรท์แปะข้างๆ ให้รีดดู (ณ
วันที่ 23/9/2016 นี้) มันคือเค้าเลยค่ะ
แบบว่าสุดยอดมากและมีความเป็นเคะขาร็อคในเวลาเดียวกัน ไรท์ชอบมากเลยค่ะ ได้ใจไรท์ไปเลย
ไรท์รู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกครั้งเหมือนตอนที่เจอกับ Adam Lambert ตอนแรกเลยค่ะ >////<
อร๊ายยยยย
ปิ๊งมากเลยค่ะ 555555
ฮร๊ายยยยย ได้ถ่ายรูปคู่กะ Adam ด้วยยยยย!!! >///< เริดค่ะเริดดด!!
ไรท์จะบอกว่าเค้าน่ารักจริงๆ
ค่ะ เพลง City Of Angel ก็สุดๆ
ค่ะ โอ้ แม่นางงง เมื่อใดท่านจะมีชายคอยดูแลอยู่ข้างกายเล่า? อ๊ะ นี่
ข้าหาให้แล้ว.......555555555
โอ๊ยยยยย แค่เงายังงดงามมมมม Song Of Angel เปลี่ยชื่อให้ใหม่ด้วยเลย 555555
ต้องขอบอกก่อนว่าชายคนนี้มีความชอบที่ยึดติดอยู่พอสมควรค่ะ จะบอกว่าเป็นโรคจิต...อืม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะเค้ารู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่และไม่ทำจนเกินไปเหมือนสโตรกเกอร์คนอื่นค่ะ (แกสาบานว่าเป็นงั้น?) เอ้ยยยย มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะคะ จีง จี๊งงงงง >0< รีดลองนึกถึงมิคาเอลในเรื่อง [FIC - TMI] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec ที่ตามอเล็คนะคะ เมะคนนี้ในเรื่องนี้ของเราเป็นส่วนผสมของมิคาเอลและคนปรกติค่ะ ยังไง? ....5555 มีความคลั่งไคล้แต่ก็ยังมีความดีงามอยู่ในตัวเองค่ะ รู้ว่าต้องทำอะไรยังไงเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่ยังไงก็ตัดใจจากคนที่เค้าชื่นชอบไม่ได้อยู่ค่ะ เพราะงั้นเลยติดตาเร็ดแจเลยค่ะ หากอ่านถึงตอนจบจะรู้ว่าเค้ามุ่งมั่นมากขนาดไหน รีดๆ จะได้รู้กันค่ะ ฮาๆๆๆๆ
ไรท์ว่าเราไปอ่านกันเลยดีกว่านุ
^^ นี่เป็นเรื่องในทำนองนี้เรื่องแรกของไรท์ค่ะ....ไอ้หมอนี่มันบ้ามากเลย ไรท์ยังแอบกลัวเค้านิดๆ เลยค่ะ 5555555 อย่าทำอะไรจาเร็ดของเราน้าาา >//<
//ไรท์โดนฆ่าคนแรกเลยค่ะ 555//
ฝากไว้ในพิจารณาของรีดๆ หน่อยนะเออ
----------------------------------------------------------------------------------------------
โอ้ พระเจ้าช่วย ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคนที่งดงามซะจนไม่น่าละสายตาไปไหนอย่างคุณ
คุณรู้ไหม? ในวันนั้นที่ผมเดินผ่านร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เต็มไปด้วยทีวีหลายยี่ห่อเต็มตู้กระจก ผมไม่เคยจะสนใจมันเลยถึงแม้จะเคยเดินผ่านร้านนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม......แต่วันนี้ผมหยุดดูเช่นเดียวกับเด็กสองสามคนที่ชื่นชอบการดูทีวีแล้วยืนจ้องจอภาพอย่างน่าอัศจรรย์ใจนั้น
แต่สำหรับผมมันไม่ใช่...ถุงกระดาษที่มีไอศกรีมของผมให้ความรู้สึกเย็นเพราะเริ่มละลายแล้ว
แต่ผมก็ไม่สามารถบอกให้ตัวเองละสายตามาจากตู้กระจกนั้นได้เลย
ผมไม่สนใจทีวี ไม่ ไม่เคยสนมากขนาดนี้มาก่อน และนั่นเป็นวันแรกที่ผมเห็นคุณ เห็นคุณที่กำลังร้องเพลงอยู่ในนั่นมันทำให้ผมนึกอยากย้อนกลับไปดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ใบหน้าของคุณ
ริมฝีปากที่น่ามองมากกว่าใครๆ ดวงตาภายใต้เรือนผมสีคำสลวยของคุณมันทำให้ละสายตาไหนได้เลย ผมเกือบคิดว่าคุณร้ายกาจแล้วในตอนที่ได้ยินเสียงน่าฟังนั้นของคุณ
ช่างสมบรูณ์แบบ ทุกอย่างของคุณมันช่าง......
สมบรูณ์แบบที่สุด
ผมเลยกลับมาที่บ้าน วางถุงกระดาษไว้ปล่อยให้ของทั้งหมดในนั้นไร้คนเหลียวแลไปก่อน แล้วหาว่าคุณคือใคร......อ่า นั่นไง ในที่สุดผมก็เจอคุณแล้ว
จาเร็ด เลโต้
จาเร็ด เลโต้ที่รักของผม......ผมจ้องหน้าแลปท็อปตัวเองแล้ววาดยิ้มเผื่อตอนที่มองคุณเมื่อสามสิบนาทีที่แล้วด้วย
ผมหลงรักคุณตั้งแต่ครั้งแรกอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องสงสัยเลย พระเจ้าสรรค์สร้างคนอย่างคุณมาได้ยังไงกันนะ ผมเคยอ้อนวอนพระองค์ขอให้พระองค์ทรงประธานคุณมาให้ผม แต่เราอยู่ห่างกันเกินไป ผมเลยรอเวลาที่จะได้เจอคุณอย่างใจจดใจจ่อ นับตั้งแต่ที่ได้เห็นคุณในทีวีผมก็บอกตัวเองว่าต้องทำทุกอย่างเพื่อพบคุณให้ได้
ดังนั้นผมจึงอดสงสัยไม่ได้เลยว่าคุณจะยินดีที่พบผมหรือไม่นะ ผมเรียนจบแล้วในตอนที่คุณทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ที่โมร็อคโค ผมก็ไปที่นั่นด้วยเพื่อให้คุณร่วมยินดีและฉลองกับวันเรียนจบของผม ผมขึ้นเครื่องจากไมอามี่ไปที่โมร็อคโคทันเวลาได้เห็นหน้าสวยๆ
ของคุณออกมาจากหลังเวทีพอดี
โชคดีชะมัด......อ่า ดูสิ
คุณช่าง...งดงาม งดงาม
เกินคำบรรยายจริงๆ ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็ต่างชื่นชอบคุณและกรีดร้องเพลงของคุณ ผมคลั่งไคล้คุณนะแต่ผมไม่ได้ร้องเพลงของคุณ อย่าหาว่าผมไม่รักคุณล่ะ ผมเพียงแค่อยากจะฟังเสียงของคุณให้ชัดๆ
เท่านั้น ผมมักจะเก็บความทรงจำในช่วงเวลาที่ได้ฟังคุณร้องเพลงบนคอนเสิร์ตแบบนี้บ่อยๆ
เสมอ ผมอยู่แถวหน้าสุด คุณเห็นผมไหม?
อา ไม่เห็นสินะ ช่างมันเถอะ
ผมไม่ได้มาเพื่อให้คุณสนใจผม
ผมเพียงแค่อยากมาเพื่อให้ได้เห็นหน้าคุณก็เท่านั้น
เท่านั้นเองจริงๆ ผมมักจะแวะเวียนไปหาคุณอย่างน้อยปีละห้าครั้ง......หึ
แต่ให้ตายสิ คุณหาตัวจับยากชะมัด เป็นนักร้องไม่พอยังไปเป็นนักแสดงด้วยอีกเหรอ
คนพวกนั้นมักไม่ยอมให้ผมเข้าไปถึงผมจะพยายามทำตัวให้เหมือนพวกเค้าแล้ว แต่พอโดนจับโยนออกมาเป็นครั้งที่สี่ผมก็เลิกทำแบบนั้น ผู้จัดการของคุณเกือบจำผมได้แล้ว สงสัยช่วงนั้นผมไม่มีงานทำเลยดูเหมือนคนน่าสงสัยจัดไปเลยก็ได้
การ์ดพวกนั้นเลยจับผมออกมาได้อย่างง่ายดายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าใกล้คุณซะขนาดนั้น ฮ่ะๆๆ จะอย่างไรก็ช่างมันเถอะ ผมหาเงินเรียนต่อได้สำเร็จแล้วอย่างที่หวังเอาไว้และคิดว่าไม่นานผมก็จะดีพอที่จะได้พบหน้าคุณทุกวัน
เราจะได้พบกันโดยที่ผมสามารถคุยกับคุณได้อย่างสนิทสนมแน่ๆ ต้องมีวันนั้นสิ ผมสัญญา
ผมรู้คุณองก็ต้องรักผมเหมือนกัน......
***************************************************************************************
วันนี้ผมไม่ชอบใจเลย ไม่ชอบ เมื่อผมเห็นหนังที่คุณเล่นกับคอนลิน บอกผมสิว่าทำไมต้องเป็นคุณ คุณไม่ควรรับบทนี้ ใครจะเป็นเฮฟาอิสเตียนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคุณหรอก! คุณจูบกับเค้าไหม ผมนึกไม่ชอบใจจนรู้สึกว่าหัวตัวเองเต้นได้ วันนั้นทั้งวันผมหงุดหงิดจนถูกผู้ใหญ่ในที่ฝึกงานต่อว่า แต่ผมไม่สนใจ
ช่างหัวเค้าเถอะ ผมชอบที่คุณเป็นนักแสดงนะ ผมชอบผมยาวสลวยของคุณ ชอบดวงตาสีฟ้าที่สว่างใสราวกับท้องฟ้ายามแจ่มใสของคุณ
ไหนจะยังริมฝีปากบางเชียบสีชมพูที่เจ่อน้อยๆ จนเห็นฟันคู่น่ารักๆ ของคุณอีกนั่นล่ะ นั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวจนแทบคลั่ง อยากจะให้ทั้งหมดนั้นเป็นของผมคนเดียว......อยากให้คุณเป็นของผมคนเดียว รู้หรือเปล่า?
คุณต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นสิจาเร็ด
*****************************************************************************
เรื่องที่ผมโกรธคอลินจนสาปแช่งเค้าผ่านไปเกือบปีแล้ว และผมก็พอจะสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ ผมไม่ไปหาเรื่องเค้าหรอก ไม่ ผมไม่ใช่คนโง่
การทำแบบนั้นเป็นการกระทำของคนไร้สมอง
และผมคิดว่าตัวเองมีเรื่องน่าสนใจกว่านั้นมากให้ทำ
เฝ้าดูคุณอย่างไรล่ะจาเร็ดที่รัก......
ผมซื้อนิตยาสารทุกเล่มที่มีภาพและบทสัมภาษณ์ของคุณ ผมศึกษาคุณ
ผมรู้ว่าคุณชอบทำอะไร ชอบทานอะไร ใช้ชีวิตแบบไหน อะไรที่คุณเกลียดหรือไม่ชอบผมก็รู้หมด ผมรู้จนกระทั่งแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงของคุณเสียด้วยซ้ำไป ผมแค่อยากทะนุถนอมคุณ อยากจะเอามือโอบข้างแก้มของคุณในตอนที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยวหรือร้องไห้
เช็ดน้ำตาให้คุณอย่างอ่อนโยน
อยากกอดคุณให้แน่นเมื่อคุณหนาวและจะกระซิบบอกคุณว่าจะไม่มีอะไรมาทำร้ายคุณได้ ผมอยากให้คุณหลับอยู่ในอ้อมกอดของผม
เรานอนด้วยกัน ผมนอนกอดคุณไว้ทั้งคืนเมื่อคุณซบอยู่บนอกผม หลังเราเร่าร้อนคลอเคลียกันเกือบทั้งคืน และผมรู้ที่รัก ผมต้องเบาแรงให้คุณพักผ่อนเข้าไว้เพราะคุณต้องเข้าสตูดิโอที่บริษัทหรือเข้าถ่ายรายการและหนังอยู่ตลอดเวลา รู้อะไรไหม ผมภูมิใจในตัวคุณมากเลยนะ
และผมก็รู้ด้วยว่าคุณไม่ได้ทำตัวอ่อนแออย่างนั้น คุณไม่เคยอ่อนแอเสมอแม้แต่ร้องไห้ แต่ผมมองออก...ผมรู้ว่าคุณไม่เคยทำให้ใครเป็นห่วงเลย
พวกเค้ามองว่าคุณเข้มแข็งแต่นั่นมันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น ผมคิดว่าคุณควรมีคนที่คุยด้วยได้และร้องไห้ให้เค้าเห็นได้ และคนๆ นั้นควรเป็นผม
รู้ไหม ผมมีบ้านหลังหนึ่งที่แคลิฟอร์เนียเพื่อเอาไว้ดูคุณได้อย่างชัดเจนที่สุดเวลาที่คุณมาพักสมองแต่งเพลงด้วยล่ะ นี่ยังไม่นับที่นิวยอร์กกับมิชชิแกนอีกนะ เนวาด้าก็มี ผมรู้ว่าคุณชอบเล่นคาสิโนเป็นครั้งคราว ผมไม่ผิดหรอกนะที่จะแอบยิ้มตอนเห็นคุณเสียพนัน ก็คุณน่ารักออกขนาดนั้นนี่ใช่ไหม?
แต่บ้านที่แท้จริงของผมไม่ได้อยู่ใกล้คุณเลย
ในตอนที่คุณออกไปและกลับเข้ามาหลังจากเสร็จงาน
บ้านของผมไม่ได้อยู่ห่างออกไปเพียงสองหรือสามบล็อก แต่ห่างไปแทบจะอีกฝากหนึ่งของเมือง ผมเพียงแค่ไม่อยากให้คุณเห็นผมบ่อยเกินไป คุณจะกลัวจนหวาดระแวงได้และผมไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น เกือบทุกค่ำผมจะจิบชาแล้วมองดูคุณผ่านหน้าต่าง ผมจะเห็นคุณเดินผ่านไปมาภายในห้องของตัวเอง บางทีคุณก็คุยโทรศัพท์...เป็นอะไรไปน่ะ?
ดูหัวเสียเชียว บ้างคุณก็ร้องเพลง แต่ช่วงที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุดก็คือตอนคุณอาบน้ำ
ผมดูคุณอย่างนั้นทั้งเช้าทั้งเย็น หากวันไหนไม่เห็นคุณมันทำเอาผมแทบขาดใจ และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ผมต้องออกไปทำงานก่อนคุณเสมอ
ถ้าทำได้เมื่อเราได้อยู่ด้วยกันแล้วผมอยากที่จะออกไปทำงานพร้อมคุณ
ส่งคุณที่บริษัทหรือที่ไหนก็ได้ที่คุณอยากไป หากคุณอยากโดดงานผมก็ยินดีจะพาคุณไป
ได้ทุกที่เสมอเพียงแค่คุณขอผมมา ผมก็จะทำให้.....
เมื่อวันก่อนผมดูรายการที่คุณไปออก คุณชอบลูกหมามากใช่ไหม ใช่ ผมรู้
ผมรู้อยู่นานแล้วว่าคุณเอ็นดูพวกมันมากยิ่งกว่าอะไรหลายๆ อย่าง ดูคุณทำหน้าเข้าสิ มันไม่ใช่ตุ๊กตาของคุณนะ คุณกอดและลูบพวกมันยังกะเป็นตุ๊กตาที่เห่าได้เลย วันรุ่งขึ้นผมเลยส่งลูกหมาไปให้คุณ
และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้จัดการจอมป่วนของคุณไม่ส่งมอบของจากผมไปให้ถึงมือ ผมจึงส่งมันไปให้ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่านั้นหน่อย......คุณจะได้รับมันอย่างแน่นอน
ไม่ต้องห่วง
เมื่อเร็วๆ นี้ผมเพิ่งได้เห็นทรงผมใหม่ของคุณ...สีเขียวเหรอ? หึ ก็เหมาะกับคุณอยู่เหมือนกัน อันที่จริงไม่ว่าทรงอะไรก็เหมาะทั้งนั้น แต่ทรงโปรดของผมสำหรับคุณก็คือผมยาวอยู่ดีไม่เปลี่ยนแปลง
ผมไม่รู้ว่าคุณจะคิดกับมันเป็นเพียงแค่ทรงผมหรือเปล่า แต่ผมอยากที่จะสอดนิ้วไปตามไรผมของคุณ เรื่อยลงมาจนสุดปลาย ให้ผมทำอย่างนั้นทั้งวันก็ยังได้
คุณย้อมผมเขียวเพราะหนังเรื่องใหม่เหรอ อืม Suicide Squad งั้นเหรอ พวกค่ายหนังนี่เหมือนกำลังทำสงครามกันเลยนะคุณว่าไหม? แล้วยังจะให้คุณเข้าไปทำงานหนักกับพวกเค้าอีก ผมแน่ใจว่านี่ไม่ใช่แค่ภาคเดียวที่คุณจะออกโรงแน่
พวกเค้าต้องการคุณอีก
เรื่องนี้คุณเล่นเป็น...เป็น Joker? ก็น่าสนใจดี
ผมจะเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเลยว่าคุณจะเล่นออกมาเป็นอย่างไง หลังจากหนังเรื่องนั้นมาคุณก็ดูจะตัวเล็กลงไปมากเลยนะจนผู้หญิงบางคนยังตัวใหญ่กว่าคุณซะอีก แต่ให้ตายเถอะ ผมควรเป็นห่วงคุณ......แต่พอเห็นขาคู่เพรียวและตัวเล็กๆ
อ้อนแอ้นของคุณแล้วผมกลับทนไม่ไหว
ผมอยากจะจับไปซะทุกส่วนของคุณ อยากจะชโลมมันด้วยน้ำลายของผมซะจริงๆ ถอดเสื้อผ้าให้คุณแล้วทำให้คุณเป็นของผมอย่างช้าๆ
ผมชอบผมสีเขียวบนหัวคุณ มันทำให้คุณดูเป็นตัวของตัวเองดี แต่ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจแค่ไหนที่คุณเปลี่ยนกลับเป็นสีดำ
เฮ้ แต่ผมชอบสีเขียวจริงๆ นะ
อ้าว เฮ้ นั่นดักกี้หนิ ช่าย
นั่นหมาของผมเอง เจ้าหมาโกเด้นที่ผมส่งไปเค้าได้รับมันแล้ว มันกำลังทำหางกระดิกเดินตามจาเร็ดของผมอยู่ในห้องนอนของเค้า......ให้ตาย
ออดอ้อนชะมัด เค้าเป็นของผมนะ จะหมาที่มาจากผมก็ช่างเถอะ
ทำตัวน่าหมั่นไส้ซะไม่มี
แต่ผมก็รู้สึกดีที่เค้าชอบมัน
มันเดินตามเค้าตลอด จาเร็ดยิ้มแล้ววิ่งเล่นกับมันในห้องนอนของตัวเอง......โอ้
ไม่มีใครบอกเค้าว่าอย่าทำอย่างนั้นในห้องนอนรึไงกัน เพราะผมคิดว่าเค้าสะดุดเตียงล้มดูไม่เป็นท่าอาซะเลยน่ะสิ
ใครบางคนอาจคิดว่าผมตามเรื่องราวของคุณจนรู้ว่าคุณตั้งชื่อหมาที่ผมส่งไปให้ว่าอะไร แต่ผิดแล้วล่ะ
ผมเป็นคนตั้งชื่อให้มันเอง
ตอนที่ส่งมอบมันผมใส่ปลอกคอห้อยป้ายกับมันไว้ด้วย เพราะเราจะได้เรียกชื่อหมาเหมือนกัน ผมรู้สึกดีใจที่คุณชอบหมาของผมและอย่างน้อยคุณก็ไม่ทิ้งมันเพราะผมรู้ดีว่าคุณรักหมา
********************************************************************************
ผมชอบคุณ ชอบริมฝีปากสีชมพูที่มักจะเผยอเวลาไม่รู้ตัวของคุณ ชอบดวงตาที่แสนน่าหลงใหลคู่นั้น ชอบจมูกโด่งรั้นที่แสนจะโดดเด่น
เช่นเดียวกับที่ชอบใบหน้าอันไร้ที่ติของคุณด้วย
ผมชอบ...ร่างกายขาวเนียนที่รอการไล่เลียของผมอยู่ ผมชอบวิธีการมองของคุณ...สายตานั้นจะเป็นอย่างไรในตอนที่เห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณกัน? ผมนึกอยากจะให้ถึงตอนนั้นในชั่วพริบตา อยากรู้ว่าคุณจะมองผมด้วยสายตาเย้ายวนยิ่งกว่าที่เห็นในทีวีหรือตอนที่คุณไม่ได้มองผมหรือเปล่า
ผมรักคุณจาเร็ด รักคุณที่สุดเสมอมา
วันนี้ผมไปที่ยิม ยกเวทอย่างเรื่อยเปื่อยเช่นทุกวันที่ว่างมาทำมัน แต่แล้วผมก็เห็นคุณ....ผมหยุดชะงักไป โลกช่างกลม
ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจแค่ไหน ผมเห็นคนวิ่งกรูกันเข้ามาถ่ายรูปและขอลายเซ็นต์กับคุณ คุณน่ารัก...คุณยิ้มและโอบกอดพวกเค้าราวกับเป็นญาติสนิททั้งๆ
ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แถมคุณยังทำตัวตลกด้วยการอ้าปากแลบลิ้นใส่พวกเค้าอีกด้วย
บ้าจริง คุณเป็นศิลปินร็อคทั้งจิตวิญญาณจริงๆ แต่ผมก็ชอบคุณนะ ผมรักทุกอย่างที่เป็นคุณนั่นล่ะ ผมวางเวทลงนานแล้ว ยืนมองคุณราวกับปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก ไม่รับฟังสิ่งใดทั้งนั้นแม้แต่คนที่ผลัดกันเดินเข้ามาหาคุณที่อยู่ข้างนอก กระทั่งผมไม่รู้สึกถึงแม้กระจกที่กั้นเราเอาไว้
แล้วคุณก็เดินผ่านผมไปหลังจากทักทายแฟนคลับเสร็จ
*********************************************************************************
ผมกลับบ้านและคิดถึงท่วงท่าการเดินของคุณที่ผ่านหน้าไป
ห่างเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมทิ้งตัวลงบนเตียง พรูลมหายใจออกมาแล้วภาพของคุณก็ลอยวนเต็มหน้าไปหมด ไม่แปลกหรอกที่ผมจะตื่นเต้นหรือดีใจ เพราะตลอดมาผมไม่เคยโทรหาคุณเลยหรือแม้แต่เขียนจดหมายไปหาคุณ โผล่หน้าไปให้คุณเห็นจังๆ ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำไป มากที่สุดของผมก็คือส่งของขวัญไปให้คุณชิ้นแล้วชิ้นเล่าโดยไม่ระบุที่อยู่ผู้ส่ง คุณจะได้คิดว่ามาจากคนอื่นหลายๆ
คนที่เค้าชอบคุณเหมือนกันกับผม
ผมเพียงแค่ไม่อยากให้คุณหวาดระแวงกับความรู้สึกที่เหมือนถูกสะกดรอย ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะเพราะผมไม่ใช่สโตรกเกอร์
ผมเป็นเพียงแค่คนที่รักคุณที่สุดเท่านั้นเอง
หึ
ใช่ไหมล่ะ
ผมรู้ว่าคุณก็รู้ว่าผมรักคุณ......รักสุดหัวใจ
ผมเฝ้าถามตัวเอง
และย้ำถามอย่างเป็นจริงเป็นจังในตอนนั้นเองว่าเมื่อไรหนอจะถึงเวลาที่ผมจะสามารถไปพบคุณได้สักที......เพียงแค่คุณกับผมเท่านั้น แค่คุณกับผม ผมไม่มีน้ำใจเหมารวมคนอื่นด้วยหรอกนะหากมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ
ผมหันไปมองบอร์ดที่เขียนเกี่ยวกับการพบกันครั้งแรกของเรา ผมวางแผนเอาไว้แล้ว...วางไว้อย่างดิบดี นอกจากนั้นยังมีรายชื่อของที่ผมลิสไว้สำหรับคุณอีกด้วย
รับรองได้คุณต้องดีใจและตื่นเต้นกับเซอร์ไพรส์ของผมแน่
และเฮ้ ดูเหมือนทุกอย่างจะพร้อมแล้วนะ เราจะเจอกันวันไหนดีล่ะ?
********************************************************************************
เสียงมือถือดังมาได้สักพักหนึ่งแล้วแต่เจ้าของก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะรับมันเลย
“โอ้ โทรศัพท์นายโอดมาได้ห้านาทีแล้วจาเร็ด ได้โปรด เห็นแก่ฉันและพระเจ้ารับมันสักทีหนึ่งเถอะ”
แชนอนที่นั่งกดมือถืออยู่ข้างๆ หยุดมือแล้วหันมาผายมือไปที่สมาร์ทโฟนของเพื่อนร่วมวงหรืออีกนัยหนึ่งคือน้องชายของเค้าอย่างเหลืออดแต่ก็ดูใจเย็นเป็นอย่างยิ่ง
“ห๊ะ?” คนถูกเรียกหันหน้ามาจากทีวีในห้องรับรองส่วนตัวแล้วทำเป็นเพิ่งจะได้ยินเสียงเครื่องมือสื่อสารของตัวเอง
“อ๋อ”
แชนอนทำหน้าว่างเปล่าและโทโมะที่นั่งข้างๆ
ก็ส่ายหน้าช้าๆ แต่ก็หัวเราะไปด้วย เมื่อเจ้าของโทรศัพท์ดึงอมยิ้มออกจากปาก
จาเร็ดรับสาย ผมสีดำของเค้ามันขลับเนื่องจากได้รับการเซ็ตมาอย่างดีและสะท้อนกับแสงไฟภายในห้องในตอนที่เค้าพูด
“ฮัลโหล” แล้วเงียบไป “ครับ” แล้วดึงสายออกเอามือปิดลำโพง “ผู้จัดการน่ะ” เค้าบอกเพื่อนพลางทำหน้าเหมือนมีเรื่องเป็นเรื่องตาย แชนอนกลอกตาพร้อมกับโทโมะแล้วชายหนุ่มที่รับสายก็คุยต่อสลับกับหันมองเพื่อนร่วมวงไปด้วย
“ครับ ครับ เอ่อ...โอเค ได้ ผมจะบอกเค้าให้”
แล้วสายนั้นก็ถูกวางไปอย่างรวดเร็ว
สาบานได้พี่ชายอย่างแชนอนยังได้ยินเสียงบ่นโวยวายของปลายสายอยู่เลยในตอนที่จาเร็ดทำหน้าเป็นเด็กดีแล้วกดวางสายไป......ใช่ น้องชายของเค้าก็เป็นอย่างนี้เสมอนั่นล่ะ เจ้าหมอนี่เป็นตัวป่วนกับก่อกวนที่หนึ่งเลย
“ไง เค้าบอกให้เราค้างที่นี่อีกไหมล่ะ?”
ชายที่อายุมากที่สุดแบมือพลางสั่นหน้ารอรับคำถ่ายทอดจากผู้จัดการอย่างประชดประชัน โทโมะที่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์อยู่ก็หันมามองด้วย
จาเร็ดแสยะ เหมือนพยายามยิ้มแต่ก็ลู่ไหล่ลง “ไม่ ไม่ได้อยู่หรอกเค้าบอกให้เรากลับบ้านไปนอนได้น่ะ”
แชนอนทิ้งตัวกระแทกกับพนักพิงโซฟาพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอกส่วนโทโมะก็ชูกำปั้นขึ้นทั้งสองข้างอย่างมีชัยชนะในที่สุด เว้นเสียแต่สมาชิกคนสำคัญของวงที่ทำหน้าไม่สู้ดีแต่ก็พยายามยิ้มอยู่
“ทำไมอ่ะ? นายทำหน้างั้นหมายความว่าไงเพื่อน”
โทโมะกำมือถือไว้ในมือซุกไว้ใต้หว่างขา เค้านึกว่าเพื่อนทรงเสน่ห์แถมออกเพี้ยนนิดๆ
จะอยากกลับบ้านไปนอนซะอีก
“ฮิ...” จาเร็ดทำท่าแบบเดียวกันแต่ยิ้มแป้น ใช่ ใครจะไม่อยากกลับไปนอนสบายๆ ที่บ้านกันล่ะแต่มันดันติดตรงที่ว่า...
จาเร็ดหนีบขาเข้าหาแขนที่เกี่ยวกันอยู่ใต้หว่างขา ยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเล็กลงมากกว่าเดิม และไอ้ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนพร้อมทำหน้าแหย่ๆ
อย่างนั้นก็ทำให้พี่ชายที่ต้องขับรถไปส่งเค้าที่บ้านจับผิดได้
“นายไม่ได้เอาหมาไปฝากไว้อีกแล้วเหรอ?”
เสียงแชนอนแข็งเข้มขึ้นมาในทันใด
“เอ่อ ฉัน...” จาเร็ดยิ้มแฮ่ อ่ำอึ่งคิดคำไปชั่วขณะหนึ่งแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว พี่ชายของเค้าก็เริ่มสวดใส่เค้าอีกรอบเข้าอย่างจัง
“ให้ตายเถอะจาเร็ด
ฉันไม่ได้บอกนายหรือไงว่าให้เอาหมาไปฝากตอนนายไม่อยู่ ฉันย้ำ...ย้ำนักย้ำหนาแล้ว” แชนอนลุกขึ้นชี้หน้าน้องชายที่ยิ้มให้อย่างใจดีสู้เสื้อ
“ว่าให้เอาหมาไปฝาก ไอ้...ไอ้หมาเวรของนายน่ะ”
“โว้ว น้อยหน่อยพวก
นั่นหมาฉันนะไม่ใช่หมาเวร” จาเร็ดเลิกยิ้มแล้วแต่ก็ยังเกรงพี่ชายอยู่ดี
“มันก็แค่ดื้อเท่านั้นเอง นายไม่ชอบหน้ามัน มันก็เลยไม่ชอบหน้านายไง กับฉันมันเป็นเด็กดีจะตาย” ชายหนุ่มผู้เป็นน้องหยิบหมอนเข้ามาแนบอกแล้วลูบมันน้อยๆ
เหมือนดักกี้อยู่ตรงนั้นพร้อมกับทำตาหวานเวลาอยู่กับหมากวนประสาทพี่ชายตรงหน้าเล่นๆ
“เราไม่ได้กลับบ้านมาสองวันแล้วนะป่านนี้มันคงไม่...”
แชนอนหมดคำพูดเพราะคิดว่าจาเร็ดคงรู้ดี
แต่อีกคนหนึ่งกลับสวนขึ้นทันควันด้วยเสียงไม่รู้หนาวรู้ร้อน
“เดี๋ยวแม่บ้านก็เข้ามาเก็บเองนั่นล่ะ”
และแอบทำหน้าบูดเล็กๆ เค้าเบื่อแล้วกับความเจ้ากี้เจ้าการของพี่ ขนาดโทโมะยังมองดูแล้วทำหน้าช่วยไม่ได้ใส่จาเร็ดอย่างเห็นใจเลย
“แม่บ้านเพิ่งเข้าไปตอนนายออกมาหนิ”
แชนอนทำหน้าว่างเปล่าอีกครั้งก่อนน้องชายจะโวยขึ้นเหมือนเด็กขี้โมโหและเบื่อโลก
“โอ้ ให้ตายเถอะ! นายเป็นแม่รึยังไงกัน ฉันมีบ้านนะ...มีบ้านเป็นของตัวเอง ฉันจะทำอะไรกับมันรึกับหมามันก็เรื่องของฉันน่า”
และพี่ชายของเค้าก็ไม่ตกใจเลยเพราะจาเร็ดมักจะโอดโอยใส่เค้าอย่างนี้เสมออยู่แล้ว และโทโมะเองก็เป็นได้แค่เพียงคนดูเช่นเดิม
จนกระทั่งฝ่ายพี่ยอมแพ้ไป “โอเค
ฉันขอโทษ” แชนอนพูดเสียงอ่อนลงไปมาก
จาเร็ดยอมรับความพ่ายแพ้นั้นแล้วมุ้ยปากพร้อมยักไหล่
“ฉันชอบที่นายรู้ว่าตัวเองผิดนะ” และยังมิวายแหย่พี่ชายอีก
“นายนั่นแหละที่ทำอะไรไม่ดูอายุตัวเอง
เมื่อไรจะเลิกเป็นเด็กสักที...”
“โว้ว โว้ว...เฮ้ เฮ้ ไม่เอาน่าเพื่อน
พวกนายเลิกทะเลาะกันเรื่อหมาสักที
คนชอบหมากับไม่ชอบหมาไม่ควรคุยกันเรื่องหมากันหรอกนะเข้าใจไหม?” และเป็นโทโมะนั่นเองที่เข้าห้ามทัพ ชายหนุ่มผมยาวยกมือขึ้นปรามน้อยๆ น้ำเสียงของเค้าฟังดูเหลืออดแต่ก็ยังนิสัยดีอยู่
“ขอบคุณ” ชายคนที่สามขอบคุณสองพี่น้องที่ทำให้เค้าเงียบหูได้อีกครั้ง
“โอเค งั้นฉันคิดว่าเราควรกลับ...”
ก๊อกๆ
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะการออกคำสั่งอีกครั้งของแชนอน หญิงสาวผมบล์อนใส่แว่นตาบางเฉียบดูสวยเปรี้ยวแม้จะอยู่ในชุดสาวออฟฟิศเบียดตัวเข้ามาในห้องพักส่วนตัวของพวกเค้าแล้วพูดว่า
“โอ้ว ฮาย ขอโทษทีค่ะ
มีคนเอานี่ไปส่งที่บ้านของบอสอีกแล้ว และเหมือนเดิม...เค้าบอกว่าส่งให้ถึงมือคุณน่ะค่ะจาเร็ด”
เธอพูด เอ่ยถึงบอสหรือ CEO คนล่าสุดของค่ายเพลง Virgin ก่อนจะทำตัวทุลักทุเลเดินเข้ามาพร้อมกับน้องหมาที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดที่มีกลิ่นน้ำหอมฟุ้งของเธอ
“อ้าว เฮ้...” จาเร็ดทำหน้าละลายก่อนจะส่งเสียงทักทายน้องหมาตัวใหม่ของเค้าแต่พี่ชายกลับลุกขึ้นแล้วชี้นิ้วลงพื้น
“พอเลย นายมีหมาสี่ตัวแล้วนะไอ้น้อง” แชนอนโวยแต่จาเร็ดหันมาเบรก
“บ้านฉัน หมาฉัน
โอเค?” คำบ่นของพี่ชายจึงเป็นอันตกไป ก่อนคนเป็นน้องจะหันมาก้างแขนใส่ลูกหมาตัวใหม่แล้วส่งเสียงแปลกๆ
“อู้ว บู้ บู้ บู้ บู้ โอ้ มานี่มะหมาน้อย หมาน้อยของฉัน” น้องหมาดีดออกจากตัวสาวผมบล์อนแล้ววิ่งรี่เข้าไปหาจาเร็ด
“โอ้วว ดูมันสิ” คิ้วคู่สวยของเค้าเลิกขึ้นสูงอย่างหัวใจละลายและแสนจะเอ็นดูและดูท่ามันก็ชอบจาเร็ดด้วยเหมือนกัน เป็นอย่างนี้มาได้สักพักแล้ว พี่ชายยืนกรานไม่ให้เค้าเลี้ยงหมาแต่พอโบรกกี้
หมาตัวแรกถูกส่งมา (แน่นอนมันสร้างความงุนงงให้ CEO ของพวกเค้าเป็นอย่างมาก
เลขาสาวที่นำมาส่งบอกว่าอย่างนั้นก่อนตัวที่สองสามสี่จะทำให้บอสเริ่มโมโห) แต่หากจะไม่เลี้ยงมันก็กระไรอยู่
เค้าใช้สายตาคู่สวยที่เกินกว่าใครๆ นั้นอยู่ไม่นานนัก แชนอนก็ยอมใจอ่อนให้เค้าเลี้ยงหมาได้
คนเป็นพี่ชายกดด่าในใจว่าน้องชายของเค้าจะต้องรู้อยู่แล้วแน่ๆ
ว่าตัวเองชอบพาให้คนอื่นใจอ่อนได้ง่ายๆ อย่างร้ายกาจขนาดไหน เลยทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้นอยู่ตลอดเวลา และเค้าผิดเองที่ตามใจน้องชายมาตั้งแต่เด็กๆ
และไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งพวกมันมา ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับหรือใครก็ตาม แต่เค้าคนนั้นทำถูกแล้วที่ส่งหมามา จาเร็ดใจอ่อนกับหมาเสมอ ชายหนุ่มไม่สามารถทำร้ายจิตใจของตัวเองด้วยการตัดใจจากหมาตาดำๆ
ที่น่าสงสารพวกนั้นไปได้
หญิงคนนั้นกลับออกไปพร้อมบอกว่าบอสค่อนข้างหัวเสียแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก
ก่อนแชนอนจะหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินออกประตูตามเธอไป ถึงเวลากลับบ้านแล้วเสียที โทโมะเองก็ตามมาติดๆ แต่จาเร็ดผู้แสนอ่อยอิงก็ยังคงเกาคอหมาตัวใหม่เล่นแล้วอุทานขึ้นมา
“เฮ้ ตัวนี้ไม่มีปลอกคอน่ะ ฉันตั้งชื่อให้มันได้ไหม?”
“ก็เอาสิ นั่นหมานายนี่” โทโมะผายมือ
“อืม โบรกกี้ แฟรงกี้
ฮักกี้ ดักกี้...งั้นตัวนี้เอาเป็นฟัคกี้ดีไหม?”
“fuck นายเถอะจาเร็ด
ไปกันได้แล้ว” แชนอนว่าเป็นเชิงตามใจ กลอกตาแล้วเปิดประตูออกไป โทโมะหัวเราะไล่หลังขณะตามไปติดๆ
“โอ้ โทษที เค้าเก่งเรื่องทำร้ายจิตใจฉันน่ะฟัคกี้แต่ฉันก็รู้ว่าเค้ารักฉันนะ...ก็แหงล่ะ
เค้าเป็นพี่ฉันนี่ แกอย่าถือเค้าเลยนะหนูน้อย ลึกๆ แล้วเค้าใจดี...ถึงจะเหมือนแม่ไปหน่อยก็เถอะ”
ชายร่างบางและตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ ในหมู่เพื่อนว่า พร้อมยิ้มให้น้องหมาของเค้าแล้วอุ้มมันตามพี่ชายออกไป
เฮ้ ไม่
แม่ใจดีกว่าแชนอนจมเลยต่างหาก......จาเร็ดยักไหล่กับตัวเอง
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------
ต้องขอบอกว่าตามจริงๆ
ค่ะ ตามแบบไม่ท้อถอยเลยค่ะ เค้ารักจาเร็ดมาก
เหมือนต้องตากันเลยในทันใดที่เจออยู่หน้าโทรทัศน์ 55555555
ไรท์ยังไม่ได้บอกชื่อเค้าเนอะ
และมันก็จะเป็นอย่างนั้นต่อไปค่ะ 555555 ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็ฯคนที่ไรท์มโนขึ้นเองเนอะ หาเมะที่คาแรกเตอร์เป็นแบบนี้ให้นางฟ้าของเราไม่ได้จริงๆ
ค่ะ ครั้นจะเอาคลอลิน (อเล็คซานเดอร์ในเรื่องอเล็คซานเดอร์มหาราช)
พอไรท์ไปเจอภาพปัจจุบันของคลอลินถึงกับล้มครืนเลยค่ะ อ๊ากกก ทามมายยยย
ตอนหนุ่มๆ ก็ดูออกจะเฟี้ยว อย่างเท่อย่างหล่ออ่าค่ะ แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้คงกำลังใช้เวลากับลูกอยู่
-..- เฮ้อออ ถ้ามีแคมเปญ Fandom – ALEXANDER คุณจะได้เจอกับจาเร็ดของไรท์ค่ะ....ฮึ๋ยยย พูดแล้วขึ้นค่ะ ตอนจบเรื่องทำไรท์ไม่พอจัยย
ฝากเอาไว้ในความพิจารณาของทุกคนหน่อยนะคะ คงไม่ค่อยมีคนอ่านหรอกเนอะ เพราะว่าไรท์สนองนีดตัวเองเอาล้วนๆ เลยค่ะ
55555
แถมยังจาเร็ดผู้ถูกกระทำกับใครก็ไม่รู้ด้วย....มโนเอานะคะรีดๆ ขา ว่าเมะคนนี้หล่อมากกก ออกร้ายนิดๆ แต่ก็มีมุมที่แอบอ่อนโยนค่ะ ย้ำว่าหล่อออ
ผมสีเข้มม
ฝากรบกวนติชมด้วยนะค้าาาา ไรท์เพิ่งจะมโนอีกฝ่ายหนึ่งครั้งแรกจะอย่างไรก็รบกวนหน่อยนะเออ ><
ฝากรบกวนติชมด้วยนะค้าาาา ไรท์เพิ่งจะมโนอีกฝ่ายหนึ่งครั้งแรกจะอย่างไรก็รบกวนหน่อยนะเออ ><
ขอบพระคุณทุกท่านมากๆ
เลยนะคะ เอาหัวใจไรท์ไปเลยค่ะ อร๊ายยย >///<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น