(ดูสิ...ให้ตายเถอะ เค้าเดินท่าสโลว์ด้วย ทุกคนเห็นไหมคะ อ่าห์ //เลื่อนลอย//)
สวัสดีค่ะรีดๆ
ที่รักของไรท์ทุกท่านขาาาา >////< อร๊ายยยยย ขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะ ที่กรุณาให้โอกาสฟิคเรื่องนี้ให้เข้าไปอยู่ในอ้อมใจของทุกๆ
ท่าน ฮ่อลลลล ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้วล่ะค่ะแต่ว่าพอดูยอดวิวแล้วตกใจเลย อร๊ายยยยยยยยยย!! จาเร็ดสวยใช่ไหมคะ?? น่ารักมากมายผู้ชายคนนี้ โอยยยยยย ดิ้นตายเลยค่ะ
ถึงตาย ถึงตายเลยจริงๆ
อร๊าย! สีชมพู!......ชมพู......แฮ่ 5555555 ฮืมม
ขาวมากเลยค่ะ
น่าบีบน้ำหวานและวิปครีมตบท้ายด้วยผลไม้ตกแต่ง 55555 เฮ้ย ไม่ใช่และ
ข้อมือมีความมุ้งมิ้งค่ะ ฮาาา
ชอบจังเลยย >< มันเหมาะกับจาเร็ดมากเลยนะคะ
//ล่องลอย//
ชอบตาเค้าแรงค่ะ มีความกระแตนิดๆ 555555 //โดนตบด้วยป้าย// จิกอ่ะ อร๊ายยยยยย ละลายแล้วค่ะ ชอบๆๆๆๆ ><
Part ที่แล้วลืมฮาไปค่ะ
คุณพี่ชายก็ช่างทำร้ายจิตใจคุณน้องชายจริงๆ แต่ชอบความไม่สนของจาเณ้ดค่ะ......แล้วไง
นายก็ว่าฉันอย่างงี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่
ฉันเคยแคร์เหรอ? >> จาเร็ดมิได้กล่าวไว้ 55555555 คุณพี่แชนอนก็ช่างประชดแรงค่ะ 555555 F---
55555 ให้ตายเถอะ น้องชายก็ยิ้มกลับตาใส
ส่วนเมะนิรนามของเราก็หวังว่าคงจะถูกใจรีดๆ
ไม่น้อยนะคะ
//รีดค้อน....พวกฉันรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าบ้างยะ ถามหน่อย?// หล่อค่ะ....(คำแคบดีเนอะ -^-)
หล่อคม จมูกโด่งเป็นสัน ผมเข้ม กล้ามเนื้อเป็นมัด แข็งแรง ไม่เกินงามค่ะ แบบว่าล้ำน่าซบประมาณนั้น 55555555
อร๊ายยยยยยย พวกเค้าจะได้เจอกันแล้วค่าา
>//< ฮาา น่าลุ้นเป็นที่สุด นี่ไรท์แอบบอกแล้วนะคะ 555555 จะได้ป๊ะหน้ากันแบบไหนน้าา ต้องไปดูกันค้าาา ฮ่อลลลล
ไปหาคนสวยกันได้เลยค่าาา
-------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่นานนักแชนอนกับโทโมะก็ขับรถมาส่งจาเร็ดและหมาตัวใหม่ที่บ้าน ก่อนแชนอนจะขับไปส่งโทโมะและตรงไปที่บ้านของเค้า
“ฉันขอให้นายไม่ได้นอนเพราะหมาเวรของนายป้วนจนบ้านยับนะไอ้น้อง”
พี่ชายว่าพลางชี้หน้า แต่น้องชายยักไหล่ไม่แคร์พร้อมกับอุ้มฟัคกี้ในอ้อมกอดขึ้นมาสูงๆ
“ไม่เป็นไร ฉันจำได้ว่าล็อคห้องนอนไว้”
ว่าพลางทำตาโตใส่พี่ชายอย่างได้ชัยแล้วเดินเข้าบ้านไป
“เฮ้ หวัดดีฟัคกี้
ยินดีต้อนรับสู่บ้านใหม่นะ ฉันหวังว่าแกคงชอบ ฮ่าๆ เพื่อนๆ แกอีกสี่ตัวยังชอบเลย ป่านนี้คงจัดปาร์ตี้ต้อนรับแกกันอยู่ล่ะมั้งฉันว่า”
เจ้าของบ้านหัวเราะคิกคักตามประสาคนชอบคุยกับหมา
เค้ารู้ว่ามันฟังดูเพี้ยนแต่ใครๆ ก็ว่าเค้าเพี้ยนกันทั้งนั้น ก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปแล้วยืนอึ่งดวงตาเบิกโพลงโดยที่มือก็ยังไม่ปล่อยจากลูกบิด
“Oh fuck…” เค้าสบถ หมาวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างร่าเริง “...ฟัคกี้”
จาเร็ดเรียก นึกอยากรั้งมันไว้ก่อนเพราะสภาพบ้านที่เค้าเห็นมันไม่ได้เป็นไปด้วยความปรกติ ทิ้งหมาจอมทำลายสี่ตัวที่บ้านมันจะต้องไม่น่าดูสิ แต่สิ่งที่ร่างบางกำลังเห็นอยู่นี้คือสะอาดเอี่ยมทุกซอกทุกมุม
“หมาฉันไปไหนวะเนี่ย...” ชายร่างบางเจ้าของบ้านขมวดคิ้วพลางทำหน้าไม่ชอบมาพากล
กระเป๋าเป้สะพายข้างของเค้าหล่นลงมาจากไหล่และตกลงพื้นอย่างเลื่อนลอย
อันที่จริงบ้านของเค้าต้องเละจนดูไม่ได้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ? มันไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลยหนิ แล้วลูกชายอีกสี่ตัวของเค้าไปไหนเสียล่ะ?
ท่าไม่ดีแฮ่ะ......จาเร็ดคิดในใจก่อนจะทดสอบออกไปด้วยประโยคที่มีน้ำเสียงใจกล้าแต่ก็ฟังดูลังเลอยู่ในที
“เฮ้ ดักกี้ โบรกกี้ แฟรงกี้ ฮักกี้ เด็กๆ” ใบหน้าหวานได้รูปเอียงบิดไปด้านซ้ายนิดหน่อยอย่างระแวงใจ แต่ดวงตาสีฟ้าบริสุทธิ์นั้นก็กวาดเขม็งไปรอบๆ
ห้องโถงด้วยเช่นกัน และทันใดนั้นเองเสียงกีบเท้าเล็กๆ
ที่กระทบกับพื้นไม้เทียมเคลือบเงาก็วิ่งรัวออกมาจากห้องนั่งเล่น
ตรงดิ่งมาหาเจ้าของบ้านที่ไม่ไว้ใจสถานการณ์แต่พอเห็นเด็กๆ ของเค้าก็วางใจได้ในที่สุด
จาเร็ดทรุดลงกับพื้นแล้วเกาหัวสัตว์เลี้ยงของเจ้าตัวด้วยความรักและรอยยิ้ม ก่อนพวกมันจะกระโดดขึ้นทับจนเค้าต้องหงายหลังลงกับพื้นไป เสียงหัวเราะของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวในบ้านจึงแว่วขึ้นด้วยความสุข เค้าได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้ถูกบนพื้นและกลิ่นแชมพูบนตัวของลูกหมา
“แม่บ้านมาหาพวกแกเหรอ? ป้าแคนดิสแวะมาดุพวกแกอีกแล้วใช่ไหมหนูน้อยจอมป่วนของฉัน
หืม หืม?” พวกมันเห่ารับ จาเร็ดหัวเราะแล้วโดนรุมอีก หมาโกเด้นห้าตัวรุมเลียเค้าไม่ต่างอะไรไปจากไอศกรีมในมือของเด็กน้อย หางที่กระดิกไปมาชวนให้ดูน่าปวดหัวเสียเหลือเกิน
แต่เจ้าของบ้านร่างบางก็ชอบมัน เค้ารักสัตว์หน้าขนของเค้าเพียงเพราะมันเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่เค้าจะพูดด้วยได้หลังกลับจากงานที่ทำให้หน่ายเหนื่อยอยู่บ่อยครั้ง
“เอาล่ะ อ่าา
ถึงเวลาต้องไปอาบน้ำแล้ว” จาเร็ดพาตัวเองลุกขึ้นมาได้สำเร็จ ถึงแม้จะชอบให้สัตว์เลี้ยงตอมหน้าตอมหลังอยู่บ้างแต่วันนี้เค้าก็รู้สึกเหนื่อยมากเกินกว่าจะนอนเล่นอยู่กับลูกหมาเหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อวันก่อน ร่างบางเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำแร่เย็นๆ ติดมือขึ้นมาขวดหนึ่ง เค้าดื่มมันไปด้วยขณะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำแล้ววางมันไว้บนโต๊ะเหมือนอย่างที่เคยทำอยากปรกติสุข
ใช้เวลาไม่นานนักศิลปินที่ควบตำแหน่งนักแสดงชื่อดังก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เค้าเช็ดหัวยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำก่อนจะผล็อยหลับไปบนเตียงของตัวเอง
จาเร็ดหลับไปแล้ว หลังจากนั้นจึงมีเสียงเปิดประตูเกิดขึ้น แต่ทว่าเบามาก มันเกือบจะเงียบไปเลยแต่เพราะเจ้าของห้องนั้นนอนอยู่จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องทำตัวไร้สุ่มเสียงนัก
ร่างสูงปริศนาแทรกตัวครึ่งหนึ่งออกมาจากหลังบานประตู
มองดูคนที่นอนแผ่กายอยู่บนเตียงอย่างเงียบงัน
ดวงตาที่ส่อแววคมบาดลึกนั้นจอบจ้องอย่างราบเรียบไปบนเรือนร่างของเจ้าของบ้านที่เค้าถือวิสาสะเข้ามา......หลับสนิทเลยหรือ โอ้ คงจะเพลียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วสินะ ถึงแม้เค้าจะใส่ยานอนหลับไปเพียงเล็กน้อยให้ค่อยๆ
หลับไปช้าๆ ตื่นมาจาเร็ดจะได้ไม่เจ็บจี๊ดเพราะผลข้างเคียง
เห็นทีวันนี้พระเจ้าคงจะเข้าข้างเค้าเสียแล้ว
ร่างสูงโปร่งอกลำดูกำยำในทีวาดยิ้มขึ้นบนเรียวปากหยักของตัวเอง ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อการสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนของจาเร็ดนั้นถูกก่อกวน ชายหนุ่มหันกลับมา มือคว้าจับลูกปิดแง้มประตูปิดไม่ให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้าไปทำให้คนสวยของเค้าต้องตื่นได้พร้อมกับใช้เท้าของตนเองกันทางเล็ดรอดอันน้อยนิดนั้นเอาไว้ด้วย
“ชู่ว์ เฮ้ เด็กๆ ไม่เอาน่า...โบรกกี้อย่าทำอย่างงั้น
อย่านำน้อง ฉันบอกว่าไง” คนพูดปรามรอดไรฟันทำหน้าดุเพื่อให้เหล่าพรวนหมายอมฟังเค้า
“เฮ้
ออกไปได้แล้ว เร็วเข้า ลงไปข้างล่าง...ไปสิ” เค้าว่า เสียงไม่ดังนัก แต่เหล่าลูกหมาห้าตัวที่หากก่อเรื่องขึ้นเมื่อไรอาจไม่มีใครทานรับมือไหวก็ยอมเชื่อฟังและทำตัวเป็นเด็กดีอย่างน่าประหลาดใจ พวกมันทำลิ้นห้อยแล้วส่ายหางดุ๊กดิ๊กพากันวิ่งลงบันไดไปข้างล่างอย่างว่องไว
ชายหนุ่มนิรนามถอนหายใจเล็กน้อย
ก่อนจะทำการอ้าประตูออกแล้วแทรกกายเข้ามาใหม่อีกครั้งและครั้งนี้เค้าทำสำเร็จ มือแข็งแรงหมุนลูกบิดให้ลงล็อคอย่างไรสุ่มเสียงราวกับแมวขโมยก็ไม่ปาน เค้าสาวเท้าเข้ามาใกล้เตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง เอียงคอมองร่างที่นอนราบอย่างไร้การป้องกันอยู่บนเตียงหลังนั้นแล้วลอบยิ้มด้วยความยินดีระคนหลงใหล
แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ห้วงนิทรา ลำแขนเพรียวที่ต่ออยู่กับหัวไหล่บางไม่แพ้กันนั้นขาวกระจ่างใสแต่ก็ดูเล็กจนทำให้รู้สึกบอบบางเหลือเกินและกลัวว่าหากเผลอฉุดกระชากแรงๆ
จะพลั้งหักเอาได้ หน้าท้องแบนราบที่มีคลื่นกล้ามเนื้ออย่างเบาบางเพราะช่วงนี้ไม่ได้มีเวลาว่างคอยออกกำลังกายนั้นก็กระเพื่อมขึ้นลงตามแผ่นอกบางสีขาวละมุ่นไปด้วย ร่างสูงไล่สายตาผ่านผ้าขนหนูผืนสะอาดตาลงไปยังขาคู่เรียวที่เหยียดออกราวกับหมดแรงเพราะความเหนื่อยล้านั้นของจาเร็ดแล้วขบกัดริมฝีปากล่างตนเองเบาๆ
ดูจาเร็ดที่รักของเค้าสิ......ใบหน้างดงามบริสุทธิ์ที่หลับตาพริ้มเพราะความเหนื่อยเพลียนั้นยิ่งคับให้ความชวนเสน่หาฟุ้งซ่านออกมาจากร่างบางๆ
นี้มากยิ่งขึ้นไปอีก แพขนตาเรียงตัวสวยที่ปิดสนิทนั้นช่างเกินคำบรรยาย เรื่อยลงมาคือจมูกที่ดูโด่งรั้นมากกว่าที่ร่างสูงซึ่งคอยแอบมองอยู่ห่างๆ
คาดเอาไว้ ไหนจะยังริมฝีปากปากเชียบเป็นรอยจะงอยน้อยๆ
สีอมชมพูที่เผยอออกออกมานั้นอีกล่ะ
ทำไมถึงได้สวยงามอย่างนี้
เค้าเอื้อมมือลงไปไล่นิ้วชี้กับโครงหน้าสวยและพบว่ามันนุ่มมือมากกว่าที่คิดเอาไว้ และขยับลงมาสัมผัสปลายผมนุ่มลื่นซึ่งยังคงมีความชื่นของหยาดน้ำอยู่ไม่หาย......คุณคงคิดจะไว้ผมยาวอีกแล้วสินะ เค้าคิดขณะหัวเราะในลำคอเสียงนุ่มนวลและวาดยิ้มบนเรียวปาก
เนื่องจากผมสีน้ำตาลเข้มธรรมชาติของคนที่หลับใหลนั้นกระจายตัวอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดอย่างไม่เป็นระเบียบนัก มันยาวขึ้นจากเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งเค้ายังเห็นจาเร็ดเดินอยู่ในห้องนอนของเจ้าตัว
อยู่มากทีเดียว
ทั้งเส้นผมที่ทอเส้นกระจายอยู่รอบใบหน้าหวานอันเหนื่อยอ่อน ทั้งแขนเพรียวที่กางห่างจากลำตัวออกมาเล็กน้อย และขาเรียวคู่นั้นที่ได้สัดส่วนน่าไล่มือสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ก็ทำให้ร่างบางบนเตียงดูราวกับลอยตัวยู่อย่างไร้สติในเวิ้งน้ำที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จมอยู่ในมหาสมุทรที่มีเพียงแค่เค้าเท่านั้นที่จะช่วยดึงขึ้นมาแล้วปลุกให้ตื่นได้
ร่างสูงที่ละมืออกมาแล้วระบายยิ้มอีก......ช่างน่าหลงใหล จาเร็ดของเค้าช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน การที่ได้ยลโฉมพินิจกายใกล้ๆ
นี้ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
“จาเร็ด...” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูกำยำกระซิบเรียกแต่เค้ายังไม่หวังอยากให้อีกคนหนึ่งตื่นตอนนี้แต่อย่างใด
.
.
.
ผมเข้ามาแล้ว ตัดสินใจเข้ามาที่บ้านของจาเร็ดได้สำเร็จซึ่งอันที่จริงผมก็เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นของเค้าอยู่นานแล้ว
หลังจากเก็บกวาดซากหายนะที่ลูกชายของผมทำรกเอาไว้
ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าลูกหมาสี่ตัวจะทำได้วินาศถึงขนาดนี้ ผมขอใช้คำว่าวินาศเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ง่ายเลยถึงแม้ผมจะเคยใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาถึงสิบห้าปีแต่การมาเปลี่ยนแปลงให้บ้านของคนสวยของผมกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันก็ยากเอาการอยู่
เอาเถอะ ช่างเรื่องหมาไปก่อน ใช่ อย่างที่อาจเพิ่งรู้ไปแล้ว โบรกกี้และน้องๆ ของมันเคยถูกผมเลี้ยงมาก่อนที่จะถูกส่งมาให้จาเร็ด
ผมทำความรู้จักกับมันเพียงไม่กี่วันแต่ก็ถือว่าว่ามันเชื่อฟังผมดีมากเพราะมันยังคงจำผมได้อย่างดีจนขึ้นใจ แม้แต่ฟัคกี้ที่ผมยกให้เค้าเป็นคนตั้งชื่อมันก็ยังส่ายหางพร้อมทำเสียง
หงี้ด หงี้ด ในตอนที่วิ่งเข้ามาหาผม
ผมมาถึงจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วพาเด็กๆ
ไปรวมกันที่ห้องนั่งเล่น พวกมันหมอบอยู่ข้างตัวผม และแล้วในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงที่หน้าประตูพร้อมด้วยใบหน้าของคนที่ผมตามติดมาโดยตลอด ในตอนนั้นผมเลื่อนมือที่กำอยู่ให้ออกจากข้างแก้มก่อนจะจ้องมองเค้าที่มองไปรอบๆ
เหมือนไม่ใช่บ้านของตัวเอง ก่อนผมจะกระซิบบอกเด็กๆ
ให้ออกไปหาจาเร็ด ทุกตัวเป็นเด็กดี(ถึงแม้ผมจะเคยสงสัยว่าพวกมันว่าง่ายกับผมมากกว่าจาเร็ดหรือเปล่า)
และเค้าก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม ไม่สิ อันที่จริงน่ารักมากกว่าเดิมซะอีก...มากกว่าครั้งไหนที่ผมเคยเห็นเค้า ผมรอจนเค้าขึ้นไปอาบน้ำและเข้าไปยืนชื่นชมร่างที่เข้าสู่ห้วงนิทรานั้นได้ในระยะใกล้ชิดในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ยานอนหลับอ่อนๆ ของผมดูเหมือนจะได้ผลกับคนที่อ่อนเพลียอยู่แล้ว ใบหน้าของเค้าจึงมีนิ้วมือของผมไล่เลื่อนไปมาอย่างเพลิดเพลิน......บ้าจังเลย
การที่รู้ว่าเค้าเหนื่อยทำให้ผมรู้สึกลำบากใจพิลึก แต่นั่นมันก็แค่ความรู้สึกผิดชอบดีชั่วที่แล่นเข้ามาทดสอบผมเท่านั้น
คิดว่าผมเป็นพวกชอบยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?
ถ้าเป็นงั้นจริงผมคงไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้หรอก
ผมได้จาเร็ดที่ไม่มีความรู้สึกนอนนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวมาแล้ว ผมอยากจูบเค้าตอนนี้เลย สัมผัสเค้าด้วยปลายลิ้นว่าผิวขาวกระจ่างนั้นดูอ่อนนุ่มอย่างที่เห็นหรือเปล่า......แต่นั่นมันทำให้เสียเวลา
ผมนั่งลงข้างตัวเค้า วางมือลงบนหน้าขาของเค้า จาเร็ดสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวอย่างแผ่วเบา คงเพราะฝ่ามือของผมอุ่น มันอุ่นมากทีเดียวและยอมรับอย่างเต็มปากว่าความตื่นเต้นดีดปะทุอยู่ในอกผมจนตัวเองแทบอดรนทนทำกิริยาอ่อนโยนจะไม่ได้อยู่แล้ว ผมรู้สึกว่ามือตัวเองสั่นน้อยๆ จึงแนบมันกับผิวอ่อนนุ่มที่ยุบตัวรับมือของผมไว้......มันเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ อา ให้ตายสิพระเจ้า ทำไมถึงได้ชอบแกล้งผมนัก ผมสัมผัส
ซึมซับ แล้วอาการสั่นของผมก็หายไป
มือของผมไล่ละเลียดขึ้นไปบนหัวเข่า ลงไปลูบคล่ำที่ขาอ่อนก่อนจะวนกลับขึ้นมาที่ต้นขาตามลำดับ ถึงจะกดด่าตัวเองเพราะความเสียดาย แต่รวบรัดไปมันจะสนุกอะไร......ผมคิดในตอนที่สอดมือเข้าไปใต้ผ้าขนหนูผืนนั้นแล้วถอดมันออก
เบามือ...ผมบอกตัวเองให้เบามือแต่ก็พลั้งทำให้เร็วทันใจไปบางครั้ง ซึ่งโชคยังเข้าข้าง เค้าไม่ตื่น
จาเร็ดยังไม่ได้ตื่นขึ้นมาชกผม แต่แค่นี้ก็เพียงพอให้ผมจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ผมมัดเค้าไว้ด้วยเชือกนิ่มที่ไม่ทำให้บาดผิวและทำเช่นเดียวกันกับขาที่ถูกจับให้งอขึ้นของเค้า
ตรึงเค้าไว้กับเตียงของเค้าเอง
มันฟังดูไม่ยุติธรรมแต่จาเร็ดไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเมื่อเค้ากำลังหลับอยู่ ผมใช้คำนี้นะ เพราะเค้าไม่ได้หมดสติไปเพราะยาของผมอย่างเดียว
เค้าเหนื่อยด้วย
ผมก้มลงฝากจูบไว้บนหน้าอกผอมบางของเค้าหลายรอย อดใจไม่ไว้ไปชั่วครู่ ผมไล่ลิ้นและริมฝีปากไปตามร่างกายของเค้า มือหนึ่งค้ำตัวไว้อยู่เหนือจาเร็ดอีกมือหนึ่งก็ประคองลูบไล่ลำตัวบอบบางนั่นไปด้วย
ปล่อยให้น้ำลายของผมได้ละเลงอยู่บนตัวเค้าได้อย่างทั่วถึง ผมฝากรอยสร้างสัญลักษณ์เอาไว้อย่างหลงใหล
ทำอย่างที่อยากทำแต่จาเร็ดก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเลย ดีจริงที่เค้ายังหลับอยู่ เพราะเป็นงั้นผมจึงกลับมาทำตามแผนต่อได้อย่างไม่สะดุด
หลังจากแอบแวะไปทักทายกับเรือนอกของเค้ามาจนพอให้ได้หายใจหายคอ
ผมนั่งอยู่เกือบประชิดสะโพกที่อ้าออกของเค้า......สี สวยมาก ดูนุ่มนิ่ม เนียนละเอียดไปหมดไม่ต่างอะไรไปจากผิวกายขาวกระจ่างของเค้าเลยเพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมกำลังมองอยู่นี้จะมีสีชมพูระเรื่อกว่าเท่านั้น
ยอดเยี่ยมจริงๆ จาเร็ดของผม อา ผมใช้มือคู่เดิมของตัวเองลูบไล่ต้นขาของเค้า เข้ามาตามขาอ่อนอย่างอ่อยอิ่งเพราะเจตนาจะปลุกเร้า
ลากผ่านไปยังก้นพอดีมือแต่ก็กลมกลึงตึงเน้นอย่างน่าไม่น่าเชื่อ เรื่อยขึ้นไปยังสะโพกและเนินสะโพกลื่นมือนั้นแล้ววกกลับมาไล่มือใหม่ตามใจชอบ
และมันได้ผล น้องชายน่ารักๆ ของจาเร็ดที่ส่ายหน้าไปมาอย่างกระสับกระส่ายถึงแม้จะไม่ได้สติ อยู่ๆ มันก็ค่อยๆ เป็นเหมือนของผมแล้วตอนนี้ ให้ตายสิ ผมอมมันเข้าไป หยุดไม่ได้เลย
ใช้ลิ้นไล่เลียกับทุกรายละเอียดตั้งแต่โคนจนถึงส่วนปลาย จาเร็ดร้องเสียงอยู่ในลำคอ ผมไม่ได้หยุดยังคงทำอย่างนั้นต่อไป มือก็เค้นคลึงเนินนุ่มนิ่มของเค้าไปด้วยและบีบแยกรูนั้นในบางครั้ง ผมออรัลให้เค้าจนรู้สึกถึงน้ำคาวๆ ในปากแล้วผละออกมา ผมกลืนมันลงไป
ใช้นิ้วเช็ดส่วนที่เลอะออกมานอกปากแล้วอมมันกลับไปใหม่
ดี
มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก
จาเร็ดอร่อยไปหมดจริงๆ แต่ผมยังชิมได้ไม่หมดเลย
ผมก้มลง ทำเป็นไม่สนใจน้องชายที่เต้นตุ้บๆ
ประท้วงอยู่ในกางเกงของตัวเองแล้วใช้นิ้วชี้อีกข้างหนึ่งของตัวเองแตะเข้าไปที่รูเล็กๆ
สีชมพูสดนั้น น่าประหลาด...พอโดนมันจาเร็ดก็สะดุ้งเฮือก
ขาของเค้าเกร็งแน่นและนิ้วเท้าก็จิกเข้าหากันดูทรมาน แต่ผมรู้สึกดีที่ปลายนิ้วคล้ายกับว่าชื่นแฉะแต่ไม่มีน้ำติดนิ้วของผมมาเลยแม้แต่น้อย ผมขยี้นิ้วเข้าหากันดู มันแห้งสนิท เลยลองแตะไปอีกครั้งแต่แรงกว่าเดิม เนื้อนุ่มสีชมพูนั้นเหมือนจะติดนิ้วของผมกลับมา
ก่อนคนที่อยู่ใต้การควบคุมของผมจะกระตุกแรงและส่งเสียงดังกว่าเดิม จาเร็ดบิดเร้าน้อยๆ ไหล่คู่สวยของเค้าห่อเข้าหากันและคิ้วคู่สวยก็เช่นกัน มันเลิกขึ้นสูง ขมวดมุ่นเข้าหากัน
ผมเลยคาดว่าเค้าอาจจะรู้สึกดีก็ได้ถึงแม้จะดูทรมานอย่างนั้นก็เถอะ......ก็แหงล่ะ
เดาว่าเค้าคงจะเคยเป็นครั้งแรก ผมจึงขยี้ปลายนิ้วลงบนรูน้อยๆ
ของเค้าซ้ำไปซ้ำมาและค่อนข้างมีน้ำหนัก ตัวเค้ากระตุกและหนีบขาเข้าหากันแต่ผมก็จับเอาไว้ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างบีบแยกกลีบก้นที่เบียดช่องทางนั้นออกแล้วแลบลิ้นเลียมันไปหลายที เลียและแหย่เข้าไปบ้างเป็นบางครั้งจนสิ่งนั้นของจาเร็ดกลับมาขยายอีกครั้ง ผมจึงใช้มือนวดมันให้เค้าผ่อนคลายและชิมรสนิ่มลิ้นนั้นต่อไปจนรู้สึกว่าน้ำลายของตัวเองเข้าไปข้างในตัวของเค้ามากเกินไปแล้ว
ผมผละออกมา ลองเอานิ้วล่วงเข้าไปและพบว่าง่ายดายแต่ก็คับแน่นเหลือเกิน
ได้แค่นิดเดียวเท่านั้น ดังนั้นผมเลยตั้งใจดูแลเค้าอยู่พักใหญ่อย่างค่อยเป็นค่อยไปอยู่สามสิบวินาทีจนนิ้วเข้าไปได้สองนิ้ว......ผมทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ?
รูน้อยๆ ของเค้าเปลี่ยนเป็นสีเข้มมากกว่าเดิมแล้ว
เอิ่ม ผมคิดว่ามันเป็นสีแดงนะ
ไม่
แดงอ่อนๆ น่ะ ผมจึงถอนนิ้วออกมา
เลิกแกล้งเค้าด้วยน้ำลายแล้วบีบเจลหล่อลื่นลงบนนิ้วตัวเอง ผ่านไปอีกสิบวินาทีช่องทางของเค้าจึงมีนิ้วของผมอยู่สามนิ้วและเป็นสีแดง
ผมหมายถึงแดงจริงๆ น่ะ ไม่ใช่แดงระเรื่อนะ มันเป็นเลือดที่เค้าจำเป็นต้องเสียให้ผม
ผมไม่ได้บอกตัวเองว่าทำเร็วรวบรัดไปหรือเปล่าแต่ผมคิดว่าจาเร็ดคงไม่ชอบให้ทำแบบอ่อนโยนนัก ก็เค้าออกจะ แบบว่า...นะ อย่างที่รู้กัน เพราะงั้นผมเลยแหย่นิ้วที่ลงความเห็นแล้วว่าเยิ้มเกินไปของตัวเองเข้าออกอยู่ในนั้นซะพักใหญ่ รู้สึกถึงความลื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และความนุ่ม นุ่มแต่ก็บีบรัดอย่างดื้อรั้นด้วยเช่นกัน ผมทำแบบนั้นอยู่นาน......ก็ได้ ไม่นานนัก
ก่อนจะใส่เซ็กซ์ทอยเข้าไปเพื่อขยายช่องทาง
มันดูดีมากเมื่ออยู่ในก้นของจาเร็ด แล้วทีนี้ผมก็แค่รอให้เค้าฟื้น
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊ากก ทำไมทำงี้! คุณ...คุณ...กะ แก เป็นใคร?
โห มีความจิตอยู่พอตัวเลยค่ะ
เพราะงั้นไงคะไรท์ถึงบอกว่ามีสะพรึงพออ่านเจอ.........พระเจ้าช่วย เห็นทีจาเร็ดคงจะน่าเห็นใจเสียแล้วล่ะหนาเจอคนแบบนี้เข้าซะได้ งืมๆๆๆ
แต่เค้าหล่อนะ....//โดนตบผั๊วะด้วยความเร็วแสง// อ๊ากกก อย่าเพิ่งฆ่าไรท์สิคะ อึก เราต้องรอให้เค้าฟื้นก่อน อึก ฮืออ
และแล้วเค้าก็ได้เจอกันสักทีค่ะ
เจอกันในแบบที่ว่า....ละเอาไว้เนอะ
เราก็เห็นๆ กันอยู่ อืมมมม
ยังจะให้พูดอะไรมากมายอีกเนอะ 555555555
และลูกสมุนเค้าก็เชื่อฟังดีจริงๆ เลยค่ะ
เด็กกำลังหักหลังจาเร็ดซะแล้วล่ะค่ะ 555555
ต่อไปจะเป็นอย่างไรกันน้าาา
[ ‘_’]?
55555 ฝากติชมด้วยนะจ้าา และนี่คือเฟสของไรท์เองค่าา เข้าไปเป็นเพื่อนและพูดคุยกันได้นะเออ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ร๊ากกกกรีดทุกท่านมากๆ
เลยนะคะ >< ขอบคุณที่ติดตามและเข้ามาอ่านกันค่ะ รอลุ้นกันต่อไปใน Part หน้านะคะ จาเร็ดฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงนะ? อร๊ายยยยยย ฟกฟกหฟกฟหกหฟ //ไปก่อนรีด -..-// ขอบคุณค่าาา
ให้จุ๊บคนละที >3<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
**ตบท้ายนิด**
เค้าดูเหมือนผู้ชายตวเล็กๆ ที่กำลังหาเพื่อนเลยค่ะ ฮ่อลลลล มองผ่านๆ นึกว่า ทอม ฮิเดอร์สตัน ซะอีกค่ะ 55555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น