วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

[Fic – The Hunger Game] + [Part 16…END] The Possible – Finnick x Peeta




ฮร๊ากกกกกกกกกกกกกก  กราบบบบบบสวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักยิ่งของไรท์ขาาา  ไรท์กลับมาแล้วค่ะ  Part นี้เป็นตอนจบแล้วนะเออ ><   ปิดตำนานความรักท่ามกลางสงครามของบล็อกแห่งนี้แต่เพียงเท่านี้แล้วค่ะ  ฮือออ  พูดแล้วใจหาย T^T

  อ๊ากกกกกกกกกก  พีต้าของฉันออกเรือนกับฟินนิคไปแล้ววว เค้าเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ววว  อะฮ่อลลลล  ปลื้มปริ้มค่ะ  ปลื้มปริ้มเหลือเกิน  ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามสองคนนี้มาตั้งแต่ภาคแรกเลยนะคะ 555555    เป็นคู่ที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของไรท์เลยค่ะ

ถ้าหากมีรวมเล่มของฟินนิคและพีต้าจะมาแจ้งข่าวในเฟจแน่นอนเลยค่ะ ><  และจะมีเรื่องให้ได้ตื่นเต้นกันอีกค่ะ  แล้วในตอนที่พีต้าเข้าไปใช้ชีวิตในเขต 4 แสนจะน่าอภิรมย์นั้นจะเป็นอย่างไรนะ  ติดตามได้ในเล่มค่ะ 5555555555  ซึ่งจะออกเมื่อไรไม่รู้  //โดนรีดตบหน้ากระแทก//

สำหรับตอนนี้เราไปอ่านตอนสุดท้ายกันเลยดีกว่าเนอะ ^^  ไปกันเล้ยยยย



-------------------------------------------------------------------------------------


 
ชายหนุ่มผิวสีแทนที่เป็นเจ้าถิ่นไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากที่เอาแต่พาพีต้าเดินกลับมาบ้าน  แต่ทั้งสองก็รู้ดีว่ารอยยิ้มที่วาดอยู่เรื่อยบนริมฝีปากของฟินนิคนั้นไม่เคยนำเรื่องกังวลใจมาให้  และหลังจากที่ปิดประตูบ้านเสร็จเด็กหนุ่มก็หันหลังให้ประตูและชายหนุ่มก็หันหน้าเข้าหามัน

“ขี้บ่นจัง” พีต้ามองคนที่เลิกดึงแขนและหันมามองเจ้าตัวด้วยสีหน้าที่ต่างออกไปจากที่ใช้เขม็งใส่เพื่อนร่วมอ่าวอย่างออสก้า

ฟินนิคชูนิ้วที่เลือดหยุดไหลแล้วของพีต้าขึ้นมาให้ดู “นายรู้ไหมว่าเปลือกหายนั่นอาจทำให้นิ้วนายถูกตัดได้เลยนะ”

“แล้วมันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะ?” เด็กหนุ่มยิ้มบางบ้างแต่ติดจะรู้ดี  เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ร้ายแรงขนาดนั้น  ก็ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้แสดงท่าทีแตกตื่นอย่าง โอ้พระเจ้า เปลือกห้อยนั่นพีต้านายต้องตัดนิ้วทิ้ง! นี่...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ถือว่าเค้าเจอเปลือกหอยที่แสนนำโชคเข้าแล้ว      

ความวุ่นวายเล็กๆ ที่ร่างสูงจงใจก่อขึ้นไม่ได้ทำให้ร่างเล็กตกใจตามได้เลย นี่อาจเป็นจุดแข็งข้อหนึ่งของพีต้าที่ฟินนิคไม่สามารถทำให้เจ้าตัวโอนอ่อนตามได้  เค้าเดินเข้าไปใกล้จับมือทั้งสองของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วลูบเบาๆ

“อย่างน้อยฉันก็ไว้ใจเปลือกห้อยได้มากกว่าออสก้าล่ะกัน”

พีต้าหัวเราะ “เค้าดูสนุกดีออก” จริงอยู่ที่คนที่พูดถึงทำให้ร่างสูงต้อหงุดหงิดหัวใจอยู่บ่อยครั้งเพราะความน่ากระทืบที่เป็นมากกว่าแต่ก่อนเมื่อครั้งที่พวกเค้ายังเป็นเด็กกันอยู่  แต่ออสก้าก็มีเรื่องดีๆ มาเล่าและแนะนำให้พีต้าฟังเสมอ

“ออสก้าน่ะร้ายกาจ” ฟินนิคพูดเสียงหวาดระแวงแทนพีต้า แต่ไหนแต่ไรคนดังกล่าวก็ถูกตราหน้าว่าเป็นตัวป่วนประจำหาดอยู่แล้ว  หลายๆ คนในเขตรู้จักเค้า และพี่ชายของออสก้า  แต่ออสซิเดี้ยนมักจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากกว่าออสก้าถึงแม้บางครั้งเค้าจะมีงานอดิเรกเหมือนน้องชายก็ตาม

เด็กหนุ่มวาดยิ้ม “แต่นายดูร้ายกาจกว่าเค้าอีกนะ” ไม่อย่างนั้นจะทำให้ออสก้าตระหนกและพูดคำว่ายอมแล้วได้ยังไงกัน

แต่ก็นั่นแหละ  ในตอนเด็กๆ ที่พวกเค้าเป็นแก็งสามเกลอ  ฟินนิคนั้นไม่ใช่คนที่ถูกแกล้งหรือวิ่งตามสองพี่น้อง  แต่ออสก้ากับออสซิเดี้ยนมักจะวิ่งตามเค้าเสมอ

“ปรกติแล้วนายทำกับเพื่อนสมันเด็กอย่างนั้นเหรอ?” พีต้าถามแล้วยิ้ม

พอเอ่ยสะกิดความรู้สึกที่ว่าออสก้านิสัยไม่เปลี่ยนไปเลยก็พาลทำให้ฟินนิคลดเปลือกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “เฉพาะหมอนี่คนเดียวแหละ”

พีต้าหัวเราะ  ไม่คาดคิดว่าฟินนิคจะทำหน้ารำคาญคนอื่นเป็นด้วยโดยเฉพาะเพื่อนสนิทของตัวเอง

“นายรู้ใช่ไหมว่าเค้ากำลังตามจีบนายอยู่?” ฟินนิคหรี่ตา  ทดสอบพีต้าว่ารู้หรือไม่

แต่เด็กหนุ่มก็พอรู้ตัวอยู่บ้าง “แต่เค้าก็รู้นี่ว่าฉันกับนาย เรา...” พีต้าเว้นคำและกระพริบตา  ฟินนิคเข้าใจความหมายของคำนั้น  แล้วรวบนิ้วที่เลือดยังคงซึมออกมาเล็กน้อยของเด็กหนุ่มเอาไว้

“ถึงรู้หมอนั่นก็ยังอยากจะทำอยู่ดี  ฉันคิดว่าเค้าชอบนายแล้วก็ชอบกวนประสาทฉันไม่แพ้กันด้วย” ก้าวไปข้างหน้าทำให้พีต้าหลังขนประตูอย่างไม่รู้ตัว

“ฟินนิค...” ไม่เคยมีครั้งไหนหลังจากที่ออกมาจากเขต 12 ที่เด็กหนุ่มอ่านสายตาของร่างสูงตรงหน้านี้ไม่ออก  พีต้าทำเสียงแข็งขึ้นมาเล็กน้อย ตักเตือนฟินนิค

ร่างสูงจึงรวบกอดเด็กหนุ่มแล้วดึงออกมาให้พ้นประตู



.



.



.



“ฉันรู้ที่นี่เป็นบ้าน  แต่แอนนี่สัญญากับฉันแล้วว่าเธอจะเคาะประตูทุกครั้งที่มาหาฉันหรือนาย  เราตกลงกันแล้ว เธอรักษาคำพูดเสมอ  เหมือนฉันไง” ผมพูดทำให้เค้าหมดคำจะพูด  หลังจากนั้นก็ยกนิ้วเล็กๆ ของพีต้าขึ้นมาแล้วเลียมัน

พีต้ากระพริบตาผิดจังหวะไป  ผมรู้ว่าเค้ารู้สึกจี๊ดๆ บนแผลของตัวเอง   ผมไม่ได้แกล้งเค้าแต่กำลังล้างแผลเบื้องต้นให้อยู่และพีต้าก็ไม่ได้ขืนนิ้วออกไปเหมือนตอนแรก

“ฟินนิค...” คนที่เรียกผมมองดูนิ้วของตัวเองที่หายเข้าไปในปากของผมอย่างเชื่องช้าและเคลิบเคลิ้ม “นายเพิ่งกลับมานะ...มะ ไม่เหนื่อยเหรอ...อื้อ” ผมใช้ลำตัวเบียดเข้าไปจนสะโพกพีต้าติดผนังกำแพง  เค้าสะดุ้งในตอนที่ผมสอดมือที่ไม่เนียนนุ่มเหมือนของเค้าเข้าไปใต้ชายเสื้อผ้าฝ้ายตัวเบาสบาย

จนกระทั่งผมจูบต้นคอของเค้า  น่าประหลาดที่ผมไม่เคยห้ามตัวเองได้เลยพอเห็นต้นคอขาวๆ ของเค้าโผล่พ้นขึ้นมาบนคอเสื้อที่ขยับไปมาเพราะลมชายฝั่ง   ผมซุกไซร้ลงไป แหวกคอเสื้อออกอย่างเบามือ  และได้กลิ่นของละอองน้ำจากทะเลกับกลิ่นประจำตัวของพีต้าที่ผสมเข้าด้วยกัน  ผมลากลิ้นชิมว่าอร่อยเหมือนทุกครั้งที่ผมเคยชิมไหม   และพีต้าก็เริ่มกอดผม  เราผลัดกันขยี้เสื้อผ้าของกันและกันเหมือนรู้สึกว่ามันเกะกะเต็มที

“มันมักจะเป็นอย่างนี้เสมอเลยหรือเปล่า” อยู่ๆ พีต้าก็ถามเสียงอารมณ์ดีจนเหมือนกำลังกลั้นขำตอนเราเลิกกัดกัน  และนั่นทำให้ผมสงสัย

“อะไรเหรอ?”

เค้ายิ้ม “พอนายห้ามเลือดให้ใครแล้วมันจะลงเอยด้วยการจูบเสมอเลยหรือเปล่า” แล้วเผลอเม้มปากตัวเอง   เฮ้...นี่เค้าไม่รู้ใช่ไหม?  หรือว่าเค้ารู้ว่าผมชอบให้เค้าทำแบบนั้นบ่อยๆ  มันทำให้เค้าดูน่ารักและผมอยากทำให้ริมฝีปากบางๆ นั่นเผยอออกมานอกปากบนซะจริงๆ

“มันไม่เคยเป็นแบบนี้หรอก” ผมตอบเค้าแล้วจูบอีกครั้งให้ปากของเราเชื่อมและกระทบกันอย่างนุ่มนวล

แล้วผมก็เริ่มเข้าไปใต้กางเกงเค้า  มันทำให้พีต้ายิ้มเพราะรู้ว่าผมกำลังจะทำอะไร “เฮ้  นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะ” เสียงไม่ดังนัก ผมลมหายใจรดต้นคอเค้า มันฟุ้งกระจายอยู่ข้างต้นคอที่ผมเพิ่งพรมจูบเมื่อครู่นี้จนมันสั่นน้อยๆ  

หนุ่มขนมปังดันอกผมไว้  ยืนยันว่ายังกังวลถึงแอนนี่ที่ชอบแวะเอาคุกกี้กับดอกไม้มาให้และนี่ก็ยังกลางวันแสกๆ อยู่ด้วย 

เฮ้ ไม่เอาน่า  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมกอดเค้าแบบเปลือยในตอนกลางวันนะ  เค้าก็น่าจะรู้ดี

ผมเลยเอียงหัวไหล่หนีทำเหมือนมือของพีต้าไม่มีความหมายแล้วซุกหน้าเข้าหาซอกคอใหม่อีกครั้งด้วยความสนุกมากกว่าเดิมและลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม

ผมจูบติ่งหูนุ่มนิ่มนั้น  พีต้าห่อไหล่แล้วเอียงหน้าหนี  ช่วงพักหลังมานี้เค้าไม่ทำให้ผมรู้สึกถึงคำว่าเคยชินเลย  อย่างน้อยก็ในแง่ของเค้าเอง ถึงแม้เราจะอยู่บ้านหลังเดียวกันเพียงลำพังมาถึงสองเดือนแล้วก็ตาม

โอ้ แน่นอน  มันเป็นสวรรค์สำหรับผมเลย  ไม่ต้องถาม 

“นายจะทำให้ตัวเองดูเหมือนคนแพ้หรือว่าจะยอมแพ้ฉันซะตั้งแต่ตอนนี้ล่ะพีต้า” ผมพูด  จงใจกลั้วเสียงของคนที่กำลูกไก่เอาไว้ในมือแล้วเดินหน้าแกล้งด้วยการขบติ่งหูเค้าต่อไปเรื่อยๆ จนพีต้าอดทนจนตัวเริ่มสั่นแล้วยอมแพ้ผมไปเอง

เด็กหนุ่มคนโปรดของผมลู่หลังลงกับผนังห้องอย่างหมดหนทาง  เค้าหอบ  หายใจแรงแล้วอ้าปาก “แต่ออสก้า...ออสก้าจะมา” พีต้าช่างรอบคอบกว่าที่ผมคิด  เพราะพักหลังมานี้เจ้าเพื่อนหัวแดงตัวปัญหาชอบมาเหยียบบนพรมเช็ดทรายหน้าบ้านผมบ่อยซะยิ่งกว่าน้องสาวของผมอีก

แต่ผมก็รู้ว่าเค้าจะไม่มา  อวนที่พี่ชายของเค้าเอาไปตากไม่ใช่ของพวกเค้า  ผมจำได้ว่าลุงกัลป์ลี่ของเราเพิ่งไปถอยอวนมาใหม่...ผมหมายถึงว่าเค้าถักเองน่ะ  และรู้ดีว่าออสก้าไม่ใช่คนที่ทิ้งพี่  เค้าช่วยออสซิเดี้ยนแน่นอน แต่ไม่ใช่ในวิธีที่คนธรรมดามีมารยาทเค้าจะทำกัน

“ออสก้าตัวร้าย  เค้าไม่มาหรอกวันนี้” ผมปลอบยิ้ม และยังคงปล้ำจูบพีต้าต่อไปอยู่อย่างนั้น

“แล้วถ้าเค้ามาเคาะประตู จะทำสีใหม่ให้ฉันกี่สีล่ะ?” หนุ่มเบเกอร์รี่ของผมยิ้มอย่างมั่นใจ   โอ้ว เค้าดูมั่นใจมาก (และในใจผมกำลังยิ้มเหนือกว่าให้เค้า)

“แล้วถ้าเค้าไม่มา  นายจะว่าฉันไม่แฟร์ไม่ได้นะ” ผมทำหน้ามั่นใจยิ่งกว่าอีกครั้ง  พังทลายความเชื่อของพีต้าลงไปจนมันหดหาย “ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนพรุ่งนี้ฉันก็ออกเรือตอนเช้าตรู่ได้อยู่ดีน้าพีต้า” แล้วเค้าก็เริ่มเจื้อนยิ้มลงแล้วหน้าซีด

“โอ๊ย ให้ตายเถอะฟินนิค  นายรู้อยู่แล้วว่าเค้าจะไม่มา!” พีต้าโอดครวญ  ก่อนผมจะถอดเสื้อเค้าออกและรู้สึกถึงนิ้วของเค้าที่เกี่ยวรั้งเสื้อของตัวเองไว้แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงผมได้

ผมยิ้ม “ก็นายท้าก่อนเองนี่” หัวเราะออกมาเหมือนจะซ้ำเติมเค้ากับความพ่ายแพ้ที่ได้รับ  ทาบจมูกตัวเองกับแก้มที่ขึ้นสีเพราะโดนแดดเผา  มันยังคงอ่อนนุ่มเหมือนครั้งแรกที่ผมเคยจูบแก้มเค้า  ก่อนจะลดต่ำลงมาหาต้นคอที่บิดเอียงหนี  ผมคิดว่าเค้าคงกำลังเขินอยู่  ก็เราไม่ค่อยได้ถอดเสื้อผ้าแล้วกอดจูบกันกลางบ้านแบบนี้บ่อยๆ นักหรอกนี่นา

ผมกอดเค้า  ครอบครองเค้า  ได้ฟังเสียงจากลำคอที่ชื่นเหงื่อของเค้าเพียงคนเดียว  พีต้าตัวสั่น หมดแรงแล้วแต่ก็ยังหอบหายใจ  ร้องเสียงหวิวอยู่ข้างหูผมไม่หยุด  ผมรู้ถ้าปล่อยให้เค้ายืนจะต้องล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นแน่  เพราะงั้นผมเลยไม่ปล่อยเค้า  ดันแผ่นหลังเนียนนุ่มที่โดนแดดเผามาตลอดหลายวันให้ติดกับผนัง  เกี่ยวข้อพับของเค้าและใช้สะโพกของตัวเองรองสะโพกนุ่มๆ ของเค้าเอาไว้อีกทีหนึ่ง  ผมทำให้ตัวของพวกเราติดกันและไม่อยู่เฉย

“อาา ฟินนิค....อะ อ๊า!  อ่าา ฉัน....ฟิน....ฟินนิค”

ผมแยกขาเค้าออกกว้าง  พีต้าสะดุ้งหน้าอกแล้วบิดหลังขยี้กับผนัง

“ช้าหน่อย....อ่าา  ช้าลงหน่อย  อือ ฮึก....อื้อ  อืออ  อื้อ” ผมทำให้เค้าหายใจไม่สะดวกมากขึ้นเกินกว่าที่จะพูดออกมาเป็นคำที่รู้เรื่องได้  ท่อนขาของเค้าชิดอก  ตัวผมรู้สึกร้อนขึ้นมาจากข้างในและคิดว่าพีต้าเองก็คงไม่ต่างกัน

ผมสอดใส่เข้าไปได้ไม่นานนัก  แต่เป็นเพราะขยับอย่างเร็วและแรงพอสมควรเราเลยอยู่ไม่สุขกันทั้งคู่  ผมเห็นนิ้วเท้าเล็กๆ ของพีต้าเกร็งกันแน่น  มือของเค้าเกี่ยวรอบคอผม  ซุกนิ้วเข้ามาใต้ไรผม  ได้ยินเสียงเค้าร้องถี่มากกว่าทุกที  ผมไม่สามารถหยุดได้แล้วถึงแม้ว่าแอนนี่มาเคาะประตูหรือออสก้าจะเปิดประตูเข้ามา  ผมก็คงหยุดไม่ได้

เสียงของเราสองคนดังขึ้นเหมือนแก่งแย่งกัน  ของๆ ผมร้อนเพราะพีต้าแทบเผากันทั้งเป็น  เค้าช่างให้ความรู้สึกคับแคบ  อึดอัด  และรู้สึกดี  พีต้าบิดตัวและกรีดร้องออกมาพร้อมกับบางสิ่งของเค้าก็หลั่งออกมารดตัวเรา  และผมก็ถูกบีบรัดแรงกว่าทุกครั้งเลยตามเค้าไปในที่สุด  ปล่อยเปรอะเปื้อนอยู่ในตัวของพีต้า

“ฮา...อ้า” พีต้าซบบ่าผมแล้วสะดุ้ง  เพราะสิ่งที่ผมเพิ่งปล่อยมันช่างอบอุ่นจนเกือบร้อนระอุ  ผมก็รู้สึกอย่างนั้นเลยถอดออกมาจากการสอดใส่  และบางอย่างที่ผมทำเปรอะเปื้อนก็ไหลตามออกมาด้วย

โอ้ แอนนี่จะต้องมาแล้วพบว่าพรมมีรอยด่างไปหน่อยแน่  ผมเสียใจด้วยกับพรมทอมือของเธอ  แต่ผมเชื่อว่าเธอจะมองข้ามมันไปได้เพราะไม่ได้มาบ่อยนัก  เหมือนเธอยกบ้านหลังนี้ให้ผมกับพีต้าโดยสิ้นเชิงแล้ว

พีต้าเหนื่อยมาก  ผมเลยอุ้มเค้าขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน  วางพีต้าลงบนเตียง  ก่อนขึ้นไปคร่อมแล้วจูบเค้า

“รู้อะไรไหม เราควรเลิกทำแบบนี้แล้วไปอาบน้ำนะ” พีต้าพูดหลังจากที่ถูกพรมจูบตอดไปมาตามซอกคอ  เค้าวางมือมาบนหน้าออกของผม “นายเพิ่งกลับมาและฉันก็ยังทำอะไรไม่เสร็จเลย” เด็กหนุ่มพยายามเบี่ยงเบียน  แต่พีต้าไม่เคยเหลวไหล  ผมเลยจับมือเค้าออกมาจากอกตัวเองแล้วปล้ำจูบอย่างร้อนแรง

“ออสก้าไม่มาแต่นายก็ควรฟัง...” แหนะ  ให้โอกาสหายใจแล้วนายยังจะพูดถึงหมอนั่นอีกเหรอ

“ฉัน...” แต่เค้าก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ผมเลยยอมฟังเค้าบ้าง  มือของผมยังคงจับนิ้วเล้กๆ ทั้งห้านั้นไว้  สายตาก็จ้องลงมาด้วยระยะประชิด

“ขอร้อง” เด็กหนุ่มคราง ยื่นเจตจำนงด้วยสีหน้าที่เว้าวอนของเค้า  ผมเกือบจะยอมเค้าแล้วแต่ว่าชอบเอาแต่ใจตัวเองในเวลาแบบนี้มากกว่า

ผมไม่ได้แสดงสีหน้าออกไป ทั้งๆ ที่ภายในใจก็อยากจะหัวเราะเพราะการทำตัวอ้อนของพีต้มันทำให้ผมปั่นป่วน  ก่อนจะเกิดความคิดหนึ่งขึ้นแล้วก้มลงไประซิบบางคำกับเค้าอย่างใจเย็นและเชื่องช้า

พีต้าไหวเปลือกตา  เบะปากแล้วทำหน้าช้ำใจไปด้วย “ไม่นะ...” เค้าโอครวญ “ม่ายย...ฟินนิคได้โปรดเถอะ  พอแล้ว”

ผมยิ้มออกมาในที่สุด  แล้วกอดรัดเค้าเอาไว้  ก้มลง ซุกจมูกและริมฝีปากฝากรอยรักไปทั่วทุกทีที่แวะไปหาและพาให้เสียงครางดังขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้คนถูกกระตุนอย่างพีต้าจะไม่จำยอมก็ตาม

“อ้า...ฟินนิค...เฮ้  อ่าา  อื้อ”

แล้วผมก็กดร่างเค้าลงบนที่นอนอันแสนสบายของเรา  แนบชิดและเบียดเสียดกันอีกครั้ง

คุณรู้ไหม  ผมพูดคำว่าอะไรกับเค้า?

เดาสิ

เดาอีก

ไม่  ยังไม่ถูก

เกือบแล้ว...แหม  ผมไม่แย่ขนาดนั้นหรอก

โอเคผมจะบอกให้ก็ได้  มันก็แค่...

ผมพูดไปว่า

“จะทำให้ชุ่มก่อน  ฉันถึงจะพอใจยอมไปอาบน้ำตามที่นายบอก...แต่ นายต้องไปกับฉันด้วยนะพีต้า  รู้หรือเปล่า?”

รู้อะไรไหม  ออสก้าเคยบอกผมตอนเด็กๆ ว่าผู้ชายก็ท้องได้เหมือนกัน

บ้าสิ...ผมล้อเล่น  ฮ่าๆ

ล้อเล่นน่ะ  ผมแค่อยากกอดพีต้าทุกวัน  จูบเค้าทุกครั้งที่เราเจอกัน  และคิดถึงเค้าทุกนาทีก็เท่านั้นเอง

ผมเคยคิดว่าสุดท้ายแล้ว  ผมจะพอใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เพราะผมมีเค้าอยู่...มีพีต้าอยู่ด้วยเสมอและโชคดีเหลือเกินที่เค้ายินดีที่จะอยู่ข้างผมด้วยเช่นกัน



.



.



อ่อ  เย็นนี้แอนนี่จะมาคุยเรื่องอาหารของเธอกับพีต้า  ผมต้องรีบซะแล้ว  ดีไม่ดีออสก้ากับออสซิเดี้ยนที่เพิ่งกลับมาจะรีบแจ้นมาที่นี่ซะอีก  บ้าจริง ผมล่ะเบื่อชะมัด!



.



.



.



THE END.
               



--------------------------------------------------------------------------------------------------



อ๊าาาา  จบไปล่อววว  จบด้วย NC ด้วยค่ะ 55555  (บ่งบอกความชื่นชอบตัวเองจนกระทั่งตัวหนังสือสุดท้าย)  ฟินนิคเจ้าขา....ใจคอจะไม่ให้พีต้าได้หยุดพักผ่อนบ้างเลยเหรอคะ?! 55555555  

ขอขอบพระคุณที่รับฟินนิคและพีต้าเอาไว้ในอ้อมใจค่ะ  ทุกอย่างผ่านพ้นมาได้ก็เพราะรีดๆ ที่น่ารักของไรท์ค่ะ  ขอบคุณจริงๆ ค่ะ  ฮ่อลลลลล

ในที่สุดพวกเค้าก็ได้สัมผัสคำว่า ชีวิต จริงๆ แล้วค่ะ  ได้อยู่กับคนที่รัก  ได้ทำงาน  ได้รักกัน  บอกรัก และ Make love (โปรดแปลเป็นคำไทย) อาา  ในที่สุดพวกเค้าก็ได้พักผ่อนแล้วค่ะ  อั๊ยๆๆๆๆๆ 

ส่วนเรื่องหน้าจะเป็นคู่ของใครก็ต้องคอยติดตามกันค่ะ ><

โอ้  แล้วช่องทางการติดตามว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง  หรืว่าการอกเล่มนะคะ  ติดตามได้ที่เพจที่ขึ้นข้างๆ เลยค่า  หรือท่านใดที่อ่านผ่านทางมือถือแล้วไม่เห็นแถบแนะนำข้างๆ ก็สามารถตามไปได้โดนเสิร์จชื่อ

Fan Fictions Hollywood TH หรือจิ้มไปได้เลยจ๊ะ ไรท์ซ่อนลิ้งค์ไว้ให้แล้วนะเออ

และสามารถพูดคุยกับไร?ได้ตามสบายเลยค่ะ  ชอบคุย 55555555  และหากอยากมาแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับผ่านสเตตัสในเฟสบุ๊คไรท์ก็มีค่ะ 5555 (อินี่เล่นเยอะ)

แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด  จ้าาา  คลิ๊กตามได้เล้ยย

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

[Fic – The Hunger Game] + [Part 15] The Possible – Finnick x Peeta






//รูปเก่าเล่าใหม่อีกรูปหนึ่งค่ะ ในเมื่อขุดพีต้ามาแล้วก็ต้องเอาฟินนิคมาด้วยค่ะ 555555  ธีมโปสเตอร์แบบครบชุด  เซ็กซี่จุงงงง 5555// + //นึกถึงชุดแต่งงานของฟินนิคบ้างแล้ว โอ้ยละลายยย 555555....อิบ้า!//

มาต่อกันค่ะ  Part นี้ NC แน่นอน 555555555

มาสั้นๆ แต่ได้ใจความค่ะ............NC…………



-----------------------------------------------------------------------------------



“พอเลย” เด็กหนุ่มยิ้ม  ฟินนิคจะทำแบบนั้นในตอนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วกอดกันอีกแล้ว

ไม่นานเสียงลมหายใจก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเสียดสีของผิวหนัง  เสื้อผ้าถูกถอดออกจนหมด  มันหล่นเกลื่อนพรมด้านล่างอย่างไร้ค่า  แสงไฟสีนวลตาให้ความอบอุ่นสะท้อนอยู่บนลูกบิดที่หมุนล็อคอยู่อย่างดีและก็ไม่มีใครมารบกวนมันอีกเลยตลอดคืนนั้น  นับว่าฟินนิคพูดถูกเรื่องความคิดของนายขบวนบนรถไฟ

และในตอนนี้เอง พีต้าก็นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเค้าซึ่งเอนหลังพิงอยู่กับโซฟาติดขอบหน้าต่างของโบกี้ที่แสนจะเป็นส่วนตัวนี้ของพวกเค้า  กระจกใสแต่แข็งแรงนั้นฉายให้เห็นดวงดาวพร่างพรายบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ไร้ความหวาดหวั่นของผู้คน   พวกเค้าจูบกัน  แลกเปลี่ยน  ดูดดื่ม  ขย่มกายใส่กันอย่างเนิบช้าละเร่าร้อน ก่อนเด็กหนุ่มจะละจูบออกมา  ยืดตัวขึ้นถอดเสื้อตัวสุดท้ายออกแล้วโยนมันทิ้งไปดังเช่นที่ร่างสูงเคยทำบ่อยๆ  ก่อนจะถูกดึงให้ก้มลงไปจูบใหม่อีกครั้งด้วยความใจร้อนของอีกคนหนึ่งที่รออยู่ 

พวกเค้าจูบกันและบีบคลึงกันไปมา  กดฝ่ามือลากไล่ไปตามผิวที่ปราศาจเสื้อผ้า 

แกนกายที่ขยายใหญ่จนเต็มที่แล้วของชายหนุ่มทาบทับอยู่บนร่องซึ่งถูกแยกออกจากกันของเด็กหนุ่ม  พีต้าจับไหล่ของเค้าไว้  จูบกันแล้วจูบกันอีกจนกระทั่งชายหนุ่มจรดสิ่งนั้นของตัวเองไปจ่อที่ช่องทางอ่อนนุ่มของร่างเล็ก

“ขยับขึ้นหน่อยพีต้า” เค้าแนะนำในขณะที่นิ้วของตัวเองก็ยังคงคาจนมิดโคนอยู่ในรูน้อยๆ ที่ช่ำลื่นนั้น  แต่เด็กหนุ่มที่เกาะอยู่บนบ่าแน่นกลับร้องขอ

“ทำดีๆ ไม่ได้เหรอ?” เด็กหนุ่มหยัดขาไว้ตรงแน่ว  ไม่เคยเลยที่จะต้องทำการกลืนกินด้วยตัวเอง  เจ้าตัวชอบผ่ามือและน้ำเสียงที่คอยปลอบประโลมของชายหนุ่มยามเมื่อฟินนิคเป็นฝ่ายดันเข้ามาเองเสียมากกว่า

ฟินนิคจูบอีกครั้งอย่างแผ่วเบาแล้วลูบแก้มของพีต้า “นี่เป็นโอกาสอันดีของนายนะ” แล้วถอนนิ้วออกมาจากช่องทางที่มีน้ำเหนียวใสเยิ้มติดออกมาด้วย

“อา” นิ้วของฟินนิคทำให้เจ้าตัวปั่นป่วน “ฉะ...ฉันไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันดีเลย” พีต้าบ่นอุบ

“นายไม่ต้องทำอะไร  ฉันทำเอง” ร่างสูงยอมแพ้ในที่สุด  เค้ายอมโอนอ่อนให้ครึ่งทางแต่ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มลงจากตักของตัวเอง  ก่อนร่างสูงจะกำรูดแกนกายของตัวเองช้าๆ แล้วใช้มืออีกข้างประคองช้อนก้นของพีต้าไว้ในมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

“อา...” ร่างสูงจรดแกนกายเข้าไปในรูคับแคบที่อยู่ระหว่างซอกนิ้วของเค้า  และรู้สึกถึงท่อนเนื้อที่เบียดร่องนิ้วของตัวเอง เลยถ่างนิ้วให้กว้างขึ้น พร้อมกันนั้นก็ดันแหวกให้กลีบสะโพกน้อยๆ อ้าออกกว้างไปด้วย

“อ๊า!” พีต้ารู้สึกเหมือนตัวถูกแหวกออกอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ถูกฟินนิคสารภาพรัก  เด็กหนุ่มขยำไหล่หนุ่มชาวประมงไว้แน่น  ในตอนที่ส่วนปลายที่ร้อนระอุนั้นมุดเข้ามาได้อย่างง่ายดายและค่อยเป็นค่อยไปอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ได้มีการหยุดพัก “อ๊ะ...อ๊ะ...อา...ฟินนิค  ฟินนิค เดี๋ยวก่อน” เด็กหนุ่มรั้งเสียงเบาออกสั่นพร่า  ก่อนจะถูกอีกคนหนึ่งกระซิบบอกว่าให้ลองขยับเองดู อาจทำให้ไม่เจ็บเท่าเค้าทำเอง

“อืม...อ้า นั่นแหละพีต้า  ไม่ต้องรีบ  ขยับช้าๆ อย่างนั้นแหละดีแล้ว”

คนถูกแนะนำโยกสะโพกช้าๆ อย่างระมัดระวังแต่ทว่าความเสียวปลาบก็เรียกร้องบอกว่ายังต้องการอีก   ดังนั้นพีต้าจึงกดตัวเองลงไปบนตักแล้วดูดกลืนแกนกายที่ไม่ใช่ว่าเล็กน้อยของฟินนิคให้ค่อยๆ เข้ามาในตัว

เด็กหนุ่มส่งเสียง  ร้องครางกระเซ้าอย่างกระสับกระส่ายอยู่คนเดียว  ส่วนร่างที่วางมืออยู่บนสะโพกของเจ้าตัวนั้นก็กำลังหายใจช้าๆ เป็นจังหวะเดียวกับการโยกตัวอย่างอ่อนประสบการณ์ของพีต้าจนกระทั่งมันสุดปลาย  กดแช่อยู่ในตัวของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนตักของเค้า  พีต้าตัวติดจะสั่น  เกาะบ่าของเค้าไว้ส่วนสะโพกแน่นมือนั้นก็บีบอัดของๆ เค้าไว้จนแทบจะกระเฉาะออกมาโดยไม่ต้องขยับ

ร่างสูงบีบคลึงไปมา  ส่งลิ้นไปทักทายเด็กหนุ่มอีกครั้งแล้วขยับตัว

“อือ...!” เด็กหนุ่มรั้งไว้ ไม่ให้ขยับ “ข้างล่างมันเจ็บจัง” พีต้าบอก  มันต่างจากทุกครั้งที่ฟินนิคประชิดเข้ามา

ชายหนุ่มจูบทั่วข้างแก้มและใบหูของเด็กหนุ่ม  ความคับแน่นทำให้เค้ารู้สึกร้อนรนและโหยหา “ขยับสิพีต้า” ร่างสูงไม่บังคับ  ปล่อยให้เด็กหนุ่มทำตามใจของตัวเอง  แต่พีต้าทำได้ไม่ดีนักเนื่องจากแกนกายร้อนใหญ่ที่เสียบอยู่ลึกเกินไปทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่กล้า

“อ่า...อาา” เด็กหนุ่มร่อนสะโพกไปมาโดยมีมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มคอยทาบประกบอยู่ด้างล่าง  มันลูบและบีบคลึงบ้างเป็นครั้งคราวทำให้หนุ่มบ้านขนมปังมีแรงผลักดันที่จะยกสะโพกตัวเองและทิ้งตัวลงมาได้เร็วขึ้น

“อา  อาา  พีต้า  ดี...ดีมาก  อ่าา  อย่างนั้นแหละ  แรงอีกสิ” ชายหนุ่มเองก็ช่วยไปขยับฐานแกนกายด้านล่างไปด้วย

“อือ...อ้าา  อ่า” พีต้าจากเขต 12 ถอนหายใจทุเลาแรงสูบฉีดของเลือดในกายแล้วซบหน้าข้ามบ่าของฟินนิคไป

“เกาะฉันไว้นะ...อ่าา  โอ้ อา” ร่างสูงบอก  รู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดแผ่นหลังด้วยความเร็วถี่

“อา...ลึก  ลึกจังฟินนิค มันลึก....อ้าา

“ลึกมากกว่าครั้งก่อนๆ ใช่ไหมล่ะ...อา” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปยิ้มกับเด็กหนุ่มที่นิ่วหน้าแต่ก็รู้สึกยอดเยี่ยมไปด้วย “มันเยี่ยมไปเลยใช่ไหมพีต้า” เค้าทำหน้าเหมือนมีคำแนะนำดีๆ ให้พีต้า  เด็กหนุ่มกอดรอบต้นคอของชายหนุ่ม  ทั้งสองจูบกันสะเปะสะปะ  สวนสะโพกอย่างแม้นยำและมีน้ำหนัก

เสียงกระซิบกระซาบและเอ่ยครางหวานหูดังระงมไปทั่วตู้โดยสารนั้นราวกับคนด้านในมีโอกาสครั้งนี้เพียงครั้งเดียวที่จะได้อยู่ด้วยกันในค่ำคืนที่เป็นใจ  หรือหลายคนอาจเพิ่งรู้ว่าทั้งคู่ทำมันด้วยความรู้สึกอย่างนั้นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเค้านอนกอดกันแล้ว  โอบรัดทั้งกายด้านนอกและด้านใน  จูบกันอย่างไม่รู้จักพอ  และนอนกอดกันโดยจงใจลืมสภาพแวดล้อมกันทั้งคู่

“อา อา..อา  ฟินนิค...เราจะ...มะ ไม่...ไม่ไป...ที่เตียง...อ๊า!...กันจริงๆ เหรอ? อ้า!” เด็กหนุ่มตัวสั่นคลอนอยู่บนตักและแกนกายที่เสียบเข้าออกเจียนจะลุกเป็นไฟของชายหนุ่ม  ฟินนิคดูดลิ้นในโพรงปากของเด็กหนุ่มของเค้าอีกครั้ง

“มาถึงขนาดนี้คงไปไม่ทันแล้วล่ะ...อ้าา” ชายหนุ่มเผลอบีบโคนขาของอีกคนจนเป็นรอยแดง  ซอยเอวที่เด้งขึ้นอย่างไม่อาจจะหยุดยั่งไว้ได้

อ่าา” พีต้าซบหน้าผากกับบ่าแข็งแรงนั้นแล้วรู้สึกเหมือนช่องทางถูกรังแก “อาๆๆๆ  อ่า  อ่า...อ๊า” เด็กหนุ่มร้องถี่รัวตอบรับจำนวนครั้งที่ชายหนุ่มกระทั้นเข้ามา

“อ้าา ใกล้แล้ว...ใกล้แล้วพีต้า  อ้า!

จนกระทั่งชายหนุ่มกระแทกสุดแรงไปครั้งสุดท้าย  ก่อนของเหลวสีขาวขุ่นจะเอ่อล้นเข้าไปในร่างอันสั่นกระตุกของเด็กหนุ่ม

“อ๊าา!” หนุ่มเบเกอร์รี่หลั่งออกมาอย่างเลอะเทอะเพราะการเสียดสีจากหน้าท้องของร่างสูง  สะโพกแน่นมือยังคงดูดกลืนความร้อนระอุที่เริ่มเย็นตัวลงและหมดแรงแล้วในที่สุด  ชายหนุ่มหอบหายใจถี่พอๆ กับคนบนอกของเค้า  กอดเด็กหนุ่มเพื่อชื่นชมอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนเรี่ยวแรงที่กลับมาจะบอกให้เค้าเลิกแช่ตัวเองอยู่ในก้นของพีต้าเสียที 

ฟินนิคสอดข้อพับแขนเข้าไปใต้ขาอ่อนของเด็กหนุ่ม  ยกเค้าขึ้นเล็กน้อยแล้วดึงของตัวเองออกมา

“อะ อ่า” พีต้านิ่วหน้า  รู้สึกถึงของเหลวที่ต้องการจะไหลออกมาจากช่องทางอย่างบ้าคลั่ง  เด็กหนุ่มครางอื้ออึงในลำคออย่างไม่สบายตัวอยู่ครู่หนึ่งจนร่างสูงที่ยังไม่ได้ขยับไปไหนจะส่งเสียงถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วงแน่นอน

“เป็นอะไรไปพีต้า?” เค้าจับสะโพกที่รู้สึกถึงคามอึดอัดนั้น “มันทำให้นายเจ็บเหรอ?” บางทีต่อไปเค้าคงต้องเลิกบังคับให้พีต้านั่งโยกตัวบนตักของเค้าซะแล้ว  เพราะนอกจากจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกแปลกไปแล้ว ดูเหมือนจะทำให้พีต้าเจ็บมากไปเสียด้วย

แต่คนถูกถามอย่างห่วงใยกลับส่ายหน้าช้าๆ พลางทำตัวสั่น ขยับเข้ากอดร่างสูงที่ยืมตักให้นั่งอย่างเชื่องช้า “ไม่ใช่  เปล่าหรอกฉันแค่  เอ่อ มันแค่...” แล้วกระซิบบอกร่างสูงว่าเจ้าตัวรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย

และเมื่อได้ยินคำกระซิบกระซาบข้างหูถึงแม้จะอยู่กันเพียงสองคนอย่างเนียมอายของหนุ่มน้อยพีต้าแล้ว  ร่างสูงก็จุดยิ้มขึ้นมา  ฟินนิคลูบลงไปตามเนินสะโพกกลมกลึงก่อนจะล่วงนิ้วเข้าไปในช่องทางอันอ่อนยวบแต่ยังคงคับแน่นของพีต้า

“อื้ออ...” เด็กหนุ่มจิกแผ่นหลังของเค้า  แนบแก้มร้อนผ่าวกับไหล่ที่เอนพิงกับพนักพิงกำมะหยี่

ฟินนิคส่งไปอีกนิ้วหนึ่ง  หมุนไปมา

“อ๊า!” พีต้าสะดุ้งแล้วจิกแรงกว่าเดิม “ย๊ะ...อย่าทำแบบนั้นสิ” เด็กน้อยดุ

ร่างสูงจึงเลิกหมุนวน  เปลี่ยนมาเป็นขยับเข้าออกแล้วแยกนิ้วออกจากกัน

“อ้าา...า!” 

ก่อนจะดึงนิ้วออกมาพร้อมกับน้ำรักของตัวเองที่ไหลตามมาด้วยอย่างมากมาย

“อย่าทำอย่างนั้นอีกเชียว” เด็กหนุ่มหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย เพราะนิ้วของร่างสูงร้ายกาจไม่แพ้กับลิ้นและหอกประจำกายของเค้าเลย

“ฉันก็แค่ช่วยนายเฉยๆ มันดีกว่าไม่ใช่เหอร?” ฟินนิคขยิบตาให้พีต้า

“นายไม่จำเป็นต้องทำก็ได้...” แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ  คนที่นั่งอยู่ด้านล่างก็โอบลำตัวเด็กหนุ่มเอียงไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงฟังดูสนุกสนานว่า

“เว้นซะแต่ว่านายอยากไปต่อที่เตียงนะ” แล้วจูบซุกซนอยู่ในปากของเด็กหนุ่ม  ผละริมฝีปากออกมา  กอดลูบเด็กหนุ่ม กดลงแนบกับอกของเค้า  ก่อนฟินนิคจะจับคำอู้อี้แต่ชัดเจนได้ว่า ไม่

คืนนั้นเสียงรถไฟดังกึกกักเกือบตลอดเวลาหลังจากตีสามเพราะเริ่มเข้าเขตที่พื้นดินไม่สมดุลกัน  ที่ๆ ไม่มีหญ้าและต้นไม้พุ่มเตี้ยขึ้นจะมีแต่ดินทรายและก้อนหินปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน

พวกเค้าใกล้ถึงแล้ว  และอีกไม่นานฟินนิคก็จะได้ปลุกเด็กหนุ่มที่จะกระวีกระวาดขึ้นมา แล้ววิ่งตรงไปยังหาดทรายที่เค้าคุ้นเคยมาทั้งชีวิต

เพราะนี่คือบ้านของเค้า

บ้านที่เค้าหวังว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและผู้คนจะดีใจเมื่อได้เห็นเค้า


**********************************************************************************


ผู้คนดีใจแน่นอนที่ได้เห็นฟินนิค

ความเหลือเชื่อปรากฏอยู่บนสีหน้าของใครหลายๆ คน  แต่เป็นเรื่องดีที่สุดหลังจากประกาศยุติสงครามจากแคปิตอลเก่า  ทุกคนยินดีที่ฟินนิคคืนกลับมาบ้าน

เอ๊าะ  ช่าย...พีต้าด้วย  แน่นอน รวมทั้งพีต้าด้วย

และคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่ามีหลายคนชอบพีต้า  ชอบมากกว่าฟินนิคที่ฟื้นกลับมาจากความตายเสียอีก



.



.



.



หลายสัปดาห์ต่อมา...

“ถอยไปเลยออสกี้  ฉันบอกนายเป็นรอบที่ล้านแล้วว่าอย่าเอาอวนไปให้เค้าเล่น!” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากท่าเรือ

ฟินนิคเดินดุ่มๆ ขึ้นมาบนท่าไม้บนบกที่ชาวประมงทำไว้เพื่อทำความสะอาดอวนและตากมันให้แห้ง

สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง  เค้ามองดูเด็กหนุ่มของตัวเองที่นิ้วมือพันอยู่ในอวนและมีแผลโดนบาด  พีต้าทำหน้าไม่สู้ดีนัก  พยายามเก็บมือออกมาจากอวนเจ้าปัญหาแต่ทว่าดึงไม่ออก

“ฟินนิค...” พีต้าพูดยังไม่ทันถึงไหน  มือกร้านแดดที่กำหอกอยู่ก็กระแทกมันลงบนพื้นแล้วขยำไปที่หัวสีแดงประกายด้วยริ้วสีส้มอย่างเหมาะเจาะของหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้อยู่ข้างอวน

โอ๊ย! ฟินนิคใจเย็นน่าเพื่อน  นายจะ...อั๊ก  นายจะเอามือหนักๆ ของนายออกไปก่อนได้ไหม?” คนโดนครอบคลุมโอดโอย  “ฟังที่ฉันพูดก่อน” ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ พีต้าเบ้หน้าหนัก  ชูมือที่ขยับไปมาเหมือนอยากจะแกะมือที่ออกแรงจิกหัวของเค้าออกไปเสียเดี๋ยวนั้นแต่ทำอะไรไม่ได้  ชายคนนั้นไม่ใส่เสื้อเหมือนฟินนิค  แต่ผิวซีดกว่าเล็กน้อย  สร้อยที่ทำจากหอยก้นแหลมของเค้าเป็นสีขาวบริสุทธิ์ทำให้เค้าดูเหมือนชาวประมงที่ทำงานในร่มมากกว่าออกทะเล

ออสก้า” พีต้าเห็นใจเค้าอย่างแผ่วเบา

โอ๊ยยย  พีต้า! เค้าจะฆ่าฉัน  ฟินนิคจะฆ่าฉานน” ออกก้าที่ว่านั่นอ้าปากร้องเสียงดังทำตาโต  ถึงแม้ฟินนิคจะยังไม่ได้ทำอะไรเค้ามากไปกว่าการทึ้งผม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ปล่อยด้วยเช่นกัน

“ฟินนิค” คราวนี้เด็กหนุ่มหันไปหาชายหนุ่มบ้างแต่พูดเสียงอ่อย  ทำหน้าราวกับว่าอยากให้เห็นใจออสก้าอย่างที่เจ้าตัวเป็นบ้าง  แต่สำหรับฟินนิคแล้วออสก้าร้ายกาจมากและไม่น่าให้อภัยมาตั้งแต่ตอนตอนเด็กๆ

ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่

ร่างสูงโยกมือไปทางซ้าย  หัวออสก้าเอียงตาม มีเสียงกรีดร้องเล็กๆ อย่างแสบคันหนังศีรษะตามมาด้วย

“นายไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอก  หมอนี่ไม่สมควรได้รับคำว่าน่าสงสาร”

“แต่ว่าเค้า...”

“ฉันบอกนายแล้ว” ฟินนิคตัดบทอย่างนุ่มนวลและเชียบขาด “บอกนายก่อนซะด้วยซ้ำออสกี้” แล้วหันมาพูดกับเพื่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเด็กหนุ่มของเค้าเสียงและอารมณ์แตกต่างกันอย่างเนได้ชัด

อ๊าก!

“ว่าพีต้าแก้อวนไม่เป็น  แล้วเค้ามีแผลที่นิ้วนายจะว่ายังไง?” ออสก้าเป็นคนที่ควรรู้ดีที่สุด  เพราะเค้าเป็นคนแรกที่พาพีต้าออกไปรู้จักกับอวนหาปลาและเด็กหนุ่มก็ถูกพันทั้งมือในอีกแค่ห้านาทีต่อมาจนต้องตัดอวนของลุงฮาร์เบิร์กทิ้ง  แต่ครั้งนี้ที่ทำให้เค้าไม่พอใจก็คือออสก้าไปลากอวนในเขตที่มีปะการังเปราะและมีหอยอาศัยอยู่มาก  ดังนั้นจึงมีเศษปะการังที่แตกหักและเปลือกหอยซึ่งใช่ว่าจะดีติดมาด้วย

และตอนนี้พีต้าได้แผลมาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ฟินนิคไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอก  เพราะฉันมาที่นี่เอง” เด็กหนุ่มว่าเสียงอ่อยอีกครั้ง  ความรู้สึกตุ้บๆ ที่แผลยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พีต้าวางมันลงบนขา ทำเหมือนเพียงแค่วางมือลงเฉยๆ  และพยายามทำราวกับว่าสีแดงที่นิ้วนั้นเป็นเพียงแค่สีแดงจากผลเบอร์รี่

ฟินนิคหันมามองร่างเล็กด้วยสีหน้าที่อ่อนลงไปมากเมื่อเทียบกับออสก้า “แต่เค้ามองนายโดยบาดนะ”

“เพิ่งบาดเมื่อกี้เอง...โอ๊ย!  โอ๊ยๆๆ ฉันยอมแล้ว ยอมแล้ว  ยอม...ยอมแล้วฟินนิคเพื่อนรัก ยอม...ทุกอย่างเลย” ออสก้าหัวเอียงอีกครั้งและคำในประโยคของเค้าถูกบีบให้เสียงสูงขึ้น  ชายหนุ่มผิวสีแทนคิดว่าผมสีประกายร้อนของออสก้ามีค่ากับตัวเองมากขึ้นทุกวินาที

“ฉันไม่ทันระวังเอง” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยกนิ้วมือของตัวเองขึ้นมาและเผลอมองมันสีห้าเจ็บปวดให้ฟินนิคเห็น “ฉันไม่คิดว่ามันจะคมขนาดนั้น  มันก็เป็นแค่...เปลือกหอย”

ว่าขาดคำเพียงแค่นิดเดียว  ผมสีแดงดกหนานุ่มของออสก้าก็ถูกปล่อยออก  ชายหนุ่มที่สวมสร้อยเปลือกหอยเหมือนพวกพรานประมงเกือบหงายหลังบนเก้าอี้ในตอนที่เพื่อนผมบล์อนสะบัดมือออกจากผมของเค้า

“โอ๊ย” ออสก้าขยุ้มนิ้วเบาๆ บนผมตัวเอง “ผมฉัน” เค้าโอดครวญไม่ดังนักแล้วมองเพื่อนชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำขึ้นมากกว่าเมื่อปีก่อนเดินไปยังเด็กหนุ่มที่เค้าพามาด้วยจากเขต 12

ฟินนิคหยุดอยู่ตรงหน้าพีต้าซึ่งจ้องนิ้วที่เลือดเพิ่งหยุดไหล ก่อนจะคว้ามันมาไว้ตรงหน้าแล้วอมมัน  เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ  เกือบจะชินแล้วกับการแสดงตัวเสมือนคนรักต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ของฟินนิคแต่ดวงตาตื่นตูมของเด็กหนุ่มก็มองเลิกลั่กไปทั่ว  และเห็นเพียงแค่ออสก้าที่เป็นห่วงผมของตัวเองมากกว่าอะไร นั่งมองปอยผมของตัวเองอยู่ตรงหน้ากับคนที่ยืนดูอยู่อีกหนึ่งคน  ก่อนพีต้าจะหน้าแดงในตอนฟินนิคถ่มเลือดที่อยู่ในปากของตัวเองลงไปบนพื้นทรายที่อยู่ต่ำลงไปเบื้องล่างจากท่าตากอวนที่ยกสูงขึ้นมาจากผืนทราย  จนมันดูเหมือนระเบียงโล่งยาวสีขาวเข้ากับชายหาด

เลือดของพีต้ากลับมาไหลอีกครั้งหนึ่ง แต่หนุ่มน้อยจากเขต 12 ไม่รู้สึกปวดตุ้บแล้ว

“ฟินนิคนายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้” คนโดนดูดหัวไหล่ยกสูงขึ้น เพราะถูกดึงข้อมือไป

“มันอาจเป็นพิษ” ร่างสูงว่า พูดให้มันดูมีเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างมีเหตุผลและง่ายได้ แต่ใบหน้าของเค้ากลับมีแววอมยิ้มและยังไม่ยอมปล่อยนิ้วของพีต้า  ฟินนิคหันไปมองเปลือกหอยที่เลอะเลือดของพีต้าเพียงแวบเดียวก่อนจะหันกลับมาหาอีกคนหนึ่ง  เมื่อเจอหน้าเด็กหนุ่มเค้ามักจะทำท่าเหมือนคนใจดีอยู่เสมอ  ครั้งนี้ก็เช่นกัน ก่อนจะดึงเด็กหนุ่มคนโปรดให้ลุกขึ้น  ลากลงมาตามบันไดของระเบียงไม้อย่างนุ่มนวล

“รู้อะไรไหม นายน่าจะฟังที่ที่รักของนายพูดบ้างนะ” ออสก้าพูด  มองตามฟินนิคที่สบตาเค้าด้วยแววสาสม  มือของหนุ่มผมแดงยังจับอยู่บนปอยผมยังคงของตัวเองอยู่

ฟินนิคไม่แม้แต่จะหยุด  เพียงแค่เบะปากยักไหล่ใส่เค้าเป็นเชิงไม่แคร์และเหมือนจะพูดว่า แล้วไงล่ะ นายสมควรโดนแล้ว ใส่เพื่อนที่โตมาด้วยกัน

ชายหนุ่มช่วงไหล่แข็งแรงและกล้ามเนื้อสวยงามน่าดูตามแบบของชาวทะเลมองตามแผ่นหลังที่พยายามย่ำตามให้ทันจังหวะก้าวเดินของชายหนุ่มผิวสีแทน  ก่อนหนุ่มชาวเลจะเลิกจับผมตัวเองแล้วเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย

“แหม  ให้ตายสิ ฉันชอบเค้าซะด้วย” ออสก้ายิ้มหวานกับตัวเอง เอียงหัวไหล่ไปพิงกับเสาเกี่ยวอวนที่แข็งแรง

ใช่  น่าเสียดายนะ” มีเสียงหนึ่งเห็นด้วยกับเค้า  ชายหนุ่มผมแดงอีกคนหนึ่งที่แก้อวนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ซึ่งมองดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกยื่นหน้าออกไปมองตามหลังเด็กหนุ่มตัวเล็กคนนั้นบ้าง

“เค้าน่ารักเนอะ”

ช่ายย” ออสก้าหันมายิ้มเห็นด้วย “นายพูดถูกที่สุดเลยออสซี่

ชายคนนั้นละมือจากการแก้อวนแล้วชี้นิ้วชี้ทั้งสองข้างมาหาน้องชายตัวเองเร็วๆ ประมาณว่าใช่ไหมล่ะ ฉันพูดถูก “ใช่  ฉันก็ชอบเค้า  พีต้าทำอาหารเก่ง” ออสซิเดี้ยนว่าสั้นๆ

“แต่เซ็งชะมัด ฟินนิคเจอเค้าก่อนฉันซะได้”

ออสซิเดี้ยนตบไหล่น้องชาย “เค้าสมควรได้แล้ว  เชื่อสิออกกี้  เค้าสมควรได้แล้ว”

อย่างน้อยทุกคนก็รู้แล้วว่าช่วงเกิดสงครามฟินนิคเสียสละและทำอะไรมาบ้าง  แต่ออสก้าก็ยังทำหน้าบูดอยู่ดี

“ขอบคุณพี่ชาย  นายว่าไหมเราน่าจะคุยกันเรื่องเวลานายปลอบใจฉันนะ” เค้ากลอกตา “ตอนจบพระเอกต้องเป็นฉันสิ ไม่ใช่ฟินนิค”

“พูดได้ไง  นายเป็นตัวร้ายตลอดนั่นแหละเพราะว่านายมันตัวป่วนไงไอ้น้อง”

“ฉันจะพูดเรื่องอวนนั่น” ออสก้าชี้ไปที่อวนข้างหลังอย่างเฉยชา

“เฮ้ย อย่า  ฉันเอาของลุงกัลลี่มาใช้  ลากขึ้นฝั่งมาแล้วยังไม่ได้บอกเค้าเลย” แววตัวป่วนอย่างร้ายกาจของออสก้าฉายชัดอย่างไม่ต้องสงสัย และเห็นได้ชัดว่าลุงกัลลี่คงจะไม่ชอบไปลากอวนที่แนวปะการังเปราะเป็นแน่เพราะมันทำให้เค้าอยากได้อวนใหม่

ออสซิเดี้ยนเดินออกมา  กอดคอออสก้าที่ตัวสูงเท่ากันแล้วเสนอเรื่องดีๆ อย่าง “งั้นเอางี้ไหม  เราทำเป็นเดินออกไป  ไปที่เรือ  ออกไปสักสองชั่วโมงแล้วปล่อยให้ลุงมาเจออวนของตัวเอง?”

“อืมม” ออสก้าเม้มริมฝีปากแล้วเอียงค้างครุ่นคิด  ลุงกัลลี่จะต้องร้องไห้แน่ๆ ถ้ามาเจออวนตัวเองถูกเศษปะการังกับเปลือกหอยปู้ยี่ปู้ยำขนาดนั้น  และเค้าก็ส่ายหน้าบอกพี่ชายของตัวเองไปว่า  “รู้อะไรไหมฉันชอบเชื้อคนเขต 10 ของนายจังเลย  งี้สิ ถึงจะสมเป็นพี่ฉัน” แล้วออสก้าก็ยิ้ม  เดินลงบันไดสั้นๆ ลงไปบนพื้นทรายอย่างกระปรี้กระเปร้าพร้อมกับพี่ชาย “ถึงชื่อที่ปู่ตั้งให้นายมันจะฟังดูเพี้ยนๆ ไปหน่อยก็เถอะ”

แล้วออสก้ากับออสซิเดี้ยนพี่ชายของเค้าก็ออกไปถอดเสมอเรือเล็กอยู่ที่ปากอ่าวเกือบทั้งวัน

แล้วลุงกัลลี่ก็ร้องไห้เมื่อเดินมาพบอวนใหม่ของตัวเองพันยุ่งเหยิงอยู่กับปะการังและเปลือกหอย  ก่อนเค้าพอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของหลานชายตัวดีคนไหน




.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------------------



ว๊ากกกกกกกกกกก  สองพี่น้องนี่ก็ช่ายย่อยนะคะ 5555555  ขนาดเค้าพาแฟนกลับมาบ้านยังไม่เกรงใจ ตามจีบแฟนเค้าเฉยเลยนะออสก้า 555555  ฮึย ลืมบอกไปว่าสองคนนี้เป็นแฝดกันค่ะ 5555   เรื่องอาจจะดูเดินไปเร็วๆ นะคะ  เพราะเดี๋ยวออกเล่มแล้วจะไม่มีอะไรเขียนค่ะ 55555555

การรวมเล่มเป็นความใฝ่ฝันของไรท์เลยล่ะค่ะ  ฮึก  T^T

เดียวเจอกันแน่คะ  เมื่อไรไม่รู้ 5555555

Part หน้า Part จบแล้วนะเออ  รอชมกันค่าา    ขอบพระคุณสำหรับการรับชมและติชมนะคะ  รักมากมายค่าา  ไปและ  แปะเฟสตามธรรมเนียม แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด  (อย่าลืมไลค์เฟจให้ด้วยนะจ๊ะ  รวมเล่มแล้วจะได้ตรู้ข่าวกันค่าา)

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund