วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตอนจบใหม่ของ Half Lose ! เกเบรียลไม่ตาย Part 2...END



สวัสดีค่ะรีดขาาา  Part จบแล้วค่ะ Part จบแล้ว! อร๊ายยยย! >///<  //อินี่ปลื้มปลิ่มเหมือนถูกหวย//  ตอนจบใหม่ของพ่อมดพ่าย......คือมันดีมากเลยค่ะ  พอมีตอนจบใหม่ของทั้งคู่ออกมา ตอนนี้สามบทสุดท้ายในหนังสือมันกลายเป็นความทรงจำเลื่อนลางของไรท์ไปซะแล้วค่ะ  //โบกผ้าเช็ดหน้า//  บ๊าย บายนะจ๊ะความเศร้า  ตอนนี้ฉันแฮปปี้แล้ว 555555

ถ้าไรท์มีร่างแยกคงจะพูดกับตัวเองว่า

“แก...ฉันดีใจมากเลยที่มันจบสวย  ในจินตนาการของฉันนะ เกเบรียลเป็นคนที่สวยมากก (แบบงดงาม พึ่งพาได้) ส่วนนาทานก็หล่อและเถื่อนมากก  มันดีมากเลยอ่ะแกที่พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขกันมากที่เป็นอยู่!

อือ  นั่นคือด้านที่ดูจริตจะก้านของไรท์น่ะนะคะ -*-

อยากจะพูดงี้กับตัวเองจริงๆ เลยค่ะ  เรื่องนี้ทำหลายๆ คนอินมาก  โดนเฉพาะไรท์ค่ะ 55555  ไม่ไหวจริงๆ ถ้าตอบจบพวกเขาเป็นแบบนั้นกันจริงๆ  แต่ไม่เป็นไรนะคะสำหรับรีดๆ ที่ไปอ่านตอนจบในเล่มมาเหมือนไรท์...เรามีตอนจบแบบแฮปปี้ในแบบของเราแล้วล่ะค่ะ ฮือ!  //จับมือคนอ่านพ่อมดพ่าย เขย่าแรงๆ//

ย้ำนะคะใครจะอ่าน Half Lost หรือ พ่อมดพ่าย  อย่าอ่าน 3 บทสุดท้ายนะคะ  ไม่งั้นมีสิทธิ์กลายเป็นคนไร้วิญญาณได้เลยค่ะ 



และรูปที่หยิบยกมานี้  ไปเอาเขามาอีกทีค่ะ  จือเครดิตบ่ได้ด้วย  สิเฮ็ดเองก็มีแต่ภาพเรทๆ ค่ะ 55555  คือว่า Part นี้มันให้อารมณ์ประมาณว่าอยู่กันและมีความสุขกันไปชั่วนิจนิรันดร์ไม่ใช่เหรอวะ  คือว่าไรท์เซฟรูปมากะจะมาทำเป็นภาพรวมๆ แบบ Part 1  มารู้ตัวอีกทีก็ถล่ำไปหาภาพอย่างนั้นแล้วค่ะ 55555  มันเยอะมากกกกก  อีภาพธรรมชาติ ภาพอะไรนี่ไม่มีเลยค่ะ  จะหาก็อีกนานเลยค่ะ เพราะไรท์เอื้อยมากกกก   งั้นก็เอาภาพเขาไปก่อนล่ะกันเนอะ  ก็อบเพื่อนร่วมโลกมาค่ะ 55555



--------------------------------------------------------------------------------------



“ฉันรักนาย”

นั่นคือคำสุดท้ายก่อนเราจะจากกัน


****************************************************************************


ผมล่องหน เข้าไปสำรวจสภาที่มีฮันเตอร์เต็มไปหมดเหมือนมดที่กำลังออกันอยู่ในรังเมื่อน้ำท่วม  ในฝันเกเบรียลสงสัยว่าพวกนั้นมารวมตัวกันเพราะกำลังจะมีประชุมสภาครั้งใหญ่หรือเพราะรู้ว่ากองทัพพันธมิตรกำลังจะมาบุกที่นี้กันแน่

และพวกเขามารวมตัวกันเพราะรู้ว่าเราจะมา

ผมเลยคิดว่าในความเป็นจริงตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน

ทุกอย่างเหมือนกันไปหมด  เหมือนเหลือเกิน  จนผมกลัวว่าเรื่องของเกเบรียลจะเป็นเรื่องจริง

ผมเสียสมาธิเพราะคิดถึงเกเบรียล  ผมจะต้องล่องหนต่อไป  ควบคุมลมหายใจ  รวบรวมสมาธิและเร่งไปต่อ

ผมเจอห้องทำงานของวอลเลนด์ในที่สุด  ผมเค้นความจริงจากเขา

ไม่ได้ปราณีนัก  เพราะจำได้ว่าเขาเคยทำกับผมไว้เจ็บแสบมากเมื่อผมถูกจำมาคุมขังตอนอายุน้อยกว่านี้  ถ้าพูดในแบบมนุษย์  วอลเลนด์ก็เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์โรคจิตที่คอยทำการทดลองกับเหล่านักโทษอย่างผิดกฎหมาย

เขากับโซลเคยคิดจะใช้ผมเพื่อเป็นเครื่องมือ  แต่ผมหนีมาได้  และครั้งนี้ผมจะไม่กลายเป็นแบบนั้นอีก

ผมมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเขา

หลังจากที่ตัดหูวอลเลนด์จอมชักช้าแล้วโยนใส่โดมเก็บขวดอาถรรพ์เสร็จ  ผมก็ขู่เขาที่ร้องเสียงหลงอย่างโอดโอยต่อ

ผมต้องเข้าไปให้ได้  ทำลายโดม  และทำลายขวดอาถรรพ์นับร้อยรอบที่ช่วยให้ฮันเตอร์เหล่านั้นล่องหนได้  คนพวกนั้นจะได้ไม่เป็นอันตรายกับกองทัพพันธมิตรเมื่อเราเริ่มเปิดฉากบุก

ผมบอกให้เขาเปิดโดมได้ในที่สุด  แต่ก็ไม่ลืมกระชากตัวของวอลเลนด์ให้เข้ามาด้วย  ในความฝันเขาทำผมเสียเวลาและโมโหอยู่มากโข  แต่คราวนี้ไม่แล้ว

ผมเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเขาอยู่ใกล้มือที่ขยำคอเสื้อของเขา  ก่อนจะโยนกิ่งไม้ธรรมดาที่เขาอ้างว่าเป็นไม้กายสิทธิ์งี่เง่าออกไป

ยุคนี้ไม่มีใครใช้อีกแล้ว  บางทีอาจรวมถึงก่อนหน้านี้ด้วย  วอลเลนด์ช่างงมงายและคิดจะใช้มันหลอกผมได้

ผมกวาดขวดอาถรรพ์ทั้งหมดลงพื้นโดยที่คว้าคอเสื้อลอนเลนด์ผู้หวีดร้องไปด้วย  ดูก็รู้ว่าเขาไม่ชอบแน่ที่ผมทำแบบนั้น เขากดด่าเสียงดังกรอกหูผมและดีดดิ้นไปด้วย

แต่ผมชอบมาก

วอลเลนด์ชักเหมือนไอ้ขี้ขลาดที่ชอบคลานสี่ขามากขึ้นไปทุกที

เศษแก้วแตกกระจายอยู่รอบตัวเราเหมือนเม็ดฝน  แต่ทว่าแหลมคมกว่ามาก  มีเศษเนื้อของฮันเตอร์เกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น ผมว่ามันน่าขยะแขยงสิ้นดีกับหนึ่งในสิ่งที่วอลเลนด์แสนภาคภูมิใจว่าสามารถทำได้

ก่อนเขาจะพยายามตุ๊กติ๊กกับผม  ทำร้ายผมจนหนีออกจากเงื้อมือผมไปได้  ก่อนผมจะชักแฟบอร์นออกมาแล้วให้มันเลือกว่าจะทำอย่างไรกับเขา

มันเป็นมีดของพ่อผม  มาร์คัส  พ่อมดดำที่โหดเหี้ยมและถูกหวาดกลัวมากที่สุด  คนเขาว่ากันแบบนั้นนะ ยังไงผมก็คิดว่าเขาเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งอยู่ดี  เขารักผม  มอบของขวัญสามชิ้นให้ผมในวันเกิดอายุครบสิบสี่  ตัดหูของชายคนหนึ่งที่หวดแก้มผม

แต่มาร์คัสรักธรรมชาติ  อยู่กับมัน  เขารักสันโดษ  ที่โจษจันท์กันว่าเขาฆ่าพ่อมดแม่มดมากมายก็เพราะคนพวกนั้นพยายามจะฆ่าเขาก่อน มาร์คัสเลยจำเป็นต้องป้องกันตัว

ผมคิดว่าผมเหมือนพ่อ  เหมือนมาก  แต่ไม่จำเป็นต้องทำแบบเขา  ผมเลือกได้ เกเบรียลเป็นคนบอกผมเอง

แต่เพราะแฟบอร์นเป็นของตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น  ปู่และปู่ทวดของผมมักจจะใช้มันเพื่อฆ่า

ดังนั้นมีดของพ่อเลยชอบฆ่ามากเป็นพิเศษ  มันกระหายเลือด  อยากดื่มเลือดและอยากฆ่า

กับวอลเลนด์ก็ไม่ต่างกัน  แฟบอร์นเลือกให้เขาตาย ก่อนผมจะเดินออกมาจากห้องนั้น  ทิ้งศพเขาไว้เบื้องหลังอย่างสะใจอยู่บ้าง

ก็ได้ ผมยอมรับ  ผมสะใจมาก เขาสมควรโดนแล้ว

และคนต่อไปที่จะโดนคือโซล


.


.


.


ผมเจอเขาแล้ว  โซลรู้ว่าผมจะมาแต่ไร้การป้องกันตัวอย่างใช้ไม่ได้  ตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปหาเขาในร่างล่องหน  โซลก็กำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงที่คิดว่านั่งแล้วดูมีอำนาจของเขา  ก่อนจะเห็นว่าประตูเปิดได้เองและยามข้างนอกชะโงกหน้าโง่ๆ เข้ามาพูดว่าเขาไม่เป็นคนเปิดประตู  ก่อนโซลจะตะโกนลั่นว่าผมบุกเข้ามาแล้ว  ยามก้าวเท้าเข้ามา

แล้วผมก็ใช้แฟบอร์นจัดการกับเขา  ก่อนจะเดินเข้าไปหาโซล

เหตุการณ์ในฝันเกิดขึ้นอีกครั้ง  โซลใช้บลู มันกล่อมประสาทผม  ผมพยายามแล้วให้อยู่ห่างจากมันและไม่หลงกล  แต่ว่าก็ติดกับอยู่ดี  โซลเกลี่ยกล่อมถามผมถึงแผนการที่กองทัพพันธมิตรวางไว้ 

ผมบอกเขาไปทุกอย่าง

บัดซบจริง!

โซลถามผมว่ากองทัพจะเข้าบุกเมื่อไร  ผมได้ยินเสียงตัวเองตอบออกไปว่า

“พวกนั้นจะมาเมื่อ...” เมื่อเกเบรียลส่งสัญญาณ

ผมจะไม่บอกเขาเรื่องเกเบรียล  แม้การฝืนบลูจะทำให้เจ็บปวดก็ตาม

โซลคาดคั้นผมอีก  แต่ผมไม่ยอม   เขาทำให้ผมสามารถบอกทุกอย่างได้  แต่ผมจะไม่แบ่งปันเรื่องของเกเบรียลให้ใครทั้งนั้น  ไม่มีทาง

เขาจะต้องปลอดภัย...ปลอดภัยเท่านั้น

กระทั่งโซลใช้ลูกไม้ใหม่  เขาพาผมไปที่อีกห้องหนึ่งซึ่งเชื่อมกับห้องทำงานของเขา

ภายในห้องนั้นผมเจอแอนนาลิสอยู่ในกรงขัง  ถูกล่ามโซ่เอาไว้

ผู้หญิงที่ผมเคยรัก ก่อนเธอจะฆ่าพ่อของผม  ฆ่าคนหลายร้อยคนด้วยน้ำมือของเธอเอง

ที่หลายคนต้องตายก็เพราะเธอ

พ่อผมต้องตายก็เพราะเธอ!

เธอสมควรโดนขังกรงแล้ว!

วินาทีแรกที่เธอเห็นผม  เธอพร่ำขอโทษ  บอกว่าทั้งหมดที่เธอทำไปเธอไม่ได้ตั้งใจ

เฮอะ! ผมจะไม่มีวันเชื่อเธออีก  เธอต้องเป็นสายลับอย่างที่เกเบรียลเคยร้องเตือนผมแน่ๆ

ผมจึงไม่ฟังคำเธอ และบอกปัดอย่างตัดเยื้อใย

สายลับอย่างเธอมันโกหกทั้งเพ  เธอพยายามพูดหวานล้อมผมมากมาย   บอกว่าโซลก็เคยใช้บลูกับเธอ  แต่ผมไม่อยากเชื่อเธอ  บลูไม่ให้ผมเชื่อเธอ

ผมอยากจะฆ่าเธอเสียตอนนี้  แต่โซลอยากให้ผมออกไปข้างนอกเสียก่อน  แอนนาลิสร้องออกมาจากกรง

“ถ้าเธอทรยศพันธมิตร ก็เท่ากับทรยศเพื่อนทุกคน พวกเขาจะตายกันหมดนะ  เกเบรียลก็จะตายด้วย” ผมหันขวับไปหาเธอ

“อย่าพูดชื่อเขานะ!

โซลเหมือนไม่พอใจที่ผมอ้อยอิ่งจึงแตะแขนผม  แต่ผมปัดมันออกพร้อมคำรามใส่ “ไม่!

แล้วบลูก็เริ่มบีบรัดผมในหัว  ผมจำเป็นต้องสู้มัน  มันกำลังครอบงำผมอยู่  มันอาจทำให้ผมทรยศต่อพันธมิตรและเกเบรียลก็จะเป็นอันตราย!

ผมจึงขอความช่วยเหลือจากตัวตนที่สองของผม

แล้วมันก็มา


.


.


.


ผมในร่างสัตว์กระโจนใส่โซล เรางับคอเขาไว้  ได้ลิ้มรสเลือดในปาก  โซลแน่นิ่ง  ตายไปแล้ว

พรสวรรค์ของผมเหมือนกับพ่อ  นั่นคือการแปลงร่างเป็นสัตว์  ในบรรดาพรสวรรค์ที่พ่อส่งมอบให้ผมก่อนตายทั้งหมด  พรสวรรค์นี้คือสิ่งที่ผมชอบที่สุดเพราะผมมีมันเหมือนพ่อ  แต่ข้อเสียคือมันไม่ยอมฟังใคร  ไม่เคยฟังเลยแม้แต่ผม  เมื่ออยู่ในร่างสัตว์ผมเป็นเพียงแค่ผู้โดยสารเท่านั้น  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันยอมสงบลงเมื่อเกเบรียลมาถึง

ผมจำได้ว่าหลังฆ่าเมอร์คิวรี่ผู้ต้องการหัวใจพ่อของผมไปแล้ว  ร่างสัตว์ของผมก็ยังคงอาละวาดต่อ  กระทั่งเกเบรียลเข้ามาในห้องที่เราสู้กัน  เขาก็ย่อตัวลงนั่งลงกับพื้น  แล้วเราก็เดินไปหาเขา  นั่ง  และหมอบลงข้างเขา

แม้แต่ตัวตนอันป่าเถื่อนของผมก็ยังเชื่อฟังและจริงใจต่อเขา

หลังโซลตายแล้ว ผมก็ปรากฏตัวต่อฮันเตอร์ทั้งอาคารสภา  แล้วกองทัพพันธมิตรก็บุกเข้ามา 

ข้างล่างจึงเกิดความชุลมุนขึ้น  ผมพยายามมองหาเกเบรียลแต่หาเขาไม่เจอเลย

ผมจึงวิ่งต่อไปเพื่อตามหาเขาทีละห้อง  แต่เจอฮันเตอร์ไม่กี่คนกับตัวประกันแทน

เอลเดลเด็กฝึกหัดที่เก่งที่สุดของพันธมิตร  ถูกมัด คอของเธอก็เช่นกัน  ฮันเตอร์พวกนั้นบอกว่าเธอไม่ปล่อยให้พวกเธอหนีไป พวกเธอจะฆ่าตัวประกันให้หมด

แล้วเกเบรียลก็ถูกผลักออกมา

คิ้วผมขมวดเข้าหากัน  สีหน้าคงบ่งบอกว่ารู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นเขายืนพิงฮันเตอร์ข้างหลังเอาไว้  มีเลือดไหลออกมาจากหูของเขา  สภาพเกเบรียลดูย่ำแย่มาก  และผมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเป็นอิสระ ถ้านี่เป็นเขาจริงๆ

“พูดกับฉันสิเกเบรียล” ผมบอก “พิสูจน์ว่าเป็นนายจริงๆ”

ผมทรมานเมื่อเกเบรียลไอ  สำลักเพราะเชือกที่รัดคอเขาไว้ “นายหายไปนาน หลงทางรึเปล่า”

“บาดเจ็บ แต่ไม่หลงทาง” ผมมองเขา รู้สึกหลงทางเสียเอง

นี่คือรหัสที่เขาคิดเอาไว้เมื่อเราต้องการยืนยันกันและกัน

แล้วฮันเตอร์พวกนั้นก็กำลังจะหนีโดยเอาตัวประกันไปด้วย  ผมจะต้องรีบหยุดพวกเธอเดี๋ยวนี้เพื่อช่วยเกเบรียล เขาดูอาการไม่ดีเลย  ผมจึงทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำ

และช่วยเขาได้ในที่สุด

ผมพบว่าเขาถูกยิง  กระสุนนัดเดียว  ไม่ฝังใน  และอยู่ในจุดที่ไม่อันตราย  ผมบอกว่าเขาจะต้องรอดแน่นอนแล้วพบว่าตัวเองเคยพูดแบบนี้มาก่อน

ผมชะงักตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง

แล้วเจสซิก้าก็เข้ามาในร่างของอาร์รันที่ผมไว้ใจ
ผมรู้ในทันทีว่าไม่ใช่เขา เพราะสายตาหมายมาดร้ายกาจของเธอยังตรึงอยู่ในความทรงจำของผม และผมเกลียดเธอมาก  แต่สัญชาติญาณผมไวกว่าการยกปืนขึ้นเหนี่ยวไกของเธอ

ผมได้ยินเสียงปืนที่ยังคงไม่เกิดขึ้น  เสียงเกเบรียลเรียกชื่อผม  ผมคำรามหาอาร์รันเพื่อมารักษาเขา เสียงเกเบรียลเบาลงทุกที  ผมจับมือเขาแต่เขาไม่จับตอบ  และผมตะโกนลั่น

หลังจากนั้นเกเบรียลก็ตาย

ไม่  มันจะไม่เกิดขึ้น!

ผมได้ยินแต่เสียงหอบหายใจกับเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นเร็วและดังขึ้นทุกครั้ง

เกเบรียล

เจซสิก้าเริ่มยิงแล้ว

ผมยื่นมืออกไป ปล่อยสายฟ้าเป็นม่านรอบตัว ให้มันยาว  แผ่กว้าง และรุนแรงที่สุด 

เสียงปืนของเจซสิก้ายังคงดัง

ก่อนผมจะหมุนตัวกระโจนลงไปทับเกเบรียล  บังเขาไว้จากเจซสิก้า

ผมกอดเขา  ได้ยินเขาร้องเสียงหลงเพราะแม้แต่เขาก็หลงลืมไปว่าเครื่องรางวาเดี้ยนคุ้มครองผมอยู่

เกเบรียลกอดผมตอบ  ผมรวบมือเขาไว้  ดึงมันออกมาจากหลังแล้วกอดไว้พร้อมตัวเขาในอก

เขาร้องเรียกชื่อผมเสียงดังอยู่ไม่กี่ครั้งก่อนจะเงียบไป  แล้วตัวสั่น 

เสียงห่ากระสุนดังต่อเนื่องจนรู้ได้เลยว่าอีกไม่นานมันก็คงหมดแม็ก 

ผมได้ยินเสียงหายใจของเกเบรียล  เราแนบตัวเข้าหากัน  ก่อนผมจะรู้สึกเป็นห่วงแผลเก่าที่ถูกฮันเตอร์ทำร้ายของเขา ถึงจะไม่อันตราย แต่เขาก็ยังไม่ได้รับการรักษา

ถ้าเอากระสุนออกไม่ได้  เกเบรียลก็จะไม่หายเสียที

กระสุนฮันเตอร์กัดกร่อนและทำร้าย

เสียงปืนเงียบไปแล้ว  ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยและทุกอย่างก็เงียบ  ผมเดาว่าเจซสิก้าคงไม่เข้าใจและตกตะลึงว่าทำไมผมถึงไม่มีเลือดออก  ไม่มีแม้แต่รอยกระสุนบนหลัง  ผมหมดเวลาที่ต้องรอแล้ว

ผมจึงหันไปหาเธอ


.


.


.


เจซสิก้าโดนผมฟาดสายฟ้าใส่ครั้งใหญ่

นับไม่ถ้วน

เธอตาย  แต่ยังไม่สามสมกับที่ผมอยากให้เธอโดน  ผมเห็นเธอฆ่าเกเบรียลในฝัน...อย่างน้อยเธอก็เป็นต้นเหตุ  มันเป็นเพราะกระสุนของเธอ  แต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริง ผมก็จะโทษตัวเองด้วยที่ดูแลเขาไม่ได้ ทั้งๆ ที่เกเบรียลไม่เคยจะเดินหนีผมไปไหนเลย  เขารู้จักผมดีที่สุดมากว่าใครทั้งนั้น

ผมเดินกลับมาหาเขาที่นอนกุมแผลของตัวเองอยู่  มือเขาชุมไปด้วยเลือด  ผมเห็นเขาตัวสั่นด้วย

“เกเบรียล” ผมเรียกชื่อเขา  กอดเขาไว้บนตัก  จับมือเขาไว้แล้วบอกว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ทุกอย่างจะเรียบร้อย

อาร์รันอยู่ไหน  ผมต้องการเขา  ผมอยากให้เขาเอากระสุนออกเดี๋ยวนี้!

เกเบรียลขยำอกเสื้อของผม ในตอนที่ผมตะโกนลั่นหาอาร์รัน 

เขาไม่มาเสียที

เกเบรียลพูดบางอย่าง  เสียงเบามาก  แต่ก็รู้ว่าเป็นชื่อผม

“ทำใจดีๆ ไว้เกเบรียล  นายจะไม่เป็นอะไร  อาร์รันกำลังมาแล้ว  เขาจะช่วยนายเอง”

“อย่าไปไหน” เสียงเขาสะท้าน พูดออกมายากลำบากมากขึ้นทุกที

“ได้ ฉันจะอยู่กับนาย  จะไม่ไปไหน  ฉันสัญญา” ผมจับมือเขาไว้  นิ้วเราประสานกัน แต่ครั้งนี้เกเบรียลแทบไม่มีแรงจับตอบผม  ไม่บอกก็รู้ว่ากระสุนฮันเตอร์กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่  นั่นคือกัดกินและทำลาย  เกเบรียลมีความอดทน  แต่เขาทนตลอดไปไม่ได้แน่

ผมยังคงตะโกนเรียกอาร์รันต่อไป

และในที่สุดอาร์รันก็มา

เขาได้ช่วยชีวิตและจิตวิญญาณของผมไว้  ด้วยการช่วยเกเบรียล  ผมขอบคุณอาร์รัน  ขอบคุณเขาเยอะมาก

เกเบรียลรอดแล้วในที่สุด

และเขาไม่ตาย


.


.


.


ผมตัดสินใจแล้ว หลังจากเกเบรียลอาการดีขึ้นผมจะบอกเขา  บอกเขาถึงฝันแย่ๆ ที่กลัวว่ามันจะกลายเป็นนิมิตของผม 

และเมื่อเขาหายดีแล้ว   เราจะไปหาที่สวยๆ ใกล้แม่น้ำเพื่ออยู่ด้วยกัน

อยู่ที่นั่น เราจะปีนเขา  ว่ายน้ำ  หยอกล้อ  จูบกัน  กอดกัน  และทำอะไรกันอีกมากมายอย่างที่เราต้องการ  ผมเชื่อว่าเราจะมีความสุขกันมาก

ผมจะกลายเป็นคนใหม่  ยังคงเป็นนาทานคนเดิมของใครหลายๆ คน แต่ผมจะดีขึ้น  ไม่ทำตัวร้ายกาจและป่าเถื่อนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว  ผมจะกลายเป็นคนมีเหตุผล  รู้จักคิดมากกว่าที่เคยเป็น  ผมไม่ต้องการให้ใครต้องคอยเป็นห่วงผมหรือดูแลผม  ต่อไปผมจะคอยดูแลเขาเอง

ต่อไปนี้เกเบรียลจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม

ความฝันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผมหลีกเลี่ยงมัน  แต่มันช่วยเตือนใจผม  มันบอกว่าสักวันหนึ่งไม่ว่าใครก็ต้องตาม  ไม่เขาหรือผม  เราฝืนความตายไม่ได้  แม้แต่มาร์คัสพ่อของผม พ่อมดดำที่โหดเหี้ยมและแข็งแกร่งที่สุดที่ใครๆ ก็พูดกัน  แม้แต่เขาก็ยังตายได้

แต่เมื่อถึงวันนั้นแล้ว  เมื่อเวลาของเรามาถึง  ผมจะตายเมื่ออยู่กับเขา  ผมจะกอดขาไว้  จูบเขา แล้วบอกว่ารักเขามากแค่ไหน

แต่ถ้าหากเกเบรียลตาย  ผมจะขุดหลุมฝังศพให้เขาที่ริมแม่น้ำของเรา  และผมจะกลายเป็นต้นเฮเซลที่เหมาะกับเขา  เชื่อมโยงกับเขา  แล้วอยู่กับเขาไปตลอดกาล

ผมว่านั้นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว  ผมกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้

ผมดีใจมากที่เราไม่เอาชีวิตไปทิ้งในภารกิจครั้งสุดท้าย  ผมจะได้มีความสุขและใช้ชีวิตเรียบง่ายกับเกเบรียลอย่างที่ตั้งใจไว้เสียที

ความตายอาจมาหาเราในอีกห้าสิบ  ร้อย  หรือสองร้อยปี 

แต่มันยังไม่ใช่วันนี้  ไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ

เพราะมืออุ่นๆ ที่กระชับตอบผม บอกผมไว้ว่าอย่างนั้น



.



.



.



FIN.



---------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!  จบแล้วววว  จบแล้ว! จบแบสวยงามด้วยค่ะ  อร๊ายๆๆๆๆๆ >///<  //ดิ้นตกเก้าอี้//  และแล้วความเป็นจริงอันโหดร้ายก็ทำร้ายเราไม่ได้ค่ะรีดๆ ขา!!!  55555  ไรท์ไม่ต้องการอะไรมาก  แค่ไม่อยากให้คนที่ได้เห็นจุดจบเดียวกับไรท์ได้ผ่อนคลายเมื่อได้มาอ่านตอนจบนี้ค่ะ  ฮือออออ  พวกเขาไม่ตายค่ะรีดขา ไม่ตายยยยยยย!!!   ไม่ตายแล้วววว  //โดนรีดตบสวน โทษฐานบ้าเกินไป//

ก็เรื่องของสองคนนี้ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้นะคะ  ยังมีตอนพิเศษอีกค่ะ  เป็น Nc แบบจัดเต็มอย่างที่ไรท์ชอบบบบ เฮื้อออ 5555555555!!   มันจะไม่มีแค่คำว่า ร่วมรัก อย่างในเล่มอีกแล้วค่ะ! 5555!!

มันจะบรรยาให้เห็นเป็นฉากๆ เลยค่ะ 555555  คือกระหายเขียนปั่น Nc มาตั้งแต่เมื่อสองเดือนที่แล้วแล้วค่ะ  แต่ว่าไม่มีวโรกาสในการเขียน ฮา-ฮาาา  

รอติดตามชมเรื่องต่อไปกันนะคะ  ไม่นานเกินรอค่าาา  กดไลค์เพจ FanFictions Hollywood TH ไว้นะคะ  พอเรื่องใหม่มาแล้วจะได้ไม่ตกข่าว  จิ้มเข้าไปอ่านความฟินกันอีกค่ะ ><   อ๊ากกกกกก  นาทานแกจะทำอะไรแกบบี้น้อยของฉันกันน้าา  //อมยิ้มมองบน อ่อนต่อโลก// + //ถุ้ย!// 5555555

ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ  สำหรับวันนี้ สุขสันต์สวัสดี  แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าค่าาา  //ก้มกราบ//

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund





วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ตอนจบใหม่ของ Half Lose ! เกเบรียลไม่ตาย Part 1





//นี่คือรูปในอุดมคติของไรท์ค่ะ (อิก...คิก  กิ๊ก กิ๊วววว >///<) เกเบรียลน้อยหนุ่มผมยาวชาวฝรั่งเศษ และนาทานหนุ่มเเบดบอยและพ่อมดคนสำคัญของเราค่าาา//

ตอนจบใหม่ของพ่อมดพ่ายค่ะเรื่องนี้ไม่มีชื่อเองค่ะ ไรท์ยังคิดไม่ออก! (อ้าว 55555)  แต่ว่าทนไม่ไหวแล้วค่ะ จะต้องปลอบใจตัวเองและผู้ร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ ที่ถูกหลอกให้อ่านตอนจบค่ะ  ฮืออออ TUT  พูดแล้วเศร้ามากเลยค่ะ

งั้นไรท์พูดเลยล่ะกันนะคะ  สำหรับส่วนมากที่เข้ามาอ่านคงจะได้เห็นตอนจบของเรื่องกันแล้ว  เกเบรียล (แฟนของนาทาน) ตายค่ะ!!!! 

เขาตาย!

เขาตาย!!

เขาตายยย!!!

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ฮือ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  //จิกหัวตัวเอง//

เอ่อ พอแล้ว  พอแล้วแก...รีแอ็คชั่นเยอะมากเกินไปและ -*-  อ่า แฮ่ๆ ก็นะคะ  ไรท์ห่างหายจากการลงฟิคไปอยู่นานเลย  เป็นเพราะว่าการเรียนช่วงนี้ทิ้งไม่ได้เลยค่ะ TUT  เลยต้องเดินหน้ากู้ชีวิตและเกรดตัวเองไปก่อน  แต่พอ Half Lost ออกมาวางขายปุ๊บนางนี่ก็สปริตสูงเลยค่าา  สั่งซื้อจากกรุงเทพให้เขามาส่งถึงบ้านเลยค่า 55555

พอมาถึง  แกะอ่านอย่างสะใจ!!  (ตรูได้หนังสือมาแล้วในที่สุด!) แล้วพอเจอตอนจบไรท์ถึงกับพูดไม่ออกไปเลยค่ะ  ช็อคจนร้องไห้ไม่ออก  ช็อคจนตาลายเลยค่ะ  โอ๊ยยยยย  นอนไม่หลับไปหลายคืนเลยค่ะ  ฉากจบมันหลอกหลอน  สะเทือนใจเหลือเกินค่ะ  ไรท์เลยคิดว่า ไม่ได้แล้ว! ในเมื่อมีคนอ่านเหมือนฉัน ก็ต้องเป็นเหมือนฉันเหมือนกัน!!  และฉันก็ทนไม่ได้ด้วยที่จะรู้สึกว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ TwT

เลยคิดว่าต้องเขียนตอนจบเสียใหม่เพื่อปลอบใจตัวเองและคนอื่นๆ ที่แวะเข้ามาค่ะ

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าภาษาอาจจะต่างจากที่ไรท์เขียนไปบ้าง  แต่ว่าก็เพื่อให้เหมือนในหนังสือมากที่สุดและคนที่อ่านจะได้รู้สึกว่ามันเป็นตอนจบของหนังสือจริงๆ

และสำหรับรีดๆ ของไรท์  ไรท์ต้องขอบอกก่อนเลยว่าหนังสือเรื่องนี้ที่ไรท์ยกมาเขียนเป็นแฟนฟิคของตัวเองนั้น เนื้อเรื่องไม่ได้โลกสวย แต่ค่อนข้างจริงจัง และ เอิ่ม แบบว่า....นี่แหละความจริงของชีวิต!   ใช่ค่ะ ประมาณนั้นเลย  เป็นนิยายเยาวชนชั้นผู้ใหญ่ 5555  แบบว่าพวกที่ 18 up อะไรประมาณนั้น่ะค่ะ

หนังสือเรื่องนี่ดีนะคะ  มันเป็นการต่อสู้  ลุ้นระทึก และมีความรักร่วมเพศระหว่างพระเอกของเรา...นาทาน  และเพื่อนรัก (ที่ผันตัวมาเป็นคนรัก) ของเขา...เกเบรียล ค่ะ  ทุกอย่างในเรื่องดีมาก (เพราะมันวาย)  ยกเว้นตอนจบที่มันปวดใจค่ะ   ไรท์เลยต้องปัดฝุ่นคีย์บอร์ดแล้วเขียนฟิคอีกครั้งหนึ่งค่ะ ฮ่อลลลลล  เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปอ่านกันเลยนะคะ >//<  โป่วววว ไปกันโล้ดดดด





-------------------------------------------------------------------------------------



ผมหอบหายใจถี่

ผมพยายามแล้ว  ผมช่วยเขาไว้ไม่ได้

ถึงแม้ผมจะทำพลาด  เสียท่าให้วอลเลนด์เล็กน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ  และถูกบลูของโซลเข้าครอบงำ  แต่มันควรไม่มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับเขา

เกเบรียลไม่น่าต้องตาย

หน้าที่ของเขาเพียงแค่ต้องแฝงตัวไปกับฮันเตอร์และคอยส่งสัญญาณให้ซีเลียกับกองทัพพันธมิตรบุกเข้ามาเมือถึงเวลา

แต่เขาโดนจับได้

ผมมองเขา นึกหวั่นใจกับตัวเองลึกๆ และโกรธตัวเองที่คิดแบบนั้น  ผมควรต้องมีสมาธิกับการช่วยเค้าสิ  ไม่ใช่หวาดกลัวแบบนี้  แต่หัวใจบีบรัดมากกว่าสมองที่กำลังทำงาน  มันแทบไม่ประมวลผลเลยเมื่อเห็นเกเบรียลยืนตัวงอแล้วมองมาทางผมโดยมีปืนของฮันเตอร์จ่อขมับ  เบื้องหลังของเขาคือฮันเตอร์หลายคนที่พร้อมจะฆ่าใครก็ตาม แม้แต่เขา

แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น  เจสซิก้าเข้ามา  เธอปลอมตัวเป็นอาร์รัน เมื่อผมตะโกนเรียกหาเขาให้มารักษาเกเบรียล  เธอยิงผม  หวังให้ผมตาย  แต่เครื่องรางที่อยู่ไกลแสนไกลช่วยผมไว้

เครื่องรางแสนล้ำค่าที่มาจากเกเบรียล  มันช่วยผมไว้ได้

เขาช่วยผมไว้

แต่ผมช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย

ไม่ได้อีกแล้ว

ผมพยายามแล้ว  พยายามแล้วจริงๆ

แต่กระสุนก็แฉลบโดนเข้าที่อกข้างซ้ายของเกเบรียล

และเขาก็ตาย


*************************************************************

ผมรู้สึกเหมือนลอยอยู่ในห่วงอันมืดมิด  รู้สึกว่าตัวไม่ได้สัมผัสกับอะไรทั้งสิ้นในขณะที่หลับตาสนิท  ผมไม่อยากตื่นเลย  อย่างน้อยก็ตอนนี้  แต่แล้วผมกลับได้ยินเสียง  เสียงเรียกที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งผมมองไม่เห็น  แต่ผมรู้ว่าจะตามเสียงนั้นไปไม่ว่าจะยังอยากอยู่ที่นี่ต่อก็ตาม

เสียงที่ผมไม่เคยปฏิเสธและต้องการได้ยินอยู่ทุกวันไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม

“นาทาน” เสียงนั้นเรียกอีก  มันชัดเจนขึ้น

เป็นเสียงของเขาจริงๆ

ผมสะดุ้ง  ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเกเบรียลจ้องมองผมอยู่ด้วยสีหน้ากังวล

“นาทาน เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม สีหน้ากังวลอีก “ฝันร้ายเหรอ” 

เขาดูงดงาม  งดงามมากยิ่งกว่าครั้งไหนที่ผมมองเขา  แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาในช่องที่เราใช้ดูดาวตอนตอนกลางคืนด้วยกัน  แต่ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่  เสียงนกร้อง ใบไม้และเสียงลม  แสงแดด  ทุกอย่างสมบรูณ์แบบ  โดยเฉพาะเขาที่อยู่ตรงหน้าผม  แสงอาทิตย์สาดลงบนใบหน้าเสี้ยวหนึ่งของเกเบรียล  สามเหลี่ยมในดวงตาเขากลิ้งไปมาสม่ำเสมอ เหมือนลอยออกมาจากดวงตาของเขาได้เมื่อแสงส่องกระทบ

ตัวของเกเบรียลเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับผม  ผมยันตัวขึ้นมาด้วยแขนข้างเดียว  มองเขาแล้วหายใจหอบถี่ก่อนจะคว้าตัวเขาเข้ามากอดไว้

“ไม่มีอะไร” ผมบอก “ฉันแค่ฝันไม่ดี”

ผมไม่ได้บอกว่าฝันร้าย  เพราะกำลังตำหนิตัวเองที่ฝันแบบนั้นไปได้ยังไง  เขาอยู่ตรงนี้กับผมแล้ว  อยู่ตรงนี้กับผม

เกเบรียลยังไม่ตาย

การได้สัมผัสความอบอุ่นจากตัวเขาทำให้ผมสงบลงเพราะรู้ว่าแม้แต่ความฝันก็ไม่เหมือนจริงเท่านี้  ผมยังมีเขาอยู่

เกเบรียลไม่ได้พูดอะไรต่อ  เพียงแค่กอดตอบผม  เหมือนปลอบโยนมากกว่า  ผมไม่แน่ใจว่าเขาเคยเห็นผมตื่นขึ้นมาจากความฝันแล้วมีท่าทีแบบนี้ไหม  แต่เขาไม่เคยต้องกอดปลอบผมหลังตื่นจากฝันเลย

ผ่านไปสักพักหนึ่ง  เราไม่ได้พูดอะไรกัน  ผมกำลังซึมซับความอบอุ่น อ่อนโยนของเขา  ตัวเขา  และเสียงหัวใจเต้นของเขา

ในที่สุดเขาก็พูด “นายโอเคนะ” เกเบรียลดึงตัวออกอย่างอ่อนโยนเช่นเคย  ใช้สายตาสำรวจผม  ดูเหมือนผมทำให้เขาเป็นห่วง  มือเกเบรียลเตะไหล่ผม  มันเปลี่ยนเป็นเย็นเมื่อเลือดที่สูบฉีดในตัวของผมทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น  ดีจัง  ผมรู้สึกดีมาก  มือเย็นๆ ของเขาทำให้ผมสงบลงได้อีกครั้ง  หัวใจผมเต้นช้าลงจากถี่รัว

ผมไม่ตอบ  แต่จับมือของเขาไว้  ยกมันขึ้นมาจูบแล้วนำไปแนบบนหัวใจ  ผมรู้สึกว่ามันเต้นเป็นปรกติแต่หนักหน่วงกว่า

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก  ไม่ได้ถามเพราะรู้ว่าผมจะไม่ยอมตอบ  ผมจะบอกเขาก็ต่อเมื่ออยากบอกเอง  ผมจูบเขาที่ปากและแก้ม  ก่อนเราจะจูบกับอีกครั้งแล้วเกบรียลก็กล่อมให้ผมออกจากรังพร้อมกับเขาสำเร็จได้ไม่ยากเย็นนัก

เราวิ่งด้วยกัน  ปีนเขา  เกเบรียลชวนผมว่ายน้ำช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนเราจะกลับมาที่ค่ายแล้วเริ่มฝึก

พรุ่งนี้ผม  เกเบรียล  และซีเลียจะต้องเดินหน้าเพื่อเริ่มทำภารกิจ  เราคือแนวหน้า

นั่นทำผมตัวสั่น  เมื่อความฝันนั้นทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นนิมิตทั้งๆ ที่ความจริงไม่ใช่  ไม่ใช่เลยมันก็เป็นแค่ความฝัน  แต่พรุ่งนี้ผมจะเข้าทำลายสภาของโซลและผิดพลาด  ทำให้เกเบรียลตาย

ผมยืนนิ่งอยู่กับตัวเอง  ไม่! มันต้องไม่เป็นอย่างนั้นสิ  มันไม่ใช่นิมิต  ความฝันนั้นจะไม่มีวันเป็นจริงหรอกน่า! ผมบอก อาจกลายเป็นกดด่าตัวเองในใจ  ไม่ว่ายังไงก็สลัดภาพที่เห็นในความฝันออกไปไม่ได้เลย  เหมือนตอนที่ภาพของแอนนาลิสและพ่อตามหลอกหลอนผม  แต่ตอนนี้มันหนักหนากว่า  หนักกว่ามากเพราะเกเบรียลเป็นเพียงคนเดียวที่ผมต้องการ  ผมรักเขา  เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของผมในตอนนี้และผมรู้ด้วยว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป

ตอนนี้ผมไม่ต้องการใครอีกแล้ว

กระทั่งผมรู้สึกถึงคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง  ทาบฝ่ามือลงบนแผ่นหลังผมแล้วเอ่ยเสียงที่ผมชอบฟัง

“มีเด็กฝึกหัดเตะโดนหน้านายแล้วทำให้นายมึนไปชั่วขณะเหรอ” เกเบรียลเล่นมุข  เขายิ้มตอบเมื่อผมยิ้มกับคำพูดของเขา  ใครๆ ก็รู้ดีว่าแม้แต่เด็กฝึกหัดทุกคนในค่ายรวมกันก็ไม่สามารถทำอะไรผมได้  แต่ผมรู้ว่าอย่างไรเขาก็เป็นห่วงผม  เพราะเขาทำเสียงแบบนั้นจริง

“ใช่” ผมตอบ “แต่ไม่ต้องห่วงนะฉันจัดการฆ่าเขาแล้ว” และไม่ยอมแพ้เขาที่เล่นมุขด้วยเหมือนกัน  ส่วนหนึ่งผมอยากทำให้เกเบรียลสบายใจ ว่าผมไม่ได้เป็นอะไร  แต่ผมก็รู้ว่าเขาจะไม่เชื่อ  เกเบรียลเก่งเสมอในเรื่องของผม

วันทั้งวันผ่านไปด้วยการฝึกไปตามแบบจำลองอาคารสภา  และนั่งดูเด็กฝึกหัดสู้กัน  ผมนั่งดูพวกเขาเงียบๆ แนะนำพวกเขาว่าควรทำอะไรเมื่อผมเจอช่องโหวที่ทุกคนพลาด  เกเบรียลอยู่ที่นั่นกับผมด้วย  นั่นจึงทำให้ผมวางใจและไม่ออกเดินไปไหนมาไหนเพื่อตามหาเขา 

เกเบรียลกำลังแนะเด็กฝึกหัดเช่นเดียวกับผม  แต่เขาดูมีชีวิตชีวา  ใจดี  และมีความสุขกว่าผมมาก 

ผมอาจเป็นคนที่มีความทุกข์มากเกินไปหน่อย

บางทีเมื่อสงครามจบลงแล้วผมควรมีความสุขเสียที

เมื่อได้อยู่กับเขาเพียงสองคนในสถานที่แสนสวยงามอย่างที่เคยเห็นในนิมิต

ผมจะได้อยู่กับเขาตลอดไปแน่ๆ ผมมั่นใจ

แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงกังวลกับความตายของเกเบรียลที่ผมเห็นในความฝัน

ในตอนกลางคืน เราประชุมกันที่กองไฟ  เกรโตเรกซ์และซีเลียทบทวนแผนการ  ปลุกใจ  และไม่ลืมกำชับเด็กฝึกหัดทุกคนเรื่องความปลอดภัย  พอถึงตรงนี้ซีเลียกับเกรโตเกรซ์ก็หันมามองหน้าผมอย่างพร้อมเพรียงกัน

จากนั้นเราก็นั่งอยู่ที่กองไฟครู่หนึ่ง  ผมจำเด็กฝึกหัดที่พูดเรื่องของผมในแบบจำลองคืนนั้นได้  พวกเขาไม่สบตาผม  ไม่กล้ามองหน้าด้วยซ้ำ  มีผู้กล้าเพียงสองคนที่เงยหน้ามามองผม ดูว่าผมจ้องพวกเขาอยู่หรือไม่  ก่อนจะเงียบกริบแล้วหลบสายตาทันที

ผมมองพวกเขาอยู่
เกเบรียลกระทุ้งแขนผมเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่เอาน่า  นายจะทำพวกเขาเสียขวัญก่อนวันออกรบนะ” ไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นมุขอีกไหม  แต่ไม่ได้ตำหนิผมแน่นอน  เกเบรียลชอบบอกให้ผมเลิกสนใจพวกเขาและคำพูดงี่เง่าของพวกเขาไปซะ

ก็ได้ ผมจะไม่สนใจ

ผมมองมือของเขา  จับมือซ้ายของเขาขึ้นมาแล้วลูบแหวนที่ผมให้  ผมมองดูมัน  เปลวไฟทำให้สีทองบนแหวนเต้นไปมาเหมือนมีชีวิต  ผมชอบที่มันอยู่บนนิ้วของเกเบรียล  ผมเปลี่ยนมาเป็นจับใต้ฝ่ามือเขา  สอดประสานนิ้วด้วยกันแล้วหมุนแหวนของพ่อด้วยบนนิ้วเกเบรียลด้วยนิ้วโป้งของผม

ไม่บอกก็รู้ว่าพวกเด็กฝึกหัดทั้งหลายกำลังมองเราอยู่  แต่ผมไม่สนใจ  เกเบรียลบอกผมเอง  และผมอยากอยู่กับเขาอย่างนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่เราจะต้องไปกันเลย  แต่ทว่าผมรู้สึกว่าเกเบรียลจับมือตอบผม  เขากำมือไว้ ไม่แน่น  และมองหน้าผมราวกับจะบอกว่าหลายคนกำลังมองเราอยู่

เกเบรียลรู้วิธีอยู่เข้ากับสังคม  ซึ่งผมไม่มีเลย อาจถึงขั้นติดลบด้วยซ้ำ

ผมเห็นเด็กกลุ่มเดิมมองมาที่เรา  คราวนี้พวกเขาไม่ก้มหน้าเพราะมัวแต่มองมือของเรา  ผมขมับมือเข้ามาหาตัว จ้องพวกนั้นแล้วเราก็สบตากันในที่สุด  ผมทำแววตาร้ายกาจเหมือนสัตว์ป่าใส่พวกเขา

เป็นแววตาที่หวงแหนและอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย  ก่อนจะลุกขึ้นดึงมือเกเบรียลไปด้วย  ผมพาเราออกจากพื้นที่ชมชุนแล้วกลับมาที่รังที่ผมสร้าง

สร้างให้เรา

ผมไม่ชอบผู้คนจอแจ  แต่น่าแปลกเมื่ออยู่กับเกเบรียลซึ่งเขาพูดเก่งยิ่งกว่าใครที่ผมเคยพบมายกเว้นเนบิสต์ ผมกลับรู้สึกสงบใจ  ทุกอย่างบนโลกยังคงหมุนไปแต่ผมไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องรอบตัวพวกนั้นแล้วเมื่อมีเกเบรียล  เขาทำให้ผมอุ่นใจและรู้สึกดีเหมือนธรรมชาติ

เรานั่งกันอยู่ในรังแล้ว  แต่ไม่ได้ก่อไฟ  คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง  ทำให้ผมเห็นเขาได้อย่างชัดเจน  เขาเองก็เช่นกัน

เกเบรียลเงยหน้ามองผม  ผมรู้ว่าเขาสังเกตเห็นสายตาที่ผมมองเด็กฝึกหัดอย่างคุกคามเมื่อครู่นี้

“นายกำลังทำให้คนอื่นคิดว่านายเป็นอย่างที่เขาพูดกันจริงนะนาทาน” เขาเตือนผม  แต่ผมไม่สนใจ

อ่า ดีจังที่ได้ฟังเสียงเขาพูดอีก  ตอนนี้ผมยอมรับว่าความฝันกำลังหลอกหลอนผม อย่างที่เป็นมาทั้งวัน

ผมอยากได้ยินเสียงของเขาอีก

“ฉันไม่สน” ผมตอบเขา  สายตามองเกเบรียลไม่ละไปแม้สักวินาที  เมื่อเวลาออกทำภารกิจใกล้มาถึงและมันทำให้ผมรู้สึกทั้งกลัวทั้งกังวลมากขึ้น  ผมจับมือเขา  เกเบรียลจับตอบแต่ไม่ได้พูดถึงมัน

“เราจะต้องไปกับซีเลียเมื่อไร” ธรรมดาเขาจะเป็นคนที่รู้เรื่องลำดับพิธีการมากกว่าผม เพราะเขาเข้าประชุม  แต่เรื่องนี้ซีเลียคุยกับผมในตอนที่เราหารือกันแค่สองคนเมื่อวานนี้

“อีกไม่นาน” เธอบอกผมเองว่ามันคือเวลาไหนและตอนนี้เหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว  แต่ผมเลือกจะไม่สนใจมันไปก่อน  ผมแค่อยากฟังเสียงของเกเบรียลและสัมผัสเขา  รับรู้ว่าเขายังอยู่กับผมและเป็นของผม

“งั้นเราควรเตรียมตัว...” ผมใช้มืออีกข้างแตะไปบนใบหน้าเขา  ไล่นิ้วไปบนคิ้วของเขา  เปลือกตาที่หลุบปิดเมื่อนิ้วมือของผมไล่ต่ำไปหามัน  แก้ม  จมูก  และสุดท้ายนิ้วโป้งของผมเกลี่ยริมฝีปากของเขา นิ้วมือที่เหลือคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม

ผมโน้มตัวจูบเขา  ใช้มือข้างเดิมประคองใบหน้าเกเบรียลไว้  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสองข้างและจูบเขามากกว่าเดิม  ผมรู้เขาคงจะสงสัย ต้องสงสัยแน่ๆ  แต่ก็ยอมจูบตอบผมแต่โดยดี    ผมได้ยินเสียงหัวใจอีกดวงที่ไม่ใช่ของผม มันเต้นหนักหน่วงจนรู้สึกได้เมื่ออกเราสัมผัสกัน

เราจูบกันเนินนาน  และเกือบร้อนแรงเพราะเกเบรียลมีความสงสัยผมมากกว่า

เราผละออกจากกัน  ความรู้สึกดีและปลอดภัยถาโถมมาหาผมเมื่อสัมผัสเขาอย่างใกล้ชิด

เกเบรียลจับท้ายทอยผม  โอบมือรอบมัน นวดวนเบาๆ แล้วถามผมว่า “นายอยากจะพูดอะไรกับฉันไหม อย่างน้อยก็ตอนนี้ก่อนที่เราจะไปกัน...นาทาน” เขาเรียกชื่อผมขัดประโยคตัวเองเสียเอง เมื่อผมไม่ได้ฟังเขา  แต่ก้มลงจูบคอเขา และใช้มือลูบเข้าไปใต้เสื้อยืดของเกเบรียลแล้วเลิกมันขึ้นมา

“นาทาน” เกเบรียลเรียกชื่อผมอีกครั้งในตอนที่เสื้อของเขาถูกเลิกขึ้นจนหมดแล้วผมกอดร่างของเขาอย่างหวงแหนและคิดถึง  ผมพรมจูบไปทั่วลำคอของเขา

“ฉันจะไม่ถามนายว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่เห็นทีว่าฉันคงต้องถามแล้ว”

ผมดึงเสื้อเขาออกมาจากคออย่างแรง ไม่ว่าเขาจะยอมหรือไม่  แต่เกเบรียลไม่ได้แสดงออกว่าขัดขืน

“ได้ ฉันจะบอกนาย” ผมไม่อยากทำเขาไม่พอใจจึงตอบออกไป

“เรื่องอะไร” เกเบรียลถามเสียเลยตรงนั้น แต่ผมยังไม่อยากบอกเขาเลยตอนนี้อย่างน้อยก็รอให้เรื่องทั้งหมดผ่านไปก่อน  ผมเชื่อว่าเขาจะอยู่กับผมจนกระทั่งเรื่องจบจริงๆ

“มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฉัน” แน่นนอนสิ  เรื่องของเขานั้นสำคัญ

เกเบรียลจ้องผมตอบตรงๆ ด้วยสายตาอยากรู้อย่างยิ่ง  เหมือนตำหนิผมด้วยที่ไม่บอกเรื่องสำคัญให้เขารู้ก่อน

แต่ว่ามันไม่สำคัญสำหรับตอนนี้แล้ว  ผมต้องการมีเขา และรู้ว่าเขายินดีที่จะอยู่ข้างผมตลอดไป

ผมไม่คิดจะบอกเกเบรียลตอนนี้  เขาจึงจูบผม มือทาบใบหน้าผมทั้งสองข้าง  มันเป็นจูบแห่งความจริงใจและวิตกกังวล  ผมไม่ชอบเห็นเขาเป็นแบบนี้เลย

“มันคือเรื่องอะไรนาทาน” เขาบอก “ได้โปรด บอกฉันเถอะ” เกเบรียลขอร้อง  เหมือนจะร้องไห้  ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงผมมากว่าที่เป็นห่วงตัวเองเสียอีก  แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงเขามากกว่าหลายเท่านัก

ผมประคองใบหน้าเขาตอบ  ใช้นิ้วลูบไปบนผิวหน้าละเอียดนั้น “แน่นอนฉันจะบอกนาย  แต่หลังจากที่เราเข้ายึดสภาและฆ่าวอลเลนด์  โซล  กับเจสซิก้าได้แล้วเสียก่อน” ผมพูด “ฉันจะบอกนาย”

“บอกตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ” ผมยิ่งทำเขาอยากรู้

“ไม่ มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฉันตอนนี้ และคิดว่าคงจะสำคัญที่สุดตลอดไป” เกเบรียลปล่อยมือจากแก้มผมแล้วมาทาบทับมือของผมแทน “ฉันจะเล่าให้นายฟังเป็นคนแรก แต่นายต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่เป็นอะไร  ไม่ทำตัวโง่ๆ อย่างการช่วยคนอื่นนอกจากตัวเอง  แล้วอยู่รอดเพื่อรอฟังมันจากฉันนะ”

“เห็นทีฉันคงจะทำไม่ได้ซะล่ะ” เขาดึงมือผมออกจากแก้มเขา  และเป็นผมเองที่ทำหน้าวิตกกังวล  หลายครั้ง...ไม่สิ  ทุกครั้งเกเบรียลมักเป็นคนดีเกินไป “ถ้าฉันไม่ช่วยนายแล้วใครจะช่วยนายล่ะ”

ผมยิ้ม  ยอมรับว่ามันเป็นคำหวานมากกว่ามุข  เขายิ้มตามผมเหมือนห้ามตัวเองไม่ได้

“แม้แต่ฉันก็ห้ามช่วยถ้านั่นมันอาจทำให้นายเสี่ยงอันตราย  อย่าลืมสิว่าฉันมีเครื่องรางของนาย”

ของแม่ฉัน  และฉันไม่คิดว่ามันเป็นของฉันนะเพราะเลดเจอร์มีอีกครึ่งหนึ่ง  และเขาเป็นคนที่ทำให้มันใช้ได้

“สัญญากับฉันสักเรื่องหนึ่งสิเกเบรียล”

เขานิ่ง มองตาผม  และพร้อมรับฟังเสมอ

“อยู่เพื่อฉัน” ผมบอกเขา “อย่าจากฉันไปไหน  อยู่รอดเพื่อฉัน” แล้วสอดนิ้วประสานมือข้างที่เกเบรียลสวมแหวนก่อนจะนำมาทาบหัวใจอีกครั้ง “ถ้านายไม่ทำแบบนั้น ฉันจะตายไปกับนายแน่” ผมพูดคำหวานไม่เป็น  สิ่งที่พูดออกไปจึงจริงจังเป็นอย่างยิ่ง

เกเบรียลนิ่งไปอีก  แต่ผมมั่นใจว่าเห็นดวงตาเขามีน้ำตาคลอ  เขาเองก็รู้ว่าผมไม่ได้โกหกและจริงจังแค่ไหน

ก่อนเขาจะยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็ดีสิ” ผมรู้มีหลายครั้งที่เขาหมั่นไส้ผมจนอยากจะฆ่าผมให้ตาย  แต่นอกจากรอยยิ้มและน้ำตาแล้วเขาก็จูบผม  โถมตัวเข้ากอดผมแล้วผมก็กอดเขา แต่เร้าร้อนกว่า  ลูบไล้ไปทั่วทุกที่เพื่อจดจำและรำลึกถึง

เขาจะเป็นของผมตลอดไป  แม้แต่ความตายก็พรากเราจากกันไม่ได้

เราร่วมรักกัน  ในรังที่ไม่มีใครเข้ามากร่ำกราย  ผมเผลอตัวทำรุนแรงเพราะมีความรู้สึกที่แรงกล้าและตื่นเต้นเกิน ไปหน่อย  แต่เกเบรียลไม่บ่นผม  เขาทำเสียงหวั่นไหวแต่ก็อ่อนโยนไปด้วยสำหรับผม

คืนนั้นเราเคลื่อนตัว  โยกกายไปพร้อมกันเหมือนอยู่บนเรือที่เจอคลื่นพายุ  หัวใจเราเต้นหนักเป็นจังหวะเดียวกัน  ผมซ้อนอยู่ด้านหลังของเกเบรียล  กอดเขาไว้ขณะตัวเราติดกัน  ผมเอื้อมมือไปประสานนิ้วข้างที่สวมแหวนของเขาอีกครั้ง  ดูเหมือนเกเบรียลเองก็ชอบที่ผมทำแบบนั้น ก่อนจะหันมาจูบกับผม

เรากอดกัน  เกเบรียลหลับไป แต่ผมเปล่า  เรายังมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาออกเดินทาง  ผมนอนมองเขาในแสงจันทร์และดวงดาวที่สว่างไสว  จดจำทุกอย่างของเขา แม้ผมจะรู้ว่าความฝันทำอะไรเราไม่ได้...มันก็เป็นแค่ฝันร้าย  แต่ผมก็ห้ามตัวเองไม่ให้คำนึงได้เลยว่ามีสิ่งล้ำค่าที่สุดในโลกอยู่ในมือแล้ว

อยู่ข้างตัวผม และเขาไม่เคยห่างไปไหนเลย

ผมมองเขาอยู่นานเท่าที่เวลาอันน้อยนิดจะเอื้ออำนวย  ผมไม่ได้ต้องการแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ต้องการทั้งชีวิตเพื่อมองเขาและอยู่กับเขา   ผมยังอยากมองเขาอีก แต่เราหมดเวลาแล้ว

“เกเบรียล” ผมจึงเรียกเขาอย่างแผ่วเบา  ยอมรับว่าไม่อยากให้เขาตื่นแล้วจากไปเพียงคนเดียว  แต่ผมรู้ว่าเขาจะต้องตามไปแน่  และก็โกรธผมด้วย

ผมเรียกเขาหลายครั้ง พยายามทำเสียงให้ดังขึ้น แตะเขาเบาๆ  และแล้วเกเบรียลก็ยอมตื่น  ผมบอกเขาว่า “ได้เวลาแล้ว”  เราเตรียมตัวแล้วก็ออกไปหาซีเลีย

เราสามคนเข้าช่องเปิดไปที่ๆ เราต้องไป

แล้วผมก็เริ่มประหลาดใจว่าทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นถึงเหมือนกับในความฝันเมื่อคืนนัก

ผมเข้าไปในห้องที่ต้องบอกรหัสลับพร้อมกับไขกุญแจ  ผมเจอผู้ชายที่ผมต้องขอให้เขาช่วยเหลือ  เขาชื่อ ชอน  ชอนขว้างปาข้าวของใส่ผม  มันแฉลบไปข้างขวาบ้าง ซ้ายบ้าง แต่ไม่โดนผมเพราะได้รับการคุ้มครองจากเครื่องรางวาเดี้ยน   แต่การกระทำของก็เขาทำให้ผมรำคาญไม่ใช่น้อย  สุดท้ายผมก็ต่อยเขาสลบเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้เขาแล้ว

หลังจากที่ผมพาซีเลียกับเกเบรียลเข้ามาได้แล้ว  เราก็ไปกันต่อ  เกเบรียลสวมชุดของฮันเตอร์  ถึงผมจะเกลียดพวกนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาดูดีแค่ไหนเมื่ออยู่ในชุดนั้น  เกเบรียลเปลี่ยนใบหน้าเป็นฮันเตอร์คนหนึ่ง คล้ายเคียรันที่ผมเคยฆ่า  แล้วผมก็ผงะ  เขาดูเหมือนจะหัวเราะผมแต่ก็กลั้นไว้คนเดียวพร้อมพูดกลบเกลื่อน

เหมือนมีเส้นด้ายบางๆ ขึงตึงในสมองของผม  ผึ่งเตือนว่านี้มันไม่ต่างไปจากที่ผมเห็นในฝันเลย  แต่ก่อนแยกจากเกเบรียล  ผมจับมือเขา  ฉวยเอาไว้

เกเบรียลหันมาหาผม  เปลี่ยนเป็นใบหน้าของตัวเองแล้ว  และสงสัยเป็นอย่างยิ่ง  เขาเหมือนจะถามผมว่ามีอะไร

แต่ผมไม่ได้ตอบ  เพียงแค่ดึงเขาเข้ามาจูบ  ดูดดื่ม  เป็นอย่างนั้นอยู่นาน

เกเบรียลสบตาผมในความมืด  ผมเลื่อนใบหน้าเข้าไป  กระซิบใกล้หูเขาแล้วเดินจากไปเอง

“รอดกลับมาให้ได้  ทำมัน  เพื่อฉัน” 

“ฉันรักนาย”

นั่นคือคำสุดท้ายก่อนเราจะจากกัน



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------------------



คือไรท์ไม่กล้าเขียน Nc….ฮึก 55555  //หัวเราะตัวเอง//  ไรท์ไม่กล้าเขียน Nc ในแบบของไรท์อ่ะค่ะ  คือว่าในหนังสือเขาใช้คำว่า ร่วมรัก ไรท์ก็หน้าแดงจนจะแทรกแผ่นดินซุกอยู่แล้ว  มันลิมิตอยู่แค่นั้น  ไอ้ไรท์ก็ไม่กล้าเขียนแบบว่า...อย่างว่าในแบบของตัวเองค่ะ  55555

ก็เมนหลักของเรื่องอยู่ที่การรอดของเกเบรียลนี่เนอะ  แต่ไม่เป็นไรค่ะ  Nc ปีนี้ของไรท์มาแน่ค่ะ  มาแน่ 55555  เดี๋ยวมีตอนพิเศษนุ ^^  เอา Nc แบบของตัวเองซะหน่อย  บรรยายภาษาตัวเองจะได้เขียนสนิทใจขึ้น(?)   (คือยังไงจะบอกว่าตัวเองละอายใจที่จะต้องเขียน Nc โดยใช้จิตสำนึกของอินาทานว่างั้น?)

อือ นั่นแหละค่ะ  ถูกต้องเลย 5555

เดี๋ยวตอนพิเศษ Nc เจอกันค่ะ Nc เจอกัน 555

หนึ่งคอมเม้นท์เท่ากับล้านกำลังใจนะคะ 555555  Part หน้าเป็น Part จบนะจ๊ะ  อย่าลืมติดตามกันด้วยนะเออ (กดไลค์เพจหรือไปแวะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้จ้า...จำจี๊ดมาก 5555)  ขอบพระคุณค่ะ ><

ด้วยรักและแรงหื่น