*ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริง
ที่เกิดขึ้นนี่เพราะไรท์ฟินล้วนๆ ค่ะ -*-
กราบ...สวัสดีรีดที่รักทุกท่านค่ะ M_ _M //ก้มคำนับไปเลย// มาอย่างต่อเนื่องค่ะสำหรับกระแส RonalSi
ไม่มีฟิค Fandom อื่นคั้นรายการเลย อิๆ ไรท์กำลังปั่นฟิคที่ค้างอยู่ให้เสร็จอย่างว่องๆ
เลยค่ะ
และอย่างข้างต้นที่ไรท์ได้แปะไว้นะค่ะ วันนี้รู้สึกว่าจะรีบมากๆ เลยล่ะค่ะ
งั้นก็อย่าเสียเวลาและช้าอยู่ใยเลย.......เชิญไปอ่านกันได้เลยค่าาาาา
^3^
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“เอ้ยลูกพี่! อย่าเพิ่งวางดิ”
“อะไรมีอะไรงั้นเหรอ”
“ก็คริสอ่ะดิ อยู่ๆ ก็วางสายไปเฉยเลย”
เจ้าของมือถือทำหน้างง
อีกคนหนึ่งจึงยื่นหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ
“ไอ้โง่! แหกตาดูสิ ‘ไม่มีสัญญาณ’ แกเห็นไหม”
เนย์มาร์ที่มายืนออร่วมกับคนอื่นๆ พูดขึ้น
เปเป้หันควับไปมองทันที
เมื่อเค้านึกว่าคนที่ยืนอยู่ข้างเค้าเป็นเพื่อนนักฟุตบอลสัญชาติเยอรมันอย่างนอยเออร์.....แต่ไหงกลับเป็นไอ้นี่ไปได้นะ
“ไง ไอ้หัวปลาไหล”
เนย์มาร์ยักคิ้วให้ เปเป้เหลือกตาใส่
“ไอ้หน้าโจร...”
ชายเชื้อชาติโปรตุเกตุทำเสียงเย็น
กำมือถือในมืออย่างเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเจอหน้าคนไม่ถูกชะตา เค้าพูดต่อ
“....มีตังค์ซื้อมีดโกนหนวดแล้วหรือไงว่ะ”
“อ๊าว...อ้ายนี่...”
เนย์มาร์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาเรื่องใกล้ๆ แต่ก็โดนมึลเลอร์ห้ามไว้
“ไม่เอาน่า สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งเลวร้ายอยู่ นายจะทำให้มันแย่ยิ่งกว่าเดิมอีกหรือไง”
ร่างสูงเจ็ดฟุตหนึ่งพูดขึ้น
เนย์มาร์สะบัดแขนของมึลเลอร์ที่รั้งตัวเค้าไว้ออกไป แล้วทำหน้าไม่สบอารมณ์
...........ตามหาลีโอไม่เจอแล้วยังต้องมาทะเลาะกับไอ้เจ้าปลาไหลมอเร่ห์นี่อีก ไม่เห็นเข้าท่าเลยสักนิดเดียว..........
ตอนนี้พวกเค้ากำลังเกาะกลุ่มเป็นกระจุกกันอยู่ที่มุมห้องโถง เพราะต้องรอให้พวกผู้หญิงกับคนแก่ๆ
ไปกันก่อน ตรงนั้นจึงมีแต่ซูปเปอร์สตาร์ดังๆ
ในวงการฟุตบอล ทั้งเปเป้ เนย์มาร์ มึลเลอร์
ชไวนี่ นอยเออร์ และรวมทั้งคนอื่นๆ ที่เริ่มจะหัวเสียกันแล้วด้วย
“เสียงปืนนั่นดังมาจากยอดตึกเหรอ”
ชไวนี่ชะเง้อคอมองผู้คนที่พากันเบียดเสียดเข้าไปยังประตูทางออก
“ใช่
เห็นเค้าว่างั้น.....ฉันก็ว่ามันดังมาจากดาดฟ้านะ ฉันได้ยิน” มึลเลอร์พูดขึ้น จับไหล่ชไวนี่ให้เลิกชะเง้อชะแง้ไปทั่วเสียที
“ให้ตาย แล้วหมอนั่นจะลงมากันทันไหมล่ะเนี่ย บ้าชะมัดเลย” เปเป้พูดอย่างร้อนรน
เค้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนร่วมทีมเสน่ห์เหลือล้นคนนั้นเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ได้ออกไปข้างนอกทุกคนก็อยู่ในงานกันหมด
.......ยกเว้นสองคนนั้น.......
“นายพูดถึงใคร” นอยเออร์ถามเสียงเรียบเมื่อน้ำเสียงเปเป้ฟังดูอยู่ไม่เป็นสุข
“ก็โรนัลโด้กับเมสซี่ไง”
เปเป้พูดอย่างไม่ค่อยสนใจตอบเสียเท่าไรเพราะกำลังคอยมองว่าเพื่อนของเค้าลงมาปะปนอยู่กับฝูงชนแล้วหรือเปล่า
แต่คำตอบนั้นกลับทำให้คนที่อยู่ไม่ไกลหูผึ่งขึ้นมาทันที
“ห๊ะ! แกว่าอะไรนะ.....ลีโออยู่กะไอ้หมอนั่นเหรอ!”
เนย์มาร์ตาโตเดินเข้ามาใกล้เปเป้ทันที พลางดันหน้ามึลเลอร์ออกไปให้พ้นทาง
คนโดนถามผงะหน้าไปข้างหลังเล็กน้อยเพราะความตกใจ
ก่อนจะเออออตอบไปตามความเป็นจริง “ก็เออดิ
ทำไมว่ะ”
เนย์มาร์ทำหน้าเหวอทันที
“บ้าไปแล้วลีโอ คิดอะไรของนายอยู่กันแน่เนี่ย.....ไปยุ่งกะไอ้คนพันธุ์นั้นทำไมกัน”
แล้วชายร่างสูงเชื้อสายบราซิลก็เอามือกุมหัวตัวเองราวกับเสียพนันบอล
ก่อนที่คู่กรณีจะชักสีหน้าแล้วเดินเข้ามาหาอย่างดูเอาเรื่อง
“แกว่ายังไงนะ
เมื่อกี้พูดให้ถูก......แกว่าเพื่อนฉันไม่น่าคบยังงั้นเหรอ!?”
เนย์มาร์เงยหน้าขึ้นมามองหลังจากได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูหาเรื่องของเปเป้
“ก็เอออ่ะดิ!”
ยังไม่ทันพูดอะไรได้มากกว่านั้น
เปเป้ก็เดินมาใช้อกชนเค้าอย่างแรง
เนย์มาร์ถอยหลังไปเล็กน้อยแต่ไม่ต้องรอนานเลยเค้าก็โต้กลับไปด้วยวิธีเดียวกันนี้
“แล้วคนอย่างแกล่ะมีดีมาจากไหนว่ะ! เราเคยไปว่าพวกแกตอนไหนห๊ะ!....ไอ้เบื้อกก!”
เปเป้ทำท่าจะโถมตัวเค้าใส่คนตรงหน้า
แต่ดีที่นอยเออร์ห้ามไว้ได้ทันแล้วจัดการล็อคตัวคนโปรตุเกตุเลือดขึ้นหน้าเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว
เปเป้พยายามดิ้น.......อย่างน้อยก็ขอให้ตันหน้ามันได้สักครั้งเหอะน่า เห็นมันพูดเสียๆ หายๆ อย่างนี้มานานแล้ว
แต่นอยเออร์ยังคงเหนือกว่า
ร่างกายสูงและแข็งแรงของดีกรีผู้รักษาประตูเยอรมันไม่ได้สะทกสะท้านเลยสักนิด
ส่วนเนย์มาร์ก็มีมึลเลอร์อยู่ข้างๆ
คอยรัดไว้อย่างช่วยไม่ได้ โดยมีชไวนี่ผู้อยากมีส่วนร่วมช่วยรัดไว้อีกคนหนึ่ง เนย์มาร์สะบัดแต่ไม่หลุด
“งั้นก็บอกไอ้เพื่อนเทพบุตรของแกให้เลิกมองลีโอของฉันแบบนั้นได้แล้วโว้ย.....มันเต็มกลืนแล้ว
สายตาของพวกแกน่ะมันบ่งบอกเลยว่าชอบนินทาลับหลัง!”
เสียงห้าวดังขึ้นแทรกกับเสียงฮือฮาอันตื่นตระหนกของแขกหรือ
เป็นผลให้คนเกือบทั้งห้องโถงใหญ่หันมามองมามองพวกเค้ากันเป็นตาเดียว
“เงียบน่า!
ถ้าพวกนายไม่อยากให้ทุกคนมองเราว่าเป็นพวกกุ๋ยข้างถนนก็หยุดทำตัวเป็นหมากัดกันสักที”
นอยเออร์ว่าเสียงเย็นรอดไรฟัน
หลังจากที่ชไวนี่โดนเนย์มาร์ผู้อารมณ์ร้อนสะบัดปลิวไปอีกทางหนึ่ง
มึลเลอร์มองตามอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะกำลังตรึงเนย์มาร์อยู่ ชไวนี่หน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะโดนดูดกลืนด้วยฝูงชนที่หันมาสนใจกับการออกไปจากที่นี่ต่อ.........ทุกคนล้วนดูวิตกกังวล
โดยเฉพาะสองคนที่เพิ่งโดนพลัดจากเพื่อนผู้ไร้เดียงสา.........
นอยเออร์กับมึลเลอร์ไม่สามารถปล่อยตัวเปเป้กับเนย์มาร์ได้
และพวกเค้าก็ไม่สามารถออกไปฉุดชไวนี่ให้กลับมาได้ด้วยเช่นกัน
ภาพสุดท้ายที่เห็น........คือรองกัปตันก้นจั้มเบ้าทำหน้าเจื้อนใส่พวกเค้าก่อนจะหายไป........
และรองกัปตันที่ว่านี้ก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยการพยายามลุกขึ้นแม้จะมีคนเผลอเหยียบเค้ามากเพียงใดก็ตาม และร่างสูงโปร่งก็เดินส่วนผู้คนเข้าไปตามหาเพื่อนที่เค้าเพิ่งพลัดหลงมา
แต่พลันก็มีชายร่างสูงแข็งแรงเดินเข้ามาชนเค้าอย่างจังแล้วทำของบางอย่างตก
ชไวนี่ก้มลงเก็บให้แล้วกล่าวขอโทษ
“เอ่อ....ขอโทษครับ นี่ของคุณ...”
ชายคนนั้นจ้องหน้าเค้าค้างไว้แปบหนึ่งก่อนจะตอบด้วยเสียงติดไม่ค่อยสนใจนัก
“ขอบคุณ” ชายคนนั้นพูดเสียงออกห้วนเสียด้วยซ้ำ.....และดูแล้วใบหน้าของเค้าดูจะไม่เป็นมิตรเสียเท่าไรเลย ช่างเข้ากับสำเนียงแปลงๆ ที่พูดออกมา
อย่างไม่มีที่ติเลยทีเดียว
ชไวนี่คิดก่อนออกจะแรงเบียดผู้คนเข้าไปหานอยเออร์กับมึลเลอร์ต่อ
และชายคนนั้นที่เดินชนชไวนี่ไปอย่างรีบร้อนจนทำของตก............
ชายผมบล์อนคนนั้นไม่ใช่ คนอื่นๆ ที่อยู่ในงานนี้ก็ไม่ใช่
...........ไร้วี่แววของเป้าหมาย..........
ชายร่างใหญ่ยังคงเดินต่อไปเรื่อย
ผ่านกลุ่มชายหนุ่มที่โหวกเหวกเสียงดังราวกับจะตีกันกลางงานเลี้ยงที่เพิ่งล่มไป
“แก....ไอ้บ้าเอ้ย! ถ้าลีโออยู่บนนั้นจริงก็คงจะแย่แน่ๆ
เพราะไอ้เพื่อนสุดหล่อของแกแต่น้อยกว่าฉัน
คงจะทิ้งลีโอไว้แล้วเอาตัวรอดคนเดียวแหงๆ !!”
“แกอย่ามามั่ว ไอ้หัวกรวง....แน่จริงอย่าพูด เข้ามาสิว่ะ!!”
“เฮ้ยย พวกนายอย่าตีกันสิ!.....โอ้ย
ไม่เอาน่า.......มึลเลอร์จับหมอนั่นออกไปห่างๆ เลย”
ชายร่างใหญ่หน้าตาดุดันตามแบบฉบับของคนพื้นเมืองเดินผ่านออกมาอย่างไม่สนใจ
แล้วยกข้อมือบริเวณปลายแขนเสื้อขึ้นจ่อปาก“เป้าหมายไม่อยู่ในนี้ครับหัวหน้า” สายตาขาวออกเหลืองของเค้ายังคงสอดส่องไปทั่วอย่างคุกคาม
“บัดซบ! แค่นี้หาไม่เจอกันรึไง!” เสียงจากวิทยุแม่ดังไปทั่วทุกคู่สายที่เปิดรับสัญญาณ
ลูกน้องทุกคนไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้หากยังไม่เจอวี่แววเป้าหมายติดมือกลับมาให้
“ไอ้หนูท่องี่เง่าทั้งหลาย....พวกแกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ! แค่นักฟุตบอลคนเดียวก็ยังหาไม่ได้
แล้วจะไปทำมาหากินอะไรฟะ!! บัดซบเอ้ยย....” เหล่าลูกน้องซ่องโจรพากันหดคอหนี
เสียงคำรามจากวิทยุของผู้เป็นหัวหน้าที่แผดเสียงไม่ได้ดั่งใจราวกับเป็นก็อตซิล่า และหลังจากพ่นไฟไปมาได้สักพัก
เสียงทลายแก้วหูก็เปลี่ยนไป
“......ห๊ะ แกว่าอะไรนะ มันอยู่บนนั้นงั้นเรอะ!....กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เออ! ดีมาก
ถ้าแกหามันไม่เจอจบงานนี้ฉันจะให้แกไปขับฮอล์เล่นในยมโลก.......เอาล่ะเด็กๆ
เป้าหมายของเราอยู่บนดาดฟ้าของ SOB* และมันกำลังจะหนี!
ไปจับมันมา.....ก่อนพวกแกทุกคนจะได้เป็นศพ!”
[ *SOB
ชื่อย่อตึกหลักของโรงแรมค่ะ M- -M :
Ray – Aund ]
เสียงคำสั่งฟังดูชัดเจน
จนไม่ต้องขอคำขยายความเพิ่ม
เหล่าสมุนโจรบราซิลจึงมุ่งหน้าขึ้นสู่จุดสูงสุดของโรงแรมหรู ซึ่งส่วนทางกับเส้นทางของชายหนุ่มสองคน
ผู้ที่ซึ่งกำลังจะมีค่ำคืนสุดระทึกที่สุดมากกว่าใครทั้งสิ้นในคืนนี้.................
------------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------
------------------------------
-----------------------------
---------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------
“แล้วเค้าสอนอะไรคุณบ้างล่ะ!”
เมสซี่หน้าเกือบทิ่ม
เมื่อโรนัลโด้ดึงเค้าเข้ามาใกล้ประตูลิฟต์มากขึ้นกว่าเดิม
“หมอบลง”
ร่างสูงพูดพร้อมกดหัวเล็กให้ลงไป เมสซี่เข่าอ่อนแล้วมองดูโรนัลโด้ตบแป้นลิฟต์อีกเป็นครั้งที่เกือบร้อย
แล้วร่างสูงที่ยืนอยู่เหนือหัวเค้าก็เดินเข้ามาใกล้ราวกับจะบังเค้าไว้
แล้วจัดทรงแขนเสื้อ.....ท่าทางของเค้าดูผ่อนคลายลง
“เอิ่ม....ก็หลายอย่างน่ะ
เอาตัวรอดในป่า หนีพวกโรคจิต แล้วก็แกะรอยหาหมีขั้วโลก”
โรนัลโด้พูดไปด้วยพร้อมกับจัดทรงเสื้อและมองไปรอบๆ ไปด้วย เสียงเค้าดูไม่ใส่ใจเสียเท่าไร
“รวมทั้งพูดเย็นชาใส่คนอื่นด้วยหรือเปล่า.....”
จู่ๆ เมสซี่ก็พูดขึ้น
เมื่อเค้าเริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่น่าถามร่างสูงตรงหน้านี้ออกไปเลย แม้ในใจเค้าอยากจะถามว่าแกะรอยหมีขั้วโลกมันน่าเรียนตรงไหนกันแน่
น้ำเสียงเมสซี่ฟังดูขุ่นเคือง
และเมื่อโรนัลโด้หันหน้าลงมาก็เจอเข้ากับใบหน้าขาวที่ตัดกับสีรัตติกาลซึ่งดูขุ่นเคืองไม่แพ้กันเลย
..........เมสซี่ไม่ค่อยชอบคนที่ไม่สนใจคำพูดของคนอื่นเสียเท่าไรเลย...........
มันดูเสียมารยาทชะมัดเลย
โรนัลโด้ครางในลำคอ “โอ้ว ผมทำคุณโกรธเหรอ”
และเสียงเค้าก็ฟังดูไม่ใส่ใจเหมือนเดิม
เมสซี่หน้าบูดเมื่อร่างที่ยืนค้ำหัวเค้ากระแทกกำปั้นเข้ากับปุ่มกดอีกครั้ง
ขอโทษนะ
ถ้าจะขอโทษกันก็ทำเสียงให้มันจริงใจกว่านี้หน่อยสิขอร้องละ.......ร่างเล็กกู่ร้องในใจ
เพราะเค้าไม่ชอบให้ตัวเองกลายเป็นเหมือนตอนเด็กๆ
............นั่นคือเด็กหลงห้องที่ไม่มีใครสนใจ
แล้วก็โดนแกล้งโดยที่คุณครูก็ยังไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงของเค้าเลยแม้แต่น้อย
เมสซี่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อกิริยาของร่างสูงคนนี้ทำให้เค้านึกถึงอีกช่วงชีวิตหนึ่งที่แย่ที่สุดในวัยเด็ก
................มาคิดดูอีกที
ที่พวกพี่ๆ พูดก็อาจจะจริง
โรนัลโด้น่ะทำตัวไม่น่าคบเท่าไรเลย
และทำให้เค้ารู้สึกแย่ชะมัดเวลาคุยด้วย............
พวกชอบใช้กำลัง.......เมสซี่คิด
หลังจากสะดุ้งไปเฮือกใหญ่เมื่อร่างสูงทุบไปที่แป้นกดอีกรอบ
ก่อนเจ้าตัวจะสบถงึมงำกับตัวเองแล้วท้าวเอวอย่างพยายามใช้หัวคิด
เมสซี่เอื้อมมือขึ้นไปกดปุ่มง่อนแง่นอย่างแผ่วเบา
ติ้งงงง---
แล้วเสียงติ้งน่ารักก็ดังขึ้นพร้อมกับบานประตูลิฟต์ที่เลื่อนออก โรนัลโด้ที่ท้าวเอวอยู่เอี้ยวตัวกลับมามอง เมสซี่หน้าบูดคงเดิม
“ไง......เค้าสอนให้คุณกดลิฟต์แบบนุ่มนวลด้วยรึเปล่าล่ะ”
ร่างเล็กพูดเสียงเหมือนเด็กเมื่อยามตั้งตัวเป็นศัตรู แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเพราะเจ็บช่วงล่างไปหมด โรนัลโด้ไม่ตอบเพียงแต่ยกคิ้วขึ้นอย่างยอมรับ ไหล่แกร่งไหวเล็กน้อยก่อนจะฉุดร่างเล็กให้เซเข้าไปในลิฟต์อย่างรวดเร็ว.......เมสซี่ล้มลงอีกรอบ
“โอ๊ย.....ขอบคุณ!” เค้าพูดประชด ก่อนร่างสูงจะกดอย่างนุ่มนวลไปที่ชั้นล่างสุด
“ไม่เป็นไร ผมยินดีช่วยเสมอ”
เสียงระรื่นตอบกลับมาชวนให้เมสซี่ต้องหน้านิ่วอีกรอบ ร่ำๆ
อยากจะเตะขาคนตรงหน้าให้ล้มลงบ้างเสียจริงๆ
แต่เค้าก็ทำได้เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ในใจแล้วพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น
สภาวะกลัวที่แคบของเค้ากำลังจะกลับมาอีกครั้งเมื่อร่างเล็กๆ ของเค้าติดอยู่ที่มุมห้องและพบว่าร่างสูงของโรนัลโด้อยู่ห่างเค้าไปไม่มากนัก ทำให้รู้ว่าในนี้แคบเพียงใด..........
ลิฟต์ที่นี่ไม่ได้มาตรฐานแหงเลย.......ร่างเล็กกะเอาจากขนาดความแคบของลิฟต์
เพราะเค้าต้องเบียดตัวเข้าหาซอกมากเข้าไปอีกเมื่อรู้สึกว่าพื้นใต้เท้าสั่นแปลกๆ และในที่สุดก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“เฮ้....”
โรนัลโด้หันมามอง ใบหน้าของเค้าดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มแก็งส์พินบอลที่กำลังเฝ้าระวังและวางแผนอยู่
“......คุณว่าลิฟต์มันร่วงเร็วไปไหม”
“คุณพูดอะไรน่ะ พูดยังกะว่าเรากำลังจะตกจริงๆ
ยังงั้นแหละ” โรนัลโด้ติง หน้าของร่างสูงดูเหมือนแม่ของเมสซี่ตอนที่ดุเค้า
“ก็มันเหมือนจริงๆ นี่นา”
เมสซี่ทำหน้าตาเหมือนเด็กเข้าไปทุกที
ร่างสูงยังแอบค้างเล็กๆ ก่อนจะจุปากน้อยๆ
“ไม่เอาน่า
ผมรู้สถานการณ์มันยากที่จะอธิบายแต่เราก็ควรมองโลกในแง่ดีเข้าไว้นะ......โอเค๊”
โรนัลโด้ส่งสายตาถาม เมสซี่พยักหน้าหงึก
และบางครั้งเค้าก็อยากจะถามเคล็ดลับความมั่นใจเกินร้อยของโรนัลโด้เสียจริงๆ
ว่าเค้าไปขุดมันมาจากไหนในสถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวเช่นนี้
“โอเค! ผมจะพยายาม.....ผมจะพยายาม!” เค้าทำหน้าราวกับเข้าใจ
แต่ไหงทำไมถึงเหมือนจะร้องไห้ขึ้นมาซะอย่างนั้นล่ะ โรนัลโด้หันมาหาร่างที่สั่นหงึกๆ ทั้งตัว
“เราอยู่กันแค่นี้คุณไม่จำเป็นต้องตะโกนก็ได้นะ”
“ฮะ อะไรนะ....ผมตะโกนเหรอ โทษที! ผมตื่นเต้น.....อุ เหวอออ”
ลิฟต์เกิดการกระตุกเพราะลดระดับลงมาเร็วมากเกินไป
เป็นเหตุให้ร่างเล็กๆ
ลอยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเกือบเซไปกระแทกกับอีกฝั่งหนึ่ง แต่ดีที่ร่างสูงรับไว้ได้ทัน
โรนัลโด้ดึงตัวเมสซี่แล้วเหวี่ยงเข้ามาหาตน
ก่อนจะกอดร่างนั้นไว้แน่น
หน้าของคนเสียขวัญซบลงบนอกกว้างอย่างพอดีพอเหมาะและไม่กระดุกกระดิกไปไหนอีกเลย ลิฟต์สั่นอย่างแรงก่อนจะหยุดไปแล้วกลับเข้าโหมดทำงานปรกติ โรนัลโด้คลายมือออกแล้วกวาดตามองไปรอบๆ
เมื่ออีกคนหนึ่งไม่ยอมปล่อยเค้า
“เฮ้....เอ่อ คุณโอเครึเปล่า”
เมสซี่ไม่ตอบ แต่ถูหน้าไปมาบนอกกว้างแทน โรนัลโด้ไม่ค่อยเข้าใจนัก
“นี่คุณกลัวความสูงเหรอ?”
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลัวความสูงแล้วมันผิดตรงไหนเฮีย! //เดือดร้อนแทนเหมียว//
อ๊ากกกก!! ไรท์อยากลงให้เยอะกว่านี้จังค่ะ แต่ว่ามันจิมิได้วรรคเยี่ยงที่เราได้กะเอาไว้ เดี๋ยวจะเสียอรรถรสและวรรคตอนใน Part อื่นๆ เอาค่ะ //เรื่องของแก!! ผั๊วะ! .......รีดวิ่งมาตบหัวโยก//
เฮียเนย์ + เปเป้
โผล่มาก็ตีกันเลย แอ่-----
อร๊ายยยยยย! เค้าอยู่ในลิฟต์ค่ะ
เค้าอยู่ในลิฟต์ >{}< //รีด : ก็เออน่ะสิยะ แล้วไง// เค้าอยู่กันสองคนนนน เดี๋ยวเค้าจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันและทำความ....อั๊ก! //กำปั้นอุดปาก//
เอือกกกก
ไรท์เกือบสปอยล์ค่ะ ไม่ได้เลยนา เรื่องนี้เนี่ยชอบหลุดปากอยู่เรื่องเลยไรท์ อะๆๆๆ เอาเป็นว่ารีดที่รักของไรท์ทุกท่านกรุณารออ่านใน
Part ต่อไป
แล้วในระหว่างที่เซ็งๆ กันอยู่ก็คอมเม้นท์ให้ไรท์ชื่นใจหน่อยนะค้าาาา ^0^
แปะเฟสตามธรรมเนียมค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<
รักทุกท่านมากๆ เลยค่ะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
4 ความคิดเห็น:
So good ka!!!! love it very much:)
อยู่ในลิฟต์สองคน อยู่ในลิฟต์สองคน!!!!! สองคนนั้นจะทำอะไรในลิฟต์หรอไรท์ *ยิ้มชั่วร้าย*
เหมียวก็แค่กลัวความสูงเองนะเฮีย ห้ามล้อนะ55555555555555555555
โอ่ยยยยลุ้นง่ะ อยากให้มาต่อไวๆแล้ว เฮียต้องจัดการเหมียวให้ได้นะ เอ่ย จัดการพวกโจรสิ -..-
อยากเห็นชอต พี่เนย์เหมียวเฮีย อิพี่เนย์ขี้หวงน้องฟหกดเ้้สว TwwwwwT
อัพต่อไวๆนะค้า
ฮ่าๆ ขำเปเป้กับเนย์มาร์จริงๆค่ะ แต่คราวนี้ไม่ได้มีแค่สองคนนี้ที่มาสร้างสีสัน เพราะมึลเลอร์ ชไวนี่ และนอยเออร์เขาก็ฮาไม่แพ้กัน อ่านแล้วหัวเราะกันกรามค้างทีเดียวสำหรับกลุ่มนี้ 555
นอกจากจะจินตนาการภาพได้เหมือนหนังบอร์ดี้การ์ด แอ็กชั่น-ไซไฟ (เอ๊ะ?) แล้วอ่านตอนนี้ก็ยังทำให้จินตนาการได้ถึงหนังนักสืบด้วยค่ะ เหมือนกลุ่มเนย์มาร์แอนด์เปเป้กำลังสืบเสาะหาเบาะแสคริสและลีโอนะ แต่พวกเขากำลังอยู่ในลิฟต์กันสองคน ไม่ต้องสืบๆ .///.
ฮั่นแน่! ลีโอช่างประชดเหมือนกันนะ แต่ก็น่าร้ากกก~ ชอบมากๆค่ะน่ารักมาก ( ว่าแต่ช่างประชดเฉพาะกับคริสเตียโน่หรือเปล่าา เอ..ก็ไม่รู้สินะ.) แอบฮาตอนกดลิฟต์มากเลย ใจเย็นๆ อย่าเถียงกัน 55+ อยากให้เขามีเวลาได้อยู่ด้วยกัน และทำความรู้จักกันให้มากยิ่งขึ้นจริงๆค่ะ //รู้นะคิดอะไรอยู่ :P//
อยู่.
ใน
ลิฟต์
กัน
สอง
คน
อ๊ากกกกกกกกก
จะทำอัลไลกันอ่ะลุ้นๆ
ไรท์มาต่อไวไวนะรีดรออยู่
Ging
แสดงความคิดเห็น