อร๊ายยยยยยยยย! สัวสดีค่ะรีดที่น่ารักทุกท่านนนน
>//< เรามาเฮียเหมียวกันอย่างต่อเนื่องไปเลยกันดีกว่านะคะ (ได้ข่าวว่าไรท์หายไปนานอีกแล้ว ฮาาาาาา) เพราะอีกเพียงแค่ไม่กี่ Part เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! ก็จะได้ปิดเรื่องลงจริงๆ
แล้วค่ะ T^T ไรท์ล่ะเศร้ามากๆ
เลยล่ะค่ะ ฮืออออออออออออ สามร้อยกว่าหน้าอันแสนจะสนุกสนานของไรท์
//ตบหน้าตัวเองอย่างแรงแล้วเรียกสติกลับมา//
อันที่จริงไรท์จะลง Part นี้ตั้งแต่หลายวันที่แล้ว
แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าไม่ว่างเลยค่ะ......ใช้คำว่ายุ่งไม่ได้ ต้อง “วุ่นวาย” เลยล่ะค่ะ
TWT
ฮาาาา จะปิดแล้วเราต้องฉลองสิคะ ถือว่านี่คือก้าวหนึ่งของฟิค โรนัลโด้ x เมสซี่ของบล็อก
Fan Fictions Hollywood (Thailand) แห่งนี้ และเป็นคู่ที่ไรท์เองก็ติดงอมแงมเลยค่ะ TUT
555555 มอบใจให้เฮียกะเหมียวเลยค่ะ......ไรท์ยอมมมมม ยอมทุกอย่างงงงงง 555555
และเรื่องราวเลวร้ายต่างๆ
ก็ผ่านพ้นกันไปแล้วค่ะสำหรับในเรื่องนี้
แต่เฮียกับเหมียวนี่สิคะ......ใครจะไปรู้เล่า ว่าในระหว่างที่เกิดเรื่องราววุ่นวายกันอยู่นั้น
พวกเค้าทั้งสองคนได้เกิดความรู้สึกบางอย่างให้แก่กันและกัน ซึ่งพอเรื่องทุกอย่างสงบลงแล้วทั้งเฮียและเหมียวจะต้องแยกย้ายกันออกไปหาคนในสังคมของพวกเค้า
แล้วทีนี้ความรักที่ก่อตัวขึ้นล่ะคะ! จะทำยังไงกับมันดี!
ร่วมติดตามเรื่องราวพร้อมกับหาคำตอบไปกับ
Part นี้เลยค่ะ แอบกระซิบ.....มีซ็อตฮาค่ะ และอาจจะดูใช้ภาษาวัยรุ่นไปนิสสสสส
(เข้าค่ายเหมือนรุ่นพี่เฟี้ยวฯ) 555555
ไปอ่านกันเลยค่าาาา ><!!
--------------------------------------------------------------------------------------------
เมสซี่กลั้นหายใจ.........ที่แท้โรนัลโด้ก็อยู่ตรงหน้าเค้านี่เอง..........แล้วขาแข็งแรงของนักฟุตบอลมืออาชีพก็วิ่งออกไปหาชายที่ได้ช่วยเหลือเค้าเอาไว้
ซึ่งกำลังคุยกับหมออยู่
และเหมือนร่างสูงเองก็รู้
โรนัลโด้หันมาเจอเมสซี่ที่วิ่งผ่านผู้คนเข้ามาหาเค้า ร่างสูงมีสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย
แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาโดยไม่มีสาเหตุ จนหมอที่ตรวจอยู่ข้างๆ ถึงกับงุนงงทันที
เมสซี่วิ่งมาถึงและเกาะข้างเตียงแพทย์สีขาวสะอาด เค้ากำลังอ้าปากถามตามความห่วงใยแต่ก็โดยอีกคนหนึ่งชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“วิ่งแบบนั้นคุณไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ”
โรนัลโด้ยิ้ม......เค้าไม่เคยปราศจากรอยยิ้มเลยเมื่ออยู่กับร่างเล็กๆ
ที่เพิ่งวิ่งมาถึงตรงหน้า
เมสซี่ทำหน้าเหมือนจะเถียงกลับว่า “แล้วคุณล่ะไม่เป็นอะไรรึไง
ยิ้มแบบนั้นน่ะ”
แต่ก็ต้องคิดใหม่เมื่อเห็นหมอตรวจอาการของโรนัลโด้มองมาที่ตัวเอง
“เอ่อ....ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้วคุณล่ะเป็นอะไรบ้างรึเปล่า”
น้ำเสียงร่างเล็กดูประหม่าอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
แต่นั้นก็เป็นเพราะเค้าอายหมอต่างหากล่ะ
“ผมไม่เป็นไร ผมโอเค...แค่พกช้ำนิดหน่อย ใช่ไหมครับหมอ?” ร่างสูงว่า
ก่อนจะหันไปหาหมอที่ถอดเครื่องช่วยฟังเสียงหัวใจออก แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก
“คุณไม่มีบาดแผลอะไรร้ายแรงนอกจากแผลที่หัวไหล่ขวาลึกไม่ถึงครึ่งนิ้วที่ผมได้เย็บไปแล้ว ลำตัวคุณพกช้ำจากการโดนซ้อม.....และคุณโรนัลโด้กระดูกคุณเกือบร้าวและกล้ามเนื้อเกือบฉีกขาด นั่นผมไม่เรียกว่านิดหน่อย”
คนเป็นหมอที่ดูแลรักษาชีวิตคนไข้มาทั้งชีวิตไม่ชอบการที่คนไข้ของเค้าบิดเบือนความเป็นจริงนัก
แล้วทำเหมือนมันไม่ได้สำคัญอะไร
ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงเดี่ยวเคลื่อนที่ได้ยิ้มแฮ่ๆ
ใส่ ก่อนแพทย์สนามวัยทองจะขอตัวออกไปทำหน้าที่แก่คนอื่นบ้าง
“ผมทำแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ
แก้ปวด แก้พกช้ำ
และทำทุกอย่างที่ทำให้ได้ในตอนนี้ไปแล้ว....ผมขอตัวก่อนนะครับ
เดี๋ยวบุรุษพยาบาลจะพาคุณตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลเอง”
“ขอบคุณครับหมอ”
ร่างสูงเอ่ยอย่างนอบน้อม แล้วหันไปยิ้มทะเล้นกับเมสซี่เมื่อคนแก่เดินออกไป ร่างเล็กยิ้มตามอย่างเสียไม่ได้
แต่ก็พูดใส่ร่างสูงแบบปรามๆ
“ให้ตายสิ ผมจะบอกหมอว่าคุณล้อเลียนเค้า”
“ก็ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ
นี่นา
คุณก็รู้ว่าหมอชอบเว่อร์จัดในเรื่องพวกนี้” โรนัลโด้ไหวไหล่ ท่าทางเค้าดูเหมือนไม่ได้เพิ่งผ่านเหตุการณ์แย่ๆ
มาเลย
“ก็เค้าเป็นหมอ....” เมสซี่ทำตาโต
ราวกับจะบอกว่า ก็นั่นมันเรื่องจริงนี่
“คริส! เฮ้ ลูกเพ่! โอ้
ให้ตายเหอะฉันเป็นห่วงนายแทบแย่”
แต่แล้วเสียงของเปเป้ที่เพิ่งจะหาทั้งคู่เจอก็ดังขึ้น พร้อมทั้งเจ้าตัวที่วิ่งแซงหน้าคนอื่นๆ มาได้
ส่วนคนที่เหลือก็ตามมาติดๆ
มึลเลอร์ ชไวนี่
นอยเออร์
และเนย์มาร์ก็หน้าตาตื่นเช่นเดียวกันแต่ทว่ากลับช็อคซีนีม่าไปเลย
เมื่อเห็นเสื้อที่เปรอะเต็มไปด้วยเลือดของโรนัลโด้
แต่ก็ได้รับการอธิบายไปแล้วในเรื่องนั้นพร้อมทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกด้วยว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
..........ชายหนุ่มสายเลือดนักฟุตบอลทั้งเจ็ดคนพูดคุยกันด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรต่อกันและกันจนพวกเค้าเองก็ไม่ทันได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ
จนนักข่าวที่วิ่งรี่มาที่โรงแรมดังเพื่อทำข่าวต้องขอแชะภาพแห่งประวัติศาสตร์นั้นไว้เป็นที่ระลึกแก่วงการฟุตบอลเสียหน่อยด้วยความงุนงงของสื่อมวลชนอย่างพวกเค้าเอง
เกิดมาไม่เคยทำข่าวที่เหนือความคาดหมายขนาดนี้มาก่อนเลย
...........จู่ๆ
ชายเจ็ดคนจากสามทีมชาติ
สามสโมสรจะมายืนคุยกันเหมือนเพื่อนสมัยไฮสคลูแบบนี้ เป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ
แล้วยิ่งภาพที่น่าจับตามองที่สุดก็ดูจะเป็นคู่แค้นที่ปีนเกลียวกันมานานอย่างโรนัลโด้และเมสซี่ ผู้ที่น่าจะอยู่ห่างกันมากที่สุด
กลับใกล้ชิดกันและแถมยังยิ้มให้กัน
พูดคุยทำตัวสนิทสนมอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ เลยอีกด้วย
สิ่งนั้นได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้สื่อข่าวเป็นอันมาก
และแน่นอน การทำอาชีพนักข่าวก็หมายถึงการทำให้วงสนทนาที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่นแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
ฝูงนักข่าวกีฬาและเหตุฉุกเฉินที่ทำตัวอนึ่งเป็นนักข่าวกอสซิปกำลังจะแห่กันเบียดเสียดไปจ่อไมค์สัมภาษณ์กลุ่มนักฟุตบอลดังกล่าว แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าใกล้พวกเค้าเหล่านั้น
ก็ถูกตำรวจกันพื้นที่ออกไปเสียแล้ว
เพราะฝ่ายตำรวจเองก็บอกว่าผู้เพิ่งประสบเหตุต้องการณ์เวลาพักผ่อนและความเป็นส่วนตัว พวกนักข่าวจึงต้องแห้วคอตกกันไปตามๆ กัน
ส่วนชายหนุ่มทั้งหมดก็ดูจะมุ่งความสนใจไปที่คนซึ่งดูสะบักสะบอมมากที่สุด แม้เจ้าตัวจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแข็งแรงดีแล้วก็ตาม
แต่จะไม่เป็นห่วงอะไรก็ไม่ได้เลยเพราะโรนัลโด้เลือดเต็มเสื้อไปหมด
“พระเจ้า งั้นก็หาเสื้อใหม่ให้ฉันใส่เถอะ
ถ้าพวกนายจะตัดสินจากเสื้อที่ฉันใส่กันอยู่แบบนี้....”
ร่างสูงร่ำร้องอยากเปลี่ยนเสื้อ
ว่าแล้วก็เปลื้องเสื้อตัวเองออกเสียตรงนั้นเลย ทำเอาคนที่เหลือส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ในความใจร้อนของร่างสูง ยกเว้นซะแต่คนที่รู้ๆ
กันอยู่ว่าต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะ.........
“ลีโอ ไม่สบายเหรอ หน้าแดงเชียว”
“มะ ไม่เป็นไรหรอกฮะ คือผม....ผมไปหาเสื้อมาให้เค้าก่อนดีกว่า ดะ เดี๋ยวผมมานะครับ”
“อ้าว ไปแล้ว.....ลีโอ ลีโอ! นั่นไม่หันกลับมาด้วย
จะไปไหนของเค้าอีกนะ
เดี๋ยวก็หายไปอีกหรอก.......อะไร
ยิ้มอะไรของนาย
โชว์พุงแล้วมีความสุขรึไง?”
เนย์มาร์โบกมือตามเมสซี่ไปแต่ก็ยังสงสัยไม่หายกับการทำตัวแปลกๆ
ของเจ้าตัว ถึงมันจะดูน่ารักดีก็เถอะ
แต่พอหันมาเจอหนุ่มสุดแกร่งแถมยังเซ็กซี่ที่ส่งยิ้มตามหลังร่างเล็กของเค้าไป
เนย์มาร์ก็ถึงกับอดแสดงอาการหวงออกมาอย่างเสียไม่ได้
(ช่างเหน็บสวนกับความเป็นจริง)
โรนัลโด้เพียงแต่ส่ายหน้าตอบไปช้าๆ
เท่านั้น
แต่รอยยิ้มก็ยังคงเคลือบอยู่บนเรียวปากของร่างสูง
..........ลีโอของเค้าน่ารักเสมอนั่นแหละ...........
และไม่นานร่างเล็กก็กลับมาพร้อมกับชุดแขกสำรองของทางโรงแรมที่มีจัดไว้ให้เป็นพิเศษ ทางพนักงานเห็นว่าเป็นลีโอเนล เมสซี่จึงหาชุดที่ดีที่สุดมาให้
ร่างเล็กมีเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่เอี่ยมและเสื้อนอกสีดำขลับตัดกันอย่างที่นิยมใส่กันบ่อยๆ
มาให้โรนัลโด้
และตัวเค้าเองก็ได้เสื้อนอกใหม่มาอีกหนึ่งตัว
เมื่อพนักงานโรงแรมอ้างว่าอากาศค่อนข้างหนาว เค้าไม่ควรเดินไปมาด้วยเสื้อเชิ้ตตัวบางๆ
เมสซี่ยอมรับมาแต่โดยดี และรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างที่พนักงานคนนั้นว่า ร่างเล็กๆ วิ่งหลุนๆ
กลับมาพร้อมกับส่งเสื้อให้ร่างสูงที่ถอดเสื้อรอเค้าอยู่อย่างเนียมอาย ในระหว่างที่โรนัลโด้สวมเสื้ออยู่นั้น เพื่อนๆ ก็ถามถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญกับเมสซี่
ร่างเล็กตอบไปตามตรงว่าโรนัลโด้เป็นคนช่วยเค้าไว้ และเค้าคงจะแย่เอาแน่ๆ
ถ้าร่างสูงไม่ได้ช่วยเค้าไว้
และเมสซี่ยังย้ำอีกด้วยว่าโรนัลโด้เก่งเอามากๆ
ส่วนร่างสูงที่อยู่นอกเหนือความสนใจในขณะนั้นก็เหล่ตามองร่างเล็กที่ตั้งหน้าตั้งตาพูดถึงเรื่องของตน พร้อมทั้งยกยิ้มขึ้นมาอย่างนึกเอ็นดู บางครั้งเค้าก็สงสัยว่าเมสซี่เคยโกหกใครเป็นบ้างหรือเปล่านะ แต่หลังจากที่ดูๆ
แล้วก็คงจะไม่เคยมีเล่ห์เลี่ยมอะไรกับใครเลยเป็นแน่.......ซึ่งต่างจากเค้าโดยสิ้นเชิงเลย
เมสซี่เล่าเรื่องเพียงคราวๆ
แต่ไม่ได้เล่าแบบลงรายละเอียดอะไรมากนัก
และอึดใจต่อมาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงแพทย์ก็อยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการเรียร้อย
ดูราวกับว่าเพิ่งเดินทางมาถึงและไม่ได้เจอเรื่องร้ายอะไรเลย
“ว้าว ถึงจะบอกว่าโดนซ้อมมาก็ตาม
แต่นายก็ยังดูดีได้อีกนะ” เปเป้กล่าว แอบอิจฉาเล็กๆ
ไม่ได้ที่เค้าดูดีแบบเทียบรัศมีไม่ติดเลย......แต่ก็นะ เรื่องหนุ่มฮอตต้องยกให้เพื่อนคนนี้ไปเลย
โรนัลโด้ยิ้มน้อยๆ
แล้วทำท่าจะลุกออกจากเตียงเคลื่อนที่
แต่ก็โดนดันเอาไว้เสียก่อน
ร่างสูงมองมือขาวที่ทาบอยู่บนอกของเค้าแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“คุณจะไปไหน.....ผมว่าคุณน่าจะรออยู่นี่จนกว่าพวกเค้าจะพาคุณไปโรงพยาบาลดีกว่านะ”
คนพูดมีสีหน้าเป็นห่วง
โรนัลโด้ยิ้มอีกแล้วจับมือน้อยๆ นั้นออกมาอย่างนุ่มนวล
เนย์มาร์คิ้วกระตุกในขณะที่เปเป้กับนอยเออร์สนทนาอยู่ข้างหูเค้า
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ไม่เจ็บแล้ว หมอดูแลผมแล้ว
และอีกอย่างผมไม่ได้โดนยิงเสียหน่อย” โรนัลโด้หันมาพูดกับเมสซี่โดยที่ยังไม่ได้ปล่อยมือของร่างเล็ก คนที่ได้รับคำตอบก็อมยิ้มมองพื้นตามนิสัย
แต่แล้วสายตาคมของร่างสูงก็ลดต่ำลงไปเห็นไทด์ที่ยังหลุดลุ้ยอยู่ของเมสซี่
พอคิดถึงหน้าคนที่ปลดไทด์นี้ให้เมสซี่
โรนัลโด้ก็มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที.......ก่อนเค้าจะปัดเรื่องน่ารำคาญใจนั่นทิ้งไปซะ
เพราะไม่อยากให้เมสซี่ต้องถาม กลัวจะไปกระทบถึงเรื่องร้ายๆ
ที่เจ้าตัวไม่อยากจำเข้า
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการท่าทางดูเหมือนไม่ใช่คนบาดเจ็บอะไร
ใช้สองมือผูกไทด์ใหม่ให้กับร่างเล็กอย่างตั้งใจ
ร่างสูงดูเชี่ยวชาญและมีสมาธิ เพราะใส่ใจที่จะทำให้ร่างเล็กที่ยืนทำตากลมๆ
อย่างเป็นที่สุด
ทั้งสองเหมือนเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวอีกครั้ง
ผิดก็แค่ครั้งนี้ที่เนย์มาร์ซึ่งหน้าเหวอเพราะความหวงแบบตีกลับ
ผลักหน้าเปเป้ออกไปให้พ้นทางแล้วสาวเท้าก้าวไปหาบุคคลทั้งสองอย่างรวดเร็ว ร่างสูงผิวสีเข้มหน้ามุ้ยอย่างเห็นได้ชัดบอกอาการที่ไม่ใคร่จะสบอารมณ์นัก
เนย์มาร์ตรงเข้าไปหาเมสซี่ที่ทำหน้าหวั่นๆ
เมื่อเค้าเดินมาถึง และโรนัลโด้ที่ยังคงไม่สนใจการมาของเค้า
เนย์มาร์ตีมือโรนัลโด้อย่างแรงแต่โชคดีที่ร่างสูงผูกเสร็จแล้ว
เพี๊ยะ!
“แก...ใครอนุญาต!” เนย์มาร์ขบเขี้ยว ดูเหมือนพ่อตาหวงลูกสาว(?)
โรนัลโด้ก็เหมือนลูกเขยที่ทำหน้าเหรอหราประมาณว่า
ผมทำไรผิด.......ร่างสูงอ้าปากน้อยๆ มองหน้าเนย์มาร์ที่ทำหน้าเป็นยักษ์ใส่ และเปเป้ก็เดินมาอีก
ผั๊วะ!
“ควาย.....เค้านิสัยดี!”
เดินเข้ามาประเคนฝ่ามือลงกลางหัวพร้อมคำไขข้อสงสัยให้กระจ่างใจถึงกลางกระหม่อม จนเนย์มาร์ที่เป็นคนโดนแจ็คพ็อตหัวเบี้ยว
“เพื่อนฉันจะทำอะไรบ้างไม่ได้เลยใช่ไหมห๊ะ?!
ต้องเป็นคนไม่ดีตลอด” เปเป้ทำหน้าข้องใส่ พร้อมสะใจนิดๆ อย่างเก็บอาการ
เนย์มาร์เอียงหัวหันมาเบี้ยวอีกข้างใส่เปเป้อย่างหาเรื่อง
“เรื่องของแกไหม?!”
“เอ่อ...พี่เนย์ ผมว่า....” เมสซี่ซึ่งร่างเล็กสุดในวง
ทำหน้าหวั่นๆ พลางกระตุกแขนเสื้อเนย์มาร์ไปมา
ในขณะที่เปเป้พยายามพองตัว
“แกยุ่ง ฉันก็ยุ่งโว้ย.....สองคนนั้นเค้าจะคุยกันอย่าไปจุ้น”
ชายผมทรงสกินเฮดจัดไปดอกใหญ่
เนย์มาร์หัวเอียงอีกสองเท่า
“อ่อนี่...แกว่าฉันเสือกใช่ไหม”
“ควายอีกแหละ” เปเป้เกาหัว
ตอนนี้เมสซี่ไม่ได้ดึงแขนเสื้อเนย์มาร์แล้วแต่ถอยออกไปอยู่ใกล้ๆ
โรนัลโด้ที่นั่งยิ้มอย่างสนุกสนามแทน
ร่างเล็กกระซิบโดยไม่ละสายตาไปจากคู่กรณีที่กำลังสาดคำพูดใส่กันอยู่อย่างดุเดือด
“ผมว่าพวกเค้าดูไม่ดีเลยนะ”
แต่โรนัลโด้เกือบหลุดหัวเราะ
“ผมว่าเค้าดูสนิทกันดีออก”
“เอาจริงๆ?”
ร่างเล็กชายตามองร่างสูงผู้ที่สนุก เสมือนได้ดูเกมโชว์หน้าทีวีอยู่ อย่างขุ่นๆ
“หา...โอ้ ไม่ ไม่หรอก ดูสิเค้าพูดถึงแม่ของกันและกันด้วยล่ะ.....อ๋อ
คุณไม่ได้ยินสินะเมื่อกี้นี้น่ะ
แต่ก็ดีแล้วล่ะ บางทีคำพูดพวกนี้ก็เข้าใจยากนะผมรู้ แต่คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้มันหรอกคำพูดของคนล้าหลังน่ะ”
ร่างสูงที่นั่งห้อยข้างอยู่บนเตียงแพทย์พูดอย่างกระตือรือร้น
โดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากเพื่อนของเค้าที่กำลังลงไม้ลงมือกันอยู่เลย แต่สุดท้ายก็หันมาพูดกับเมสซี่โดยตรงด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะจัดเจน
เนย์มาร์กับเปเป้ยังเถียงกันต่อ
“.....พ่อนายสิขายถั่ว! สมองนายถึงได้ถั่วน่ะ”
“โอ้ ลีโอ เค้าพูดถึงพ่อกันด้วยล่ะ...โอ๊ะ
ไม่เอาไม่ต้องฟังหรอก” โรนัลโด้ที่งอหลัง ใช้ข้อศอกท้าวกับหัวเข่า กัดเล็บอย่างตื่นเต้น ก่อนจะเอามือออก
ชี้ให้ร่างเล็กดูประกอบไปด้วย
แต่แล้วก็เพิ่งจะนึกได้จึงเอามือปิดหูทั้งสองของเมสซี่ไว้จนอีกคนหนึ่งหัวโยก
ร่างเล็กเอียงหัวจนเกือบจะหงายมาซบกับอกกว้าง
ดวงตากลมใสราวกับลูกแก้วเหลือบมองขึ้นไปอย่างสงสัยแต่ร่างสูงที่ปิดหูเค้าอยู่กำลังสนุก
โรนัลโด้ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว.......เค้าไม่คิดว่าทั้งสองคนจะทะเลาะกันจริงๆ
จังๆ หรอก
ถ้าจะลงไม้ลงมือจริงจนถึงขั้นมีเรื่องกันล่ะก็คงทำไปนานแล้ว และนานแล้วทีเดียวที่เปเป้ไม่ได้หาเรื่องคนอื่น
ให้เค้าได้หัวเราะอย่างนี้
............ใช่ เรื่องสบประมาทด่าคนอื่น
เปเป้ถนัดนักล่ะ.........
ส่วนร่างเล็กก็รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
เพราะไม่เคยเห็นเนย์มาร์ขึ้นเสียงกับใครได้นานขนาดนี้มาก่อน........จะตีกันรึเปล่านะ
“ฉันจะตบแกให้กบาลแยกเลย!”
“อะไรนะ แกตดก่อนนอนทุกวันเลยเหรอออ”
“ไอ้หัวปลาไหลลล!” เนย์มาร์ชูกำปั้นขึ้น เมื่อเปเป้ทำหน้าล้อเลียนใส่เค้า
ก่อนจะได้ทำอะไรคู่กรณีก็วิ่งฉิวออกไปเพื่อซ่อนตัวเสียแล้ว เนย์มาร์วิ่งตามพร้อมคำด่าทอ
“โอ้ พระเจ้า....เนย์มาร์
พี่อย่าทำเค้านะ!” ร่างเล็กตกใจ
ตะโกนออกไปอย่างเป็นห่วงเพราะว่าที่นี่มีนักข่าวเดินกันเพ่นพ่านไปหมด ถ้าได้ลงข่าวแย่ๆ
ล่ะก็ได้มีผลต่อแมทช์การแข่งขันแน่ๆ เลย
เมสซี่ทำท่าจะวิ่งไปห้ามแต่ก็โดนล็อคเอวไว้
ร่างเล็กหันไปมองคนที่ยิ้มกริ่มให้เค้าอย่างไม่เข้าใจ โรนัลโด้เอ่ย
“ปล่อยเค้าไปเถอะ.....หมอบอกผมว่าเค้าสองคนกับสามคนนั้นเสี่ยงวิ่งออกไปตามตำรวจข้างนอกนั่นด้วยกันชียวนะ
ผมว่าเค้าสามัคคีกันเกินกว่าจะมาแตกหักกันด้วยเหตุผลไร้สาระนะ”
ร่างสูงเอ่ยเสียงฟังดูเหมือนผู้ใหญ่
เมสซี่อุทานออกมาเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อหู
แล้วก็ได้รับคำยืนยันจากสามหนุ่มเยอรมันซึ่งยืนกุมท้องแข็งๆ อยู่ตรงนั้น
แต่แล้วบุรุษใส่ชุดขาวสะอาดคนหนึ่งก็เดินเข้ามา จับเหล็กของเตียงแพทย์แล้วพูดสำเนียงแปลกๆ
เพราะเค้าเป็นคนบราซิลแท้และไม่แข็งอังกฤษ
“ขอโทษครับ
เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกันแล้ว....กรุณานอนให้เรียบร้อยด้วยครับ”
พร้อมกันกับบุรุษพยาบาลอีกคนหนึ่งที่ขึ้นไปรอดึงเตียงอยู่บนรถ ชายหนุ่มนักฟุตบอลหยุดคุยกันชั่วขณะ
ก่อนที่นอยเออร์จะจับไหล่ของเมสซี่ให้ถอยออกมาเล็กๆ
พร้อมกับมึลเลอร์และชไวนี่ เพื่อให้บุรุษพยาบาลได้ทำหน้าที่อย่างคล่องตัว
ร่างเล็กเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นราวกับอ้างว้าง
ทันทีที่โดนนอยเออร์แตะไหล่
เมสซี่พยายามทำในสิ่งที่เรียกว่ายิ้มให้แก่โรนัลโด้เพื่อให้กำลังใจกับร่างสูง
แต่คนที่ได้รับมันกลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นยิ้มที่แสนเศร้าเสียจริง เมสซี่ตบบ่าซ้ายโรนัลโด้เบาๆ
ก่อนจะถอยออกไปตามการชักนำของนอยเออร์
โรนัลโด้เผลอยิ้มเศร้าตอบ.......เค้าเองก็ไม่อยากอยู่ห่างจากอีกคนหนึ่งเช่นกัน
ราวกับว่าเค้าได้ผูกเยื้อใยแห่งสัมพันธ์ไว้กับร่างเล็กไปเสียแล้ว.........บุรุษพยาบาลทั้งสองยกเตียงแพทย์ขึ้นไปบนรถ
โดยที่ร่างสูงเองก็ไม่ได้นอนอย่างที่ได้โดนขอร้องไว้แต่อย่างใด โรนัลโด้นั่งมองเมสซี่ที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวบนรถพยาบาล
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------------------------
555555555555 เฮียเนย์กะเปเป้เลิกกัดกันก่อนได้ไหมคะ >m < ดีใจที่เฮียโด้กะเหมียวปลอดภัยหน่อยสิคะ
อุ๊บ! คริๆๆๆ
ไรท์คิดว่ามันออกแนวรุ่นพี่เฟี้ยวมากเลยค่ะ >< บางคำนะคะ.....มันค่อนข้างใช่
55555 ต้องขออภัยสำหรับท่านที่มิชอบคำหยาบโลนสมัยพ่อขุนรามคำแหงด้วยนะคะ M_
_M
อูยยยย
เจอสองคนนี้แล้วไรท์อดฮาไม่ได้เลยค่ะ >..< 5555 แต่ที่น่าปรบมือและดีใจด้วยสุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นคู่พระ
– นาย ของเราค่ะ >//<! อร๊ายยยยยย เฮียผูกไทด์ให้เหมียวด้วยยยยยยย
>////< แล้วเฮียเนย์ก้.......เพี๊ยะ!
555555! //ยังไม่จบ// แหม่ เฮียเนย์ขาาาา เกาะเห็นๆ กันอยู่ว่าเหมียวเค้าจิตใจโอนอ่อนไปหาใครมากที่สุด
//ซักพักไรท์โดนบีบคอ//
อ๊อก! อ๊ายยย
เอีย...ย...เฮียเนย์ ดะ เดี๋ยวก่อน! อุก แค็กๆๆๆ >{}< พอก่อนค่ะ เดี๋ยวให้ไรท์สั่งเสีย เอ้ย! Talk กับรีดๆ จบก่อนนะคะ //เฮียเนย์บอก ได้ เดี๋ยวแกได้ตายสมใจแน่//
คอมเม้นท์ Part นี้ให้ไรท์กันหน่อยนะคะ
>< และอย่าลืมติดตาม Part ต่อไปนะเออ รักรีดๆ ทุกท่านค่ะ >//< และแปะเฟส
เอาไว้ให้รีดเข้าไปพูดคุยและร่วมกิจกรรมกับไรท์ได้ค่ะ ที่
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
5 ความคิดเห็น:
สิ่งที่คริสเตียโน่คิดในใจนี่เราเกือบจะขำก๊ากเลยล่ะค่ะ ที่ว่า ลีโอไม่มีเล่ห์เหลี่ยมไม่เหมือนคริส ...แหมๆ ก็รู้อยู่แก่ใจนะพ่อคุณ ว่าตัวเองน่ะเจ้าเล่ห์แค่ไหน >///<
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เหมือนกับ คริสจะรู้จักตัวจริงของลีโอมากขึ้น และลีโอก็รู้จักตัวจริงคริสมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอนาคตจริงจริ๊ง (อนาคตที่จะมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ^^) แต่ก็แอบขำเนย์มาร์อีกไม่ๆด้ เหมือนพ่อตาหวงลูกสาวจริงๆด้วยล่ะค่ะ แต่อยากบอกว่า เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เถอะ เนย์มาร์ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปเสีย ไม่มีอะไรจริงๆๆ :P
กลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้เหมือนกลับไปไฮสคูลอีกครั้ง แต่ก็เป็นภาพนี่เราว่าน่าประทับใจเสียนี่กระไร ดีเหมือนกันนะ ฮ่าา
ควายอีกแหละ555ทะเลาะกันได้ฮามาก
เหมียวก็น่าร๊ากกกกก
พาร์ทนี้ขำน้องเนย์แรงมากค่ะ 55555 มีไปตีมือพี่โด้ด้วย ทะเลาะกับเป้ก็ตลก วินสุดค่ะพาร์ทนี้ 5555 เหมียวนี่ก็ใสซื่อสุดพลังจริงๆ ไม่แปลกใจค่ะ ที่พี่โด้ทั้งรักทั้งหลง >///<
ขำพี่เป้ "ควาย เค้านิสัยดี" 555555555555
น่ารักมากเลยอะ เฮียคะ จะจีบก็รีบจีบ ชอบก็บอกตรงๅ เหมียวเค้าใสซื่อ ไม่ทันเฮียหรอก 55555
แสดงความคิดเห็น