วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 28] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



สวัสดีค่ะรีดที่รักทูกท่านนนนนนนนนน ><  //จรดมือแนบตัก//  ห๊ายไปนานอีกแล๊วววว 555555 //โดนรีดตบหน้าเบี้ยว//  ขอโทษนะคะ อยากจะคั่นใน The Hunger Games ด้วย  แต่ก็ยังไม่ได้ตรวจทาน Part นี้เลยค่ะ TUT  เลยต้องลงฟิค The Hunger Games ให้จบก่อนค่ะ ง่อววววววว

Part ที่แล้วเราถึงไหนกันแล้วนะคะ  โอ้ววว เฮียกำลังจะถูกพาแว็นไปโรงพยาบาลแล้วใช่ไหมคะ?  แล้วเหมียวผู้น่าสงสารของเราล่ะค่ะ  ดูท่าจะติดเฮียซะแล้วนาาา ^w^ ต้องตามอ่านค่ะ ต้องตามอ่านซะแล้วววว

เอ.....ไรท์ก็ยังหวั่นๆ อยู่ค่ะว่าจะได้ลง Part สุดท้ายภายในเดือนนี้หรือเปล่า  แต่ก็น่าจะทันค่ะ 5555555 //โลเลจริงๆ เลยค่ะไรท์// + //โดนรีดรุมเตะ//

แปะเฟสเอาไว้คุยกันค่ะ 55555 >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มเลยค่ะ >< 

 เอาเป็นว่าเราไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ >//<  เฮียกะเหมียวรออยู่แล้วค่ะ  ไปกันเล้ยยยยย >3<


----------------------------------------------------------------------------------


“ขอโทษครับ  เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกันแล้ว....กรุณานอนให้เรียบร้อยด้วยครับ”

ร่างเล็กเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นราวกับอ้างว้าง ทันทีที่โดนนอยเออร์แตะไหล่  เมสซี่พยายามทำในสิ่งที่เรียกว่ายิ้มให้แก่โรนัลโด้เพื่อให้กำลังใจกับร่างสูง  แต่คนที่ได้รับมันกลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นยิ้มที่แสนเศร้าเสียจริง  เมสซี่ตบบ่าซ้ายโรนัลโด้เบาๆ ก่อนจะถอยออกไปตามการชักนำของนอยเออร์

โรนัลโด้เผลอยิ้มเศร้าตอบ.......เค้าเองก็ไม่อยากอยู่ห่างจากอีกคนหนึ่งเช่นกัน 


.


.


.


************************************************************************


.


.


.


ร่างเล็กตัวจ้อยเจี่ยมเจี๊ยมยืนทำตาละห้อย และโบกมือน้อยๆ บ๊าย บายร่างสูงหลังจากที่หนุ่มๆ เยอรมันข้างหลังบอกลาโรนัลโด้เสร็จแล้ว

รอบข้างของชายหนุ่มทั้งสี่คนคือผู้คนที่เสียขวัญและได้รับบาดเจ็บเนื่องจากโดนลูกหลง วิ่งไปวิ่งมาและเจ้าหน้าที่ก็พยามหาทางช่วยพวกเค้าอยู่อย่างเต็มที  แต่ทว่ารถพยาบาลเที่ยวแรกที่จะได้ไปถึงโรงพยาบาลนั้นเป็นของโรนัลโด้  ตำรวจและหมอที่เพิ่งรักษาเค้าเห็นพ้องกันว่าต้องการจะให้นักฟุตบอลดังได้รับความเป็นส่วนตัวจึงไม่ต้องการให้ผู้บาดเจ็บคนใดปะปนไปกับเค้าด้วย

“โชคดีเพื่อน”

“นายต้องได้ลงสนามแน่คริส ฉันเชื่ออย่างนั้น  รักษาตัวดีๆ นะพวก”

“แล้วพวกเราจะไปเยี่ยมน้าา”

นอยเออร์พูดน้อย  มึลเลอร์ให้กำลังใจ  และปิดท้ายด้วยชไวนี่ที่ยิ้มอย่างโลกสวยอย่างเช่นเคย  โรนัลโด้ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว  และเค้ากับเมสซี่เองก็ต้องจากกันตรงนี้........

ถ้าหากว่าเค้าอยากให้เป็นแบบนั้น

“ขอโทษครับ  อย่าเพิ่งปิดประตู...” โรนัลโด้ที่จ้องมองใบหน้าน่าเห็นใจของเมสซี่พูดขึ้น พร้อมกับยกมือขึ้นห้ามบุรุษพยาบาลที่กำลังจะปิดประตูรถ  ร่างสูงยกมุมปากขึ้น

“เอ่อ...เค้าลืมอะไรงั้นเหรอ” มึลเลอร์เอ่ยขึ้นเรียบๆ เมื่อเห็นว่าร่างสูงของชาวโปรตุเกตุไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ปิดประตู  เค้ามีสีหน้างุนงง คนอื่นก็เช่นกันโดยเฉพาะเมสซี่ที่โดนโรนัลโด้ส่งยิ้มให้ด้วยสายตาเป็นประกาย

ร่างเล็กมองตอบอย่างไม่เข้าใจ  ในขณะที่ร่างสูงของโรนัลโด้ยกมือขึ้นปรามบุรุษพยาบาลที่จะจับตัวเค้าให้นั่งลงไปที่เดิม เมื่อเค้าเองกำลังจะลุกขึ้น  ร่างสูงพูดกับชายผิวเข้มที่ทำหน้าไม่เข้าใจ ด้วยรอยยิ้มที่หล่อที่สุดในโลก

“ผมไม่เป็นไรแล้วครับ” เค้าพูดประดับด้วยรอยยิ้ม

ก่อนโรนัลโด้จะดันตัวเองขึ้นมาจากเตียง  แล้วโดดลงรถพยาบาลด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม  บุรุษพยาบาลพยายามเรียกร้องให้ร่างสูงคนดังแห่งวงการลูกหนังกลับขึ้นมา แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจเสียงนั้น  กลับหันไปดึงแขนชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่เกือบจะเดินมาชนเค้าเข้าด้วยท่าทางที่ซวนเซดูน่าเป็นห่วง  ร่างสูงแข็งแรงพูดขณะช่วยพยุงชายที่บาดเจ็บคนนั้นไว้

“เฮ้  คุณต้องการหมอนะ  ดูท่าแล้วไหล่ซ้ายคุณจะหลุดแถมยังแขนหักอีกต่างหาก คุณควรไปโรงพยาบาลนะ........เฮ้พวก เอาเค้าขึ้นรถไปเลย  เค้าต้องการไปโรงพยาบาลมากกว่าผม” ร่างสูงพูดด้วยรอยยิ้มแห่งความอารีและเป็นการเป็นงานในเวลาเดียวกัน  เค้าดันหลังส่งชายคนดังกล่าวที่ทำหน้างงๆ ให้เดินขึ้นรถพยาบาลไป

บุรุษพยาบาลช่วยให้ชายวันกลางคนได้ขึ้นรถอย่างปลอดภัยและดูแลขั้นเบื้องต้นอย่างว่องไว  ก่อนชายคนนั้นจะหันมายิ้มอย่างขอบคุณที่ร่างสูงใจดีผู้นี้อุตส่าห์เห็นใจและเชื่อเชิญเค้าขึ้นรถที่กำลังจะไปถึงพยาบาล

และชายผู้ได้รับการหยิบยื่นน้ำใจไปให้คนนั้นก็ถึงกับต้องรู้สึกประหลาดใจอย่ามากกับตนเอง  และได้ตระหนักว่าเค้าโชคดีเพียงใด ที่เพิ่งสังเกตเอาทีหลังว่าชายหนุ่มหน้าตาดีที่เอื้อเฟื้อแก่เจ้าตัวเป็นถึงบุคคลที่ใครๆ ก็ต่างรู้จักและกล่าวขวัญกันอย่างแพร่หลาย

โรนัลโด้ที่เพิ่งสละรถเที่ยว VIP ให้ชายวัยพ่อไปก็ยิ้มและขยิบตาให้ ก่อนจะหันไปเจอกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีแพทย์สนามประคองประกบข้าง  เดินผ่านมาขอกล่องปฐมพยาบาล เค้าถูกยิง  และร่างสูงก็ไม่รีรอที่จะเชิญชายคนนั้นขึ้นรถไปอีกคนหนึ่ง

โรนัลโด้ตอนนี้ดูเหมือนอาสาสมัครช่วยเหลือทีมแพทย์สนามของโรงพยาบาลอย่างไรอย่างนั้นเลย.....

ผลสุดท้ายแล้ว ทั้งนอยเออร์  ชไวนี่  มึลเลอร์  และเมสซี่ยืนมองร่างสูงของโรนัลโด้โบกมือให้รถพยาบาลที่เค้าควรจะอยู่ในนั้น อย่างร่าเริง  ร่างสูงสมส่วนหมุนตัวบนสันเท้าแล้วยิ้มอย่างที่เค้าชอบทำในตอนที่เพิ่งกลับมาจากการช่วยเหลือและบริจาคให้แก่ผู้อื่น  ก่อนจะเจอเข้ากับสีหน้าไม่เข้าใจของหมู่คนที่เป็นเพื่อนเค้า ซึ่งไม่กระดิกตัวไปไหนเลย

โรนัลโด้เลิกคิ้ว  นอยเออร์เปิดสนามถามคนแรกแบบหน้าตาย

“นายทำบ้าอะไรน่ะ”

“ทำไมไม่ไปกับเค้าล่ะคริส”

ร่างสูงยักไหล่ใส่ชไวนี่ ก่อนจะเดินหน้าไปแล้วค้อมตัวดึงมือของเมสซี่ออกมา  โรนัลโด้ยิ้มตอบหนุ่มเยอรมันสามคนที่ตั้งคำถามทางสายตากับเค้า

“คริส เอ่อ คุณ....” ร่างเล็กที่โดนดึงไปอย่างอ่อนโยนหันรีหันขวางไปทางโรนัลโด้ที ทางหนุ่มเยอรมันสามคนด้านหลังที  น้ำเสียงเบาหวิวของเมสซี่เต็มไปด้วยความงุนงง  โรนัลโด้ไม่ยอมบอกอะไรเค้าอีกแล้ว

.............ร่างสูงมีเรื่องให้ประหลาดใจได้ตลอด............

“อ๋อ ผมแค่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ แค่......” แทนคำตอบนั้น โรนัลโด้ก้มลงกระซิบตรงข้างหูของเมสซี่  ชไวนี่กัดมือตัวเองแล้วยืดตัวอย่างตื่นเต้น พร้อมกับอีกสองคนที่เกือบอ้าปากค้าง

..............ไปสนิทกันเอาตอนไหนฟะ?!..............

โรนัลโด้กระซิบเสร็จแล้ว  แต่เมสซี่ก็ยังคงยืนจ้องค้างไปยังอากาศธาตุตรงหน้าแล้วดวงตาก็เปล่งประกายราวกับว่าร่างสูงได้ร่ายมนต์สะกดใส่เค้า  ก่อนร่างสูงที่กุมมือบอบบางทั้งสองข้างของเค้าจะประดับรอยยิ้มสนุกสนานบนใบหน้า  แล้วหันไปเพยิดเพย้อกับสักขีพยานการใกล้ชิดในครั้งนี้

“ฝากบอกสองคนนั้นด้วยนะว่าเราจะไม่อยู่” ใบหน้าของร่างสูงดูมีความสุข ทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็โดนนอยเออร์เอ่ยทักขึ้นเสียก่อน

เฮ้ แล้วนั่นพวกนายจะไปไหนน่ะ” สีหน้าเช่นนี้หาดูได้ยากนักสำหรับนอยเออร์  โรนัลโด้ยิ้มและขยิบตาทะเล้นจนออกจะเจ้าเล่ห์

“ไปเที่ยว” ว่าแล้ว ก็วิ่งออกไปฉุดมือเมสซี่ที่ปล่อยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวไปด้วย

“เฮ้ เดี๋ยว! ไปไหนกันน่ะ  ไปด้วยคนสิ!

บาสตี้...ปล่อยเค้าไปเหอะ ถ้าเค้าอยากให้เราไปก็ชวนเราไปนานแล้วล่ะ  ว่าแต่นายก็เลิกมองได้แล้ว  เค้าไปกันแล้ว” มึลเลอร์รุนหลังคนที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บ้าง.......พวกเค้าต้องการน้ำและการพักผ่อนเสียที หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งคืนแล้ว

สองคนนั้นเดินไป และตามด้วย มานูเอล   นอยเออร์ ที่ยังคงมองตามหลังของสองคนที่เพิ่งวิ่งออกไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจ.............

 แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เค้าเข้าใจแน่ๆ นั่นก็คือมิตรภาพของสองหนุ่มที่มีชื่อเสียงปีนเกลียวกันมาได้ก่อเกิดขึ้นแล้ว  ไม่ว่าจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่  แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และดูท่าทางสองคนนั้นจะดูห่างกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป........

“มานู...มานูเอล  เฮ้ เราจะไปกันแล้วนะ มาเร็วเข้า”

เสียงสดใสของชไวนี่ดังไล่หลังมา  นอยเออร์ต้องไปแล้ว.........

ร่างสูงหกฟุตสี่หันไปตามเสียงที่เรียกเค้าแต่สายตาก็ยังคงมองไปยังทางเดิม  ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาน้อยๆ อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นแล้วเดินไปหาชไวนี่ที่อ้าแขนรอคล้องคอเค้าอยู่  และเมื่อไปถึงชไวนี่ก็ตัวเกือบลอยเลยทีเดียวเพราะนอยเออร์สูงกว่ามาก  หนุ่มเยอรมันสามคนเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอน้ำและผ้าห่ม ช่วงเช้ามืดของริโอหนาวเสมอ

..........ใช่  นอยเออร์เข้าใจถูกแล้วล่ะ  เพียงแต่เค้าแค่พูดผิดไปนิดหนึ่งเท่านั้นเอง............

บางอย่างที่มากกว่า มิตรภาพได้เริ่มขึ้นแล้ว

.

.

.

*******************************************************

.

.

.

และในขณะที่เรื่องเลวร้ายได้จบลง ผู้คนมากมายต่างต้องการพักผ่อน  แต่ชายหนุ่มสองคนที่หลบออกมากำลังเดินไปด้วยกันในถนนสายที่คลาคลำไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื่อชาติ

โรนัลโด้พาเมสซี่เข้าร้านอาหารที่เพิ่งเปลี่ยนมาเป็นเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงในช่วงที่มีเทศกาลบอลโลก  ภายในร้านมีการตกแต่งเรียบง่ายแต่บ่งบอกถึงธรรมชาติประจำภูมิประเทศได้เป็นอย่างดี   เค้าเคยมีโอกาสแวะเข้ามาและคิดว่าเหมาะดีทีเดียว  ข้างในร้านตกแต่งด้วยไฟสีอ่อนในเวลากลางคืน  มีมุมส่วนตัวใกล้ชิดบรรยากาศธรรมชาติที่ทางร้านจงใจสร้างขึ้นมา  และแสงไฟที่ใช้ตกแต่งและประดับประดาก็สวยเอามากๆ ด้วย

ร่างสูงกับร่างเล็กเล่นทายหัวก้อยกัน  แย่งชิงว่าใครจะได้เป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อแรกของพวกเค้าในคืนนั้น  พวกเค้าต้องเริ่มใหม่หลายรอบเพราะเมสซี่บอกว่าโรนัลโด้โกงต้องเอาใหม่  แต่ผลสุดท้ายนอกจากจะได้จ่ายค่าอาหารแล้ว ร่างสูงยังท้องแข็งติดเก้าอี้อีกด้วยเพราะร่างเล็กไม่ยอมเคารพกติกา แย่งยื่นบัตรเครดิตให้บริกรแข่งกันกับร่างสูง  และก่อนหน้านั้นอีกที่โรนัลโด้ยิ้มและหัวเราะจนน้ำตาไหล

โรนัลโด้บอกบริกรว่าเค้าเพิ่งไปเล่นน้ำมา หลังจากบริกรพบว่าบัตรเครดิตของเค้าเปียก  บริกรก็อมยิ้ม รู้สึกประทับใจร่างสูงในความอารมณ์ดีของเค้า

“ก็ให้ตาย  นั่นมันเรื่องจริงนี่” โรนัลโด้กระซิบกระซาบกับเมสซี่เมื่อบริกรลับหายไป  ร่างเล็กทำเสียงที่เรียกว่ากลั้นขำออกมาก่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วเริ่มทำไหล่สั้นเพราะขำออกมาอีกแล้ว...........

...............ไม่มีทาง  ไม่มีทางที่นักฟุตบอลมืออาชีพและแถมยังจะชื่อดังอีกด้วย จะซุกหน้าลงกับแขนของตัวเองในร้านอาหารป่าแบบนี้............

บ้าไปแล้ว......คริสเตียนโน่พูดและยิ้มให้กับตัวเอง  เพระเค้าเพิ่งรู้ตัวว่าละสายตาไปจากอีกคนหนึ่งไม่ได้เลย  ร่างเล็กตรงหน้าเค้าจะน่ารักเกินไปแล้ว

เวลา 02.15 น. .................

ทั้งสองหยุดอยู่ที่ร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ ร้านหนึ่งซึ่งมีของที่ระรึกประจำถิ่นต้อนรับเทศกาลขายเหมือนร้านใหญ่ๆ ทั่วไป  แต่พวกเค้าเลือกที่จะหยุดซื้อที่นี่เพราะมันเป็นร้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครคิดเข้ามาซื้อเลย

คุณย่ากับหลานวัยงสิบขวบของท่านเป็นเจ้าของร้าน พร้อมกับพ่อและแม่ของเด็กน้อย ซึ่งมักจะเปิดขายตลอดเวลาและตอนนี้เป็นช่วงขายของสองย่าหลาน........เมสซี่เป็นคนดึงมือโรนัลโด้มาที่นี่และร่างสูงก็ชอบเอามากๆ เค้าบอกอีกคนหนึ่งว่าเราควรจะไม่พยายามบอกคนอื่นว่าเราเป็นใคร

เพราะงั้น พวกเค้าเลยเลือกหมวกบังแดดปีกเดียว กันคนละใบ พร้อมกับแว่นกันแดด  พอมาถึงตอนนี้เป็นเมสซี่บ้างที่ท้องแข็ง ร่างเล็กนั่งตัวปวกเปียกกับเก้าอี้ไม้น่านั่งของร้านแล้วท้าวแขนกับตู้เย็นหลังเล็กกะทัดรัดพลางเช็ดจมูก  แล้วเอาแต่หัวเราะเสียงน่ารักในเรื่องที่ว่า...พวกเค้าใส่สูทกันแล้วก็ใส่หมวกกับแว่นกันแดดยังกะจะไปเที่ยวชายหาดยังงั้นแหละ

โรนัลโด้อ้าแขนแล้วยักไหล่ก่อนจะพูดว่า “ก็มันช่วยไม่ได้หนิ....ปะ ไปกันเถอะผมจะพาคุณไปปล้นร้านทอง...” ร่างเล็กตัวงออีก ซุกหน้ากับวงแขนตัวเองแล้วทุบที่ท้าวแขน  ร่างเล็กหัวเราะจนหน้าแดงแจ๊ไปหมด

นอกจากนั้นพวกเค้ายังเลือกผ้าเชียร์ลาย World Cup 2014 สีสันสวยงามที่คุณยายและคนในครอบครัวช่วยกันทำอีกด้วย.......โรนัลโด้และเมสซี่เห็นตรงกัน  พวกเค้าทั้งคู่รู้สึกชอบร้านเล็กๆ นี้ขึ้นมาจับใจ และยิ่งสร้างความประทับใจเข้าไปอีกเมื่อมาร์โก้เด็กชายวัยสิบขวบคนนั้นนำเครื่องดื่มสูตรลับของคุณย่ามาให้ลองชิม  ชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ที่นั่นพักหนึ่งโดยที่ไม่มีใครผ่านเข้ามาเลย

คุณย่าบอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว เพราะนักท่องเที่ยวส่วนมากจะไปซื้อของที่ระลึกจากร้านใหญ่ๆ กันหมด ไม่ได้ผ่านเข้ามาที่นี่มากนักถ้าจะมีก็คงเป็นพวกที่หลงมาเพราะเป็นซอยเล็กและไม่ค่อยมีใครสนใจ

 ก่อนออกไปเมสซี่และโรนัลโด้ร่วมถ่ายรูปกับสองย่าหลานไว้เป็นที่ระลึก (และเช้าวันต่อมาพอพ่อของมาร์โก้เห็นเข้า ร้านของพวกเค้าก็ดัง กระทั้งมีคนเข้ามาอึดหนุนจนขายของไปซะหมดเกลี้ยงเพราะที่นี่เป็นร้านที่ซูปเปอร์สตาร์นักเตะทั้งสองเคยมาเข้า.....ร้านของมาร์โก้เลยดังได้ออกข่าวในทีวีด้วยล่ะ)

และที่ดูจะแย่ที่สุด เหมือนจะเป็นที่ร้านของมาร์โก้ไม่สามารถรับเครดิตได้  แต่คุณย่าก็บอกว่าไม่เป็นไร  พวกเค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน  แค่เข้าร้านมาแล้วมีความสุข  ชื่นชมของที่ครอบครัวช่วยกันทำก็พอแล้ว ไม่ค่อยมีใครได้เห็นมันเยอะนัก  โรนัลโด้จึงให้นาฬิกาข้อมือของเค้าเป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งมันก็มีราคาไม่มากไม่มาย.....เพียงแค่สองล้านปอนด์เท่านั้นเอง

(และภายหลังร่างสูงตัดสินใจบริจาคเงินสร้างร้านใหม่ให้คุณย่าอีก พร้อมกับเงินสนับสนุนธุรกิจที่แสนน่าประทับใจของคุณย่า....อีกเล็กน้อย) + (คุณก็รู้ใช่ไหมว่าเล็กน้อยของโรนัลโด้น่ะมันเท่าไร)

ทั้งสองเดินไปตามท้องถนนอีกครั้ง และเริ่มมีผู้คนมากขึ้น  ท้องถนนถูกประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีมากขึ้น  และเมสซี่ก็หัวเราะออกมาอีกรอบเมื่อหันไปมองโรนัลโด้และหันกลับมามองตัวเอง........ให้ตาย เดินผ่านตำรวจแล้วโดนจับไม่ต้องสงสัยเลย  พวกเค้ากำลังจะไปปล้นร้านทองกันหรือไม่ก็เป็นบ้าไปแล้ว

ร่างเล็กเดินหันหลังให้กับทางข้างหน้า  หันมาพูดกับร่างสูงด้วยประโยคที่ไม่รู้เรื่องนักเพราะขำค้าง  โรนัลโด้มองตามอย่างคิ้วกระตุกนิดๆ นึกสงสัยอยู่ในใจว่าลีโอของเค้าดื่มเหล้าไปบ้างรึเปล่า  แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเลย.....บางทีคนน่ารัก เวลาทำอะไรที่เข้าใจยากก็ยังน่ารักอยู่ดีนั่นล่ะนะ

และก็เป็นร่างสูงเองที่ เดินเข้าไปจับ ประคองเมสซี่ไว้ไม่ให้หงายหลังก้นจูบพื้นไปเสียก่อน เพราะเดินไม่ดูทางข้างหลัง  เมสซี่ทำหน้าเสียเปลี่ยนอารมณ์ทันที  สลับกับร่างสูงที่เป็นฝ่ายหัวเราะใส่บ้าง

“ดูคุณทำหน้าสิ ฮ่ะ..ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆ เหมือนเด็กเลย ฮ่าๆๆ .....โอ๊ะ” ร่างสูงชี้ไปที่ร่างเล็กซึ่งยื้นปากใส่อีกรอบในคืนนี้  ก่อนเมสซี่จะดันหน้าคนที่หัวเราะเค้าอย่างน่าหมั่นไส้ไปอีกทางหนึ่งอย่างแรง จนโรนัลโด้แว่นเบี้ยว

ฮ่าๆๆๆ ดูหน้าคุณสิ....ฮ่าๆๆๆ หัวเราะทีหลังดังกว่านะ....อ่ะ ฮ่าๆๆ” เมสซี่ยิ้มใส่ร่างสูงจนตาปิด แล้วกุมท้องตัวเอง ชี้หน้าคนที่แว่นเบี้ยวอย่างมีชัย......โรนัลโด้จัดแว่นใหม่ แล้วตรงเข้าไปขยี้นิ้วใส่เอวเล็กๆ ของคนที่หัวเราะทีหลังดังกว่า

“หื้มม หัวเราะเก่งนักนะ....ผมยังแก้แค้นที่คุณหยิกหัวนมผมไม่เต็มอิ่มเลย  อี้แน่ะ! อี้แน่...!

“อา อ๊าาา! ฮ่ะ ฮ่าๆๆ อย่าแกล้งผมสิ....เดี๋ยวผมล้มน้า...อาาา ฮ่าๆๆ อึก อย่า! เดี๋ยวผมปัดไปโดนคุณจะเจ็บเอา...ฮ่ะๆๆ เอานะ” ร่างเล็กโดดหยองๆ ทำตัวเอียงข้าง  และพยายามแกะมือร่างสูงซึ่งไม่ยอมปล่อยออก........กลายเป็นว่านอกจากโจรปล้นร้านทองแล้ว พวกเค้าสองคนก็ยังดูเหมือนผู้ใหญ่สติไม่ดีที่เดินไปตามถนนซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงไฟหลากสีอีกด้วย


.


.


.


TBC.


-------------------------------------------------------------------------------------------


อร๊ายยยยยยยย! เฮียพาเหมียวไปเที่ยว! >///<  อย่างที่เฮียได้หลอกถามเหมียวไปเมื่อ Part 19 ใช่ไหมคะ?  อร๊ายยยยยยยยย  เฮียขาาา  โรแมนติกมากเลยค่ะ >//<  ไม่ห่วงตัวเองเลย 5555  แต่เฮียบอกว่าเค้าหายเจ็บแล้วนี่เนอะ^^  งั้นไรท์กับรีดยอมเชื่อก็ได้ค่ะ ><  แหมมมมม  แต่เฮียทำเพื่อเหมียวนะคะเนี่ยยยยย

อยากทำให้ความต้องการที่จะลองไปเที่ยวในเมืองของเหมียวเป็นจริง  โดยที่เฮียก็อยากเป็นคนพาเหมียวไปใช่ไหมล่ะค่ะ ><   เฮียโด้เลยจัดเลย.....พาไปตอนนี้นี่แหละ  เพราะเดี๋ยวเจอพี่ๆ พ่อยกของเหมียวแล้ว  เฮียจะพาลโดนกีดกัน 55555555  ร้ายนะคะเฮียยย >< (แต่เหมียวรักมาก) ฮิ้ววววววววว  //แซว// 55555555

แต่ขอเช็ดน้ำตาอีกรอบนะคะ  จะจบแล้วค่ะ TUT  //เข้าโหมดอาลัยอาวรณ์//  ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นท์และกำลังใจ  การติดตามของรีดทุกๆท่านเลยค่ะ ^^  เฮียเหมียวในเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีรีดที่น่ารักของไรท์ทุกคนนะคะ

รอติดตามความน่ารักของเฮีย(ผู้ยอมได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของเหมียว)กะเหมียวต่อไปใน Part หน้านะคะ  ฟิคเรื่องนี้จะจบแล้ว คอมเม้นท์เป็นอนุสรณ์(?)ไว้กันด้วยนะเออ^^  รักรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ M_ _M

ด้วยรักและหื่น
Ray - Aund





3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

จะน่ารักน่ารักฟรุ้งฟริ้งกันเกินไปแล้วนะเฮียเหมียวววว555 เขินแทน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อิพี่โด้นี่นางโด๊ปอะไรมาคะ คึกเหลือเกิ๊นนนนนนนนน
เดี้ยงปางตายมาหยกๆ พาเหมียวมาระริกระรี้ละ หมั่นไส้เฮียหนักมาก 555555566
ดูแลเหมียวดีๆนะเฮีย

อ่อ พ่อมานูน้อย ว่าๆพาบาสตี้หนีเที่ยวมั่งสิ โนแมนติกดีนะเออ

demon กล่าวว่า...

บรรทัดแรกๆอ่านแล้วกลัวว่าจะมีดราม่าเสียแล้วนะคะเนี่ย

ชอบชไวนี่ยิ้มอย่างโลกสวยมากค่ะ //เอ...ทุกสถานการณ์เลยหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย ;) น่ารักดี//

ว่าแล้วว่าคริสต้องไม่ยอมจากลีโอง่ายๆ ดีมาก ! ให้มันได้อย่างนี้สิพ่อยอดชาย พ่อพระเอกของพวกเรา โรงพยาบาลไม่ไปแล้ว ไม่เป็นอะไรเลยนะเนี่ย แปลว่า ลีโอมีผลต่อจิตใจมากเลย จนลืมเรื่องความบาดเจ็บเป็นปลิดทิ้ง ไม่ต้องไปโรงพยาบาลด้วย เดอะแก๊งค์อย่าได้เป็นงงไป เพราะบางอย่างที่มากกว่ามิตรภาพ ระหว่างคริสกับลีโอได้เริ่มขึ้นแล้วจริงๆ ฮี่ๆๆ