วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 29] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec




อร๊ายยยย มาต่อแล้วค่ะรีดๆ ขาาาา  มาดูกันว่าหลังจากที่แม็กนัสบังคับขู่เข็ญ(?) อเล็คให้มาอยู่ด้วยกันแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นค่ะ  อเล็คจะทำอย่างไร เค้าจะยอมมาตามแม็กนัสไหม ต้องตามไปดูกันค่ะ ><

อย่ากระไรเลยเช่นเดิมค่ะ  พุ่งไปดูกันต่อเลยค่าาาา >///<



------------------------------------------------------------------------------------------



การมาอยู่กับแม็กนัสมันเป็นความคิดที่ดีไหม?

ไม่  ไม่หรอกผมคิด.....

แต่ว่าการอยู่ที่ห้องเหมือนเดิมแล้วติดอยู่กับความทรงจำร้ายๆ หรือเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำแม้คนๆ นั้นจะโดนจับไปแล้วก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเข้าไปใหญ่

ผมกลัว  กลัวมาก  คาร์ลกลายเป็นคนอื่นที่ผมไม่รู้จัก และเค้ากำลังทำร้ายผมในขณะที่บอกว่าจะปกป้องผม.....ไม่หรอก  การกระทำที่ว่าปกป้องของเค้า มันทำให้ผมตัวสั่น

จนกลายเป็นว่าผมต้องมานั่งอยู่ในห้องพักของแม็กนัสด้วยอาการไม่คุ้นชินแล้วเก้อเขิน.....ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย  มันทำให้ผมประหม่าและทำอะไรไม่ถูก

ผมมองไปทางซ้ายเห็นห้องนอนของแม็กนัส ความทรงจำในคืนนั้นมันทำให้ผมกัดปากตัวเองอย่างไม่แน่ใจ  แต่พอมองออกไปนอกประตู ผมก็ตัวสั่นจากการคิดที่จะกลับออกไป

แต่ผมไม่คิดว่าผมควรที่จะอยู่ที่นี่เลยสักนิดเดียว  ผมไม่เหมาะกับที่นี่  มีหลายคน(รวมทั้งแม็กนัส)บอกว่าผมไม่ควรเกรงใจมากเกินไป แต่ผมว่ามันฟังดูจะเกินไปหน่อยนะ ผมเกรงใจในระดับที่คนปรกติเค้าเป็นกัน....ผมกลัวว่าแม็กนัสจะรำคาญผม เพราะเอาแต่เดินตามเค้าตลอดเวลา

....ก็เท่านั้น

ผมได้ยินเสียงเปิดน้ำได้ครู่หนึ่งแล้ว ก่อนแม็กนัสจะเดินออกมาจากห้องน้ำที่ปิดประตูทิ้งไว้  ผมหนีบขาเข้าหากันอีกแล้ว เป็นเพราะนิสัยขี้ประหม่าซึ่งติดมาจากตอนเด็กๆ ที่ชอบทำให้ตัวดูเล็กลงในเวลาที่น่าอึดอัด

แม็กนัสเดินมาตรงหน้าผม  เค้ายังคงใส่ชุดเดิม  ผมนึกว่าเค้าไปอาบน้ำเสียอีกแต่ก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเลย  จู่ๆ เค้าก็ยิ้มอ่อนโยนให้ผมอย่างที่ผมชอบ แล้วพูดเสียงไม่ดังมากนัก

“นายไปอาบน้ำเถอะอเล็ค” เค้ายังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น  แต่ผมเงอะๆ งะๆ

“เอ่อ...คือ จะ  เอ่อ...” ผมยกนิ้วขึ้นชี้ไปที่เค้าซึ่งเป็นเจ้าของห้อง  แต่ยังไม่ทันที่จะได้อ่ำๆ อึ้งๆ ต่อ  ตัวของผมก็โดนหิ้วขึ้นแล้วโดนรุนหลังเดินไปตามทิศทางของคนช่างบังคับเสียแล้ว  ผมได้ยินเสียงพึมพำของแม็กนัส

“โธ่...นายไปอาบก่อนเถอะน่า  ทำเหมือนเราแชร์ค่าห้องกันอยู่อย่างนั้นแหละ  ฉันให้นายมาอยู่ด้วยไม่ได้บอกว่าจะให้มานั่งเกรงใจซะหน่อย”

แต่ผมก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี

“ทำไมนายจะต้องกระซิบด้วยล่ะ” ผมกระซิบตามเค้า

แต่จู่ๆ แม็กนัสก็ทำเสียงเหมือนกลั้นขำ “เอ่อ  ฉันกลัวนายตกใจน่ะ....ไม่ต้องกระซิบตามฉันหรอกอเล็ค  ไป ไปอาบน้ำเถอะ” และก่อนที่ผมจะได้ปฏิเสธเค้าหรือทำอะไรอย่างอื่น  ตัวของผมก็โดนดันเข้ามาอยู่ในห้องน้ำเสียแล้ว  ไอของน้ำอุ่นทำให้กระจกรอบข้างเป็นฝ่า  ผมได้กลิ่มน้ำมันหอมระเหยคละคลุ่งอยู่ในห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าห้องพักของผม....อา  ใช่  กลิ่นที่แม็กนัสใช้นี่เอง

ประตูห้องน้ำยังไม่ปิดลง  แม็กนัสเดินผ่านมันไปและนั่นยิ่งทำให้ผมประหม่า  รู้สึกอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นไปเลยเสียด้วยซ้ำ  ผมไม่เคยได้สิทธิเข้ามาใช้สอยถึงขนาดนี้เลย จนกระทั่งสามสี่วันที่แล้วหลังจากคืนนั้น....

ผมตัวสั่นอีกแล้ว  ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองห่อไหล่  ก้มหน้ามองพื้นอย่างไม่แน่ใจ แล้วเม้มริมฝีปากตามนิสัย  ผมไม่ชอบให้ตัวเองเป็นแบบนี้เลย  แต่ก็ไม่สามรถแก้ไขมันได้ด้วยเช่นกัน  เพราะคนที่ทำให้มันหยุดลงได้ก็มีแค่คนเดียวคือ...

“ฉันวางกระเป๋านายไว้ตรงนี้นะ เผื่อนายอยากเลือกเสื้อผ้าใส่เอง  ฉันจะ....เอ่อ  ออกไปเก็บของของนอก” แม็กนัสพูดขึ้น  ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งอยู่ห่างไปอีกส่วนหนึ่งของห้องน้ำขนาดไม่เล็กเลยของเค้า  แล้วทำท่าจะเดินออกไป  ผมเห็นเค้าแอบแตะอะไรบางอย่าง  คาดว่าน่าจะเป็นเสื้อที่ใส่แล้วและเค้าก็คงจะทิ้งเรี่ยราดเหมือนเดิมไม่มีผิด  และคำว่า เก็บของข้างนอก ของแม็กนัสก็คงจะหนีไม่พ้นไปเก็บของที่เค้าทิ้งระเกะระกะไว้เป็นแน่  ผมคาดเดา

และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากที่ผมอาบน้ำในห้องน้ำที่ชวนเปลี่ยว (เพราะใหญ่เกินไป) เสร็จแล้วอย่างเชื่องช้า  และทำใจอยู่อีกพักใหญ่กว่าจะออกมาได้  ผมก็ไม่เห็นข้าวของที่เคยวางทิ้งเอาไว้ดั่งเช่นตอนแรกที่เข้ามาอีกแล้ว  ผมเห็นแม็กนัสถอดเสื้อและกำลังใช้เท้าพาดเก้าอี้อยู่

สาบานได้ผมเจ็บหน้าผากมากๆ เลย ในตอนที่เดินหนีภาพนั้นซึ่งบังเอิญเดินออกมาเห็นพอดี  จนไปชนเข้ากับฉากไม้บาเก่ที่ผมดันมองไม่เห็นเข้า  ผมเผลอร้องออกไปเสียงดัง  แม็กนัสที่นั่งคุยโทรศัพท์จึงเด้งตัวขึ้นมาแล้วรีบรุดมาหาผมอย่างรวดเร็ว  ผมพูดอะไรไม่ออกเอาแต่กุมหน้าผากไว้อยู่อย่างนั้นในตอนที่แม็กนัสวางสายแล้วถามผมว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

“มะ มะ ไม่...ฉันไม่เป็นอะไร ไม่...”

“ได้ยังไงล่ะ  ฉันได้ยินเสียงนายร้องดังมากๆ เลยนะ  ขอฉันดูหน่อยสิ” เค้าเอ่ยแล้วพยายามแกะมือของผมออกอย่างแผ่วเบา  ผมไม่ได้ทำตัวดื้อดึงกับเค้าเพราะไม่อยากโดนดุอีก

ผมเห็นเค้าทำตาโตแล้วขมวดคิ้ว

“ฉันหัวโนเหรอ?” ผมถาม ฟังดูรบเร้ามากเกินกว่าที่ผมคิดไว้  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันคงไม่น่าดูเสียเท่าไรแน่

แต่แม็กนัสส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่หรอก  นายเจ็บมากไหมอเล็ค?” เค้าถามผม

“ไม่  ฉันไม่เจ็บ”

แต่แม็กนัสก็ทำหน้าดุผมอีก “โกหกชัดๆ  ถ้าไม่เจ็บแล้วนายจะร้องไห้ทำไมล่ะ  น้ำตานายมันเล็ดออกมาจนปิดไม่มิดเลยนะรู้ไหม  แล้วหน้าผากนายมันก็แดงแจ่เลย....ดีนะที่หัวไม่โนน่ะ”

อะไรกัน  แค่นี้ก็ต้องดุผมด้วยหรือ  ผมทำหน้าบูดใส่เค้าโดยไม่รู้ตัว “ช่างฉันเถอะน่า”  ผมบอกปัด  และอยากจะให้แม็กนัสใส่เสื้อของตัวเองสักที  ผมไม่เข้าใจ  ทำไมผมถึงยังได้รู้สึกใจเต้นระรัวอยู่อีกนะ  ผม เอ่อ ผมไม่คิดว่า....

“อาหารมาส่งแล้ว อยู่ในครัว  นายไปทานก่อนเลยนะ  ถ้าง่วงก็นอนไปก่อนได้เลย  นายควรจะพักผ่อน” แม็กนัสว่าในระหว่างที่ดึงผมไปที่ครัวและทายาที่หน้าผากให้ผมไปด้วย  เค้าคว้ามันติดมือมาด้วยจากกล่องปฐมพยาบาล

ผมหรี่ตา ก่อนจะหยีมันไปเลยเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในบริเวณที่เพิ่งโดนโขกไป  แม็กนัสมองผมครู่หนึ่งแล้วยักคิ้วให้ผมเป็นเชิงว่า “ทานอาหารในจานนนั่นให้หมดซะนะ” อย่างที่ชอบทำ  ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป  ผมจึงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์ในครัวนั้นต่อไปสักพักหนึ่งแล้วเกี่ยวนิ้วกันไปมาอย่างช่างใจ

ถ้าผมไม่ทาน  แม็กนัสจะต้องดุอีกแน่นอน  และผมไม่อยากให้เค้าออกแรงทำแบบนั้นเลย

ดังนั้นผมจึงลงมือทานอาหารตรงหน้าที่แม็กนัสสั่งขึ้นมาให้  อย่าให้เค้าต้องมาเปลืองแรงเพราะผมอีกเลย  ผมไม่อยากให้เค้าต้องเหนื่อย  แต่ถึงกระนั้นผมก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าอยากจะหนีเค้ากลับไปอยู่ที่บ้านของพ่อและแม่อีกแล้ว  เพราะผมเหงา พร้อมทั้งหวาดกลัว  และผมก็รู้สึกราวกับว่าทุกอย่างได้หายไปอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นแม็กนัสเข้ามาช่วยผมจริงๆ ในตอนที่คาร์ลกำลังจะทำเรื่องแบบนั้นกับผม

ผมรู้สึกราวกับว่ากลับกลายไปเป็นตอนเด็กๆ อีกครั้งหนึ่ง  ที่ซึ่งแม็กนัสคอยปกป้องผม และผมก็มักจะอุ่นใจเสมอยามเมื่อมีเค้าอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่รู้ว่าผมจะทำให้เค้ารู้สึกรำคาญบ้างรึเปล่านะ

บางทีอาจจะใช่  เพราะผมเอาแต่ร้องไห้งอแงไม่เลิกเหมือนเด็กอยู่ตลอดเวลาเลยนี่นา  แม็กนัสอาจแค่คิดว่าเค้าควรรับผิดชอบผม เนื่องจากเค้ารับหน้าที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เป็นได้

แต่ผมก็รู้สึกดีเสมอที่ได้อยู่ใกล้เค้า  แม้เค้าจะทำท่าทางเหมือนรำคาญผมก็ตาม  ผมไม่รู้สึกเดียวดายเลยเมื่ออยู่ใกล้เค้า  และผมแอบหวังไว้ในใจว่าจะได้อยู่ที่นี่จนกว่าแม็กนัสจะออกปากไล่  มันจะเป็นการเสียมารยาทมากไปหรือเปล่านะ  เพราะในเวลานี้ผมเป็นแค่ผู้ขอพักอาศัยในคอนโดหรูที่ไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าจะได้เข้ามาค้างคืนแบบนี้

แม็กนัสคงจะต้องบอกผมแน่หากเค้ามีความต้องการที่อยากจะให้ผมออกไป  เพียงแค่บอกมา  ผมก็พร้อมจะไปและเลิกรบกวนเค้า  ขอแต่เพียงว่าให้เวลาผมได้รู้สึกไม่หวาดกลัวและเหน็บหนาวแบบนี้ต่อไปอีกสักพักหนึ่งก็เถอะ

เมื่อเค้ารำคาญแล้ว  ผมจะไปผมสัญญา....

ก็เพราะว่าแม็กนัสเป็นเพื่อนที่ดีนี่

แต่ถึงอย่างไร  เค้าก็ไม่ได้รักผมอย่างที่ผมรักเค้า

นั่นมันเป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของผมเท่านั้น

แค่ของผมคนเดียว....

ผมยิ้มเศร้าให้กับจานอาหารซึ่งโดนผมจัดการไปเสียหมดเกลี้ยงแล้ว  แต่ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูหน้า  ก่อนแม็กนัสจะพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำอย่างรีบเร่ง  เดินเข้ามาหาผมในตอนที่ผมสะดุ้งสุดตัวแล้วนั่งลงซุกกับเคาน์เตอร์ห้องครัว

สะ  เสียงอะไรน่ะผมไม่ชอบเลย มันทำให้ผมนึกถึงคาร์ลที่ไม่เป็นผู้เป็นคน

ผมซุกหน้าลงกับแขนที่ยกขึ้นมากอดเค้าแน่น

ไม่เอา  ไม่เอาแล้ว....ผมไม่อยากเจอเค้าอีก

ในความฝัน ผมฝันเห็นประตูที่สั่นคลอนเพราะแรงทุบ  อีกฝั่งหนึ่งของประตูมีคนกำลังเรียกชื่อผม  เรียกแล้วเรียกอีก  ผมอยู่ในห้องคนเดียวและไม่มีใครช่วยผมได้เลย....ผมฝันร้าย

และเหตุการณ์ณ์แรกในฝันนั้นกำลังเกิดขึ้นจริง  ผมภาวนาขออย่าให้เป็นคาร์ลที่เรียกชื่อผมอยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตู  และเข้ามาจับตัวผมไว้  มันทำให้รู้สึกว่าผมจะไม่มีวันหลุดพ้นออกจากเค้าไปตลอดกาล

และเสียงเคาะประตูนั้นก็เบาลง ในเวลาที่แม็กนัสซึ่งสวมกางเกง  ลำตัวถูกหยดน้ำเกาะพราว  เรือนผมเปียกปอน  วิ่งถลาเข้ามากอดผมไว้

ผมกอดเค้าไว้แล้วบอกว่า

“แม็กนัสอย่าทิ้งฉันไป”

ผมกลัวจับใจว่าความฝันนั้นจะเป็นจริง



.



.



.



TBC.



---------------------------------------------------------------------------------------



โอ่วววว อะไรนะจ๊ะอเล็ค...หนูเป็นอะไรไปลูกก??  หนูเคยฝันว่ามีคนแอบดูหนูและจะมาลักพาตัวหนูไปทำอย่างนั้นด้วยเหรอจ๊ะ >< ฮ่อลลลล  ฝันเป็นลางจริงๆ เลยอ่ะ  ฝันบ่อยๆ ด้วยยย  แล้วงี้นอนคนเดียวในห้องเก่าก็ต้องฝันร้ายโดยที่ไม่มีใครปลอบทุกคืนเลยน่ะสิ  อูยยยยย  มาอยู่กับอิตาเบนแล้วนะจ๊ะ มาอยู่กับเค้าแล้ว  ไม่กลัวนะไม่กลัวววว  //ไรท์กอดปลอบเอง//

//สักพักโดนแม้กน็สเตะ//  อั๊ก! อย่าเตะหลังแม็กนัส  หลังยอก....//เอามือจับหลัง//  ช่วงนี้ฉันหลังไม่ค่อยดีนะ //พูดจาอนึ่งอายุ 45 -*-// ยกของหนักมกไปหน่อย  แม่ใช้งานตลอดเลย...ข้ามไป! พูดถึงแม่แล้วเซ็งค่ะ

แต่อเล็คน้อยๆ ก็เข้าหาแม็กนัสอย่างว่าง่ายจริงๆ เลยค่ะ -w-

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร อ่าน Part 30 เลยค่ะ คลิก...

และนี่คือเฟสไรท์ค่ะ ตามธรรมเนียม >>แฟนฟิค ฮอลล๊วู้ด<<  สนใจมาคุยกัน คลิก....

//พี่โน้สค่ะ  รบกวนเอาซาวด์พี่กลับไปด้วยค่ะ  ไรท์ติดแล้ว  นี่ยังไม่รวมกับ โอ้ แม่สาวน้อยนะ 555555//

ด้วยรักและเเรงหื่น
Ray - Aund 



ไม่มีความคิดเห็น: