วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

[FIC – The Maze Runner] + [Part 6] The Scorch Trials – Minho x Thomas [The Maze Runner 2]





(เอารูป นิวท์ นิ้วท์ขึ้น >///<  อร๊ายยยย  นิวท์ไม่ต้องทำเครียดนะจ๊ะ เดี๋ยวริ้วรอยก่อนวัยจะย้ายมาอยู่ถาวรจ๊ะ 555555 //โดนหวดแรง//)


อร๊ายยยย สวัสดีค่ะรีดๆ ที่รักของไรท์ทุกท่านขาาา >///<  ไรท์มาแล้วค่ะ มาแล้ววววว  ฮาาาา  วันนี้รอดจากการโดนแม่ใช้และแอบโดดงานมาค่ะ 555555

Part ที่แล้วมินโฮกับโทมัสก็จัดอีเว้นท์นอกสถานที่ไปแล้วนะคะ 55555  ห้องหับไม่มีใช้ นาทีนั้นต้องใช้เต้นท์ช่วยอย่างเดียว 55555 บ้าจริงงงง  แล้วเบรนด้ากับฮอร์เฮที่เฝ้าไข้อยู่จะไม่ใจแตกหรือคะเนี่ย 5555555 //หัวเราะมากโดนเตะ// แหม่....บ้าริงง >////<

Part นี้ก็มาต่อกันเลยนะคะ  เนื้อหาบางตอนในส่วนนี้เป็นช่วงที่ไรท์เกลียดที่สุดของหนังเลยค่ะ  ชริๆๆๆๆๆ!! นังคนทรยศ!! >{}<  //กำหมัดโบกขึ้นฟ้า// เรื่องนี้ไรท์ทำไรนางไม่ได้จริงๆ ค่ะ กลัวว่าจะนอกเรื่องแล้วมีผลต่อภาค 3 ในฟิคของตัวเอง  แต่ ชริๆๆๆ  ถ้าฉันทำได้จะให้เธอโดนดีอย่างสาสมเลยเทรซ่า

หวีผมซะบ้างนะ...บ้านไรท์มีหลายอัน ให้ไปยืมใช้ก็ได้  สงสารหัวเธอจัง -*-

โอเค เลิกจิกกัดผู้หญิงสักที Ray – Aund เป็นอะไรไม่รู้คะรีดขาา  ไม่อวยผู้หญิงแถมยังเห็นนางเป็นตัวซวยอีก 555555  แต่เทเรซ่านี่มันของจริงเลยค่ะ ><  โอเคค่ะ เลิกบ่นดีกว่าเนอะ  ไปอ่านฟิคกันเลยดีกว่าค่ะ  ปายกันโล้ดดดดดดดดดดด >[]<



------------------------------------------------------------------------------------------



“พวกนายหายไปไหนกันมาน่ะพวก?” ฟรายถาม  หลังจากที่เราขึ้นมาสมทบกับพวกเค้าแล้ว

“เราไปเดินสำรวจรอบๆ ตรงนู่นมาน่ะ” และโทมัสก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับชี้นิ้วกำกับมั่วๆ ผมก็เออออตามเค้าไปด้วย  กระทั้งเรานั่งลงไปและรับรู้ได้ถึงอากาศที่เย็นเยียบ  แสงอาทิตย์อัสดงแสงสุดท้ายของวันที่กำลังจะลาลับไป ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นใจในช่วงเวลาที่อยากจะให้หยุดนิ่งอยู่อย่างนี้ตลอดไป  เราอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สามารถไว้ใจได้ พวกเค้าทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือเรา  แต่แล้วความอ้างว้างก็เกาะกินหัวใจของเราทุกคนเมื่อเพื่อนร่วมวงกตของผมเอ่ยถึงบุคคลที่จากไปแล้ว

เอ่ยถึงเพื่อนของเราที่ควรจะมาอยู่ที่นี่ด้วย  พวกเค้าควรได้เห็นว่าตอนนี้เรากำลังยืนอยู่ที่จุดใด โลกแคบๆ ที่เราถูกตีกรอบอยู่ในวงกตนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ชาวทุ่งทุกคนสามารถนึกออกได้อีกต่อไปแล้ว  มันมากมายกว่านั้นมาก  นิวท์บอกว่าเค้าอยากให้อัลบี้มาเห็นว่าเราอยู่ที่ไหน  และเนื่องจากตามที่โทมัสเคยบอกผมไว้ผมคิดว่านิวท์คงจะคิดถึงอัลบี้มากแต่ในระยะหลังมานี้ผมก็สังเกตเห็นบางอย่างในเวลาที่เค้าอยู่กับแอช  นิวท์มองแอชด้วยสายตาแบบเดียวกันกับที่มองอัลบี้ หากผมเดาไม่ผิดนิวท์คง....

“เฮ้ แอริส!

“ว่าไงเพื่อน?”

เสียงฟรายกับแอริสที่อยู่ข้างล่างตะโกนหากัน เรียกร้องความสนใจของผมและคนอื่นๆ  ไปก่อนที่ผมจะสังเกตเห็นพี่ชายของแอริสและเพื่อนซี้นั่งร่วมวงอยู่กับแฮเรียตและซอนญ่าด้วย  พวกเธอดูชื่นชอบแอชเป็นพิเศษ  ดูเหมือนเค้ากำลังเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้พวกเธอฟังซึ่งแน่นอนสองสาวนั่นชอบมันมาก  ผมได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของพวกผู้หญิงและซอนญ่าก็เข้าไปกอดแขนก่อนจะซบลงไปที่ไหล่กว้างของแอชอย่างสนิทสนม

ผมเห็นภาพเหล่านั้น  และแน่นอนเพื่อนๆ ข้างตัวผมก็เห็นมันด้วย สำหรับผมแล้วมันเป็นภาพที่ไม่ชวนให้คิดอะไรทั้งสิ้นเพราะผมเองก็ไม่ใคร่จะสนใจเจ้าฮอตที่แสนจะรู้ดีอย่างหมอนั่นเท่าไรอยู่แล้ว  แต่สำหรับนิวท์ที่ผมคิดว่านั่นอาจเป็นภาพที่บาดตาไม่น้อย  หากมีใครรู้ว่าโทมัสบอกอะไรผมเกี่ยวกับเค้าแล้วล่ะก็ อาจเข้าใจที่ว่าทำไมนิวท์ถึงไม่ชอบท่าทางของแอชในบางเวลา  แต่มีหลายครั้งที่ผมกลับเห็นเค้าจ้องมองเจ้าฮอตแสนรู้นั่นเหมือนไม่สามารถละสายตาไปได้  และนิวท์เองก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองทำแบบนั้น

หลังจากในห้องอาบน้ำที่โทมัสได้บอกผมเกี่ยวกับความลับบางอย่างของนิวท์ผมก็คอยสังเกตหัวหน้าคนใหม่ของเรามาโดยตลอด  ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าก็ตามแต่การตัดสินใจของเค้าล้วนแล้วแต่ถูกต้องและได้รับการยอมรับจากพวกเราเสมอ

และเดาว่าตอนนี้นิวท์ก็คงจะกำลังทำเป็นมองไม่เห็นภาพข้างล่างนั่นในตอนที่เสหน้าหันไปมองทางอื่นเป็นแน่  เค้าแอบชอบแอชใช่ไหมผมเองก็ได้แต่เก็บคำถามนี้ไว้ในใจคนเดียว แต่เชื่อว่าโทมัสเองก็คิดเหมือนผมด้วยเช่นกัน  ก่อนคนข้างๆ ผมจะทำให้ผมรู้สึกเซ็งอีกครั้งอย่างเสียไม่ได้

“มีใครเห็นเทเรซ่าบ้าง?” โทมัสเอ่ยขึ้นเบาๆ



****************************************************************************




“มีใครเห็นเทเรซ่าบ้าง?” ผมเอ่ยขึ้นเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสมาชิกของเรามีไม่ครบ  ก่อนนิวท์จะบอกว่าเธออยู่บนชะง่อนผาอีกฝากหนึ่งถัดจากเราไป  เทเรซ่าอยู่คนเดียวผมแค่สงสัยว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่าก็เลยบอกทุกคนว่าจะไปหาเธอเสียหน่อย ฟรายกับนิวท์พยักหน้ารับทราบก่อนผมจะเดินออกไปทางมินโฮแล้วจับบ่าเค้าทีหนึ่งเพื่อบอกเค้า  ผมไม่เคยพูดคุยกับเค้าอย่างจริงจังว่าผมไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย เทเรซ่าเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้นและเธอรู้อะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับตัวผมที่ผมอาจไม่รู้ และผมหวังในใจว่ามินโฮจะเข้าใจในเรื่องนี้ เค้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลอะไรเพราะงั้นผมคงวางใจได้

ผมปีนขึ้นไปบนชะง่อนผาที่เทเรซ่ายืนกอดตัวเองต้านลมหนาวอยู่อย่างโดดเดี่ยว “เฮ้ เธอโอเคไหมขึ้นมาทำอะไรบนนี้?” ผมถามเธอเพราะเธอเองก็น่าจะรู้ดีว่าไม่ควรออกมาไกลขนาดนี้

“ฉันกำลังคิดน่ะ” เทเรซ่าหันมามองผมแล้วหันกลับไป  เธอดูเหมือนต้องการความเป็นส่วนตัวผมจึงไม่คิดว่าควรอยู่เพื่อรบกวนเธอ แต่แล้วหญิงสาวผมสีดำยาวสยายที่หันหลังให้ผมกลับหันกลับมาฉุดรั้งผมไว้ด้วยคำถามที่ว่าผมจำแม่ของตัวเองได้ไหม?

ผมคิดว่าได้นะ....ผมคิดว่าได้

“ฉันจำแม่ฉันได้” เทเรซ่าพูดและเธอยิ้มออกมาด้วยราวกับว่านั่นเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเธอ  แน่นอนถ้าเป็นผมก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากเธอแน่นอน  เทเรซ่าบอกว่าแม่ของเธอเป็นคนสวยมากและเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่แล้วแม่ของเธอกลับติดโรคร้าย  แม่ของเทเรซ่าล้มป่วย เธอจึงขังแม่ของตัวเองไว้ในห้องด้วยความหวังที่ว่าแม่จะหายได้เองและหยุดกรี๊ดร้องราวกับคนบ้าคลั่งที่แสนเจ็บปวด กระทั่งวันหนึ่งเสียงร้องนั้นก็หยุดไป

เทเรซ่ายิ้มแล้วเล่าให้ผมฟังแต่ผมเห็นน้ำตาที่เอ่อคลออย่างชัดเจนของเธอ  ไม่แน่ใจว่าตอนจบของความทรงจำเธอเป็นเช่นไร

“แม่ควักลูกตาของตัวเองออกโทมัส” เธอบอผมหลังจากที่เล่าว่าคืนที่แม่ของเธอหยุดกรีดร้อง เธอเข้าไปในห้องนั้นและเจอเข้ากับอะไร พอเทเรซ่าบอกว่าแม่ของเธอควักลุกตาเพื่อกำจัดภาพหลอนผมแทบคะยอนของออกมาจากคอแต่ติดอยู่ตรงที่ว่าท้องของผมไม่มีอะไรให้คะยอนอยู่เลย

ผมเสียใจกับเธอมากที่มีความทรงจำเลวร้ายเกี่ยวกับแม่ แต่เทเรซ่าก็พูดบางอย่างก่อนการแสดงความเสียใจของผม

“โลกยังมีคนอีกหลายล้านคนที่กำลังทรมาน  อีกหลายล้านเรื่องราวเหมือนกับของฉัน  เราทอดทิ้งพวกเค้าไปไม่ได้ ฉันจะไม่ทำ

“เดี๋ยว เธอกำลังจะบอกอะไร?” ผมถามเธอที่ทำหน้ามุ่งมั่นแต่สายตาปวดร้าวนั้นก็จ้องมองมายังผมอย่างขอโทษ  ผมไม่เข้าใจเทเรซ่ากำลังจะบอกอะไร  เธอเป็นเพื่อนของผม  สมาชิกคนสุดท้ายของทุ่ง  ผมช่วยเธอ  เรา...เราทุกคนเป็นห่วงเธอ  ผมคิดว่าเธอจะเข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่และเห็นด้วยกับเราเช่นในทุกครั้งที่ผ่านมา

“ฉันจะบอกว่าอยากให้เธอเข้าใจฉัน”

“เข้าใจอะไร?” ไม่  ผมไม่เข้าใจเธอเลย

เทเรซ่ากระพริบตา  น้ำตาที่เคลือบดวงตาของเธอแห้งเหือดไปแล้ว “ทำไมฉันถึงทำ” เธอพูดก่อนจะเป็นผมเองที่ทำสีหน้าเจ็บปวดเมื่อเห็นแสงไฟจากเฮลิคอปเตอร์ปรากฏเด่นชัดอยู่ที่ขอบฟ้าด้านหลังของเธอพร้อมกับเสียงใบพัดพลังมหาศาล มันบีบหัวใจผมเพราะผมรู้ว่าใครที่มีมัน  ใครกันที่มีเฮลิคอปเตอร์พวกนั้น....

พวกวิกเก็ต

“อย่าสู้พวกเค้านะโทมัส” เทเรซ่ารีบพูด  ท่าทางของเธอดูไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น และในน้ำเสียงนั้นคลายกับว่าจะบีบบังคับให้ผมไม่มีทางเลือกแต่นั่นล่ะที่ทำให้ผมหมดศรัทธาในตัวของเธอ

“เธอทำอะไรลงไป  เธอทำอะไรลงไป” ผมเสียงสั่นพร่า ผมควรจะทำยังไงดี พวกวิกเก็ตมาถึงแล้ว....เทเรซ่าคงจะเก็บวิทยุมาจากคนทรยศของฮอร์เฮและบอกที่ตั้งของเราแก่วิกเก็ตแน่  เสียงฮอล์ใกล้เข้ามาแล้ว เสียงใบพัดดังขึ้นและผมรู้ว่าแจนสัน...ใช่ เค้าต้องมาด้วยแน่ๆ  แจนสันจะต้องไม่มาอย่างเจริญสัมพันธ์ไมตรีเป็นแน่  ไรต์อาร์มเป็นก้างชิ้นใหญ่ของวิกเก็ต  แจนสันจะจัดการกับคนที่ต้อต้านเค้าอย่างสาสมแน่

“ไม่...” ผมรีบรุดลงจากชะง่อนผานั้นไป  ไม่สนใจว่าเทเรซ่าที่ยืนปะทะลมอยู่บนนั้นจะเป็นอย่างไร  ความไม่เข้าใจตีปะทะความรู้สึกผมจนเจ็บปวด...ทำไมกัน?  ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าเธอเป็นเพื่อน  เราทุกคนคิดว่าเธอเป็นเพื่อนกันหมด แต่เทเรซ่า...เธอกลับหักหลังเรา ผมไม่เข้าใจทำไมเธอถึงทำอย่างนั้นถ้าเช่นนั้นเธอก็เลือกยอมที่จะโดนห้อยตัวอยู่เหนือพื้นแล้วถูกสูบเลือดเอาไปทำยาต้านไวรัสอย่างไร้ความปราณีอย่างนั้นหรือ?

ผมวิ่งสุดแรงเกิดเท่าที่มีทั้งหมดตรงไปยังค่ายไรต์อาร์มเพื่อเตือนภัยกับทุกคนแต่ทว่าจรวดลูกแรกของวิกเก็ตก็พุ่งแหวกกลางอากาศไปถึงที่นั่นก่อนผมเสียก่อน

“ไม่!!

ตู้มม!

เสียงระเบิดดังกระหึ่มก้องสะท้อนอยู่ในหูผมเสียจนอื้ออึง  การสั่นสะเทือนเป็นไปตามแรงสะท้านของจรวดทำให้เกิดเปลวไฟระเบิดกระจายตัวออกจากกันเพื่อทำลายล้างทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีให้ราบเป็นหน้ากลอง  มันดังมาก  เปลวไฟร้อนแรงมาก และมันทำลายล้างมากเกินกว่าผมจะคาดได้  ขบวนจรวดถูกยิงถล่มใส่ค่ายพักแรมชั่วคราวของพวกไรต์อาร์มอย่างเลือดเย็น ผมวิ่งเข้าไปในค่ายที่มีผู้คนวิ่งพล่านอย่างตื่นตระหนกเพราะการจู่โจมนั้น  ผมวิ่งไปหาเพื่อนพ้องของผม...ไปหามินโฮ และไม่รู้เลยว่าเค้าไปอยู่ที่ไหนแล้วในตอนนี้




************************************************************************




“โทมัสอยู่ไหนอ่ะ?!” ฟรายวิ่งถลาหลบลูกกระสุนจากปืนของวิกเก็ตเข้าไปอยู่หลังถังน้ำมัน  พวกเค้าเกาะกันเป็นกลุ่มและตามหาโทมัสอยู่

“เค้าไปหาเทเรซ่า!” มินโฮว่า ตะเบ็งเสียงดังไปหน่อยแต่อย่างน้อยทุกคนในกลุ่มก็รับทราบ ทุกคนหมอบลงยกเว้นเสียแต่นิวท์ที่ยืนขึ้นชูคอมองหาสมาชิกจอมวุ่นคนสุดท้ายที่หายไปท่ามกลางเสียงกรีดร้องและระเบิดกับดงห่ากระสุน

ฟิ้วๆๆ

“นิวท์ระวัง!” ทันใดนั้นเองกระสุนช็อตไฟฟ้าแบบหนักก็พุ่งเข้ามาหาคนที่เป็นเป้านิ่งยืนเด่นอยู่คนเดียว แต่โชคดีที่มีคนวิ่งมาแล้วกดบ่าของนิวท์ลงจนหลบกระสุนไปได้ในที่สุด คนที่ถูกช่วยไว้แทบล้มหัวคะมำแต่ทว่านั่นกลับไม่ใช่ปัญหาเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ร่างสูงโปร่งเพิ่งทำไป

“ขะ ขอบใจพวก” นิวท์เอ่ยเสียงตะกุกตะกักมองแอชที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังอย่างตกใจ

“ยินดีช่วย” เค้าพูดก่อนจะจับไปที่หลังของนิวท์อย่างเบามือและชะโงกหน้าคอยดูสถานการณ์รอบนอก  ก่อนพวกเค้าจะเข้าไปช่วยคุ้มกันให้กับวินซ์กับแฮเรียตที่กำลังกุลีกุจอบรรจุกระสุนยิงตอบโต้กับพวกวิกเก็ตอยู่อย่างไม่ยอมแพ้ แต่ไปได้ไม่นานก็ถูกจัดการด้วยระเบิดช็อตไฟฟ้าจนเกิดเหตุสลบหมู่ไปเสียแล้ว

แต่คนที่กำลังเป็นที่ตามหาอยู่อย่างเป็นห่วงในตอนนี้กลับได้แต่นั่งมองดูเพื่อนของตัวเองโดนหิ้วออกไปทีละคนอยู่ข้างเบรนด้ากับฮอร์เฮอย่างทำอะไรไม่ได้เลย  โทมัสหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเห็นเพื่อนของเค้าล้มพับลงกับพื้นไปอย่างนั้น  เค้าตัวสั่นเสียงสั่นพร่าเพราะความกลัวแต่ความอยากที่จะช่วยเพื่อนให้ปลอดภัยทำให้เค้ามีความกล้าขึ้นมา

“แย่แล้ว” โทมัสรำพึงกับตัวเองก่อนจะพิงหลังลู่กับที่กำบังของตัวเองอย่างหมดหนทาง ถึงแม้ว่าจะมีความกล้าเพียงใดแต่จำนวนและศักยภาพของวิกเก็ตตอนนี้เค้าก็ไม่สามารถจะหาวิธีต่อกรได้เลย  น้ำใสๆ เคลือบอยู่ในดวงตาของเจ้าตัวก่อนฮอร์เฮจะตอกย้ำบอกว่าให้หนีไปก่อนไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากพวกเค้าแต่โทมัสไม่สามารถใจแข็งพอที่จะทิ้งเพื่อนซึ่งเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเค้าไปได้

“พวกคุณรีบไปเถอะ...พวกเค้าไม่ได้ตามคุณ คุณจะปลอดภัยแต่ต้องรีบไปเดี๋ยวนี้” เบรนด้าทำหน้าไม่เข้าใจเหมือนกับว่าโทมัสโง่เสียเต็มประดา “ฉันทิ้งพวกเค้าไปไม่ได้” เด็กหนุ่มที่หอบหายใจเพราะหัวใจทำงานหนักผิดปรกติแถลงไขในที่สุด ยืนยันว่าเค้าไม่ได้บ้าไปมากกว่านี้อีกแล้ว  เพียงแค่เพื่อนพ้องเท่านั้นที่โทมัสไม่สามารถทำใจทอดทิ้งไปได้

แต่เบรนด้าเกือบจะค้านในตอนที่ฮอร์เฮบอกว่าเข้าใจเค้า  ทั้งสองจึงยอมปล่อยให้โทมัสทำตามใจตัวเองแล้วหลบหนีกันไปเพียงสองคน  โทมัสใจสั่นถึงแม้ว่าความจริงเจ้าตัวอยากจะเด็ดเดี่ยวมากเพียงใดแต่ความกล้าก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เค้าสามารถยังทนอยู่ตรงนั้นได้

เค้าจะต้องทำยังไง?  จะต้องทำยังไงถึงจะช่วยเพื่อนๆ ได้  โทมัสไม่เก่งถึงขนาดสู้กับคนทั้งกองทัพได้หรอกนะ แต่ทว่าเค้ามีสิ่งที่ทุกคนไม่มี.....

และถัดออกไป แจนสันจับพวกไรต์อาร์มที่เป็นเสี้ยนหนามทุกคนมาคุกเข่ารวบรวมจำนวนกันเป็นเชลยแล้วให้หน่วยพิเศษติดอาวุธของตัวเองคุมตัวล้อมวงเอาไว้  เด็กๆ ทุกคนโดนเช็คกันหมดยกเว้นเสียแต่อีกคนหนึ่งที่หายไป

“แล้วโทมัสล่ะ?” แจนสันว่า  พลางมองหาเด็กหนุ่มที่หายไป

“อยู่ที่นี่” และไม่ต้องให้เสียแรงตามหาเลย  เด็กหนุ่มคนสุดท้ายที่แสนสำคัญเดินออกมามอบตัวด้วยตัวเองพร้อมกับชูมือขึ้นเพื่อแสดงเจตจำนงว่าเค้าไม่ได้มีเจตนาจะต่อสู้  ก่อนแจนสันจะชกเค้าที่ท้องอย่างแรงเพื่อเป็นการตอบแทนที่โทมัสหาเรื่องน่าปวดหัวมาให้แล้วผลักเด็กหนุ่มลงไปนั่งคุกเข่ารวมกับคนอื่นๆ ก่อนคนที่ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างเอาไว้ในกำมือได้แล้วอย่างเรียบร้อยจะส่งสัญญาณบอกให้คนที่คุมบังเหียนอยู่เบื้องหลังปรากฏตัวออกมา

พวกผู้ใหญ่ชั่วร้ายกำลังหันไปคุยบางอย่างกันอยู่  มินโฮที่มีโทมัสหอบหายใจอยู่ข้างๆ ก็กระซิบถามเสียงเบาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมนายไม่หนีไปซะ?” เค้าหวังสุดหัวใจขอให้โทมัสหนีไปได้อย่างปลอดภัย ยิ่งมั่นใจเมื่อไม่พบโทมัสอยู่ที่นี่เมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วแต่เจ้ากุ้งแห้งขี้เหร่ของเค้าก็ดันออกมายอมแพ้ง่ายๆ เอาเสียนี่  สิ่งสุดท้ายที่มินโฮอยากจะเห็นก็คือโทมัสลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเค้า

คนถูกถามไม่ได้หันไปมองหน้าคู่สนทนาเช่นเดียวกับคนเริ่มถาม  โทมัสส่ายหน้า ไม่สนใจว่าใครจะคิดเช่นไร “ฉันหนีมามากพอแล้ว” มินโฮหันมามองเสี้ยวหน้าที่เด็ดเดี่ยวของโทมัสก่อนจะเงียบไปแล้วหันไปกระซิบโดยตรง ให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนและถ่ายทอดสิ่งที่เค้าอยากจะบอกออกไป “แต่นายควรทำ” เสียงของร่างสูงฟังดูเจ็บปวด เพราะโทมัสเพิ่งจะปล่อยโอกาสหนีเพียงโอกาสเดียวของเจ้าตัวทิ้งไป

“ฉันจะไม่ทิ้งนาย” ร่างบางสบตากับอีกคนหนึ่งอย่างไม่มีข้อโต้แย่ง “จะไม่ทิ้งทุกคน” ใช่  เมื่อโทมัสรู้ว่าการหนีไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเค้าจึงต้องหยุดแล้วคิดหาวิธีใหม่แต่เวลาและตัวเลือกก็ช่างมีน้อยเหลือเกิน  โทมัสอยากถาม  อยากปรึกษามินโฮและเพื่อนทุกคนอย่างเช่นที่เคยทำมา  แต่เค้าก็ไม่สามารถทำได้ซึ่งก็อย่างที่บอก  เวลามีน้อยเกินไป.....

และในขณะนั้นเองก็มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นอยู่เหนือหัวพวกเค้าทุกคน  กระทั่งปรากฏเป็นเครื่องบินลำใหญ่และล้ำสมัยมากกว่าเฮลิคอปเตอร์ธรรมดาๆ ที่แจนสันใช้พาพวกมาบุกโจมตีไรต์อาร์มเป็นไหนๆ  เครื่องบินลงจอดที่พื้นดินจนฝุ่นคลุ้งกระจายอยู่ตรงหน้าพวกเค้า  ประตูบานใหญ่ในส่วนท้ายของเครื่องบินเปิดออกเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ติดอาวุธพร้อมทั้งการป้องกันอย่างครบครันเรียงแถวตอนลึกสองแถวเพื่อคุ้มกันคนสำคัญที่มากับพาหนะลอยฟ้าลำนี้ด้วย

ไรต์อาร์มและเด็กๆ ทุกคนเห็นผู้หญิงแก่ชุดสีขาวเรียบหรูดูท่าทางเย่อหยิ่งลงมาจากเครื่อง ตามแถวของเจ้าหน้าที่มา  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคือใคร....เธอคือ เอวา คนที่อยู่เบื้องหลังวิกเก็ตและเรื่องราวทั้งหมดนี่  ความต้องการเดียวของเธอคือความทะเยอทะยานที่ถูกบังหน้าด้วยความหวังของมนุษยชาติ เธอไร้ความรู้สึกและไม่ปราณีเมตตาต่อสิ่งใดทั้งสิ้น  แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเธอเป็นนางมารร้าย  เอวาเดินเข้ามาแล้วถามแจนสันที่ตรงเข้ามาเสนออย่างรู้งาน

“ครบทุกคนแล้วเหรอ?” เธอถามอย่างเรียบเฉย  ไม่รู้สึกถึงความสูญเสียและความโกลาหลที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

“เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีมากพอ” เห็นได้ชัดว่าแจนสันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้เธอพอใจ ก่อนเอวาจะสั่งเด็ดขาดระคนไม่สนใจ

“ต้อนพวกเค้าไปกันได้แล้ว” คนถ่ายทอดคำสั่งจึงไม่รอช้าบอกให้พาทุกคนขึ้นเครื่องไป  เอวาเรียกโทมัสออกมา เธอมีสีหน้าไม่แสดงถึงท่าทางใดทั้งนั้น  ไม่สะกิดใจว่าตัวเองเป็นคนปล่อยให้เหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อครู่นี้เกิดขึ้นและแถมยังมีหน้ามาพูดคำว่า “สวัสดี” กับโทมัสอยู่อีกหน้าตาเฉย  ก่อนเด็กหนุ่มจะคิดว่าเธอไม่ควรทำตัวมีมารยาทงี่เง่าเช่นนี้ในเมื่อใครต่อใครก็ต่างรู้กันดีว่าเธอเป็นคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง  กระทั่งมีคนพาตัวเทเรซ่าออกมาเอวาก็เอ่ยอย่างเป็นห่วงว่า “ฉันดีใจที่เธอปลอดภัย” และมันก็สร้างความงุนงงอย่างมากมายให้เพื่อนชาวทุ่งทุกคน

“เทเรซ่า?”

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”



.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------------



เทเรซ่า นี่มันเรื่องอะไรกัน? //เอียงคอถามแบบข้องๆ//  ถ้าทำแบบนี้มาไขว้กับไรท์ดีกว่าค่ะ  จะต่อผู้หญิงด้วยกันให้ตาบวมก็คราวนี้นี่แหละค่ะ  จะทำอะไรก็มีเหตุผลที่ดีและฟังขึ้นกว่านี้หน่อยเถอะค่ะ  ถ้าไรทืเป็นเทเรซ่า จะคิดว่า...ก็แล้วไง ตายเป็นตายสิ  ถ้าจะออกมาแล้วตายก็ตายมันด้วยกันนี่แหละ! //เธอคนละคาแรกเตอร์กับเทเรซ่าแล้ว -*-//  ถ้าเป็นเทเรซ่าจะอวยมินโฮ –  โทมัส เต็มที่เลยค่ะ


อุ  ไม่เอาดีกว่าค่ะ  ขอเป็นตัวเองดีกว่า  ไม่เป็นเทรเซ่าหรอก  ถ้าไรท์อยู่ตรงนั้นจะเดินไปตบเทเรซ่าให้คอหันเลยค่ะ 555555 //พอแล้ว Aund รีดเค้ากลัวแกแล้ว –{}- //  5555555

โอเคค่ะ รีดขา //หายใจเข้าลึกๆ//  ยังไม่จบเพียงแค่นี้ค่ะ  ถึงเรื่องในหนังจะจบแล้วแต่ไรท์ยังไม่จบค่ะ 55555  ทุกเรื่องเลยค่ะ  แต่งเรื่องไหน พาเรื่องเค้าเป๋ตลอดเลย 5555  อูยยยยย พูดแล้วคิดถึง The Hunger Games เลยค่ะ TUT  เฮ้ย อย่าพูด!! //เอามืออุดปากตัวเอง//  เดี๋ยวรีดตามฆ่า 555555 มันยังไม่เสร็จเลย >0< 

ขอบคุณรีดๆ สำหรับการติดตามนะคะ  และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงค่ะ เพราะต่อไป ความลับ บางอย่างที่แสนจะสำคัญมากๆ กำลังจะได้ถูกเปิดเผยแล้วล่ะค่ะ  ต้องติดตามค่ะ >///< ขอบคุณทุกท่านค่ะ  รักมากมายอีกเช่นเคยค่ะ >3< 

แปะเฟสของไรท์ อิๆๆ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  เข้ามาเป็นเพื่อนและร่วมพูดคุยกับไรท์ได้นะคะ 

Ray – Aund
ด้วยรักและแรงหื่น




1 ความคิดเห็น:

u-hei กล่าวว่า...

มีความเกลียดนางขั้นแม๊กซ์!!!!!