//Part นี้ขอนำเอาภาพนี้ที่ไรท์บูชามาไว้ ณ
หัวบทความค่ะ 5555555 อูยยยยยยยย
พีต้าน้อยๆ พีต้าที่ร้ากกก ดูสิคะ
ฟินนิคจะทนให้พีต้าทำหน้าตาน่าสงสารแบบนั้นได้อยู่อีกเหรอคะ? รีบมาในบันดลเลยนะ >0<// + //รู้สึกภาพแตกนะ 555 ต้นฉบับอิฉันไม่ดีเองเจ้าค่ะ TUT//
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย! //กรีดร้องเพราะพีต้าตื่นจากฝัน// ใครมันกล้า.....?! เรามาดูกันค่ะว่าหลังจากที่ตื่นจากฝันสะยิ่วแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
ฮ่อลลลล พูดถึงฝันที่ผ่านมาของพีต้าน้อยๆ
เมื่อ Part ที่แล้วดูเหมือนฟินนิคจะรุนแรงและเร้าร้อนนิดๆ
นะคะ ฮี่ๆๆๆ ก็ดูน่าสนุกไปอีก แฮ่------
โอเคค่ะ! วันนี้เราจะมานั่งดูกันค่ะว่าจะเกิอดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่าาา >[]< !!!
------------------------------------------------------------------------------------------------
“พีต้า ตื่นได้แล้ว!”
คนถูกเรียกสะดุ้งตัวในที่สุดและบนว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว
“นายโอเครึเปล่า?” แคทนิสถาม
หน้าตาเธอดูเป็นห่วงแต่ก็หวาดระแวงก่อนจะสะลัดมันทิ้งไปแล้วพูดว่า “ตื่นได้แล้ว
นายกำลังสาย เฮย์มิชถามฉันว่าอยากให้ช่วยตัดหญ้าไหม? ถ้านายไปช้าฉันไม่รู้ว่าดอกไม้ที่กำลังออกดอกของนายจะยังอยู่ดีรึเปล่า”
“เค้าเมาเหรอ?”
พีต้าเงยหน้าขึ้นมาถามเสียงตระหนก
แคทนิสพยักหน้า “ใช่ เค้าเมา...แต่เช้าเลยด้วย”
ใบหน้าเธอดูเหมือนฝืนอาการอยากกลอกตา
เจ้าของทุ่งโล่งกว้างและแปลงดอกไม้แสนสวยกระชากผ้าห่มออกจากหน้าตัก
ลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงแล้ววิ่งออกมาจากบ้านไปหาเฮย์มิชที่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
ฝัน...ความฝัน มันก็เป็นแค่ความฝัน ใช่ ความฝันเท่านั้น บ้าเอ้ย! พีต้ากดด่าตัวเอง
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเค้าฝันบ้าบอแบบนั้นได้ ความคิดถึงฟินนิคทำร้ายเค้าถึงขนาดนี้เลยเชียวหรือ
หรือเป็นเพราะว่าเจ้าตัวคิดถึงอีกฝ่ายมากเกินไปเลยฝันถึงสิ่งที่ไม่ควรอย่างนั้น...
บ้า...บ้าไปกันใหญ่แล้ว
เด็กหนุ่มวิ่งลงบันไดเตี้ยๆ
หน้าบ้านไม่กี่ขั้นแล้วหน้าแดงไปด้วยขณะพูดเสียงดัง “เฮย์มิชอย่ายุ่งกับทุ่งของผม!”
แล้วถอนหายใจก่อนพูดใหม่ “ผมหมายถึง...ตอนนี้ยังก่อน หญ้ายังไม่ขึ้นเลย”
อันที่จริงมันขึ้นสูงมาถึงหน้าแข็งเค้าแล้ว
แต่เฮย์มิชไม่ได้อยู่ตรงนั้น แม้แต่ในบ้านของเค้าก็ไม่มี เด็กหนุ่มจึงเดินไปที่บ้านของชายขี้เมา เคาะเบาๆ แล้วผลักประตูเข้าไป
“ไง เจ้าหนู” เจ้าของบ้านเหม็นอับเพราะไม่ได้ทำความสะอาดและเจอแสงทักทายขึ้นด้วยขวดเหล้าในมือ
พีต้าผงะใบหน้าเอียงไปข้างหลังเล็กน้อยแต่ก็พอรับได้เพราะมันเป็นเรื่องปรกติของเฮย์มิช
และรู้สึกโชคดีแค่ไหนที่ชายขี้เมาหวังดียังนั่งวอร์มเครื่องอยู่ในบ้านบนเก้าอี้นวมด้วยท่าเอียงกระเท่เล่ห์อยู่ไม่ไปไหน
“ฉันฝากแคทนิสไปถามเธอแหนะเรื่องตัดหญ้า”
เฮย์มิชโบกขวดเหล้าแล้วพูดต่อ
หน้าตาเค้าดูเหมือนอยากหาอะไรทำถึงแม้จะดูเมามากเกินกว่าจะทำอะไรได้
“อ้อ ตัดหญ้า”
พีต้าผงะทำตาโตนิดหน่อย รู้สึกโชคดีจริงๆ
ที่มาถึงก่อน “ไม่ต้องแล้วล่ะ คือ...มันยังไม่ถึงเวลาน่ะเฮย์มิช ผมว่าคุณควรมีเวลาพักอีกหน่อย ตอนนี้” พีต้ายักไหล่ เค้นสมองอย่างหนัก “มันยังโอเคอยู่”
ถ้าเฮย์มิชลงไปเยี่ยมมันอาจจะไม่โอเคแล้วก็เป็นได้
ข้อนั้นพีต้ารู้ดีและไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับทุ่งดอกไม้ของเค้า
“งั้นเหรอเจ้าหนู อืมม” ชายขี้เมาเจ้าของบ้านที่บอกว่าถ้าได้กลับมาอยู่บ้านเกิดจะกลับตัวกลับใจ
ใช้มือที่ถือขวดเหล้าเช็ดจมูกเพราะละอองเชื้อราในห้องฟุ้งอยู่รอบตัวเค้า
ก่อนเฮย์มิชจะสูดมันเข้าไปเต็มปอดเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า
“ฉันแค่คิดว่านายควรมีเพื่อนน่ะ...เพื่อนแบบที่เป็นผู้ชายด้วยกัน” เฮย์มิชพูดเหมือนเป็นห่วงพีต้าด้วยหัวอกของลูกผู้ชายด้วยกัน เพราะวันๆ
นอกจากจะคอยจับตาดูพีต้าซึ่งทำให้น่าอึดอัดอยู่แล้ว แคทนิสก็แทบไม่ได้ทำอะไรร่วมกับเด็กหนุ่มเลย
อดีตผู้ชนะฮังเกอร์เกมส์ของเขต 12
เป็นห่วงในเรื่องนี้
แต่พีต้าขอขอบคุณเพียงน้ำใจของเค้าเท่านั้นพอ “ขอบคุณ แต่ผมก็มีความสุขดี”
ร่างเล็กสวมชุดนอนอยู่ที่หน้าห้องโถงอันเงียบเหงายักไหล่แล้วส่ายหน้า
ก่อนประโยคพูดไม่คิดนั้นจะกลับมาบีบหัวใจเค้าจนปวดหนึบ......พูดไปได้ยังไงกันนะว่ามีความสุข
คนที่นอนร้องไห้เค้าไม่เรียกว่ามีความสุขกันไม่ใช่หรือ พีต้ารู้สึกเหมือนหูอื้อและหมุนคว้างไปครู่หนึ่งหลังจากที่โกหกด้วยการทำร้ายจิตใจตัวเองและมันก็ทำให้หวนนึกถึงฟินนิคอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้านายว่างั้นก็ตามใจนายนะพวก ฉันคิดว่า...อ่าา”
เฮย์มิชที่นั่งพาดขาซ้ายอยู่บนเก้าอี้นวมยืดแขนแล้วเหยียดตัวไถกับพนักผิง
“จะนอนสักหน่อย” ตบท้ายด้วยการหาว
ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่พีต้าจะต้องอยู่กวนเค้าอีกต่อไปแล้ว
“งั้น ฝันดีนะเฮย์มิช”
ร่างเล็กที่รักษาแปลกดอกไม้ของตัวเองเอาไว้ได้กล่าวรับอรุณให้แก่เพื่อนบ้านของเค้าแล้วก้าวออกมาจากบ้านอันอับชื้นของเฮย์มิชไปอย่างสุภาพ
พีต้ายืนอยู่บนระเบียงหน้าบ้านของชายวัยใกล้กลางคนที่นอนหลับคาเก้าอี้อยู่ในบ้าน
สูดหายใจเอาอากาศสดชื่นยามเช้าเข้าไปแล้วพรูออกมาอย่างโล่งอก เรื่องวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้วันอันน่าเบื่อมีเรื่องให้ตื่นเต้นผ่านไปแล้ว เด็กหนุ่มผมบล์อนชี้โด่งเด่วิ่งเหยาะๆ ลงมาจากหน้าระเบียงบ้านของเฮย์มิช ตรงกลับไปที่บ้านของตัวเอง เค้าเจอแคทนิสกำลังออกไปล่าอาหารเช้า
พีต้าทักเธอและถูกถามว่าทุ่งของเค้ายังปลอดภัยดีอยู่ไหม? คนที่เพิ่งกลับเข้ามาจึงยิ้มน้อยๆ
แล้วบอกว่าเฮย์มิชเข้านอนไปแล้ว
แว่วเสียงแค่นหัวเราะในลำคอของหญิงสาวก่อนเธอจะออกไปจากบ้านเพื่อเข้าไปในป่าแล้วอยู่กับความเงียบของมัน
เด็กหนุ่มเบเกอร์รี่จึงอยู่คนเดียวอีกครั้งและเริ่มต้นชีวิตประจำวันอันแสนจำเจอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นทุกวัน
บ้านเกียรติยศที่เค้าอยู่นั้นหรูหราแต่ชวนว่างเปล่า ที่นี่มีทุกอย่างที่คนอื่นๆ ในเขต 12 ต้องการ
แต่ก็อย่างว่า...เด็กหนุ่มแทบไม่อยากอยู่ในนี้เลยจึงได้ออกไปหาอะไรทำให้มือไม่ว่างอยู่ข้างนอกเป็นประจำ
*************************************************************************
หลายชั่วโมงก่อน.....
คนขับรถไฟที่ผมโดยสารอยู่หลับไปแล้ว...ผมหมายถึง
หลับไปกันหมด ไม่เว้นแม้แต่กัปตันที่ตอนนี้นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ประจำการของเค้าเอง มีผมเพียงคนเดียวที่ยังคงตื่นและมีสติอยู่
ซึ่งโชคดีมากที่ทางต่อไปนี้จะราบรื่นจนกว่าจะถึงที่หมาย
ผมจึงรับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของเส้นทางแทนพวกเค้าที่แบ่งแชมเปญกับไวน์อีกห้าขวดได้อย่างเท่าๆ
กัน หลังจากที่เเชมเปญยี่ห่อดังของดีขวดเก่งของกัปตันหมดไปแล้วพวกเค้าก็ติดลมต่อกันอีกห้าขวด ผมดื่มไปไม่เกินแก้วหนึ่งเสียด้วยซ้ำ
เพราะงั้นเลยรอดจากการเมาจนหลับมาได้
หลายอย่างทำผมตื่นเต้นซะจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
ผมอยากเจอพีต้าเร็วๆ
ถึงแม้จะเหลืออีกสิบสี่ชั่วโมงกว่าจะได้เจอเค้า
แต่ตอนนี้หัวใจของผมก็ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
ผมยืนอยู่ที่โบกี้หัวขบวน กระจกล้อมรอบตัวผมจรดไปเหนือศีรษะ
มันให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่และพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วร้อยห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมจับราวเหล็กด้านหน้าอย่างเบามือ มองออกไปเห็นต้นไม้และพื้นที่ๆ กำลังฟื้นฟูขึ้นจากแสงไฟของหัวขบวน ผมเห็นหมู่ดาวอยู่เต็มท้องฟ้า
นึกถามตัวเองในใจเสียงดังก้องว่าพีต้ากำลังมองมันอยู่เหมือนกันหรือไม่
ผมยืนชมทัศนียภาพตามรายทางอยู่นานเท่าไรก็ไม่ทราบได้ จนกระทั่งครูสตื่นขึ้นมา
เค้าสร่างเมาในทันทีเมื่อรู้ว่าใกล้จะเช้าแล้ว เค้ารีบกุลีกุจอขอโทษผม
ขอบคุณที่อยู่เวรให้
และรีบปลุกเพื่อนอีกสองคนขึ้นมาตรวจตราความเรียบร้อยของเครื่องจักรทันที
พวกเค้าเหลือกัปตันไว้
เพราะไม่กล้าปลุกชายร่างอ้วนที่นอนกรนเสียงดังสนั่นอยู่ข้างๆ ผม
และดูเหมือนครูสเองก็คงจะตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นช้าแล้วเหมือนกัน
สิบสามชั่วโมงต่อมา
กัปตันที่ตื่นและทำตัวมีสติราวกับว่าไม่เคยเมาก็ถามผมว่าจะไปทำอะไรที่เขต 12 ?
ผมบอกเค้าว่าผมกำลังจะไปหาเพื่อนคนหนึ่ง...เค้าสำคัญกับผมมาก
ผมรู้ตัวในทันทีว่ายิ้มออกมาเมื่อพูดถึงพีต้าแม้ไม่ได้เอ่ยชื่อของเค้าก็ตาม
กัปตันบอกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนก็มีผู้โดยสารไปลงที่เขต
12 เหมือนกัน
แต่เค้าไม่ใช่นายขบวนในตอนนั้น
กัปตันและครูสกับเพื่อนๆ เพิ่งจะมาประจำการขบวนนี้เมื่อห้าเดือนที่แล้วนี่เอง
ผมจึงแน่ใจว่านั่นจะต้องเป็นแคทนิส เฮย์มิช
และพีต้าอย่างแน่นอน ผมสนใจ
เนื้อเต้นขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด
กัปตันจึงพูดว่าเพื่อนคนนั้นคงสำคัญกับผมมาก และผมไม่ปฏิเสธเค้าเลยแม้แต่น้อย
“นั่นแหนะพ่อหนุ่ม ถ้าเธอจะไปหาเพื่อนคงต้องเดินไปอีกสักหน่อย หลังจากลงที่สถานีแล้วก็เดินไปทางตะวันออกอีกสามชั่วโมงนะ แย่หน่อยที่เขต 12 ยังไม่เจริญเท่าที่ควร น่าเสียดายเธอน่าจะได้สบายมากกว่านี้”
ชายแก่เครายาวโอบแก้มทำหน้าเห็นใจผม
แต่การเดินติดต่อกันสามชั่วโมงไม่ใช่ปัญหาของผมเลยในตอนที่อะไรๆ
ต่างเลวร้ายมากกว่านี้
ผมขอบคุณเค้า
และบอกลาทุกคนในตอนที่รถไฟจอดเทียบที่ชานชาลาอันเปลี่ยวร้างของเขต 12
ทุกคนขอให้ผมโชคดีและหวังว่าจะได้เจอผมอีก
ก่อนจะเคลื่อนขบวนหายไปในเวลาต่อมา
ผมสูดหายใจ กระชับสายกระเป๋าใบเบาหว่องเหมือนว่างเปล่าให้แนบกับตัว
รัดสายคาดไว้รอบเอว
แล้วออกวิ่งไปทางทิศตะวันออก
********************************************************************
พีต้าหยิบบัวรดน้ำ ช้อนปลูก
และเมล็ดดอกเบญจมาสออกมา
ถือทั้งหมดออกจากบ้านไปรับวิตามินอีที่ฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านอันร่างผู้คนของเค้า เด็กหนุ่มนั่งลงบนพื้นดินแห้งๆ
หลังทำดินตรงหน้าให้อ่อนนุ่มแล้วลงมือปลูกดอกไม้ตามรายทางอีกครั้งดั่งเช่นที่เคยทำอยู่เกือบทุกวัน
พีต้าทำแล้วทำอีกจนหลายครั้งเฮย์มิชที่ออกมารับแดดตะโกนถามเค้าว่าไม่เบื่อบ้างหรือ?
ที่นี่จะไม่มีที่ให้เดินอยู่แล้วเพราะเค้ากลัวว่าจะทำร้ายจิตใจเด็กหนุ่มด้วยการเผลอเหยียบโดนดอกไม้สวยๆ
พวกนั้นเข้า
พีต้าไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดคำไม่ออกแต่แคทนิสสะกิดเฮย์มิชและบอกให้ชายขี้เมาเลิกพูดจาน่ารำคาญแบบนั้นเสียที
มันไม่ได้ทำให้พีต้าหัวเราะแต่มันจะทำให้เค้ารู้สึกไม่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
แคทนิสพูดถูก
การตะโกนข้ามฝั่งมาของเฮย์มิชรบกวนจิตใจของพีต้าแต่ก็ไม่มากไปกว่าสาเหตุที่ว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงยังคงตั้งหน้าตั้งตาปลูกต้นไม้ต่อไปอย่างไม่มีท่าทีหยุดหย่อน......ไม่รู้สิ
ก็ที่นี่ไม่เหลืออะไรอีกแล้วนี่
ไม่เหลือสีหรือแม้แต่ภาพใบให้เค้าวาดรูป
และไม่มีแป้งสาลีให้เค้าใช้อบขนม
ตอนนี้คนอื่นๆ
ที่ย้ายกลับเข้ามาก็ต่างคนต่างกำลังฟื้นฟูบ้านของตัวเองอยู่กันอย่างยากลำบาก
หนุ่มเบเกอร์รี่คิดว่ามันคงดีไม่น้อยถ้าได้จุดไฟในเตา ให้กลิ่นหอมกรุ่นนั้นลอยออกไปทำให้คนอื่นๆ
รู้สึกดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่นี้บ้าง
แต่สิ่งเดียวที่พีต้าทำได้คือทำอย่างที่ฟินนิคบอก
“ปลูกต้นไม้สิพีต้า ถ้านายไม่รู้จะทำอะไร” ชายหนุ่มเคยบอกไว้ว่าอย่างนั้นตอนที่ถามเค้าว่ากลับไปบ้านแล้วจะทำอะไร แต่พีต้ากลับบอกอย่างเศร้าสอยว่ามันคงไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยเมื่อเค้ากลับไปถึงบ้าน
“ถ้ามันไม่มีอะไรเหลือนายก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่สิ”
“แต่มันไม่มีอะไรเหลือจริงๆ
นะฟินนิค พิซคีปเปอร์ทำลายจนไม่เหลืออะไรแม้แต่น้อย”
เค้าบอกด้วยสีหน้าเศร้าสอย ถึงจะไม่น่าอยู่อย่างไรแต่มันก็เป็นบ้านของเค้า
แต่ฟินนิคกลับยิ้มแล้วมองพีต้าด้วยสีหน้าที่ต่างออกไป
“ฉันเชื่อว่านายทำได้ นายเคยทำหลายๆ อย่างที่คนอื่นทำไม่ได้เสมอพีต้า และฉันเชื่อว่าคราวนี้ก็คงไม่ต่างกัน”
ฟินนิคผู้อ่อนโยนบอกไว้ว่าอย่างนั้น พีต้าคิดว่าทุกๆ อย่างของร่างสูงไม่ควรจะเสียเปล่า ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหรืออะไรก็ตามแต่
ฟินนิคจะยังคงอยู่ในใจของเด็กหนุ่มเสมอถึงแม้ไม่มีใครรู้แต่พีต้าก็มุ่งมั่นที่จะทำตามคำของฟินนิคตลอดไป
นี่คงถึงคราวจบของเรื่องแล้ว
พีต้าคิดเช่นนั้นอยู่บ่อยครั้งแล้วหลับตาลงอย่างหนักอึ้ง มันคงเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเสียผู้กล้าหาญและเสียสละ ได้ชัยชนะ
และคิดถึงพวกเค้าอย่างอาลัยอาวรณ์ในท้ายที่สุดว่าชัยชนะตอนจบของเรื่องเราได้รับมันมาอย่างไร
เดาว่าเรื่องนี้คงจบเศร้า
พีต้าหัวเราะอย่างขมขืนเมื่อไม่สามารถปลอบใจเรื่องการสูญเสียของฟินนิคได้ดีมากกว่านี้อีกแล้ว
มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่เค้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำไม่ได้
ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงสร้างชีวิตใหม่ให้กับเขต 12 ไม่หยุด
หลายครั้งแคทนิสตกใจเพราะตัวพีต้าเปื้อนดินและเถ้าถ่านกลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรเลยนอกจากคำว่า ไม่มีอะไร
จากเพื่อนร่วมชายคาของเธอซึ่งแคทนิสเป็นคนยืนกรานให้อยู่บ้านเดียวกัน
จะอุ่นใจมากกว่า...เธอบอกอย่างนั้น
หลังแคทนิสกลับมาจากการล่า
ในตอนบ่ายพีต้าออกไปดูแลพืชพรรณของเค้าอีกครั้ง เฮย์มิชขอตามไปด้วย น่าประหลาดใจที่ชายขี้เมาอาบน้ำแล้ว
แต่พีต้าก็รู้ดีว่าต่อไปนี้ชายคนนั้นจะไม่อาบน้ำไปอีกหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
คนที่เดินมาหาเด็กหนุ่มดูสร่างเมาเล็กน้อยและเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เฮย์มิชบอกว่าอยากช่วย พีต้าเลยตัวแข็ง นึกถึงความปลอดภัยของกล้าอ่อนของเค้า
แต่สุดท้ายแล้วก็ลงเอยด้วยการที่ชายผู้ช่วยได้รดน้ำต้นไม้ให้กับต้นไม้ที่เพิ่งปลูกลงดินของเค้า
เฮย์มิชรดมันซะแฉะเหมือนฉี่ใส่
ก่อนพีต้าจะพอทำใจให้สบายได้เมื่อต้นไม้ที่เค้าปลูกทนทานต่อสภาพฉ่ำน้ำ
ซึ่งถ้ามองในแง่ดีอย่างน้อยเฮย์มิชก็มีอะไรทำ
เวลาต่อมาเสื้อยืดของพีต้าเปื้อนเศษดินอีกครั้งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวอีกตามเคย เค้าได้ยินเสียงกรนของเฮย์มิชที่นอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เด็กหนุ่มจับช้อนปลูกแล้วยิ้ม
เพราะตอนนี้เฮย์มิชได้ออกมานอกบ้านเหม็นอับแล้วพักผ่อนอย่างแท้จริงแล้ว เด็กหนุ่มตัวเปื้อนดินที่เริ่มกลายเป็นตุ๊กตามอมแมมมองไปรอบๆ
เค้าเห็นสีเขียวของหญ้าและต้นไม้
ได้ยินสียงนกร้อง ไม่ใช่แค่นกม็อกกิ้งเจย์ที่แคทนิสเคยได้ยินคนเดียวบ่อยๆ
แต่เป็นนกทุกตัว อากาศที่เขต 12
เริ่มเย็นและปลอดโปร่งมากขึ้น
พีต้าล้มตัวลงนอนบ้างกับผืนหญ้าที่ขึ้นคลุมถนนซึ่งเคยเป็นหินและขี้เถ้ามากก่อน
เค้าอ้าแขนรับเอาทุกสิ่งจากธรรมชาติไว้
ถ้านี่คือพื้นที่ๆ
เคยเสื่อมโทรมมาก่อน มันก็ถือว่าเฟอร์เฟ็กต์มากสำหรับเมืองที่ทุกคนได้กลิ่นแต่กำมะถันและควัน
พีต้าไล่นิ้วไปบนหญ้าใบเล็กใบน้อยที่รองรับตัวเค้าไว้ มันนุ่มมากกว่าที่คิด และเสียงกับความรู้สึกที่รับรู้ยามเมื่อหลับตาก็ช่างผ่อนคลาย
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฮย์มิชถึงหลับไปและกรนเสียงดังขนาดนั้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพีต้าซึ่งได้รับแรงผลักดันมากจากฟินนิคอีกทีหนึ่ง
หากไม่มีชายหนุ่มจากเขต 4
คนนั้น เด็กหนุ่มจากเขต 12
คนนี้คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้
ฟินนิคทำให้พีต้าเข้มแข็งและอ่อนแอเมื่อไม่มีเค้า
ชายหนุ่มผิวสีแทนเป็นทั้งผู้ช่วยชีวิตและเติมเต็มจิตวิญาณ แต่ทว่าในเวลานี้เด็กหนุ่มกลับเศร้า
เค้าไม่เคยหายเศร้าเลยหลักจากที่ฟินนิคจากไป คงจะดีกว่าถ้าเค้าตายหรือไม่เคยรู้จักฟินนิคเลย พีต้าจิกนิ้วลงไปบนผืนหญ้า น้ำตาเส้นเบาบางไหลออกมาจากหางตาช้าๆ
มันกระทบแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ของวันผ่านเมฆไม้จนเป็นประกาย และเด็กหนุ่มก็รีบเช็ดมัน
เค้าไม่อยากให้แคทนิสหรือเฮย์มิชที่ตื่นขึ้นมาเห็นว่าเค้าร้องไห้
มันจะทำให้ทั้งสองเป็นห่วงมากกว่าที่เป็นอยู่ซึ่งพีต้าไม่ชอบเลย เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น ดวงตายังคงพร่ามัวเพราะม่านน้ำตา
เค้ามองเห็นใบไม้จากต้นไม้ที่ส่องประกายจากแสงอาทิตย์และนึกถามตัวเองว่านี่หรือเปล่าที่ฟินนิคอยากให้เค้าเห็นและอยู่ที่นี่ไปจนชั่วนิจนิรันดร์
พีต้าเบะปาก...แต่เค้าไม่อยากได้มัน
ถึงแม้จะชอบความเงียบสงบของธรรมชาติแต่พีต้ากลับรู้สึกว่างเปล่าเมื่อปราศจากฟินนิค
เค้าคิดถึงฟินนิคทุกลมหายใจ
**************************************************************************
ผมวิ่งมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว
เหงื่อกำลังออกและจังหวะหายใจของผมเร็วขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ผมวิ่งกระโดดข้ามตอไม้และเถ้าถ่าน ฝุ่นดินที่แห้งแตกกับขี้เถ้าตลบฟุ้งตามหลังมา
ที่นี่ไม่น่าอยู่นัก
อย่างที่กัปตันว่า พิซคีปเปอร์ระเบิดและเผาทุกอย่างด้วยไฟตามทางที่พวกมันมา
แต่บางทีอาจเกือบทุกอย่างเพราะไทกรีสบอกผมว่าแคทนิสถูกส่งไปอยู่ที่หมู่บ้านเกียตริยศซึ่งเป็นที่แห่งเดียวที่ถูกทิ้งให้เหลืออยู่
ผมจึงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ
และหยุดพักเมื่อเจอลำธาร ผมนั่งยองๆ
ไม่อยากให้หัวเข่าเปื้อนเศษเถ้าที่ยังคงมีอยู่อย่างเบาบางในพื้นที่นี้ มือของผมแช่อยู่ในน้ำใสที่ไหลเอื้อยอย่างช้าๆ
มันให้ความรู้สึกเย็นที่ดีมาก
ต่อมาผมล้างหน้าแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างน่ามหัศจรรย์ เดาว่าในตอนที่ยังอยู่ดี
ถึงแม้จะเป็นเขตของถ่านหินแต่เขต 12 ก็คงจะมีทรัพยากรที่ดีเยี่ยมมากแน่ๆ
ถึงแม้จะไม่อุดมสมบรูณ์มีพร้อมทุกอย่างแต่สิ่งที่ที่นี่มีมันก็ยอดเยี่ยม ผมมองออกไปเห็นต้นไม้น้อยใหญ่ที่โอบล้อมรอบตัวเอง ได้ยินเสียงนกร้องและเสียงจิ้งหรีดเนื่องจากบรรยากาศรอบตัวเริ่มย่ำเย็น
ถึงแม้จะบอกว่าอยากพบพีต้าแต่ผมก็นั่งลงพิงต้นไม้แล้วฟังเสียงธรรมชาติที่ไม่ได้สัมผัสมานาน
อาจไม่สมบรูณ์พร้อมและเปลี่ยวร้างน่าหดหู่แต่มันก็เป็นธรรมชาติของมัน ป่ามักจะเงียบเสมอ
เสียงนกนั่นผมไม่เคยได้ยิน มันแปลกมาก
อาจเป็นเพราะผมอยู่ต่างถิ่น
ดังนั้นผมจึงบอกตัวเองให้หยุดหัวใจเต้นถี่รัวไม่ได้เลย......ผมออกมาแล้ว อยู่ในที่ๆ ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน อีกไม่นานผมก็จะได้เจอเค้าแล้ว จะได้เจอพีต้า
และไม่รู้ว่าเค้าจะยังคิดถึงผมที่ตายไปแล้วหรือไม่
หรือลืมผมแล้วเมื่อผมไม่อยู่ ผมอยากรู้ว่าเค้าเศร้าไหม? เหมือนตอนที่บ้านของเค้าโดนพิซคีปเปอร์ทำลาย
ผมไม่อยากเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสิ่งสำคัญของพีต้าแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเค้าจะคำนึงหาผม
อย่างที่ผมโหยหาเค้าไหม
หัวใจผมตอนนี้อยากรู้ว่าพีต้าทำอะไรอยู่ เค้าจะสบายดีไหม? แคทนิสที่อยู่กับเค้าจะทำดีด้วยหรือเปล่า? หรือว่าเด็กหนุ่มของผมจะกลับไปหลงรักเธออีกครั้ง?
ผมจึงลุกขึ้น ดีดตัวออกจากต้นไม้ใหญ่แล้วออกเดินทางเพื่อไปหาคำตอบที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม
***************************************************************************
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลง
เด็กหนุ่มผมสีบล์อนตัวเปื้อนดูมอมแมมทิ้งเฮย์มิชไว้ใต้ต้นไม้ต้นเดิมแล้วเดินไปหาทุ่งของตัวเองในอีกเจ็ดนาทีต่อมา เค้าจะต้องรดน้ำและดูแลความเรียบร้อยที่นี่เสียก่อนถึงจะกลับเข้าบ้านได้
และเห็นทีว่าวันนี้ก็คงจะได้กลับไปกอดตัวเองร้องไห้อีกแล้วเป็นแน่
เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวในทุ่งถอนหายใจยาวขณะกำลังรดน้ำให้แก่ดอกเฮเลียโทรฟที่กำลังบานสะพรั่ง ดอกสีม่วงน้อยๆ
ของมันแข่งกันแบ่งบานเต็มไปหมดจนแทบไม่เห็นใบสีเขียวสดที่อยู่ด้านล่างเลย พีต้าทำเหมือนกันกับแปลงอื่นๆ
จนเสร็จและไม่ลืมถอนวัชพืชที่ขึ้นแซมในบางแห่งด้วย
แต่เค้ากลับนั่งอยู่นาน
และมองดูพระอาทิตย์สีส้มดวงใหญ่กำลังลาลับไปใต้ไหล่ภูเขา
พีต้าจินตนาการว่ามันโบกมือให้เค้าและในขณะเดียวกันนั้นฟินนิคก็เดินโผล่ขึ้นมาจากเนินทุ่งตรงหน้าแล้วก็ทำให้พีต้ายิ้มได้อย่างสุขใจที่สุดในรอบหกเดือน
แต่มันก็เป็นได้แค่ความฝัน......ความคิดของพีต้าเรียกร้องมากเกินไปจนเป็นไปไม่ได้ พระเจ้าไม่เห็นใจเค้าในเรื่องนี้
เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้า มืออ่อนนุ่มที่มีรอยขีดข่วนยกขึ้นแตะดอกไม้ในแปลงของตัวเองก่อนสายลมยามเย็นจะพัดเข้ามาทักทายเจ้าตัวดั่งเช่นทุกวัน แต่ทว่าวันนี้มันเอื่อยเฉื่อยอยู่นานเป็นพิเศษ
สายลมนั้นพัดพาเอาผมที่เริ่มยาวให้พลิ้วไปตามลมอยู่นานราวกับว่าจะช่วยปลอบใจเจ้าของเส้นผมที่ดูนุ่มมือนั้นให้หายเศร้า
มันช่างเป็นภาพที่น่าดูเมื่อตรงหน้าของคุณนั้นคือพระอาทิตย์ดวงเดิมที่สวยกว่าตอนไหนๆ
ของวัน
และกำลังหย่อนลงตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกที่ตั้งเคียงกันอยู่ตรงนั้น รอบข้างของคุณคือต้นไม้ที่กำลังเติบโตเขียวชอุ่ม ทุ่งหญ้าที่กว้างขว้างสุดลูกหูลูกตาซึ่งกำลังถูกย้อมไปด้วยแสงสีส้มแก่ของดวงอาทิตย์ แม้แต่ใบหน้าของคุณเองก็ยังต้องแสงนั้น
ผมของคุณกลายเป็นสีส้มแทนที่มันจะเป็นสีบล์อน ก่อนคุณจะตกตะลึงจนสุดขีดเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากเนินทุ่งตรงหน้า
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊าาาา!! เกิดอะไรขึ้นคะ
เกิดอะไรขึ้นนน?? >0< อร๊ายยยยยย! ไรท์จิไม่พูดให้ลุ้นกันเองค่ะใน Part
ต่อไป อิๆ
มาแค่นี้แหละจ๊ะ พูดมาปากจะพาสปอยล์นะจ๊ะ สามารถเข้าไปทักทายพูดคุยกับไรท์ได้ที่เฟสบุ๊ค แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด
นะเจ้าคะ
หลังจากไลค์แฟนเฟจแล้วอย่าลืมมาทักทายกันน้าา >w<
ขอบพระคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ รักรีดมากมาย
บั้ยค่ะ 5555 //มาไวไปไว// รอ Part ต่อไปนะคะ >//<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น