สวัสดีค่าาาา รีดที่น่ารักน่าหอมทุกท่าน...! ^3^ ไรท์กลับมาพร้อมกับ Fic เรื่องแรกๆ ที่ไรท์แต่ง [ก็แบบว่านานแล้วอ่ะน้าาา -w-
] ไรท์เขียนไว้ตั้งแต่พฤศจิกาปีที่แล้ว -_-“..........เอ๊ะ นี่มันปีหนึ่งเต็มๆ เลยหนิ! แฮ่ แห่ม.....นานจริงๆ
เลยเรา
ไรท์เพิ่งมาสานต่อจนจบเมื่อปลายเมษานี่เองค่ะ ก็แบบว่าช่วงก่อนหน้ามันยุ่งมักมากเลยนะค่ะ
และไรท์ก็เพิ่งเปิดบล็อกด้วยเลยยังเงอะๆ งะๆ อยู่ค่ะ -^^-
SF – Luke x Percy เรื่องนี้ไรท์วางพล็อตไว้ให้เป็นตอนของภาคหนึ่งค่ะ
นั่นคือ เพอร์ซี่ แจ็คสันกับสายฟ้าที่หายไปนั่นเอง....เป็นตอนหลังจากที่เรื่องวุ่นวายในเรื่องจบลงค่ะ แล้วพ่อลุคก็ดอดไปอยู่ข้างโคร นอสค่ะ และแล้ววันหนึ่งเค้าก็พบว่าทดคิดถึงเพอร์ซี่ตัวน้อยไม่ได้อีกต่อไป เค้าก็เลยแวะมาหาค่ะ
และเรื่องราวนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ดั่งที่รีดๆ จะได้อ่านกันต่อไปนี้ค่ะ ^^
และต้องขอบอกก่อนเลยค่ะว่า
ไรท์เคยไปเวิ่นไว้ในบล็อกของคนอื่นค่ะ [เมื่อไหร ไรท์จำไม่ได้แหละ]
ก็เค้าบอกว่าให้ต่อ...ไรท์ก็เลยจัดเลยค่ะ เป็นแนวฮาระเบิดโน้ส อุดมนิดๆ [ใครเคยดูเดี่ยวสิบน่าจะจำได้]
เอาเป็นว่าไรท์มาจริงๆ จังๆ ในบล็อกของตัวเองล่ะกันนะคะ
เพราะว่าสองคนนี้ปล่อยวางไม่ได้จริงๆ ค่ะ [ฮาาาา] .........เอาเป็นว่า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ ไรท์อยู่อีกเดี๋ยวยาววว
ปล. เริ่มแรกจะออกมึนๆ
หน่อยนะคะ เพราะตอนนั้นไรท์เพิ่งจับคีย์ค่ะ
แต่ก็ไม่อยากลบมันออก....ช่วงหลังไรท์มาต่อในตอนที่เขียนไปหลายเรื่องแล้วค่ะ ^^
-------------------------------------------------------------------------------------
นานแล้ว...............
สักพักหนึ่งได้แล้วล่ะ
ที่เค้ามานั่งรอเพอร์ซี่ให้กลับบ้านอยู่ตรงนี้..................
ร่างสูงแข็งแรงของลุค คาเทนเลนนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านหมายเลขสองของบุตรแห่งโพไซดอน เค้ามานั่งรออยู่นี่มาร่วมชั่วโมงแล้ว นึกแปลกใจกับตัวเองอยู่ว่าทำไมเจ้าของบ้านหลังนี้ถึงยังไม่กลับมาสักที ทั้งๆ ที่หมดเวลาซ้อมมาตั้งนานแล้วแท้ๆ
นายหายไปไหนเพอร์ซี่........คิ้วเข้มที่รับกับดวงตาสีน่าค้นหาเรียบตึง
เมื่อลุคกวาดสายตาเพ่งมองเข้าไปในความมืดของป่า
จนในท้ายที่สุดเทพบนเขาโอลิมปัสก็ไม่ได้แกล้งเค้า เมื่อเพอร์ซี่
แจ็คสันเดินเข้ามาในทางที่ทอดผ่านสู่ตัวบ้านพร้อมกับ....................
ลุคจ้องตาเขม็ง หลังจากที่กระโดดขึ้นนั่งบนข้อเท้าตัวเอง
...............แอนาเบธ............
...........เธอมาทำอะไรที่นี่........
ลุคยิ้มุมปาก เมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมเพอร์ซี่จึงกลับบ้านไม่ตรงเวลา...............คงเป็นเพราะแอนาเบธ.............แล้วความคิดบ้าๆ
ที่อยู่ในมุมมืดของจิตใจก็ทำให้ลุคกระตุกยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง เค้ารอให้แอนาเบธบอกลาเพอร์ซี่แล้วกลับไป.....จนลับสายตา จากนั้นเค้าก็กระโดดลงจากต้นไม้ตรงหน้าของเพอร์ซี่อย่างเหมาะเจาะ
เพอร์ซี่ดูตื่นตกใจมากที่เห็นเค้า แล้วพยายามจะขัดขืนเมื่อเค้าเข้าไปจับ แต่คนที่แรงเยอะกว่าก็รู้ๆ กันอยู่..............
"เพอร์ซี่ เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าฉันมีอะไรจะบอกนาย"
แล้วร่างสูงก็ฉุดรั้งร่างเล็กเข้าไปบ้านหมายเลขสองทันที ท่ามกลางความงุนงงของนายแจ็คสัน
"อะไรนะ....ลุค อ๊ะ..." แต่ยังไม่ทันทีจะได้เอ่ยวลีใด
ฝ่ามือแข็งแรงก็ผลักเข้าที่อกของเค้า จนทำให้เพอร์ซี่หงายหลังล้มลงกับเตียงนุ่ม
ลุคขึ้นไปคร่อมเพอร์ซี่ทันที
ไม่เปิดโอกาสให้ร่างเล็กได้หนีไปไหน เค้ารวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว
เพอร์ซี่สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือเย็นที่ไล่เข้ามาทางสาบเสื้อด้านหลัง
"ลุค...นี่นายจะทำอะไร......เห็นฉันสนุกกับนายรึไงกัน!" เพอร์ซี่ตะโกน
"อู่ว์
โมโหด้วยแฮะ.......เด็กที่ตามใครไม่ค่อยทันอย่างนายไม่น่าจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้นะ........ใช่
เพอร์ซี่ นายมันตามใครไม่ค่อยทันหรอก" ลุคยกยิ้มพลางส่ายหน้าช้าๆ เพอร์ซี่หน้าแดงเพราะความโกรธหรือเพราะความอายก็ไม่ทราบได้
"ฉันไม่ใช่....."
เด็กชายเม้มปากแน่น
"ไม่ใช่อะไร.....ตอนที่นายได้หัวเมดูซ่าแล้วเข้าไปพักที่โรงเเรมนั่นน่ะ
ทำไมฉันจะไม่เห็น...ตอนที่แอนาเบธหลอกจูบนาย"
พอพูดถึงตอนนี้แล้วตาของลุคก็ฉายแววโรจน์ เพอร์ซี่ก็เช่นกันแต่ดวงตาของเค้าตกตะลึงกว่ามาก
"นายรู้ได้ยังไง..."
"ฉันแอบตามนายไป.....ตอนนั้นฉันแทบบ้าที่เห็นเธอขโมยจูบนาย
รู้ไว้นะแจ็คสัน.....ว่านายเป็นของฉัน"
ว่าแล้วลุคก็ก้มลงไปจูบลึกล้ำกับบุตรแห่งโพไซดอนที่อ่อนประสบการณ์ และเป็นไปตามใจของร่างสูงที่ต้องการจะไล่ต้อนเด็กน้อยๆ จนกระทั่งเพอร์ซี่ครางประท้วงเมื่อขาดอากาศหายใจนั่นแหละ
ลุคถึงยอมถอนปากออกมาอย่างนึกเสียดายสุดๆ
"นายมันบ้าไปแล้ว!" เพอร์ซี่น้ำตาคลอ
จมูกและขอบตาของเค้าแดงไปหมดแล้ว
"คนรักกันแล้วทำแบบนี้เค้าไม่เรียกว่าบ้าหรอกเพอร์ซี่......."
เด็กหนุ่มตาเบิกกว้าง
"ใช่ ฉันแอบมองนายมานานแล้วเพอร์ซี่ ตั้งแต่ที่นายเข้ามาฉันก็หมายตานายไว้เลย.......ฉันยอมรับนะว่าเสียใจเรื่องที่แอนาเบธจูบนาย
แต่ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอก แค่จะเขี่ยเธอออกให้พ้นทางรักของเราเท่านั้นล่ะ...ที่รัก"
ลุคกระซิบเสียงแผ่วทว่าใกล้หูเล็กๆ นั่นเกินไป เพอร์ซี่ขนลุกซุ่
"นายจะทำอะไรกับเธอน่ะ......อึก
แต่ถึงยังไงเธอก็ได้จูบแรกของฉันไปนะ"
"ช้าก่อนๆ.......คนที่ได้น่ะไม่ใช่แอนนี่
แต่เป็นฉันเองจ๊ะ" ลุคส่งยิ้มด้วยแววตาซุกซน
"นาย!....เป็นไปไม่ได้
นายอย่ามาโกหก"
"คืนแรกที่นายมาถึงน่ะ....เอ่อ
นายคงไม่รู้หรอกเพราะนายสลบเหมือดเลย...ฉันเข้าไปขอยาแก้ปวด
แต่ก็ดันไปสะดุดกับนายที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงแพทย์ รู้ไหม
นายน่ะน่าหลงใหลสุดๆ ไปเลย..."
ลุคยิ้มอบอุ่นเหมือนเค้ากำลังนึกเอ็นดูคนที่อยู่ใต้ร่างเค้าอยู่ พลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับอีกคน
มีเพียงลมหายใจคั่นทั้งสองไว้
"และที่สำคัญ ฉันฝันเห็นนายทุกคืนเลย...รู้ไหม"
จมูกโด่งซุกไซ้รซอกคอขาวนิ่มของเพอร์ซี่ เสียงสูดลมหายใจของลุคดังขึ้นอย่างหมั่นเขี้ยว
พร้อมกับเสียงลมหายใจที่ขาดสะดุดของเพอร์ซี่ ...............ตอนนี้มีเพียงเสียงของเค้าทั้งสอง
ท่ามกลางแสงจันทร์ข้างขึ้นที่สาดส่องมากระทบสิ่งของภายในบ้าน.......รวมถึงเค้าสองคนด้วย
"เดี๋ยวลุค...ไม่...อา...อย่า"
เพอร์ซี่พูดเสียงสั่น ตอนนี้เค้าน้ำตารื้นขึ้นมาเพราะความกลัวแล้ว ลุคหยุดทันที
เงยหน้าขึ้นมามองเด็กน้อย
"ชู่ว์....ไม่เอาน่าอย่าร้อง...ฉันจะไม่ทำร้ายนายนะ"
"นายกำลังทำอยู่นี่ไง!"
.....แหมะ...แหมะ...แหมะ....
น้ำตาใสๆ
ไหล่ลงหางตาไปยังที่นอนนุ่มเบื้องหลัง
ภาพนั้นทำให้ลุคยิ่งห้ามใจตัวเองไม่ได้เข้าไปใหญ่
ตอนแรกกะจะเเค่ฝากรอยรัก....แต่ตอนนี้คงต้องฝากความทรงจำไว้ด้วยซะแล้วล่ะ.....
"ฉันจะอ่อนโยน ฉันสัญญา"
แล้วเสียงร้องห้ามของเพอร์ซี่ก็ดังขึ้นแข่งกับเสียงฉีกเสื้อผ้าของเค้าเอง แล้วจากนั้นสัมผัสจากนิ้วเย็นก็แปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ.......
“ไม่.....ฮึก...”
แม้จะอบอุ่นเพียงใดแต่เพอร์ซี่กลับสะอื้น สั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อโดนร่างสูงที่กำลังคร่อมทับเค้าอยู่
ก้มลงมาจูบซอกคอขาวและมือแกร่งของลุคก็กำลังแก้กางเกงยีนส์ตัวเล็กอยู่ ลุคแก้มันด้วยมือข้างเดียว
ส่วนอีกข้างก็ใช้รวบข้อมือบางทั้งสองข้างของเพอร์ซี่ไว้เหนือหัว
เพอร์ซี่กำลังสะอื้นไห้อยู่ภายใต้ร่างกำยำของลุค
สันกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงของร่างสูงยืดหยุ่นขึ้นเมื่อต้องกางแขนทั้งสองข้างเพื่อแก้กางเกงและจับข้อมือของเพอร์ซี่ให้อยู่นิ่งๆ
ในเวลาเดียวกัน
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหน้าของเด็กหนุ่ม
มันช่างหนักหน่วงและเร่าร้อน บ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี เพอร์ซี่หยุดนิ่ง ไม่ขัดขืน
จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าที่ซึ่งอีกคนก็จ้องกลับเข้ามาในดวงตาสีแคริเบียนของเค้าเช่นกัน
เพอร์ซี่หวังจะได้เห็นแววตาแห่งความเกรี้ยวกราด
ดื้อรั้น หยิ่งผยอง และป่าเถื่อน
แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของลุคเมื่อยามจ้องมองเค้าคือ ความอ่อนโยน
ความห่วงใย และความโหยหาระคนเอ็นดู
แต่สิ่งที่เด่นชัดที่สุด
ที่ทำให้เด็กหนุ่มดวงตาไหวสั่นระริกก็คือ ความต้องการ............
.............ลุคกำลังต้องการ อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นถ่ายทอดออกมาพร้อมกับลมหายใจร้อนๆ
และอกที่กระเพื่อมขึ้นลงนั่น...............
เพอร์ซี่ตัวสั่น ขยับตัวยุกยิกเหมือนต้องการถอยให้ออกห่างจากลุค เมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่น่าไว้ใจ แต่ติดตรงที่มือทั้งสองของเค้าถูกล็อคไว้
จึงทำได้เพียงขยับตัวไปมาเท่านั้น
“โอ้ ไม่เอาน่าเพอร์ซี่ นายจะกลัวอะไร
นายก็รู้ว่าฉันไม่ทำอะไรนายหรอก..........” ลุคยิ้มพูดเสียงเย็น
“นายมันบ้าลุค
นายคิดอะไรอยู่....ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” เพอร์ซี่เสียงสั่นเครือ
เค้าอยากจะออกคำสั่งให้ลุคปล่อยเค้าไปเดี๋ยวนี้ แต่เสียงที่สั่นเครือก็ทำให้ไม่รู้สึกเช่นนั้นเลยสักนิด
มันยิ่งตอกย้ำว่าเค้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้..........
“เสียงนายดูไม่ค่อยมั่นใจเลยนะเพอร์ซี่”
รอยยิ้มร้ายยังคงฉาบอยู่บนเรียวปากของลุค คาลเทนแลน
“อึก...”
เด็กหนุ่มใช้ฟันขบริมฝีปากล่างตัวเองเน้นจนมันห่อเลือด
...........ใช่ว่าอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นสักหน่อย...........
............สัตว์ประหลาดที่ว่าน่ากลัวร้อยแปดเพอร์ซี่ แจ็คสันและเพื่อนๆ ก็ปราบมาแล้ว.........
...........ใช่ เพอร์ซี่ แจ็คสันและเพื่อนๆ..........
...........แล้วถ้าไม่มีโกลเวอร์กับแอนาเบธล่ะ
เค้าจะเป็นอย่างไร?
..............ทุกครั้งเพราะมีเพื่อนช่วย
เค้าเลยผ่านพ้นทุกอย่างมาได้
หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือพวกนั้นคอยปกป้องเค้าอยู่ตลอดเวลาเลยตั้งหาก ถ้าไม่มีสองคนนั้นแล้วเค้าจะเป็นยังไง
ใครจะปกป้องเค้า...............
โกลเวอร์ก็เป็นเซเทอร์.....เป็นผู้พิทักษ์ของเค้า
แอนาเบธก็เป็นลูกสาวของอธีนา......เธอเก่งทุกอย่าง
เอาตัวรอดได้ และเผลอๆ อาจเก่งกว่าเค้าด้วยซ้ำไป
นายมีดีอะไรบ้างเพอร์ซี่...........เค้าคิดในใจ
เริ่มสงสัยแล้วว่าที่โดนพ่อทอดทิ้งอาจเป็นเพราะเค้ามันไร้ประโยชน์ เป็นไอ้ขี้แพ้ ไร้ค่าในสายตาของพ่อ
...........แล้วนี่ยังมาโดนคนอื่นย่ำยีอย่างนี้อีกอย่างนั้นหรือ......
“อึก ....อึก” แล้วความคิดแย่ๆ
ก็ถาโถมเข้ามาในใจของเด็กหนุ่ม น้ำตาใสๆ ก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เป็นอะไรไปเพอร์ซี่......”
ลุคที่ตอนแรกชักสนุก เริ่มมีสีหน้างุนงงเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกของเพอร์ซี่
ใบหน้าของลุคเต็มไปด้วยความสงสัย
คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น จ้องมองไปที่ร่างน้อยๆ ซึ่งสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของเค้า
ไม่ได้แกล้งถึงกับต้องร้องไห้ขนาดนั้นสักหน่อยหนิ................
นิ้วเรียวกร้านแดดค่อยๆ
เกลี่ยน้ำตาให้เด็กหนุ่มอย่างอ่อนละมุนราวกับผิวแก้มของเพอร์ซี่เป็นเพียงปุยนุ่นแสนเบาบาง
“นายเป็นอะไร.....” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวลราวจะปลอบขวัญ
ซึ่งตอนนี้มือทั้งสองข้างของลุคก็เลิกเกาะแกะกับเพอร์ซี่แล้ว แต่หันมาท้าวแขนคร่อมตัวของเด็กหนุ่มเอาไว้แทน
“ฉันมันไร้ประโยชน์.....อึก.....พ่อเลยทิ้งฉัน
ฉันมันไม่ดี ทำให้แม่ต้องลำบาก ไม่มีใครรักฉัน ไม่มีใครต้องการฉันเลย ฉันมัน ฮึก
ฮือ....” เด็กหนุ่มขดตัวเข้าหากันราวกับเด็กทารก
ใช้มือทั้งสองปิดบังใบหน้าเปื้อนน้ำตาของตัวเองไว้หลังจากระบายความอัดอั้นของตัวเองออกมา
เพอร์ซี่ร้องไห้อย่างหนักจนตัวสั่น เสียงสะอื้นที่ไม่ได้รับการปิดกั้นใดๆ
ดังไปทั่วทั้งบ้านหมายเลยสอง จนลุคกลัวว่าเด็กน้อยที่น่าสงสารนี้จะหายใจไม่ทันเพราะอาการสะอื้นจึงตัดสินใจล้มตัวลงนอนข้างๆ
แล้วโอบกอดเด็กหนุ่มจากทางด้านหลังอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
เพอร์ซี่สะดุ้งตัวในคราแรก
แต่สัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนนั้นก็ทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างประหลาด
...........สัมผัสที่โหยหามานานแสนนาน..........
.......... ไม่เคยมีใครให้สัมผัสนี้กับเค้าเลยสักคน............
เสียงสะอื้นของเพอร์ซี่เบาลง
ทั้งยังมึนงงอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นายไม่ใช่ว่าไม่เหลือใครนะเด็กน้อย”
แขนทั้งสองข้างของลุคกอดรัดเค้าไว้ราวกับจะห่อหุ้มร่างกายเล็กๆ นี้เอาไว้ให้อบอุ่นอยู่เสมอ
ส่วนคางก็เกยไว้บนลาดไหล่ที่สั่นเทาของเค้า จากอุณหภูมิร่างกายและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดสร้างความอบอุ่นให้กับเพอร์ซี่อย่างยิ่งยวด
ทั้งคำพูดและการกระทำของลุคตอนนี้ทำให้เค้าสับสนไปหมดแล้ว
นี่ไม่ใช่ลุคที่เค้ารู้จักหรอกเหรอ............
“เป็นนายจริงๆ แน่หรือลุค.......”
ร่างสูงจับตัวเพอร์ซี่ให้หันมาหาเค้า
จากนั้นจึงใช้นิ้วกร้านแดดเกลี่ยเข้าที่ข้างแก้มของคนที่ถามชวนเสียบรรยากาศ
“ก็ฉันน่ะสิ นายคิดว่าเป็นใครกันหึ.........และคืนนี้ฉันจะทำให้นายลืมฉันไม่ลงเลยทีเดียวล่ะ”
และคำท้ายประโยคก็ทำให้บุตรแห่งโพไซดอนยิ่งผะหวานัก
อันที่จริงฉันก็อยากจะปลอบใจนายอยู่หรอกนะ
แต่ว่าอารมณ์มันก็ห้ามกันไม่ได้เหมือนกันแฮะ
“ห๋า นายว่าอะไรนะ.....” ยังพูดไม่ทันจบประโยค
แผ่นหลังบางก็ถูกยกขึ้นจากที่นอนแล้วริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของอีกคนทันที
ลิ้นร้อนถูกชักจูงให้เกี่ยวกระหวัดกันและกัน
เสื้อผ้าของทั้งสองถูกเหวี่ยงออกอย่างรวดเร็วด้วยน้ำมือของร่างสูงเอง ผิวขาวเนียนของเพอร์ซี่ต้องกับแสงจันทร์
.........มันระเรื่อจนน่าสร้างรอยไว้ทั่วตัวเสียจริง..........
เมื่อคิดได้ดังนั้น ลุคก็โถมเข้าไปทั้งดูดทั้งเลียผิวเนียนใสนั้นทันที
“อ๊ะ นายจะทำอะไรน่ะลุค
ปล่อยฉันนะ ....อึก ขอร้องล่ะ....อ่า ไม่......” คนโตกว่าไม่ยอมฟังเสียง อีกทั้งยังใช้ลิ้นเลียหยอกล้อกับยอดอกของเด็กหนุ่มอีกต่างหาก
มือใหญ่ก็ไม่น้อยหน้าลูบไล่และบีบคลึงอยู่ที่แผ่นหลังบาง เรื่อยลงมาจนถึงสะโพกมนนิ่มมือ
แล้วจัดการขยำจนเด็กหนุ่มหน้าเบ้ “ไม่ ไม่เอา.....ลุค....อาา.....” บุตรแห่งเทพสมุทรพยายามดันอกคนข้างบนให้ออกไป
...........แค่นี้มันก็มากเกินไปแล้ว............
แต่คนถูกผลักไสกลับรวบตัวเค้าแน่นขึ้น
แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงมาให้ร่างกายของทั้งสองได้แนบชิดกันขึ้นไปอีก
ตอนนี้ร่างสูงคึกยิ่งกว่ากระทิงโคคริสซะอีก...............
หยุดไม่ได้ซะแล้ว
ริมฝีปากร้อนของลุคก้มลงไปดูดดุนลิ้นของเพอร์ซี่อีกครั้ง
“ไม่ ลุค อึก...” คราวนี้บุตรแห่งเฮอร์มิสไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดไปได้อีก
เค้าใช้มือจับต้นคอผอมบางของเพอร์ซี่แล้วระดมจูบเข้าไปอย่างหื่นกระหายราวกับว่ามธุรสนั้นเป็นน้ำจากสรวงสรรค์
เป็นเวลานานพอสมควรแต่ลุคก็ไม่ยอมถอนริมฝีปากออกมา
เหมือนกำลังใช้ลิ้นควานหาสมบัติจากโพรงปากอีกคน จนน้ำใสๆ ไหลย้อนออกมาจากมุมปากของเพอร์ซี่
ในที่สุดลุคก็ยอมถอนปากออกมา
เพราะกลัวว่าคนข้างล่างจะขาดใจตายซะก่อน
น้ำใสๆ
ไหลและยืดติดปากของทั้งสองคน เพอร์ซี่หน้าแดง
เค้าอยากจะเอาหัวโขกเตียงให้ได้ซะตอนนี้จริงๆ
โอเค
เค้ายอมรับว่ามันก็มีคล้อยตามกันบ้าง
แต่ถึงจะรู้สึกดียังไงมันก็ถึงเวลาต้องหยุดได้แล้ว
เด็กหนุ่มกำลังจะอ้าปากพูด
แต่ลุคก็เข้าจู่โจมแบบสายฟ้าแลบอีกครั้ง
ลุคโถมตัวเข้าหาเพอร์ซี่มากขึ้น
จนอาจเรียกได้ว่าเป็นการเบียด สัมผัสของผิวที่เนียนนุ่มราวกับน้ำนม ซึ่งจะออกสีชมพูระเรื่อเมื่อโดนเค้าสัมผัส
มันทำให้เค้าแทบคลั่ง...............
ร่างสูงยังคงเดินหน้าขโมยลมหายใจเด็กหนุ่มต่อไป
ในขณะเดียวกันก็บดเบียดส่วนหน้าเข้ากับตรงนั้นของเพอร์ซี่ด้วย
มันตั้งชันและกำลังขยายตัว ดวงตาสีครามเบิกกว้าง
ยิ่งเขินอายกว่าเดิมเมื่อของๆ เค้าทั้งสองสัมผัสกัน แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือลุคใช้แขนข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่ใต้ขาเพอร์ซี่
ยกมันขึ้นเผยให้เห็นช่องทางสีชมพูที่ขมิบเข้าหากัน เมื่อสัมผัสอากาศเย็น ลุครีบสอดขาเข้าไปทาบทับทันที
“อือ.....ไม่เอาลุค”
“หืม” แม้จะทำเสียงในลำคอเป็นเชิงตอบรับ
แต่ลิ้นก็ยังคงสาละวนอยู่กับหัวไหล่เนียนของเพอร์ซี่
“ฉันกลัว........”
ลุคชะงักไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะเลื่อนหน้ามาจ้องตากับเด็กที่กลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนกไร้ขนอยู่ใต้ร่างของเค้า เรียวปากร้ายจุดยิ้มอย่างเอ็นดู และดวงตาคมก็จ้องมองมาราวกับเพอร์ซี่เป็นเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง
..............ใบหน้าคมกำลังบอกอย่างนั้น
เพอร์ซี่พนันได้เลย
ลุค คาเทนแลนยิ้มแล้วขำในลำคอเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า
“นายมันน่ารักเกินไปแล้วนะ....ทั้งๆ
ที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรแบบนี้แล้วยังมาทำตัวสั่นแล้วบอกฉันว่ากลัวอีก......สงสัยฉันคงต้องสอนให้นายเรียนรู้ทางร่างกายของฉันซะแล้วล่ะ”
ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแล้วโถมตัวเข้าไป แต่ก็โดนเพอร์ซี่กันไว้ด้วยแขนเล็กๆ ทั้งสองข้าง
ลุคมองหน้าเพอร์ซี่แวบหนึ่งอย่างติดสงสัย
แต่แล้วก็เลื่อนใบหน้าคมไปกระซิบข้างใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“แล้วนายจะชอบมัน......ฉันสัญญามันจะไม่เจ็บนักหรอก เชื่อใจฉัน ฉันไม่เคยโกหกนาย.........” จมูกโด่งตรงเข้าไปซุกไซ้ลำคอที่เต็มไปด้วยรอยแดงนั้นอีกครั้ง
จนเจ้าของต้องเอียงศีรษะมาอีกทาง
แล้วมือใหญ่ก็ลูบไล้เข้าสอดแนมแทบทุกซอกทุกมุมของเด็กหนุ่มที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่ในอ้อมกอดของเค้า
เพอร์ซี่ยังคงไม่หยุดขัดขืนแม้ร่างกายของเค้าจะตอบสนองการสัมผัสของคนร่างสูงเพียงใดก็ตาม
“อ้า...!” เพอร์ซี่สะดุ้งเสียงหลง
เมื่อใบหูของเค้าถูกขบจนเป็นรอย เด็กน้อยจึงทั้งสะบัดหัวและหดคอหนีคนที่เอาแต่รังแกเค้าเต็มที่
“ไม่เอา....ลุค....ฉันไม่เอาแล้ว.....ได้โปรดเถอะ”
ความร้อนที่สุมอยู่ภายในทำให้เพอร์ซี่ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่เค้าไม่เข้าใจเลยสักนิดก็คือ.....ทำไมถึงรู้สึกต้องการ
“อ๊ะ!.....อึก”
เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกฟันคมขบเข้าที่ไหล่อย่างแรง
“อืม....ฉันไม่ไหวแล้วเพอร์ซี่”
ลุคเสียงแหบพร่า
เพอร์ซี่ไม่รู้ว่าลุคผละออกไปด้วยเหตุอะไร
แต่ไม่นานร่างสูงที่ควบคุมตัวเค้าก็กลับมาพร้อมกับ............กับอะไรสักอย่าง
เพอร์ซี่ไม่แน่ใจนัก........แต่ในขณะที่ร่างอ่อนปวกเปียกของเด็กหนุ่มกำลังจะลุกขึ้นนั้น
ร่างสูงที่เพิ่งกลับมาก็ผลักเค้ากลับไปที่เดิม
ตุ้บ!
“อ๊ะ...!”
“จะหนีไปไหนเพอร์ซี่........” ลุคพูดยิ้มเย็นพลางบีบเจลใสๆ
ลงบนนิ้วเรียวกร้านแดดของตัวเอง
เพอร์ซี่หรี่ตามองสิ่งที่เคลือบอยู่บนนิ้วของลุคด้วยความช่วยเหลือจากแสงจันทร์สีนวล แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความกระจ่างกับเพอร์ซี่เลย
ถึงแม้จะมีแสงจันทร์ช่วย แต่ทุกอย่างก็ดูเป็นสีน้ำเงินเข้มไปหมด
............ไม่ต่างอะไรจากความมืด
เพียงแต่ทั้งสองสามารถเห็นหน้าของกันและกันได้เท่านั้น..........
“นั่นอะไรน่ะ” เพอร์ซี่ถามเสียงเบา
จนนึกแปลกใจตัวเองขึ้นมาไม่ได้ว่าทำไมเสียงของเค้าถึงฟังดูอ่อนแรงได้ถึงเพียงนี้
“ก็.....” ลุคชูนิ้วขึ้นมาให้มันโดนแสงจันทร์สาดส่อง
แล้วพินิจดูพลางหมุนนิ้วไปรอบๆ “......มันแค่จะช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้นน่ะเพอร์ซี่ นายไม่ต้องไปสนใจหรอก” ว่าจบลุคก็มองไปยังร่างปวกเปียกที่อย่างอ่อนแรงเมื่อครู่
แล้วยิ้มมุมปากอย่างที่เพอร์ซี่ไม่ชอบ...........
.............ไม่ชอบมากๆ เลยด้วย
ลุคล้วงนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่น
ไปยังช่องทางอ่อนนุ่มของเพอร์ซี่ เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกและหยุดหายใจชั่วขณะเมื่อรับรู้ถึงของเหลวเย็นๆ
ที่ลุคแหย่เข้ามาในส่วนปกปิดของเค้า เมื่อได้สติและเริ่มรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บุตรแห่งเทพสมุทรก็ดิ้นพลาดพลางทุบตีอีกคนที่กำลังจาบจวงเข้ามาในตัวของเค้าอยู่
“ไม่ ไม่ๆๆๆ .....อย่านะ ปล่อยฉัน!” เพอร์ซี่โวยวายราวกับโดนน้ำร้อนลวกและหดเกร็งรูนั้นตามสัญชาติญาณ
ในคราแรกลุคค่อนข้างตกใจกับเสียงโวยวายนั่น
เพียงเพราะว่ามันดังและรัวเร็วมากกว่าที่เค้าคาดไว้หลายเท่านัก แต่ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างสูงที่ทาบทับก็ใช้มือเพียงข้างเดียวป้องปัดแขนขาที่ดิ้นไปมาของอีกคน
แต่ในขณะเดียวกันนิ้วเรียวยาวก็ยังคงคาอยู่ที่ช่องทางนั้นอยู่
“เฮ้ๆ....เฮ้ ชู่ว์....เพอร์ซี่.....”
ลุคยกมือขึ้นมาตั้งท่าเตรียมจะปัดป้อง หากมือของเพอร์ซี่เกิดอยากสู้ขึ้นมาอีก
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
“....เพอร์ซี่...ไม่ ไม่เป็นไร....ไม่เป็นอะไรหรอก” คนผมบล์อนพยายามโน้มน้าว แต่ทว่าคนที่เบะปากเตรียมจะร้องไห้กลับเอาแต่ส่ายหน้าและไม่ยอมเชื่อ
“ไม่...อยะ อย่าเอานิ้วเข้ามานะ.....อึก”
เด็กหนุ่มใช้มือทั้งสองดันอกของร่างสูงขณะตนก็เบือนหน้าหนี
......................เพอร์ซี่กำลังร้องไห้...................
.
.
.
.
TBC.
---------------------------------------------------------------------------
อริ๊วววววว
น้องทำตามสัญญาแล้วนะเคอะพี่แคร์-- >3< !!
และพอมาถึงตอนนี้ไรท์ก็เพิ่งรู้สัจธรรมแหละว่าไรท์มัน
SM!! จับ NC เมื่อไรเคะเป็นได้เจ็บตัว เป็นโรคส่วนตัวที่แก้ไม่หายใช่ไหมค่ะเนี่ย TUT
ท่านใดเพิ่งเข้ามาอ่าน
และที่อ่านมานานแล้วแต่ยังไม่ได้คลิกกะไรท์ก็มาเป็นเพื่อนกันได้ที่นี่เลยค่ะ จิ้มเล้ย! >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ไรท์จะรับแอดเสมอค่าาา
สำหรับวันนี้ไปแล้วนะค่ะ [ไปทำงานต่อ...เริ่มเหนื่อยอีกแล้วค่ะ
_ _] รักรีดทูกท่านเลยค่าาาา -3-
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund
7 ความคิดเห็น:
เพอร์ซี่เอ๋ย แกก็เคลิ้มมาหลายรอบแล้ว ยอมซะทีเซ่! เดี๋ยวจับขึงเตียงขังลืมกับลุคเลยนิ ��
เพอร์ซี่ยอมลุคไปเถอะ
ลุค นาย... ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เหอๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดด ชอบมากเลยค่าาา หาอ่านยากมากกก
ขอบคุณมากๆ ที่เอามาลงให้ได้อ่านนะคะ ^_^
จะฝากรอยรักหรือฝากความทรงจำไว้ มันก็ฟังดูหื่นๆชอบกลทั้งนั้นแหละ
ไมพระเอกของไรท์ถึงได้แลดูหื่นแทบจะทุกคนอย่างนี้หละเนี่ย
(หรือว่าติดเชื้อความหื่นมาจากไรท์กันหมด??)
แต่ก็นะ ถ้าไม่หื่นก็ไม่ใช่ไรท์แล้วแหละ
เรื่องนี้ยังSMเบาๆอยู่นะ
ของจริงมันต้องเฮียโด้กับน้องเหมียว
แต่เค้าก็ฟินเอามากๆเลยนะตัวเอง
ก็น้องเพอร์ซี่ช่างน่ารักน่ากดซะขนาดนั้น #จงใจไม่มี 'อ'
ยอมๆลุคเค้าไปเถอะ
หึหึ แต่ระวังไว้หน่อยนะ ว่างๆเราจะเอากล้องไปแอบถ่าย หึหึ
แสดงความคิดเห็น