วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 23] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi




กราบบบบบบบ สวัสดีรีดๆ สาวก RonalSi ที่รักทุกท่านค่ะ M_ _M //กราบแล้วเอียงตัวหลบรองเท้า//  ต้องขออภัยอย่างมหาศาลจริงๆ เลยค่ะ  ที่ไรท์หายไปนานมาก แบบหายไปเลยยยย.......ไรท์ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ  แบบว่าไร้สัญญาปรากฏบนจอเรดาห์ แม้แต่ในเฟสก็เงียบหา ไร้โพสต์

ขอโทษจริงๆ นะคะ  แต่ไรท์ไม่ได้หายหรือถอดใจไปไหนเลยค่ะ  เพียงแค่ว่าภาระกิจตอนนี้มันเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองค่ะ และเวลาว่างที่เหลือไรท์ก็เอาไปปั่นฟิคค่ะ 555555  เพราะงั้นก็เลยยังว่างมาสักทีนะเออ

//รีดบอก...ฉันลืมไปแล้ว ตอนล่าสุดเป็นไง  ทิ้งไว้นานจัด -_-*//

เพิ่งจิได้แวบมาาาาา  ฮาาาาาา  มาต่อกันในตอนที่นายกองนอยเออร์กะเหล่าลูกเสือทั้งสี่กำลังจะหารือกันว่าออกไปขอความช่วยเหลือดีหรือไม่นะคะ  และ Part นี้เป็นตอนต่อจากนั้นค่ะ

เอาล่ะค่ะ  ใครคิดถึงโด้เหมียวก็ไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}<!!


------------------------------------------------------------------------------------------------


“โอ๊ย  เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันสักที  เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะ....มานูเอลนายนำไปเลย  ตอนนี้เราขยับมาอยู่ท้ายๆ แล้ว  ถ้าจะไปล่ะก็ทางสะดวก.....ขอร้องเหอะ ฉันอยากเจอลีโอ  รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้แฮ่ะ”

เนย์มาร์พูดเสียงสุดจะทนกับความอัดอั้นที่เค้านั่งตบตีกับมันอยู่  แต่นอยเออร์ถอนหายใจ


.


.


********************************************************************************


.


.


..............ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้สถานการณ์ดีขึ้น  แต่ว่านี่มันแอบลักลอบออกไปเลยนะ  พวกเค้าต้องจัดการกับอีกฝ่ายหนึ่งสองหรือสามคน  ไม่ใช่แค่เชฟลูกเตะให้ได้เหมือนในสนาม........นั่นน่ะมันคนละเรื่องกันเลย

แต่ท้ายที่สุดแล้ว  ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันก็ไม่มีทางเลือกที่ดีที่สุดมากไปกว่านี้อีกแล้ว  อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำอะไรสักอย่างบ้าง   นอยเออร์จึงพยักหน้าในที่สุด

“ถ้าเราไม่มีทางเลือกแล้ว......จะเอางั้นก็ได้

เยี่ยม!” เนย์มาร์ที่ลุ้นจนตัวโก่งก็สมหวังในที่สุด  แล้วพวกเค้าก็เริ่มแผนการออกไปอย่างไม่มีขั้นตอนอะไรเลย.............

มันแสนจะธรรมดาและเรียบง่าย  เป็นหลักการที่หนุ่มๆ เลือกใช้ และเนย์มาร์ก็เรียกมันว่า “ปฏิบัติการดับเครื่องชน”  เริ่มจากการที่พวกเค้าค่อยๆ หายตัวไปจากที่ชุมนุมของบรรดาแขกหรือ 

และเป็นเพราะโรงแรมตั้งอยู่บนที่สูงเหนือเชิงเขาขึ้นไปเพื่อเป็นจุดขายของโรงแรมและเรียกลูกค้า  จึงค่อนข้างห่างใกล้จากสำนักงานต่างๆ  เหตุเพราะ CEO ของที่นี่ต้องการให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์แห่งริโอโดยเฉพาะ แต่ทว่าความสะดวกสบายที่ครบครันก็มาพร้อมกับความปลอดภัยที่ไม่เพรียบพร้อมในเวลาเดียวกัน

ห้าหนุ่มบอยแบนด์ในตำนานเดินหลบสายตาของคนหมู่มากออกมาทางเขตแดนของโรงแรมแล้วช่วยกันจัดการชายถือปืนห้าคนอย่างเงียบเชียบที่สุด (ถ้าหากโหวตว่าใครบ๊วยสุดก็คงจะเป็นเปเป้ที่ใช้มุขชี้ให้โจรดูนกชมไม้แล้วซัดเอาตอนเผลอ  แต่เนย์มาร์ก็ไม่น้อยหน้าตามมาติดๆ กับท่าสับหูเหิรหาวที่ใช้ทีเผลอของคู่ต่อสู้ตรงเข้าไปสับหูคู่กรณีให้เจ็บปวดด้วยเช่นกัน)

และไม่น่าเชื่อ ด้วยความร่วมมือของพวกเค้า  ทั้งห้าคนก็สามารถรอดพ้นออกมาได้ พร้อมกับสมุนโจรวิ่งตามมากันเป็นพรวน(?).........

“ฉันจะไม่ตายทีนี้ว้อยย ฉันจะไปช่วยลีโอ....!” เนย์มาร์วิ่งมาเป็นอันดับสอง  แต่ไม่อาจเทียบเท่าเปเป้ที่วิ่งนำมาเป็นอันดับหนึ่งได้

“ก็เหมือนกันนั่นแหละ! ว่าแต่ทำไมมันถึงไม่ยิงเราว่ะ”

“ให้มันมายิงตูดแกสิ!” เนย์มาร์หันมาแหวใส่  พวกเค้าวิ่งด้วยความเร็วแสงของนักฟุตบอลลงเนินเขาจนมาถึงโค้งใหญ่แล้ว พร้อมด้วยคอลเล็คชั่นโจรมากมายเกินจะสะสมไหว

มึลเลอร์ตะโกนตอบ เค้าวิ่งปิดท้ายชไวนี่ “ก็พวกนั้นไม่อยากเสียงดังให้ตำรวจแห่มาไง! ไอ้พวกโง่!

ชไวนี่หันมาพูดกับมึลเลอร์ “อย่างที่มานูเอลทำน่ะเหรอ” เสียงเค้าดูไร้เดียงสาไม่เหมาะกับสถานการณ์เป็นอย่างยิ่ง

“พอสักทีบาสเตียน” นั่นเสียงนอยเออร์  ร่างสูงที่สุดหันมาทางด้านหลังของตัวเอง  เสียงฟังดูเรียบเฉยเหมือนเดิม  แต่ติดจะเบื่อหน่ายเล็กน้อย

ห๊ะ อะไรนะบาสตี้” มึลเลอร์ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอีก ในขณะที่พวกเค้าวิ่งพ้นโค้งใหญ่มาได้แล้ว

“ก็ตอนที่ไปช่วยฉันน่ะ มีโจรคนหนึ่งจะยิงเรา  มานูเอลก็เข้าไปแย่งปืนกันจนเสียงดังเปรี้ยง ปร้างไปหมดเลยล่ะ  แล้วนายก็ทำอะไรนะ.....อ๋อ  แล้วเค้าก็จัดการมันซะน้วมเลย” ชไวนี่พูดยิ้มๆ เหมือนเค้าภูมิใจในตัวเพื่อนเอามากๆ ก่อนมึลเลอร์และคนอื่นๆ จะถึงบางอ้อในที่สุด

อ๋อ  นายนี่เองที่ทำให้เกิดเสียงปืนลั่นซะสะนั่นฟ้านั่นน่ะ” มึลเลอร์ชี้ไปที่นอยเออร์ที่ไหวไหล่ไปด้วยวิ่งไปด้วย  และเปเป้ก็ตะโกนไล่หลังมา

“ชไวนี่! นายโชคดีชะมัดที่มีคนดูแลดีขนาดนี้  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายถึงยังโลกสวยมาจนถึงตอนนี้”

พูดความในใจแค่นั้น  ก่อนทั้งห้าจะห่อตะบึงกันมาเกือบไมล์ครึ่งและพวกที่ตามมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดละเลยเช่นกัน

เนย์มาร์รู้สึกเซ็งสุดขีด “โธ่เอ้ย!! ฉันนึกว่าตำรวจมันจะมากันแล้วเหอะ.....ไปมุดหัวอยู่ไหนกันหมดว่ะ ถ้าเจอนะฉันจะด่ามันให้ไม่รู้เรื่องเลย!

“ไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?  แกจะด่ามันว่าอะไรน่ะ” เปเป้หันมาถามเนย์มาร์ซึ่งตอนนี้วิ่งมาเทียบเคียงเค้าแล้ว

“ฉันก็จะด่ามันว่า......” เนย์มาร์บอกอยู่ข้างหูเปเป้ เค้าพยักหน้าเห็นด้วย แล้วชายบราซิลก็เกิดนึกอะไรเจ๋งๆ ขึ้นมาได้ จึงหันไปตะโกนบอกนอยเออร์และมึลลอร์ที่อยู่หลังบ้าง  ถึงสิ่งที่เค้าเตรียมจะจัดให้เมื่อเจอกัน

..........ถ้าตำรวจเจอก็คงจะงงกันไปเลยจริงๆ ล่ะ............

“ว่าแต่....เอ่อ....นี่เราจะวิ่งจนไปถึงกรมตำรวจเลยรึไงฟ่ะเนี่ยยย!” เปเป้ตะบันเสียงสติแตก เพราะเค้าเริ่มเหนื่อยแล้ว......และพวกผู้ร้ายถึกๆ ข้างหลังก็ไม่ยักกะเหนื่อยด้วยเสียที

“ไม่! เราจะไม่ทำอะไรโง่ๆ อย่างนั้นหรอกนะ.....พอเข้าเขตชุมชนเราจะขอโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ  และพอถึงตอนนั้นแล้วพวกมันคงจะไม่โง่ตามเราลงไปในเขตชุมชนหรอก” มึลเลอร์ตอบข้อข้องใจ  ให้เปเป้เบาใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพบว่าอีกหลายไมล์ทีเดียวกว่าพวกเค้าจะลงเขาไปได้!

ทั้งหมดวิ่งได้ประมาณห้าไมล์ โจรที่วิ่งลงเขาตามมาก็เริ่มเหนื่อยและเลิกตามกันไปเยอะแล้ว  แต่บางคนในห้าหนุ่มผู้เป็นดั่งความหวังของคนหมู่มาก ยังคงฟิตปั้ง.....บางคนน่ะนะ

“ฮา! ใครมันจะวิ่งสู้นักฟุตบอลอย่างเราได้ว่ะ.....ใช่ไหมไอ้ เฮ้ยย แกเป็นไรฟะเนี่ยย?!” เนย์มาร์ซึ่งกู่ร้องอย่างได้ชัย หวังจะหันไปแทคทีมกับพันธมิตรชั่วคราวของเค้า  แต่ก็ต้องตกใจแทบหยุดวิ่ง..........เมื่อเห็นเปเป้ที่แทบลืมตาไม่ขึ้น

เปเป้เหมือนคนเป็นโรคหอบ “จะตายแล้วว้อยย!  อย่าว่าแต่มันเลยฉันนี่จะกลิ้งลงไปกะแกที่วิ่งอยู่อยู่แล้วเนี่ย!

เอ้า!  วิ่งเข้าไอ้หน้าหนอนวิ่งเข้า! เราจะไปช่วยลีโอกะคริสด้วยกันให้ด้ายยย!” เนย์มาร์แหกปากสะบัดหน้าให้กำลังใจเปเป้  และได้รับผลตอบแทนเป็นใบหน้าที่หันมาจนหัวเกือบหลุดของเปเป้ พร้อมกับสายตาชวนหาเรื่อง......แต่ช่วงท้ายประโยคของเนย์มาร์ก็ทำให้เค้าพอที่จะให้อภัยได้   

เพราะอย่างน้อยเนย์มาร์ก็ไม่ได้เรียกเพื่อนเค้าอย่างเสียๆ หายๆ แล้ว

เปเป้ห่อตะบึงอย่างสุดแรงเกิดฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง  และในที่สุดชายหนุ่มสุดแกร่งทั้งห้าก็สลัดกองโจรออกไปจนหมดด้วยระยะทางที่ไกลสุดใจ  แล้วพากันทั้งวิ่งและกลิ้งจนลงเขามาได้  พวกเค้าหมดแรงแล้วจริงๆ กับระยะทางที่เลิกนับไปแล้ว  ทั้งห้าหยุด  หอบ  และท้าวกันและกัน พยุงกันไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไปนอนกองกับพื้น

“โอยย  อกชายโสดจะแตก  วิ่งจนปอดแหกไปหมดแล้วเนี่ยย” เปเป้พาดคอหอบหายใจกับหลังมึลเลอร์ที่ใช้หัวยันหลังพยุงชไวนี่ไว้  ทั้งหมดดูหอบแฮ่กยิ่งกว่าอะไรจะเปรียบ

“บอกเลย...ฮา ฮา...วันนี้ฉันกะมางานเลี้ยง ฮา ไม่ได้เตรียมตัวมาซ้อมบอล” นอยเออร์ปาดเหงื่อยด้วยหลังมือเป็นรอบที่ร้อยได้  แต่แล้วเค้าก็โดนแสงไฟบางอย่างสาดเข้าตา  ร่างสูงที่สุดและยืนท่าสมบรูณ์ที่สุดยกแขนขึ้นป้องแสง ก่อนจะหยีตาสู้แสงนั้น  จนกระทั่งเค้ากู่ร้องออกมาอย่างรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

“นั่นตำรวจ! ตำรวจมาแล้วทุกคน!! ตำรวจ!” พวกที่เหลือพากันมองไปทางแสงไฟเคลื่อนที่ได้นั้น

...................ไฟหลายสิบดวงที่สาดส่องเข้ามาหาพวกเค้า ราวกับว่าเค้าเป็นนักโทษในห้องสอบสวน  รถตำรวจและทหารหลายสิบคันวิ่งตรงมาทางพวกเค้า 

ทั้งหมดโห่ร้องอย่างดีใจ ต่างวิ่งเข้าไปกอดกันและกัน 

มาแล้วในที่สุด ก็มาสักที..............

นอยเออร์เป็นคนแรกที่ตะโกนออกไปอย่างหมดแรง

ไอ้พวกบ้า! มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ!

ภาษาเยอรมันชัดถ่อยชัดคำถูกพูดออกไปพร้อมกับแขนยาวแข็งแรงของผู้รักษาประตูสัญชาติเยอรมันที่ชูขึ้น.......เค้าพูดตามแบบที่เนย์มาร์บอกสคริปมาแป๊ะอย่างติดจะไม่พอใจด้วยที่เจ้าหน้าที่มาทำงานได้ล่าช้ามาก  และต้องทำท่าเหมือนดีใจสุดชีวิตด้วยนะเออเพื่อความเนียบเนียน   ก่อนจะตามมาด้วยยอดชายนายมึลเลอร์ที่วิ่งมาประกบด้านข้างแบบติดๆ

ดูเบ็นเท็นอยู่รึไงทำไมถึงเพิ่งมา!.....ไอ้พวกบ้า  มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ!” เค้าพูดแบบเดียวกันแต่ระเร็วและฟังดูหอบกว่า และบุคคลที่สามก็ตามมาติดๆ

“ไอ้พวกบ้า.....” แต่แล้วเค้าก็โดนสกัดดาวรุ่งด้วยการจับไหล่แล้วปรามน้อยๆ  มึลเลอร์ทำหน้าไม่เห็นด้วยกับเค้า

“พอเถอะบาสตี้  นายไม่ต้องพูดหรอก อยู่กับโลกสวยของนายต่อไปน่ะดีแล้ว.....อย่าหยาบคายนะ  ไม่เอา  ไม่ดี” พร้อมกับจุปากเตือน  ชไวนี่ทำหน้าหงอย

ไอ้พวกบ้า! มัวทำห่าอะไรกันอยู่ว่ะ! ข้างในจะไส้แตกกันหมดอยู่แล้ว!” เปเป้สุดจะกล่ำกลืนแล้ว เค้าตะเบ็งเสียงออกมาเป็นภาษาสเปน(ภาษาหลักของสโมสรเรอัล มาร์ดริก) เสียงดังที่สุด.......และแน่นอนในบรรดาตำรวจผิวเข้มทุกคนก็ไม่มีใครฟังพวกเค้าออกเลย

เพราะภาษาเยอรมันสำหรับความสามารถของตำรวจบราซิลแล้ว = 0  และภาษาโปรตุเกตุนั้นก็เป็นภาษาหลักของชาวบราซิลมาแต่เก่าก่อน   ดังนั้นเปเป้จึงต้องพรั่งพรูคำสบถและด่าทอออกมาเป็นภาษาอามีโก้.............

และปิดท้ายด้วยคนที่บอกให้พวกเค้าทั้งหมดพูด

Help me!! Help me pleaseeee.....ช่วยด้วยครับ! ข้างบนนั่นจะแย่อยู่แล้ว!” เนย์มาร์วิ่งเข้าไปหาตำรวจด้วยทางท่าของคนที่อ่อนแรง(ซึ่งเกินเหตุ)  แต่เพื่อนที่ยืนเหวอทันทีที่ได้ฟังประโยดของเนย์มาร์ก็ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ   เจ้าตัวจึงหันมากระซิบกับเพื่อนๆ ที่โดนหลอกให้หยาบคายใส่ตำรวจ

“ยังไงพวกนายก็ได้หลอกด่าพวกนั้นล่ะนะ....แมร่ง ช้าฉิบ!  ขอบใจนะที่ด่าส่วนของฉันเผื่อไปด้วยน่ะ” ก่อนจะหันไปทำหน้าตาตื่นระคนยินดีกับหน่วยแรกที่เข้ามาถึงตัวเค้า

“คือเพื่อนผมเค้าดีใจมากน่ะครับ ที่พวกคุณมา  เค้าก็เลยเผลอพูดภาษาเง้าของตัวเองออกมาน่ะครับ”

นอยเออร์  มึลเลอร์  ชไวนี่  และเปเป้ปั้นหน้าเอ๋อใส่ตำรวจ

ไอ้ เอก-ประจบ  โท-สอพลอ!!!!.........มันเป็นดอกเตอร์ด้านกลับกลอกได้สบายๆ เลย  รางวัลหน้าด้านอวอรด์ต้องยกให้มัน!!!!

.

.

ไอ้เนย์มาร์!!!!

เพื่อนสี่คนหยุดหอบแล้ว และกำลังทำหน้าหมั่นไส้เนย์มาร์อยู่...............


.


.


.


TBC.


----------------------------------------------------------------------------------------------


เย้!!!! >{}<  ในที่สุดตำรวจก็มาได้สักทีค่ะ! ><  แต่ว่าประโยคดีใจอันปลดเปลื้องของชายหนุ่มก็อัดอั้นไม่น้อยเลยนะคะ 555555 //ไรท์ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ  หากรีดท่านใดไม่ชอบคำหยาบคาย  //  เนย์มาร์ตัวแสบ 5555  หลอกกันได้นะ

และใน Part หน้า เป็นของเฮียกับเหมียวค่ะ  อูยยยย พูดถึงคู่พระนายของเราแล้วก็เจ็บปวดใจค่ะ  เฮียก็โดนซ้อมสะบักสะบอม  เหมียวก็ร้องไห้น้ำตาจะเป็นสายเลือดอยู่แล้ว  หมดแรงแล้วด้วยยย TWT  Part หน้าต้องติดตามให้ได้นะคะ  ในที่สุดตำรวจก็มาถึงกันแล้ว  และเหมียวจะรอดพ้นเงื้อมือของพวกเรียกค่าไถ่หรือไม่  ต้องติดตามค่ะ ><  ติดตามให้ได้เลยนะค๊าาาา  //ตื่นเต้นแทน 555//

คอมเม้นท์กันด้วยนะเออ  ไรท์จะได้มีกำลังใจหนีงานมาลง Part ต่อไปเร็วๆ (?) 55555555

ตอนนี้รีดที่ได้ลงรายชื่อรับการ์ดฉลองปิดฟิคกับไรท์ไป คงจะได้กันเกือบหมดแล้วนะคะ  และสำหรับใครที่ไม่ได้ก็ต้องขอเรียนเลยค่ะว่า "น่าเสียดายมากกกกกกก“  เพราะมันเป็นฟิคของ รุ่นพี่เฟี้ยวกับแก็งค์น้องเฮี้ยวสุดซ่า ค่ะ  เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกันเลยทีเดียวค่ะ  มาเต็ม ทั้งความฮา  ความน่ารัก(ของนุ้งเหมียว)  และความตื่นเต้น  พร้อมทั้ง NC ที่ชนิดว่ารีดหลายๆ ท่านที่ได้แล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะว่า “สุดยอดมากก  เต็มอิ่มจริงๆ”




เป็น NC ครั้งแรกของรุ่นพี่เฟี้ยวค่ะ ><  ท่านใดที่เป็นสาวก RonalSi  แล้วพลาดอีกอรรถรสหนึ่งอันแสนจะไม่ควรพลาด มีความต้องการอยากจะฟินบ้าง (ฟินจริงๆ ค่ะ ตอนนี้แฟนคลับ RonalSi ของไรท์ ใครไม่พูดถึงรุ่นพี่เฟี้ยวถือว่าเอาท์ค่ะ  มีแต่คนพูดถึงรุ่นพี่เฟี้ยวกันทั้งนั้นเลยค่ะ เพราะมันฟินมากกกก 555)+(ไรท์กลับมาอ่านเอง ยังยาวเองค่ะ 555)


ทุกท่านที่สนใจอยากจะอ่าน Fic รุ่นพี่เฟี้ยวกับน้องเฮี้ยวสุดซ่า ฉบับเย็บเล่มแฮนเมค ซึ่งไม่มีการเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน และบทความหรือฟิคเรื่องนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่ทีอื่นนอกเหนือจากการรวมเล่มภายใต้ลิขสิทธิ์ของไรท์แน่นอนเลยค่ะ




(ต้องขออภัยที่ไม่เอาลงบล็อกนะคะ เพราะภาษาค่อนข้างจะ แบบว่า ตามแบบรุ่นพี่เฟี้ยวเลยล่ะค่ะ...เหมือนเด็กม.ปลายประเทศไทยมาก 5555

ใครอยากอ่าน ก็สามารถเข้ามาติดต่อไรท์ได้เลยค่ะที่เฟสบุ๊ค >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  แล้วทักแชท หรือ In Box มาคุยกับไรท์ได้เลยค่ะ^^  ด้วยเหตุที่ว่าหมดโปรโมทชั่นแจกการ์ดแล้ว(?)  และไรท์จำเป็นต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์เพิ่มจึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายนะคะ M >< M  พูดตรงๆ เลยค่ะ คือ ขาย ค่ะ //สมบททุนนักเรียนยากจน TUT//


ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกรีดทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามฟิคของไรท์ มากๆ เลยนะคะ >///<  เลิ๊ฟ ยูวววววววววว

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray -  Aund

ปล. ต้องขออภัยรีดท่านอื่นๆ ด้วยนะคะ  ที่ไรท์ไม่ได้เอารูปของรีดขึ้นด้วย TUT  แต่มีหลายท่านมากๆ ที่ส่งรูปมาให้ไรท์ทั้งหน้าเฟสและในแชทค่ะ  ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ ><




วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 22] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



อ่าาาาา  มาต่อตามที่สัญญาแล้วค่ะรีดๆ >3<  ช่วงนี้ไรท์ไม่ค่อยได้แวะมาลงบ่อยๆ เลยค่ะ  ต้องขออภัยอย่างมหาศาลจริงๆ เลยนะคะ  และช่วงนี้ก็ทราบว่ารีดหลายๆ ท่านก็คงจะเปิดเทอมกันแล้ว(เข้าวังวนสู่เทศกาลโลกแตกอันน่าเบื่อ)  ฮาาา สู้ๆนะคะ  การเรียนนี่ต้องใช้ความอดทนและความพยายามกันเป็นอย่างมากเลยนะเออ //อย่าว่าแต่เค้าเลย แกก็เหมือนกันยะ!// 55555

แปะเฟสค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< สามารถเข้ามาติดตามและเข้ามาพูดคุยกับไรท์ได้เลยค่ะ //หากช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็ต้องอภัยด้วยนะคะ  M_ _M // 

อืมม มาว่าด้วยเรื่อง Part ที่แล้วที่เราค้างกันไว้ดีกว่านะคะ......จาโรชักปืนขึ้นมาแล้วลั่นไกใส่เฮียค่ะจะเกิดอะไรขึ้น!?  ไปอ่านกันเลยค่าาาาา ><


----------------------------------------------------------------------------------------------


จาโรเดินดุ่มๆ มาหาโรนัลโด้แล้วชักปืนออกมาจากเข็มขัดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลั่นไกโดยไม่คิด

ปัง!

เมสซี่ตาเบิกโพลง อ้าปากค้างและหยุดหายใจ..........


.


.


.


******************************************************************


.


.


.


กระสุนยิงลงไปในสระ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินมาถึงหน้านักเตะพอดี แล้วจี้ปลายกระบอกปืนไปที่แผลสดซึ่งมีเลือดไหลออกมาหมาดๆ ของโรนัลโด้

“ฉันจะไม่ฆ่าแกรู้ไหมคริสเตียนโน่ เพราะไม่อยากให้เสียรายได้จากการทำธุรกิจ....”

อ้าา!...อึก ใครอนุญาตให้แกเรียกชื่อต้นของฉันกัน ไอ้สารเลว....อ๊ากก!” หนุ่มลูกครึ่งอเมริกันกดมือที่ถืออาวุธสังหารลงไปแรงอีก ปลายกระบอกปืนร้อนๆ ส่งเสียง ฉี่ เบาๆ บนบาดแผลของโรนัลโด้  ประสาทสัมผัสของความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมองของเค้าจนร่างสูงต้องร้องออกมา

“แกไม่มีสิทธิ์พูด เพราะว่าฉันจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเมื่อไรก็ได้!” ว่าแล้วจาโรที่มีสีหน้าเหมือนโมโหโกธาเป็นพิเศษ ก็จัดการใช้สันปืนตบเข้าไปที่มุมปากของโรนัลโด้อย่างเต็มแรง  จนร่างสูงหน้าหันพร้อมเลือดกบปาก

“อันนี้ฉันจัดให้ก่อนแกโดนรับน้อง” ว่าเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับลูกน้องเพียงเล็กน้อย  แล้วถอยออกมา ในขณะที่ชายฉกรรจ์สี่คนจะรุมอัดร่างสูงที่ถูกยำติดกับพื้น

“เป้าหมายคือตัวเมสซี่......ไม่ใช่แก เพราะงั้นก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะได้แกมาเป็นตัวทำเงินอีกคนหนึ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถนอมแกนักหรอก....เฮ้ย! ไม่ต้องเน้นหน้า เอาตัวมันให้ช้ำไปถึงไส้ติ่งก็พอ”

หนุ่มลูกครึ่งตะโกนบอก  แล้วถอยหลังออกให้ความสนใจกับร่างเล็กๆ ที่พร่ำพูดทั้งน้ำตาบ้าง....จาโรยืนมองเมสซี่ที่กู่ร้อง อยู่ห่างๆ

“ไม่! อย่าทำอะไรเค้า...อย่า! คุณก็ได้ตัวผมแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก....ปล่อยเค้าไป อย่าทำอะไรเค้าอีกเลย  ได้โปรดเถอะ  เค้าลำบากเพราะผมมากเกินพอแล้ว!....อึก  ฮือ  คริส! ไม่! อย่า อย่าทำเค้า....พอแล้ว  ฮืออ  อึก ได้โปรด....พอเถอะ”

จาโรยิ้มละมุนแต่ทว่าร้ายกาจราวกับคนที่พร้อมจะเชือดนิ่มคนอื่นได้ตลอดเวลา  ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเมสซี่  แล้วจุปากไปมาอย่างนึกสงสาร

“ไม่เอาน่าคนน่ารัก  อย่าร้องไห้สิ.....คุณไม่ควรดูภาพที่ไม่น่าดูแบบนั้นเลยนะ” ว่าเสียงอ่อนโยนพลางเช็ดน้ำตาให้อีกคนหนึ่งอย่างอ่อนโยนเช่นกัน  แต่ร่างเล็กกลับสะดุ้งหนีสัมผัสนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ได้โปรดหยุดเถอะ  คุณได้ตัวผมแล้ว หยุดทำร้ายเค้าเถอะผมขอร้อง....แล้วผมจะยอมไปกับคุณแต่โดยดี.....ได้โปรดเถอะนะ” เมสซี่แสดงสีหน้าอย่างสุดจะอธิบายเมื่อเค้าไม่เคยรู้สึกแย่และเจ็บขนาดนี้มาก่อนเลย.......คนที่ช่วยเค้า  โอบอุ้มเค้า  และใจดีอารีกับเค้ามาโดยตลอดกำลังจะตายทั้งเป็น 

ถ้าโดนซ้อมเข้ามากๆ อาจจะเล่นฟุตบอลไม่อีกเลยตลอดชีวิต

“ได้โปรดเถอะ  หยุดเถอะ หยุดสักที...อึก” ร่างเล็กหมดแรงห้อยตัวเองกับชายทั้งสองที่จับร่างของเค้าไว้  ชายลูกครึ่งอเมริกันบราซิลออกมายืนบังร่างเล็กไว้ไม่ให้เห็นภาพที่บุคคลซึ่งกำลังถูกพูดถึงอยู่นั้นโดนรุมซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตาย

“โอ้ เงียบซะเถอะ....เงียบซะ” จาโรว่าเสียงเห็นใจอย่างเสแสร้ง ก่อนจะหรี่เสียงท้ายประโยคให้เบาลงเพื่อให้ดูสมจริง........ชายคนนี้เก่งเรื่องเล่นละครซึ่งสวนกับสถานการณ์ของความเป็นจริงเสมอ........แล้วจรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากที่นุ่มมือจนเค้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ  ก่อนจะทำหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง

“แต่เสียใจ ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้” แล้วจากนั้นจาโรก็ทำหน้าเคร่งขรึมราวกับพลิกกลับบทบาทของตัวเองใหม่ ก่อนจะหมุนตัวบนสันเท้าแล้วพูดเสียงกรรโชก “เฮ้ย! เลิกเล่นได้แล้ว จัดการมันให้สลบ....อยู่ไปก็ยุ่งยากกันเปล่า  ดูท่ามันเอาเรื่องชะมัด”

เสียงตุ้บตั้บดังขึ้นอีกเป็นสองเท่า  มันเกือบจะดังประสานกันจนร่างเล็กแทบแยกไม่ออก แต่แล้วก็มีการเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้น  มีคนก้าวเข้ามา.........

“ดูสิ ใครไม่ทำให้ผิดหวัง.....โอ้ จาโร สมแล้วกับที่เป็นมือขวาของฉัน” ชายร่างใหญ่ออกท้วมคนหนึ่งเดินเข้ามา เค้าผายมือออกอย่างยินดีแต่พูดเสียงยินดียิ่งกว่า แสดงท่าทีราวกับว่าเจอหลานชายที่หายหน้าหายตาไปนาน........และทุกอย่างกำพลันหยุดชะงักลง  ชายฉกรรจ์สี่คนที่ซ้อมโรนัลโด้ก็หยุดมือไปด้วยแล้วยืนตัวตรงแน่วเพื่อทำความเคารพหัวหน้าสูงสุด

.............เมสซี่เห็นโรนัลโด้นอนจมกองเลือด  มีเลือดไหลออกมาจากปาก  จมูก และบาดแผล  ร่างสูงดูบอบช้ำไม่น้อยเลย  และหมดสติไปนานแล้ว..........

“โอ้ คริส......” เมสซี่พูด เสียงฟังดูเหมือนใจสลาย.....เค้าทั้งสงสาร และเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เพื่อนร่างสูงต้องมาเจอชะตากรรมเช่นนี้  เป็นเพราะเค้าคนเดียวแท้ๆ

เป็นเพราะเค้าคนเดียว...........



********************************************************************************



“ไอ้จาโร ไอ้คนหลอกลวง!” เปเป้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วกำมือแน่น

“ไอ้บัซบเอ้ย! อย่าให้ฉันเจอมันอีกนะ” เนย์มาร์ที่อยู่นั่งแปะข้างๆ ก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน  แถมยังช่วยชูกำปั้นเป็นเพื่อนเปเป้อีกด้วย

สองหนุ่มสองเชื้อชาตินั่งอารมณ์เดือดเพราะถูกหลอกอยู่กันเพียงสองคน  จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยตัดปัญหาขึ้นมา

“ช่างเถอะน่า ยังไงเราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว  อีกอย่างหมอนั่นโกหกพวกนายไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา พวกนายก็ติดแหง็กอยู่นี่  ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” เปเป้กับเนย์มาร์มีทำหน้าเจ็บนิดๆ ........ราวกับจะย้ำเตือนว่าพวกเค้าไร้ประโยชน์กันซ้ำๆ หน้าอย่างไรไม่รู้.............แต่เนย์มาร์ก็ยังเจ็บใจอยู่อย่างเสียได้

“ก็มันเจ็บใจอ่ะ! เอาความหวังของฉันกะหมอนี่มาล้อเล่น.....มันไม่มีอะไรให้ทำรึไงไอ้บ้านั่นน่ะ!

“หรือบางทีเค้าอาจมีเหตุผล” มึลเลอร์พูดอย่างครุ่นคิด

“แล้วมันคืออะไรล่ะ”

“อืม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันชไวนี่.....แต่การโกหกพวกเราที่ติดอยู่ตรงนี้และทำอะไรไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีนั่นแหละ” มึลเลอร์ตอบเพื่อนชาติเดียวกันที่นั่งทำหน้าตาเหมือนสถานการณ์ปรกติอยู่ข้างๆ  แล้วยกมือขึ้นจับคางอย่างครุ่นคิดยิ่งกว่าเดิม  แต่แล้วก็โดนเปเป้ตีเข้าที่หน้าตัก  คนที่ไม่ยอมอยู่เฉยเอ่ยอย่างไม่ใคร่รู้สึกดีนัก

“ช่างเรื่องนั้นเถอะน่า มาช่วยกันคิดดีก่อนกว่าว่าจะทำยังไงดี......เราต้องเรียกตำรวจนะ”

เนย์มาร์พยักหน้า “อืม ฉันก็เห็นด้วยกะเจ้าหมอนี่นะ  เราต้องทำอะไรสักอย่าง.....”

“เสียงปืนดังเมื่อกี้คงจะเรียกตำรวจมาแล้ว” มึลเลอร์ขัด แล้วโดนขัดขึ้นอีกที

“มันจะไปทันอะไรล่ะ สู้เราไม่หาทางเร่งเอาเองดีกว่าเหรอ   ดูสิ ขนาดอพยพคนออกจากตึงยังช้ายังกะแจกบัตรคิวโรงพยาบาลในที่ราบสูงยังงั้นแหละ  แล้วกว่าจะเคลื่อนตัวออกมากันได้ทั้งกรม โอยยย.........แถมไอ้หมอนั่นมันยังบอกอีกด้วยว่ากรมตำรวจน่ะอยู่ห่างออกไปตั้งไกล  โอ๊ยย ฉันหวังว่าหมอนั่นคงจะโกหกเราอีกนะ” เนย์มาร์พูด แล้วยกมือขึ้นโอดครวญกับตัวเอง  จนกระทั่งนอยเออร์เอ่ยขึ้นบ้าง

“จริง....กรมตำรวจห่างจากนี่ไปหกสิบไมล์” เพราะในระหว่างทางที่มาโรงแรมเค้าคอยสังเกตรายตลอด ไม่ได้หลับคาเบาะเหมือนคนอื่นๆ ในทีม  เนย์มาร์ทึ่งหัวตัวเอง  ดูเหมือนสติใกล้แตกเต็มที

อ๊ากก โอยยย  มันจะไปสร้างอะไรไกลขนาดนั้นว่ะ.....บอกฉันสิ ถ้าออกไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี่ได้ฉันจะบริจาคให้สร้างใหม่ใกล้ๆ ที่นี่สักที่หนึ่งเหอะ......เฮงซวยเอ้ยย!

“เฮ้ยย! อย่าสติแตกไอ้หน้าโจร  คุมสติให้ได้อย่างฉันสิ......ออกไปแล้วฉันจะควักตังค์ซื้อน้ำมันก๊าดทั้งปั๊มไปเผากรมมันแมร่งเลย  มาอพยพพลเรือนก็มาเท่าหยิบมือหนู แล้วพอเกิดเรื่องร้ายแรงแล้วยังจะเคลื่อนตัวกันช้าเป็นเต่าอยู่ได้!  นวยนาถจริงๆ!” เปเป้ดูเหมือนจะมีสติดีมากกว่าแต่ก็ไม่ต่างกันเสียเท่าไรเลย แถมยังขุดเอาภาษาสมัยคุณลุงที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยเข้าใจมาใช้อีก 

แต่เนย์มาร์ผงกหัวขึ้น เลิกทึ่งหัวตัวเองแล้ว  เปลี่ยนมาเป็นสะบัดมันมาหาเปเป้แทน  และทำหน้าชั่วใส่อีกคน “ความคิดบรรเจิดมากไอ้เพื่อนยาก!” แล้วยื่นมือออกไปเช็คแฮนด์กับเปเป้อย่างหมายมั่นปั้นมือ

เลยโดนนอยเออร์โบกกันไปคนละตั้บ

“ไร้สาระไปไหนพวกนายน่ะ....เลิกคิดอะไรบ้าๆ แล้วมาตกลงกัน ว่าจะเอายังไงแน่กันดีกว่า” เค้าเอ่ยถามเป็นจริงเป็นจัง  เปเป้และเนย์มาร์ตอบพร้อมกับเสียงแน่วแน่ไม่มีแววล้อเล่นสักนิดเดียว  ใบหน้าพวกเค้าดูพร้อมที่จะไปเต็มทีแล้ว

“เราจะออกไปตามตำรวจ” และไม่มีคำตอบที่เป็นอื่นอีกแล้ว

แต่มึลเลอร์ส่ายหน้า “แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้นายก็รู้  มีพวกมันอยู่เกลื่อนไปหมด” ร่างสูงพูดแบบกระชับได้ใจความและตรงประเด็นอย่างที่สุด

สองหนุ่มหัวใจห้าวหาญเลยลู่ไหล่ลงเมื่อโดนเบรกด้วยเหตุผลที่เป็นจริงที่สุด  แต่แล้วชไวนี่ก็ยื่นหน้าเข้ามากลางวงแล้วพูด จนนอยเออร์ต้องมองเค้าอย่างห้ามปรามน้อยๆ

“แต่มานูเอลทำได้นะ”

จจนทำให้สามคนนั้นหันหน้ามาพูดพร้อมกัน อย่างแทบไม่เชื่อหู “นายว่าอะไรนะ!....// อุ  แกเบาๆ สิ // แกนั่นแหละเบา เดี๋ยวมันก็ได้ยินเข้าพอดีหรอก // พวกนายสองคนนั่นแหละแหกปากอยู่ได้  หุบปากเลย  ทั้งคู่นั่นแหละ!” เปเป้  เนย์มาร์ถกกันไปมา  ก่อนจะจบด้วยประโยคสุดเหลืออดของมึลเลอร์  แล้วเปิดไฟเขียวให้ชไวนี่พูดต่อ

“ก็ตอนที่ฉันติดอยู่ในโรงแรมน่ะ  มานูเอลเข้าไปช่วยฉันในนั้นแล้วก็พาออกมาหาพวกนายนี่แหละ.....ตอนนั้นชุลมุนมากเลยนะ พวกแขกก็วิ่งกัน  ฉันก็วิ่งตามพวกเค้าไปแบบเนี่ย  แบบเนี่ย แล้วก็มีคนยิงปืนเสียงเบาๆ ฟิ้วๆ แบบนี้ด้วยนะ  และแขกพวกนั้นก็วิ่งชนกัน  มีคนหนึ่งหันมาชนฉันด้วย......โอ้ พระเจ้า  พวกนายไม่รู้หรอก  ทั้งหมดนั่นมันดูบ้ามากๆ เลย”

ผู้ที่ประสบเหตุมาด้วยตัวเองอธิบายให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มในตอนท้าย พร้อมกับทำท่าประกอบ............ชไวนี่ทำหน้าตาตื่นจำลองเหตุตอนที่เค้าวิ่ง และทำมือเป็นปืนกระดกขึ้นลงประกอบเสียง ฟิ้วๆ  

เนย์มาร์และเปเป้มองหน้ากันเหรอๆ ราวกับจะบอกชไวนี่ว่า “นายนั่นแหละที่บ้า” แต่ไม่นานก็เข้าใจเพราะชไวนี่ค่อนข้างโลกสวยและไม่เคยจริงจังกับอะไรนอกสนามเลย......เป็นคนดีเกินเหตุเสียด้วยซ้ำ  ดังนั้น เนย์มาร์และเปเป้จึงหันกลับมาฟังต่อ หลังจากที่กระพริบตาใส่กันเหมือนระคายอะไรบางอย่าง

“.....ฉันเกือบโดนเหยียบตายแล้วแน่ะรู้ไหม  ถ้ามานูเอลไม่เข้ามาฉุดให้ฉันลุกขึ้นแล้วก็พาไปหลบที่อื่นเสียก่อน  เรามองตะลีบันพวกนั้นต้อนแขกออกไปอีกที่หนึ่ง....”

“เดี๋ยวๆๆ ตะลีบันนี่มันผู้ก่อการร้ายเลบานอลนะ” เปเป้ถ่างมือขึ้นขัด  แต่ก็โดนมึลเลอร์ผู้ทำหน้าปลงๆ สะกิดเข้าที่ไหล่เข้า

“ปล่อยเค้าไปเถอะ  ต้องเข้าใจ หมอนี่โลกสวย  รู้จักอยู่แค่นั้นแหละ”

อ่อ อ๋อๆๆ” เปเป้พยักหน้าพร้อมกับเนย์มาร์ที่รับฟังไปด้วย ก่อนจะปล่อยให้ คนโลกสวย เล่าเรื่องต่อไป

“แขกที่วิ่งไปทั่วในโรงแรมโดนต้อนออกไปอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้มารวมอยู่ที่นี่เหมือนกับเราหรอกนะ  มานูเอลก็เลยพาฉันอ้อมออกมาอีกทางหนึ่งแต่ก็โชคไม่ดีเท่าไรที่ดันเจอผู้ร้ายพวกนั้นเข้า  แต่ไม่มีปัญหาเพราะมานูเอลจัดการซะเรียบเลย  ฉันก็เลยมานั่งคุยกับพวกนายอย่างปลอดภัยอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ” ชไวนี่ว่า หน้าชื่นตาบานพร้อมกับกอดคอนอยเออร์ซึ่งต้องลดไหล่ลงมาตามแขนที่เกี่ยว ของชไวนี่น้อยๆ 

“นายเจ๋งว่ะ” เนย์มาร์ว่า

“ฉันเป็นผู้ชายนะ ไม่ใช่ผู้หญิง” นอยเออร์ว่ากลับไปแบบสั้นๆ แต่มีความหมาย  ทำให้ชายหนุ่มที่เหลือในวงต้องรีบพิจารณาตัวเองโดยด่วนเลยว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่   เนย์มาร์สะบัดหัว

“โอ๊ย  เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันสักที  เราต้องไปเดี๋ยวนี้นะ....มานูเอลนายนำไปเลย  ตอนนี้เราขยับมาอยู่ท้ายๆ แล้ว  ถ้าจะไปล่ะก็ทางสะดวก.....ขอร้องเหอะ ฉันอยากเจอลีโอ  รู้สึกไม่ดีขึ้นมายังไงก็ไม่รู้แฮะ” เนย์มาร์พูดเสียงสุดจะทนกับความอัดอั้นที่เค้านั่งตบตีกับมันอยู่


.


.


.


TBC


------------------------------------------------------------------------------------------


อ๊ากกกกกกกกก  ออกไปตามตำรวจข้างนอกน่ะเรอะแล้วจะไปยังไงกันคะ  เฮียนอยเออร์ของเราคงจะรับศึกหนักเสียแล้วล่ะค่ะ  ถ้าพวกเค้าคิดจะไปกันจริงๆ ก็คงจะต้องออกแรงรักษาชีวิตลูกเสืออีกสี่คนที่ติดสอยห้อยตามฝากชะตากรรมกับเฮียไว้ ด้วยนะคะ  ฮาาาาาา  ออกไปทำให้ได้นะคะ แล้วพาตำรวจเข้ามาเคลียร์ //แต่คงไม่วิ่งกันไปจนถึงกรมตำรวจหรอกนุ 5555  ใครจะไปวิ่งตั้งหกสิบไมล์ -*- //

แล้ว  แล้ว!  แล้วเฮียกะเหมียวของเราล่ะคะ!!   อร๊ายยยยยยยยยยยยยย! >< ไรท์ล่ะเจ็บปวดหัวใจแทนเหมียวจริงๆ เลยค่ะ >{}<!!  ใยจึงทำกับเฮียของเหมียวแบบเน่ -----แกบอกให้ลูกน้องของแกถอยไปห่างๆ เดี๋ยวนี้เลยนะจาโร...รวมถึงแกด้วยแล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะ!! //ง้างมัด// + //สักพักไรท์โดนยิงแสกหน้า//

 เฮียขาาาา  ฟื้นขึ้นม๊าาา  ฟื้นขึ้นมาช่วยเหมียวก่อนนนน T^T  อย่าทำงั้นสิคะ  เหมียวร้องไห้จนหมดแรงแล้วววววว  เห็นไหมมมมมม >{}< //เขย่าคอเสื้อเฮีย//  แล้ว...แล้ว...แล้วมันจะทำอะไรเหมียวของเฮียไหมล่ะคะเนี่ย  ตื่นนนนนน!! //ตบหน้าเฮีย//

อ่าาาาา  เหล่าลูกเสือและนายกองนอยเออร์จะออกไปขอความช่วยเหลือได้หรือไม่  แล้วเฮียกับเหมียวที่เผชิญสถานการณ์ขั้นวิกฤตนั้นจะเป็นเช่นไร  ติดตามได้ใน Part หน้ากันเลยค่ะ ><  ง่าาาาา  ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอย่างที่แกคิดแน่จาโร......จำคำฉันเอาไว้! //เอานิ้วจ่อหน้า//

ร๊ากกกกก รีดนะค้าาาาา >3<

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund