วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 27] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



อร๊ายยยยยยยยย! สัวสดีค่ะรีดที่น่ารักทุกท่านนนน >//<  เรามาเฮียเหมียวกันอย่างต่อเนื่องไปเลยกันดีกว่านะคะ  (ได้ข่าวว่าไรท์หายไปนานอีกแล้ว ฮาาาาาา)  เพราะอีกเพียงแค่ไม่กี่ Part เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! ก็จะได้ปิดเรื่องลงจริงๆ แล้วค่ะ T^T  ไรท์ล่ะเศร้ามากๆ เลยล่ะค่ะ  ฮืออออออออออออ  สามร้อยกว่าหน้าอันแสนจะสนุกสนานของไรท์ //ตบหน้าตัวเองอย่างแรงแล้วเรียกสติกลับมา//   อันที่จริงไรท์จะลง Part นี้ตั้งแต่หลายวันที่แล้ว แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าไม่ว่างเลยค่ะ......ใช้คำว่ายุ่งไม่ได้ ต้อง “วุ่นวาย” เลยล่ะค่ะ TWT

ฮาาาา  จะปิดแล้วเราต้องฉลองสิคะ  ถือว่านี่คือก้าวหนึ่งของฟิค โรนัลโด้ x เมสซี่ของบล็อก Fan Fictions Hollywood (Thailand) แห่งนี้  และเป็นคู่ที่ไรท์เองก็ติดงอมแงมเลยค่ะ TUT 555555  มอบใจให้เฮียกะเหมียวเลยค่ะ......ไรท์ยอมมมมม  ยอมทุกอย่างงงงงง 555555

และเรื่องราวเลวร้ายต่างๆ ก็ผ่านพ้นกันไปแล้วค่ะสำหรับในเรื่องนี้  แต่เฮียกับเหมียวนี่สิคะ......ใครจะไปรู้เล่า  ว่าในระหว่างที่เกิดเรื่องราววุ่นวายกันอยู่นั้น พวกเค้าทั้งสองคนได้เกิดความรู้สึกบางอย่างให้แก่กันและกัน  ซึ่งพอเรื่องทุกอย่างสงบลงแล้วทั้งเฮียและเหมียวจะต้องแยกย้ายกันออกไปหาคนในสังคมของพวกเค้า

แล้วทีนี้ความรักที่ก่อตัวขึ้นล่ะคะจะทำยังไงกับมันดี!

ร่วมติดตามเรื่องราวพร้อมกับหาคำตอบไปกับ Part นี้เลยค่ะ  แอบกระซิบ.....มีซ็อตฮาค่ะ  และอาจจะดูใช้ภาษาวัยรุ่นไปนิสสสสส (เข้าค่ายเหมือนรุ่นพี่เฟี้ยวฯ) 555555  ไปอ่านกันเลยค่าาาา ><!!


--------------------------------------------------------------------------------------------


เมสซี่กลั้นหายใจ.........ที่แท้โรนัลโด้ก็อยู่ตรงหน้าเค้านี่เอง..........แล้วขาแข็งแรงของนักฟุตบอลมืออาชีพก็วิ่งออกไปหาชายที่ได้ช่วยเหลือเค้าเอาไว้ ซึ่งกำลังคุยกับหมออยู่  และเหมือนร่างสูงเองก็รู้  โรนัลโด้หันมาเจอเมสซี่ที่วิ่งผ่านผู้คนเข้ามาหาเค้า  ร่างสูงมีสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มออกมาโดยไม่มีสาเหตุ จนหมอที่ตรวจอยู่ข้างๆ ถึงกับงุนงงทันที

เมสซี่วิ่งมาถึงและเกาะข้างเตียงแพทย์สีขาวสะอาด  เค้ากำลังอ้าปากถามตามความห่วงใยแต่ก็โดยอีกคนหนึ่งชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“วิ่งแบบนั้นคุณไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ” โรนัลโด้ยิ้ม......เค้าไม่เคยปราศจากรอยยิ้มเลยเมื่ออยู่กับร่างเล็กๆ ที่เพิ่งวิ่งมาถึงตรงหน้า

เมสซี่ทำหน้าเหมือนจะเถียงกลับว่า “แล้วคุณล่ะไม่เป็นอะไรรึไง ยิ้มแบบนั้นน่ะ” แต่ก็ต้องคิดใหม่เมื่อเห็นหมอตรวจอาการของโรนัลโด้มองมาที่ตัวเอง

“เอ่อ....ไม่ครับ  ผมไม่เป็นอะไรแล้วคุณล่ะเป็นอะไรบ้างรึเปล่า” น้ำเสียงร่างเล็กดูประหม่าอย่างที่ไม่ควรจะเป็น  แต่นั้นก็เป็นเพราะเค้าอายหมอต่างหากล่ะ

“ผมไม่เป็นไร ผมโอเค...แค่พกช้ำนิดหน่อย  ใช่ไหมครับหมอ?” ร่างสูงว่า ก่อนจะหันไปหาหมอที่ถอดเครื่องช่วยฟังเสียงหัวใจออก แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก

“คุณไม่มีบาดแผลอะไรร้ายแรงนอกจากแผลที่หัวไหล่ขวาลึกไม่ถึงครึ่งนิ้วที่ผมได้เย็บไปแล้ว  ลำตัวคุณพกช้ำจากการโดนซ้อม.....และคุณโรนัลโด้กระดูกคุณเกือบร้าวและกล้ามเนื้อเกือบฉีกขาด  นั่นผมไม่เรียกว่านิดหน่อย” คนเป็นหมอที่ดูแลรักษาชีวิตคนไข้มาทั้งชีวิตไม่ชอบการที่คนไข้ของเค้าบิดเบือนความเป็นจริงนัก แล้วทำเหมือนมันไม่ได้สำคัญอะไร

ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงเดี่ยวเคลื่อนที่ได้ยิ้มแฮ่ๆ ใส่  ก่อนแพทย์สนามวัยทองจะขอตัวออกไปทำหน้าที่แก่คนอื่นบ้าง

“ผมทำแผล  ให้ยาฆ่าเชื้อ  แก้ปวด  แก้พกช้ำ  และทำทุกอย่างที่ทำให้ได้ในตอนนี้ไปแล้ว....ผมขอตัวก่อนนะครับ  เดี๋ยวบุรุษพยาบาลจะพาคุณตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลเอง”

“ขอบคุณครับหมอ” ร่างสูงเอ่ยอย่างนอบน้อม  แล้วหันไปยิ้มทะเล้นกับเมสซี่เมื่อคนแก่เดินออกไป  ร่างเล็กยิ้มตามอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็พูดใส่ร่างสูงแบบปรามๆ

“ให้ตายสิ  ผมจะบอกหมอว่าคุณล้อเลียนเค้า”

“ก็ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นี่นา  คุณก็รู้ว่าหมอชอบเว่อร์จัดในเรื่องพวกนี้” โรนัลโด้ไหวไหล่  ท่าทางเค้าดูเหมือนไม่ได้เพิ่งผ่านเหตุการณ์แย่ๆ มาเลย

“ก็เค้าเป็นหมอ....” เมสซี่ทำตาโต ราวกับจะบอกว่า ก็นั่นมันเรื่องจริงนี่

“คริส! เฮ้ ลูกเพ่!  โอ้ ให้ตายเหอะฉันเป็นห่วงนายแทบแย่” แต่แล้วเสียงของเปเป้ที่เพิ่งจะหาทั้งคู่เจอก็ดังขึ้น  พร้อมทั้งเจ้าตัวที่วิ่งแซงหน้าคนอื่นๆ มาได้ ส่วนคนที่เหลือก็ตามมาติดๆ

มึลเลอร์  ชไวนี่  นอยเออร์  และเนย์มาร์ก็หน้าตาตื่นเช่นเดียวกันแต่ทว่ากลับช็อคซีนีม่าไปเลย เมื่อเห็นเสื้อที่เปรอะเต็มไปด้วยเลือดของโรนัลโด้  แต่ก็ได้รับการอธิบายไปแล้วในเรื่องนั้นพร้อมทั้งเจ้าตัวยังบอกอีกด้วยว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

..........ชายหนุ่มสายเลือดนักฟุตบอลทั้งเจ็ดคนพูดคุยกันด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายและเป็นมิตรต่อกันและกันจนพวกเค้าเองก็ไม่ทันได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ   จนนักข่าวที่วิ่งรี่มาที่โรงแรมดังเพื่อทำข่าวต้องขอแชะภาพแห่งประวัติศาสตร์นั้นไว้เป็นที่ระลึกแก่วงการฟุตบอลเสียหน่อยด้วยความงุนงงของสื่อมวลชนอย่างพวกเค้าเอง  เกิดมาไม่เคยทำข่าวที่เหนือความคาดหมายขนาดนี้มาก่อนเลย

...........จู่ๆ ชายเจ็ดคนจากสามทีมชาติ  สามสโมสรจะมายืนคุยกันเหมือนเพื่อนสมัยไฮสคลูแบบนี้  เป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ แล้วยิ่งภาพที่น่าจับตามองที่สุดก็ดูจะเป็นคู่แค้นที่ปีนเกลียวกันมานานอย่างโรนัลโด้และเมสซี่  ผู้ที่น่าจะอยู่ห่างกันมากที่สุด กลับใกล้ชิดกันและแถมยังยิ้มให้กัน  พูดคุยทำตัวสนิทสนมอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ เลยอีกด้วย  สิ่งนั้นได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้สื่อข่าวเป็นอันมาก

และแน่นอน  การทำอาชีพนักข่าวก็หมายถึงการทำให้วงสนทนาที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่นแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ  ฝูงนักข่าวกีฬาและเหตุฉุกเฉินที่ทำตัวอนึ่งเป็นนักข่าวกอสซิปกำลังจะแห่กันเบียดเสียดไปจ่อไมค์สัมภาษณ์กลุ่มนักฟุตบอลดังกล่าว  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าใกล้พวกเค้าเหล่านั้น ก็ถูกตำรวจกันพื้นที่ออกไปเสียแล้ว เพราะฝ่ายตำรวจเองก็บอกว่าผู้เพิ่งประสบเหตุต้องการณ์เวลาพักผ่อนและความเป็นส่วนตัว  พวกนักข่าวจึงต้องแห้วคอตกกันไปตามๆ กัน

ส่วนชายหนุ่มทั้งหมดก็ดูจะมุ่งความสนใจไปที่คนซึ่งดูสะบักสะบอมมากที่สุด  แม้เจ้าตัวจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแข็งแรงดีแล้วก็ตาม  แต่จะไม่เป็นห่วงอะไรก็ไม่ได้เลยเพราะโรนัลโด้เลือดเต็มเสื้อไปหมด

“พระเจ้า  งั้นก็หาเสื้อใหม่ให้ฉันใส่เถอะ ถ้าพวกนายจะตัดสินจากเสื้อที่ฉันใส่กันอยู่แบบนี้....” ร่างสูงร่ำร้องอยากเปลี่ยนเสื้อ  ว่าแล้วก็เปลื้องเสื้อตัวเองออกเสียตรงนั้นเลย  ทำเอาคนที่เหลือส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ในความใจร้อนของร่างสูง  ยกเว้นซะแต่คนที่รู้ๆ กันอยู่ว่าต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นเพราะ.........

“ลีโอ ไม่สบายเหรอ  หน้าแดงเชียว”

“มะ ไม่เป็นไรหรอกฮะ  คือผม....ผมไปหาเสื้อมาให้เค้าก่อนดีกว่า  ดะ เดี๋ยวผมมานะครับ”

“อ้าว  ไปแล้ว.....ลีโอ ลีโอ! นั่นไม่หันกลับมาด้วย จะไปไหนของเค้าอีกนะ  เดี๋ยวก็หายไปอีกหรอก.......อะไร  ยิ้มอะไรของนาย  โชว์พุงแล้วมีความสุขรึไง?”

เนย์มาร์โบกมือตามเมสซี่ไปแต่ก็ยังสงสัยไม่หายกับการทำตัวแปลกๆ ของเจ้าตัว  ถึงมันจะดูน่ารักดีก็เถอะ  แต่พอหันมาเจอหนุ่มสุดแกร่งแถมยังเซ็กซี่ที่ส่งยิ้มตามหลังร่างเล็กของเค้าไป เนย์มาร์ก็ถึงกับอดแสดงอาการหวงออกมาอย่างเสียไม่ได้ (ช่างเหน็บสวนกับความเป็นจริง)

 โรนัลโด้เพียงแต่ส่ายหน้าตอบไปช้าๆ เท่านั้น  แต่รอยยิ้มก็ยังคงเคลือบอยู่บนเรียวปากของร่างสูง

..........ลีโอของเค้าน่ารักเสมอนั่นแหละ...........

และไม่นานร่างเล็กก็กลับมาพร้อมกับชุดแขกสำรองของทางโรงแรมที่มีจัดไว้ให้เป็นพิเศษ  ทางพนักงานเห็นว่าเป็นลีโอเนล   เมสซี่จึงหาชุดที่ดีที่สุดมาให้  ร่างเล็กมีเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่เอี่ยมและเสื้อนอกสีดำขลับตัดกันอย่างที่นิยมใส่กันบ่อยๆ มาให้โรนัลโด้  และตัวเค้าเองก็ได้เสื้อนอกใหม่มาอีกหนึ่งตัว  เมื่อพนักงานโรงแรมอ้างว่าอากาศค่อนข้างหนาว  เค้าไม่ควรเดินไปมาด้วยเสื้อเชิ้ตตัวบางๆ

เมสซี่ยอมรับมาแต่โดยดี  และรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างที่พนักงานคนนั้นว่า  ร่างเล็กๆ วิ่งหลุนๆ กลับมาพร้อมกับส่งเสื้อให้ร่างสูงที่ถอดเสื้อรอเค้าอยู่อย่างเนียมอาย  ในระหว่างที่โรนัลโด้สวมเสื้ออยู่นั้น  เพื่อนๆ ก็ถามถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญกับเมสซี่

ร่างเล็กตอบไปตามตรงว่าโรนัลโด้เป็นคนช่วยเค้าไว้  และเค้าคงจะแย่เอาแน่ๆ ถ้าร่างสูงไม่ได้ช่วยเค้าไว้   และเมสซี่ยังย้ำอีกด้วยว่าโรนัลโด้เก่งเอามากๆ

ส่วนร่างสูงที่อยู่นอกเหนือความสนใจในขณะนั้นก็เหล่ตามองร่างเล็กที่ตั้งหน้าตั้งตาพูดถึงเรื่องของตน  พร้อมทั้งยกยิ้มขึ้นมาอย่างนึกเอ็นดู  บางครั้งเค้าก็สงสัยว่าเมสซี่เคยโกหกใครเป็นบ้างหรือเปล่านะ  แต่หลังจากที่ดูๆ แล้วก็คงจะไม่เคยมีเล่ห์เลี่ยมอะไรกับใครเลยเป็นแน่.......ซึ่งต่างจากเค้าโดยสิ้นเชิงเลย

เมสซี่เล่าเรื่องเพียงคราวๆ แต่ไม่ได้เล่าแบบลงรายละเอียดอะไรมากนัก  และอึดใจต่อมาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงแพทย์ก็อยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการเรียร้อย  ดูราวกับว่าเพิ่งเดินทางมาถึงและไม่ได้เจอเรื่องร้ายอะไรเลย

ว้าว  ถึงจะบอกว่าโดนซ้อมมาก็ตาม แต่นายก็ยังดูดีได้อีกนะ” เปเป้กล่าว แอบอิจฉาเล็กๆ ไม่ได้ที่เค้าดูดีแบบเทียบรัศมีไม่ติดเลย......แต่ก็นะ เรื่องหนุ่มฮอตต้องยกให้เพื่อนคนนี้ไปเลย

โรนัลโด้ยิ้มน้อยๆ แล้วทำท่าจะลุกออกจากเตียงเคลื่อนที่  แต่ก็โดนดันเอาไว้เสียก่อน  ร่างสูงมองมือขาวที่ทาบอยู่บนอกของเค้าแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“คุณจะไปไหน.....ผมว่าคุณน่าจะรออยู่นี่จนกว่าพวกเค้าจะพาคุณไปโรงพยาบาลดีกว่านะ” คนพูดมีสีหน้าเป็นห่วง  โรนัลโด้ยิ้มอีกแล้วจับมือน้อยๆ นั้นออกมาอย่างนุ่มนวล  เนย์มาร์คิ้วกระตุกในขณะที่เปเป้กับนอยเออร์สนทนาอยู่ข้างหูเค้า

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ไม่เจ็บแล้ว  หมอดูแลผมแล้ว  และอีกอย่างผมไม่ได้โดนยิงเสียหน่อย” โรนัลโด้หันมาพูดกับเมสซี่โดยที่ยังไม่ได้ปล่อยมือของร่างเล็ก  คนที่ได้รับคำตอบก็อมยิ้มมองพื้นตามนิสัย  แต่แล้วสายตาคมของร่างสูงก็ลดต่ำลงไปเห็นไทด์ที่ยังหลุดลุ้ยอยู่ของเมสซี่

พอคิดถึงหน้าคนที่ปลดไทด์นี้ให้เมสซี่ โรนัลโด้ก็มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที.......ก่อนเค้าจะปัดเรื่องน่ารำคาญใจนั่นทิ้งไปซะ เพราะไม่อยากให้เมสซี่ต้องถาม กลัวจะไปกระทบถึงเรื่องร้ายๆ ที่เจ้าตัวไม่อยากจำเข้า  ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทอย่างเป็นทางการท่าทางดูเหมือนไม่ใช่คนบาดเจ็บอะไร ใช้สองมือผูกไทด์ใหม่ให้กับร่างเล็กอย่างตั้งใจ

ร่างสูงดูเชี่ยวชาญและมีสมาธิ  เพราะใส่ใจที่จะทำให้ร่างเล็กที่ยืนทำตากลมๆ อย่างเป็นที่สุด  ทั้งสองเหมือนเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวอีกครั้ง  ผิดก็แค่ครั้งนี้ที่เนย์มาร์ซึ่งหน้าเหวอเพราะความหวงแบบตีกลับ  ผลักหน้าเปเป้ออกไปให้พ้นทางแล้วสาวเท้าก้าวไปหาบุคคลทั้งสองอย่างรวดเร็ว  ร่างสูงผิวสีเข้มหน้ามุ้ยอย่างเห็นได้ชัดบอกอาการที่ไม่ใคร่จะสบอารมณ์นัก

เนย์มาร์ตรงเข้าไปหาเมสซี่ที่ทำหน้าหวั่นๆ เมื่อเค้าเดินมาถึง และโรนัลโด้ที่ยังคงไม่สนใจการมาของเค้า  เนย์มาร์ตีมือโรนัลโด้อย่างแรงแต่โชคดีที่ร่างสูงผูกเสร็จแล้ว

เพี๊ยะ!

แก...ใครอนุญาต!” เนย์มาร์ขบเขี้ยว  ดูเหมือนพ่อตาหวงลูกสาว(?)  โรนัลโด้ก็เหมือนลูกเขยที่ทำหน้าเหรอหราประมาณว่า ผมทำไรผิด.......ร่างสูงอ้าปากน้อยๆ มองหน้าเนย์มาร์ที่ทำหน้าเป็นยักษ์ใส่  และเปเป้ก็เดินมาอีก

ผั๊วะ!

ควาย.....เค้านิสัยดี!” เดินเข้ามาประเคนฝ่ามือลงกลางหัวพร้อมคำไขข้อสงสัยให้กระจ่างใจถึงกลางกระหม่อม  จนเนย์มาร์ที่เป็นคนโดนแจ็คพ็อตหัวเบี้ยว

“เพื่อนฉันจะทำอะไรบ้างไม่ได้เลยใช่ไหมห๊ะ?ต้องเป็นคนไม่ดีตลอด” เปเป้ทำหน้าข้องใส่  พร้อมสะใจนิดๆ อย่างเก็บอาการ  เนย์มาร์เอียงหัวหันมาเบี้ยวอีกข้างใส่เปเป้อย่างหาเรื่อง

“เรื่องของแกไหม?!

“เอ่อ...พี่เนย์ ผมว่า....” เมสซี่ซึ่งร่างเล็กสุดในวง ทำหน้าหวั่นๆ พลางกระตุกแขนเสื้อเนย์มาร์ไปมา  ในขณะที่เปเป้พยายามพองตัว

“แกยุ่ง  ฉันก็ยุ่งโว้ย.....สองคนนั้นเค้าจะคุยกันอย่าไปจุ้น” ชายผมทรงสกินเฮดจัดไปดอกใหญ่  เนย์มาร์หัวเอียงอีกสองเท่า

อ่อนี่...แกว่าฉันเสือกใช่ไหม”

“ควายอีกแหละ” เปเป้เกาหัว  ตอนนี้เมสซี่ไม่ได้ดึงแขนเสื้อเนย์มาร์แล้วแต่ถอยออกไปอยู่ใกล้ๆ โรนัลโด้ที่นั่งยิ้มอย่างสนุกสนามแทน  ร่างเล็กกระซิบโดยไม่ละสายตาไปจากคู่กรณีที่กำลังสาดคำพูดใส่กันอยู่อย่างดุเดือด

“ผมว่าพวกเค้าดูไม่ดีเลยนะ”

แต่โรนัลโด้เกือบหลุดหัวเราะ “ผมว่าเค้าดูสนิทกันดีออก”

“เอาจริงๆ?” ร่างเล็กชายตามองร่างสูงผู้ที่สนุก เสมือนได้ดูเกมโชว์หน้าทีวีอยู่ อย่างขุ่นๆ

หา...โอ้ ไม่  ไม่หรอก ดูสิเค้าพูดถึงแม่ของกันและกันด้วยล่ะ.....อ๋อ คุณไม่ได้ยินสินะเมื่อกี้นี้น่ะ  แต่ก็ดีแล้วล่ะ บางทีคำพูดพวกนี้ก็เข้าใจยากนะผมรู้  แต่คุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้มันหรอกคำพูดของคนล้าหลังน่ะ” ร่างสูงที่นั่งห้อยข้างอยู่บนเตียงแพทย์พูดอย่างกระตือรือร้น โดยที่ไม่ได้ละสายตาไปจากเพื่อนของเค้าที่กำลังลงไม้ลงมือกันอยู่เลย  แต่สุดท้ายก็หันมาพูดกับเมสซี่โดยตรงด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะจัดเจน

เนย์มาร์กับเปเป้ยังเถียงกันต่อ

“.....พ่อนายสิขายถั่ว! สมองนายถึงได้ถั่วน่ะ”

โอ้ ลีโอ  เค้าพูดถึงพ่อกันด้วยล่ะ...โอ๊ะ ไม่เอาไม่ต้องฟังหรอก” โรนัลโด้ที่งอหลัง ใช้ข้อศอกท้าวกับหัวเข่า  กัดเล็บอย่างตื่นเต้น  ก่อนจะเอามือออก ชี้ให้ร่างเล็กดูประกอบไปด้วย  แต่แล้วก็เพิ่งจะนึกได้จึงเอามือปิดหูทั้งสองของเมสซี่ไว้จนอีกคนหนึ่งหัวโยก

ร่างเล็กเอียงหัวจนเกือบจะหงายมาซบกับอกกว้าง  ดวงตากลมใสราวกับลูกแก้วเหลือบมองขึ้นไปอย่างสงสัยแต่ร่างสูงที่ปิดหูเค้าอยู่กำลังสนุก  โรนัลโด้ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว.......เค้าไม่คิดว่าทั้งสองคนจะทะเลาะกันจริงๆ จังๆ หรอก  ถ้าจะลงไม้ลงมือจริงจนถึงขั้นมีเรื่องกันล่ะก็คงทำไปนานแล้ว  และนานแล้วทีเดียวที่เปเป้ไม่ได้หาเรื่องคนอื่น ให้เค้าได้หัวเราะอย่างนี้

............ใช่  เรื่องสบประมาทด่าคนอื่น เปเป้ถนัดนักล่ะ.........

ส่วนร่างเล็กก็รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย  เพราะไม่เคยเห็นเนย์มาร์ขึ้นเสียงกับใครได้นานขนาดนี้มาก่อน........จะตีกันรึเปล่านะ

“ฉันจะตบแกให้กบาลแยกเลย!

“อะไรนะ  แกตดก่อนนอนทุกวันเลยเหรอออ”

“ไอ้หัวปลาไหลลล!” เนย์มาร์ชูกำปั้นขึ้น  เมื่อเปเป้ทำหน้าล้อเลียนใส่เค้า  ก่อนจะได้ทำอะไรคู่กรณีก็วิ่งฉิวออกไปเพื่อซ่อนตัวเสียแล้ว  เนย์มาร์วิ่งตามพร้อมคำด่าทอ

“โอ้ พระเจ้า....เนย์มาร์ พี่อย่าทำเค้านะ!” ร่างเล็กตกใจ  ตะโกนออกไปอย่างเป็นห่วงเพราะว่าที่นี่มีนักข่าวเดินกันเพ่นพ่านไปหมด  ถ้าได้ลงข่าวแย่ๆ ล่ะก็ได้มีผลต่อแมทช์การแข่งขันแน่ๆ เลย  เมสซี่ทำท่าจะวิ่งไปห้ามแต่ก็โดนล็อคเอวไว้

ร่างเล็กหันไปมองคนที่ยิ้มกริ่มให้เค้าอย่างไม่เข้าใจ  โรนัลโด้เอ่ย

“ปล่อยเค้าไปเถอะ.....หมอบอกผมว่าเค้าสองคนกับสามคนนั้นเสี่ยงวิ่งออกไปตามตำรวจข้างนอกนั่นด้วยกันชียวนะ  ผมว่าเค้าสามัคคีกันเกินกว่าจะมาแตกหักกันด้วยเหตุผลไร้สาระนะ” ร่างสูงเอ่ยเสียงฟังดูเหมือนผู้ใหญ่  เมสซี่อุทานออกมาเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อหู  แล้วก็ได้รับคำยืนยันจากสามหนุ่มเยอรมันซึ่งยืนกุมท้องแข็งๆ อยู่ตรงนั้น

แต่แล้วบุรุษใส่ชุดขาวสะอาดคนหนึ่งก็เดินเข้ามา  จับเหล็กของเตียงแพทย์แล้วพูดสำเนียงแปลกๆ เพราะเค้าเป็นคนบราซิลแท้และไม่แข็งอังกฤษ

“ขอโทษครับ  เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกันแล้ว....กรุณานอนให้เรียบร้อยด้วยครับ” พร้อมกันกับบุรุษพยาบาลอีกคนหนึ่งที่ขึ้นไปรอดึงเตียงอยู่บนรถ  ชายหนุ่มนักฟุตบอลหยุดคุยกันชั่วขณะ  ก่อนที่นอยเออร์จะจับไหล่ของเมสซี่ให้ถอยออกมาเล็กๆ พร้อมกับมึลเลอร์และชไวนี่ เพื่อให้บุรุษพยาบาลได้ทำหน้าที่อย่างคล่องตัว

ร่างเล็กเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นราวกับอ้างว้าง ทันทีที่โดนนอยเออร์แตะไหล่  เมสซี่พยายามทำในสิ่งที่เรียกว่ายิ้มให้แก่โรนัลโด้เพื่อให้กำลังใจกับร่างสูง  แต่คนที่ได้รับมันกลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นยิ้มที่แสนเศร้าเสียจริง  เมสซี่ตบบ่าซ้ายโรนัลโด้เบาๆ ก่อนจะถอยออกไปตามการชักนำของนอยเออร์

โรนัลโด้เผลอยิ้มเศร้าตอบ.......เค้าเองก็ไม่อยากอยู่ห่างจากอีกคนหนึ่งเช่นกัน  ราวกับว่าเค้าได้ผูกเยื้อใยแห่งสัมพันธ์ไว้กับร่างเล็กไปเสียแล้ว.........บุรุษพยาบาลทั้งสองยกเตียงแพทย์ขึ้นไปบนรถ โดยที่ร่างสูงเองก็ไม่ได้นอนอย่างที่ได้โดนขอร้องไว้แต่อย่างใด   โรนัลโด้นั่งมองเมสซี่ที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าวบนรถพยาบาล


.


.


.


TBC.


----------------------------------------------------------------------------------------------------


555555555555  เฮียเนย์กะเปเป้เลิกกัดกันก่อนได้ไหมคะ >m < ดีใจที่เฮียโด้กะเหมียวปลอดภัยหน่อยสิคะ  อุ๊บ! คริๆๆๆ  ไรท์คิดว่ามันออกแนวรุ่นพี่เฟี้ยวมากเลยค่ะ ><  บางคำนะคะ.....มันค่อนข้างใช่ 55555 ต้องขออภัยสำหรับท่านที่มิชอบคำหยาบโลนสมัยพ่อขุนรามคำแหงด้วยนะคะ M_ _M

อูยยยย เจอสองคนนี้แล้วไรท์อดฮาไม่ได้เลยค่ะ >..<  5555   แต่ที่น่าปรบมือและดีใจด้วยสุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นคู่พระ – นาย ของเราค่ะ >//<!  อร๊ายยยยยย  เฮียผูกไทด์ให้เหมียวด้วยยยยยยย >////<  แล้วเฮียเนย์ก้.......เพี๊ยะ! 555555! //ยังไม่จบ//  แหม่ เฮียเนย์ขาาาา  เกาะเห็นๆ กันอยู่ว่าเหมียวเค้าจิตใจโอนอ่อนไปหาใครมากที่สุด  //ซักพักไรท์โดนบีบคอ//

อ๊อก! อ๊ายยย เอีย...ย...เฮียเนย์ ดะ เดี๋ยวก่อน! อุก แค็กๆๆๆ >{}<  พอก่อนค่ะ  เดี๋ยวให้ไรท์สั่งเสีย เอ้ย! Talk กับรีดๆ จบก่อนนะคะ //เฮียเนย์บอก ได้ เดี๋ยวแกได้ตายสมใจแน่// 

คอมเม้นท์ Part นี้ให้ไรท์กันหน่อยนะคะ ><  และอย่าลืมติดตาม Part ต่อไปนะเออ  รักรีดๆ ทุกท่านค่ะ >//<  และแปะเฟส เอาไว้ให้รีดเข้าไปพูดคุยและร่วมกิจกรรมกับไรท์ได้ค่ะ ที่

>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< มาร่วมกิจกรรม (ในยามที่มี) กันเยอะๆ นะค้าาาา ^3^ 

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



5 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

สิ่งที่คริสเตียโน่คิดในใจนี่เราเกือบจะขำก๊ากเลยล่ะค่ะ ที่ว่า ลีโอไม่มีเล่ห์เหลี่ยมไม่เหมือนคริส ...แหมๆ ก็รู้อยู่แก่ใจนะพ่อคุณ ว่าตัวเองน่ะเจ้าเล่ห์แค่ไหน >///<

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เหมือนกับ คริสจะรู้จักตัวจริงของลีโอมากขึ้น และลีโอก็รู้จักตัวจริงคริสมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับอนาคตจริงจริ๊ง (อนาคตที่จะมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ^^) แต่ก็แอบขำเนย์มาร์อีกไม่ๆด้ เหมือนพ่อตาหวงลูกสาวจริงๆด้วยล่ะค่ะ แต่อยากบอกว่า เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เถอะ เนย์มาร์ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปเสีย ไม่มีอะไรจริงๆๆ :P

กลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้เหมือนกลับไปไฮสคูลอีกครั้ง แต่ก็เป็นภาพนี่เราว่าน่าประทับใจเสียนี่กระไร ดีเหมือนกันนะ ฮ่าา

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

ควายอีกแหละ555ทะเลาะกันได้ฮามาก
เหมียวก็น่าร๊ากกกกก

มิลค์ กล่าวว่า...

พาร์ทนี้ขำน้องเนย์แรงมากค่ะ 55555 มีไปตีมือพี่โด้ด้วย ทะเลาะกับเป้ก็ตลก วินสุดค่ะพาร์ทนี้ 5555 เหมียวนี่ก็ใสซื่อสุดพลังจริงๆ ไม่แปลกใจค่ะ ที่พี่โด้ทั้งรักทั้งหลง >///<

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขำพี่เป้ "ควาย เค้านิสัยดี" 555555555555
น่ารักมากเลยอะ เฮียคะ จะจีบก็รีบจีบ ชอบก็บอกตรงๅ เหมียวเค้าใสซื่อ ไม่ทันเฮียหรอก 55555