วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 28] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec




ฮ่อลลลล กลับมาแล้วค่ะรีดดด ><! ก่อนอื่นต้องขออภัยอย่างสู๊งงเลยค่ะที่แบบว่า....MaLec จบแล้วเหรอ?  แว๊ยๆๆ ยังไม่จบนะคะ  ยังค้าาาา  5555  //หัวเราะแห้งๆ// + //สักพักโดนรีดตบ//  คือว่าไรท์ช่วงนี้มึนมากเลยค่ะ และก็มีเรื่องแย่ๆ เข้ามาอีกค่ะ  โอยยยย อยากจะเอาหัวโขกขอบประตูตายให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยค่ะรีดขาาาา //รีดบีบคอแล้วเขย่า...แกมาลงฟิคให้ฉันให้หมดก่อนสิยะ แล้วค่อยตายได้//

เอื้ออออ  โอเคค่ะรีดขา เรากลับมาต่อใน Part ปัจจุบันของเรากันนะคะ  ต่อเนื่องจาก MaLec Part 27 เลยค่ะ  ซึ่งก็อย่ากระไรเลยค่ะ ไรท์นี่พิรี่พิไรมาก  เราไปอ่านกันเลยดีกว่าค่าาา  แม็กนัสมาช่วยอเล็คแล้วววววว

ในที่สุด อเล็คของเราก็ได้รับความรักเสียทีค่ะ TUT //กระซิกๆ//



----------------------------------------------------------------------------------------------



และทันทีที่รู้ว่าเป็นแม็กนัสจริงๆ  ร่างบางก็ถึงกับถลากลับเข้าไปกอดเพื่อนร่างสูงทันที  ในคราแรกอเล็คหลงคิดไปว่าเค้าอาจเห็นภาพหลอนไปเอง เพราะต้องการอยากจะเจอแม็กนัสเป็นอย่างมาก  แต่พอได้รับสัมผัสที่อบอุ่น พร้อมทั้งคำปลอบโยนที่คุ้นเคยกลับมา  ร่างบางก็ยิ่งแน่ใจ  แล้วซุกหน้าเข้าไปหาอกอุ่นอันแข็งแรงของแม็กนัสมากเข้าไปอีก

ร่างสูงสะโอดสะองถอดแจ็คแก็ตแล้วห่มคลุมให้อเล็ค

เจซที่จกกระเป๋าเสื้อกั๊กมีฮู้ดอยู่ก็เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ  “ฉันเองก็มานะ  อย่าเอาดีคนเดียวสิ” ร่างสูงผมบล์อนว่า ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยไปที่มิคาเอลหลังจากมองดูหน้าจอที่เรียงรายอยู่เต็มกำแพงห้องของบุคคลที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นอย่างมีสีหน้ารังเกียจ  ก่อนเจซจะทำหน้าเอะใจ “เฮ้  ฉันเคยเห็นหน้าหมอนี่นะ....เอ่อ  แบบว่าในตอนที่เลือดไม่กบหน้าแบบนี้น่ะ”

แม็กนัสที่โอบกอดเพื่อนตัวน้อยราวกับว่าถ้าหากปล่อยไปแล้วอีกคนหนึ่งจะหายไป ก็เงยหน้าขึ้นมาหาเจซแล้วตั้งคำถามทางสีหน้าใส่  ร่างสูงผิวสีแทนไม่ต้องการเอ่ยอะไรมากนักเพราะต้องการให้อเล็ครู้สึกว่าเค้าให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งใด

แต่เจซน่ะให้อยู่นอกเหนือความสำคัญน่ะดีแล้ว  ร่างสูงผมบล์อนที่ไม่รู้ตัวว่าไม่ได้รับการให้ความสำคัญก็พูดต่อไปโดยที่มีร่างสูงผิวสีแทนสะโอดสะอง ตั้งหน้าตั้งตาฟังอยู่บนเตียง

เจซนั่งยองๆ ดูใบหน้าเปื้อนเลือดของมิคาเอล “มิค...มิคาเอล   ควอส์” ร่างสูงโปร่งที่แต่งตัวเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือโรแมนติกแฟนตาซี เอ่ยอย่างไม่แน่ใจนัก  แต่ทว่าเค้าก็พูดถูก

“ใครนะ?” แม็กนัสทวน

มิคาเอล   ควอส์  ฉันเคยเห็นรูปหมอนี่จากเพื่อนของยัยน้องสาวจอมเหวี่ยงของฉันเอง  เอิ่ม ไซม่อนมั้ง  ใช่ ไซม่อน เจ้าแว่นหางหนูของคลารี่ เอารูปนี้มาอวดฉันตอนเค้าที่ไปปาร์ตี้ของพวกที่ชอบทำตัวลึกลับในแมนฮัตตัน  เจ้าแว่นนั่นเอาแต่พูดถึงเรื่องที่ฉันไม่รู้เรื่องแล้วก็บอกว่าเจ้านี่...” เจซลุกขึ้นมาแล้ว  และใช้เท้าชี้ไปที่มิคาเอล

“...เป็นแฮคเกอร์ระดับพระกาฬ  รายได้บางทีเดือนละเป็นแสนจากการรับงานใต้ดินของพวกนอกกฏหมาย  และก็ไม่ชอบทำตัวสุงสิงกับใคร  ขนาดเจ้าไซม่อนที่ว่าคลั่งจัดชวนคุยด้วย ไอ้หมอนี่มันยังไม่ยอมพูดอะไรเลย”

แม็กนัสขมวดคิ้วแน่น มองใบหน้าที่ยังคงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ของเจ้าของห้องแห่งนี้  แล้วสังเกตเห็นสีหน้าเจ็บใจของเจซ

“มิน่าล่ะ  ทำตัวลึกลับขนาดนั้น แถมหน้าจริงยังชั่วขนาดผีห่ามาโปรดขนาดนี้....ไอ้หมอนี่มันถึงได้ตบตาฉันซะสนิทไปเลย  ผับผ่าสิบังอาจมาใช้แค่แว่นหนาๆ หลอกฉันยังงั้นเหรอมันจะมากเกินไปแล้วไอ้มนุษย์คอมนี่!”ร่างสูงที่อายุยังน้อยเมื่อเทียบกับการกระทำนั้นทำหัวฟัดหัวเหวี่ยง  รู้สึกโมโหไม่น้อยที่ปล่อยให้มิคาเอลเข้าใกล้และวนเวียนอยู่รอบตัวของอเล็คมาเป็นเวลานาน  จนกระทั่งเพื่อนร่างบางที่เค้ารักต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เข้า

บ้าบอที่สุด!

แม็กนัสจึงออกความคิดเห็นขึ้นบ้าง “ฉันว่าหมอนี่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น  เพราะฉันไม่คิดว่าจะเป็นได้ถึงขนาดนี้....” เค้าเอ่ยถึงความคลั่งไคล่ของมิคาเอล  ในขณะที่เจซเดินเข้ามาดูอเล็คบ้างในที่สุด  เด็กหนุ่มผมบล์อนแย่งอเล็คมากอดแล้วลูบศีรษะร่างที่ยังไม่หายเสียขวัญเบาๆ

แม็กนัสมองตาม รู้สึกขัดใจอย่างเสียไม่ได้ 

“อย่าทำหน้างั้นสิพวก....นายเองก็ต้องขอบคุณหูของฉันนะที่สัมผัสไวสุดยอดไปเลยน่ะ  ไม่งั้นถ้านายพรวดพราดออกไป ป่านนี้อเล็คจะเป็นอย่างไงบ้างแล้วก็ไม่รู้”

เจซว่า  ดูเหมือนตัวเองเป็นพระเอก   ใช่ เป็นเพราะตอนที่ขึ้นมาถึงห้องอเล็คแล้วใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปพบกับความว่างเปล่า  หัวใจของเค้าทั้งสองก็ร้อนรนทันที  คิดตงิดในใจตั้งแต่เจอผู้ชายหน้าโหดสามคนเฝ้าทางเข้าอาร์พาร์ทเมนท์อยู่แล้ว  แม็กนัสกำลังจะเดินไปด้านนอกเพื่อหาในบริเวณอื่นเป็นเวลาเดียวกับที่เจซได้ยินเสียงดังเอะอะมาจากห้องของมิคาเอลในตอนที่อเล็คกำลังขัดขืนเข้าพอดี

“ฉันต้องขอบคุณนายสินะ” แม็กนัสว่าประชด  ก่อนจะประชดอีก “ซูเปอร์แมน

“รู้ตัวหนิ” เจซยิ้มอย่างรู้สึกสาแก่ใจ  เมื่อแม็กนัสเอ่ยยกย่อง ถึงแม้ว่าจะดูไม่จริงใจนัก  แต่ร่างสูงผมบล์อนก็พอใจแล้วกับคนที่เค้าเพิ่งทำใจหลีกทางให้

ถ้าหากอเล็คไม่ได้รักแม็กนัสมากกว่าที่เค้ารักอเล็ค  มีหวังเค้าได้สั่งเก็บหมอนี่แน่นอน

แต่ก็นะ

อเล็คไม่ได้รักเค้า....

เจซทำหน้าเศร้า  ดวงตาสีอ่อนทอดมองไปยังร่างบางซึ่งส่งคืนไปให้อยู่ในอ้อมกอดของแม็กนัสอย่างหวงหา  แต่ทว่าในใจรู้และมั่นใจว่าอเล็คจะต้องมีความสุขแน่นอนหากมีแม็กนัสคอยดูแลอยู่ด้วย  ถึงแม้ว่าไอ้นายแบบขายถ่านนี่จะทำตัวไม่น่าให้อภัยก็ตามเถอะ  แต่อเล็คก็รักหมอนี่และแม็กนัสที่เพิ่งรู้ใจตัวเองก็เช่นเดียวกัน....

“เฮ้  ฉันว่าเราควรไปจากที่นี่ดีกว่า  และ...เจซ  นั่นชื่อนายใช่ไหม?  ฝากแตะหมอนั่นที  นั่นกำลังจะลุกขึ้นมาอีกแล้ว” ร่างสูงสะโอดสะองซึ่งตระคองกอดและลูบหลังของเพื่อนตัวน้อยไม่ให้หันไปมองบุคคลที่ไม่ควรได้มองอีกพูด  อเล็คตันสั่นเทาเพราะแรงสะอื้น  ในขณะที่ชายหนุ่มผมบล์อนกลอกตาขึ้นฟ้าแล้วเดินเร็วๆ คล้ายเบื่อหน่ายตัดข้ามห้องพักแคบๆ ไปเตะมิคาเอล

เสียงบู๊ตหนักๆ ย้ำกระทบกับพื้น และหนักมากกว่าเดิมเป็นสามเท่าเมื่อถึงตัวมิคาเอล  เจซจัดเต็มในส่วนของตัวเองไปในรองเท้าบู๊ตข้างนั้นด้วย  ถือเสียว่าเป็นโบนัสตบท้ายต่อจากแม็กนัส ที่บังอาจมาทำอย่างนี้กับอเล็คของพวกเค้าก็แล้วกัน

เจซเคาะสันรองเท้ากับพื้นไม้ แล้วล่วงเอามือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา “นายพาอเล็คออกไปเถอะ  ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”

“นายจะโทรไปหาพ่อเหรอ?” ร่างสูงผิวสีแทนเงยหน้ามองอย่างตั้งคำถาม........ก็เจซไม่ถูกกับวาเลนไทน์ซึ่งเป็นพ่อของเจ้าตัวนี่นา  การไปขอความช่วยเหลือถือว่าเสียเกียรติ์ของลูกชายผู้หยิ่งผยองเป็นอย่างยิ่ง 

แม็กนัสรู้จักตระกลูนี้ดี จากการเข้าสังคมของคนมีหน้ามีตา วาเลนไทน์และลูกสาวสุดที่รักมักจะเข้ามาทักทายเค้าเสมอจนบางครั้งแม็กนัสก็แอบคิดไปว่าเศรษฐีคนนั้นคิดจ้องจะจับคู่เค้ากับลูกสาวของตัวเองอยู่รึเปล่า

และเห็นได้ชัดว่าวาเลนไทน์เองก็รอคอยการยอมศิโรราบของลูกชายคนโตอย่างเนื้อเต้นด้วยเช่นกัน  แม็กนัสมีความเห็นเป็นเช่นนั้น

แต่เห็นทีว่าร่างสูงสะโอดสะองคงจะคิดผิดไปถนัดเสียแล้ว....

“ไม่  ฉันมีคนของฉัน....ไม่จำเป็นต้องพึ่งตาแก่งี่เง่าบ้าอำนาจคนนั้นหรอก” เจซแสยะยิ้ม ว่าเสียงแข็งกร้าวและฟังดูสมเพชชายวัยกลางคนที่เอ่ยถึงเป็นอย่างยิ่ง

เจซจัดการได้และเค้าดูเหมือนพ่อโดยที่ไม่รู้ตัวเลย

ดังนั้นแม็กนัสจึงเลิกคิ้วขึ้น แล้วยักไหล่เป็นเชิงว่า “ก็ช่างนายสิ”  ก่อนจะลุกขึ้นกระซิบกับเพื่อนตัวน้อยแล้วช้อนร่างบางผู้ซึ่งเกาะเสื้อของเค้าไว้แน่น ขึ้นมาพาร่างอันสั่นสะอื้นไม่หายนั้นปลีกตัวไปที่ห้องของเจ้าตัว

แม็กนัสมองเห็นเจซพูดงึมงำกับมือถือเพราะเค้าอยู่ไกลออกมาแล้ว  ในตอนที่เข้ามาในห้องของอเล็ค  ร่างสูงของนายแบบดังวางตัวของเพื่อนสนิทที่เพิ่งทำให้พวกเค้าใจหายใจคว่ำลงบนเตียงขนาดนอนหนึ่งคนของเจ้าตัวอย่างเบามือ  แล้วย้ายตัวเองลงมานั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง  ปล่อยให้เพื่อนตัวน้อยได้นั่งสบายอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว

แม็กนัสท้าวข้อศอกกับหัวเข่าข้างหนึ่ง มองดูอีกคนหนึ่งซึ่งกระชับขยำแจ็คเก็ตของเค้าซะแน่นติดมือ  แต่มือขาวบอบบางข้างหนึ่งก็ไม่ยอมปล่อยจากฝ่ามืออบอุ่นของร่างสูง  แม็กนัสไม่ได้ดึงออกเช่นเมื่อสองสามปีก่อนแต่อย่างใด แต่กลับบีบกระชับแน่นขึ้นแล้วเอื้อมมือที่ว่างอยู่ขึ้นไปปัดผมที่ปรกหน้าของอเล็คออกไปเหน็บไว้ที่ข้างใบหูนิ่มที่เค้าเคยได้สัมผัส

“นายโอเคใช่ไหม  หมอนั่นไม่ได้ทำอะไรนายใช่รึเปล่าอเล็ค?” แม็กนัสเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ทว่าทุ้มต่ำและชัดเจน

คนถูกถามเชิดจมูกสีชมพูระเรื่อมาทางเค้าแล้วส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะเบะปากเพราะเสียขวัญอีกครั้ง  อเล็คยังไร้เดียงสาเกินไปที่จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

แม็กนัสกระชับมืออีก แล้วเริ่มนำมือไปกอบกุมที่ข้างแก้มเปรอะน้ำตาของเพื่อน แล้วเกลี่ยไปมาเพื่อให้รู้สึกถึงความอบอุ่น “ไม่ต้องกลัวอเล็ค ไม่ต้องกลัวนะ  เป็นฉันเองนั่นแหละที่ต้องขอโทษนาย  ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้....น่าจะอยู่กับนาย  ปกป้องนาย” ร่างสูงสะโอดสะองผมชี้โด่เด่แต่เป็นทรงสวยมีแววตาปวดร้าว

และความรู้สึกยามเมื่อต้องการให้แม็กนัสมาช่วยก็ประดังกลับเข้ามาหาร่างบาง  อเล็คหวาดกลัวมาก  คนเดียวที่อยากเจอที่สุดก็คือเพื่อนร่างสูงตรงหน้า  เจ้าตัวเสียขวัญ และแม็กนัสก็อยู่ตรงนี้แล้ว  อเล็คยกมือขึ้นมาเตรียมจะแตะมือที่ทาบอยู่บนแก้มใสของตัวเอง “อึก  แม็กนัส....”

ร่างบางแสนน่าสงสารเอ่ยขึ้นราวกับตอนเด็กๆ ที่เคยกลัวจนตัวสั่นและทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากกลัวมาก ยังไม่ทันที่จะได้สัมผัสหลังมือของแม็กนัส  เพื่อนร่างสูงก็ดีดตัวขึ้นมานั่งบนเตียง รวบกอดเจ้าตัวเข้าให้เสียแล้ว  แม็กนัส   เบน โอบกอดปลอบประโลมเพื่อนตัวน้อยด้วยสองมือที่อบอุ่นราวกับประกายไฟที่แผดเผา

เมื่อกี้นี้ที่ได้ยินเสียงของอเล็ค  แม็กนัสก็รู้สึกใจเสียขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ  มันทำให้เค้านึกถึงความรู้สึกในตอนเด็กๆ ความรู้สึกของอเล็คที่มีเพียงแค่เค้าเท่านั้นที่เข้าใจ

และมันทำให้รู้ว่าความคิดที่จะตีตัวออกห่างเพื่อทำให้อเล็คอยู่ได้ด้วยตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ผิดถนัด  ผิดมหัตไปเลยจริงๆ เพราะเค้าเองก็เพิ่งหายโง่ว่าเหตุใดจึงได้เพ้อหาในยามที่ไม่ได้เจอหน้าอเล็คเช่นนี้และรู้สึกผิดอย่างมากมายที่รู้ว่าตนเป็นต้นเหตุในการร้องไห้หลายต่อหลายครั้งของเพื่อนตัวน้อย

และตัวอเล็คเองก็ขาดแม็กนัสไปไม่ได้ด้วยเช่นกัน

แม็กนัสปล่อยให้อเล็คฟังเสียงหัวใจที่เต้นอย่างหนักหน่วงเป็นจังหวะของเค้า  ในเวลาที่เสียงทุ้มต่ำอันอ่อนโยนนั้นเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน

“ไปอยู่กับฉันนะอเล็ค  ฉันคงจะยอมให้นายห่างไปไกลหูไกลตาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว” ร่างสูงสะโอดสะองรู้สึกถึงการเคลื่อไหวที่อกเสื้อของตัวเอง  อเล็คกังขาและอาจจะไม่เห็นด้วย  แต่เค้าไม่ยอม

“ถ้านายไม่ไป  ฉันจะอุ้มนายขึ้นแล้วพาไปให้ถึงห้องของฉันเลย” เค้าว่าแล้วยิ้มบางๆ ถึงทางเลือกที่สองซึ่งไม่ต่างจากข้อแรกนัก  เคยนึกสงสัยตัวเองอยู่หลายครั้งว่าทำไมถึงได้ชอบบังคับเพื่อนร่างบางคนนี้นัก

แต่ถ้าเค้าไม่ทำหน้าดุ อเล็คก็คงจะสุขภาพแย่กว่านี้อีกล่ะนะ

“อึ อือ...แม็กนัส...” อเล็คครางคล้ายโอดครวญ

“งั้นนายคงจะเลือกเก็บของตามไปทีหลังสินะ” คนให้ทางเลือกว่าพลางทำทีจะสอดแขนไปใต้ขาของเพื่อนผู้สะดุ้งยกขาหนี  ใบหน้าอเล็คดูจะยังปรับตัวไม่ทันหลังจากเพิ่งผ่านเรื่องสะเทือนใจมา   แม็กนัสไม่ปล่อยให้คิดเลย

อเล็คทำหน้าบูดเคล้ากับน้ำตา  แม็กนัสจึงยักไหล่

“มันดีกับเราที่สุดแล้ว” ประโยคนั้นช่างเหมือนราวกับแสงอาทิตย์ยามเย็นของฤดูร้อนที่ร้อนแรงจนอาจทำให้ตาพร่า  แต่ก็ทำให้อบอุ่นและปลอดภัยอย่างน่ามหัศจรรย์ด้วยเช่นกัน

แม็กนัสจูบอเล็คอย่างอ่อนโยน  ท่ามกลางสายฝนที่เพิ่งหยุดตกไปและร่างบางที่เพิ่งจะหยุดร้องไห้



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------------------



โอ่วววววว  อเล็คจ๋าา ปลอดภัยแล้วนะลูกก TUT  คือดูๆ แล้วอเล็คเป็นเคะน้อยๆ ที่ไม่น่ารังแกมากเลยค่ะ เพราะว่ามีคนคอยปกป้องถึงสองคน  เมะแข็งแรงสุดแซ่บกับเมะสูงยาวสุดโหด.....

คือใครมายุ่งกับอเล็ค พ่ออัดแหลกค่ะ  มิคาเอลเดี้ยงเลยค่ะ แล้วคนอื่นจะต่างกันไหมลองถามใจดูล่ะกันนะเออ  งืออ ดูเหมือนจะเลือดขึ้นหน้ามากมายเลยค่ะ

แต่ว่าไอ้ที่กรี๊ดสุดยอดไปเลยก็คือ........อร๊ายยยยยยยยยยยยย! >< แม็กนัสชวนอเล็คไปอยู่ด้วยยยย >[]< //วกอารมณ์ท้าย Part กลับมากรี๊ด -*-//  โหยๆๆๆๆ แม็กนัสคงหวังอยากจะให้อเล็คมาอยู่ด้วยสุดหัวใจเลยล่ะค่ะ >///<  ใช่ๆๆ แม็กนัสอย่าให้คลาดสายตาเลยนะ  ดีๆ น่ารักๆ อย่างอเล็คหาไม่ได้อีกแล้วนะ จะต้องเฝ้าเอาไว้เลยยย //ชี้หน้า//

Part ต่อไปๆ คลิกเลยค่ะ ><

นี่คือเฟสไรท์ค่ะ...>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  สนใจคลิก.... //ช่วงนี้ติดเดี่ยว 11 555// 

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund


ไม่มีความคิดเห็น: