สวัสดีค่ะรีดๆ
ที่เคารพรักทุกท่านขาา M_ _M มาแล้วค่ะ //แอบช้า เพราะทะเลาะกับเน็ตเจ้าเก่าอีกแล้วค่ะ YUY// Part ที่แล้วเกริ่นๆ เรื่อง Part นี้ก็เกริ่นค่ะ 55555 แต่มีเกล็ดที่รีดจิต้องค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ
ค่ะ อย่างที่ไรทืได้บอกไปว่าต้องอ่านให้จบก่อนค่ะแล้วเอาทุกอย่างมารวมกันและตอบคำถาม
//เดี๋ยวสิ เราไม่ได้เรียนอยู่//
ป้วดดดดดดดด!! หน่อยเฟสค่ะ
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<
เข้าไปทักทายเซย์ไฮ
คุยกันได้นะคะ ไรท์ชอบค่ะ ช่วงที่ไรท์เงียบไปบางทีก็เหงาค่ะ
เห็นมีรีดเข้ามาคุยด้วยแค่นั้นก็ก็มีกำลังแล้วค่ะ ><
ง้วงงงงง
อย่าให้เสียเวลา ไปอ่านกันเลยล่ะกันเนอะ ^^
------------------------------------------------------------------------------------------------
“โอ้ ให้ตายเถอะ...พวกเราวิ่ง!”
นิวท์ออกคำสั่งทลายอาการขาแข็งที่เกิดขึ้นเมื่อเจอแครงค์ของพวกเค้า
ถึงแม้จะไม่เจ้าแผนการและชอบพาเพื่อนรนหาเรื่องเหมือนโทมัส
แต่เค้าก็รู้ว่าควรต้องทำอะไรในกรณีเช่นนี้
แต่ครั้งนี้นิวท์ไม่รู้ว่ามันเป็นผลมาจากโทมัสไหม
พวกเค้าออกวิ่งและภาวนาขอให้หนีรอดปลอดภัยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
เด็กหนุ่มสาววิ่งตามกันไปเป็นขบวนเหมือนกลุ่มนักเรียนมัธยมที่มีเรื่องน่าตื่นเต้น
รีบร้อนมากเกินไปจนไม่ได้ปิดไฟฉายที่ต่างคนต่างถือมันแกว่งไปมาเรียกร้องความสนใจจากพวกแครงค์อีกทอดหนึ่ง
“เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่!”
ฟรายตะเบ็งเสียงตามหลังมินโฮไปติดๆ ชายหนุ่มเอเชียรูปร่างกำยำกำลังพยุงหญิงสาวคนเดียวของกลุ่มให้หลุดพ้นจากอาการเข่าอ่อน เทเรซ่า...เธอดูเหมือนไม่ไหวแล้ว
ทุกคนเบรกฝีเท้าตรงหัวมุมหนึ่งเพื่อเข้าไปหาทางหนีต่อ มินโฮผลักเทเรซ่าเข้าไปในนั้นและเป็นคนสุดท้ายในบรรดาเพื่อนที่ผลักไส้เร่งกันกรูเข้าไปในตรองแคบๆ
ตรงหัวมุมนั่น
ชายหนุ่มร่างสูงไม่ได้มีทีท่าจะเบียดเสียดเข้าไปเหมือนเพื่อนๆ
แต่อย่างใด
มินโฮยืนจังก้าอยู่ตรงนั้นส่องไฟฉายไปหาโทมัสกับนิวท์ที่วิ่งตามมาเป็นสองคนสุดท้าย
“โทมัส นิวท์...เร็วเข้า!”
เค้าเร่งและหวังไม่อยากให้ระยะทางห่างไกลเท่านี้
มินโฮอยากจะตะโกนถามว่ามัวแต่ทำอะไรกันอยู่ทำไมถึงได้มาช้านักเพราะพวกแครงค์ที่วิ่งมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้นแทบจะกระชากเสื้อของนิวท์ได้อยู่แล้ว
“เร็วเข้า!”
มินโฮหันไปมองดูเพื่อนๆ ที่ต่อแถวกันเข้าไปในตรอก
สลับกับมองหน้าโทมัสที่ห่อตะบึงมาหาเค้าอย่างรวดเร็ว โดยมีนิวท์ที่รั้งอยู่ท้ายสุด
แอริสคอยระวังแครงค์ให้อย่างรู้หน้าที่อยู่ข้างๆ เพื่อนชาวเอเชีย “เร็วอีก
เร็วอีก!”
แต่โชคร้ายที่ความระทึกขวัญก็ไม่ได้น้อยลงเลย เมื่อจู่ๆ
มีแครงค์ปริศนากระโจนทะลุกระจกพุ่งเข้าใส่นิวท์และทำเค้าล้มลงไปกองอยู่กับพื้นจนทำให้โทมัสที่อีกนิดเดียวจะถึงอ้อมอกของมินโฮเป็นอันต้องชะงักไป เด็กหนุ่มเบรกจนตัวแทบลื่นล้ม
“นิวท์!!”
มินโฮกับโทมัสตะโกนขึ้นพร้อมกัน
แต่เป็นเด็กหนุ่มร่างบางเองเสียเองที่อาสาหันวิถีเบนทิศวิ่งกลับไปหาเพื่อนที่กำลังถูกแครงค์นั่งทับ
“เพื่อนช่วยด้วย!”
นิวท์ที่ได้ยินเสียงกระจกแตกกระจายยื้อหยุดฉุดรั้งกับแครงค์หน้าตาน่าสยองที่อยู่บนตัวของเค้าอย่างเต็มที่ โทมัสอยู่ไกลเกินไป
พอมาถึงตัวเค้านิวท์อาจจะโดนกัดไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ทันใดนั้นเองเสียง ปุ้บ!
ก็ดังขึ้นมาจากที่ใดก็ไม่อาจทราบได้ มีบางสิ่งเจาะเข้าที่ข้างขมับของแครงค์ซึ่งปลุกปล้ำอยู่กับนิวท์อย่างบ้าคลั่งจนสิ่งนั้นทะลุออกไปอีกข้าง
ก่อนแรงอัดที่ทำเอาหัวโยกนั้นจะส่งผลให้มันกระเด็นทะลุกระจกกั้นทางเดินตกลงไปกระทบกับพื้นชั้นล่างอย่างไม่ต้องเดาตอนจบ
นิวท์มึนงงเช่นเดียวกับมินโฮที่ยืนแข็งมองสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นอยู่กับที่
ก่อนฝูงแครงค์ที่ตามพวกเค้ามาแต่ไกลจะเริ่มล้มหายตายไปทีละตัวอย่างไรสาเหตุ
แอริสลดไม้เบสบอลลงในตอนที่ทำท่าจะเดินไปหาฝูงแครงค์เสียเอง มินโฮจับอกเสื้อเค้าไว้
“โทมัสเอาเค้ามาเร็ว!”
ชายหนุ่มเอเชียตะโกนและโยนแอริสเข้าไปในตรอก
โทมัสกับนิวท์กลับมาเข้าขบวนได้สำเร็จ
แต่โชคก็ยังไม่ถึงกับเข้าขั้นว่าดีเมื่อยังมีแครงค์สามสี่ตัวที่ตามเข้ามาอุดทางเข้าตรอกเอาไว้ประจวบเหมาะกับที่เด็กๆ
เจอทางตันพอดี
“เปิดมันเร็วเข้า ฉันจะกันเอาไว้ให้!” วิสตันบอก
เค้ามีปืนที่ได้มาจากพวกผู้ใหญ่และใช้มันยิงแครงค์อย่างจำเป็น จนกระทั่งประตูเปิดออกและทุกคนก็เรียงตัวกันเข้าไปในนั้นอย่างรวดเร็วแต่วินสตันได้รับบาดเจ็บจากการโดนแครงค์รุมข่วน
ทว่าทางออกกลับไม่ได้ตันอีกต่อไปแล้ว
เด็กๆ
ทุกคนหนีออกมาได้สำเร็จและขดตัวอยู่ในที่ซ่อนใต้ซากปรักหักพังจนถึงเช้า.....
*******************************************************************************
จนกระทั่งรุ่งอรุณ
แสงอาทิตย์ก็สาดส่องพร้อมกับไขความลับของทุกอย่าง
ในตอนนี้ไม่มีแครงค์แล้วทุกคนจึงสันนิฐานว่ามันอาจไม่ชอบแสงอาทิตย์แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เด็กชาวทุ่งทุกคนตกตะลึงที่สุดก็คือสิ่งปลูกสร้างระฟ้าที่ถูกทิ้งร่างและปล่อยให้ทรุดโทรม
ตึกพวกนี้สูงใหญ่และแออัดเบียดเสียดกันอยู่ใต้การทับทมของทะเลทราย
ราวกับว่าที่แห่งนี้เคยรุ่งเรืองมาก่อนแต่ทว่าบัดนี้กลับดูเงียบเหงาอย่างน่าหดหู่กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพวกแครงค์กระหายเลือด
ทุกคนออกเดินพร้อมกับสำรวจไปพลางอย่างเงียบๆ
ในใจเกิดคำถามมากขึ้นทุกที
มินโฮอยากถามถึงเรื่องเมื่อคืนที่โทมัสกับนิวท์เกือบโดนแครงค์รุมทึ้งว่าทำไมถึงได้มาช้านักซึ่งนั่นสร้างความหวาดหวั่นในใจของมินโฮได้อยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งการเกาะกลุ่มเพื่อความปลอดภัยก็ทำให้เรื่องการถามไถ่นั้นเป็นไปได้ด้วยยากยิ่ง มินโฮเดินอยู่ข้างโทมัสและรอให้เพื่อนๆ
เมินเค้าทั้งสองไปซะ
ก่อนหนุ่มเอเชียจะหันไปสังเกตเห็นสมาชิกใหม่ที่ตั้งหน้าตั้งตาสำรวจโลกภายนอกแต่กลับดูหม่นหมองลงไปเสียถนัดตาในตอนนี้
“เป็นอะไรรึเปล่าแอริส?”
เค้าถาม โทมัสที่เดินอยู่ข้างๆ
จึงหันไปมองเด็กหนุ่มผอมแห้งด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
แต่คนถูกถามกลับเพิ่งจะให้ความสนใจคลายกับคนเหม่อลอยที่ถูกสะกิดถาม
มินโฮจึงย่ำกล่าวไปอีก
“นายโอเครึเปล่า?”
เค้าถามให้ชัวร์เผื่อแอริสโดนแครงค์เล่นงานมาแล้วไม่ได้บอกเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่
“อ๋อ ปละ เปล่าหรอก ไม่มีอะไรฉันสบายดี”
เค้าฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วงแต่โทมัสก็เป็นห่วงมากกว่าเดิมสองเท่าไปแล้ว
“นายแน่ใจนะ?”
คนตั้งคำถามคนที่สองว่า เพราะดูแอริสเหม่อลอยเสียเหลือเกิน
“ไม่ ไม่มีอะไรจริงๆ นะ”
คนถูกรุมถามกระพริบตาก่อนจะยิ้มออกมาโดยไม่ต้องใช้คำว่าฝืน “พวกนายสองคนดูสนิทกันจังเลยนะ”
เค้าตั้งข้อสังเกตบ้างและคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่มีคนสนิทกันแม้ในตอนที่เรื่องราวเลวร้ายแบบนี้
แต่โทมัสหยุดเดินไปชั่วขณะก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนมินโฮที่ซึ่งมีใบหน้าเหรอหราไม่แพ้กันดึงกระเป๋าสะพายหลังให้ออกเดินต่อไปด้วยกันอยู่เคียงข้าง
“เอ่อ ใช่
เราเป็นนักวิ่งเหมือนกันน่ะ”
“นักวิ่งงั้นเหรอ?”
แอริสไม่ข้องใจในความสนิทสนมของทั้งสองแล้วแต่กลับฉงนกับคำว่านักวิ่งในวงกตของเด็กทุ่งแทน
ก่อนมินโฮจะรับหน้าที่ต่อเพราะเค้าเป็นนักวิ่งอาวุธโสที่ค่อยช่วยเหลือโทมัสมาโดยตลอด
ชายหนุ่มเอเชียรูปร่างกำลังยกยิ้มเล็กน้อยราวกับภาคภูมิใจ
“นักวิ่งก็คือพวกที่เข้าไปสำรวจเส้นทางในวงกตยังไงล่ะ
แต่ว่าวิกเก็ตชอบเล่นตลกกับพวกเราเสมอวงกตของเราเลยมีการเปลี่ยนตัวตามเซ็คชั่นต่างๆ
ไปเรื่อยๆ แต่นั่นเรื่องจ้อย ถ้านายเจอสัตว์ประหลาดประจำเซ็คชั่น พวกมันจะคอยวิ่งไล่กวดนายแล้วก็ต่อยนายด้วยพิษของมัน”
เค้าว่า
ฟังดูคล่องแคล้วเมื่อเล่าเรื่องคราวๆ
ให้เพื่อนใหม่ฟังเพราะว่าเค้าเป็นคนที่รู้ดีเรื่องวงกตมากที่สุด แอริสเมื่อฟังดังนั้นแล้วก็หันมองพื้นใต้เท้าตัวเองไปครู่หนึ่ง
“งั้นเหรอ งั้นนักวิ่งของพวกนายก็คงจะเมือนกับนักสำรวจเส้นทางในวงกตของพวกเราล่ะมั้ง”
เค้างึมงำ และกลายเป็นเด็กทุ่งสองคนนั้นบ้างที่ทวนคำเป็นเชิงถามกับแอริส เด็กหนุ่มผอมแห้งบอกว่า นักสำรวจเส้นทาง
ในวงกตของเค้าก็เหมือนกับ นักวิ่ง อย่างมินโฮกับโทมัสนั้นเอง พวกนั้นคอยหาทางออก สำรวจเส้นทางและเป็นมากมายกว่านั้นในบางเวลา
“พี่ฉันเองก็เป็นนักสำรวจเส้นทาง เค้าเป็นคนเดียวที่สามารถสำรวจและวิ่งหนีแดนมรณะชั้นในสุดของวงกตออกมาได้”
แอริสพูดฟังดูแสนเศร้า “แต่หลังจากครั้งแรกเค้าก็เข้าไปอีกหลายครั้งเลย”
เด็กชายต่างวงกตฝืนยิ้มอีกทำเหมือนกับว่ามินโฮและโทมัสทำให้เค้านึกถึงพี่ของตัวเอง แต่มินโฮหันมาเบรกเบาๆ
“เอ่อ เดี๋ยวก่อนนะ เค้า งั้นเหรอ
พี่นายเป็นผู้ชายงั้นเหรอไหนบอกว่าวงกตนายมีแต่ผู้หญิงยังไงล่ะ?”
คำถามของหนุ่มเอเชียสะกิดเข้าหูของคนทั้งกลุ่มและเรียกสีหน้าฉงนสนใจจากพวกเค้าได้เป็นอย่างดี แอริสจึงยักไหล่แล้วเอ่ยไขความข้องใจเรียบๆ
“ใช่ วงกตฉันมีแต่ผู้หญิง
ยกเว้นฉันกับพี่แล้วก็เพื่อนของพี่อีกสามคน พวกเค้าตายไปแล้วสองคนเมื่อปีก่อน”
แอริสถูกมุงมองหน้าทั้งๆ
ที่ทั้งกลุ่มก็เดินไปด้วยและถูกรุมล้อมจนมาอยู่กลางวงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบได้
“พวกนั้นอยากจะโชว์ภูมิน่ะว่าตัวเองก็สามารถเข้าไปในแดนมรณะได้เหมือนกับพี่ของฉัน เค้าไม่ได้อยากอวดดีหรอก...พวกนายรู้ใช่ไหม?
พี่ชายฉันแค่ต้องเข้าไปสำรวจเส้นทางข้างในนั้นก็เท่านั้น
แต่พวกผู้หญิงก็ทำให้สองคนนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างแรง
เลยอยากพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้แพ้เค้าเลยแม้แต่น้อยและมันเป็นการกระทำที่โง่เง่ามากที่สุดตั้งแต่ฉันจำความได้
พวกเค้าตายเละคาแดนมรณะเลยตอนที่พี่ฉันเข้าไปพบเข้า”
นิวท์ทำหน้าเห็นใจ
“มันคงแย่มากเลยสินะ
พวกเราไม่ควรได้รับความสูญเสียโดยเฉพาะกับเรื่องโง่ๆ ที่เกิดขึ้นจากตัวเอง”
เค้าตบบ่าแอริส “แต่พี่นายก็เก่งใช้ได้เลยนะที่ไม่ตายน่ะ
งั้นหลังจากนั้นวงกตนายก็เหลือผู้ชายแค่สามคนเองสินะ”
“แล้วทำไมตอนแรกนายถึงบอกกับคนอื่นว่านายเป็นผู้ชายคนเดียวในวงกตกันล่ะ?”
มินโฮถามขึ้นอีก
“เพราะพี่ฉันเป็นคนบอกไว้น่ะ เค้าไม่เคยไว้ในอะไรเลยเหมือนกับนิวท์”
แอริสหันไปมองนิวท์ ซึ่งอันที่จริงนิวท์ทำให้แอริสนึกถึงพี่ชายของตัวเองมากที่สุด
ชายหนุ่มผมบล์อนเหมือนบุคคลดังกล่าวในหลายๆ ด้าน “แล้วก็กล้าหาญเหมือนโทมัส”
คราวนี้หันไปหาโทมัสที่รั้งท้ายอยู่ด้านหลังบ้างก่อนจะกลับมาหานิวท์ใหม่
“เค้าดึงดันอย่างอันตรายแต่ก็ทำไปเพื่อครอบครัวทุกคน” แอริสพูดกับนิวท์คล้ายๆ
จะบอกว่าความดื้อดึงอย่างมีความเป็นผู้นำนั้นแอริสก็เคยเห็นมันในตัวพี่ชายของตัวเอง
“พี่ชายนายเป็นหัวหน้างั้นเหรอ?”
ฟรายถาม เค้าเองก็อยากมีส่วนร่วม
“ไม่ ไม่ใช่หรอก
พวกผู้หญิงมีมากกว่าเราเค้าเลยให้พวกเธอแต่งตั้งกันเอาเองน่ะ มีแค่ฉันกับพี่แล้วก็แดเนียลเท่านั้นที่เป็นผู้ชายเลยต้องตามน้ำพวกเธอไป”
แอริสยักไหล่ “แดเนียลเป็นซี้ของพี่น่ะ
ส่วนฉันก็กินแห้วตลอดเวลาเข้าไปจีบสาว” ทั้งกลุ่มฮาครืน แต่โทมัสกลับหยุดเดินไปเสียดื้อๆ เค้าอยู่รั้งท้ายจึงได้ยินอะไรๆ
ได้ดีกว่าคนอื่นในกลุ่ม
“ฮ่ะๆ แล้วตอนนี้พี่ชายของนายไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะแอริส?”
ฟรายที่เดินตามวินสตันหัวเราะก่อนจะถามอีก
แต่โทมัสกลับบอกให้ทุกคนเงียบ
“เงียบ...เงียบก่อนทุกคน เงียบก่อน”
เค้าหยุดกึกพร้อมกับมินโฮที่เดินย้อนกลับมายืนอยู่ข้างๆ
และถามว่ามีอะไรอย่างนั้นหรือ
ก่อนทั้งคู่จะได้ยินเสียงอะไรบ้างอย่างที่ไม่สามารถจำแนกได้เนื่องจากยังฟังไม่ชัดเจนนัก แต่ทว่าจู่ๆ
มินโฮกลับได้ยินเสียงที่ดังชัดเจนมากกว่านั้น มันถี่รัว หนักแน่น
และรวดเร็ว
หนุ่มเอเชียใช้มือดันเบาๆ ไปที่อกของโทมัสเป็นเชิงว่าให้ถอยไป
ก่อนที่อีกฝั่งหนึ่งของถนนที่พวกเค้ากำลังยืนอยู่จะปรากฏเงาหนึ่งพาดผ่านขึ้นพร้อมกับเสียงออกแรงส่งตัวให้ดีดขึ้นกลางอากาศในลำคอ
มีคนกระโจนลงมาจากซากปรักหักพังแล้วกระชากตัวมินโฮกับโทมัสเข้าไปกระแทกกับใต้ซากตึกที่สามารถใช้หลบแสงแดดได้อย่างมิดชิด
แต่เรื่องหลบแดดนั้นไม่ใช่ประเด็น
มีเสียงตะโกนอย่างตกใจดังขึ้น
นิวท์จึงดึงไม้เบสบอลจากกระเป๋าหลังของแอริสออกมาเตรียมตั้งรับ.....เร็วมาก อาจเป็นพวกแครงค์
แต่แล้วกลับมีอีกการเคลื่อนไหวหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วผลักทุกคนเข้าไปใต้ซากตึกที่เดียวกับที่มินโฮและโทมัสหายไป
แอริสเป็นคนสุดท้ายที่เพิ่งมีความรู้สึกตื่นตัว เค้าคลำหาไม้เบสบอลที่หายไปของตัวเองก่อนจะโดนแบกขึ้นหลังแล้ววิ่งเข้าไปสมทบเป็นคนสุดท้ายที่ตกหล่น
แอริสดีดดิ้นสุดชีวิต
ก่อนจะถูกวางลงบนพื้น
เห็นสีหน้าตื่นตกใจระคนไม่พอใจของคนอื่นๆ
ก่อนเด็กหนุ่มผอมแห้งผู้ซึ่งถูกพาตัวมาเป็นคนสุดท้ายจะหันไปเจอคนที่กำคอเสื้อของมินโฮไว้ไม่ให้ต่อยหน้าของเจ้าตัวได้
แอริสหันไปสบตากับคนที่แบกเค้าเข้ามาแล้วหันไปมองชายที่รักษาหน้าตัวเองไว้จากกำปั้นของมินโฮก่อนจะกู่ร้องออกมาอย่างสุดเสียง
“แอช”
แอริสรู้สึกเหมือนโดนช็อตไปทั่วทั้งตัวจนชาดิก ไร้การรับรู้ใดๆ ความรู้สึกที่ขาวโพลนพุ่งแล่นครอบงำทั้งสมองไปชั่วเสี้ยวนาที
“โอ้พระเจ้า แอช!”
.
.
.
TBC.
---------------------------------------------------------------------------------------------
โอ้ พระเจ้า แอชช! ออกมาแล้วค่ะ
>{}<! รีดๆ ขาา
ตัวละครเสริม (เสร่อ) ของไรท์ออกมาแล้วค่ะ
เอ้ยยย แต่คนๆ นี้เค้าไม่ใช่ตัวละครเสร่อจริงๆ
นะคะ ไรท์ให้เค้าออกมาเพื่อเป็นอีกส่วนหนึ่งของการพลิกเรื่องของไรท์ค่ะ
(บอกให้ออกมาเอง เพื่อพลิกเรื่องที่ตัวเองแต่ง -*- 55555)
แอชคนนี้เป็นใคร? คาดว่ารีดๆ หลายท่านก็น่าจะพอเดาออกกันแล้วนะคะ
>< เค้าจะเป็นคนประเภทเดียวกับคำนิยามประมาณว่า....โอ้
พ่อคุณหล่อล่ำ! อะไรประมาณนั้นล่ะนะคะ 555555 จินตนาการเอง
ถ้าหากพระเจ้าประทานพรสวรรค์ในการวาดรูปให้ไรท์แล้วล่ะก็
ไรท์คนนี้ก็คงจะวาดชายผู้นี้มาให้รีดๆ
ได้ชมและนึกภาพตามท้องเรื่องต่อไปได้อย่างสะดวกและไม่สะดุดเลยล่ะค่ะ แต่ว่า โถ่ กรรม
ไรท์บอกตัวเองว่าอย่าจับดินสอวาดรูปอีกตลอดชีวิตเลยหนา
Ray – Aund TUT รันทดใจมลพิษตาสุดๆ 5555555
โอเคค่ะ สำหรับ Part นี้ก็ดูเหมือนจะน้อยล่ะเนอะ น้อยอีกล่ะ ฮาา รอติดตามชม Part หน้านะคะ อดใจรอไม่นานค่ะ เพราะหลังจากขึ้นเขียงสอบพรุ่งนี้
วันพุธไรท์ก็ว่างค่ะ 555555 อูยยยยยย
พูดถึงสอบ ยังไม่ได้อ่านเลยค่าาา 5555555
บ้าจริงงง ขอตัวไปอ่านหนังสือสอบก่อนนะคะ รักีดทุกท่านค่ะ >///<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund