วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[FIC – The Maze Runner] + [Part 1] The Scorch Trials – Minho x Thomas [The Maze Runner 2]





//เริ่มด้วยโปสเตอร์ปล่อยของหนังเลย แฮ่  เพิ่งมาแปะค่ะ 555//

 อร๊ายยยยยยยยยยย! กราบสวัสดีมิตรรักรีดที่เลิฟของไรท์ทุกท่านค่ะ >//<  //โค้งหน้าติดพื้น//  คิดถึงแรงเฟอร์เลยค่ะ  นานมากเลยอ่าา ที่ไรท์นั่งจิ้มๆ อ่านๆ ทวนๆ แก้ๆ อยู่สำหรับเรื่องนี้ 5555555555  //กรรมของเธอ//  ถ้าไม่มีงานต้องส่งอาจารย์หรือติดสอบ ไรท์จะเขียนเสร็จเร็วกว่านี้อีกค่ะ //เอานิ้วจิ้มกัน//  จริงๆ นะเออ  ตอนนี้เรื่องอื่นๆ ก็ยังอยู่ที่เดิมค่ะ  The Maze Runner 2 เรื่องนี้เพิ่งเสร็จเป็นเรื่องแรกในรอบสองเดือนนี้เลยค่ะ 

ไรท์ต้องขออภัยอย่างสูงเลยนะคะ  ที่ล่าช้าไปมาก M_ _M ตอนนี้เสร็จแล้วและพร้อมลงแล้วค่ะ  อิๆๆ  อย่างที่ได้ประกาศไปแล้วนะคะว่าภาคนี้จะจัดว่าเป็น “Fiction” กันเลยทีเดียว มิใช่ “Shot Fic” กันแล้วนะคะ >///<  ที่ยาวเพราะไรท์ลากยาวมาตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่องเลยค่ะ

และแอบสปอยล์ ภาคนี้จะมีตัวละครใหม่เข้ามาด้วยค่ะไม่ใช่ที่เพิ่มมาตามเนื้อเรื่องในหนังนะคะ อันนั้นตายตัว ฮาาาา  อันนี้ไรท์เพิ่มเข้าไปเองค่ะ 555555  ละเลงทั่ว เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา  คนเขียนหนังสือเค้าคงพากันมาบีบคอไรท์กันหมดทั้งบางแน่ๆ เลยค่ะ 55555  อันนี้ก็เพื่อการดำเนินเรื่องในแบบของไรท์น่ะนะคะ

และต้องขอเรียนรีดๆ ก่อนเลยค่ะว่าให้อ่านให้จบก่อนนะคะว่าค่อยตั้งคำถามอย่างสงสัย  อ่านๆ ไปอาจงงรึสงสัยว่า “เฮ้ยยย  สิ่งนี้มาได้จะใด?” รึ “เอ๊ะ  อันนี้มันยังไงฟะ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย งง ไรท์มันเขียนอะไรของมัน?” เกิดคำถามนี้แล้วหันมามองไรท์ค่ะ  ไรท์จะทำหน้าเหมือนพระพุทธศาสดาทำหน้าอรหันต์แล้วชูมือขึ้นทำท่าเบรกลมปราณแล้วเอ่ยว่า ......อ่านให้จบเรื่อง จนพบคำว่า ‘FIN’ ก่อนนะคะ  แล้วคำถามเหล่านั้นของรีดที่รักอาจจะหายไปเองค่ะ

ด้วยประการฉะนี้แล  ไรท์จึงอยากจะให้รีดอดรนทนรอและดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องของไรท์ไปก่อนค่ะ (มันเหมือนในหนังรึเปล่าล่ะห๊ะ!!) ไม่ต้องยึดหลักความจริงทั้งในหนังหรือในหนังสือมากนักค่ะเพราะไรท์ 5555555 //ลั่นตัวเอง// นึกอยากจะเขียนอะไรก็เขียนตามใจตัวเองค่ะ 55555 และมันอาจคุ้มค่ากับการรอคอยของรีดๆ ไม่มากก็น้อยค่ะ  ไรท์มั่นใจ //ยิ้มกว้าง//

เอาล่ะค่ะ  ไรท์หายไปนานเนอะ พอกลับมาคุยกันอีกทีก็ฝอยยาวเลยค่ะ 5555555 //เหงามาก// ขออภัยอย่างมหาศาลค่ะที่ทำให้เสียเวลา ถ้าอย่างนั้นเราอย่าเสียเวลากันอีกเลยดีกว่าเนอะ  ไปหามินโฮกับโทมัสกันเลยดีกว่าค่ะ >///< อย่าลืมนิวท์ด้วยนะเออ 5555555



-----------------------------------------------------------------------------------------------------



“จำไว้นะ แม่รักลูก แม่รักลูกโทมัส”


.


.


“โทมัส  โทมัส


“โทมัส!


.


.


“โทมัส!” เจ้าของชื่อสะดุ้งขึ้น  ตัวเค้าหดเกร็งด้วยสัญชาติญาณ  ก่อนชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ปลุกเค้าจะคว้าไหล่ปวกเปียกนั้นไว้ก่อนจะย้ำอีก “ตื่นเร็ว! เราต้องไปกันแล้ว  เร็วเข้า!” ใบหน้ายามนี้ของมินโฮไม่ได้ล้อเล่น ดังนั้นโทมัสจึงหน้าตาตื่นตามเสียงกระตุ้นของอีกฝ่ายแล้วลุกขึ้นตามไปแต่โดยดี

เสียงเฮลิคอปเตอร์เหวี่ยงใบพัดดังลั่นไปทั่วหูของโทมัส  มันฟังดูน่ากลัวเหมือนสถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด  มีเสียงคนตะโกนแข่งกับใบพัดอย่างไม่ยอมแพ้ถึงแม้ว่าจะฟังดูวุ่นวายเพียงใดแต่เด็กที่เหลือรอดจากทุ่งทุกคนก็ได้ยินคำว่า “พวกแครงค์” ก่อนเสียงปืนจะกราดยิ่งขึ้นมันดังประสานกันไร้ซึ่งความเป็นระเบียบ  และถึงจะไม่รู้ว่าพวกแครงค์คืออะไรแต่เด็กชาวทุ่งทุกคนก็วิ่งสุดชีวิตไปที่ประตูใหญ่แข็งแรงซึ่งไม่บอกก็ร็ว่านั่นเป็นทางรอดเดียวของพวกเค้า  แม้ว่าไม่รู้แน่ว่ามันคืออะไรหรือที่ไหน  แต่ที่แน่ๆ มันเป็นคนละโลกกันเลยกับที่พวกเค้าเพิ่งจากมา

ที่นี่มีคนเยอะแยะเต็มไปหมด เป็นคนมีเลือดเนื้อและปรกติเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนพวกนั้นไม่ใช่อย่างที่ชาวทุ่งเคยรู้จักมาเสียทีเดียว.....พวกผู้ใหญ่  ถือปืน  และดูไม่ตื่นเต้นเท่าไรนักเมื่อเห็นพวกเค้าที่เพิ่งมาใหม่ คนที่นี่เหมือนเคยเจอสถานการณ์ประมาณมาก่อนแล้วและดูไม่ตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นพวกเค้าเลยโดยสิ้นเชิง  ซึ่งนั่นไม่สำคัญหากคนเหล่านี้คอยช่วยเหลือไม่ให้เด็กหนุ่มทุกคนต้องตาย

หลังจากหาทางออกจากวงกตและสูญเสียไปอย่างมากมาย พวกเค้าก็ได้รับการพาตัวออกมาจากนรกบ้าๆ นั่น  ซึ่งไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้า....

“นายต้องโกหกฉันแน่” นิวท์พูดในตอนที่ผู้ชายถือปืนใส่เครื่องแบบตัวใหญ่ยักษ์พาพวกเค้ามา­ขังไว้ในห้องเก็บของ  หลังจากที่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็นได้ไม่นานนัก  เดาว่านิวท์เองก็คงยังไม่ทันได้สังเกตรายละเอียดอะไรด้วยซ้ำ  เค้าระแวดระวังเสมอแต่เวลาที่มีให้กลับน้อยเกินไป

แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้สำหรับห้องขัง ในเมื่อมีอาหารมากมายเหลือเฟือจนถูกทิ้งเกลื่อนพื้นให้กินกันจนอิ่มแปล้

“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี” นิวท์พูด  ขว้างถุงอาหารที่ยังมีของเหลืออยู่ลงพื้นเพราะอิ่มมากแล้ว

“แต่นายทำอะไรไม่ได้” มินโฮว่าและนิวท์ยอมเงียบไป  เค้าพูดถูก...เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย  ก่อนจะไม่มีใครพูดอะไรอีกและประตูก็ถูกเปิดขึ้น พร้อมกับชายที่อยากให้ทุกคนเรียกเค้าว่า “คุณแจนสัน” พาทัวร์ในที่ๆ ใหม่นี้ซึ่งไม่น่าอภิรมย์นักในความคิดของเด็กๆ  ยังมีการก่อสร้างกันอย่างไม่หยุดไม่หย่อน  ก่อนชายเนื้อตัวสะอาดสะอ้านที่ชื่อแจนสันจะบอกว่าควรจัดการกับกลิ่นของเด็กทุ่งทุกคนเสียที

และพวกเค้าก็ได้อาบน้ำหลังอิ่มท้องและทัวร์คราวๆ จากแจนสัน  ทุกคนดูผ่อนคลายและชอบเป็นอย่างมากที่ได้ชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาดซึ่งมีใช้อย่างไม่จำกัด  ฟรายเสียงดังและยืนยันความสดชื่นได้ดีที่สุด  ก่อนชายหนุ่มที่รั้งนำกลุ่มเพื่อนในการสุมหัววางแผนออกจากวงกตจะเป็นคนเดียวในห้องอาบน้ำที่กลัดกลุ้มอีกทั้งยังเหม่อลอยก่อนจะมีคนเข้ามาในห้องอาบน้ำของเค้าแล้วบอกให้โทมัสเงียบ  มินโฮไม่ใส่เสื้อผ้าเหมือนกับคนอื่นๆ ชายหนุ่มสองคนพูดคุยอะไรบ้างกันอย่างลับๆ โดยที่ม่มีใครรู้ว่ามินโฮหายตัวไปจากห้องอาบน้ำของตัวเอง

กระทั่งเสร็จสิ้นไป  เด็กชาวทุ่งทุกคนก็ถูกพามาที่ห้องพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและฉีดสารอาหารเพิ่มเติม  แน่นอนนิวท์เป็นคนแรกที่หวาดระแวงและซักถามโดยไม่เกรงใจใคร เค้ากวาดตามองไปรอบๆ เพื่อนของตัวเอง  เห็นมินโฮวิ่งอยู่บนลู่วิ่งเหมือนแฮมสเตอร์  โทมัสที่โดนฉีดยาเช่นเดียวกัน  และเทเรซ่าที่โดนกันออกไปโดยแพทย์หญิงคนหนึ่ง  ก่อนพวกหนุ่มๆ จะโดนต้อนไปที่ห้องทานอาหารที่ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กๆ จากวงกตอื่นๆ

มินโฮดูจะเข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดีที่สุด  แต่คำถามอันแปลกประหลาดก็ได้เกิดขึ้นในใจของโทมัสกับนิวท์โดยต่างฝ่ายต่างรู้แล้วว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่พวกเค้าถูกพาตัวมาที่นี่ และอาจเป็นผลประโยชน์สำหรับใครบางที่ขังพวกเค้าเอาไว้ที่นี่  โทมัสครุ่นคิด  ส่วนนิวท์หวาดระแวงแต่ไม่เคยกลัวสิ่งใดเลย  พวกเค้าเพิ่งได้ข้อมูลใหม่มาว่าหลายๆ คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เพิ่งจะมาถึงเพียงเท่านั้น  ถึงแม้จะไม่สดๆ ร้อนๆ เหมือนพวกเค้าแต่ก็นานกว่าเพียงไม่กี่วัน  แต่มีอยู่คนหนึ่งที่อยู่มาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้วและเลือกที่จะไม่สุงสิงกับใคร  พูดง่ายๆ คืออาจจะระแวงคลายกับนิวท์แต่มนุษย์สัมพันธ์แย่กว่าเค้ามาก

ชายหนุ่มที่เพิ่งมาใหม่กำลังเก็บเกี่ยวข้อมูลจากเพื่อนใหม่ที่มาถึงก่อนพวกเค้าต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแจนสันเดินเข้ามา แล้วไล่รายชื่อคัดเด็กส่วนหนึ่งออกไปพร้อมกันกับพวกการ์ด

“พวกเค้าไปไหนกัน?” มินโฮเปิดปากเป็นคนแรกหลังจากการคัดเลือกจบลง  คนที่ได้ไปดูมีความสุขและตื่นเต้น  สวนทางกับคนที่เหลือที่ได้แต่นั่งทานข้าวต่อไปและรอวันที่จะได้ถูกเรียกชื่อตัวเองของบ้าง

“ไกลจากที่นี่  พวกมากับดวง” เพื่อนใหม่ซึ่งรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ไม่มีชื่อตัวเองบอกเด็กชาวทุ่งที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วยกัน  บรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกเหมือนโรงอาหารในโรงเรียนไฮสคูลอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“คงจะเป็นฟาร์ม...ที่ๆ ปลอดภัยที่สุด  แต่ละครั้งพาไปได้แค่ไม่กี่คนเอง” อีกคนหนึ่งเสริมทัพให้  ทำให้พวกมาใหม่เข้าใจว่าทำไมพวกเค้าถึงได้รู้สึกเสียดายขนาดนั้น  ก่อนจะถึงเวลาแยกย้ายกันกลับห้องนอนและที่นั่นเองความระแวดระวังของนิวท์ก็เริ่มคลายปมลง ก่อนจะก่อขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อถูกปิดประตูใส่แถมล็อคเสียงดังสนั่นจนพวกเค้าดูเหมือนนักโทษไม่ผิดเพี้ยนไปจากตอนแรก

และเทเรซ่าก็โดนแยกออกไปในตอนที่พวกเค้าทานอาหาร  ข้อนั้นทำให้โทมัสที่คิดว่าเธออาจรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับเค้าว้าวุ่น  ตัวเค้าเป็นกังวลเกินไปจนนิวท์ดูเหมือนคนสบายๆ ไปเลย

“เธอดูแลตัวเองได้น่า” เพื่อนที่ได้รับหน้าที่ต่อมาจากอัลบี้ที่ตายไปแล้วว่าอย่างเบื่อหน่ายแต่ก็ทำเสียงเย็นชาไม่ลง ก่อนนิวท์จะปีนขึ้นไปบนเตียงนอนของตัวเอง

และในคืนนั้นเองที่ความไม่ไว้วางใจอย่างถึงที่สุดจะก่อตัวขึ้นมาในใจของโทมัส  เมื่อเด็กชายที่ไม่ใคร่จะยึดติดกับใครในโรงอาหารคนนั้นแอบเข้ามาในห้องนอนของพวกเค้าและพาโทมัสเข้าไปดูอะไรบางอย่างทางช่องระบายอากาศซึ่งเชื่อมโยงไปทั่วทั้งอาคาร

เด็กหนุ่มรูปร่างผมแห้งคนนั้นเรียกตัวเองว่า แอริส ท่าทางเค้าดูเหมือนพวกสอดแนมที่ไม่มีใครเอ๊ะใจรู้ว่าเค้าเป็น เด็กหนุ่มผอมแห้งนำทางโทมัสไปอย่างชำนาญไปยังทางเดินเข้าห้องๆ หนึ่งที่มีเด็กๆ ซึ่งถูกเลือกถูกลำเลียงเข้าไปในห้องนั้น

แต่ไม่ใช่ในสภาพที่จะดีใจได้

พวกเค้าสองคนไม่รู้ว่าห้องนั้นมีอะไร  และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกคนที่ถูกเรียกตัวไปนอนแน่นิ่งถูกผ้าคลุมอยู่บนเตียงแพทย์ติดล้อนั้นจะโดนทำอะไรบ้าง  แต่ก็ถือว่าเสี่ยงไม่น้อยที่แอริสยอมแบ่งปันข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูงนี้กับคนที่เพิ่งเข้ามาอย่างโทมัส พอมาถึงตอนนี้เด็กจากท้องทุ่งก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่มีใครสุงสิงกับแอริสและเจ้าตัวก็ไม่ยอมสัมพันธ์ไมตรีกับใครเลย  แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเพิ่งจะเข้ามาวันแรกแปลกใจเป็นอย่างมากก็คือทำไมคนที่เก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเจ้าเด็กแห้งนี่ถึงได้บอกความลับที่อาจโดนพวกผู้ใหญ่ไม่น่าไว้ใจนั้นจัดการเอา กับเค้า

“เพราะคนอื่นอาจจะยอมฟังนาย” แอริสพูดหลังจากหยุดชะงักไป  สีหน้าของเค้าดูคล้ายว่าโทมัสทำให้นึกถึงใครบางคนที่เคยเป็นที่เชื่อถือในหมู่เพื่อนพ้องมาก่อนและคำพูดนั้นของเค้าก็เป็นการตอกย้ำความรู้สึกนั้นกับแอริสได้เป็นอย่างดี

และสิ่งที่ได้เห็นก็ทำเอาเด็กหนุ่มจากท้องทุ่งนอนไม่หลับไปทั้งคืนด้วยความวิตกกังวลหวาดระแวง  โทมัสยอมรับว่าเค้าเป็นห่วงเทเรซ่า  นึกถามตัวเองในใจว่ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเค้าที่เธอยังไม่ได้บอกอีกไหมเพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ทำเหมือนว่าเคยรู้จักตัวตนของเค้าเป็นอย่างดีมาก่อน โทมัสมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ต้องถามเธอ หากเธอจำได้  เค้าอยากรู้ว่าเค้าเคยมีครอบครัวไหม  แม่ของเค้าเป็นอย่างไร  แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะยังไงซะเธอก็เป็นเพื่อนของพวกเราทุกคนและเป็นหนึ่งในสมาชิกของท้องทุ่งไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ก่อนคืนต่อมาเค้าจะกลับมาที่ช่องระบายอากาศที่เดิมอีกครั้งพร้อมกับ แอริส ผู้ที่พาเค้ามาในครั้งแรกและคีย์การ์ดจากยามที่โทมัสขโมยมาได้  พวกเค้าทั้งสองตัดสินใจกันเงียบๆ ว่าจะเข้าไปดูข้างในให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยว่ามีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่  และเด็กๆ ที่ถูกเลือกไปมีจุดจบเป็นเช่นไรในห้องแสนลึกลับนั่น

และพอแอริสกับโทมัสเข้าไปถึงก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น  เค้ารู้แล้วว่าเด็กๆ ที่ถูกแจนสันเรียกตัวไปอยู่ที่ไหนกันหมดและสุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไร มันน่าพรั่นพรึงอย่างมากมายกว่าที่ใครต่อใครในหลุมหลบภัยที่คิดไปเองว่ามันปลอดภัยนี้จะนึกออกได้  และในตอนนั้นเองโทมัสกับแอริสก็ได้เห็นแจนสันกำลังคุยอยู่กับผู้หญิงที่จับพวกเค้าขังเอาไว้ในวงกต........

ไม่...ไม่ดีแล้ว  เค้าต้องรีบไปเตือนทุกคน!

“ต้องหนี...เราต้องหนีเดี๋ยวนี้  เร็วเข้า!” โทมัสแทบจะไถลตัวมาตามทางช่องระบายอากาศ  สาบานได้ อันที่จริงเค้าก็ทำมันไปแล้ว  ไม่สนใจด้วยว่าเสียงตะกายของตัวเองจะไปทำให้ยามหรือใครก็ตามแต่ที่จับพวกเค้ามาขังไว้จะรู้ตัวหรือไม่  ทันทีที่หน้าอกเค้าไถลเข้ามาในห้องที่เพื่อนๆ เดินไปเดินมาอย่างกังวล เป็นห่วงว่าเค้ากำลังจะหาเรื่องอะไรใส่ตัวอีกก็ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นเมื่อโทมัสแสดงอาการตื่นตัวอย่างสุดขีดและบอกให้พวกเค้ารีบหนี

ทุกคนโวยวาย  โต้เถียงกันกับโทมัสที่โผล่มาพร้อมกับแอริส  แม้แต่เด็กผอมแห้งก็ยังโดนบีบเอาคำตอบด้วย  ทุกคนไม่มีใครเงียบเลยยกเว้นมินโฮที่ไม่อยากทำให้สถานการณ์ดูแย่และบีบคั้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว  ก่อนจะจบลงด้วยคำถามที่มีเหตุหลและดื้อดึงจะเอาคำตอบของนิวท์

เอวา!” โทมัสสุดกลั้น เค้าระเบิดออกด้วยความพรั่นพรึง...ทุกคนต้องรีบออกไปจากที่นี่

เพื่อนๆ ของเค้ามึนงง

พวกวิกเก็ต  แจนสันเป็นพวกเดียวกับเธอ เค้าเป็นพวกวิกเก็ต” เค้าพูดในตอนที่แจนสันกำลังเดินทางมายังห้องของพวกเค้า...เวลามีไม่มากแล้ว  หากจะหนี พวกเค้าก็ต้องหนีเลยเดี๋ยวนี้

นิวท์ถามอย่างดึงดันอีกจนโทมัสยอมหยุดกระตือรือร้น....คนที่ได้รับความนับถือต่อจากอัลบี้จำเป็นจะต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคนที่ไปเห็นทุกอย่างมาจะบอกว่าในห้องนั้นมีแต่เรื่องน่าขยะแขยงมากแค่ไหน  ตัวประหลาดในหลอดทดลอง  คนถูกแขวนอยู่ในถุง  และแจนสันที่เป็นวิกเก็ตกำลังคุยอยู่กับ เอวา   เพจ ที่หน้าใหญ่กว่าคนปรกติถึงห้าเท่าในจอโฮโลแกรม

และพอมาถึงตอนนี้ทุกคนก็พร้อมใจกันหนี  ไม่รอช้าที่จะไถลตัวไปตามช่องระบายอากาศให้เร็วที่สุดและออกไปจากที่บ้าๆ ที่ไม่ต่างไปจากท้องทุ่งนี่เสียที  ก่อนแอริสจะแยกตัวออกไป  เค้าบอกว่าถ้าอยากออกไปจากที่นี่ให้ได้ต้องปล่อยให้เค้าไปทำเรื่องสำคัญ  วินสตันตามแอริสไป  พวกเค้าแวะไปรับตัวเทเรซ่าตามคำยืนกรานของโทมัส 

ทุกคนวิ่ง  วิ่งไปเหมือนตอนที่พวกเค้ายังอยู่ในทุ่งวิ่งหนีโศกากันอุตลุด  แต่กลับเป็นพวกที่เป็นคนด้วยกันที่ถือปืนไล่ตามพวกเค้าและมีจุดประสงค์ซึ่งน่ากลัวกว่าโศกามากมายนัก  หนทางของเด็กทุ่งถูกบีบให้หดแคบลงเมื่อเจอทางตันและแจนสันก็ตามมาทันจนได้ คนถือปืนช็อตไฟฟ้าที่มาด้วยกันทำให้ความรู้สึกปลอดภัยของเด็กๆ ติดลบลงไปทันที  ทางตันซะแล้ว...แล้วไงล่ะ?  หลังจากที่ได้ไปเห็นว่าอะไรเกิดขึ้นในห้องนั้นแล้วโทมัสก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้พวกเค้าถูกจับได้แน่นอน  จะยังไงก็จะสู้จนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง

เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญถือปืนที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้าไปหาแจนสันกับพวกท่ามกลางเสียงร้องห้ามปรามของมินโฮ  ซึ่งเค้าไม่ฟัง  เพื่อนทุกคนเป็นครอบครัวเดียวที่เค้ามีอยู่  โทมัสต้องการกันให้พวกผู้ใหญ่ความคิดน่ารังเกียจพวกนี้ออกห่างจากเพื่อนของเค้าด้วยใจรู้ว่าแจนสันจะไม่ทำอะไรกับเด็กๆ ที่สำคัญอย่างล่ำค่าแน่นอน  พวกเค้าดูเหมือนยังมีข้อต่อรองแต่ทว่ากลับหมดหนทางหนี

แต่ทันใดนั้นประตูบานสุดท้ายก็เปิดออก  เด็กที่ติดแหง็กอยู่กับทางตันตกตะลึงเมื่อเจอแอริสกับวินสตันอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของประตูแล้วทักทายปนเหนื่อยหอบว่า “เฮ้ พวก”  กระทั่งเมื่อเห็นทางหนีทีไล่ของผลผลิตที่จวนเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้วแจนสันก็เคลื่อนตัวเข้าไปหาเด็กๆ จากท้องทุ่ง  โทมัสเป็นคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลือยู่  ระบบรีบู้ทใหม่แล้วและประตูกำลังจะปิดลง  เด็กชาวทุ่งคนนี้จึงต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เค้าพอจะทำได้  ประตูบีบตัวลงกับพื้นใกล้ปิดลงแล้วสำหรับโทมัส แต่โชคดีก็เป็นของเค้าอีกครั้งเมื่อแจนสันกับพวกถูกทิ้งไว้หลังประตูที่ปิดสนิทแถมล็อคปิดตายนั่นโดยที่ไม่สามารถทำอะไรพวกเค้าได้เลย

ก่อนพวกเค้าจะออกมาจากที่มั่นนั้นและออกไปเผชิญหน้ากับทะเลทรายที่เต็มไปด้วยความหฤโหด  กระทั่งเจอตัวอาคารที่สามารถเข้าไปหลบวิกเก็ตกับลมกระโชกที่หอบเอาทรายเข้าปะทะหน้าอย่างโหมกระหน่ำได้  และสิ่งที่โทมัสได้ไปพบเห็นมาก็ถูกขยายความให้เพื่อนๆ ได้ฟังอีกรอบในที่นั้นเองก่อนทุกคนจะตระหนักรู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยที่จะย้อนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง

ก่อนแอริสจะเอ่ยถึงพวกไรต์อาร์ม เป็นกลุ่มต่อต้านวิกเก็ตที่อยู่บนเขาและมักจะพาเด็กๆ ไปยังที่ปลอดภัยที่สุด  ใช่ นั่นเป็นสิ่งที่ฟังดูดีที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์แบบนี้  พวกเค้าต้องไปหาพวกไรต์อาร์ม แต่นิวท์ก็ยังไม่วายโต้แย้งถึงหลักประกันความปลอดภัยของพวกเค้าอีกอยู่ดี

แล้วยังไงล่ะ?  มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้วหรือยังไง ถ้ากลับไปหาวิกเก็ตพวกเค้าก็เหมือนตายอยู่ดี  เพราะฉะนั้นทุกคนจึงเดินหน้าต่อไปสำรวจที่รกร้างแห่งนั้นและพบเข้ากับร่องรอยของการอยู่อาศัยที่หลายคนตั้งคำถามว่าผู้คนหายไปไหนกันหมดแล้ว?

คนที่เคยอยู่ที่นี่ไม่ว่าพวกเค้าจะไปอยู่ที่ไหนแต่ก็มีไฟฟ้าใช้กัน  นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกสังเกตเห็นและมินโฮคิดผิดที่ไปเปิดเครื่องสำรองไฟนั่น.....

ไฟติดไปทั้งอาคารและส่องสว่างขจัดความมืดในตอนที่ฝูงแครงค์ก็ลุกฮือ.....

ไป! ไปๆๆๆๆ!” มินโฮกระชากโทมัสอย่างเร็วรี่และใส่เกียร์เต็มฝีเท้าโดยไม่ต้องให้ทวนสถานการณ์ซ้ำ  แครงค์หลายตัววิ่งตามทั้งคู่มาและมีตามมาสมทบมากขึ้นทุกที  ก่อนเพื่อนๆ ที่รวบรวมข้าวของที่พอจะใช้ได้อย่างระมัดระวังอยู่อีกที่หนึ่งจะเจอสองคนนั้นวิ่งกระหืดกระหอบเลยหัวมุมออกมา

“หนีวิ่งเร็วเข้า  วิ่ง!

“อะไรน่ะ?” นิวท์เอ่ยงึมงำ  ในขณะที่แอริสยื่นคอออกมาดูพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ มินโฮกับโทมัสดูเหมือนเสียสติไปแล้วจากการโดนวิกเก็ตหลอกหลอน  แต่เพื่อนที่ยืนเกาะกลุ่มอยู่ก็ได้คำตอบที่ตรงใจในนาทีนั้นเองเมื่อฝูงแครงค์วิ่งตามเพื่อนสองคนมาตามทางเดินราวกับสัตว์ป่าที่กระหายเลือด

“โอ้ ให้ตายเถอะ...พวกเราวิ่ง!



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------------


โอ้ วิ่ง! วิ่งเร็วเข้าทุกคนวีงงงงงง!! >[]<  แฮ่กๆๆ แครงค์ออกมาแล้วค่ะ  ไอ้พวกบ้าพวกนั้นน่าแขยงมากเลยค่ะ ยิ่งฉากที่กินหนูแล้วไรท์นี่หุบปากส่ายหน้าเลยค่ะ.....อะไรจะอดอยาก....อึ๋ยย  โอ้ พระเจ้าช่วย พวกเค้าออกมาจากที่นั่นได้แล้วค่ะและต่อไปจะเป็นอย่างไร  พวกเค้าจิทำอย่างไรต่อไป(ในฟิคของไรท์)  จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม(ในฟิคของไรท์)  รีดคิดไม่ถึงเพราะมันเป็นฟิคของไรท์นี่แหละค่ะ 5555  ชอบทะลึ่งเขียนนอกเรื่อง 55555

แต่เคืองเทเรซ่าอ่ะ  ชริๆๆๆๆๆๆ  อันที่จริงอยากเขียนให้นางหัวเน่าไปเลย (หมายถึงไม่มีใครสนใจนะคะ  อุปมาอุปไมนะคะ  ไม่ได้หัวเน่าจริงๆ 55555)  แต่ว่าเด็กทุ่งของเราไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำเนอะก็เลยต้อง อ้ะๆๆ ตามน้ำไปแล้วกัน เทเรซ่าเธอก็เป็นคนที่พวกเค้าเห็นว่าเป็นเพื่อนเหมือนกันนะ เดี๋ยวตอนจบค่อยมาเจอไรท์อีกทีหนึ่งล่ะกันเนอะ ในตอนที่เธอเผยธาตุแท้แล้วอ่ะ 5555555  เจอกัน!! เฮื้อออ  ไรท์ไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงในฟิควายซะด้วยสิคะ 5555555

ในความคิดของผู้หญิงในฟิควาย ไรท์จัดว่าน่าสะพรึ่งค่ะ 5555555  โอยยยย ฝอยยาวอีกและ  ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร เรื่องจะดำเนินต่อไปและเกิดอะไรขึ้นต้องติดตามชมกันคะ ><   คิดถึงรีดทุกๆ ท่านมากเลยค่ะ  คอนเม้นท์กันหน่อยนะเออ  ปู้ววววววววว

อ้อ เกือบลืม  แปะเฟสค่ะ 5555 >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เข้ามาติดตามข่าว (ว่าไรท์ยังไม่ตาย) พูดคุย หรือจิกให้กำลังใจตามฟิคของไรท์ได้ค่ะ TUT 555555  รักรีดนะค้าาา >////<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




1 ความคิดเห็น:

1321 กล่าวว่า...

ความจริงไรท์น่าจะแต่งให้เทริซ่าไม่ต้ิองมากับโทมัสก็ได้นะคะ 55555555 หั่นนางเหมือนกัน ไม่ชอบเลยอ้ะ
ยังไงโทมัสก็ไม่เลือกเทอหรอกเทเรซ่า เขามีมินโฮแล้ว 555