วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

[Fic For Jared Leto] + [Part 3] Stalker Joker – Jared Leto x XXX



มาแล้วค่ะรีดๆ ขาาา >0<  ฮาาาา  รู้ตัวหายไปนาน 5555 //หัวเราะแห้ง//  ขอโทษนะคะที่หายไปนาน  ตอนนี้งานหนักมากจริงๆ ค่ะ  คิดจะมาก็มาไม่บอกไม่กล่าวเลยค่ะ เฮ้อออ  ยังไม่จบมิดเทอมเลยค่ะ  อ๊ากกกกกกก  //เอาหัวทุบโต๊ะ//

และวันนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรที่ไรท์จะลงฟิคของจาเณ้ดคนสวยของเราได้แล้วเสียค่ะ >///<  //ลุกขึ้นมาเอาพลาสเตอร์แปะหัว// อร๊ายยยยยยยย!! ผะ ผะ ผู้ชายคนนั้นเค้า....!!  อร๊ายยยยย  จาเร็ด  จาเร็ดฟื้นสิคะฟื้น!!  //อันที่จริงถึงฟื้นมาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี  ทุกอย่างมันก็จะเป็นไปตามแผนของเค้าคนนั้นเลยล่ะนะ//  ฮ๊ากกกกกกก  เรื่องมันชักจะ....ไรท์ไม่สามารถพูดต่อไปได้ค่ะ เพราะ Nc ไม่มีคำอธิบายใดๆ ค่ะ 55555

งั้นเอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยเนอะ  ไปกันเลยค้าาา >////<  อย่าเอาใจจาเร็ดกันด้วยนะคะ


ผมทรงนี้ของเค้าเป็นอีกหนึ่งในทรงโปรดที่ไรท์ชอบค่ะ 555555  เข้ากับจาเร็ดมากเลยค่ะ  





งืออ ช่วงนี้ไม่ได้นอน  ตาแดงเลยค่ะ 5555  ชอบเค้าแต่งตัวออกไปข้างนอกจังค่ะ 55555



ออกไปห่างๆ นะคานเย่! ><  อย่าแตะจาเร็ดเยอะ  ไปยุ่งกะคิมนู่นนน







-------------------------------------------------------------------------------------



มันดูดีมากเมื่ออยู่ในก้นของจาเร็ด  แล้วทีนี้ผมก็แค่รอให้เค้าฟื้น



.



.



.



ความรู้สึกมึนตื้อคล้ายวิงเวียนแล่นเข้ามาทำร้าย  มันเจ็บปวดแต่ก็เบาบางมากพอที่จะข่มความรู้สึกนั้นไว้  แต่ไม่เพียงเท่านั้นร่างที่จำได้ว่านอนพักอยู่บนเตียงของตัวเองในบ้านที่เป็นของเค้าและมีน้องหมาน่ารักๆ เพียงห้าตัวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อน กลับรู้สึกเจ็บปวดที่ข้างล่างด้วยราวกับว่ามีบางสิ่งแทรกตัวเข้ามาและเนื้อของเค้าก็ฉีกขาดไป......บ้าสิ จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน ก็เค้าอยู่คนเดียวนี่นา

“อึ อือ” เสียงอุทานเมื่อตื่นเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากคู่บางสีชมพูระเรื่อ  จาเร็ดขยับตัวและพบว่าตัวเองไม่ได้ขยับแขนขาบนผ้าปูที่นอนอีกต่อไปแล้วอีกทั้งยังรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกอีกด้วย

“อ่าา” เจ้าตัวนิ่วหน้าเพราะความเจ็บแปลบที่แล่นเข้ามาทำร้ายโสตประสาท  ร่าบางพยายามขยับแขนขาแต่ลุกขึ้นไม่ได้ “อะไรกัน...” และแล้วเสียงหวานงัวเงียนั้นก็หยุดไปเมื่อพบคนที่นั่งอยู่ข้างตัวเค้า

“เฮ้  นายเป็นใครน่ะ...โอ๊ย!

“โอ้ อย่าเพิ่งขยับสินั่นมันจะทำให้คุณเจ็บมากนะ” เสียงทุ้มนุ่มของอีกคนหนึ่งว่าอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าจาเร็ดกลับรู้สึกแปลกพิกล  กระทั่งเจ้าตัวมองเห็นสภาพตัวเองในตอนนั้นจึงร้องโวยวายออกมา  ร่างบางตะโกนด่าทอ ตั้งคำถาม  และดีดดิ้นหวังสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากเชือกที่ส่งเสียงอี๊ดอ๊าดแต่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บอย่างไม่น่าเชื่อนั้น

“โว้วๆๆ คุณอยากให้ข้างบ้านโทรแจ้งตำรวจเหรอ?”

“มาจับแกไง!” ร่างบางขู่ฟ่อ

“แล้วเห็นคุณน่ะเหรอ  หึๆ ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นแน่  จริงไหม?

“ให้ตายเถอะ แกต้องการอะไร?!” ร่างบางตวาด กำลังคิดในใจว่าคนที่ไม่รู้จักตรงหน้านี้อยากจะแบล็คเมย์เค้าหรือเปล่า “ปล่อยฉัน!” เค้าสะบัดขาอีก ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดูดดุนอยู่ข้างในตัวเองและความชุ่มแฉะที่มีบางอย่างไหลย้อนออกมาจากด้านหลังของเค้า

“ผมไม่ได้ต้องการอะไร” เสียงนั้นกล่าวเรียบๆ ราวกับว่าจาเร็ดไม่ได้ถูกมัดและแก้ผ้าอยู่

“แล้วแก...”

“และเฮ้...” ชายหนุ่มร่างสูงปริศนาที่เปิดหน้าตาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรนั้นเอ่ยขัดขึ้นด้วยโทนเสียงเดิม “คุณ...ช่วยใช้คำสุภาพกับผมดีๆ หน่อยได้ไหม  ผมรู้ว่าคุณจะฉลาดพอ” เค้ายกยิ้มและกอดอก ดูเหมือนกำลังรับลมอยู่ที่บ้านพักต่างอากาศของตัวเอง

ร่างบางทำหน้าผงะ  เส้นเลือดบนหัวเต้นตุ้บๆ เพราะความไม่พอใจ  ขบคิดในเวลาอันรวดเร็วถึงแนวโน้มที่คนตรงหน้านี้จะทำอะไรต่อไปกับตัวเองบ้างก่อนจะกัดฟันกรอด “แล้วนายทำแบบนี้ทำไมมิทราบยังงั้นเหรอ?” จาเร็ดกระแทกเสียงแล้วด่าร่างสูงที่ก้มลงมาคร่อมเจ้าตัว

“เดี๋ยวคุณก็รู้  ผมจะบอกคุณ” ชายหนุ่มหมายถึงการกระทำทางร่างกายที่เค้ากำลังจะมอบให้  ร่างของผู้ชายที่เพรียวบางซึ่งกำลังดิ้นเร่าให้หลุดพ้นจากพันธาการอย่างแผงแววของความขลาดกลัวนั้นช่างปลุกเร้าอารมณ์เค้ายิ่งนัก  เป็นเพราะจาเร็ดด้วยกระมังที่ทำให้เค้ารู้สึกอยากได้จนหน้ามืดตามัวขนาดนี้  ร่างสูงทาบฝ่ามือลงไปที่ข้างแก้มสั่นๆ ของจาเร็ด  นิ้วโป้งของเค้าแตะอยู่บนริมฝีปากที่สั่นไม่แพ้หน้าของอีกฝ่าย  ดวงตากลมโตสีฟ้ากระจ่างสวยเบิกกว้างจ้องใบหน้าที่เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างหวาดวิตก

ร่างสูงเกลี่ยนิ้วไปตามเรียวปากสีน่าประทับใจนั้นช้าๆ ราวกับตกอยู่ในภวังค์  ก่อนเค้าจะโน้มหน้าลงไปจูบกับเจ้าของริมฝีปากคู่นั้นอย่างอดใจไม่ไหว  ความอดทนถูกฉีกกระชากออกในตอนที่ชายหนุ่มได้สัมผัสกลีบปากและได้ลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากชื่นแฉะแต่ให้ความรู้สึกดีนั้นเอง  เค้าจาบจ้วง  ดูดดึง  และควานลิ้นไปทั่วราวกับคนขาดสติแต่ทว่ากลับทำให้คนที่พอมีประสบการณ์อยู่บ้างไม่สามารถปฏิเสธหรือทำการขัดขืนใดๆ ได้เลย

......เค้าเก่ง  เก่งมาก  เก่งเสียจนจาเร็ดปฏิเสธไม่ได้เลย......

ชายปริศนาจูบหนัก มีหลายครั้งที่เค้าบีบแก้มให้อีกคนหนึ่งยอมอ้าปากให้กว้างขึ้นจากความไม่ยินยอมพร้อมใจและก็มีอยู่หลายครั้งเช่นกันที่จาเร็ดเผลอจูบตอบไปด้วย

ให้มันได้อย่างนี้สิ! หมอนี่มันจะเก่งไปไหนนะ......ร่างบางสบถในใจเพราะความหนักหน่วงแต่ทว่าอ่อนโยนอย่างน่าประหลาดใจของอีกคนหนึ่ง  เจ้าตัวอยากที่จะสะบัดหน้าหนีแล้วถ่มน้ำลายใส่คนที่บุกเข้าบ้านแล้วมัดเค้าไว้บนเตียงด้วยสภาพน่าอายเช่นนี้เสียจริง  แต่กลับไม่รังเกียจลิ้นอุ่นร้อนที่เข้ามาเล่นสนุกอย่างแผลงพิเรนทร์ในปากเลย

ไอ้บ้านี่มันเป็นใครกัน!

ร่างสูงผละจูบออกมา  มีเสียงดังเกิดขึ้นก่อนปากของจาเร็ดจะบวมเจ่อ  การกระทำที่จาบจ้วงและปุบปับนี้ทำให้ร่างบางด้านล่างเก็บอากาศหายใจไม่ทันจึงทำให้เจ้าตัวหน้าชาเห่อและนอกจากน้ำลายที่ไหลเปรอะไปทั่วแล้วยังมีน้ำตาคลอล้นออกมาจากหางตาคู่สวยนั้นอีกด้วย  ชายนิรนามยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าให้ช้าๆ เลื่อนนิ้วไปเกลี่ยใบหน้าของอีกฝ่ายหนึ่งอีกครั้งแล้วก้มลงละเลียดเช็ดน้ำใสๆ ที่เค้าทำหกออกมาจนสะอาดสะอ้าน

“ปล่อยฉัน!” จาเร็ดดิ้นอีกครั้ง  หน้าแดงจากการถูกปล้นจูบและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเองก็ตอบรับ  ชายที่อยู่บนร่างบางๆ นั้นหัวเราะในลำคอแล้วทำหน้าระรื่นเหมือนตัวเองไม่ได้ทำเรื่องผิดอยู่

“ผมไม่อยากให้มันจบเร็วนักหรอกนะ  แค่จูบเสร็จครั้งเดียวคุณก็จะถอนตัวแล้วเหรอ?”

“ไม่...โอ้ ให้ตายเถอะ! ใครเชิญให้นายจูบฉันแต่แรกกัน” ร่างด้านใต้ตวาดใส่

“ไม่มีหรอก” เค้ายิ้มอีก “แต่คุณก็จูบเก่งใช้ได้เลยนะเมื่อกี้นี้น่ะ”

จาเร็ดดิ้นอีก สะบัดหน้าออกจากนิ้วเรียวยาวที่เกลี่ยแก้มของเจ้าตัวเล่นราวกับเด็กๆ

“ผมคอยอยู่ข้างหลังคุณมาตลอดเลยรู้ไหม  เฝ้ามองคุณโดนที่คุณไม่รู้ตัวเลย  ผมอยู่ข้างหลังคุณมาตลอดและตอนนี้ก็...” ร่างสูงลูบไปที่เซ็กซ์ทอยของเค้า  ร่างบางที่สะดุ้งเฮือกจนตัวสั่นก็ดิ้นอีก ใบหน้าของเจ้าตัวเมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าอะไรอยู่ด้านหลังก็พลันพรั่นพรึงขึ้นมา  จาเร็ดหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัดเค้าส่ายหน้าไปมาและพยายามปลอบใจตัวเองด้วยคำโกหกในความนึกคิด

“อย่านะ...เฮ้ นี่ ฉันเป็นผู้ชาย” เค้าบอกช้าๆ แต่เป็นเพราะความกลัวไม่ใช่ความสุขุม

คนตรงหน้าแสยะมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วแทรกนิ้วเข้าไป  มันเข้าไปไม่ได้เพราะแค่มีของปลอมนั่นก็คับแน่นจะแย่อยู่แล้ว ร่างสูงยังไม่ได้เอานิ้วออกมาแต่ก็ไม่ได้ดึงดันไปต่อด้วยเช่นกัน แต่ร่างบางกลับดิ้นขลุกขลัก  นึกอยากจะขยับร่างกายแต่ก็ทำไม่ได้จึงได้เพียงแค่ตะโกนด่าทอสาปแช่งอีกคนหนึ่งไปพลางๆ เท่านั้น

จาเร็ดทำเป็นปากเก่ง  แต่ร่างสูงก็รู้ว่าคนสวยของเค้าก็ทำได้เพียงแค่พูดเท่านั้นถึงแม้จะไม่ได้ถูกผูกมัดอยู่จาเร็ดก็สู้เค้าไม่ได้อยู่fuเพราะด้วยขนาดตัวที่ต่างกว่ากันมาก หากจะใช้กำลังปลุกปล้ำยังไงเค้าก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดี  แต่เฮ้......นั่นมันจะไปสนุกอะไรล่ะ  ไม่เห็นจะสนุกเลยสักนิด  ร่างสูงไม่อยากทำให้คนพิเศษของตัวเองต้องเจ็บ  ให้มีตำหนิบนร่างกายแม้แต่นิดเดียวเค้าก็ไม่เห็นด้วยดังนั้นมัดเอาไว้แบบนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

......เค้าจะได้เลียผิวขาวๆ และเนียนสวยนั้นได้อย่างถนัด......

คนด้านใต้เอาแต่ร้องประท้วงพร้อมทั้งด่าทอด้วยความไม่พอใจแต่ร่างสูงกลับมองว่ามันน่ารัก  เค้าชอบเสียงของจาเร็ดจึงปล่อยให้อีกคนหนึ่งทำแบบนั้นต่อไปส่วนตัวเค้าก็ย้ายมาคุกเข่าอยู่ตรงสะโพกของร่างบางที่ถูกอ้าออกกว้างจนเห็นปลายเซ็กซ์ทอยซึ่งโผล่ออกมา

ร่างสูงถอดเสื้อในตอนที่จาเร็ดตะโกนถามเค้าว่าถอดทำไม!

และในตอนนั้นเองที่กล้ามเนื้อเป็นมัดอย่างสวยงามซึ่งถูกซ่อนรูปไว้ภายใต้เสื้อยืดสีดำเข้มได้ถูกเปิดเผยสู่สายตาของร่างบาง  เจ้าตัวจึงเงียบเสียงลงได้เสียทีเพราะความคาดไม่ถึง  ไม่นึกเลยว่าจะตัวใหญ่ขนาดนี้หากต้องสู้กัน บางทีร่างบางอาจไม่สามารถเอาชนะได้   ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องจริง

ร่างสูงไม่ได้ฟังคำพูดของคนด้านใต้เลยสักนิด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเงียบเสียงลงแล้วแต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพื่อเอ่ยชมที่ให้ความร่วมมือเป็นเด็กดี  ชายหนุ่มคร่อมแขนอยู่เหนือร่างที่เริ่มจะกลับมาสั่นกลัวอย่างประวิงหัวใจ ก่อนคนที่วาดยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ตลอดเวลานั้นจะก้มลงใช้ลิ้นของตัวเองตักตวงความกระจ่างและอ่อนนุ่มของคนอื่นดั่งใจคิด  ชายร่างสูงสำรวจไปทั่วและไม่ลืมที่จะทิ้งร่องรอยของความเป็นเจ้าของเอาไว้ด้วย

ร่างบางที่เอาแต่ร้องและพ่นคำไม่พอใจตั้งแต่แรกก็เริ่มเสียงอ่อนลงและเกิดความไม่เข้าใจขึ้นกับตัวเองอย่างยิ่งยวด  ไฉนเลยเมื่อเค้าตะโกนปาวๆ ว่าตัวเองเป็นผู้ชายแถมจะบอกว่าชอบผู้หญิงอยู่นัยๆ จะต้องตัวสั่นไหวกับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นเพียงแค่โจรโรคจิตบัดซบคนนี้ด้วย  ลิ้นร้อนนั้นตวัดเลียไปทั่วราวกับสัตว์เลี้ยงไม่มีเจ้าของ  มันลากผ่านแอ่งชีพจรของร่างบาง ร่างบางก็สั่นพร่าราวกับสาวน้อยแรกแย้มที่โดนปลุกเร้า

มันช่างง่ายเหลือเกิน  ง่ายดายเกินไปหากจะบอกว่าคนที่ดิ้นเร้าอยู่นั้นคือชายที่เคยคบหญิงสาวสวยมาแล้วนับไม่ถ้วน  ร่างสูงผู้กระทำลูบไล้ไปตามเนินและลาดผิวอย่างหลงใหลพร้อมทั้งยังคิดอีกว่าร่างบางของเค้าไม่ประสาเอาเสียเลย เมื่อรับรู้ถึงความสั่นไหวและเสียงครางน้อยๆ ที่เล็ดรอดออกมาจากปากของจาเร็ดนั้น

แพขนตาหนาที่เรียงตัวสวยบดขยี้ปิดลงกับเปลือกตาอยู่เกือบตลอดเวลา  มันไหวระริกอยู่บ่อยครั้งเมื่อคนด้านบนลากลิ้นไปทั่วอย่างถือวิสาสะราวกับว่าเป็นเจ้าของร่างกายนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรซึ่งมันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย  และร่างบางมักจะหายใจสะดุดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสร้างรอยจูบของร่างสูง

......ช่างถือวิสาสะและน่ารังเกียจ......

นั่นสิ  จาเร็ดควรเกลียด  ควรรู้สึกแย่มากกว่านี้  แต่ความรู้สึกแปลกออกไปนี้มันคืออะไรกัน?  ความรู้สึกวาบหวามจนรู้สึกเจ็บในอกและทำให้รู้สึกจั๊กจี้ไปหมด  ความร้อนที่พาให้รู้สึกร้อนไปด้วย  ความเปียกชื่นและเสียงจูบที่ทำให้ไม่อาจต่อต้านได้  และความรู้สึกดีเสียจนสมองขาวโพลน  สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้หัวใจของร่างบางกระตุกรัวราวกับโดนเครื่องจั้มพ์หลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน

ร่างสูงได้โลมเลียละเลียดคนตรงหน้าสมใจของเค้าแล้ว  มือใหญ่สอดเข้าไปสัมผัสเส้นผมไร้การจัดแต่งที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นก่อนจะจับให้จาเร็ดเอียงคอแล้วพรมจูบซอกคอขาวนั้นอย่างหื่นกระหาย  การกระทำของร่างสูงดูบ้าคลั่งแต่ร่างบางกลับเงียบเสียงด่าทอลงไปโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยเช่นกัน  เสียงเสียดสีของเนื้อหนัง  การพรมจูบที่ทำให้เกิดเสียงเฉอะแฉะ  เสียงลมหายใจที่หอบดังขึ้นอย่างเร้าร้อนทรมาน  และรวมทั้งเสียงถอดกางเกงของร่างสูงดังปนรวมกันคล้ายกับสถานการณ์ในห้องนั้นจะไม่มีวันสงบลงเลย  เมื่อพายุแห่งความต้องการซัดโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วงและคนก็อ้าแขนรับมันไว้อย่างเต็มแรงด้วยตัณหาของเค้าที่มีทั้งหมด

ข้อมือสวยของจาเร็ดขึ้นรอยแดงแล้วจากการดิ้นเมื่อก่อนหน้านี้ รวมทั้งการปล่อยให้ล่วงเวลาหยอกล่อที่นานเกินไปของร่างสูง นั่นจึงทำให้ทั้งสองคนไม่ได้สนใจเชือกเนื้อละเอียดที่กำลังบาดผิวของร่างบางอย่างช้าๆ เลยแม้แต่น้อย  ซึ่งจะอย่างไรก็ตามความสนใจของพวกเค้ากำลังอยู่ที่รอยจูบสุดท้ายของร่างสูงที่ทิ้งมันไว้ในโพรงปากหวาน  เสียงดังขึ้นจากการแลกลิ้นซึ่งเกิดจากการชักนำของร่างสูงนั้นช่างพาให้รู้สึกจะขาดใจเสียจริง  เค้าลากลิ้น หยอกล้อไปทั่วทำราวกับว่าจาเร็ดเป็นเพียงแค่เด็กน้อย

ร่างบางนึกฉุนขาดอย่างเสียไม่ได้ อยากจะกัดลิ้นที่ทำเป็นได้ใจของอีกคนหนึ่งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อยู่ดี......มันเป็นเพราะอะไรกัน?  ความงุนงง  ตื่นตระหนกหรือตื่นตกใจเหรอ?  นั่นอาจจะใช่  ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่ถูกย่ำยีอย่างไม่ได้รับความปราณีคิดเช่นนั้น

คนด้านบนถอนปากออกมา คนด้านล่างก็อ้าปากโกยอากาศตัวแอ่นเสียจนเหมือนคนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ “ฮา...ฮา” ร่างบางมองคนที่คร่อมค้ำตัวเองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะส่งเสียงและกระตุกข้อมือซึ่งถูกมัดของตัวเองอย่างประทัดประท้วง

“ปล่อยฉันไปป!” เค้าหลับตาตะโกนสุดเสียง  จะขอบคุณมากเหลือเกินหากมีใครสักคนเข้ามาช่วยเค้าไว้  แต่อีกคนหนึ่งกลับเพียงแค่ยิ้มแบบเดิมแล้วยื่นข้อเสนอน่ายั่วใจไปให้

“คุณลองว่าง่ายก่อนสิแล้วผมอาจจะลองคิดใหม่เรื่องปล่อยคุณ” จาเร็ดแว่วได้ยินเสียงหัวเราะ

“ไปตายซะ!” เค้าบอก “แกสนุกมากเลยรึไงห๊า!

คำถามแกมประชัดประชันนั้นทำเอาคนที่ยืดตัวตรงตาลุกวาว “ใช่ ผมกำลังสนุกเลย” เค้าบอก

และไม่บอกก็รู้ว่าเรื่องสนุกนั้นของร่างสูงคืออะไร  จาเร็ดเกร็งตัวแน่นและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการอันแสนหยาบคายนี้ไปให้ได้  แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์เพราะร่างบางถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา มีเสียงเล็กๆ หลุดออกมาจากลำคอขาวสวยในตอนที่เจ้าตัวดิ้นขลุกๆ อย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็เป็นได้เพียงแค่การทำตัวน่ารักๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้เอ็นดูเท่านั้น

“ไม่ต้องเอะอะไป  เดี๋ยวคุณจะได้ร้องแน่” ผู้ที่มีอิสระอยู่เต็มอ้อมแขนว่าก่อนจาเร็ดจะหน้าซีดเผือด  แล้วชายหนุ่มร่างสูงก็นวดนิ้วหัวแม่มือไปบนยอดอกซึ่งถูกอมจนช้ำแล้วของร่างบางอย่างบรรจง

“อ้าา!

“สีชมพู?” เค้าแกล้งอุทานเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นก่อนจะเลื่อนมือลงไปในส่วนที่อยู่ต่ำกว่าใต้สะดือของร่างบางผู้เริ่มมีน้ำตารื้น “ตรงนี้ก็ด้วย...สีชมพูน่ารักเชียว  ฮ่ะ ดูสิ มันสั่นอยู่ในมือผมด้วยล่ะ” ร่างสูงก้มลงกระซิบแนบหูขาวผ่องที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงระเรื่อของจาเร็ด

จาเร็ดหลับตาปี๋ นึกไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้นก่อนจะตะโกนออกไป “หยะ หยุดสักทีเถอะน่า! เลิกพูดบ้าๆ ได้แล้ว...ละ แล้วก็เอามือแกออกไปด้วย อย่ามาแตะของฉัน...อา อึก อื้ออ” แต่ในทันใดนั้นเองร่างบางก็สะดุ้งเฮือก ขบกัดริมฝีปากตัวเองแทบไม่ทัน

“หา อะไรนะ? ผมฟังไม่ค่อยถนัดเลย” ร่างสูงเงี่ยหูหลังจากที่ขยับมือที่กอบกุมมอบความอุ่นให้แก่จาเร็ดอยู่ด้านล่าง  และในตอนนี้เค้าก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  แกนกายที่สั่นระริกเพราะถูกเร้าด้วยความกลัวขยายขึ้นและร้อนขึ้นมา

“ฮึก อา...อึก” คนถูกกลั่นแกล้งหันหน้าไปซบกันหมอนใบฟู  ร่างสูงจึงก้มลงจูบแอ่งชีพจรเพื่อแต่งแต้มงานศิลปะด้วยลิ้นของเค้าอีกครั้ง  ชายหนุ่มไล่ริมฝีปากไปทั่วลำคอสวยเรื่อยไปยังบ่าที่เชื่อมอยู่กับหัวไหล่มน  เสียงจูบดังขึ้นพอๆ กับเสียงกักเก็บอย่างทรมานของคนด้านล่าง......ร่างบางเคยทนไหว  เคยไม่รู้สึกเมื่อตัวเองไม่อยากรู้สึก แต่ทว่าทำไมเมื่อบอกว่ารังเกียจปากและมือคู่นี้แล้วร่างกายของเจ้าตัวถึงไม่ยอมฟัง  มันกระส่ำเร้าและเต้นตุ้บๆ ด้วยความอยากตอบสนองอีกคนหนึ่งราวกับว่าเต็มใจที่จะมีเซ็กซ์ด้วย

ไม่! นี่ต้องมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่เพราะประสบการณ์ของหมอนี่ ร่างบางก็คงต้องโดนวางยาอย่างแน่นอน......จาเร็ดตัวสั่นและเริ่มหายใจไม่เต็มปอด

“อ้าปากสิ  ร้องออกมา  ถึงเวลาที่คุณต้องร้องแล้วอย่าทรมานตัวองไปเลย”

“หุบปากไปเลย! แกนั่นแหละที่...อ้า! อ่าา อือ อ๊ะ” ร่างบางตัวสั่นกระตุก

“ผมบอกแล้ว” ร่างสูงทำหน้าพอใจเหมือนผู้ใหญ่ที่ได้รับความพึงใจจากเด็กหัวรั้น และมือของเค้าก็ขยับเร็วขึ้นพร้อมกับออกแรงบีบแรงขึ้น “เห็นไหม...ดูคุณจะชอบมันนะ”

กล้ามแขนของท่อนแขนเล็กๆ นั้นหดเกร็งจึงขึ้นรูป ดึงรั้งเชือกที่มัดตัวเองไว้จนมันขึงเป็นเส้นตึง  ใบหน้าสวยที่ถูกล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีสลวยนั้นก็พยายามหันไปทางอื่นอย่างไม่ยอมรับร่างสูงที่กำลังปลุกปั่นเค้า  และนั่นยิ่งทำให้คนที่มองดูอยู่วาดยิ้มขึ้นสูงเสียจนกลายเป็นแสยะ....เค้าชอบเสมอเมื่อจาเร็ดของเค้าทำตัวดื้อดึง  ดังนั้นร่างสูงจึงก้มลงขบกัดยอดอกสีสวยนั้นอย่างตั้งหน้าตั้งตา และใช้อีกมือหนึ่งเข้าไปทำธุระใกล้ๆ กับมือที่ติดภารกิจอยู่

อื้อ อาา...อือ ไม่...อย่า  อย่า...อ่าา..า ฮา อย่า ไม่เอา...อ๊าา!” เสียงหวานไม่ได้ถูกปิดกั้นอีกต่อไปแล้วเมื่อหัวสมองขาวโพลนด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดและสั่งให้ร่างบางหวีดร้องอย่างสุดเสียง  สายธารสีขาวพุ่งทะยานออกมาละเลงเต็มกำมือของชายหนุ่มร่างสูง  เค้าก้มมองมันอย่างพอใจก่อนจะหันไปพูดกับคนที่ซบใบหน้าลงกับหมอนอย่างเหนื่อยหอบ

“ผมกะแล้วว่าคุณต้องชอบมัน  ผมหมายถึง...” เค้าชูมือที่เต็มไปด้วยน้ำหวานจากจาเร็ด “มือของผมน่ะ”

            “ไปตายซะ”



.



.



.



TBC.



--------------------------------------------------------------------------------



พระเจ้าช่วย.....โชคดีนะจาเร็ด  ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากคำนี้เลยค่ะ -.,-  ไรท์พยายามใส่ความเป็นเค้าลงไปให้มากที่สุด (แหงล่ะ เป็นใครเจอแบบนี้จะพูดดีและทำตัวเรียบร้อยอยู่ได้ยังไง...ถึงจะเป็นงั้นจาเร็ดก็ไม่ใช่คนที่เรียบร้อยอยู่แล้วด้วยนะเออ...เฮ้อ -^-)   

แหม่ พ่อคุณช่างเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่เหลือเกินค่ะ //ซับเลือด//  คือไม่หวั่นใครหรืออะไรเลย  อืม ขนาดหมาของจาเร็ดก็ยังเป็นพวกของเค้าอ่ะเนอะ  อืมๆๆๆ  จริงด้วยสิเนอะ  //คิดเองเออเอง// 555555  หวังว่ารีดๆ คงจะชอบ Part นี้และเรื่องนี้นะคะ  แค่สักนิดหนึ่งไรท์ก็ดีใจแล้วค่ะ ><

อ้ะ  นี่เฟสไรท์ค่ะ  แปะ ป้าบ!! >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<

วันนี้เมาท์น้อยแฮ่ะ  สงสัยพลังงานเหือดค่ะ  โหมงานจนโทรมเลยค่ะตอนนี้ 5555  ส่องกระจกแล้วแอบด่าตัวเองที่ทำให้ตกใจ 555555 //สรุปว่านอกจากเป็นซอมบี้แล้วไรท์ยังเป็นบ้าอีก//  ขอบคุณที่แวะและหลง (?) เข้ามาอ่านนะค้าาา  รักรีดทุกๆ ท่านมากเลยค่ะ >///<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

ชอบทุกเรื่องที่ไรท์แต่งเลยค่ะ><!! อิจฉาเขาคนนั้นจังทำไมช่างทำคนสวยได้ลงง😤😤😤 ทำต่อไปค่ะเราสนับสนุนคุณอยู่นะนายพระเอกกก แอ่ก!.โดนจาเร็ดตบ😂😂😂
#รอติดตามตอนต่อไปอยู่น้าาา