วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[SF – Fantastic Beasts] + [Part 3] Don’t Rape Me! - Percival x Credence




//โอยยยยยย  คุณอาค่ะ คุณอาาาาาาาา  โอย หนูดับดิ้นค่ะ ดับดิ้นนนนนน  อย่าทำหน้าเซ็กซี่อย่างนั้นสิคะ  อร๊ายยยยยยยยยย  ดิ้นทุรยทุรายเหมือนดั่งโดนข้าวสารเสก  โอยยยยย  ไม่ไหวแล้วค่ะ  สลบคาโต๊ะ 555555  ชูป้าย Gradence รัวๆ //

อร๊ายยยยยยยย กลับไปอ่าน Part ที่แล้ว >>Part 2<<  แล้วมาอ่าน Part นะคะ 5555

สวัสดีค่าาา รีดที่รักของไรท์  ฮ่อลลลล กว่าจะมาได้ค่ะ  ต้องขอโทษด้วยนะค้าา  อย่าเพิ่งโกรธไรท์นะเออ  วันนี้มาแล้วค่ะ ตามที่ได้บอกไว้ในเฟสสส  (เฟสไรท์ จิ้มเลยค่ะ แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด)

อาจะมาช่วยน้องทันไหม?  แล้วเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ  ตามไปอ่านกันเลยค่ะ ><

รู้สึกวันนี้ง่าย 55555  ไรท์แอบอู้งานที่บ้านมาน่ะค่ะ  แม่ใช้ขนาดดดดด  รีดๆ ไปอ่านกันเลยค่ะ ไรท์จะขอเสียสละเอง....เอื้อออออออ  //เอาตัวบังคำด่าแม่//  พอเหอะ.....รีดไม่ฮาด้วย -*-



------------------------------------------------------------------------------------



“คุณเกรฟส์ฮะ...”

“สวัสดีครีเดนซ์” แล้วคนที่หันกลับมาก็ทำให้ครีเดนซ์ต้องตกใจ  ถอยหลังล้มลงกับพื้น

อ๊ะ!  อาา” เด็กหนุ่มเผลอทำหน้าเสียทันทีที่จุกแอ๊ก  ก้นเค้าจั้มเบ้าลงกับพื้น

“โอ้ ฉันทำเธอตกใจอย่างนั้นเหรอ?   โธ่ ฉันนี่แย่จัง” ชายผมขาวที่สวมเสื้อโค้ทตัวยาวคล้ายกับเพอร์ซิวัลยิ้ม แต่มันดูไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่น้อย  เด็กหนุ่มจึงกระเถิดตัวหนีเค้าก่อนชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นมีน้ำจิตใจดี “ให้ฉันช่วยนะ” เสียงที่ฟังดูใจดีนั้นดังเอื้อยระรื่นเหมือนร้องเพลง  ก่อนเค้าจะยกมือขึ้นกลางอากาศที่ว่างเปล่าแล้วเด็กหนุ่มที่รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วทั้งตัวก็ลอยขึ้นมาจากพื้นราวกับลอยอยู่ใต้น้ำ

ครีเดนซ์ดวงตาเบิกโพลงอย่าตกใจ  เค้าขยับตัวอย่างตื่นตระหนกแต่จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถแตะถึงพื้นได้เลย  ก่อนจะถูกดูดเข้าหาชายที่เจ้าตัวไม่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ

“อือ  อื้อ ไม่นะ” เด็กหนุ่มพยายามยื้อตัวหนีแต่ไร้ประโยชน์เพราะเค้าไม่ได้อยู่บนพื้น “อย่ามายุ่งกับผม  ออกไป...ได้โปรดเถอะ ปล่อยผมไป  คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบใจแน่...อึก  คุณเกรฟส์” ครีเดนซ์น้ำตารื้นใกล้ร้องไห้อยู่รอมร่ออีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่เหือดหายไป  คนมองดูจึงจุปากและหรี่ตาลงอย่างนึกสงสารระคนเอ็นดู

“โอ้ จุๆ  ไม่เอาน่าไม่ต้องกลัว  ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอกนะหนูน้อย” เค้าพูด เสียงเหมือนกำลังร้องเพลงอีกครั้ง  แต่มันไม่ได้ทำให้ครีเดนซ์รู้สึกดีขึ้นมาเลย  ซ้ำร้ายร่างที่ดิ้นขลุกขลักยังลอยคงเข้าใกล้ชายผู้นี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะชนกันอยู่แล้วมันจึงทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาไหลพรากออกมาอย่างหวาดกลัว

ครีเดนซ์ไม่พิสมัยคนแปลกหน้าอย่างรุนแรง

“อย่า....ได้โปรด  ไม่เอา  อย่าทำผม....ฮืออ คุณเกรฟส์ช่วยผมด้วย  คุณเกรฟส์...”

“อย่าเรียกมันมา!” ชายที่ทำหน้าระรื่นส่งเสียงคำราม  สีหน้าของเค้าเปลี่ยนไปก่อนจะชะงักท่าแล้วสูดหายใจเข้าเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มไม่เป็นมิตรที่ถูกวาดขึ้นมาทาบทับ “มันยังไม่ถึงเวลาที่เค้าต้องออกมานะครีเดนซ์” เค้าพูดเสียงใจดี

“อย่ามายุ่งกับผม  อย่าเรียกชื่อผม...ผม  ผมไม่ให้คุณเรียก” เด็กหนุ่มว่าอย่างดื้อด้าน

“โถ่  ดูสิ  เธอตัวเปื้อนหมดแล้ว  ผู้ชายที่ดีเค้าไม่ทำตัวมอมแมมกันหรอกนะ” ชายคนนั้นว่า  ไม่ได้สนใจคำกีดกันของครีเดนซ์ก่อนจะโบกมืออีกครั้งและฝ่ามือกับเท้าที่เปลือยเปล่าพร้อมด้วยเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มก็สะอาดขึ้นมาทันตาราวกับว่าไม่เคยสัมผัสโดนดินร่วมที่ชื่นเย็นมาก่อน

แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ปล่อยเด็กหนุ่มให้แตะถึงพื้น

“คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบคุณแน่” ครีเดนซ์ว่าพลางสะอื้นไห้  เค้าเองก็ไม่ชอบชายคนนี้  คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเค้าคุยกับคนแปลกหน้าที่อยู่ในป่า  คุณเกรฟส์เคยห้ามเค้าแล้ว ข้อนี้เด็กหนุ่มลืมเสียสนิทไปเลยและรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ยอมคิดให้ดีเสียก่อน  เจ้าตัวเสียใจกับการไม่เชื่อฟังเพอร์ซิวัลอย่างถึงที่สุด

“เค้าคงจะไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเราจะแค่คุยกัน”

“แต่ผมไม่อยากคุยกับคุณ  คุณเกรฟส์ไม่ให้ผมคุยกับคนแปลกหน้า” ครีเดนซ์พูดเสียงสั่น แต่ช้อนสายตามองด้วยความขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด

“เธอยอมให้เค้าสั่งเธอได้อย่างงั้นเหรอเด็กน้อย  เค้าไม่ใช่เจ้าชีวิตเธอนะ” ชายคนนั้นบิดมุมปากเปื้อนยิ้ม ยังคงทำเหมือนผู้ที่มีอัธยาศัยยอดเยี่ยม  แต่ครีเดนซ์คิดว่ามันช่างยอดแย่

“ยอมสิ! และมันไม่เกี่ยวกับคุณเลยสักนิด!” เด็กหนุ่มที่งอตัวเก็บหัวไหล่เหมือนถูกมัดด้วยเชือกล่องหนตอบสวนด้วยความรวดเร็ว

“ทำไมเธอถึงจะยอมเค้าล่ะ?”

“เพราะ  เพราะเค้าเชื่อใจผม และผมก็เชื่อใจเค้า...มาก”

ชายคนนั้นยิ้มกว้างขึ้น “งั้นเหรอ” แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ครีเดนซ์ “เค้าเป็นคนดีที่เชื่อถือได้สินะ”

“ออกไปให้พ้นอย่ามายุ่งกับผมนะคุณเกรฟส์ช่วยผมด้วย  ช่วยด้วย...อื้อ!” คนป่าวร้องเกร็งมือแน่น และริมฝีปากของเค้าก็เป็นอัมพาตไปชั่วคราว  และในตอนนั้นเองชายที่ไม่น่าสนทนาด้วยคนนั้นก็ลอยสูงขึ้นจากพื้นก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มควันหนาแน่นสีดำที่พลิ้วไหวเหมือนผืนผ้าในเวิ้งน้ำ

ครีเดนซ์ต่อสู้กับอาการขยับตัวไม่ได้อย่างสุดชีวิตจนตัวสั่น แต่ก็กลับทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย  เค้ากลัวมาก กลัวจนน้ำตาไหลออกมาจากหางตาสวยที่ชื่นแฉะเพราะความไร้เดียงสา

กลุ่มควันพูดกับเค้าว่า “โธ่  เด็กน้อยผู้น่าสงสาร เจ้าช่างไร้เดียงสานัก  ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ ถึงได้ปั่นหัวเจ้าได้อย่างง่ายดาย”

ครีเดนซ์สะบัดตัวอีก เมื่อกลุ่มควันเอ่ยถึงเพอร์ซิวัลที่เค้าไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร

“จงฟัง!” มันแผ่ขยายเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า  จนเด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวแล้วอยากหดตัวให้เล็กลงแล้วหายไปซะ “ความเขลาของเจ้าทำให้บุรุษผู้นั้นสนุกสนานด้วยความสมเพส  เจ้าเพียงแค่รอวันที่เค้าคิดได้เท่านั้นว่าจะทำอย่างไรกับเจ้า  เจ้าอาจยังมีประโยชน์สำหรับเค้าในตอนนี้จึงยังมายืนร้องไห้อยู่ต่อหน้าข้า แต่จงฟังข้าเถิดเด็กน้อย  เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ ที่เจ้าบอกว่ารู้จักนั้น แท้จริงแล้วเจ้าไม่รู้จักเค้าเลยแม้แต่เสี้ยวเดียวของข้า!

พลันแสงในป่าก็หายไป เหลือเพียงแต่ความมืดมิดอย่างรวดเร็วราวกับดับไฟ  ครีเดนซ์ตัวสั่นเพราะความกลัวแล้วไม่สามารถกลั้นเสียงสะอึกสะอื้นอย่างขลาดกลัวออกมาได้เลยแม้สักครั้งเดียว

“เจ้าแค่ถูกหลอกใช้เด็กน้อย...” เสียงนั้นดังระรื่นอยู่ข้างหูเด็กหนุ่มที่หลับตาปี๋หนีภาพที่เห็นแล้วอาจทำให้หวาดประวิงมากกว่าเดิมเมื่อลืมตาขึ้นมา “ช่างน่าสงสารนัก  มาสิ ข้าจะให้สิ่งที่เจ้าถูกเค้าริบเอาไปแล้วจะเอามันมาคืนให้หมดทุกอย่าง  ข้าสัญญา การมาของข้าล้วนแล้วมีแต่สิ่งที่ดี  สุดท้ายแล้วเจ้าจะต้องขอบคุณข้า”

ว่าแล้วกลุ่มควันสีทะมึนก็เข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่ม  ครีเดนซ์ชาไปทั้งตัว  ร่างของเค้าเหยียดแอ่นอยู่กลางอากาศทั้งๆ ที่ยังอยู่เหนือพื้นดินแล้วความเจ็บแปลบก็แล่นเข้าสู่หัวของเค้า  มนตร์ครั้งสุดท้ายของกรินเดนวัลด์คือมนต์กึ่งคำสาป  สิ่งที่มันนำมาคืนให้นั้นไม่สามารถลบล้างหรือถอดถอนออกไปได้ตลอดกาล

มันทำให้เด็กหนุ่มได้เห็นตัวเองในบ้านทรุดโทรมที่น่าหดหู่ของตนเอง  และแม่เลี้ยงที่ทุบตีเค้าทุกวัน  ครีเดนซ์ได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง เรียกเธอคนนั้นว่าแม่ก่อนจะถูกปฏิเสธกลับมาอย่างไร้เยื้อใยว่าเค้าเป็นเพียงแค่เด็กสกปรกคนหนึ่งของผู้หญิงอันแสนร้ายกาจเท่านั้น

ครีเดนซ์ร้องไห้ ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเค้าเองในความทรงจำเท่านั้นแต่เป็นตัวเองในภาคปัจจุบันด้วย  ไม่นานเด็กหนุ่มก็พบเข้ากับเพอร์ซิวัลที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างปริศนาและซื้อใจของเค้าด้วยความใจดีและเอื้ออารีอย่างเช่นที่เป็นอยู่ตลอดเวลาแต่ทว่ากลับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเค้า

ครีเดนซ์คือออปส์คูเรียลที่ทำลายเมืองไปเกือบครึ่ง  และที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเค้าถูกหักหลังจากการหลอกใช้ของเพอร์ซิวัล...

มนตร์ครั้งสุดท้ายคืนความทรงจำให้แก่เค้า

เด็กหนุ่มจำได้แล้ว  เค้าจำได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นซึ่งมือปราบมารคนนั้นพรากมันไปจากเค้าเพียงเพื่อที่จะสามารถนำเค้ามาอยู่ที่นี่ได้โดยปราศจากคำถามใดๆ  

.....แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มไม่รู้  นั่นคือตลอดเวลาที่เจ้าตัวยื่นแจกใบปลิวไปตามตรอกอย่างไร้ความหมายนั้น  กรินเดนวัลด์ก็อยู่กับเพอร์ซิวัลด้วย  พ่อมดผู้นั้นคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง  และใช้เรื่องความปลอดภัยของเค้ามาคอยข่มขู่มือปราบมารคนนั้น

ดังนั้นสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้น่าสงสารรับรู้คือเค้าเกลียดแสนเกลียดชายที่ตัวเองไว้ใจที่สุดคนนั้นมากแค่ไหน เมื่อออปส์คูรัสครอบงำเค้าในครั้งสุดท้าย  มันปะทุระเบิดออกมาเพราะ เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ บอกว่าเค้าไร้ค่า

“ไหนคุณบอกว่าผมสำคัญ...”

“ไม่  ไม่ใช่เธอแต่เป็นเด็กคนนั้นต่างหาก”

เค้าไม่สำคัญสำหรับอีกคนหนึ่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วอย่างนั้นหรือ

ครีเดนซ์เคยเกลียด  ใช่ ตั้งแต่รู้ความจริงตอนนั้นก็เกลียดมาโดยตลอด  เกลียดทั้งเพอร์ซิวัลที่หลอกใช้และเกลียดตัวเองที่โง่เกินไป

ผมเกลียดคุณ.....นั่นคือคำพูดสุดท้ายของครีเดนซ์ก่อนเค้าจะหมดสติไปเพราะการสลายตัวของออปส์คูรัส

พอมาถึงตอนนี้เมื่อคืนความทรงจำกลับคืนให้โดยเสร็จสมบรูณ์แล้ว  มนต์ดำจึงถอดถอนออกมาจากเด็กหนุ่ม  ปล่อยครีเดนซ์ไว้บนพื้นราวกับขนนกค่อยๆ ร่วงหล่น  แล้วฟังเสียงร้องไห้ของคนที่งอตัวก้มหน้าราวกับคนหมดแรง.....ทุกอย่างล้วนโกหก เจ้าของความทรงจำที่บอบช้ำทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้แล้วก็ร้องไห้  เค้าเสียใจมากที่โดนโกหกและการปฏิบัติต่อกันด้วยดีของเพอร์ซิวัลเมื่อหลายวันก่อนก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวสับสน

ไม่แน่อาจเป็นอย่างที่กลุ่มควันน่าเกลียดนี่ว่าเอาไว้.....ครีเดนซ์กำลังถูกเลี้ยงเพื่อหลอกใช้อีกรอบ

ในตอนนี้เป็นไปตามแผ่นของมันแล้ว เสียงทุ้มกังวานนั่นก็ดังขึ้นอีกอย่างเสแสร้งว่าเห็นใจ “โอ้ ดูเจ้าสิ  ช่างน่าสงสารเสียจริง  โถ่ เด็กน้อย”

ครีเดนซ์ตะโกน “ออกไปให้พ้น!” เจ้าตัวน้ำตาไหล่นองหน้าอย่างไม่มีการปกปิดใดๆ ทั้งสิ้น

“ย่อมได้” มันว่าเสียงพินอบพิเทาก่อนจะเคลื่อนถอยไป แต่ถ้าหากมนต์ดำนี้มีใบหน้าก็คงจะเห็นได้ว่ามันกำลังวาดยิ้มอย่างพอใจอยู่เป็นแน่  และในตอนนั้นเองมนตร์ดำก็ส่งเสียงร้องไห้ของครีเดนซ์ไปหามือปราบมารที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับงานขจัดปัญหาที่มาคูซ่า  ทุกอย่างเข้าเค้าและเป็นไปตามแผน

เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ โผล่มาในที่สุด....

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเมื่อมือปราบมารโผล่มา  เค้าตกใจอย่างสุดขีดเมื่อพบว่าเด็กหนุ่มของเค้านั่งร้องไห้อยู่ในป่าที่ตัวเองเคยบอกย้ำแล้วว่าห้ามเข้ามาโดยเด็ดขาด  เสียงร้องไห้ของครีเดนซ์ที่เพอร์ซิวัลได้ยินยิ่งทำให้เค้ารู้สึกหัวใจเต้นกระตุกอย่างไม่ค่อยดีนัก  แต่แล้วเมื่อเค้าเดินเข้าไปหาคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ในป่าใหญ่ก็ถูกผวาใส่แล้วกระเถิดตัวหนีเข้าให้เสียอย่างนั้น

“อยะ อย่ามายุ่งกับผม  คุณโกหก  คุณหลอกลวง” ครีเดนซ์เงยหน้าขึ้นมา และบัดนี้มีแต่ความหวาดกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าเปียกปอนนั้น

มือปราบมารชักมือกลับ “ครีเดนซ์เธอเป็นอะไรไป?” เค้าถามเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กหนุ่มกลับมารับรู้ทุกอย่างแล้ว

“ออกไปให้พ้น  ผมเกลียดคุณ!” เด็กหนุ่มตวาดใส่ แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความเสียใจอย่างถึงที่สุด  ความรู้สึกที่สถานีรถไฟใต้ดินคราวก่อนถาโถมกลับมาอีกครั้ง  เด็กหนุ่มแสนเจ็บปวดที่รับรู้ว่าตัวเองเดียวดาย  และไร้ประโยชน์ซึ่งคนตรงหน้านี้ในตอนนั้นไม่ได้สนใจความรู้สึกอันแสนรวดร้าวของเค้าเลยแม้แต่น้อย “อย่ายุ่งกับผม  ปล่อยผมไป  ออกไปให้พ้น!” เด็กหนุ่มปัดมืออีกคนหนึ่งทิ้งไปแล้วปิดหูตัวเอง  เค้านั่งคุดคู้ร้องไห้ซิกๆ ตัวสั่นอย่างน่าสงสาร  พยายามต่อสู้กับความโกธรและความกลัว

ส่วนคนที่นั่งบนข้อเข่า ทรุดลงมาถามไถ่นั้นก็บอกตัวเองว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ถ้าครีเดนซ์จะกลับมาจำได้อีกครั้ง  แต่แล้วเด็กหนุ่มก็พูดในสิ่งที่เค้าค่อนข้างแน่ใจว่ามันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว

“คุณโกหกผมแถมยังหลอกใช้  สุดท้ายแล้วคุณก็จะฆ่าผมให้ตายด้วยมือของตัวเองเลยใช่ไหม?” เด็กหนุ่มผู้หัวอ่อนเก็บเอาคำพูดของศาสตร์มืดนั้นมาคิดและเค้าเชื่อมันอย่างสนิทใจ

“ไม่  ครีเดนซ์” เพอร์ซิวัลบอกปัด คิ้วเข้มขมวดมุ้นขึ้น “มันเกิดอะไรขึ้น? เธอเป็นอะไรไป” มือหนาจับไปที่ไหล่บางที่สั่นระริกไม่หยุด แต่แล้วกลับโดยขยับหนีอย่างรวดเร็วราวกับว่าเค้าเป็นปีศาจร้าย.....ไม่ คนที่เป็นน่ะคือกรินเดนวัลด์ต่างหากล่ะ  แต่ตอนนี้หมอนั่นไม่อยู่แล้วและตัวเค้าเองก็ไม่จำเป็นต้องโกหกครีเดนซ์อีกต่อไป

แต่เด็กหนุ่มที่ใจแตกสลายกลับตัดสินใจลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

“ครีเดนซ์!” เพอร์ซิวัลพูดเสียงดัง “ไม่  กลับมา!” เค้าไม่ชอบแบบนี้เลย และในตอนที่กำลังออกวิ่งตามไปนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดหาต้นสายปลายเหตุว่าอีกฝ่ายหนึ่งความทรงจำกลับคืนมาได้อย่างไร  มือปราบมารกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งเหมือนตอนที่ยังคงทำงานง่วนอยู่ในสำนักงาน  เด็กหนุ่มของเค้าในตอนนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกคลายกังวลอีกต่อไปแล้วแต่กลับทำให้เป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม

มือปราบมารภาวนาขอไม่ให้เด็กหนุ่มที่วิ่งโร่ออกไปด้วยหัวใจที่แตกสลายเพราะรู้ถึงความจริงนั้นทำอะไรโง่ๆ ลงไป  และในขณะเดียวกันนั้นคนที่ถูกตามอยู่ก็วิ่งเท้าเปล่าฝ่าเข้าไปในดงหญ้าที่ขึ้นสูงจนแทบมิดศีรษะ  ซี่เล็กๆ ที่เคลือบอยู่บนขอบหญ้าทุกใบบาดครีเดนซ์ไปในทุกที่ๆ เจ้าตัวเยื่องกายเบียดเสียดไป  ไม่เว้นแม้แต่แก้มใสที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตา  เส้นสีแดงเล็กๆ พาดอยู่บนนั้นอย่างไม่ปราณีปราสัยในใบหน้างดงามที่กำลังเศร้าเสียใจอยู่เลย

และในที่สุดมือปราบมารก็ตามมาทันโดยที่เค้าเองก็เดาทางอีกคนหนึ่งได้ไม่ยากนัก “ครีเดนซ์” เค้าฉุดเรียกและเด็กหนุ่มก็สะดุ้งเฮือกราวกับไม่คิดว่าจะถูกตามทันเร็วขนาดนี้  เจ้าตัวทำหน้าประหวั่นพรั่นพรึงด้วยน้ำตาที่ยังคงไม่หยุดไหล  เพอร์ซิวัลจึงใช้จังหวะนี้คว้าเข้าไปที่ต้นแขนของเด็กน้อยแล้วออกแรงกำไว้แน่นไม่ให้หนีไปได้ “ครีเดนซ์” เค้าเรียกอีก เป็นเชิงว่าให้รับฟัง

“ฮึก...ปล่อยผม  ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” เด้กหนุ่มยื้อแขนออกมาแต่ไร้ผล

“มันเกิดอะไรขึ้น?” เค้าถาม และไม่จำเป็นต้องทำให้ครีเดนซ์คายออกมาเลย ทันทีที่ฝ่ามือนั้นสัมผัสกับแขนอันสั่นเทิ้มก็รู้สึกได้ถึงความพะอืดพะอมและละอองที่สุดจะหยั่งถึงของศาสตร์มืด  เพอรซิวัลขมวดคิ้วแน่น  ความสั่นคลอนเรื่องตำแหน่งที่อยู่ของครีเดนซ์ทำให้เค้ามีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์

มือปราบมารขบกรามแน่น...คงเป็นกรินเดนวัลด์ที่ทำแบบนี้กับครีเดนซ์  แล้วถ้าจอมวายร้ายนั่นรู้ว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน  มาคูซ่าก็จะไม่รู้ด้วยเหมือนกันหรือ?  พวกเค้าขึ้นชื่อในเรื่องฆ่านักโทษหลบหนีเสียด้วย

เพอร์ซิวัลโกรธมากที่ทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดเสี่ยงได้ถึงขนาดนี้  มิหนำซ้ำครีเดนซ์ยังกลับมาดื้อดึงกับเค้าอย่างเอาเป็นเอาตายอีกต่างหาก  ถึงแม้จะไม่สะบัดแขนหนีแต่แววตาแข็งกร้าวแสนจะตัดพ้อนั้นก็ทำให้มือปราบมารรู้ดีว่า ครีเดนซ์   แบร์โบน เมื่อหลายวันก่อนกลับมาแล้ว  ตัวเค้าเองคงจะใช้คำพูดเนิบนานกับอีกคนหนึ่งไม่ได้อีกแล้ว

“ปล่อยผม  คุณมันหลอกลวง!

“ที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อเธอ!” ทีนี้คนใจดีก็ขึ้นเสียงบ้าง เค้าออกแรงกระชากแขนที่บิดหนีเล็กน้อยด้วยอารมณ์ที่ลืมควบคุมและมันทำให้ครีเดนซ์ที่ตั้งท่าจะพยศสะอึกฮักไปเลย  เด็กหนุ่มกระพริบตาถี่อย่างหวาดกลัว  ใบหน้าที่มีริ้วสีแดงเสมองพื้นซ้ายทีขาวทีอย่างน่าสงสาร  หากเป็นเช่นที่มารร้ายพูดจริงเพอร์ซิวัลจะฆ่าเจ้าตัวเมื่อไรก็ได้ถึงแม้จะไม่มีที่ให้กลับหรือไม่มีใครเหลือแล้วแต่เด็กหนุ่มก็ยังอดที่จะกลัวตายไม่ได้อยู่ดี

“อย่าทำผมเลย” เด็กหนุ่มสารภาพออกมาอย่างยอมแพ้เล็กน้อย  พูดเสียงอ้อยใส่อย่างรู้ตัวว่าจนตรอกแต่ก็ยังคงใสซื่อ “ปล่อยผมไปเถอะ คุณจะ...อึก...เอาผมไปทิ้งไว้ในก็ได้  ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น  ขอแค่ปล่อยผมไป...อย่าฆ่าผมเลย”

“ฉันไม่ฆ่าเธอ” เจ้าของมือที่จับแน่นไม่ยอมปล่อยว่าเสียงเรียบเพราะเด็กดื้อที่ช่างคิดผิดๆ

“แล้วจะให้ผมทำอะไรให้คุณอีก  ผม...ผมไม่มีประโยชน์กับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ  คุณก็รู้ว่าผมมันเพี้ยน”

“ไม่ เธอไม่ได้เพี้ยน” เพอร์ซิวัลถอนหายใจ แต่เค้าทำมันเบาเกินไป  ครีเดนซ์จึงคิดว่าเค้าสมเพสเจ้าตัวจึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน 

“คุณมองผมก็เพียงเพื่อแค่หลอกใช้เท่านั้น!  ผมจะไม่เชื่อคุณอีกแล้ว  อย่ามาบอกให้ผมทำอะไรอีก  ผมจะไม่เชื่อคุณ....ผมเคยเชื่อใจคุณแต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว” เด็กหนุ่มพูดคำเดิมซ้ำไปมา บอกย้ำว่าเค้าผิดหวังและฝังใจมากแค่ไหน  แล้วทำใบหน้าโกรธเกรี้ยวในแบบของเค้า

และคำพูดนั้นยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บ.....ใครว่าเค้าไม่สนใจครีเดนซ์กัน?  หากไม่แคร์ถึงขนาดนี้เพอร์ซิวัลก็คงจะไม่ยอมเสี่ยงทุกอย่างเพียงเพื่อเด็กคนนี้คนเดียวหรอก  แต่ทว่าในเวลานี้เจ้าตัวกลับตัดพ้อและขู่ฟ่อใส่เค้าราวกับลูกแมวโดดเดี่ยวในตรอกทิ้งขยะที่กำลังปกป้องตัวเอง   ในตอนแรกเลยเพอร์ซิวัลคิดว่าครีเดนซ์จะกลัวและสงบปากสงบคำฟังที่เค้าพูดบ้างแต่แท้จริงแล้วกลับดื้อดึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยทีเดียว

มือปราบมารมองเห็นรอยเลือดที่ซิบออกมาจากแขนเสื้อและเส้นสีแดงบางๆ บนใบหน้าที่บ่งบอกว่าต่อต้านของอีกคนหนึ่ง เค้าคิด...ทำไมครีเดนซ์ถึงไม่หวงตัวเองอย่างที่เค้าเป็นบ้างเลย

ก่อนหัวหน้ามือปราบมารจะไม่ตอบกลับประโยคที่รวดร้าวหัวใจนั้นของครีเดนซ์ แล้วดึงแขนเด็กหนุ่มให้ตามตัวเองไปยังประภาคารที่ยังคงมีแสงไฟจากห้องนอนชั้นบนซึ่งสังเกตเห็นได้ไม่ยากนัก

“ปล่อยผมนะ  ปล่อยผม!” ครีเดนซ์กรีดร้องอย่างไม่ชอบใจ  ในใจกลัวเหลือเกินว่าจะถูกทำอะไรอย่างที่ตัวเองไม่อยากคาดคิด  ในเมื่อความไม่ไว้วางใจกลับเข้ามาแทนที่ความรักใคร่แล้วเด็กหนุ่มไม่ควรไปหลงเชื่อชายคนนี้อีกหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้ก็ไม่ควร  ทว่าดวงตาที่ถูกย้อมเต็มไปด้วยน้ำตานั้นก็ยังแฝงไปด้วยความน้อยใจอีกด้วย

เพอร์ซิวัลรู้ว่ากรินเดนวัลด์ต้องการอะไร  และเค้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันเป็นไปตามที่พ่อมดผู้ซึ่งขายวิญญาณให้แก่ศาสตร์คนนั้นคาดหวังแน่  มือปราบมารเลือกที่จะไม่ปล่อยครีเดนซ์ไป  เค้าพอแล้วกับการแก้ไขปัญหาที่ให้ผลเร็วที่สุด เค้ารู้ว่ากรินเดนวัลด์อยากให้เค้าปล่อยเด็กคนนี้ไปและเจ็บช้ำไปตลอดชีวิต 

แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทำ  เพอร์ซิวัลอยากที่จะมีเด็กหนุ่มคนนี้ไปตลอดกาล  ถึงแม้ว่าเค้าจะต้องประกาศตัวเป็นศัตรูกับมาคูซ่าก็ตามเค้าก็ยินดีที่จะทำ  หากปล่อยให้ครีเดนซ์ออกไปจากอ้อมแขน มาคูซ่าจะต้องเจอตัวและฆ่าเด็กคนนี้ในไม่ช้าแน่

เรื่องนั้นเป็นเรื่องเดียวเท่านั้นที่เค้ายอมไม่ได้

“เอามือของคุณออกไปจากแขนของผมนะ!” ครีเดนซ์ร้องประท้วงที่ตีนบันไดเมื่อเข้ามาด้านใน “อย่าพาผมไป  ผมเจ็บ” เค้าบอกและไม่มีทีท่าว่าจะว่าง่ายเลย  เพอร์ซิวัลจึงทำให้เค้าชาแล้วอุ้มไว้บนอ้อมแขนก่อนจะพาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของหอคอย

พ่อมดวางเด็กหนุ่มลงบนเตียงแล้วพยายามถอนมนตร์ร้ายจากศาสตร์มืดให้แก่เจ้าตัว แต่ทันทีที่เค้าโบกไม้กายสิทธิ์แล้วแสงก็วาบหายไป เพอร์ซิวัลจึงรู้ในทันทีว่ามันคือคำสาปที่ไม่สามารถถอนออกมาได้ กรินเดนวัลด์ทำเค้าลำบากซะแล้ว...

มนตร์ที่ทำให้ชาอย่างง่ายเริ่มคลายตัวแล้วหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที  ครีเดนซ์กลับมาเป็นเจ้าของตัวเองอีกครั้งแล้วพยายามลุกขึ้นแต่ทุลักทุเลเต็มทีเมื่อยังคงหวั่นเกรงคนที่ยืนเต็มความสูงอยู่ที่ข้างเตียง  และเป็นไปเช่นนั้น เพอร์ซิวัลไม่ยอมให้ครีเดนซ์หนีออกไปจากห้องนี้ได้  อย่าว่าแต่ห้องนี้เลย มือปราบมารกักบริเวณเด็กหนุ่มไว้เพียงแค่บนเตียงหลังนี้เท่านั้น

เด็กหนุ่มมองลอดผ่านเสื้อโค้ทของเพอร์ซิวัลไปยังทางลงบันไดด้านล่าง  พ่อมดรู้ทันจึงโบกไม้กายสิทธิ์เข้าทีหนึ่งแล้วบานประตูก็ปิดลงรวมทั้งหน้าต่างที่เปิดรับลมทั้งสามบานด้วย  เค้าจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้กลับเข้าไปไหนป่า หรือถูกใครพบเข้าอีก  ตอนนี้อยู่ในเขตอารักษ์ขาแล้วมนต์ดำของกรินเดนวัลด์ก็เข้ามาในนี้ไม่ได้  และการตามไปกำจัดมันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำในตอนนี้เลย   และดวงตาที่เหมือนจะมองหยั่งลึกเข้าไปในใจของผู้อื่นก็จ้องมองเด็กหนุ่มที่เค้าเก็บกลับมา

“เธอไม่ควรทำแบบนั้น” เพอร์ซิวัลว่า

“ผะ ผมไม่ควรทำอะไร?” ครีเดนซ์เอ่ยอย่างไม่แน่ใจ เนื่องด้วยไม่รู้ว่าถูกให้ความสำคัญมากแค่ไหน  ซึ่งจ้าตัวเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะดิ้นรนออกไปให้พ้นหูพ้นตาคนที่ไม่ต้องการตัวเอง

หนีออกไป” ชายผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าพูดเสียงเรียบ เค้าเหมือนไมได้โกรธแต่การพูดเกือบเนิบช้านั่นก็ช่างชัดเจนต่อความหมายยิ่งนัก

“ทำไมผมจะต้องอยู่ที่นี่ด้วย” เด็กหนุ่มท้วง แรงสะอื้นทำให้เสียงเค้าไม่คงที่ “ผมไม่ควรอยู่ในที่ๆ คนโกหกผมบอกให้อยู่” คิ้วเรียวเข้มที่ทำให้ดวงหน้านั้นน่าดึงดูดขวมวดมุ้นเข้าหากันอย่างคับข้องใจ แต่เพราะเหตุใดกันเพอร์ซิวัลถึงได้รู้สึกว่าเด็กคนนี้กำลังน้อยใจอยู่กันนะ  ครีเดนซ์เป็นคนเก็บตัวและแสดงความรู้สึกไม่เก่ง  ดังนั้นจึงมีแต่เพียงแค่คำพูดคำจาตรงๆ อันแสนซื่อแทนคำบอกกล่าวที่สละสลวย

แต่ท่าทางดื้อดึงนั้น พ่อมดคนนี้รู้จักดี  ครีเดนซ์จะดื้อก็ต่อเมื่อเค้ารู้สึกไม่ชอบใจจริงๆ เท่านั้น  และมันเป็นเรื่องจริงจากใจของเด็กหนุ่มที่ไร้การปรุงแต่งโดยสิ้นเชิงว่าเกลียดเค้า  ดังนั้นมือปราบมารจึงขยับเข้าไปใกล้เด็กที่กู่ร้องว่าไม่ชอบแต่ก็ร้องไห้แล้วพูดว่า

“เธอจะรู้ได้ยังไงว่าคนบนโลกนี้นอกจากฉันแล้วจะยังมีใครต้องการเธออีก?”

ครีเดนซ์เบะปาก  เปลือกตาสั่นระริกขึ้นมาอย่างเฉียบพลันก่อนเจ้าตัวจะบอกกับตัวเองว่าอย่าร้องไห้โยเยเหมือนเด็กให้ผู้ชายคนนี้เห็นเด็ดขาด  เพราะเค้าพูดตรงเกินไป  ตรงเกินไปจนน่าใจหาย

“ถ้าอยู่ข้างนอกนั่นเธอจะไม่มีใครให้กลับไปหาหรือแม้แต่พูดคุยกับเค้า  เธอจะต้อง...”

เพี๊ยะ!!

ความเกรี้ยวโกรธ  ไม่พอใจ  และความอัดอั้นฟาดฉาบไปบนหน้าของพ่อมดผู้เก่งกาจอย่างแรง  ครีเดนซ์ไม่สามารถห้ามปรามตัวเองได้เลย  นั่นเป็นเพราะว่าเค้าเลือกที่จะไม่ทำ  การเป็นเด็กเก็บกดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรทำให้เจ้าตัวค่อนข้างควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อการระงับอารมณ์มาถึงจุดสูงสุด

เจ้าตัวกำมือที่รู้สึกเจ็บจนชาของตัวเองไว้แน่นในวินาทีต่อมา  และพอเห็นใบหน้าที่หันค้างไปของพ่อมด  เจ้าตัวก็เริ่มประวิงแล้วว่าควรทำอย่างนั้นไปหรือไม่  ครีเดนซ์ไม่รู้ว่าเมื่อเพอร์ซิวัลโกรธแล้วเป็นเช่นไร

พ่อมดผู้เก่งกาจหน้าหันไปเล็กน้อยจากการโดนตบ  เค้าหันกลับขยับกรามเหมือนเคี้ยวอะไรในปากแล้วกระพริบตาหลุบต่ำน้อยๆ ราวกับว่ากำลังสงบสติอารมณ์ของตัวเอง   แต่กลับคว้ามือที่ตบเค้าแล้วทำสีหน้าผิดหวังกับปฏิกิริยาของเด็กหนุ่ม

“เธอไม่รู้เลยหรือไงว่า...” มือปราบมารกลัดกลืนความเกรี้ยวกราดลงคอไป “...ฉันจะต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้เธอได้มาอยู่ที่นี้”

ครีเดนซ์ร้องไห้อีก “คุณโกหก” เด็กหนุ่มพูดเสียงรวดร้าว  น้ำตาคลอเต็มหน่วยจนเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามเลือนลาง

รอยนูนสีแดงขึ้นที่ข้างแก้มของเพอร์ซิวัลและเค้ารู้สึกว่ามันร้อนก่อนจะเต้นตุ้บๆ เป็นการเตือนเค้าว่ามีสี่นิ้วที่แก้มซ้ายกับอีกหนึ่งนิ้วบนต้นคอของเค้า  ชายคนนั้นสูดหายใจแล้วถอนมันออกมาแรงมาก คล้ายกับว่าเค้ามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่เต็มตัว แต่แล้วก็กลับบีบข้อมือเด็กหนุ่มแรงขึ้นจนเจ้าตัวนิ้วหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลเผาะๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย  ผมเจ็บ” ครีเดนซ์หลับตาปี๋เพราะความเจ็บปวด “คุณเกรฟส์  ผมเจ็บ  ได้โปรด...ปล่อยผมเถอะ” เป็นเพราะความเจ็บมากจึงขอร้องด้วยเสียงที่ดูเดียงสาเกินกว่าจะเป็นเด็กดื้อ

เพอร์ซิวัลฉุนขาดเพราะโดนตบเลยไม่ได้สนใจท่าทางของเด็กหนุ่มเท่าที่ควรนัก  เค้าขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่นั่งชันเข่าหลังติดกำแพงอยู่บนเตียงแล้วพูดว่า “ถ้าเธอจะบอกว่านี่มันเจ็บแล้ว  งั้นฉันจะบอกให้ล่ะกันว่าถ้าเธอออกไปข้างนอกอย่างที่อยากทำแล้วไปเจอคนข้างนอกมันจะเจ็บสักแค่ไหน”

มือปราบมารจับข้อมืออีกข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มที่บิดหนีไปมาและทำหน้าประหวั่นพรั่นพรึงเมื่อเค้าคุกเข่าขึ้นมาอยู่บนเตียง.....เพอร์ซิวัลจะสอนให้เด็กหนุ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เหมือนถูกฆ่าตายน่ะมันเป็นยังไง

อยากออกไปข้างนอกอย่างนั้นเหรอ?  ถ้าออกไปแล้วเจอเข้ากับมาคูซ่าซึ่งแน่นอน จะต้องได้เจอแน่ๆ น่ะมันเป็นยังไง  เค้าจะทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดเช่นเดียวกับตอนที่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกมาคูซ่าเพื่อปลิดชีวิตเลยทีเดียว



.



.



.



TBC.



----------------------------------------------------------------------------------



โอย คุณเกรฟส์ของฉันเหมือน อั้ม อธิชาติ ในจำเลยรักเลย  อร๊ายยยยยยยย ดูเถื่อนอ่าาา!! yy>[]<yy อย่าทำอะไรน้องรุนแรงนะคะคุณเกรฟส์  อย๊าาา  น้องยังไม่โตตตต  (เฮ้ย ผิดไหม) น้องยัง...ยัง  ยังใสเกิ๊นนนนนนน  (ประเด็นคืออย่าทำน้องน่ะแหละค่ะ -*-) 555555

อูยยยยยย  ฟิวด์ถึงกับขาดกันเลยทีเดียวเชียว  ฮืมๆๆๆๆ  อิมนตร์ดำบ้า  อี้แหน่ะๆๆๆๆ  //เปิดพัดลมไล่ควัน//  มากไปแล้วนะเฟ้ยยย  แกรู้ใช่ไหมว่าอาฉันน่ะอารมณ์เสียง่าย  ยิ่งเป็นเรื่องของน้องแล้วยิ่งหึงแรง  เอ้ยย ฉุนง่าย  หน่อยยยยยยย

น้องให้ความรู้สึกเหมือนเด็กมีปัญหาทางด้านพัฒนาการจริงๆ ค่ะ  อิที่กลัวแล้วกระพริบตา หันซ้ายหันขวาเนี่ย  โอยยย ลูก....//สงสาร//  อาค่ะ อย่าทำน้อง!!!  //ตาเขียว// + //ชอบ+หลงเด็กมีปัญหาด้านนี้//

มาถึงตรงที่คุณเกรงไม่ให้น้องออกจากห้องแล้วไรท์อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น “อย่ากักขังผม” จังเลยค่ะ  555555  เฮ้ยยย ไม่ทันและ  แต่อย่างไรก็ตาม  พอถึง Part มันก็จะเป็นไปตามชื่อเรื่องที่เราได้ตั้งไว้แล้วอย่างมิมีผิดเพี้ยนเองล่ะนะ 5555555 //หัวเราะกับตัวเอง//

โอเคค่ะ อย่างที่บอก ไรท์หนีงานมา  ไปก่อนนะค้าาา  รักรีดทุกท่านแฮงและอย่าลืมรอติดตาม Part รวมทั้งเรื่องราวของคู่ Gradence ด้วยนะค้าาา  ถ้าคอมเม้นจะมีกำลังจายยย  //พึมพำ// 55555  //แว่วเสียงแม่ลอยมา//  โอ้ววว ไปแล้วค่ะ   รอ Nc Part หน้านะค้าาา >0<

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund





ไม่มีความคิดเห็น: