//โอยยยยยย คุณอาค่ะ คุณอาาาาาาาา โอย หนูดับดิ้นค่ะ ดับดิ้นนนนนน อย่าทำหน้าเซ็กซี่อย่างนั้นสิคะ อร๊ายยยยยยยยยย ดิ้นทุรยทุรายเหมือนดั่งโดนข้าวสารเสก โอยยยยย ไม่ไหวแล้วค่ะ สลบคาโต๊ะ 555555 ชูป้าย Gradence รัวๆ //
อร๊ายยยยยยยย
กลับไปอ่าน Part ที่แล้ว >>Part 2<< แล้วมาอ่าน Part นะคะ 5555
สวัสดีค่าาา
รีดที่รักของไรท์ ฮ่อลลลล
กว่าจะมาได้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค้าา อย่าเพิ่งโกรธไรท์นะเออ วันนี้มาแล้วค่ะ ตามที่ได้บอกไว้ในเฟสสส (เฟสไรท์ จิ้มเลยค่ะ แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด)
อาจะมาช่วยน้องทันไหม? แล้วเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ ตามไปอ่านกันเลยค่ะ ><
รู้สึกวันนี้ง่าย
55555 ไรท์แอบอู้งานที่บ้านมาน่ะค่ะ แม่ใช้ขนาดดดดด รีดๆ ไปอ่านกันเลยค่ะ
ไรท์จะขอเสียสละเอง....เอื้อออออออ
//เอาตัวบังคำด่าแม่// พอเหอะ.....รีดไม่ฮาด้วย
-*-
------------------------------------------------------------------------------------
“คุณเกรฟส์ฮะ...”
“สวัสดีครีเดนซ์” แล้วคนที่หันกลับมาก็ทำให้ครีเดนซ์ต้องตกใจ ถอยหลังล้มลงกับพื้น
“อ๊ะ! อาา” เด็กหนุ่มเผลอทำหน้าเสียทันทีที่จุกแอ๊ก ก้นเค้าจั้มเบ้าลงกับพื้น
“โอ้ ฉันทำเธอตกใจอย่างนั้นเหรอ? โธ่ ฉันนี่แย่จัง” ชายผมขาวที่สวมเสื้อโค้ทตัวยาวคล้ายกับเพอร์ซิวัลยิ้ม
แต่มันดูไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มจึงกระเถิดตัวหนีเค้าก่อนชายคนนั้นจะเอ่ยขึ้นมีน้ำจิตใจดี
“ให้ฉันช่วยนะ” เสียงที่ฟังดูใจดีนั้นดังเอื้อยระรื่นเหมือนร้องเพลง ก่อนเค้าจะยกมือขึ้นกลางอากาศที่ว่างเปล่าแล้วเด็กหนุ่มที่รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วทั้งตัวก็ลอยขึ้นมาจากพื้นราวกับลอยอยู่ใต้น้ำ
ครีเดนซ์ดวงตาเบิกโพลงอย่าตกใจ เค้าขยับตัวอย่างตื่นตระหนกแต่จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถแตะถึงพื้นได้เลย ก่อนจะถูกดูดเข้าหาชายที่เจ้าตัวไม่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
“อือ อื้อ ไม่นะ” เด็กหนุ่มพยายามยื้อตัวหนีแต่ไร้ประโยชน์เพราะเค้าไม่ได้อยู่บนพื้น
“อย่ามายุ่งกับผม ออกไป...ได้โปรดเถอะ
ปล่อยผมไป คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบใจแน่...อึก คุณเกรฟส์” ครีเดนซ์น้ำตารื้นใกล้ร้องไห้อยู่รอมร่ออีกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่เหือดหายไป
คนมองดูจึงจุปากและหรี่ตาลงอย่างนึกสงสารระคนเอ็นดู
“โอ้ จุๆ ไม่เอาน่าไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอกนะหนูน้อย” เค้าพูด
เสียงเหมือนกำลังร้องเพลงอีกครั้ง
แต่มันไม่ได้ทำให้ครีเดนซ์รู้สึกดีขึ้นมาเลย ซ้ำร้ายร่างที่ดิ้นขลุกขลักยังลอยคงเข้าใกล้ชายผู้นี้มากขึ้นเรื่อยๆ
จนแทบจะชนกันอยู่แล้วมันจึงทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาไหลพรากออกมาอย่างหวาดกลัว
ครีเดนซ์ไม่พิสมัยคนแปลกหน้าอย่างรุนแรง
“อย่า....ได้โปรด ไม่เอา
อย่าทำผม....ฮืออ คุณเกรฟส์ช่วยผมด้วย
คุณเกรฟส์...”
“อย่าเรียกมันมา!” ชายที่ทำหน้าระรื่นส่งเสียงคำราม สีหน้าของเค้าเปลี่ยนไปก่อนจะชะงักท่าแล้วสูดหายใจเข้าเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มไม่เป็นมิตรที่ถูกวาดขึ้นมาทาบทับ
“มันยังไม่ถึงเวลาที่เค้าต้องออกมานะครีเดนซ์” เค้าพูดเสียงใจดี
“อย่ามายุ่งกับผม อย่าเรียกชื่อผม...ผม ผมไม่ให้คุณเรียก” เด็กหนุ่มว่าอย่างดื้อด้าน
“โถ่ ดูสิ
เธอตัวเปื้อนหมดแล้ว ผู้ชายที่ดีเค้าไม่ทำตัวมอมแมมกันหรอกนะ”
ชายคนนั้นว่า ไม่ได้สนใจคำกีดกันของครีเดนซ์ก่อนจะโบกมืออีกครั้งและฝ่ามือกับเท้าที่เปลือยเปล่าพร้อมด้วยเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มก็สะอาดขึ้นมาทันตาราวกับว่าไม่เคยสัมผัสโดนดินร่วมที่ชื่นเย็นมาก่อน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ปล่อยเด็กหนุ่มให้แตะถึงพื้น
“คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบคุณแน่”
ครีเดนซ์ว่าพลางสะอื้นไห้ เค้าเองก็ไม่ชอบชายคนนี้ คุณเกรฟส์จะต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเค้าคุยกับคนแปลกหน้าที่อยู่ในป่า คุณเกรฟส์เคยห้ามเค้าแล้ว ข้อนี้เด็กหนุ่มลืมเสียสนิทไปเลยและรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ยอมคิดให้ดีเสียก่อน เจ้าตัวเสียใจกับการไม่เชื่อฟังเพอร์ซิวัลอย่างถึงที่สุด
“เค้าคงจะไม่ว่าอะไรหรอก
ถ้าเราจะแค่คุยกัน”
“แต่ผมไม่อยากคุยกับคุณ คุณเกรฟส์ไม่ให้ผมคุยกับคนแปลกหน้า” ครีเดนซ์พูดเสียงสั่น
แต่ช้อนสายตามองด้วยความขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด
“เธอยอมให้เค้าสั่งเธอได้อย่างงั้นเหรอเด็กน้อย เค้าไม่ใช่เจ้าชีวิตเธอนะ” ชายคนนั้นบิดมุมปากเปื้อนยิ้ม
ยังคงทำเหมือนผู้ที่มีอัธยาศัยยอดเยี่ยม
แต่ครีเดนซ์คิดว่ามันช่างยอดแย่
“ยอมสิ! และมันไม่เกี่ยวกับคุณเลยสักนิด!” เด็กหนุ่มที่งอตัวเก็บหัวไหล่เหมือนถูกมัดด้วยเชือกล่องหนตอบสวนด้วยความรวดเร็ว
“ทำไมเธอถึงจะยอมเค้าล่ะ?”
“เพราะ เพราะเค้าเชื่อใจผม
และผมก็เชื่อใจเค้า...มาก”
ชายคนนั้นยิ้มกว้างขึ้น “งั้นเหรอ” แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ครีเดนซ์
“เค้าเป็นคนดีที่เชื่อถือได้สินะ”
“ออกไปให้พ้น! อย่ามายุ่งกับผมนะ! คุณเกรฟส์ช่วยผมด้วย ช่วยด้วย...อื้อ!” คนป่าวร้องเกร็งมือแน่น และริมฝีปากของเค้าก็เป็นอัมพาตไปชั่วคราว และในตอนนั้นเองชายที่ไม่น่าสนทนาด้วยคนนั้นก็ลอยสูงขึ้นจากพื้นก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มควันหนาแน่นสีดำที่พลิ้วไหวเหมือนผืนผ้าในเวิ้งน้ำ
ครีเดนซ์ต่อสู้กับอาการขยับตัวไม่ได้อย่างสุดชีวิตจนตัวสั่น
แต่ก็กลับทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เค้ากลัวมาก กลัวจนน้ำตาไหลออกมาจากหางตาสวยที่ชื่นแฉะเพราะความไร้เดียงสา
กลุ่มควันพูดกับเค้าว่า “โธ่ เด็กน้อยผู้น่าสงสาร เจ้าช่างไร้เดียงสานัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เพอร์ซิวัล เกรฟส์ ถึงได้ปั่นหัวเจ้าได้อย่างง่ายดาย”
ครีเดนซ์สะบัดตัวอีก เมื่อกลุ่มควันเอ่ยถึงเพอร์ซิวัลที่เค้าไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
“จงฟัง!” มันแผ่ขยายเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า จนเด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัวแล้วอยากหดตัวให้เล็กลงแล้วหายไปซะ
“ความเขลาของเจ้าทำให้บุรุษผู้นั้นสนุกสนานด้วยความสมเพส เจ้าเพียงแค่รอวันที่เค้าคิดได้เท่านั้นว่าจะทำอย่างไรกับเจ้า เจ้าอาจยังมีประโยชน์สำหรับเค้าในตอนนี้จึงยังมายืนร้องไห้อยู่ต่อหน้าข้า
แต่จงฟังข้าเถิดเด็กน้อย เพอร์ซิวัล เกรฟส์ ที่เจ้าบอกว่ารู้จักนั้น
แท้จริงแล้วเจ้าไม่รู้จักเค้าเลยแม้แต่เสี้ยวเดียวของข้า!”
พลันแสงในป่าก็หายไป เหลือเพียงแต่ความมืดมิดอย่างรวดเร็วราวกับดับไฟ ครีเดนซ์ตัวสั่นเพราะความกลัวแล้วไม่สามารถกลั้นเสียงสะอึกสะอื้นอย่างขลาดกลัวออกมาได้เลยแม้สักครั้งเดียว
“เจ้าแค่ถูกหลอกใช้เด็กน้อย...” เสียงนั้นดังระรื่นอยู่ข้างหูเด็กหนุ่มที่หลับตาปี๋หนีภาพที่เห็นแล้วอาจทำให้หวาดประวิงมากกว่าเดิมเมื่อลืมตาขึ้นมา
“ช่างน่าสงสารนัก มาสิ ข้าจะให้สิ่งที่เจ้าถูกเค้าริบเอาไปแล้วจะเอามันมาคืนให้หมดทุกอย่าง ข้าสัญญา การมาของข้าล้วนแล้วมีแต่สิ่งที่ดี สุดท้ายแล้วเจ้าจะต้องขอบคุณข้า”
ว่าแล้วกลุ่มควันสีทะมึนก็เข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่ม ครีเดนซ์ชาไปทั้งตัว ร่างของเค้าเหยียดแอ่นอยู่กลางอากาศทั้งๆ
ที่ยังอยู่เหนือพื้นดินแล้วความเจ็บแปลบก็แล่นเข้าสู่หัวของเค้า มนตร์ครั้งสุดท้ายของกรินเดนวัลด์คือมนต์กึ่งคำสาป สิ่งที่มันนำมาคืนให้นั้นไม่สามารถลบล้างหรือถอดถอนออกไปได้ตลอดกาล
มันทำให้เด็กหนุ่มได้เห็นตัวเองในบ้านทรุดโทรมที่น่าหดหู่ของตนเอง และแม่เลี้ยงที่ทุบตีเค้าทุกวัน ครีเดนซ์ได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง
เรียกเธอคนนั้นว่าแม่ก่อนจะถูกปฏิเสธกลับมาอย่างไร้เยื้อใยว่าเค้าเป็นเพียงแค่เด็กสกปรกคนหนึ่งของผู้หญิงอันแสนร้ายกาจเท่านั้น
ครีเดนซ์ร้องไห้
ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเค้าเองในความทรงจำเท่านั้นแต่เป็นตัวเองในภาคปัจจุบันด้วย ไม่นานเด็กหนุ่มก็พบเข้ากับเพอร์ซิวัลที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างปริศนาและซื้อใจของเค้าด้วยความใจดีและเอื้ออารีอย่างเช่นที่เป็นอยู่ตลอดเวลาแต่ทว่ากลับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเค้า
ครีเดนซ์คือออปส์คูเรียลที่ทำลายเมืองไปเกือบครึ่ง
และที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเค้าถูกหักหลังจากการหลอกใช้ของเพอร์ซิวัล...
มนตร์ครั้งสุดท้ายคืนความทรงจำให้แก่เค้า
เด็กหนุ่มจำได้แล้ว
เค้าจำได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นซึ่งมือปราบมารคนนั้นพรากมันไปจากเค้าเพียงเพื่อที่จะสามารถนำเค้ามาอยู่ที่นี่ได้โดยปราศจากคำถามใดๆ
.....แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มไม่รู้ นั่นคือตลอดเวลาที่เจ้าตัวยื่นแจกใบปลิวไปตามตรอกอย่างไร้ความหมายนั้น กรินเดนวัลด์ก็อยู่กับเพอร์ซิวัลด้วย พ่อมดผู้นั้นคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง และใช้เรื่องความปลอดภัยของเค้ามาคอยข่มขู่มือปราบมารคนนั้น
ดังนั้นสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้น่าสงสารรับรู้คือเค้าเกลียดแสนเกลียดชายที่ตัวเองไว้ใจที่สุดคนนั้นมากแค่ไหน
เมื่อออปส์คูรัสครอบงำเค้าในครั้งสุดท้าย
มันปะทุระเบิดออกมาเพราะ เพอร์ซิวัล
เกรฟส์ บอกว่าเค้าไร้ค่า
“ไหนคุณบอกว่าผมสำคัญ...”
“ไม่
ไม่ใช่เธอแต่เป็นเด็กคนนั้นต่างหาก”
เค้าไม่สำคัญสำหรับอีกคนหนึ่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วอย่างนั้นหรือ
ครีเดนซ์เคยเกลียด ใช่ ตั้งแต่รู้ความจริงตอนนั้นก็เกลียดมาโดยตลอด เกลียดทั้งเพอร์ซิวัลที่หลอกใช้และเกลียดตัวเองที่โง่เกินไป
ผมเกลียดคุณ.....นั่นคือคำพูดสุดท้ายของครีเดนซ์ก่อนเค้าจะหมดสติไปเพราะการสลายตัวของออปส์คูรัส
พอมาถึงตอนนี้เมื่อคืนความทรงจำกลับคืนให้โดยเสร็จสมบรูณ์แล้ว มนต์ดำจึงถอดถอนออกมาจากเด็กหนุ่ม ปล่อยครีเดนซ์ไว้บนพื้นราวกับขนนกค่อยๆ ร่วงหล่น แล้วฟังเสียงร้องไห้ของคนที่งอตัวก้มหน้าราวกับคนหมดแรง.....ทุกอย่างล้วนโกหก
เจ้าของความทรงจำที่บอบช้ำทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้แล้วก็ร้องไห้ เค้าเสียใจมากที่โดนโกหกและการปฏิบัติต่อกันด้วยดีของเพอร์ซิวัลเมื่อหลายวันก่อนก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวสับสน
ไม่แน่อาจเป็นอย่างที่กลุ่มควันน่าเกลียดนี่ว่าเอาไว้.....ครีเดนซ์กำลังถูกเลี้ยงเพื่อหลอกใช้อีกรอบ
ในตอนนี้เป็นไปตามแผ่นของมันแล้ว เสียงทุ้มกังวานนั่นก็ดังขึ้นอีกอย่างเสแสร้งว่าเห็นใจ
“โอ้ ดูเจ้าสิ ช่างน่าสงสารเสียจริง โถ่ เด็กน้อย”
ครีเดนซ์ตะโกน “ออกไปให้พ้น!” เจ้าตัวน้ำตาไหล่นองหน้าอย่างไม่มีการปกปิดใดๆ
ทั้งสิ้น
“ย่อมได้” มันว่าเสียงพินอบพิเทาก่อนจะเคลื่อนถอยไป
แต่ถ้าหากมนต์ดำนี้มีใบหน้าก็คงจะเห็นได้ว่ามันกำลังวาดยิ้มอย่างพอใจอยู่เป็นแน่ และในตอนนั้นเองมนตร์ดำก็ส่งเสียงร้องไห้ของครีเดนซ์ไปหามือปราบมารที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับงานขจัดปัญหาที่มาคูซ่า ทุกอย่างเข้าเค้าและเป็นไปตามแผน
เพอร์ซิวัล
เกรฟส์ โผล่มาในที่สุด....
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเมื่อมือปราบมารโผล่มา เค้าตกใจอย่างสุดขีดเมื่อพบว่าเด็กหนุ่มของเค้านั่งร้องไห้อยู่ในป่าที่ตัวเองเคยบอกย้ำแล้วว่าห้ามเข้ามาโดยเด็ดขาด เสียงร้องไห้ของครีเดนซ์ที่เพอร์ซิวัลได้ยินยิ่งทำให้เค้ารู้สึกหัวใจเต้นกระตุกอย่างไม่ค่อยดีนัก แต่แล้วเมื่อเค้าเดินเข้าไปหาคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้ในป่าใหญ่ก็ถูกผวาใส่แล้วกระเถิดตัวหนีเข้าให้เสียอย่างนั้น
“อยะ อย่ามายุ่งกับผม คุณโกหก
คุณหลอกลวง” ครีเดนซ์เงยหน้าขึ้นมา และบัดนี้มีแต่ความหวาดกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าเปียกปอนนั้น
มือปราบมารชักมือกลับ “ครีเดนซ์เธอเป็นอะไรไป?”
เค้าถามเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กหนุ่มกลับมารับรู้ทุกอย่างแล้ว
“ออกไปให้พ้น
ผมเกลียดคุณ!” เด็กหนุ่มตวาดใส่
แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความเสียใจอย่างถึงที่สุด
ความรู้สึกที่สถานีรถไฟใต้ดินคราวก่อนถาโถมกลับมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มแสนเจ็บปวดที่รับรู้ว่าตัวเองเดียวดาย และไร้ประโยชน์ซึ่งคนตรงหน้านี้ในตอนนั้นไม่ได้สนใจความรู้สึกอันแสนรวดร้าวของเค้าเลยแม้แต่น้อย
“อย่ายุ่งกับผม ปล่อยผมไป ออกไปให้พ้น!” เด็กหนุ่มปัดมืออีกคนหนึ่งทิ้งไปแล้วปิดหูตัวเอง เค้านั่งคุดคู้ร้องไห้ซิกๆ
ตัวสั่นอย่างน่าสงสาร พยายามต่อสู้กับความโกธรและความกลัว
ส่วนคนที่นั่งบนข้อเข่า ทรุดลงมาถามไถ่นั้นก็บอกตัวเองว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ถ้าครีเดนซ์จะกลับมาจำได้อีกครั้ง แต่แล้วเด็กหนุ่มก็พูดในสิ่งที่เค้าค่อนข้างแน่ใจว่ามันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว
“คุณโกหกผมแถมยังหลอกใช้ สุดท้ายแล้วคุณก็จะฆ่าผมให้ตายด้วยมือของตัวเองเลยใช่ไหม?”
เด็กหนุ่มผู้หัวอ่อนเก็บเอาคำพูดของศาสตร์มืดนั้นมาคิดและเค้าเชื่อมันอย่างสนิทใจ
“ไม่
ครีเดนซ์” เพอร์ซิวัลบอกปัด คิ้วเข้มขมวดมุ้นขึ้น “มันเกิดอะไรขึ้น?
เธอเป็นอะไรไป” มือหนาจับไปที่ไหล่บางที่สั่นระริกไม่หยุด แต่แล้วกลับโดยขยับหนีอย่างรวดเร็วราวกับว่าเค้าเป็นปีศาจร้าย.....ไม่
คนที่เป็นน่ะคือกรินเดนวัลด์ต่างหากล่ะ
แต่ตอนนี้หมอนั่นไม่อยู่แล้วและตัวเค้าเองก็ไม่จำเป็นต้องโกหกครีเดนซ์อีกต่อไป
แต่เด็กหนุ่มที่ใจแตกสลายกลับตัดสินใจลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“ครีเดนซ์!” เพอร์ซิวัลพูดเสียงดัง “ไม่ กลับมา!”
เค้าไม่ชอบแบบนี้เลย และในตอนที่กำลังออกวิ่งตามไปนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดหาต้นสายปลายเหตุว่าอีกฝ่ายหนึ่งความทรงจำกลับคืนมาได้อย่างไร มือปราบมารกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งเหมือนตอนที่ยังคงทำงานง่วนอยู่ในสำนักงาน เด็กหนุ่มของเค้าในตอนนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกคลายกังวลอีกต่อไปแล้วแต่กลับทำให้เป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม
มือปราบมารภาวนาขอไม่ให้เด็กหนุ่มที่วิ่งโร่ออกไปด้วยหัวใจที่แตกสลายเพราะรู้ถึงความจริงนั้นทำอะไรโง่ๆ
ลงไป และในขณะเดียวกันนั้นคนที่ถูกตามอยู่ก็วิ่งเท้าเปล่าฝ่าเข้าไปในดงหญ้าที่ขึ้นสูงจนแทบมิดศีรษะ ซี่เล็กๆ ที่เคลือบอยู่บนขอบหญ้าทุกใบบาดครีเดนซ์ไปในทุกที่ๆ
เจ้าตัวเยื่องกายเบียดเสียดไป
ไม่เว้นแม้แต่แก้มใสที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตา เส้นสีแดงเล็กๆ พาดอยู่บนนั้นอย่างไม่ปราณีปราสัยในใบหน้างดงามที่กำลังเศร้าเสียใจอยู่เลย
และในที่สุดมือปราบมารก็ตามมาทันโดยที่เค้าเองก็เดาทางอีกคนหนึ่งได้ไม่ยากนัก
“ครีเดนซ์” เค้าฉุดเรียกและเด็กหนุ่มก็สะดุ้งเฮือกราวกับไม่คิดว่าจะถูกตามทันเร็วขนาดนี้ เจ้าตัวทำหน้าประหวั่นพรั่นพรึงด้วยน้ำตาที่ยังคงไม่หยุดไหล
เพอร์ซิวัลจึงใช้จังหวะนี้คว้าเข้าไปที่ต้นแขนของเด็กน้อยแล้วออกแรงกำไว้แน่นไม่ให้หนีไปได้
“ครีเดนซ์” เค้าเรียกอีก เป็นเชิงว่าให้รับฟัง
“ฮึก...ปล่อยผม
ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” เด้กหนุ่มยื้อแขนออกมาแต่ไร้ผล
“มันเกิดอะไรขึ้น?” เค้าถาม และไม่จำเป็นต้องทำให้ครีเดนซ์คายออกมาเลย
ทันทีที่ฝ่ามือนั้นสัมผัสกับแขนอันสั่นเทิ้มก็รู้สึกได้ถึงความพะอืดพะอมและละอองที่สุดจะหยั่งถึงของศาสตร์มืด เพอรซิวัลขมวดคิ้วแน่น ความสั่นคลอนเรื่องตำแหน่งที่อยู่ของครีเดนซ์ทำให้เค้ามีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์
มือปราบมารขบกรามแน่น...คงเป็นกรินเดนวัลด์ที่ทำแบบนี้กับครีเดนซ์ แล้วถ้าจอมวายร้ายนั่นรู้ว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน มาคูซ่าก็จะไม่รู้ด้วยเหมือนกันหรือ? พวกเค้าขึ้นชื่อในเรื่องฆ่านักโทษหลบหนีเสียด้วย
เพอร์ซิวัลโกรธมากที่ทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดเสี่ยงได้ถึงขนาดนี้ มิหนำซ้ำครีเดนซ์ยังกลับมาดื้อดึงกับเค้าอย่างเอาเป็นเอาตายอีกต่างหาก ถึงแม้จะไม่สะบัดแขนหนีแต่แววตาแข็งกร้าวแสนจะตัดพ้อนั้นก็ทำให้มือปราบมารรู้ดีว่า
ครีเดนซ์ แบร์โบน เมื่อหลายวันก่อนกลับมาแล้ว ตัวเค้าเองคงจะใช้คำพูดเนิบนานกับอีกคนหนึ่งไม่ได้อีกแล้ว
“ปล่อยผม คุณมันหลอกลวง!”
“ที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อเธอ!” ทีนี้คนใจดีก็ขึ้นเสียงบ้าง
เค้าออกแรงกระชากแขนที่บิดหนีเล็กน้อยด้วยอารมณ์ที่ลืมควบคุมและมันทำให้ครีเดนซ์ที่ตั้งท่าจะพยศสะอึกฮักไปเลย เด็กหนุ่มกระพริบตาถี่อย่างหวาดกลัว ใบหน้าที่มีริ้วสีแดงเสมองพื้นซ้ายทีขาวทีอย่างน่าสงสาร หากเป็นเช่นที่มารร้ายพูดจริงเพอร์ซิวัลจะฆ่าเจ้าตัวเมื่อไรก็ได้ถึงแม้จะไม่มีที่ให้กลับหรือไม่มีใครเหลือแล้วแต่เด็กหนุ่มก็ยังอดที่จะกลัวตายไม่ได้อยู่ดี
“อย่าทำผมเลย” เด็กหนุ่มสารภาพออกมาอย่างยอมแพ้เล็กน้อย
พูดเสียงอ้อยใส่อย่างรู้ตัวว่าจนตรอกแต่ก็ยังคงใสซื่อ
“ปล่อยผมไปเถอะ คุณจะ...อึก...เอาผมไปทิ้งไว้ในก็ได้ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ปล่อยผมไป...อย่าฆ่าผมเลย”
“ฉันไม่ฆ่าเธอ” เจ้าของมือที่จับแน่นไม่ยอมปล่อยว่าเสียงเรียบเพราะเด็กดื้อที่ช่างคิดผิดๆ
“แล้วจะให้ผมทำอะไรให้คุณอีก ผม...ผมไม่มีประโยชน์กับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ คุณก็รู้ว่าผมมันเพี้ยน”
“ไม่ เธอไม่ได้เพี้ยน” เพอร์ซิวัลถอนหายใจ
แต่เค้าทำมันเบาเกินไป
ครีเดนซ์จึงคิดว่าเค้าสมเพสเจ้าตัวจึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“คุณมองผมก็เพียงเพื่อแค่หลอกใช้เท่านั้น! ผมจะไม่เชื่อคุณอีกแล้ว อย่ามาบอกให้ผมทำอะไรอีก ผมจะไม่เชื่อคุณ....ผมเคยเชื่อใจคุณแต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว”
เด็กหนุ่มพูดคำเดิมซ้ำไปมา บอกย้ำว่าเค้าผิดหวังและฝังใจมากแค่ไหน แล้วทำใบหน้าโกรธเกรี้ยวในแบบของเค้า
และคำพูดนั้นยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บ.....ใครว่าเค้าไม่สนใจครีเดนซ์กัน?
หากไม่แคร์ถึงขนาดนี้เพอร์ซิวัลก็คงจะไม่ยอมเสี่ยงทุกอย่างเพียงเพื่อเด็กคนนี้คนเดียวหรอก แต่ทว่าในเวลานี้เจ้าตัวกลับตัดพ้อและขู่ฟ่อใส่เค้าราวกับลูกแมวโดดเดี่ยวในตรอกทิ้งขยะที่กำลังปกป้องตัวเอง ในตอนแรกเลยเพอร์ซิวัลคิดว่าครีเดนซ์จะกลัวและสงบปากสงบคำฟังที่เค้าพูดบ้างแต่แท้จริงแล้วกลับดื้อดึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยทีเดียว
มือปราบมารมองเห็นรอยเลือดที่ซิบออกมาจากแขนเสื้อและเส้นสีแดงบางๆ
บนใบหน้าที่บ่งบอกว่าต่อต้านของอีกคนหนึ่ง เค้าคิด...ทำไมครีเดนซ์ถึงไม่หวงตัวเองอย่างที่เค้าเป็นบ้างเลย
ก่อนหัวหน้ามือปราบมารจะไม่ตอบกลับประโยคที่รวดร้าวหัวใจนั้นของครีเดนซ์
แล้วดึงแขนเด็กหนุ่มให้ตามตัวเองไปยังประภาคารที่ยังคงมีแสงไฟจากห้องนอนชั้นบนซึ่งสังเกตเห็นได้ไม่ยากนัก
“ปล่อยผมนะ
ปล่อยผม!” ครีเดนซ์กรีดร้องอย่างไม่ชอบใจ
ในใจกลัวเหลือเกินว่าจะถูกทำอะไรอย่างที่ตัวเองไม่อยากคาดคิด ในเมื่อความไม่ไว้วางใจกลับเข้ามาแทนที่ความรักใคร่แล้วเด็กหนุ่มไม่ควรไปหลงเชื่อชายคนนี้อีกหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้ก็ไม่ควร ทว่าดวงตาที่ถูกย้อมเต็มไปด้วยน้ำตานั้นก็ยังแฝงไปด้วยความน้อยใจอีกด้วย
เพอร์ซิวัลรู้ว่ากรินเดนวัลด์ต้องการอะไร และเค้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันเป็นไปตามที่พ่อมดผู้ซึ่งขายวิญญาณให้แก่ศาสตร์คนนั้นคาดหวังแน่ มือปราบมารเลือกที่จะไม่ปล่อยครีเดนซ์ไป เค้าพอแล้วกับการแก้ไขปัญหาที่ให้ผลเร็วที่สุด
เค้ารู้ว่ากรินเดนวัลด์อยากให้เค้าปล่อยเด็กคนนี้ไปและเจ็บช้ำไปตลอดชีวิต
แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทำ เพอร์ซิวัลอยากที่จะมีเด็กหนุ่มคนนี้ไปตลอดกาล ถึงแม้ว่าเค้าจะต้องประกาศตัวเป็นศัตรูกับมาคูซ่าก็ตามเค้าก็ยินดีที่จะทำ หากปล่อยให้ครีเดนซ์ออกไปจากอ้อมแขน
มาคูซ่าจะต้องเจอตัวและฆ่าเด็กคนนี้ในไม่ช้าแน่
เรื่องนั้นเป็นเรื่องเดียวเท่านั้นที่เค้ายอมไม่ได้
“เอามือของคุณออกไปจากแขนของผมนะ!” ครีเดนซ์ร้องประท้วงที่ตีนบันไดเมื่อเข้ามาด้านใน
“อย่าพาผมไป ผมเจ็บ” เค้าบอกและไม่มีทีท่าว่าจะว่าง่ายเลย เพอร์ซิวัลจึงทำให้เค้าชาแล้วอุ้มไว้บนอ้อมแขนก่อนจะพาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของหอคอย
พ่อมดวางเด็กหนุ่มลงบนเตียงแล้วพยายามถอนมนตร์ร้ายจากศาสตร์มืดให้แก่เจ้าตัว
แต่ทันทีที่เค้าโบกไม้กายสิทธิ์แล้วแสงก็วาบหายไป เพอร์ซิวัลจึงรู้ในทันทีว่ามันคือคำสาปที่ไม่สามารถถอนออกมาได้
กรินเดนวัลด์ทำเค้าลำบากซะแล้ว...
มนตร์ที่ทำให้ชาอย่างง่ายเริ่มคลายตัวแล้วหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ครีเดนซ์กลับมาเป็นเจ้าของตัวเองอีกครั้งแล้วพยายามลุกขึ้นแต่ทุลักทุเลเต็มทีเมื่อยังคงหวั่นเกรงคนที่ยืนเต็มความสูงอยู่ที่ข้างเตียง และเป็นไปเช่นนั้น เพอร์ซิวัลไม่ยอมให้ครีเดนซ์หนีออกไปจากห้องนี้ได้ อย่าว่าแต่ห้องนี้เลย มือปราบมารกักบริเวณเด็กหนุ่มไว้เพียงแค่บนเตียงหลังนี้เท่านั้น
เด็กหนุ่มมองลอดผ่านเสื้อโค้ทของเพอร์ซิวัลไปยังทางลงบันไดด้านล่าง พ่อมดรู้ทันจึงโบกไม้กายสิทธิ์เข้าทีหนึ่งแล้วบานประตูก็ปิดลงรวมทั้งหน้าต่างที่เปิดรับลมทั้งสามบานด้วย เค้าจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้กลับเข้าไปไหนป่า
หรือถูกใครพบเข้าอีก
ตอนนี้อยู่ในเขตอารักษ์ขาแล้วมนต์ดำของกรินเดนวัลด์ก็เข้ามาในนี้ไม่ได้ และการตามไปกำจัดมันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำในตอนนี้เลย และดวงตาที่เหมือนจะมองหยั่งลึกเข้าไปในใจของผู้อื่นก็จ้องมองเด็กหนุ่มที่เค้าเก็บกลับมา
“เธอไม่ควรทำแบบนั้น” เพอร์ซิวัลว่า
“ผะ ผมไม่ควรทำอะไร?” ครีเดนซ์เอ่ยอย่างไม่แน่ใจ
เนื่องด้วยไม่รู้ว่าถูกให้ความสำคัญมากแค่ไหน
ซึ่งจ้าตัวเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะดิ้นรนออกไปให้พ้นหูพ้นตาคนที่ไม่ต้องการตัวเอง
“หนีออกไป” ชายผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าพูดเสียงเรียบ
เค้าเหมือนไมได้โกรธแต่การพูดเกือบเนิบช้านั่นก็ช่างชัดเจนต่อความหมายยิ่งนัก
“ทำไมผมจะต้องอยู่ที่นี่ด้วย” เด็กหนุ่มท้วง
แรงสะอื้นทำให้เสียงเค้าไม่คงที่ “ผมไม่ควรอยู่ในที่ๆ คนโกหกผมบอกให้อยู่” คิ้วเรียวเข้มที่ทำให้ดวงหน้านั้นน่าดึงดูดขวมวดมุ้นเข้าหากันอย่างคับข้องใจ
แต่เพราะเหตุใดกันเพอร์ซิวัลถึงได้รู้สึกว่าเด็กคนนี้กำลังน้อยใจอยู่กันนะ ครีเดนซ์เป็นคนเก็บตัวและแสดงความรู้สึกไม่เก่ง ดังนั้นจึงมีแต่เพียงแค่คำพูดคำจาตรงๆ อันแสนซื่อแทนคำบอกกล่าวที่สละสลวย
แต่ท่าทางดื้อดึงนั้น พ่อมดคนนี้รู้จักดี ครีเดนซ์จะดื้อก็ต่อเมื่อเค้ารู้สึกไม่ชอบใจจริงๆ
เท่านั้น และมันเป็นเรื่องจริงจากใจของเด็กหนุ่มที่ไร้การปรุงแต่งโดยสิ้นเชิงว่าเกลียดเค้า ดังนั้นมือปราบมารจึงขยับเข้าไปใกล้เด็กที่กู่ร้องว่าไม่ชอบแต่ก็ร้องไห้แล้วพูดว่า
“เธอจะรู้ได้ยังไงว่าคนบนโลกนี้นอกจากฉันแล้วจะยังมีใครต้องการเธออีก?”
ครีเดนซ์เบะปาก
เปลือกตาสั่นระริกขึ้นมาอย่างเฉียบพลันก่อนเจ้าตัวจะบอกกับตัวเองว่าอย่าร้องไห้โยเยเหมือนเด็กให้ผู้ชายคนนี้เห็นเด็ดขาด เพราะเค้าพูดตรงเกินไป ตรงเกินไปจนน่าใจหาย
“ถ้าอยู่ข้างนอกนั่นเธอจะไม่มีใครให้กลับไปหาหรือแม้แต่พูดคุยกับเค้า เธอจะต้อง...”
เพี๊ยะ!!
ความเกรี้ยวโกรธ
ไม่พอใจ และความอัดอั้นฟาดฉาบไปบนหน้าของพ่อมดผู้เก่งกาจอย่างแรง ครีเดนซ์ไม่สามารถห้ามปรามตัวเองได้เลย นั่นเป็นเพราะว่าเค้าเลือกที่จะไม่ทำ การเป็นเด็กเก็บกดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรทำให้เจ้าตัวค่อนข้างควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อการระงับอารมณ์มาถึงจุดสูงสุด
เจ้าตัวกำมือที่รู้สึกเจ็บจนชาของตัวเองไว้แน่นในวินาทีต่อมา และพอเห็นใบหน้าที่หันค้างไปของพ่อมด เจ้าตัวก็เริ่มประวิงแล้วว่าควรทำอย่างนั้นไปหรือไม่ ครีเดนซ์ไม่รู้ว่าเมื่อเพอร์ซิวัลโกรธแล้วเป็นเช่นไร
พ่อมดผู้เก่งกาจหน้าหันไปเล็กน้อยจากการโดนตบ เค้าหันกลับขยับกรามเหมือนเคี้ยวอะไรในปากแล้วกระพริบตาหลุบต่ำน้อยๆ
ราวกับว่ากำลังสงบสติอารมณ์ของตัวเอง แต่กลับคว้ามือที่ตบเค้าแล้วทำสีหน้าผิดหวังกับปฏิกิริยาของเด็กหนุ่ม
“เธอไม่รู้เลยหรือไงว่า...” มือปราบมารกลัดกลืนความเกรี้ยวกราดลงคอไป
“...ฉันจะต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อให้เธอได้มาอยู่ที่นี้”
ครีเดนซ์ร้องไห้อีก “คุณโกหก” เด็กหนุ่มพูดเสียงรวดร้าว น้ำตาคลอเต็มหน่วยจนเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามเลือนลาง
รอยนูนสีแดงขึ้นที่ข้างแก้มของเพอร์ซิวัลและเค้ารู้สึกว่ามันร้อนก่อนจะเต้นตุ้บๆ
เป็นการเตือนเค้าว่ามีสี่นิ้วที่แก้มซ้ายกับอีกหนึ่งนิ้วบนต้นคอของเค้า ชายคนนั้นสูดหายใจแล้วถอนมันออกมาแรงมาก คล้ายกับว่าเค้ามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่เต็มตัว
แต่แล้วก็กลับบีบข้อมือเด็กหนุ่มแรงขึ้นจนเจ้าตัวนิ้วหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลเผาะๆ
ออกมาอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย
ผมเจ็บ” ครีเดนซ์หลับตาปี๋เพราะความเจ็บปวด “คุณเกรฟส์ ผมเจ็บ
ได้โปรด...ปล่อยผมเถอะ” เป็นเพราะความเจ็บมากจึงขอร้องด้วยเสียงที่ดูเดียงสาเกินกว่าจะเป็นเด็กดื้อ
เพอร์ซิวัลฉุนขาดเพราะโดนตบเลยไม่ได้สนใจท่าทางของเด็กหนุ่มเท่าที่ควรนัก เค้าขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่นั่งชันเข่าหลังติดกำแพงอยู่บนเตียงแล้วพูดว่า
“ถ้าเธอจะบอกว่านี่มันเจ็บแล้ว
งั้นฉันจะบอกให้ล่ะกันว่าถ้าเธอออกไปข้างนอกอย่างที่อยากทำแล้วไปเจอคนข้างนอกมันจะเจ็บสักแค่ไหน”
มือปราบมารจับข้อมืออีกข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มที่บิดหนีไปมาและทำหน้าประหวั่นพรั่นพรึงเมื่อเค้าคุกเข่าขึ้นมาอยู่บนเตียง.....เพอร์ซิวัลจะสอนให้เด็กหนุ่มรู้ว่าความเจ็บปวดที่เหมือนถูกฆ่าตายน่ะมันเป็นยังไง
อยากออกไปข้างนอกอย่างนั้นเหรอ? ถ้าออกไปแล้วเจอเข้ากับมาคูซ่าซึ่งแน่นอน
จะต้องได้เจอแน่ๆ น่ะมันเป็นยังไง เค้าจะทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดเช่นเดียวกับตอนที่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกมาคูซ่าเพื่อปลิดชีวิตเลยทีเดียว
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------
โอย คุณเกรฟส์ของฉันเหมือน อั้ม
อธิชาติ ในจำเลยรักเลย อร๊ายยยยยยยย
ดูเถื่อนอ่าาา!! yy>[]<yy
อย่าทำอะไรน้องรุนแรงนะคะคุณเกรฟส์ อย๊าาา น้องยังไม่โตตตต (เฮ้ย ผิดไหม) น้องยัง...ยัง ยังใสเกิ๊นนนนนนน (ประเด็นคืออย่าทำน้องน่ะแหละค่ะ -*-) 555555
อูยยยยยย ฟิวด์ถึงกับขาดกันเลยทีเดียวเชียว ฮืมๆๆๆๆ
อิมนตร์ดำบ้า อี้แหน่ะๆๆๆๆ //เปิดพัดลมไล่ควัน// มากไปแล้วนะเฟ้ยยย แกรู้ใช่ไหมว่าอาฉันน่ะอารมณ์เสียง่าย ยิ่งเป็นเรื่องของน้องแล้วยิ่งหึงแรง เอ้ยย ฉุนง่าย
หน่อยยยยยยย
น้องให้ความรู้สึกเหมือนเด็กมีปัญหาทางด้านพัฒนาการจริงๆ
ค่ะ อิที่กลัวแล้วกระพริบตา
หันซ้ายหันขวาเนี่ย โอยยย
ลูก....//สงสาร// อาค่ะ อย่าทำน้อง!!! //ตาเขียว// + //ชอบ+หลงเด็กมีปัญหาด้านนี้//
มาถึงตรงที่คุณเกรงไม่ให้น้องออกจากห้องแล้วไรท์อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น
“อย่ากักขังผม” จังเลยค่ะ 555555 เฮ้ยยย ไม่ทันและ แต่อย่างไรก็ตาม พอถึง Part มันก็จะเป็นไปตามชื่อเรื่องที่เราได้ตั้งไว้แล้วอย่างมิมีผิดเพี้ยนเองล่ะนะ
5555555 //หัวเราะกับตัวเอง//
โอเคค่ะ อย่างที่บอก
ไรท์หนีงานมา ไปก่อนนะค้าาา รักรีดทุกท่านแฮงและอย่าลืมรอติดตาม Part รวมทั้งเรื่องราวของคู่
Gradence ด้วยนะค้าาา
ถ้าคอมเม้นจะมีกำลังจายยย
//พึมพำ// 55555
//แว่วเสียงแม่ลอยมา// โอ้ววว
ไปแล้วค่ะ รอ Nc Part หน้านะค้าาา >0<
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น