วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 3] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



ฟิ้ววววว --- พุ่งมาด้วยความเร็วสูง เมื่อลงจากรถและเสร็จภารกิจมาได้

ไรท์ก็มาลงฟิคทันทีค่ะ.....Part นี้จะมีเรื่องใหม่ให้ตื่นเต้นกันค่ะ  จะเป็นอะไรนั้น รีดๆ ต้องรอลุ้นและอ่านกันค่ะ ^^

วันนี้นั่งรถทั้งวันมึนหัวมากเลยค่ะ  เรื่องเมาท์กระเด็นกระดอนหายไปหมดแล้วววว อ้าาาาา   เอาเป็นว่าอย่าสนใจไรท์แล้วไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ

ไปโล้ดดดดดดด >{}<!!

ป.ล. อิพี่โด้นี่กวนโอ๊ยค่ะ


--------------------------------------------------------------------------------------------


ลีโอเนล   เมสซี่หลบสายตานั้นเสียแล้วเลี่ยงเดินไปด้านข้าง  มือเล็กๆ ของเค้ายังคงสัมผัสกับราวเหล็กอยู่ตลอดเวลา  จนกระทั่งเดินออกมาได้ไกลพอสมควรร่างเล็กก็ตัดสินใจพิงเข้ากับราวเหล็กนั้นแล้วกัดริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อย

ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ดีใจไว้อยู่แล้วเชียวว่าเราก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่การกระทำของร่างสูงก็บ่งบอกชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายนั้นคิดเช่นไร...........ว่าตามตรงเมสซี่ก็อยากคิดนะ อยากคิดที่จะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูแล้วก็แข่งกันให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลยในสนาม.............

แต่ทว่าเค้ากลับทำไม่ได้  ทั้งชีวิตลีโอเนล  เมสซี่รู้จักเพียงแต่การผูกมิตรเท่านั้น  การที่จะต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนอื่นน่ะลืมไปได้เลย  ความต้องการของร่างเล็กตอนนี้เพียงแค่อยากจะหาเพื่อนเท่านั้น และเค้าก็คิดมาเสมอว่า.....เฮ้ บางทีโรนัลโด้อาจไม่คิดแบบนั้น  บางทีถ้าหากพวกเค้าเจอกันอาจจะทำความรู้จักแล้วเป็นเพื่อนกันได้..........

แต่ความจริงแล้ว  เมสซี่เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามันกลับไม่ใช่ เพราะโรนัลโด้ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเค้า  ร่างเล็กรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้เค้าพยายามบังคับให้ตัวเองโกรธแล้วเกลียดขี้หน้าคนข้างๆ ซะแต่เค้าก็ทำไม่ได้........เพราะเค้าเกลียดใครไม่เป็นหรอก (เพราะงั้นเค้าเลยโดนคนอื่นแกล้งบ่อยๆ โดยเฉพาะเนย์มาร์ เพราะเค้าไม่เคยโกรธใคร)

สายลมที่ค่อนข้างแรงบนชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้นยังคงพัดผ่านมาปะทะร่างของเมสซี่ที่ยืนเงียบๆ อยู่คนเดียว  แต่เค้าหารู้ไม่เลยว่าอีกคนหนึ่งซึ่งเพิ่งเริ่มบทสนทนากับเค้า กำลังเดินสำรวจไปมารอบพื้นที่พร้อมทั้งลอบมองร่างเล็กที่แสนเหงาหงอยนั้นไปด้วยเป็นระยะๆ

............ไม่ว่าตอนนี้ใครก็ไม่สามารถเดาได้ว่า ร่างสูงนั้นกำลังคิดเช่นไรอยู่...........

เมสซี่ที่หลังจากเดินออกมาก็ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองอีกฝ่ายเลย ก็กำลังรู้สึกเจ็บจมูกขึ้นมาจี๊ดๆ เพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเค้าเพิ่งได้รับอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาไม่หยุด  ทุกคนในทีมเป็นห่วงเค้ามาก แต่เค้าก็บอกปัดกลับไปว่าไม่เป็นอะไร  และตอนนี้มันก็เจ็บแปล็บขึ้นมาแบบแปลกๆ แต่ว่าร่างเล็กกลับไม่สนใจมัน  แล้วเริ่มหลับตาปี๋พร้อมกับจามออกมาครั้งใหญ่

ฮัดชิ้ววว!” แวบแรกหลังจากจามเสร็จบอกได้เลยว่ามันรุนแรงมากจนเมสซี่ตัวสั่นนิดๆ แล้วเริ่มกอดตัวเองที่เพิ่งเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมา  ส่วนร่างสูงก็เพียงผินหน้ามามองอยู่ห่างๆ เมื่อความเงียบถูกทำลายลง  ก่อนมันจะเริ่มขึ้นอีก.......

“ฮัดชิ้ว!.....อา ฮัดชิ้ว!......ฮัดชิ้ว!  โอ๊ย หยุดสักที......ฮัดชิ้วว!” เมสซี่ที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเป็นหวัดโอดครวญกับตัวเองเมื่อเค้าจามออกมาไม่หยุด  จนโรนัลโด้ที่ยืนอยู่ห่างๆ เริ่มหันมามองแล้วถามขึ้น

“เอ่อ...คุณโอเครึเปล่า”

“ไม่ ไม่...ผมไม่เป็นไร ฮัดชิ้วว!” เมสซี่บอกปัด เพราะคิดว่าร่างสูงพูดตามมารยาท

โรนัลโด้เดินเข้ามาดูใกล้ๆ พลางคิดว่าร่างเล็กตรงหน้านี้ช่างดื้อดึงเสียจริง

“คุณโอเคไหม?” ร่างสูงถามย้ำอีกครั้ง และคนถูกถามก็กำลังเตรียมจะโบกมือปัดบอกเต็มที่ว่าไม่เป็นไรจริงๆ แต่แล้วเค้าก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังไหลอยู่บนร่องจมูกของเค้า

................และมันอุ่นมาก..............

เมสซี่ผู้ขี้สงสัยจึงยกมือขึ้นแตะร่องจมูกตัวเอง และค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่สิ่งที่เค้าคิดอยู่เพราะมันเป็น........  “ก้อนอะไรอ่ะ”

“อ๋อ เลือดน่ะ” คนที่เพิ่งเดินมาถึงเลื่อนหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วไขข้อข้องใจ จนทำให้อีกคนหนึ่งหน้าเปลี่ยนสีทันที

“ห๊ะ!

“เลือดคุณ.....เป็นลิ่มๆ เลย”

อะไรนะ!  อ๊าาาา.......โอยย”

อ้าว คุณ!” โรนัลโด้รีบอ้าแขนรับตัวของเมสซี่ไว้อย่างรวดเร็ว............

..............ทันทีที่ร่างหมดสติของคนซึ่งขาวกว่าอ่อนตัวลงจนล้มพับไป

ร่างสูงดูเหมือนจะตกใจและงุนงงอยู่ไม่น้อยกับการที่อยู่ๆ อีกคนหนึ่งก็ล้มพับลงมาเสียอย่างนั้น  โรนัลโด้โอบกอดร่างไม่ได้สติของเมสซี่ไว้ แล้วสังเกต..........หน้าซีด ตัวอ่อนปวกเปียก  แถนยังขาอ่อนตอนล้มลงมาอีกต่างหาก

ชัดเลย เป็นลม.........ร่างสูงคิดสรุปแบบกระชับฉับไวในใจ แล้วมองไปรอบๆ

ใช่แล้ว  อีกอย่างหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้  ลีโอเนล   เมสซี่ก็กลัวเลือดจนขึ้นสมองด้วยเหมือนกันนะ

“เอาจริงหรือเนี่ย......เฮ้อ  เวรเอ้ย” โรนัลโด้ดูรูปการณ์แล้วก็ต้องเผลอสบถออกมากับตัวเองเบาๆ เพราะคนในอ้อมกอดของเค้ากำลังเลือดไหลไม่หยุดเค้าต้องทำการห้ามเลือดอย่างโดยด่วน ไม่สามารถพาลงลิฟต์ไปปฐมพยาบาลข้างล่างได้

............ถ้าทำแบบนั้นมีหวังได้เลือดท่วมลิฟต์แน่ๆ............

และตัวเค้าเองก็ค่อนข้างจะแน่ใจว่าการห้ามเลือดของเค้ามันรุนแรงเอามากๆ ดังนั้นจึงไม่อยากใช้มันกับคนที่บอบบางอย่างเมสซี่ที่แค่เห็นเลือดก็เป็นลมได้แล้ว  ถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเค้าทำยังไงพอฟื้นขึ้นมาเมสซี่อาจจะต่อยเค้าเอาได้  แต่จะให้ทำไงได้...............

“เอาว่ะ” เค้าพูดเพื่อรวบรวมกำลังใจของตัวเอง (มีอยู่ครั้งหนึ่งเปเป้เพื่อนนักฟุตบอลโดนสตาร์ทเตะดั้งตอนซ้อม วันนั้นแพทย์สนามไม่อยู่ไปรับลูกที่โรงเรียน โรนัลโด้เลยต้องช่วยห้ามเลือดให้เปเป้แทน และสุดท้ายเพื่อนๆ ในทีมก็บอกเค้าว่า “ทีหลังแกอย่าทำอย่างนี้อีกเป็นอันขาด!)

โรนัลโด้วางร่างของเมสซี่ผู้ซึ่งยังคงปล่อยเลือดออกมาจากร่างกายอยู่เรื่อยๆ ลงพื้นหญ้าหนานุ่ม แล้วจากนั้นร่างสูงก็ถอดเสื้อนอกมาคลุมให้ร่างเล็กแล้วเริ่มขั้นตอนการห้ามเลือดด้วยผ้าเช็ดหน้าของเค้ากับ.........เอ่อ คุณไม่จำเป็นต้องรู้ดีกว่านะ

.

.

.


**********************************************************************

.

.

.

รู้สึก ปวดหนึบๆ ที่หัวกับจมูก....................

แล้วนี่เค้าอยู่ที่ไหนกัน.............

“อะ อื้อ” ร่างเล็กครางอื้ออึงพลางขยับตัวไปมาอย่างยากลำบาก

“อ้าว คุณตื่นแล้วหรือ” โรนัลโด้ที่นั่งอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีที่บ่งบอกว่าดีขึ้นแล้วของร่างเล็ก แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อคนที่เพิ่งได้สติซุกหน้าเข้ากับอกของเค้า  ร่างสูงนิ่งไว้ก่อนที่คนในอ้อมกอดเค้าจะเริ่มถูใบหน้าของตัวเองไปมาบนอกล่ำๆ เค้า  และจากนั้น  ดวงตากลมโตลืมขึ้นแล้วกระพริบถี่ๆ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ใต้อกของอีกคนหนึ่งอยู่

เฮ้ยย นี่คุณทำอะไรน่ะ” เมสซี่ดีดตัวออกมาจากอ้อมกอดที่เค้าเพิ่งมุ้นหน้าซุกไปเมื่อกี้นี้ราวกับโดนน้ำร้อนลวก

โรนัลโด้ชักสีหน้า “ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณคิดนะ  ผมช่วยห้ามเลือดให้คุณแล้วจากนั้นคุณก็บ่นว่า หนาว ผมก็เลยถอดเสื้อนอกห่มให้ แล้วคุณก็กอดตัวเองแล้วก็บอกว่า หนาว อีก......คุณทำหน้าเหมือนหนาวมากๆ ผมก็เลยต้องกอดคุณ

และใบหน้าของร่างสูงบ่งบอกเลยว่า...ก็มันช่วยไม่ได้หนิ ด้วยสีหน้าเงียบขรึม ซึ่งผิดกับร่างเล็กที่รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าแล้วในตอนนี้

......................ไม่ใช่ว่าเพิ่งกำเดาไหลมาหมาดๆ หรอกนะ แต่เป็นเพราะเค้าเพิ่งโดนคู่แข่งกอดนี่แหละ....................

เมสซี่กระเถิบตัวออกมาห่างจากคนตัวสูงเล็กน้อย ก่อนจะไล่สายตาไปตามร่างกายกำยำซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีเพียงตัวเดียวเท่านั้น และมันก็ดูเหมือนจะเล็กลงไปเลยเมื่อเทียบกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงนั่น

จนเมสซี่กลัวว่ามันจะฉีกขาดออกมาเสียก่อน  และที่ร่างเล็กอดที่จะไม่พอใจไม่ได้เลยคือ ทำไมรูปร่างของเค้าสองคนถึงไม่เหมือนกันนะ? ก็ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แล้วทำไมเสื้อเชิ้ตของเค้าไม่เห็นปริบ้างล่ะ มันพอดีจนออกจะหลวมเลยด้วยซ้ำ.........

เมสซี่เม้มปากเน้นอย่างรู้สึกด้อยกว่าสุดขีดแล้วพูดเสียงสะบัด หลังจากกระชับดึงเสื้อนอกรัดตัวเองไว้อย่างดื้อดึง “คุณไม่ต้องทำยังนั้นก็ได้”

ร่างสูงเลิกคิ้ว “หะ...” แล้วเอ่ยเสียงเป็นเชิงไม่เข้าใจอย่างยี้ยวนในความคิดของร่างเล็กเอง

“ผมหมายถึงคุณไม่ต้องช่วยผมก็ได้!” เมสซี่พูดออกไปเสียงดังอย่างรู้สึกขุ่นเคืองนิดๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งทำเป็นไม่เข้าใจเค้า ซึ่งอันที่จริงนั้นร่างสูงก็ไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ

โรนัลโด้คิ้วกระตุกแล้วลดเปลือกตาลง “แต่คุณเป็นลมนะ” เค้าพูดเสียงเรียบ

“ฮะ”

“ก็คุณกลัวเลือดจนเป็นลมคอพับคออ่อนไปเลยนี่ เลือดคุณก็ไหลไม่หยุดแล้วจะให้ผมทำยังไงเล่า......ทิ้งคุณให้เลือดไหลหมดตัวน่ะเหรอ ได้ คราวหลังผมจะจำไว้ล่ะกัน” ร่างสูงพูดแล้วพยักหน้ากับตัวเองราวกับว่าจะจำคำพูดนั้นไว้แล้วจะนำไปใช้แน่นอนในภายหลัง 

แต่ทว่าคิ้วเข้มก็เลิกขึ้นข้างหนึ่งแล้วมุมปากหยักก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆ ยื้นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะพูดเสียงกระซิบอย่างต้องการยั่วโมโหร่างเล็กที่อยู่ข้างๆ

“อ่อ แล้วอีกอย่าง....คุณล้มทับผมแล้วผมก็รับคุณไว้ ก่อนจะกอดคุณซะแน่นเลยล่ะเพราะคุณตัวอ่อนปวกเปียกเหลือเกินหนิ” รอยยิ้มหล่อเหลาที่ดูชั่วร้ายในบางครั้งถูกตอบแทนกลับมาด้วยการชักสีหน้าใส่อย่างน่ารักน่าชังในสายตาของผู้พบเห็น  แต่ทว่าในความคิดของคนที่ต้องการจะยั่วโมโหเพื่อสั่งสอนนั่นกลับยิ่งอยากแกล้งให้มากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก

“ผมไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อย!” เมสซี่ดึงเสื้อนอกรัดตัวเองแน่นยิ่งกว่าเดิม......ก็แล้วจะให้ทำใจเชื่อได้ยังไงล่ะว่าเค้าทำตัวแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่รู้โรคพิลึกพิลันของเค้ากันน่ะ  โดนเฉพาะคนที่เริ่มทำตัวน่าหมั่นไส้อย่างโรนัลโด้

ร่างสูงยักคิ้วแต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “จริง...ผมจะโกหกคุณทำไม ผมเป็นคนรับคุณไว้เองนะ”

“ผมไม่เชื่อคุณ!” ตอนนี้ใบหน้าขาวๆ ของร่างเล็กเริ่มขึ้นสีแดงเป็นริ้วๆ แล้ว  เพราะรู้สึกขายหน้าและกลัวอยู่ไม่น้อยที่จะโดนอีกฝ่ายหนึ่งรู้ความลับเข้า

อ่าา มีหวังต้องโดนล้อแหงๆ เลยยย!.......เมื่อห้วนนึกถึงใบหน้าของเนย์มาร์ตอนล้อเลียนเค้าแล้วเมสซี่ก็ยิ่งใจเต้นรัว  แต่ร่างเล็กคงจะคิดว่าใครๆ ก็มีนิสัยเหมือนเนย์มาร์ไปซะหมดจนทำให้คิดว่าตัวเองกำลังจะโดนล้อให้แกล้งหน้าแดงเล่นๆ อย่างที่เนย์มาร์ชอบทำ

โรนัลโด้มองดูอีกคนหนึ่งทึ่งเสื้อนอกของเค้าราวกับว่ามันเป็นของตัวเอง  แล้วก็เงียบไปไม่พูดไม่จากับเค้าเสียอย่างนั้น

แปลกคน คิดจะพูดก็พูด คิดจะเงียบก็เงียบเอาซะดื้อๆ เลยแฮะ......ร่างสูงคิดในใจก่อนจะนั่งมองเสื้อนอกของเค้าต่อไปแล้วก็เปลี่ยนใจหันมาถามอีกฝ่ายหนึ่งแทน

“แล้วจมูกคุณโอเครึยัง  ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”

แต่แล้วก็.......

“คุณเป็นหมอเหรอ! ถ้าผมบอกว่าเจ็บคุณจะพาผมเข้าห้องผ่าตัดหรือไง.....เลิกยุ่งกับผมเสียทีเถอะ”

“คุณเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงหน้าแดง...”

“อ๊ากก! เปล่าๆๆ ผมไม่ได้เป็นอะไร....เปล่า” ร่างเล็กยื้อตัวหนี  แต่ทว่าร่างสูงซึ่งดูแลเค้ามาตั้งแต่แรกไม่ยอมที่จะให้เกิดอะไรขึ้นเพราะความดื้อดึงของเจ้าตัวอีกแล้ว  โรนัลโด้นั่งบนเข่าแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้

“ไหนขอผมดูหน่อย”

“ไม่! ไม่เอา....ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก  อย่า...อย่าขยับเข้ามาสิ!


.


.


.


และห่างออกไปไม่กี่หลานั้น..........

“เฮ้ย! นี่เฉยมานานแล้วนะ  ถ้าเป็นงี้มีหวังได้กลับไปมือเปล่าแน่ๆ .....ความลีลาของแกจะทำให้เราหมดโอกาสนะจำใส่หัวเอาไว้!” โจรที่หลบอยู่หลังต้นอาไซอิคนแรกเอาปืนตบหัวเพื่อนที่อยู่ข้างๆ

“โอ๊ย! ไอ้นี่! ถ้าเก่งจริงทำไมไม่ไปคนเดียวเลยล่ะว่ะ....หัดแหกตาดูซะบ้างว่านั่นน่ะเป็นใคร แล้วก็แหกสมองคิดด้วยว่าท่าทางมันน่ะเอาเรื่องขนาดไหน  ถ้าเราบุกไปตอนนี้มีหวังได้โดนมันเหวี่ยงตกตึกกันพอดี” โจรที่โดนตบด้วยด้ามปืนเค้นเสียงตอบกลับไปด้วยเสียงที่จริงจังมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

...........ตั้งแต่เห็นร่างสูงผู้มาใหม่เดินเข้ามาแล้ว  เค้าก็รู้เลยว่าถ้าจะเข้าไปชิงตัวเป้าหมายมาคงจะเป็นไปได้ยากหากมีชายคนนั้นอยู่  เพราะดูแล้วชายคนนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง...........

สายตาของโจรคนที่สองจ้องนิ่งไปยังแผ่นหลังของโรนัลโด้อย่างเขม็ง

“ไอ้ควายย ก็เอาปืนจัดการมันสิว่ะจะยากอะไร....พกมาให้ป้าแกซักผ้ารึไง!

“ก็ไหนแกบอกห้ามใช้ปืน...”

“เฉพาะฉุกเฉินโว้ย...ฉุกเฉิน  แกสมาธิสั้นรึไง” โจรบราซิลผู้ห้าวหาญพูดเสียงแข็ง พยายามไม่ให้อีกสองคนที่อยู่ด้านหน้าได้ยิน  แต่แล้วเค้าก็โดนเพื่อนตบหัวเป็นครั้งแรกดังผั๊วะ

“ฟังนะ! เราไม่ควรทำแบบนั้น ....หมอนั่นเหวี่ยงเรากระเด็นไปอีกมุมตึกหนึ่งได้เลย เข้าใจไหม!  ถ้าแกยังไม่อยากปิดจ็อบคืนนี้แบบไอ้พวกโง่ที่พอออกไปปุ๊บก็ตายปั๊บก็คิดซะให้ดีก่อนออกไปเลโซ

คนที่โดนคำรามรอดไรฟันใส่หน้าตาค้าง  ไม่เพียงแต่ประโยคจริงจังจากเพื่อนสุดบื้อที่เค้าไม่เคยได้ยินเท่านั้น  แต่ท่าทางอาการเกร็งจนมือสั่นของเพื่อนทำให้เค้าต้องอยู่นิ่งอย่างว่าง่ายเพราะไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน

“แกพล่ามบ้าอะไรของแกซานโตส” แต่แล้วปฏิกิริยานิ่งของโจรคนแรกกลับไม่ได้เป็นไปเพราะยอมทำตามคำขอของเพื่อน  แต่เป็นเพราะเค้ากำลังกลั้นขำเพื่อนจอมบื้อนี่อยู่ต่างหาก  โจรที่ชื่อเลโซขำไปด้วยขณะพูด

“แกคงจะดูหนังของพวกไอ้กันมากไปแน่ๆ เลยคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้อยู่....ไอ้หมอนี่มันเป็นนักฟุตบอลโว้ย......ฮ่าๆๆ ” เลโซปาดน้ำตา  ในขณะที่ซานโตสอ้าปากค้าง.....ความไม่แน่ใจก่อตัวขึ้นในใจของเค้า

“เออ....สงสัยจะจำผิดไปว่ะ  แล้วฉันจะมาโวยวายทำเพื่ออะไรว่ะเนี่ยย” ซานโตสเกาหัวแกรกๆ

  และเลโซก็ยังคงพูดต่อไป “.....นี่ ฉันจะให้แกทำเรื่องง่ายๆ ก็แล้วล่ะกันนะ......ไปจับเจ้าตัวบอบบางนั่นซะ  ส่วนฉันจะไปจัดการกับไอ้เจ้านายแบบนิตยสารเกย์นั่นเอง.....เสร็จแล้วก็กลับไปเอารางวัลกับหัวหน้า  เก็ทนะ....”

โจรผู้มั่นใจพยักหน้าช้าๆ  เค้าทำสีหน้าราวกับว่าเพื่อนตัวเองสติไม่สมประกอบ  แล้วกอดปืนเตรียมจะดีดตัวพุ่งออกไปจากที่ซ้อน

“ไม่!  อย่าเลโซ  เดี๋ยวก่อนดิ  เฮ้ยย  จะรีบไปไหนว่ะ.....” ซานโตสกำลังเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อเพื่อนไว้  แต่ทว่าเลโซกลับไวกว่า โจรเหี้ยมเชื้อสายบราซิลแท้กระโดดออกจากหลังต้นอาไซอิรุ่นเล็กแล้วพุ่งเข้าไปหาเมสซี่กับโรนัลโด้........

.

.

.

 “ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่า  ไม่ต้อง...ขอบคุณ” เมสซี่ร้องออกมาเสียงเหมือนเด็กใกล้โยเยเมื่อท้ายที่สุดแล้วเค้าก็ไม่สามารถสู้แรงของโรนัลโด้ได้  ตอนนี้เลยต้องมานั่งอยู่บนตักของอีกคน  ให้ร่างสูงกอดรัดเสียอย่างนั้น  เมสซี่หน้าบูด แต่ริ้วสีแดงบนหน้าก็ยังคงไม่จางหายไปไหน

...........เค้าไม่ยักรู้ว่านักฟุตบอลชาติโปรตุเกตุด้านหลังจะเป็นคนมีนิสัยเจ้ากี้เจ้าการเสียด้วย  และเมสซี่ก็เริ่มเบื่อซะแล้วล่ะ............

ร่างสูงต้องยืดแผ่นหลังขึ้นให้ตั้งตรงเพื่อกอดรัดร่างของเมสซี่ให้จมลงมาบนอกของเค้า  เพราะถึงสองครั้งที่เค้าโดนอีกคนหนึ่งฟาดอวัยวะใส่  และถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าขอโทษและไม่ได้ตั้งใจ  แต่เค้าก็ยังคงไม่ยอมหยุดดิ้นเสียที  ร่างสูงจึงต้องทำแบบนี้   โรนัลโด้ใช้นิ้วดันช่วงกรามของเมสซี่ให้หันหน้ามาทางเค้าอย่างเบามือ

“ผมไม่อยากบังคับคุณนะผมก็บอกไปแล้ว  แต่เลือดกำเดามันไหลออกมาได้อีกทุกเมื่อ  ดูจมูกคุณจะมีเลือดไหลออกมาเยอะมากเมื่อกี้นี้  และถ้าผมห้ามเลือดได้ไม่ดีพอมันก็อาจจะไหลออกมาอีก.....คุณอยากเห็นเลือดอีกรึไง” โรนัลโด้ขมวดคิ้วเมื่อร่างด้านใต้ออกแรงดิ้นอีกครั้ง  เมสซี่ดึงแขนออกมาได้สำเร็จก่อนจะใช้ฝ่ามือดันหน้าของโรนัลโด้ออก

“อ่า...ไม่เป็นไร ขอบคุณ  ผมว่าผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ขอบคุณมาก....ขอบคุณ” และเมสซี่ก็หันหน้าร้อนๆ ของตัวเองออกห่างพร้อมกับดันหน้าของอีกคนไปด้วย

.............ก็เพิ่งเจอกัน  แล้วแถมเพิ่งประชดใส่ไปด้วย อยู่ๆ ก็มานั่งอยู่บนตักเค้าแบบนี้  แล้วจะให้นั่งยิ้มเหมือนตอนดูหนังกับพวกพี่ๆ รึยังไงเล่า!............

อะไรกัน  ไม่ได้จะทำอะไรซะหน่อย  แค่จะตรวจดูเฉยๆ เท่านั้นเอง  ดิ้นเป็นลูกแมวอาบน้ำไปได้.........ร่างสูงคิดในใจ  ก่อนจะรวบมืออีกคนหนึ่งไว้ แล้วพยามอีกครั้ง

“อยู่นิ่งๆ สิ”

“ม่าย ไม่เอา...” ร่างเล็กหดคอและก้มหน้างุด  อุณหภูมิของเค้าเมื่อกำลังจะถูกรู้ไต๋ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างประหลาด  ทั้งโรนัลโด้และเมสซี่จึงตะลุมบอลกันอยู่ยกใหญ่ต่างฝ่ายต่างยื้อหยุดกันไปมา......ดูวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะว่าที่กัปตันทีมอาร์เจนติน่าที่ดูมีวุฒิภาวะครบถ้วนสมบรูณ์ดีเสียเหลือเกิน

“เฮ้......คุณนี่เหมือนเด็กๆ ไม่มีผิดเลยนะ  ผมไม่ใช่หมอฟันนะให้ตายสิ.....ได้โปรด  หันหน้ามามองผมหน่อย” ร่างสูงพูดเสียงละเหี่ยใจ

“ก็คุณบังคับผมนี่....ผมบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร  อึ  อย่า....!” ทีนี้ร่างสูงล็อคหน้าเมสซี่ไว้แล้ว เค้าก็เลือกที่จะหันมาดูด้วยตัวเอง

โอ้ พระเจ้า  บอกผมทีว่าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังหน้าแดงอยู่!

เห็นทีเมสซี่คงจะผิดหวัง เพราะพระเจ้าโกหกไม่ได้  แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งเค้าเสียทีเดียว........

“โอเค ผมหันมาหาคุณเองก็ได้ ทีนี้เลิกดื้อเสียทีนะ  ผมดูเสร็จก็จะไม่ยุ่งกับคุณแล้ว......”

แต่แล้วประโยคหมดทุกข์ของโรนัลโด้ก็ถูกตัดด้วยเสียงที่ดังลั่นอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าของผู้มาใหม่............

ย๊ากกกกกก!!

เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งดังลั่นเรียกร้องความสนใจของสองร่างที่เกี่ยวรัดกันอยู่ได้เป็นอย่างดี 


.


.


.


TBC.



------------------------------------------------------------------------------



อ๊าาาาาาา ไม่นะ! เฮียปกป้องเหมียวไว้ให้ได้ อย่าให้เหมียวเป็นอะไรไปนะคะ!! >{}<

//ไม่ห่วงเฮีย....นี่แกไม่ห่วงเฮียเลยใช่ไหม// + //ก็เหมียวเค้าเป็นเคะนี่.....เมะ ก็ต้องดูแลเคะสิเคอะ//

มาแล้วๆ ค่ะ กับฉากเปิดตัวของสมุนโจร............เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น  ติดตามกันได้ใน Part 4 คะ  ไรท์ล่ะ......อึก //เอากำปั้นอุดปากตัวเอง ก่อนหลวมตัวสปอยล์ตามระเบียบพัก//

ไรท์จะไม่พูดค่ะ  ให้รีดๆ อ่านเองดีกว่า  รับรองว่า Part เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นแน่นอนค่ะ ^^

เม้นท์ๆ เป็นกลังใจให้ไรท์ด้วยนะเออ + ติชมกันเข้ามานะจ๊าาาา

มาคลิกเป็นเพื่อนกับไรท์ได้ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ได้เลยค่าาา

รักรีดทุกท่านค่าาาา.....จุ๊บ -3- //ประทับแก้ม//

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund




3 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

แหม่ รู้สึกว่าพ่อคริสเตียโน่เขาจะกวนโอ๊ยจริงๆด้วยล่ะค่ะเนี่ย 555

ฟังดูแต่ละประโยคที่ถามลีโอก็รู้สึกว่าเอ...สรุปว่านี่เป็นนักฟุตบอล(และเป็นคู่แข่ง(?)ของลีโอ)หรือเป็นหมอกันแน่นะ เหมือนจะละเอียดและมีหลักการมาก แถมยังดูจะเป็นห่วงเป็นใยเสียด้วยสิช่างขัดกับท่าทีที่เจอกันในตอนแรกโดยสิ้นเชิง //เอ๊ย ไม่ใช่ ><;;

แล้วที่พยายามไม่ยอมให้เขาเห็นใบหน้าของตัวเองนี่คือ...สรุปลีโอเขินใช่ไหมล่ะ เรารู้หน่าา~~ แค่นี้ก็เขินเสียแล้ว น่ารักมากๆเลย *///* ไม่รู้ว่าแบบนี้คุณคริสเตียโน่จะเริ่มตกหลุมรักบ้างหรือยังนะ แต่ที่จริงตอนลีโอถาม นี่เขาก็ตอบเสียละเอียดเชียว แต่เชื่อเขาหน่อย คิดว่าคริสคงจะอยากมากว่า 'ผมเป็นคนดีพอที่จะไม่ทำอย่างที่คุณคิดหนอกน่า!' นั่นแหน่ะ รู้นะว่าลีโอคิดอะไร แต่ที่จริงเราว่าโอกาสแบบนี้น่าจะจูบเลยด้วยซ้ำ //แอร๊ยย//

สำหรับแก๊งโจรตอนนี้ชื่อสมาชิกมาแล้ว เอาล่ะ ดูจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ แบบนี้ก็อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆแล้วซี่... //กอดๆ อ้อนๆ >w<//




ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โจรได้ออกโรงซะที่หลังจาที่ซุ่มอยู่นาน......555
เหมียวน่าร๊ากกกกกกเฮียต้องดูแลดีดีเลยนะ
ตอน4 จงมา....... ตอน4 จงมา......มาไวไวเลยน้าา
มันค้างอ่าา
Gingaksorn

Unknown กล่าวว่า...

เหมียวแกน่ารักไปละนะT//////////T
เฮียโด้ทำแบบนี้เขิลมากอ่ะบอกเลยฟอห้ก่กาดสวด
โจรจะมาปล้นเหมียวละนะเฮีย จัดการมันเลย เย่ๆๆ
อัพต่อไวๆนะค้า