ฟิ้ววววว ---
พุ่งมาด้วยความเร็วสูง เมื่อลงจากรถและเสร็จภารกิจมาได้
ไรท์ก็มาลงฟิคทันทีค่ะ.....Part นี้จะมีเรื่องใหม่ให้ตื่นเต้นกันค่ะ จะเป็นอะไรนั้น รีดๆ ต้องรอลุ้นและอ่านกันค่ะ ^^
วันนี้นั่งรถทั้งวันมึนหัวมากเลยค่ะ เรื่องเมาท์กระเด็นกระดอนหายไปหมดแล้วววว อ้าาาาา
เอาเป็นว่าอย่าสนใจไรท์แล้วไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ
ไปโล้ดดดดดดด >{}<!!
ป.ล. อิพี่โด้นี่กวนโอ๊ยค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------
ลีโอเนล
เมสซี่หลบสายตานั้นเสียแล้วเลี่ยงเดินไปด้านข้าง มือเล็กๆ
ของเค้ายังคงสัมผัสกับราวเหล็กอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งเดินออกมาได้ไกลพอสมควรร่างเล็กก็ตัดสินใจพิงเข้ากับราวเหล็กนั้นแล้วกัดริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อย
ทั้งๆ
ที่อุตส่าห์ดีใจไว้อยู่แล้วเชียวว่าเราก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้
แต่การกระทำของร่างสูงก็บ่งบอกชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายนั้นคิดเช่นไร...........ว่าตามตรงเมสซี่ก็อยากคิดนะ
อยากคิดที่จะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูแล้วก็แข่งกันให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลยในสนาม.............
แต่ทว่าเค้ากลับทำไม่ได้ ทั้งชีวิตลีโอเนล เมสซี่รู้จักเพียงแต่การผูกมิตรเท่านั้น
การที่จะต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนอื่นน่ะลืมไปได้เลย
ความต้องการของร่างเล็กตอนนี้เพียงแค่อยากจะหาเพื่อนเท่านั้น
และเค้าก็คิดมาเสมอว่า.....เฮ้ บางทีโรนัลโด้อาจไม่คิดแบบนั้น
บางทีถ้าหากพวกเค้าเจอกันอาจจะทำความรู้จักแล้วเป็นเพื่อนกันได้..........
แต่ความจริงแล้ว เมสซี่เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามันกลับไม่ใช่
เพราะโรนัลโด้ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเค้า
ร่างเล็กรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้เค้าพยายามบังคับให้ตัวเองโกรธแล้วเกลียดขี้หน้าคนข้างๆ
ซะแต่เค้าก็ทำไม่ได้........เพราะเค้าเกลียดใครไม่เป็นหรอก
(เพราะงั้นเค้าเลยโดนคนอื่นแกล้งบ่อยๆ โดยเฉพาะเนย์มาร์ เพราะเค้าไม่เคยโกรธใคร)
สายลมที่ค่อนข้างแรงบนชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้นยังคงพัดผ่านมาปะทะร่างของเมสซี่ที่ยืนเงียบๆ
อยู่คนเดียว
แต่เค้าหารู้ไม่เลยว่าอีกคนหนึ่งซึ่งเพิ่งเริ่มบทสนทนากับเค้า กำลังเดินสำรวจไปมารอบพื้นที่พร้อมทั้งลอบมองร่างเล็กที่แสนเหงาหงอยนั้นไปด้วยเป็นระยะๆ
............ไม่ว่าตอนนี้ใครก็ไม่สามารถเดาได้ว่า
ร่างสูงนั้นกำลังคิดเช่นไรอยู่...........
เมสซี่ที่หลังจากเดินออกมาก็ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองอีกฝ่ายเลย
ก็กำลังรู้สึกเจ็บจมูกขึ้นมาจี๊ดๆ
เพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเค้าเพิ่งได้รับอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาไม่หยุด ทุกคนในทีมเป็นห่วงเค้ามาก
แต่เค้าก็บอกปัดกลับไปว่าไม่เป็นอะไร
และตอนนี้มันก็เจ็บแปล็บขึ้นมาแบบแปลกๆ แต่ว่าร่างเล็กกลับไม่สนใจมัน แล้วเริ่มหลับตาปี๋พร้อมกับจามออกมาครั้งใหญ่
“ฮัดชิ้ววว!”
แวบแรกหลังจากจามเสร็จบอกได้เลยว่ามันรุนแรงมากจนเมสซี่ตัวสั่นนิดๆ
แล้วเริ่มกอดตัวเองที่เพิ่งเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมา
ส่วนร่างสูงก็เพียงผินหน้ามามองอยู่ห่างๆ เมื่อความเงียบถูกทำลายลง ก่อนมันจะเริ่มขึ้นอีก.......
“ฮัดชิ้ว!.....อา ฮัดชิ้ว!......ฮัดชิ้ว! โอ๊ย หยุดสักที......ฮัดชิ้วว!”
เมสซี่ที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเป็นหวัดโอดครวญกับตัวเองเมื่อเค้าจามออกมาไม่หยุด จนโรนัลโด้ที่ยืนอยู่ห่างๆ เริ่มหันมามองแล้วถามขึ้น
“เอ่อ...คุณโอเครึเปล่า”
“ไม่ ไม่...ผมไม่เป็นไร ฮัดชิ้วว!” เมสซี่บอกปัด
เพราะคิดว่าร่างสูงพูดตามมารยาท
โรนัลโด้เดินเข้ามาดูใกล้ๆ
พลางคิดว่าร่างเล็กตรงหน้านี้ช่างดื้อดึงเสียจริง
“คุณโอเคไหม?”
ร่างสูงถามย้ำอีกครั้ง และคนถูกถามก็กำลังเตรียมจะโบกมือปัดบอกเต็มที่ว่าไม่เป็นไรจริงๆ
แต่แล้วเค้าก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังไหลอยู่บนร่องจมูกของเค้า
................และมันอุ่นมาก..............
เมสซี่ผู้ขี้สงสัยจึงยกมือขึ้นแตะร่องจมูกตัวเอง
และค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่สิ่งที่เค้าคิดอยู่เพราะมันเป็น........ “ก้อนอะไรอ่ะ”
“อ๋อ เลือดน่ะ” คนที่เพิ่งเดินมาถึงเลื่อนหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ
แล้วไขข้อข้องใจ จนทำให้อีกคนหนึ่งหน้าเปลี่ยนสีทันที
“ห๊ะ!”
“เลือดคุณ.....เป็นลิ่มๆ
เลย”
“อะไรนะ!
อ๊าาาา.......โอยย”
“อ้าว คุณ!”
โรนัลโด้รีบอ้าแขนรับตัวของเมสซี่ไว้อย่างรวดเร็ว............
..............ทันทีที่ร่างหมดสติของคนซึ่งขาวกว่าอ่อนตัวลงจนล้มพับไป
ร่างสูงดูเหมือนจะตกใจและงุนงงอยู่ไม่น้อยกับการที่อยู่ๆ
อีกคนหนึ่งก็ล้มพับลงมาเสียอย่างนั้น
โรนัลโด้โอบกอดร่างไม่ได้สติของเมสซี่ไว้ แล้วสังเกต..........หน้าซีด
ตัวอ่อนปวกเปียก
แถนยังขาอ่อนตอนล้มลงมาอีกต่างหาก
ชัดเลย เป็นลม.........ร่างสูงคิดสรุปแบบกระชับฉับไวในใจ
แล้วมองไปรอบๆ
ใช่แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้ ลีโอเนล
เมสซี่ก็กลัวเลือดจนขึ้นสมองด้วยเหมือนกันนะ
“เอาจริงหรือเนี่ย......เฮ้อ เวรเอ้ย” โรนัลโด้ดูรูปการณ์แล้วก็ต้องเผลอสบถออกมากับตัวเองเบาๆ
เพราะคนในอ้อมกอดของเค้ากำลังเลือดไหลไม่หยุดเค้าต้องทำการห้ามเลือดอย่างโดยด่วน
ไม่สามารถพาลงลิฟต์ไปปฐมพยาบาลข้างล่างได้
............ถ้าทำแบบนั้นมีหวังได้เลือดท่วมลิฟต์แน่ๆ............
และตัวเค้าเองก็ค่อนข้างจะแน่ใจว่าการห้ามเลือดของเค้ามันรุนแรงเอามากๆ
ดังนั้นจึงไม่อยากใช้มันกับคนที่บอบบางอย่างเมสซี่ที่แค่เห็นเลือดก็เป็นลมได้แล้ว
ถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเค้าทำยังไงพอฟื้นขึ้นมาเมสซี่อาจจะต่อยเค้าเอาได้ แต่จะให้ทำไงได้...............
“เอาว่ะ”
เค้าพูดเพื่อรวบรวมกำลังใจของตัวเอง
(มีอยู่ครั้งหนึ่งเปเป้เพื่อนนักฟุตบอลโดนสตาร์ทเตะดั้งตอนซ้อม
วันนั้นแพทย์สนามไม่อยู่ไปรับลูกที่โรงเรียน
โรนัลโด้เลยต้องช่วยห้ามเลือดให้เปเป้แทน และสุดท้ายเพื่อนๆ ในทีมก็บอกเค้าว่า “ทีหลังแกอย่าทำอย่างนี้อีกเป็นอันขาด!”)
โรนัลโด้วางร่างของเมสซี่ผู้ซึ่งยังคงปล่อยเลือดออกมาจากร่างกายอยู่เรื่อยๆ
ลงพื้นหญ้าหนานุ่ม
แล้วจากนั้นร่างสูงก็ถอดเสื้อนอกมาคลุมให้ร่างเล็กแล้วเริ่มขั้นตอนการห้ามเลือดด้วยผ้าเช็ดหน้าของเค้ากับ.........เอ่อ
คุณไม่จำเป็นต้องรู้ดีกว่านะ
.
.
.
**********************************************************************
.
.
.
รู้สึก ปวดหนึบๆ
ที่หัวกับจมูก....................
แล้วนี่เค้าอยู่ที่ไหนกัน.............
“อะ อื้อ”
ร่างเล็กครางอื้ออึงพลางขยับตัวไปมาอย่างยากลำบาก
“อ้าว คุณตื่นแล้วหรือ”
โรนัลโด้ที่นั่งอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีที่บ่งบอกว่าดีขึ้นแล้วของร่างเล็ก
แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อคนที่เพิ่งได้สติซุกหน้าเข้ากับอกของเค้า
ร่างสูงนิ่งไว้ก่อนที่คนในอ้อมกอดเค้าจะเริ่มถูใบหน้าของตัวเองไปมาบนอกล่ำๆ
เค้า และจากนั้น ดวงตากลมโตลืมขึ้นแล้วกระพริบถี่ๆ
ก่อนที่จะรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ใต้อกของอีกคนหนึ่งอยู่
“เฮ้ยย นี่คุณทำอะไรน่ะ”
เมสซี่ดีดตัวออกมาจากอ้อมกอดที่เค้าเพิ่งมุ้นหน้าซุกไปเมื่อกี้นี้ราวกับโดนน้ำร้อนลวก
โรนัลโด้ชักสีหน้า
“ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณคิดนะ
ผมช่วยห้ามเลือดให้คุณแล้วจากนั้นคุณก็บ่นว่า หนาว
ผมก็เลยถอดเสื้อนอกห่มให้ แล้วคุณก็กอดตัวเองแล้วก็บอกว่า หนาว อีก......คุณทำหน้าเหมือนหนาวมากๆ
ผมก็เลยต้องกอดคุณ”
และใบหน้าของร่างสูงบ่งบอกเลยว่า...ก็มันช่วยไม่ได้หนิ
ด้วยสีหน้าเงียบขรึม ซึ่งผิดกับร่างเล็กที่รู้สึกร้อนไปทั้งหน้าแล้วในตอนนี้
......................ไม่ใช่ว่าเพิ่งกำเดาไหลมาหมาดๆ
หรอกนะ แต่เป็นเพราะเค้าเพิ่งโดนคู่แข่งกอดนี่แหละ....................
เมสซี่กระเถิบตัวออกมาห่างจากคนตัวสูงเล็กน้อย
ก่อนจะไล่สายตาไปตามร่างกายกำยำซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีเพียงตัวเดียวเท่านั้น
และมันก็ดูเหมือนจะเล็กลงไปเลยเมื่อเทียบกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงนั่น
จนเมสซี่กลัวว่ามันจะฉีกขาดออกมาเสียก่อน และที่ร่างเล็กอดที่จะไม่พอใจไม่ได้เลยคือ
ทำไมรูปร่างของเค้าสองคนถึงไม่เหมือนกันนะ? ก็ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ
แล้วทำไมเสื้อเชิ้ตของเค้าไม่เห็นปริบ้างล่ะ มันพอดีจนออกจะหลวมเลยด้วยซ้ำ.........
เมสซี่เม้มปากเน้นอย่างรู้สึกด้อยกว่าสุดขีดแล้วพูดเสียงสะบัด
หลังจากกระชับดึงเสื้อนอกรัดตัวเองไว้อย่างดื้อดึง “คุณไม่ต้องทำยังนั้นก็ได้”
ร่างสูงเลิกคิ้ว “หะ...”
แล้วเอ่ยเสียงเป็นเชิงไม่เข้าใจอย่างยี้ยวนในความคิดของร่างเล็กเอง
“ผมหมายถึงคุณไม่ต้องช่วยผมก็ได้!”
เมสซี่พูดออกไปเสียงดังอย่างรู้สึกขุ่นเคืองนิดๆ
ที่อีกฝ่ายหนึ่งทำเป็นไม่เข้าใจเค้า ซึ่งอันที่จริงนั้นร่างสูงก็ไม่เข้าใจจริงๆ
นั่นแหละ
โรนัลโด้คิ้วกระตุกแล้วลดเปลือกตาลง
“แต่คุณเป็นลมนะ” เค้าพูดเสียงเรียบ
“ฮะ”
“ก็คุณกลัวเลือดจนเป็นลมคอพับคออ่อนไปเลยนี่
เลือดคุณก็ไหลไม่หยุดแล้วจะให้ผมทำยังไงเล่า......ทิ้งคุณให้เลือดไหลหมดตัวน่ะเหรอ
ได้ คราวหลังผมจะจำไว้ล่ะกัน”
ร่างสูงพูดแล้วพยักหน้ากับตัวเองราวกับว่าจะจำคำพูดนั้นไว้แล้วจะนำไปใช้แน่นอนในภายหลัง
แต่ทว่าคิ้วเข้มก็เลิกขึ้นข้างหนึ่งแล้วมุมปากหยักก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆ
ยื้นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะพูดเสียงกระซิบอย่างต้องการยั่วโมโหร่างเล็กที่อยู่ข้างๆ
“อ่อ
แล้วอีกอย่าง....คุณล้มทับผมแล้วผมก็รับคุณไว้ ก่อนจะกอดคุณซะแน่นเลยล่ะเพราะคุณตัวอ่อนปวกเปียกเหลือเกินหนิ”
รอยยิ้มหล่อเหลาที่ดูชั่วร้ายในบางครั้งถูกตอบแทนกลับมาด้วยการชักสีหน้าใส่อย่างน่ารักน่าชังในสายตาของผู้พบเห็น
แต่ทว่าในความคิดของคนที่ต้องการจะยั่วโมโหเพื่อสั่งสอนนั่นกลับยิ่งอยากแกล้งให้มากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
“ผมไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อย!”
เมสซี่ดึงเสื้อนอกรัดตัวเองแน่นยิ่งกว่าเดิม......ก็แล้วจะให้ทำใจเชื่อได้ยังไงล่ะว่าเค้าทำตัวแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่รู้โรคพิลึกพิลันของเค้ากันน่ะ
โดนเฉพาะคนที่เริ่มทำตัวน่าหมั่นไส้อย่างโรนัลโด้
ร่างสูงยักคิ้วแต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย
“จริง...ผมจะโกหกคุณทำไม ผมเป็นคนรับคุณไว้เองนะ”
“ผมไม่เชื่อคุณ!” ตอนนี้ใบหน้าขาวๆ
ของร่างเล็กเริ่มขึ้นสีแดงเป็นริ้วๆ แล้ว
เพราะรู้สึกขายหน้าและกลัวอยู่ไม่น้อยที่จะโดนอีกฝ่ายหนึ่งรู้ความลับเข้า
อ่าา มีหวังต้องโดนล้อแหงๆ เลยยย!.......เมื่อห้วนนึกถึงใบหน้าของเนย์มาร์ตอนล้อเลียนเค้าแล้วเมสซี่ก็ยิ่งใจเต้นรัว แต่ร่างเล็กคงจะคิดว่าใครๆ
ก็มีนิสัยเหมือนเนย์มาร์ไปซะหมดจนทำให้คิดว่าตัวเองกำลังจะโดนล้อให้แกล้งหน้าแดงเล่นๆ
อย่างที่เนย์มาร์ชอบทำ
โรนัลโด้มองดูอีกคนหนึ่งทึ่งเสื้อนอกของเค้าราวกับว่ามันเป็นของตัวเอง แล้วก็เงียบไปไม่พูดไม่จากับเค้าเสียอย่างนั้น
แปลกคน คิดจะพูดก็พูด
คิดจะเงียบก็เงียบเอาซะดื้อๆ เลยแฮะ......ร่างสูงคิดในใจก่อนจะนั่งมองเสื้อนอกของเค้าต่อไปแล้วก็เปลี่ยนใจหันมาถามอีกฝ่ายหนึ่งแทน
“แล้วจมูกคุณโอเครึยัง ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”
แต่แล้วก็.......
“คุณเป็นหมอเหรอ! ถ้าผมบอกว่าเจ็บคุณจะพาผมเข้าห้องผ่าตัดหรือไง.....เลิกยุ่งกับผมเสียทีเถอะ”
“คุณเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงหน้าแดง...”
“อ๊ากก! เปล่าๆๆ
ผมไม่ได้เป็นอะไร....เปล่า” ร่างเล็กยื้อตัวหนี
แต่ทว่าร่างสูงซึ่งดูแลเค้ามาตั้งแต่แรกไม่ยอมที่จะให้เกิดอะไรขึ้นเพราะความดื้อดึงของเจ้าตัวอีกแล้ว โรนัลโด้นั่งบนเข่าแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้
“ไหนขอผมดูหน่อย”
“ไม่! ไม่เอา....ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก อย่า...อย่าขยับเข้ามาสิ!”
.
.
.
และห่างออกไปไม่กี่หลานั้น..........
“เฮ้ย! นี่เฉยมานานแล้วนะ ถ้าเป็นงี้มีหวังได้กลับไปมือเปล่าแน่ๆ
.....ความลีลาของแกจะทำให้เราหมดโอกาสนะจำใส่หัวเอาไว้!”
โจรที่หลบอยู่หลังต้นอาไซอิคนแรกเอาปืนตบหัวเพื่อนที่อยู่ข้างๆ
“โอ๊ย! ไอ้นี่! ถ้าเก่งจริงทำไมไม่ไปคนเดียวเลยล่ะว่ะ....หัดแหกตาดูซะบ้างว่านั่นน่ะเป็นใคร
แล้วก็แหกสมองคิดด้วยว่าท่าทางมันน่ะเอาเรื่องขนาดไหน ถ้าเราบุกไปตอนนี้มีหวังได้โดนมันเหวี่ยงตกตึกกันพอดี”
โจรที่โดนตบด้วยด้ามปืนเค้นเสียงตอบกลับไปด้วยเสียงที่จริงจังมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
...........ตั้งแต่เห็นร่างสูงผู้มาใหม่เดินเข้ามาแล้ว
เค้าก็รู้เลยว่าถ้าจะเข้าไปชิงตัวเป้าหมายมาคงจะเป็นไปได้ยากหากมีชายคนนั้นอยู่ เพราะดูแล้วชายคนนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง...........
สายตาของโจรคนที่สองจ้องนิ่งไปยังแผ่นหลังของโรนัลโด้อย่างเขม็ง
“ไอ้ควายย
ก็เอาปืนจัดการมันสิว่ะจะยากอะไร....พกมาให้ป้าแกซักผ้ารึไง!”
“ก็ไหนแกบอกห้ามใช้ปืน...”
“เฉพาะฉุกเฉินโว้ย...ฉุกเฉิน แกสมาธิสั้นรึไง” โจรบราซิลผู้ห้าวหาญพูดเสียงแข็ง
พยายามไม่ให้อีกสองคนที่อยู่ด้านหน้าได้ยิน
แต่แล้วเค้าก็โดนเพื่อนตบหัวเป็นครั้งแรกดังผั๊วะ
“ฟังนะ! เราไม่ควรทำแบบนั้น
....หมอนั่นเหวี่ยงเรากระเด็นไปอีกมุมตึกหนึ่งได้เลย เข้าใจไหม! ถ้าแกยังไม่อยากปิดจ็อบคืนนี้แบบไอ้พวกโง่ที่พอออกไปปุ๊บก็ตายปั๊บก็คิดซะให้ดีก่อนออกไปเลโซ”
คนที่โดนคำรามรอดไรฟันใส่หน้าตาค้าง
ไม่เพียงแต่ประโยคจริงจังจากเพื่อนสุดบื้อที่เค้าไม่เคยได้ยินเท่านั้น
แต่ท่าทางอาการเกร็งจนมือสั่นของเพื่อนทำให้เค้าต้องอยู่นิ่งอย่างว่าง่ายเพราะไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน
“แกพล่ามบ้าอะไรของแกซานโตส”
แต่แล้วปฏิกิริยานิ่งของโจรคนแรกกลับไม่ได้เป็นไปเพราะยอมทำตามคำขอของเพื่อน
แต่เป็นเพราะเค้ากำลังกลั้นขำเพื่อนจอมบื้อนี่อยู่ต่างหาก โจรที่ชื่อเลโซขำไปด้วยขณะพูด
“แกคงจะดูหนังของพวกไอ้กันมากไปแน่ๆ
เลยคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้อยู่....ไอ้หมอนี่มันเป็นนักฟุตบอลโว้ย......ฮ่าๆๆ ”
เลโซปาดน้ำตา
ในขณะที่ซานโตสอ้าปากค้าง.....ความไม่แน่ใจก่อตัวขึ้นในใจของเค้า
“เออ....สงสัยจะจำผิดไปว่ะ แล้วฉันจะมาโวยวายทำเพื่ออะไรว่ะเนี่ยย”
ซานโตสเกาหัวแกรกๆ
และเลโซก็ยังคงพูดต่อไป “.....นี่ ฉันจะให้แกทำเรื่องง่ายๆ
ก็แล้วล่ะกันนะ......ไปจับเจ้าตัวบอบบางนั่นซะ
ส่วนฉันจะไปจัดการกับไอ้เจ้านายแบบนิตยสารเกย์นั่นเอง.....เสร็จแล้วก็กลับไปเอารางวัลกับหัวหน้า เก็ทนะ....”
โจรผู้มั่นใจพยักหน้าช้าๆ
เค้าทำสีหน้าราวกับว่าเพื่อนตัวเองสติไม่สมประกอบ แล้วกอดปืนเตรียมจะดีดตัวพุ่งออกไปจากที่ซ้อน
“ไม่!
อย่าเลโซ เดี๋ยวก่อนดิ เฮ้ยย จะรีบไปไหนว่ะ.....”
ซานโตสกำลังเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อเพื่อนไว้
แต่ทว่าเลโซกลับไวกว่า
โจรเหี้ยมเชื้อสายบราซิลแท้กระโดดออกจากหลังต้นอาไซอิรุ่นเล็กแล้วพุ่งเข้าไปหาเมสซี่กับโรนัลโด้........
.
.
.
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่า ไม่ต้อง...ขอบคุณ”
เมสซี่ร้องออกมาเสียงเหมือนเด็กใกล้โยเยเมื่อท้ายที่สุดแล้วเค้าก็ไม่สามารถสู้แรงของโรนัลโด้ได้ ตอนนี้เลยต้องมานั่งอยู่บนตักของอีกคน ให้ร่างสูงกอดรัดเสียอย่างนั้น เมสซี่หน้าบูด แต่ริ้วสีแดงบนหน้าก็ยังคงไม่จางหายไปไหน
...........เค้าไม่ยักรู้ว่านักฟุตบอลชาติโปรตุเกตุด้านหลังจะเป็นคนมีนิสัยเจ้ากี้เจ้าการเสียด้วย และเมสซี่ก็เริ่มเบื่อซะแล้วล่ะ............
ร่างสูงต้องยืดแผ่นหลังขึ้นให้ตั้งตรงเพื่อกอดรัดร่างของเมสซี่ให้จมลงมาบนอกของเค้า เพราะถึงสองครั้งที่เค้าโดนอีกคนหนึ่งฟาดอวัยวะใส่
และถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าขอโทษและไม่ได้ตั้งใจ แต่เค้าก็ยังคงไม่ยอมหยุดดิ้นเสียที ร่างสูงจึงต้องทำแบบนี้
โรนัลโด้ใช้นิ้วดันช่วงกรามของเมสซี่ให้หันหน้ามาทางเค้าอย่างเบามือ
“ผมไม่อยากบังคับคุณนะผมก็บอกไปแล้ว แต่เลือดกำเดามันไหลออกมาได้อีกทุกเมื่อ
ดูจมูกคุณจะมีเลือดไหลออกมาเยอะมากเมื่อกี้นี้
และถ้าผมห้ามเลือดได้ไม่ดีพอมันก็อาจจะไหลออกมาอีก.....คุณอยากเห็นเลือดอีกรึไง”
โรนัลโด้ขมวดคิ้วเมื่อร่างด้านใต้ออกแรงดิ้นอีกครั้ง เมสซี่ดึงแขนออกมาได้สำเร็จก่อนจะใช้ฝ่ามือดันหน้าของโรนัลโด้ออก
“อ่า...ไม่เป็นไร ขอบคุณ ผมว่าผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ
ขอบคุณมาก....ขอบคุณ” และเมสซี่ก็หันหน้าร้อนๆ
ของตัวเองออกห่างพร้อมกับดันหน้าของอีกคนไปด้วย
.............ก็เพิ่งเจอกัน แล้วแถมเพิ่งประชดใส่ไปด้วย อยู่ๆ
ก็มานั่งอยู่บนตักเค้าแบบนี้
แล้วจะให้นั่งยิ้มเหมือนตอนดูหนังกับพวกพี่ๆ รึยังไงเล่า!............
อะไรกัน ไม่ได้จะทำอะไรซะหน่อย แค่จะตรวจดูเฉยๆ เท่านั้นเอง ดิ้นเป็นลูกแมวอาบน้ำไปได้.........ร่างสูงคิดในใจ ก่อนจะรวบมืออีกคนหนึ่งไว้ แล้วพยามอีกครั้ง
“อยู่นิ่งๆ สิ”
“ม่าย ไม่เอา...”
ร่างเล็กหดคอและก้มหน้างุด
อุณหภูมิของเค้าเมื่อกำลังจะถูกรู้ไต๋ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างประหลาด
ทั้งโรนัลโด้และเมสซี่จึงตะลุมบอลกันอยู่ยกใหญ่ต่างฝ่ายต่างยื้อหยุดกันไปมา......ดูวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะว่าที่กัปตันทีมอาร์เจนติน่าที่ดูมีวุฒิภาวะครบถ้วนสมบรูณ์ดีเสียเหลือเกิน
“เฮ้......คุณนี่เหมือนเด็กๆ
ไม่มีผิดเลยนะ ผมไม่ใช่หมอฟันนะให้ตายสิ.....ได้โปรด หันหน้ามามองผมหน่อย” ร่างสูงพูดเสียงละเหี่ยใจ
“ก็คุณบังคับผมนี่....ผมบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร อึ
อย่า....!” ทีนี้ร่างสูงล็อคหน้าเมสซี่ไว้แล้ว เค้าก็เลือกที่จะหันมาดูด้วยตัวเอง
โอ้ พระเจ้า บอกผมทีว่าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังหน้าแดงอยู่!
เห็นทีเมสซี่คงจะผิดหวัง
เพราะพระเจ้าโกหกไม่ได้
แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งเค้าเสียทีเดียว........
“โอเค ผมหันมาหาคุณเองก็ได้
ทีนี้เลิกดื้อเสียทีนะ
ผมดูเสร็จก็จะไม่ยุ่งกับคุณแล้ว......”
แต่แล้วประโยคหมดทุกข์ของโรนัลโด้ก็ถูกตัดด้วยเสียงที่ดังลั่นอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าของผู้มาใหม่............
“ย๊ากกกกกก!!”
เสียงร้องอย่างบ้าคลั่งดังลั่นเรียกร้องความสนใจของสองร่างที่เกี่ยวรัดกันอยู่ได้เป็นอย่างดี
.
.
.
TBC.
------------------------------------------------------------------------------
อ๊าาาาาาา ไม่นะ! เฮียปกป้องเหมียวไว้ให้ได้
อย่าให้เหมียวเป็นอะไรไปนะคะ!! >{}<
//ไม่ห่วงเฮีย....นี่แกไม่ห่วงเฮียเลยใช่ไหม//
+ //ก็เหมียวเค้าเป็นเคะนี่.....เมะ ก็ต้องดูแลเคะสิเคอะ//
มาแล้วๆ ค่ะ
กับฉากเปิดตัวของสมุนโจร............เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามกันได้ใน Part 4 คะ ไรท์ล่ะ......อึก //เอากำปั้นอุดปากตัวเอง
ก่อนหลวมตัวสปอยล์ตามระเบียบพัก//
ไรท์จะไม่พูดค่ะ ให้รีดๆ อ่านเองดีกว่า รับรองว่า Part เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นแน่นอนค่ะ
^^
เม้นท์ๆ
เป็นกลังใจให้ไรท์ด้วยนะเออ + ติชมกันเข้ามานะจ๊าาาา
รักรีดทุกท่านค่าาาา.....จุ๊บ
-3- //ประทับแก้ม//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund
3 ความคิดเห็น:
แหม่ รู้สึกว่าพ่อคริสเตียโน่เขาจะกวนโอ๊ยจริงๆด้วยล่ะค่ะเนี่ย 555
ฟังดูแต่ละประโยคที่ถามลีโอก็รู้สึกว่าเอ...สรุปว่านี่เป็นนักฟุตบอล(และเป็นคู่แข่ง(?)ของลีโอ)หรือเป็นหมอกันแน่นะ เหมือนจะละเอียดและมีหลักการมาก แถมยังดูจะเป็นห่วงเป็นใยเสียด้วยสิช่างขัดกับท่าทีที่เจอกันในตอนแรกโดยสิ้นเชิง //เอ๊ย ไม่ใช่ ><;;
แล้วที่พยายามไม่ยอมให้เขาเห็นใบหน้าของตัวเองนี่คือ...สรุปลีโอเขินใช่ไหมล่ะ เรารู้หน่าา~~ แค่นี้ก็เขินเสียแล้ว น่ารักมากๆเลย *///* ไม่รู้ว่าแบบนี้คุณคริสเตียโน่จะเริ่มตกหลุมรักบ้างหรือยังนะ แต่ที่จริงตอนลีโอถาม นี่เขาก็ตอบเสียละเอียดเชียว แต่เชื่อเขาหน่อย คิดว่าคริสคงจะอยากมากว่า 'ผมเป็นคนดีพอที่จะไม่ทำอย่างที่คุณคิดหนอกน่า!' นั่นแหน่ะ รู้นะว่าลีโอคิดอะไร แต่ที่จริงเราว่าโอกาสแบบนี้น่าจะจูบเลยด้วยซ้ำ //แอร๊ยย//
สำหรับแก๊งโจรตอนนี้ชื่อสมาชิกมาแล้ว เอาล่ะ ดูจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยนะคะ แบบนี้ก็อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆแล้วซี่... //กอดๆ อ้อนๆ >w<//
โจรได้ออกโรงซะที่หลังจาที่ซุ่มอยู่นาน......555
เหมียวน่าร๊ากกกกกกเฮียต้องดูแลดีดีเลยนะ
ตอน4 จงมา....... ตอน4 จงมา......มาไวไวเลยน้าา
มันค้างอ่าา
Gingaksorn
เหมียวแกน่ารักไปละนะT//////////T
เฮียโด้ทำแบบนี้เขิลมากอ่ะบอกเลยฟอห้ก่กาดสวด
โจรจะมาปล้นเหมียวละนะเฮีย จัดการมันเลย เย่ๆๆ
อัพต่อไวๆนะค้า
แสดงความคิดเห็น