วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[Fic - RonalSi] + [Part 8] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! - Ronaldo x Messi



ไรท์มาแล้วค่าาาา  ไรท์มาแล้วววว //เอาหัวกราบแทบเท้ารีดๆ//  หลังจากที่หายไปก็น่าจะนานอยู่ชิมิเคอะ  วันนี้ไรท์มาพร้อมกับ Part 8 ของ RonalSi ค่ะ

Part นี้ก็ โด้+เหมียวเต็มๆ เลยค่ะ......เฮียของเรานี่เก่งเว่อร์ ----- //ทำเสียงขึ้นจมูก//  แบบว่า บุกตะลุยสู้ไปเพื่อเหมียวนะเฮียยย  สู้ต่อไปปปปป!! //ชูกำปั้นอนึ่งดูบางระจัน//

และหากท่านใดเห็นว่าไรท์หายไปน๊านนน  นานนนน  จนเบื่อที่จะนั่งรออยู่เฉยๆ แล้วก็เข้ามาทวง+ให้กะลังใจไรท์ได้เลยค่ะที่

>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  จิ้มเลยค่ะ  ไรท์ยินดีรับแอดเสมอ ^^  และอย่าลืมคอมเม้นท์กันด้วยนะคะ  มีหลายครั้งเลยค่ะ ที่มีหลายคอมเม้นท์เด้งขึ้นมาทำให้ไรท์ลง Part ต่อไปอย่างรวดเร็วในวันถัดมาเพราะทนต่อเสียงทัดทานของรีดๆ กันไม่ไหว >{}<  เพราะฉะนั้นก็คอมเม้นท์กันเยอะๆ นะค้าาาาา

ที่นี้ก็ไปอ่านกันเลยค่าาาาา


*********************************************************************



“ได้...ได้ครับ เราเจ๊ากัน”

“ด้วยความยินดี  ใช่ อย่างงั้นแหละ.....เยี่ยมเลย” ร่างสูงตบไหล่อีกคนหนึ่งที่เออออตามเค้า เล็กน้อย  รู้สึกดีที่ช่องว่างของเค้าทั้งสองเริ่มลดลงแล้ว ส่วนหนึ่งด้วยความร่วมมือของตัวร่างเล็กเองด้วย


***********************************************************


จากนั้นโรนัลโด้ก็ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงราวกับเค้าแข็งแรงดี (ก็แหงอยู่แล้ว) ก่อนจะกระทืบลงกับพื้นลิฟต์จนตัวลอยเข้าอย่างแรง

ตึงง!!

“หวะ เหวออ!” เมสซี่เผลออุทานเสียงหลง  เมื่อลิฟต์สั่นเล็กน้อย  ก่อนจะช้อนสายตามองขึ้นไปอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของร่างสูงที่ยืนท้าวเอวพิเคราะห์สิ่งรอบตัวอยู่เหมือนราวกับว่าเค้าเป็นวิศวกรโยธาภาคดิน

โรนัลโด้เบนสายตาไปหาร่างเล็กบ้าง “เราโดนตัดสายลิฟต์น่ะ” เค้าพูดเหมือนช่างซ่อมรถที่บอกลูกค้าของเค้าว่าสายพานขาด ต้องเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว

“ฮะ...” เมสซี่ไม่ใช่คนที่รอบรู้นัก เลยเดาคำพูดของร่างสูงไม่ถูก

“พวกมันคงรู้แล้วว่าเราอยู่ในลิฟต์น่ะ  เลยตัดสายลิฟต์จนขาด  แต่โชคดีที่สลิงที่มันขาดไปติดกับมอเร่พอดี  เราเลยหยุดได้ทันก่อนที่จะได้ลงไปจูบพื้น....ไม่งั้นเรามีหวังคงได้เละอยู่ข้างล่างแน่ๆ ”

แล้วพวกมันไม่คิดบ้างหรือไงนะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราไม่ตายและเละติดพื้นอยู่ข้างล่างนั่นน่ะ  ไอ้พวกปัญญานิ่มเอ๊ย.........โรนัลโด้ยังคงไม่ลดมือลง  ร่างสูงมองไปที่พื้น  แต่เมสซี่กลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนมีคำถาม

“คุณหมายความว่าไงนะ” ไม่ต้องบอกกัน ร่างเล็กก็รู้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกโล่งอกเป็นแน่

“อ๋อ....ผมหมายถึง เราติดอยู่น่ะ  และถ้าผมเดาไม่ผิดตอนนี้เราน่าจะอยู่ที่ชั้นสองรองจากล็อบบี้  ใช่ คุณไม่ต้องกลัวนะ เพราะเรากำลังจะได้ออกไปแล้ว” ร่างสูงส่งยิ้มยินดีไปให้ แต่อีกคนหนึ่งกลับรู้สึกคล้อยตามได้ยากนัก

ผมไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นนะ.......เมสซี่คิดในใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดออกไป  โรนัลโด้ก็เดินมาที่ประตูลิฟต์ซึ่งปิดสนิท แล้วคุกเข่าลง วางมือทั้งสองบนรอยต่อของประตู

“คุณจะทำอะไร” เมสซี่ท้วง  คลานมาหาคนที่ไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเค้าเลย

“ก็จะแงะมันออกไง”

คุณทำเป็นเหรอ  ค่ายฤดูร้อนสอนคุณมารึไง....ผมว่าที่นั่นคงไม่มีลิฟต์จริงๆ ให้พวกคุณได้ลองฝึกหรอกนะ  ใช่ไหม?” เมสซี่กระซิบ โดยที่ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องทำเช่นนั้น  แต่เค้าเริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนที่จะดูแลเค้าเสียแล้ว  กลัวว่าอีกคนหนึ่งจะแย่เอาเสียเอง

โรนัลโด้ระบายเสียงหัวเราะมาทางลมหายใจ แล้วหันมายิ้มกับเมสซี่อย่างหยุดไม่ได้ “หึ  ไม่มีหรอก.....ผมทำได้เอง” เค้าอมยิ้ม ราวกับเมสซี่เป็นเด็กอายุห้าขวบที่เพิ่งถามเค้าว่าคนเราเกิดมาจากกระบอกไม่ไผ่ใช่รึเปล่า

ร่างสูงหันกลับมาเตรียมตัวจะออกแรงแบบรวดเดียวจบ  เมสซี่หน้าเหวอ

“คุณฝึกกับลิฟต์ที่สโมสรรึไง  ทำได้เองงั้นเหรอ  ผมเกือบเชื่อเลยว่าคุณ.......”

ชู่ว์  เดี๋ยว เงียบก่อน.....” จู่ๆ ร่างสูงโปร่งสมส่วนก็ยกนิ้วชี้ขึ้นห้ามให้คนช่างสงสัยเงียบเสียง  ใบหน้าหล่อเหลาเบี่ยงมาหาเมสซี่ แต่สายตาคมของเค้าหันไปทางประตูลิฟต์ซึ่งปิดอยู่สนิทแน่น......สีหน้าเค้านิ่งเรียบและดูจดจ่อ  มีสมาธิ

“อะไรเหรอ” เมสซี่เงียบจริง  เค้าเพียงแค่พยับปากถาม ถึงแม้จะรู้ว่าร่างสูงจะมองไม่เห็นมันก็ตาม

*****************************************************************

ด้านนอก อีกฝั่งหนึ่งของลิฟต์.............

แกร๊ก!

“ไอ้โง่ใครใช้ให้แกมากับฉันว่ะ....น่าโง่ชะมัดเลย” ชายร่างผอมแห้งสวมเสื้อกล้ามมอซอกระแทกปลายปืนใส่หัวเพื่อนอย่างหัวเสีย

“ให้ตาย....ใจเย็นสิแร็คม่า ฉันก็พยายามอยู่เนี่ย  ก็ปลายแฉลงมันทู่นี่หว่า....แงะยากอ่ะ”

“แล้วแกจะไปว่ามันทำไมล่ะแร็คม่า  ทำเองไปเลยสิ....น่ารำคาญชะมัด  หัวหน้าอุตส่าห์บอกให้เรามารับตัวเป้าหมายก่อน  แล้วแกยังจะเอาอะไรอีก  เราได้ตัวไปชัวร์ๆ อยู่แล้ว.....ยังจะมาหัวเสียใส่กันอยู่อีก”

“แกเงียบไปเลยดอน.........แล้วนี่แกยังจะถูหัวแฉลงอยู่อย่างงั้นอีกนานไหมถอย! ฉันทำเอง”


***********************************************************************


ด้านในของลิฟต์ ที่ซึ่งชายหนุ่มร่างสูงยังคงเงี่ยหูฟัง และชายหนุ่มอีกคนหนึ่งก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย.............

“มีคนอยู่ข้างนอกน่ะ” โรนัลโด้เห็นสัญญาณปากของเมสซี่  เสียงเข้มจึงพูดตอบ  ฟังดูไม่เดือดไม่ร้อนอะไรเลย

เมสซี่ทำหน้าเลิกลั่ก  ตาโต  ก่อนจะอ้าปากน้อยๆ  ร่างเล็กไม่กล้าคิดไปหรอกว่าคนข้างนอกจะเป็นพวกไหน.............

เมสซี่เห็นโรนัลโด้กระพริบตาเล็กน้อย

“มีหนึ่ง.....” นิ้วชี้ของร่างสูงยังคงวาดอยู่กลางอากาศ  แต่ครั้งนี้เค้าเลื่อนมันมาอยู่ใกล้ประตูลิฟต์ราวกับจะบอกให้เมสซี่หยุดฟังด้วย........

...........แต่เสียใจ  ร่างเล็กไม่ได้ยินอะไรเลย..........

ร่างสูงดูมีสมาธิอย่างยิ่ง และดวงตาสีน้ำตาลดูกระตือรือร้นและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา  จนเมสซี่ยังแอบทึ่งนิดๆ

โรนัลโด้ขยับศีรษะเล็กน้อย เหมือนนกอินทรีย์

“สอง....” เค้าพูด  ดวงตาคมกระพริบไปมาอย่างพยายามค้นหา  และเมสซี่ก็กำลังจ้องร่างสูงแบบนั้นเลย

มีความสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่เมสซี่ไม่รู้สึก “สาม.....”

จมูกโด่งคมของโรนัลโด้เด่นอยู่ท่ามกลางแสงไฟสีส้มอ่อนภายในลิฟต์  เค้าแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง

“สี่” เค้าพูดเบาๆ คล้ายกระซิบ  แล้วลดมือลงก่อนจะสิ้นสุดการนับจำนวนคนเพียงเท่านี้

“ฮะ...” น่าสงสารที่เมสซี่น้อยๆ ตามอะไรไม่ทันเลย  เค้าโดนโรนัลโด้ยกตัวขึ้นไปแปะไว้ข้างแป้นกดลิฟต์โดยที่ยังไม่ได้ตั้งคำถามอะไรทั้งสิ้น

“พวกมันมีอยู่สี่คน.....ข้างนอกนั้น” ร่างสูงเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อประกอบคำพูด  และดันอกเมสซี่เข้าไปอีก  เมสซี่มองมือแกร่งคู่นั้นแล้วชักสายตามองคนที่ดันเค้า

อุ่ย...เอ่อ ผมขอโทษ ผมลืมไป...ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ผู้หญิงผมก็ไม่ควร เอ่อ.....” ร่างสูงชักมือกลับ แล้วทำท่ายกขึ้นราวกับยอมรับผิด แล้วชี้โบ้ชี้เบ้ไปตรงที่เค้าเพิ่งดันเข้าไป

“โทษที...” โรนัลโด้ยิ้มแห้ง  ก่อนจะเข้าเรื่องต่อ

“โอเค  เอาล่ะ  คุณอยู่นี่นะ  แล้วพอประตูเปิดแล้วคุณก็อยู่ตรงนี้แหละ  ไม่ต้องออกไปนะเดี๋ยวผมจัดการเอง.....อย่าขยับ จนกว่าผมจะอนุญาต  เข้าใจไหม?” ร่างสูงสั่งการพลางชี้นิ้วมาที่เค้า  เมสซี่พยักหน้ารับ สีหน้ายังคงเหมือนตามไม่ทัน

ดี” โรนัลโด้ว่า  ก่อนจะแนบแผ่นหลังเข้ากับผนังลิฟต์ข้างประตูอีกฝั่งหนึ่งบ้าง เค้าหันหน้ามามองเมสซี่

“ลีโอ” เค้าเรียก

“ครับ” เจ้าของชื่อหันมา แล้วขานรับ  เค้าดูไม่ชินนักที่ถูกโรนัลโด้เรียกแบบนี้

“ผมหวังว่าคุณจะยอมยกโทษให้ผมนะ  ที่......เอ่อ ผมจงใจเมินใส่คุณก่อนหน้านี้” สีหน้าของร่างสูงดูสำนักผิดเป็นอย่างยิ่ง  และเมสซี่ดูประหลาดใจ......เค้าไม่คิด หวังจะได้ยินคำสารภาพอะไรจากโรนัลโด้ทั้งนั้น

“มะ ไม่...ผมยกโทษให้คุณ  และผมไม่คิดว่าคุณจะแคร์ความรู้สึกคนอย่างผมด้วย” คำพูดเหนือความคาดหมาย ทำให้อะดรีนาลีนของเมสซี่หลั่งออกมา  เค้าเลยทำหน้าตื่นตระหนก  แต่คำยกโทษที่แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจในคำถามนั้นก็ทำให้คนที่ได้รับคำแถลงรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยเลย

“ขอบคุณ....” โรนัลโด้ดูโล่งอกเป็นอย่างยิ่ง  และห้ามรอยยิ้มของตัวเองไม่ให้ปรากฏออกมาไม่ได้เลย

“.....คุณเชื่อใจได้เลย” ร่างสูงพูด เค้าหลับตาทำหน้าเคลิ้มฝัน(ถ้าเมสซี่มองไม่ผิด)  ลำคอของเค้าเมื่อยามเงยขึ้น เป็นสีน้ำผึ้งเข้มสวยกว่าปรกติ

“เชื่อใจทักษะการเข้าแคมป์ของคุณน่ะหรือ?” เมสซี่ยกมือขึ้นเหมือนโจรที่ถูกตำรวจจ่อปืนใส่  หลังจากที่ได้ยินเสียงเหล็กโดนงัดออก.....ร่างเล็กสะดุ้ง  มันกำลังเข้ามาแล้ว.......

“ไม่....เชื่อใจผมสิ” ในเสี้ยววินาที  เมสซี่ตาฝาดไปรึเปล่าว่าเห็นมุมปากของร่างสูงหยัดขึ้นชั่วขณะอย่างได้ชัย  แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก..........

โรนัลโด้แนบตัวกับผนังลิฟต์อย่างเงียบเชียบ โดยที่มีชายสองคนพุ่งเข้ามาในลิฟต์....พวกเค้าดูมอมแมมและมอซอพอๆ กัน......โรนัลโด้ดึงแขนคนแรกไว้แล้วเสียง กร็อบก็ดังขึ้น  ตามมาด้วยเสียงร้องดังลั่นของคนที่โดนรั้งแขนไว้  ร่างสูงของชายโปรตุเกตุแท้กระทืบลงที่สีข้างของชายคนเดิม แล้วชกกระแทกใส่หน้าคนที่สองซึ่งถลาเข้ามาก่อนแล้ว......ชายคนที่สองแน่นิ่งไปเลย

เมสซี่ตาโตมองชายคนนั้น นอนแผ่อยู่บนพื้น  จมูกแดง........

“เลือด....!” โรนัลโด้ตะโกน ขณะกำลังกระแทกหน้าชายคนที่สามเข้ากับผนังลิฟต์ฝั่งของเค้า

“ฮะ...อะไรนะ” เมสซี่ไม่แน่ใจ  โรนัลโด้คุยกับเค้าอยู่รึเปล่า

แต่ร่างสูงก็ย้ำ “เลือด! ผู้ชายคนนั้น คนที่โดนผมต่อย....เลือดกำเดาเค้ากำลังจะไหล  คุณรีบหันหน้าไปทางอื่นเร็ว!  ถ้าไม่อยากเห็นเลือดอีกรอบ” เค้าว่า ก่อนจะทิ้งร่างของชายคนที่ได้จูบลิฟต์เข้าไปเต็มรักลงกับพื้น

ร่างเล็กหน้าเหวอกว่าเดิม  ก่อนจะรีบหันไปทางอื่นแต่โดยดี...........นี่สินะ ข้อดีของการยกเวททุกวันของโรนัลโด้น่ะ  เมสซี่คิด  เค้ากำลังหลับตาปี๋แล้วก็ได้ยินเสียง ผั๊วะก่อนคำว่า

“เวรเอ้ย!” ของใครก็ไม่รู้  แล้วก็มีเสียงตุ้บเกิดขึ้น  แต่คราวนี้ทุกอย่างเงียบลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เมสซี่หันกลับมาอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ความสงสัยก็ต้านทานทุกสิ่งแล้วสั่งให้เค้าหมุนคอกลับมา

ภาพที่เห็นคือโรนัลโด้ยืนหอบอยู่เหนือร่างของชายสามคนที่มีชายผอมแห้งมอซอนอนทับอยู่  ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนหนึ่งแล้วยักคิ้วให้

“ไง....ผมบอกแล้ว คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น....ผมเอาอยู่” โรนัลโด้คุย ราวกับว่าเค้าเพิ่งทำประตูได้ในระยะยี่สิบเมตร

พระเจ้า! คุณเป็น CIA รึไงเนี่ย!” เมสซี่อุทาน  แต่มือก็ยังคงเกาะอยู่บนหูคู่เล็กที่ออกสีแดงระเรื่อเพราะตื่นเต้น

ไม่  ผมเป็นนักฟุตบอลต่างหากล่ะ.....คุณก็น่าจะรู้ดีหนิ” เค้าพูด พลางดึงข้อมือเล็กให้ตามเค้าออกมา  เมสซี่โดดข้ามซากของชายมอซอแล้ววิ่งหลุ่นๆ ตามโรนัลโด้ไปอย่างค่อนข้างทุลักทุเล  แต่ท้ายที่สุดแล้วเค้าก็ปรับจังหวะให้เข้ากับอีกคนหนึ่งได้

ในใจร่างเล็กก็คิดไปด้วยว่า  โอ้ พระเจ้า  เค้าเป็นห่วงความรู้สึกฉันด้วย.....เพราะโรนัลโด้ช่วยไม่ให้เค้าเป็นลมไปเพราะเห็นเลือดอีกรอบหนึ่ง  ซึ่งนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ เลย

“มันรู้....ไม่ คุณรู้ได้ไงว่าข้างนอกมีกี่คน  แล้วคุณรู้ได้ไง ว่าเราต้องทำยังไง.......อะ โอ้ว ข้างนอกนั่นมีแขกอยู่เต็มไปหมดเลย ดูสิ!” เมสซี่ร้อง พลางชี้ลงที่ชั้นล่างด้านนอกของกระจก  เค้าเห็นหัวของแขกมากมายอยู่ลิบๆ

“รู้  ผมรู้สิ และมันก็.....ไหน  ใช่ นั่นแหละที่ๆ เราจะลงไปกัน  แต่ก่อนอื่นผมว่าเราต้องลงไปให้ได้ก่อน  ถ้าพวกมันเข้ามาต้อนรับเราหน้าลิฟต์ได้  หน้าล็อบบี้ก็คงจะมีพวกมันยั้วเยี้ยเต็มไปหมดแหงๆ ” โรนัลโด้วิ่งไปด้วย ดูนอกกระจกไปด้วย......เค้าเห็นผู้คนมีสีหน้าหวาดกลัวและบางคนก็ต่างพากันร้องไห้ราวกับพวกเค้ากำลังจะโดนยิงทิ้งกันทีละคน  โรนัลโด้หันมายิ้มน้อยๆ กับเมสซี่  แต่ร่างเล็กตั้งตัวไม่ทันเลยไม่ได้ยิ้มตอบไป

โรนัลโด้หันกลับมาสนใจทางตรงหน้าต่อ แล้วรอยยิ้มหล่อนั้นก็หายไปโดยร่างเล็กไม่ทันได้มอง “เราต้องออกทางด้านหลัง”

ตอนนี้ร่างสูงของคริสเตียนโน่   โรนัลโด้ กำลังฉุดข้อมือของลีโอเนล   เมสซี่ให้ออกวิ่งไปข้างหน้าด้วยกัน  ราวกับระยะทางนี้จะไม่มีที่สิ้นสุด.......

หากในเวลาปรกติที่ไม่ใช่เหตุการณ์คับคันเช่นนี้ มันคงจะเป็นภาพหายากที่สุดในทศวรรษเป็นแน่  ที่สองคนซึ่งถูกขีดเส้นชะตาเพื่อให้มาเป็นคู่แข่งกัน  ได้ออกวิ่งไปด้วยกัน   ร่วมชะตาไปด้วยกัน  ในค่ำคืนที่จะพลิกชีวิตของพวกเค้า

ไปตลอดกาล.............


.


.


.


TBC.


*******************************************************************


เฮียเก่งเว่อร์อ่ะค่ะ อิ3อิ  //แกเขียนเองหนิ//  ก็งี้ล่ะค่ะ  เป็นพระเอกต้องไว้ลายเยี่ยงพระเอกกกกก  อ่าาาาา กระชากเสื้อแล้วเอาหัวใจไรท์ไปเลยค่ะ  ขึ้นแท่นพระเอกซูปเปอร์ฮีโร่เลยนะคะเฮียขาาาาา........เนี่ย  ไรท์กะรีดๆ เค้าอวยให้เฮียกะเหมียวแต่งงานกันจนจะไปบนหัวหมูศาลพระภูมิหน้าบ้านกันหมดอยู่แล้วค่ะ >///<  แต่งเห๊อะะะ Please ---!

“ในค่ำคืนที่จะพลิกชีวิตของพวกเค้า

ไปตลอดกาล.............”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ค่ะ  คืนนี้(ในเรื่อง) จะมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นทำให้ความรู้สึกของสองคนนี้เปลี่ยนไป  และหนึ่งในตอนที่ไรท์ชอบที่สุดก็คือตอนสุดท้ายนี่แหละค่ะ  อิ่มเอมใจ......อ่านแล้วทำให้ไรท์ยิ้มบางๆ ตามเลยล่ะค่ะ  อ่านซ้ำแล้วก็ฉีกยิ้มเลย 55555+ //เข้าขั้นบ้า// + หายไปนานค่ะ......ต้องเข้าใจ

อาการไม่ดีมาตั้งแต่สอบและเร่งทำคะแนนเก็บแล้วค่ะ  รู้สึกน็อตหลุดจนบ้าไปแล้ว 555

ส่วนคู่อื่นๆ ไรท์กำลังเร่งเขียนอยู่ค่ะ  ไม่ทิ้งแน่นอนคะ M_ _M  ไรท์จิเขียนให้จบสัญญาเลยค่ะ //Check hand//

แล้วเจอกันใหม่ใน.....น่าจะเร็วๆ นี้ค่ะ //มีน่าจะด้วย -_-“// เพราะพุธหน้าไรท์ก็จะสอบเสร็จแล้วนะเออ  ฮิ้ววววว //จุดพลุ// + //ยั๊งไม่ทันได้สอบเลยยย!!//

เมาท์ยาวมากเกินไปแล้ว  รักรีดทุกท่านมากเหลือเกินนะคะ........คอมเม้นท์กันให้ไรท์กระชุ่มกระชวยด้วยนะเออ  (รู้สึกว่า Part นี้จะน้อยไปหน่อยแต่ก็เพื่อความลงตัวใน Part ต่อๆ ไปค่ะ  ต้องออภัยด้วยนะคะ M_ _M)

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เฮียเก่งมากเลย
โชคดีแล้วเหมียว....
Gingaksorn

demon กล่าวว่า...

โอ้โห... *0*

เชื่อเขาเลยค่ะว่าพ่อยอดชาย คุณคริสเตียโน่เขาเป็นได้ทู้กกกอย่างจริงๆ //ลากเสียงเพื่ออรรถรสหน่อย// ทั้งวิศวกรโยธา ช่างซ่อมรถ หรือแม้แต่กระทั่ง CIA (อย่างที่ลีโอบอก) บลาๆๆมีอะไรที่เขาคนนี้ยังไม่ได้เป็นกันอีกนะ เอ... คิดก่อนซิ นี่แหละพระเอกตัวจริง(ของลีโอ -w-)เลยล่ะ!

รู้สึกว่าที่ค่ายเขาจะสอนหลายอย่างจริงๆนะ ค่ายนี้อยู่ที่ไหนเนี่ย ยอดเยี่ยมเหลือเกิน อุแหม่. ที่ไม่ได้สอนก็ทำได้เอง นี่มันยอดมนุษย์ชัดๆ 55+ เจ๋งจริงๆเลยพ่อคุณ พับผ่าสิ!

ตอนนี้ไม่มีเนย์มาร์กับเปเป้ แต่สีสันมาอยู่ที่พัฒนาการความสัมพันธ์ของสองคนนี้แทนก็เริดค่ะ. แบบนี้แหละคนอ่านชอบ และปลาอยให้สมองทำงาน คิดล่วงหน้าไปถึงเหตุการณ์อันใกล้(หรือเปล่า?)แล้ว เหอๆๆ //ขอฝากเสียงหัวเราะมีเลศนัยทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนา//

Cindy2202 กล่าวว่า...

งื้ออออ เข้ามาสครีมมมมมมมม
เพิ่งเข้ามาอ่านบล็อกนี้ได้ไม่นาน แต่ชอบมาจนไล่อ่านเกือบครบแบ้ววววว
ชอบคู่นี้ที่สุดเลยค่ะ ขอมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกว่านี้อีกกกกกกกกก >.,<
ไรท์ทำเราเสพติด RonalSi ไปแล้ววว รับผิดชอบด้วยยยยยยยยย 555
ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆมาให้อ่านค่าาาา รอตอนต่อไปเลยยย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบคำว่า 'ไปตลอดกาล' ในตอนท้ายจังเลย

ตอนนี้เป็นตอนที่ลุ้นและหวาดเสียวมาก
แต่เฮียของเรานั้น โคตรเก่งเลยรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

เฮียต้องดูแล ปกป้องน้องเหมียวให้ดีๆนะ
ถ้าทำได้เดี่ยวยกน้องเหมียวให้เป็นรางวัล
แต่ก็ไม่รู้ว่า เฮียจะสนใจรึเปล่า