สวัสดีค่ะรีดที่รักทุกท่านของไรท์ มาแล้วค่ะสำหรับ RonalSi ของเรา ก่อนอื่นเลยไรท์อยากจะขอระบายว่า......
อ๊ะ! หวานจัด!
//เอาสองมือกุมหัวเกือบจะคลุ้มคลั่ง//
เค้าจะเป็นห่วงกันไปถึงไหนกันค่ะ ไรท์จะละลายเพราะความเป็นห่วงเป็นใยของเค้าอยู่แล้วค่ะ!!
เหมียว : “แต่ผมเจ็บนะ”
เฮีย : “โอ้
เฮ้....ผมขอโทษ ผมไม่นึกว่ามันจะโดนตาคุณจริงๆ......”
โอ๊ยยยย ไรท์นี่แอบอิจฉาเลยค่ะ(พูดอะไรน่ะ...ข้าม) รีดคิดไปถึงไหนกันคะ? 55555 งั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ ไรท์สปอยล์คงไม่สนุกเท่าได้อ่านจริง Part นี้สมุนโจรปัญญาอ่อนจริงๆ
เลยค่ะ.....ไรท์บรรเลงเองขอการันตี --- ! -_-“
คอนเซ็ปคือไรท์ไม่อยากจะให้รีดเครียดมากนักนะคะ
เลยรั่วมั่วตั๊วตามประสาทไรท์ ฮาาาา ประสาทนะคะไม่ใช่ประสา....ไรท์ว่าตัวเองเข้าขั้นประสาแล้วค่ะ -_-^
เชิญไปอ่านกันเลยค่าาาาา (ป.ล. อ่านต่อจาก Part ที่แล้วเลยนะคะ ท่านใดจำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปอ่าน
Part ที่แล้วได้เลยค่ะ)
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เสียงวิ่งระรัวของรองเท้าบู๊ตเกือบสิบคู่วิ่งอย่างเร่งรีบจนเกือบถูกมองว่าเป็นการแข่งขันกัน วิ่งขึ้นบันไดหนีไฟเพื่อไปประจำการยังจุดต่างๆ
ที่หัวหน้าได้วางแผนเอาไว้ และหากทุกตำแหน่งเคลียร์แล้ว
เป้าหมายของพวกเค้าก็จะไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมือของผู้ล่าไปได้แน่..............
“โจฟรี่....แกวิ่งเหมือนตุ๊ดเลยว่ะ!”
“มอโตร่า แกหุบปากไปเลย!” ชายที่เหน็บปืนรั้งอยู่ท้ายแถว
ตะโกนใส่เสียงคุกคาม เพื่อนๆ
ที่วิ่งอยู่ด้านหน้าก็หันกลับมาแล้วส่งเสียงชอบใจทันที
“อู้ว์--- เล่นถึงแม่เลยโว้ย ฮ่าๆๆ”
พอโดนเสียงหัวเราะเยาะซ้ำเติม
ชายคนแรกที่เปิดหัวข้อสนทนาก็หน้าเสียแล้วหุบปากเงียบไปทันที
เมื่อคู่สนทนาแรกของเค้าไม่เป็นปลื้มกับการเปิดประโยคหัวข้อของเค้าเสียเท่าไร
ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนวิ่งหน้าตั้งพุ่งออกประตูทางหนีไฟไปบนโถงทางเดินซึ่งปูด้วยหินอ่อนชั้นดีจากออสเตรเลีย
ต่างคนต่างวิ่งและศอกใส่กันวุ่นวายดูขาดระเบียบวินัย.....เหตุเพราะต่างคนต่างอยากไปถึงจุดประจำการของตัวเองให้เร็วที่สุด
คนที่วิ่งอยู่หน้าสุดคือชายคนที่เพิ่งโดนด่าแม่ไป
“ฮะ ฮ่า! ไอ้พวกกินต้มเต่า
รู้สึกคืนนี้หลังจากเสร็จงานจะมีคนเลี้ยงเหล้าข้าแน่ๆ เลยเว้ย ฮ่าๆๆๆ”
ดูเหมือนจะยังไม่เข็ดเรื่องบทเรียนเกี่ยวกับแม่
ชายคนนั้นยังคงโอ้อวดต่อไปโดยที่หันกลับมาสมน้ำหน้าแกมล้อเลียนให้กับเพื่อนข้างหลังที่หมั่นไส้อยากจะแกล้งถีบขาให้มันหายฮาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
แต่คนฮาก็ยังฮาไม่เลิก
และหันกลับไปสาดฝอยน้ำลายกระจายใส่เพื่อนร่วมอาชีพต่ออย่างลอยหน้าลอย
พอหันกลับมาก็แทบเบรกไม่ทันเลยทีเดียว
“อะ ฮะ ฮ่า...ฮาๆๆ ฮ่าๆๆๆ อูยย
จะล้วงคอรอกินเหล้านะเว้ยย ฮ่ะๆๆ ขอบใจที่เลี้ยงว่ะเพื่อน เรียงตามรายคนเลยนะ เลี้ยงข้าคนละวันเอาสาวๆ นั่งดริงค์ด้วย.........อะ
อ้าวเฮ้ยย! นั่น! นั่นมัน!......มันอยู่นั่น มันอยู่นั่น!!”
ชายคนหน้าเกือบเบรกไม่ทันต้องจิกบู๊ตเสียจนเต็มข้อพร้อมกับกางมือแปะเพื่อนข้างหลังไปด้วย เมื่อภาพข้างหน้าคือ
ชายร่างสูงรูปร่างกำยำใส่สูทเรียบหรูกำลังฉุดรั้งฉุดดึงอีกคนหนึ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายคนบนบร์อดของหัวหน้าอยู่
ผู้ชายคนหลังหน้าตาตื่นๆ เหมือนเคยเห็นบ่อยๆ
ตอนมีบอลนัดพิเศษ
...........แต่ก็เออ! ไอ้คนหน้าก็หน้าคุ้นเหมือนกันนั่นแหละ!..............
แล้วพอชายหนุ่มสองคนนั้นที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเช่นเดียวกับพวกเค้าเห็นชายร่างบึ้กห้าคนวิ่งเกือบจะเรียงแถวเข้ามา
ชายคนแรกที่ดูเหมือนน่าจะเป็นนายแบบก็เบรกจนตัวเบี้ยวทำให้คนหลังที่วิ่งถูลู่ถูกังตามมา
ชนตุ้บเข้าที่ไหล่กว้างอย่างจัง
โจรที่โดนด่าแม่หยุดเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ดูสะอาดสะอานสองคนนั้น......ทั้งสองฝั่ง
กันและกันห่างกันประมาณสิบเมตร
ก่อนที่โจรผู้นั้นจะได้ยินเสียงชายคนแรกซึ่งหน้าตาหล่อเหลาไม่เบาตรงหน้าพูดว่า
“อุ เวร....”
แล้วเค้าก็เลี้ยวเบนตัวโก่งพาอีกคนหนึ่งหักศอกออกไปอีกทางหนึ่งทันที
ชายห้าคนถือปืนอยู่ ยืนชูอาวุธขึ้นฟ้าก่อนจะได้สติ(ซึ่งนั่นมันช้าไป)
แล้ววิ่งตามไปบ้าง.........คราวนี้ลาภปากเดินมาหาปากถึงที่ แล้วจะช้าอยู่ใย
.
.
.
“พวกมันเจอเราแล้ว....อ่าาา!” เมสซี่หลับตาปี๋เงยหน้าขึ้นฟ้า
แล้วตะโกนเหมือนคนใกล้จะสติแตก
“เดี๋ยวๆ....เฮ้
คุณจะร้องทำไม
เดี๋ยวพวกมันก็แห่กันมาอีกหรอก” โรนัลโด้ดุ
หลังจากที่เค้าเพิ่งปุ๊บปั๊บรับโชคกับเมสซี่ไปเมื่อกี้นี้......ได้ผู้ชายหน้าโจรมาห้าคน
เยี่ยมเลย!......โรนัลโด้กัดฟัน แล้วพาเมสซี่ห่อตะบึงอ้อมไปด้านหลังของชั้น
และในเวลานั้นเอง
ที่ร่างเล็กได้กระจ่างแจ้งเห็นแก่ใจว่าที่ร่างสูงคาดการณ์ไว้เป็นความจริง......ป้ายหมายเลขเหลี้ยมทองบอกว่าพวกเค้ากำลังวิ่งไล่จับกันอยู่บนชั้นสอง และมันเป็นชั้นสองจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลย!
“คุณ คุณ....เออ คริส เราอยู่ชั้นสองล่ะ เราอยู่ชั้นสอง!”
ร่างเล็กเสียงใสฟังดูเหมือนเค้ากำลังเล่นวิ่งไล่จับอยู่จริงๆ
และด้วยความดีใจที่อีกคนหนึ่งทายถูกจึงลืมไปแล้วว่ามีของรางวัลกำลังวิ่งตามเค้าอยู่ติดๆ
ไปชั่วขณะ
โรนัลโด้หันหน้ามาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เค้ายังคงสนใจเส้นทางข้างหน้าอยู่ “ครับ...แล้วไงอ่ะ!”โรนัลโด้ทำเสียงอยากรู้
พยายามตื่นเต้นตามเมสซี่ไปด้วย
เมสซี่ยิ้ม “ก็ที่คุณบอกไว้น่ะมันถูกเผงเลยน่ะสิ!
เราอยู่ที่ชั้นสอง!
ชั้นสองที่.........เหวออ
มีคนตามเรามาอยู่นี่นาาา!”
เมสซี่กลับมาทำหน้าสติแตกอีกครั้ง
“อะ
ฮา....ผมนึกว่าคุณลืมไปแล้วซะอีก” โรนัลโด้ระบายยิ้ม
แล้วเค้าก็พบว่าไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปโดยไม่สื่อว่ากำลังขำอยู่ได้เลย.....
...........ให้ตาย เหลือใจจริงๆ.........
โรนัลโด้หยุดยิ้มกับตัวเองอย่างหุบไม่ได้
เมื่อเค้าเองหันหลังให้ร่างเล็กคนนี้แล้วและพาวิ่งหักมุมไปเจอเข้ากับประตูคู่บานใหญ่คู่หนึ่ง
มันเขียนไว้ว่า
-- ห้องสำหรับเตรียมอาหาร ห้ามเข้า ยกเว้นเจ้าหน้าที่ ก่อนได้รับอนุญาต
–
“โอ้ เจ๋งเลย” โรนัลโด้พึมพำ
เมสซี่เอียงหัวออกมาจากไหล่ของร่างสูงเล็กน้อย แล้วเลิกคิ้ว
“ห๊ะ....คุณว่าอะไรนะ”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำไม่ตอบเพียงแต่ลดความเร็วลงอย่างกะทันกัน จนร่างเล็กที่วิ่งตามมาติดๆ
หยุดวิ่งเกือบไม่ทัน ยืนหายใจแรงๆ อยู่ข้างๆ เค้า
โรนัลโด้ผลักประตูเข้าไปอย่างไม่ต้องคิดคำนึงถึงสิ่งใดเลย
เค้ายังคงไม่ปล่อยมือที่เกาะกุมข้อมือนุ่มนิ่มของอีกคน
จนกระทั่งออกแรงดึงให้เดินเข้ามาด้วยกันแล้ว
ร่างสูงจึงคิดปล่อยมือนั้นเป็นครั้งแรก
เค้าปล่อยให้เมสซี่ดันหลังแปะอยู่กับประตูบานคู่อย่างไม่รีบร้อน แต่เค้ากลับยินดีที่จะเป็นคนรีบร้อนเสียเอง
กันประตู!......เป็นสิ่งเดียวที่ร่างสูงนั้นคิดออก
และมันบอกเค้าวนเวียนแล้ววนเวียนเล่าอยู่ในหัวตั้งแต่ผลักประตูเข้ามาได้ จนลืมนึกไปว่าเค้าเข้ามาในห้องอะไร.......
“โทษนะพ่อหนุ่ม ถ้าจะสั่งพายล่ะก็
บอกบริกรก็ได้หนิ......ไม่จำเป็นต้องลำบากมาเอาเองเลย”
เสียงของชายสูงวัยดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของห้อง
โรนัลโด้ชะงักแล้วเอียงตัวหันกลับไปมอง
.............อืม ใช่
อย่างเดียววนเวียนในหัวทำให้เค้าลืมนึกไปเลย............
ว่ากำลังอยู่ในห้องครัวที่วุ่นวายจอแจ แต่บัดนี้กลับเงียบโดยสิ้นเชิง
มีเพียงเสียงของอาหารเท่านั้นที่ส่งเสียงต่อไปเรื่อยๆ
เหล่าเชฟและผู้ช่วยเกือบนับร้อยชีวิตกำลังหยุดการเตรียมอาหารอย่างกุลีกุจอ
แล้วจ้องมองมาที่เค้ากับอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ได้ห่างออกไปเลย กันเป็นตาเดียว
มีเด็กเสิร์ฟที่กำลังยกออเดอร์ไปเสิร์ฟด้วยแฮ่ะ..........
สงสัยว่าคนในนี้จะไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเลย
เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับปากท้องอันเป็นหน้าหน้าตาอีกอย่างหนึ่งของโรงแรม......ทุกคนประจำตำแหน่งของตัวเองเพื่อเตรียมอาหาร และพวกเค้าไม่รู้เลยว่าที่นี่กำลังโดนยึด
พนักงานซึ่งถูกจ่ายค่าแรงโดยโรงแรมอย่างเต็มอัตราทุกคนยังคงนิ่งค้างชะงักอยู่ท่าเดิม กำลังเปิดสนามแข่งเล่นเกมส์จ้องตากับโรนัลโด้
ร่างสูงนิ่ง
แล้วหันไปฉวยเอาโต๊ะวางวัตถุดิบตัวใหญ่
ไสมันไปกันประตูไว้
เมสซี่ที่ไม่ทันมองเห็น โดนโต๊ะชนให้เบียดไปด้านข้างไกลพอสมควร ร่างเล็กดูตกใจที่ถูกจู่โจมด้วยโต๊ะวางอาหารทะเล
โรนัลโด้ท้าวมือบนโต๊ะที่เค้าเพิ่งดันมา
ทำท่าเหมือนพักหายใจ “โอ้ว โทษที”
ร่างสูงยกมือขึ้นบอกขอโทษเมสซี่ที่โดนโต๊ะเบียดสะโพกเข้าไปเต็มๆ
เมื่อเค้าเห็นสีหน้าของร่างเล็กก็รู้สึกผิดทันที.......เค้าน่าจะบอกอีกคนหนึ่งก่อน
แต่ในอีกกรณีหนึ่ง.....ถ้าจะไม่บอกอะไรเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของโต๊ะตัวนี้ก็คงจะต้องขอมีเรื่องกับเค้าเป็นแน่ ปีกจอมถล่มของเรอัล มาร์ดริก จึงหันไปเผชิญหน้ากับเหล่าอัศวินแห่งปากท้อง
แล้วสูดหายใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงสุภาพ
“ผมต้องขอโทษด้วย
ที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาตแบบนี้ ใช่ เราอ่านป้ายที่แปะไว้ตรงประตูออก แต่ว่าเรามีเหตุการณ์ฉุกเฉินมากจริงๆ”
โรนัลโด้ทำหน้าเหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันช่วยไม่ได้
และเค้าก็เห็นใจคนที่อาจไม่อยากจะรับรู้เรื่องนี้ “.....ทุกท่าน
เราถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี” เค้าพูดพลางอ้ามือออก แต่ทันใดนั้นเสียง ตึง
ดังสนั่นก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเค้า
คนที่เหลือในห้องร้องเสียงหลงฟังดูตกใจไม่น้อย
ยกเว้นเมสซี่ที่เด้งตัวออกห่างจากโต๊ะวางวัตถุดิบอย่างรวดเร็วทันทีทันใด
ตึง! ตึงง!
เสียงประตูหนาแน่นแข็งแรงดังขึ้น
พร้อมๆ กับโต๊ะสแตนเลทที่ใช้ขวางประตูนั้นสั่นสะเทือนอย่างแรง
จนปลากะพงและหอยเชลล์ตัวอ้วนหล่นลงมาจากถาดบริเวณขอบโต๊ะ กระจายเต็มพื้น
น้ำแข็งก้อนหนึ่งกระเด็นใส่หน้าเมสซี่ เค้าใช้หลังมือเช็ดมันออกแล้วหน้ายู่
“ขอบคุณ อีกนิดเดียวก็จะทำตาฉันบอดได้เลยล่ะ”
ร่างเล็กประชด ถึงแม้จะรู้ว่ากลุ่มคนด้านนอกจะไม่ได้ยินเค้าก็ตาม
โรนัลโด้หันมายิ้ม “หึๆ
ไม่เอาน่า....อย่างน้อยมันก็ไม่ได้บอดจริงๆ ใช่ไหมล่ะ”
“แต่ผมเจ็บนะ”
เมสซี่ประคบเนินฝ่ามือที่อยู่ใกล้ๆ นิ้วโป้งลงบนเป้าตาของตัวเอง
ดวงตาอีกข้างหนึ่งของเค้าแดงก่ำและมีน้ำตาคลอเมื่อหันมาพูดกับโรนัลโด้
ดูท่าจะโดนเข้าจริงๆ
ร่างสูงหุบยิ้มแล้วทำหน้าเสียทันที
“โอ้ เฮ้....ผมขอโทษ ผมไม่นึกว่ามันจะโดนตาคุณจริงๆ......”
“นี่! ขอโทษเถอะพ่อหนุ่ม.....ให้ตายเค้าชื่ออะไรนะ โอ้ ช่างมันเถอะ! เฮ้
ช่วยบอกทีว่านี่ล้อเล่นใช่ไหม!?”
การเดินไปหาเมสซี่ของโรนัลโด้ถูกขัดขึ้นโดยชายแก่คนเดิม
และท่าทางของเค้าดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเชฟเสียด้วย
โรนัลโด้หันมาตามเสียง ติดออกจะขัดใจลุงเค้าอยู่ไม่น้อย
แต่ก็ยอมหันไปอธิบายแต่โดยดี
“ใช่ครับ ผมไม่ได้พูดเล่น ตอนนี้เรากำลังโดนโจมตีจริงๆ
พวกมันบุกเข้ามาได้ไม่นานนักและกำลังเพ่นพ่านไปทั่ว ผมคิดว่าเราควรหนี
วางตะหลิวหม้อช้อนชามของทุกคนไว้ก่อนแล้วช่วยกันหาทางหรือไม่ก็เผ่นออกไปดีกว่า และผมชื่อโรนัลโด้ครับ คริสเตียนโน้ โรนัลโด้....ถ้าคุณจำไม่ได้”
ผงกหัวให้ชายร่างแก่เล็กน้อยอย่างมีมารยาท
ก่อนเสียงกระแทกจะดังขึ้นอีกและโต๊ะวางของซีฟู้ดก็กระเถิดออกมาเล็กน้อย
เมสซี่ถอยหลังออกมาอย่างหวาดระแวงและมองมาทางร่างสูงราวกับต้องการจะบอกว่า
เราไม่มีเวลาแล้ว
โรนัลโด้ยื่นมือออกไปหาเมสซี่ที่ดูเหมือนจนมุม
“ลีโอ” เค้าเรียก อีกคนหนึ่งเดินมาหาเค้าแต่โดยดี
มือแกร่งสอดเข้าไปจับกับมือนุ่มนิ่มนั้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้ร่างเล็กชะงักเล็กน้อยเมื่อนิ้วของโรนัลโด้สอดเกี่ยวเข้ากับนิ้วมือของเค้า ไม่ใช่การคว้าจับข้อมือของเค้าดังเช่นที่ผ่านมา
ดวงตากลมโตยังคงมองอีกคนหนึ่งเลิกลัก
ในขณะที่ร่างสูงมองตรงไปข้างหน้าแล้วพูดกับเหล่าบรรดาเชฟว่า “ทุกๆ
ท่าน.....ถ้าประตูนี้ถูกเปิดพวกเราตายแน่”
พวกผู้หญิงทั้งสาวรุ่นและสาวใหญ่พากันหวีดร้อง
แต่ฝ่ายชายหน้าซีดสลด
“ผมอยากให้พวกคุณช่วยหาอะไรมากั้นประตูเพิ่มเติมจากผมอีกสักหน่อย ถ้าเป็นยังงั้นได้จะกรุณามากเลยครับ”
โรนัลโด้พูดขอร้องอย่างสุภาพเหมือนเค้าเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้าที่ต้องขอร้องลูกค้าให้ต่อแถวเข้าคิวแลกส่วนลด และลูกค้าก็เคารพการขอร้องของพนักงานเสมอ
พวกเค้าพากันกระวีกระวาดโยนทุกอย่างที่ทำค้างอยู่ในมือทิ้งไป
แล้วช่วยกันขนทุกอย่างมากองรวมไว้ที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว
เหมือนห่าน้ำป่าที่ไหลหลากพาเอาทุกสิ่งมาสุมรวมกันอยู่ตรงนี้ โรนัลโด้กับเมสซี่อ้าปากค้าง.......คนพวกนี้สามัคคีกันดีมากๆ
เลย
“แล้วทีนี้เอาไงต่อล่ะพ่อหนุ่ม จะให้เราหลบอยู่ในนี้รึ”
ชายแก่คนนั้นเดินเข้ามา แล้วดันหมวกเชฟทรงสูงของเค้าให้ตั้งตรงเหมือนเดิม
โรนัลโด้หันมาสบตาคนที่อายุมากกว่าเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นชายแก่แต่ท่าทางแข็งแรงคนนี้
“ครับ
พวกคุณอยู่ในนี้น่าจะปลอดภัยกว่าเพราะข้างนอกนั่นมีพวกมันเต็มไปหมด
และผมคิดว่าที่นี่คงจะมีประตูหลังให้ออกไปใช่ไหมครับ” ร่างสูงถาม แต่หัวหน้าเชฟดูท่าทางไม่เข้าใจ
“ออก? ออกไปไหน? ก็ไหนเธอบอกว่าให้เราอยู่ในนี้ไง”
โรนัลโด้ระบายยิ้มอย่างนอบน้อมเล็กน้อยแล้วพูด
“เราสองคนต้องออกไปครับ พวกนั้นตามหาเรา เอ่อ...ผมหมายถึงเค้า และพวกมันคงจะไม่หยุดแน่จนกว่าจะเจอตัวลีโอ
ผมเลยต้องพาเค้าออกไปหาตำรวจข้างนอกก่อนที่พวกมันจะจับเค้าได้”
ร่างสูงเพยิดหน้าไปทางร่างเล็กเพื่อประกอบคำอธิบาย
เค้าไม่ต้องการให้คนอื่นมาเดือดร้อนด้วย
และถ้าหากพวกโจรเห็นเค้าสองคนวิ่งอยู่ข้างนอกนั่นคงจะเลิกพยายามเข้ามาในนี้
และทุกคนในห้องเตรียมอาหารก็จะปลอดภัย......พวกเค้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่และไม่จำเป็นจะต้องมาเดือดร้อนด้วย
คนอื่นๆ
ภายในห้องต่างมองมาทางชายสามคนซึ่งยืนเต็มความสูงคุยกันอยู่ที่หน้าห้องอย่างเป็นตาเดียว ใบหน้าแต่ละคนต่างดูสับสนและไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดกำลังเกิดขึ้นจริงๆ
พวกเค้าเป็นคนปรุงอาหารไม่ใช่ตำรวจและไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเว้นแต่จะมีคนสั่ง
เสียงตึงตังที่ทำเหมือนพยายามเข้ามาในห้องยังคงดังต่อไป แต่ไม่มีทีท่าว่าสิ่งของขวางกั้นจะขยับออกเลยแม้แต่นิดเดียว
เป็นเวลาเกือบพักหนึ่งที่ในห้องนั้นเกิดความเงียบ
มันถูกก่อขึ้นโดยหัวหน้าเชฟที่ก้มหน้าลงมองพื้นอย่างใช้หัวคิด
เค้าไม่ได้ตอบคำถามของโรนัลโด้ว่ามีทางออกหรือไม่
และไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากร่างสูงถามคำถามไป
แต่แล้วชายอาวุโสเชื้อสายอเมริกันก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ถ้าเราไม่มีทางเลือกเราก็คงต้องอยู่ในนี้
และถ้าพวกเธอจะหนีเราก็ยินดีช่วย”
โรนัลโด้โล่งอกและยิ้มให้แก่หัวหน้าเชฟ
“ขอบคุณครับ” เค้าพูด
อันที่จริงในฐานะที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ หัวหน้าเชฟมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ชายหนุ่มสองคนนี้ออกไปก็ได้ เพราะชายแก่ไม่ค่อยอยากให้สองคนนี้ออกไปผจญภัยข้างนอกนัก
และถ้าหากเป็นดั่งเช่นคำกล่าวของโรนัลโด้จริง
มันก็ค่อนข้างอันตราย ชายแก่ที่ย้ายมาทำงานที่นี่อยากให้อยู่ในห้องนี้ด้วยกันจะปลอดภัยกว่า หากพิจารณาจากปริมาณข้าวของที่กองขวางประตูอยู่นั้น
แต่สายตาอันแน่วแน่ของโรนัลโด้กลับทำให้ชายแก่ตัดใจบอกทางออกให้แก่คนทั้งสอง เพราะแววตาอันไม่หวาดหวั่นสิ่งใดของร่างสูงทำให้หัวหน้าเชฟเชื่อว่าเค้าจะทำได้
และไม่เป็นอะไร.........พ่อหนุ่มที่ชื่อโรนัลโด้นี่บอกไว้อย่างแน่วแน่ผ่านแววตาของเค้าเอง
หัวหน้าเชฟพยักหน้า
แล้วชี้ไปทางด้านหลังสุดของห้อง
“ทางนั้นจะพาพวกเธอไปหาบันไดฉุกเฉินที่ด้านข้างของตึก และถ้าโชคดีอาจไม่มีพวกมันอยู่แถวนั้น
แต่พวกเธอต้องรีบหน่อย”
เสียงทุ้มแหบกดเสียงต่ำลง
ราวกับต้องการจะให้ได้ยินกันแค่สามคน
โรนัลโด้พยักหน้ารับ
หัวหน้าเชฟตบบ่าแกร่งไว้ก่อนเค้าจะทันได้ออกตัว
“เธอเป็นตำรวจหรือพ่อหนุ่ม”
เค้าถามเสียงเบาคล้ายกระซิบ
ร่างสูงส่ายหน้าที่ติดออกจะงุนงงเล็กน้อย
“เปล่าครับ ผมเป็นนักฟุตบอล”
ชายแก่ทำตาโตไม่อยากเชื่อ แต่ลึกๆ แล้วก็ยังเชื่อความคิดของตัวเองอยู่ดีอย่างหัวดื้อตามประสาคนแก่
“โอ้ งั้นโทษที ท่าทางเธอดูเหมือนมากๆ
เลยน่ะ งั้นก็ขอให้พาแฟนออกจากที่นี่ให้ได้เร็วๆ
นะ......”
โรนัลโด้หดไหล่ และเมสซี่ก็สำลักอากาศทันที
ร่างเล็กหันควับไปมองหน้าหัวหน้าเชฟเช่นเดียวกับที่ร่างสูงยกมือขึ้นกลางอากาศ
(แต่ก็ยังจับมือของร่างเล็กไว้อยู่ดี)
“เอ่อ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่! ........เค้าไม่ได้เป็นแฟนผมครับ เค้าแค่ เค้าแค่ เอิ่ม....”
โรนัลโด้หันไปมองเมสซี่แวบหนึ่ง
“.....แค่เพื่อนร่วมอาชีพเท่านั้นเอง”
โรนัลโด้พูดจบตาเลิกลั่กดูผิดไปจากคราแรกที่ทำตัวห้าวหาญ
ในขณะที่เมสซี่ซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังหน้าแดงอยู่
หัวหน้าเชฟมากอายุเพ่งมองไปที่ร่างเล็ก
หยีตาราวกับลืมเอาแว่นมาแล้วเอ่ยเสียงเพิ่งจะเข้าใจ “โอ้! งั้นก็ขอโทษด้วยนะ มันมองไม่ชัดน่ะ เห็นตัวเล็กๆ ขาวๆ
นี่แล้วนึกว่าเป็นผู้หญิงน่ะ ฮ่าๆๆ”
ชายแก่หัวเราะออกมาแล้วตบบ่าร่างสูงหนักๆ สองสามที โรนัลโด้ช่วยไม่ได้ต้องยิ้มแห้งๆ ตาม เค้าสะกิดเมสซี่ อีกคนหนึ่งก็ทำด้วย ถึงแม้ในใจจะติดหงุดหงิดก็เถอะ
ผมเป็นผู้ชายนะ! ตัวเล็กก็ไม่เห็นเกี่ยวเลยหนิ.........เมสซี่รู้สึกจี๊ดขึ้นมานิดๆ
เมื่อส่วนสูงมีผลกระทบต่อเค้าถึงเพียงนี้
ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ไม่พูดอะไรให้คนอื่นสนใจแล้วเชียวนะ
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------
อุก แค่กๆๆ! ว่ากระไรนะคะเชฟ! อูยย เอาใจไรท์ไปเลยค่ะ
//เดินไปจับมือ//
แหม่.....มองเห็นอนาคตด้วยนะคะเนี่ย
5555+
เฮียกะเหมียวกำลังจะมีความรู้สึกดีๆ
ที่จะหักล้างทิฐิรกหูรกตานั้นได้แล้วล่ะค่ะ >< แต่ว่า มีคนโดนด่าแม่........ 555555+ ไรท์เล่นแรงไปป่ะ? 555555
ไม่หรอกเนอะไรท์ว่า (เพราะในใจไรท์รุนแรงกว่านั้นเยอะ) + (อ้าว!) แต่ว่าไรท์ก็สุภาพและนอบน้อมกับรีดผู้น่ารักทุกท่านเสมอเลยนะคะ
ต่อไปจะเป็นอย่างไรติดตามกันได้เลยค่ะใน
Part ต่อไป........ไรท์แอบสปอยล์ จะยิ่งม้วนยิ่งกว่านี้อีกค่ะ รีดลองนึกภาพแจ็คกะโรสในไททานิกรอไปพลางๆ ก่อนนะคะ //ไรท์วาดมือประกอบให้รีดคิดตาม//
อาฮาาาา ตามไปติดตามความไร้สาระของไรท์ได้ที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสของไรท์เองค่ะ ขอบคุณทุกท่านมากเลยนะคะที่ตามอ่านและติดตามไรท์ในทุกๆ
เรื่อง และอย่าลืมคอมเม้นท์กันด้วนะคะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว หลังจากรอคอยมานานแสนนานน~ //ร้องเป็นเพลง อิอิ// ด้วยความคิดถึงและอยากรู้ ว่าแต่อ่านตอนนี้ก็ทำให้อยากรู้ตอนต่อไปอีกแล้วล่ะค่ะ ว่าจะอะไรยังไง เอ๊ะ! *///*
เอาซี่ พ่อคริสเตียโน่เขาก็มีหลายอาชีพเสียจริง เป็นทุกอาชีพเลยล่ะมังคะนี่ คราวนี้ก็ดูเหมือนตำรวจอีกแล้ว แต่ชอบคำพูดของหัวหน้าเชฟมากค่ะ ใช่แล้ว 'แฟน' สรุปกันเองเล้ยไม่ต้องถามลีโอหรอก เพราะก็รู้ๆกันอยู่ ถึงตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีกหน่อยก็ยอมรับเองล่ะคริสเตียโน่เอ๊ย! เหอๆๆ //หัวเราะเจ้าเล่ห์//
จะว่าเป็นความบังเอิญหรืออย่างไร ไรท์เตอร์บอกให้นึกถึงภาพแจ็คกับโรสไปพลางๆระหว่างรอตอนต่อไป คนอ่านก็บังเอิญเปิดฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ไททานิคอยู่พอดี แบบนี้คิดไม่ยากเลย ;)
แสดงความคิดเห็น