วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 9] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



 สวัสดีค่ะรีดที่รักทุกท่านของไรท์  มาแล้วค่ะสำหรับ RonalSi ของเรา  ก่อนอื่นเลยไรท์อยากจะขอระบายว่า......

อ๊ะ! หวานจัด! //เอาสองมือกุมหัวเกือบจะคลุ้มคลั่ง// เค้าจะเป็นห่วงกันไปถึงไหนกันค่ะ ไรท์จะละลายเพราะความเป็นห่วงเป็นใยของเค้าอยู่แล้วค่ะ!!

เหมียว : “แต่ผมเจ็บนะ”

เฮีย : “โอ้ เฮ้....ผมขอโทษ ผมไม่นึกว่ามันจะโดนตาคุณจริงๆ......”

โอ๊ยยยย  ไรท์นี่แอบอิจฉาเลยค่ะ(พูดอะไรน่ะ...ข้าม) รีดคิดไปถึงไหนกันคะ?  55555 งั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ  ไรท์สปอยล์คงไม่สนุกเท่าได้อ่านจริง  Part นี้สมุนโจรปัญญาอ่อนจริงๆ เลยค่ะ.....ไรท์บรรเลงเองขอการันตี --- ! -_-“

คอนเซ็ปคือไรท์ไม่อยากจะให้รีดเครียดมากนักนะคะ เลยรั่วมั่วตั๊วตามประสาทไรท์ ฮาาาา ประสาทนะคะไม่ใช่ประสา....ไรท์ว่าตัวเองเข้าขั้นประสาแล้วค่ะ -_-^

เชิญไปอ่านกันเลยค่าาาาา  (ป.ล. อ่านต่อจาก Part ที่แล้วเลยนะคะ  ท่านใดจำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปอ่าน Part ที่แล้วได้เลยค่ะ)


--------------------------------------------------------------------------------------------------


เสียงวิ่งระรัวของรองเท้าบู๊ตเกือบสิบคู่วิ่งอย่างเร่งรีบจนเกือบถูกมองว่าเป็นการแข่งขันกัน  วิ่งขึ้นบันไดหนีไฟเพื่อไปประจำการยังจุดต่างๆ ที่หัวหน้าได้วางแผนเอาไว้  และหากทุกตำแหน่งเคลียร์แล้ว เป้าหมายของพวกเค้าก็จะไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมือของผู้ล่าไปได้แน่..............
              
โจฟรี่....แกวิ่งเหมือนตุ๊ดเลยว่ะ!

มอโตร่า แกหุบปากไปเลย!” ชายที่เหน็บปืนรั้งอยู่ท้ายแถว ตะโกนใส่เสียงคุกคาม  เพื่อนๆ ที่วิ่งอยู่ด้านหน้าก็หันกลับมาแล้วส่งเสียงชอบใจทันที

“อู้ว์--- เล่นถึงแม่เลยโว้ย ฮ่าๆๆ”

พอโดนเสียงหัวเราะเยาะซ้ำเติม  ชายคนแรกที่เปิดหัวข้อสนทนาก็หน้าเสียแล้วหุบปากเงียบไปทันที  เมื่อคู่สนทนาแรกของเค้าไม่เป็นปลื้มกับการเปิดประโยคหัวข้อของเค้าเสียเท่าไร

ชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนวิ่งหน้าตั้งพุ่งออกประตูทางหนีไฟไปบนโถงทางเดินซึ่งปูด้วยหินอ่อนชั้นดีจากออสเตรเลีย  ต่างคนต่างวิ่งและศอกใส่กันวุ่นวายดูขาดระเบียบวินัย.....เหตุเพราะต่างคนต่างอยากไปถึงจุดประจำการของตัวเองให้เร็วที่สุด  คนที่วิ่งอยู่หน้าสุดคือชายคนที่เพิ่งโดนด่าแม่ไป

“ฮะ ฮ่า! ไอ้พวกกินต้มเต่า รู้สึกคืนนี้หลังจากเสร็จงานจะมีคนเลี้ยงเหล้าข้าแน่ๆ เลยเว้ย ฮ่าๆๆๆ” ดูเหมือนจะยังไม่เข็ดเรื่องบทเรียนเกี่ยวกับแม่  ชายคนนั้นยังคงโอ้อวดต่อไปโดยที่หันกลับมาสมน้ำหน้าแกมล้อเลียนให้กับเพื่อนข้างหลังที่หมั่นไส้อยากจะแกล้งถีบขาให้มันหายฮาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

แต่คนฮาก็ยังฮาไม่เลิก และหันกลับไปสาดฝอยน้ำลายกระจายใส่เพื่อนร่วมอาชีพต่ออย่างลอยหน้าลอย พอหันกลับมาก็แทบเบรกไม่ทันเลยทีเดียว

“อะ ฮะ ฮ่า...ฮาๆๆ ฮ่าๆๆๆ อูยย จะล้วงคอรอกินเหล้านะเว้ยย ฮ่ะๆๆ ขอบใจที่เลี้ยงว่ะเพื่อน  เรียงตามรายคนเลยนะ  เลี้ยงข้าคนละวันเอาสาวๆ นั่งดริงค์ด้วย.........อะ อ้าวเฮ้ยย!  นั่น! นั่นมัน!......มันอยู่นั่น  มันอยู่นั่น!!

ชายคนหน้าเกือบเบรกไม่ทันต้องจิกบู๊ตเสียจนเต็มข้อพร้อมกับกางมือแปะเพื่อนข้างหลังไปด้วย  เมื่อภาพข้างหน้าคือ ชายร่างสูงรูปร่างกำยำใส่สูทเรียบหรูกำลังฉุดรั้งฉุดดึงอีกคนหนึ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายคนบนบร์อดของหัวหน้าอยู่

 ผู้ชายคนหลังหน้าตาตื่นๆ เหมือนเคยเห็นบ่อยๆ ตอนมีบอลนัดพิเศษ

...........แต่ก็เออ! ไอ้คนหน้าก็หน้าคุ้นเหมือนกันนั่นแหละ!..............

แล้วพอชายหนุ่มสองคนนั้นที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเช่นเดียวกับพวกเค้าเห็นชายร่างบึ้กห้าคนวิ่งเกือบจะเรียงแถวเข้ามา  ชายคนแรกที่ดูเหมือนน่าจะเป็นนายแบบก็เบรกจนตัวเบี้ยวทำให้คนหลังที่วิ่งถูลู่ถูกังตามมา ชนตุ้บเข้าที่ไหล่กว้างอย่างจัง

โจรที่โดนด่าแม่หยุดเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ดูสะอาดสะอานสองคนนั้น......ทั้งสองฝั่ง กันและกันห่างกันประมาณสิบเมตร  ก่อนที่โจรผู้นั้นจะได้ยินเสียงชายคนแรกซึ่งหน้าตาหล่อเหลาไม่เบาตรงหน้าพูดว่า

“อุ เวร....” แล้วเค้าก็เลี้ยวเบนตัวโก่งพาอีกคนหนึ่งหักศอกออกไปอีกทางหนึ่งทันที

ชายห้าคนถือปืนอยู่ ยืนชูอาวุธขึ้นฟ้าก่อนจะได้สติ(ซึ่งนั่นมันช้าไป) แล้ววิ่งตามไปบ้าง.........คราวนี้ลาภปากเดินมาหาปากถึงที่ แล้วจะช้าอยู่ใย


.


.


.


“พวกมันเจอเราแล้ว....อ่าาา!” เมสซี่หลับตาปี๋เงยหน้าขึ้นฟ้า แล้วตะโกนเหมือนคนใกล้จะสติแตก

“เดี๋ยวๆ....เฮ้ คุณจะร้องทำไม  เดี๋ยวพวกมันก็แห่กันมาอีกหรอก” โรนัลโด้ดุ  หลังจากที่เค้าเพิ่งปุ๊บปั๊บรับโชคกับเมสซี่ไปเมื่อกี้นี้......ได้ผู้ชายหน้าโจรมาห้าคน 

เยี่ยมเลย!......โรนัลโด้กัดฟัน  แล้วพาเมสซี่ห่อตะบึงอ้อมไปด้านหลังของชั้น

และในเวลานั้นเอง ที่ร่างเล็กได้กระจ่างแจ้งเห็นแก่ใจว่าที่ร่างสูงคาดการณ์ไว้เป็นความจริง......ป้ายหมายเลขเหลี้ยมทองบอกว่าพวกเค้ากำลังวิ่งไล่จับกันอยู่บนชั้นสอง  และมันเป็นชั้นสองจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลย!

คุณ คุณ....เออ คริส  เราอยู่ชั้นสองล่ะ เราอยู่ชั้นสอง!” ร่างเล็กเสียงใสฟังดูเหมือนเค้ากำลังเล่นวิ่งไล่จับอยู่จริงๆ  และด้วยความดีใจที่อีกคนหนึ่งทายถูกจึงลืมไปแล้วว่ามีของรางวัลกำลังวิ่งตามเค้าอยู่ติดๆ ไปชั่วขณะ

โรนัลโด้หันหน้ามาเล็กน้อย  แต่ไม่ใช่ทั้งหมด  เค้ายังคงสนใจเส้นทางข้างหน้าอยู่ “ครับ...แล้วไงอ่ะ!”โรนัลโด้ทำเสียงอยากรู้ พยายามตื่นเต้นตามเมสซี่ไปด้วย

เมสซี่ยิ้ม “ก็ที่คุณบอกไว้น่ะมันถูกเผงเลยน่ะสิเราอยู่ที่ชั้นสอง! ชั้นสองที่.........เหวออ  มีคนตามเรามาอยู่นี่นาาา!” เมสซี่กลับมาทำหน้าสติแตกอีกครั้ง

“อะ ฮา....ผมนึกว่าคุณลืมไปแล้วซะอีก” โรนัลโด้ระบายยิ้ม แล้วเค้าก็พบว่าไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปโดยไม่สื่อว่ากำลังขำอยู่ได้เลย.....

...........ให้ตาย เหลือใจจริงๆ.........

โรนัลโด้หยุดยิ้มกับตัวเองอย่างหุบไม่ได้  เมื่อเค้าเองหันหลังให้ร่างเล็กคนนี้แล้วและพาวิ่งหักมุมไปเจอเข้ากับประตูคู่บานใหญ่คู่หนึ่ง  มันเขียนไว้ว่า

-- ห้องสำหรับเตรียมอาหาร ห้ามเข้า ยกเว้นเจ้าหน้าที่ ก่อนได้รับอนุญาต  –

“โอ้ เจ๋งเลย” โรนัลโด้พึมพำ

เมสซี่เอียงหัวออกมาจากไหล่ของร่างสูงเล็กน้อย แล้วเลิกคิ้ว “ห๊ะ....คุณว่าอะไรนะ”

ชายหนุ่มร่างสูงกำยำไม่ตอบเพียงแต่ลดความเร็วลงอย่างกะทันกัน  จนร่างเล็กที่วิ่งตามมาติดๆ หยุดวิ่งเกือบไม่ทัน ยืนหายใจแรงๆ อยู่ข้างๆ เค้า  โรนัลโด้ผลักประตูเข้าไปอย่างไม่ต้องคิดคำนึงถึงสิ่งใดเลย

เค้ายังคงไม่ปล่อยมือที่เกาะกุมข้อมือนุ่มนิ่มของอีกคน จนกระทั่งออกแรงดึงให้เดินเข้ามาด้วยกันแล้ว  ร่างสูงจึงคิดปล่อยมือนั้นเป็นครั้งแรก  เค้าปล่อยให้เมสซี่ดันหลังแปะอยู่กับประตูบานคู่อย่างไม่รีบร้อน  แต่เค้ากลับยินดีที่จะเป็นคนรีบร้อนเสียเอง

กันประตู!......เป็นสิ่งเดียวที่ร่างสูงนั้นคิดออก และมันบอกเค้าวนเวียนแล้ววนเวียนเล่าอยู่ในหัวตั้งแต่ผลักประตูเข้ามาได้  จนลืมนึกไปว่าเค้าเข้ามาในห้องอะไร.......

“โทษนะพ่อหนุ่ม  ถ้าจะสั่งพายล่ะก็ บอกบริกรก็ได้หนิ......ไม่จำเป็นต้องลำบากมาเอาเองเลย” เสียงของชายสูงวัยดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของห้อง  โรนัลโด้ชะงักแล้วเอียงตัวหันกลับไปมอง

.............อืม ใช่  อย่างเดียววนเวียนในหัวทำให้เค้าลืมนึกไปเลย............

ว่ากำลังอยู่ในห้องครัวที่วุ่นวายจอแจ  แต่บัดนี้กลับเงียบโดยสิ้นเชิง มีเพียงเสียงของอาหารเท่านั้นที่ส่งเสียงต่อไปเรื่อยๆ  

เหล่าเชฟและผู้ช่วยเกือบนับร้อยชีวิตกำลังหยุดการเตรียมอาหารอย่างกุลีกุจอ แล้วจ้องมองมาที่เค้ากับอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ได้ห่างออกไปเลย กันเป็นตาเดียว

มีเด็กเสิร์ฟที่กำลังยกออเดอร์ไปเสิร์ฟด้วยแฮ่ะ..........

สงสัยว่าคนในนี้จะไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเลย  เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับปากท้องอันเป็นหน้าหน้าตาอีกอย่างหนึ่งของโรงแรม......ทุกคนประจำตำแหน่งของตัวเองเพื่อเตรียมอาหาร  และพวกเค้าไม่รู้เลยว่าที่นี่กำลังโดนยึด

พนักงานซึ่งถูกจ่ายค่าแรงโดยโรงแรมอย่างเต็มอัตราทุกคนยังคงนิ่งค้างชะงักอยู่ท่าเดิม  กำลังเปิดสนามแข่งเล่นเกมส์จ้องตากับโรนัลโด้

ร่างสูงนิ่ง แล้วหันไปฉวยเอาโต๊ะวางวัตถุดิบตัวใหญ่  ไสมันไปกันประตูไว้  เมสซี่ที่ไม่ทันมองเห็น โดนโต๊ะชนให้เบียดไปด้านข้างไกลพอสมควร  ร่างเล็กดูตกใจที่ถูกจู่โจมด้วยโต๊ะวางอาหารทะเล

โรนัลโด้ท้าวมือบนโต๊ะที่เค้าเพิ่งดันมา ทำท่าเหมือนพักหายใจ “โอ้ว โทษที” ร่างสูงยกมือขึ้นบอกขอโทษเมสซี่ที่โดนโต๊ะเบียดสะโพกเข้าไปเต็มๆ  เมื่อเค้าเห็นสีหน้าของร่างเล็กก็รู้สึกผิดทันที.......เค้าน่าจะบอกอีกคนหนึ่งก่อน

แต่ในอีกกรณีหนึ่ง.....ถ้าจะไม่บอกอะไรเลยว่าเกิดอะไรขึ้น  เจ้าของโต๊ะตัวนี้ก็คงจะต้องขอมีเรื่องกับเค้าเป็นแน่   ปีกจอมถล่มของเรอัล มาร์ดริก จึงหันไปเผชิญหน้ากับเหล่าอัศวินแห่งปากท้อง แล้วสูดหายใจเล็กน้อย  ก่อนจะพูดเสียงสุภาพ

“ผมต้องขอโทษด้วย ที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาตแบบนี้   ใช่  เราอ่านป้ายที่แปะไว้ตรงประตูออก  แต่ว่าเรามีเหตุการณ์ฉุกเฉินมากจริงๆ”

 โรนัลโด้ทำหน้าเหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันช่วยไม่ได้ และเค้าก็เห็นใจคนที่อาจไม่อยากจะรับรู้เรื่องนี้  “.....ทุกท่าน  เราถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี” เค้าพูดพลางอ้ามือออก แต่ทันใดนั้นเสียง ตึง ดังสนั่นก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเค้า

คนที่เหลือในห้องร้องเสียงหลงฟังดูตกใจไม่น้อย ยกเว้นเมสซี่ที่เด้งตัวออกห่างจากโต๊ะวางวัตถุดิบอย่างรวดเร็วทันทีทันใด

ตึง! ตึงง!

เสียงประตูหนาแน่นแข็งแรงดังขึ้น พร้อมๆ กับโต๊ะสแตนเลทที่ใช้ขวางประตูนั้นสั่นสะเทือนอย่างแรง จนปลากะพงและหอยเชลล์ตัวอ้วนหล่นลงมาจากถาดบริเวณขอบโต๊ะ  กระจายเต็มพื้น

น้ำแข็งก้อนหนึ่งกระเด็นใส่หน้าเมสซี่  เค้าใช้หลังมือเช็ดมันออกแล้วหน้ายู่

“ขอบคุณ  อีกนิดเดียวก็จะทำตาฉันบอดได้เลยล่ะ” ร่างเล็กประชด ถึงแม้จะรู้ว่ากลุ่มคนด้านนอกจะไม่ได้ยินเค้าก็ตาม

โรนัลโด้หันมายิ้ม “หึๆ ไม่เอาน่า....อย่างน้อยมันก็ไม่ได้บอดจริงๆ ใช่ไหมล่ะ”

“แต่ผมเจ็บนะ” เมสซี่ประคบเนินฝ่ามือที่อยู่ใกล้ๆ นิ้วโป้งลงบนเป้าตาของตัวเอง  ดวงตาอีกข้างหนึ่งของเค้าแดงก่ำและมีน้ำตาคลอเมื่อหันมาพูดกับโรนัลโด้

ดูท่าจะโดนเข้าจริงๆ ร่างสูงหุบยิ้มแล้วทำหน้าเสียทันที

“โอ้ เฮ้....ผมขอโทษ ผมไม่นึกว่ามันจะโดนตาคุณจริงๆ......”

“นี่! ขอโทษเถอะพ่อหนุ่ม.....ให้ตายเค้าชื่ออะไรนะ  โอ้ ช่างมันเถอะเฮ้ ช่วยบอกทีว่านี่ล้อเล่นใช่ไหม!?” การเดินไปหาเมสซี่ของโรนัลโด้ถูกขัดขึ้นโดยชายแก่คนเดิม  และท่าทางของเค้าดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเชฟเสียด้วย

โรนัลโด้หันมาตามเสียง  ติดออกจะขัดใจลุงเค้าอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยอมหันไปอธิบายแต่โดยดี

“ใช่ครับ  ผมไม่ได้พูดเล่น  ตอนนี้เรากำลังโดนโจมตีจริงๆ พวกมันบุกเข้ามาได้ไม่นานนักและกำลังเพ่นพ่านไปทั่ว ผมคิดว่าเราควรหนี วางตะหลิวหม้อช้อนชามของทุกคนไว้ก่อนแล้วช่วยกันหาทางหรือไม่ก็เผ่นออกไปดีกว่า  และผมชื่อโรนัลโด้ครับ คริสเตียนโน้   โรนัลโด้....ถ้าคุณจำไม่ได้” ผงกหัวให้ชายร่างแก่เล็กน้อยอย่างมีมารยาท  ก่อนเสียงกระแทกจะดังขึ้นอีกและโต๊ะวางของซีฟู้ดก็กระเถิดออกมาเล็กน้อย  

เมสซี่ถอยหลังออกมาอย่างหวาดระแวงและมองมาทางร่างสูงราวกับต้องการจะบอกว่า เราไม่มีเวลาแล้ว  โรนัลโด้ยื่นมือออกไปหาเมสซี่ที่ดูเหมือนจนมุม

“ลีโอ” เค้าเรียก  อีกคนหนึ่งเดินมาหาเค้าแต่โดยดี มือแกร่งสอดเข้าไปจับกับมือนุ่มนิ่มนั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ร่างเล็กชะงักเล็กน้อยเมื่อนิ้วของโรนัลโด้สอดเกี่ยวเข้ากับนิ้วมือของเค้า  ไม่ใช่การคว้าจับข้อมือของเค้าดังเช่นที่ผ่านมา

ดวงตากลมโตยังคงมองอีกคนหนึ่งเลิกลัก ในขณะที่ร่างสูงมองตรงไปข้างหน้าแล้วพูดกับเหล่าบรรดาเชฟว่า “ทุกๆ ท่าน.....ถ้าประตูนี้ถูกเปิดพวกเราตายแน่”

พวกผู้หญิงทั้งสาวรุ่นและสาวใหญ่พากันหวีดร้อง  แต่ฝ่ายชายหน้าซีดสลด

“ผมอยากให้พวกคุณช่วยหาอะไรมากั้นประตูเพิ่มเติมจากผมอีกสักหน่อย  ถ้าเป็นยังงั้นได้จะกรุณามากเลยครับ” โรนัลโด้พูดขอร้องอย่างสุภาพเหมือนเค้าเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้าที่ต้องขอร้องลูกค้าให้ต่อแถวเข้าคิวแลกส่วนลด  และลูกค้าก็เคารพการขอร้องของพนักงานเสมอ

พวกเค้าพากันกระวีกระวาดโยนทุกอย่างที่ทำค้างอยู่ในมือทิ้งไป แล้วช่วยกันขนทุกอย่างมากองรวมไว้ที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว  เหมือนห่าน้ำป่าที่ไหลหลากพาเอาทุกสิ่งมาสุมรวมกันอยู่ตรงนี้  โรนัลโด้กับเมสซี่อ้าปากค้าง.......คนพวกนี้สามัคคีกันดีมากๆ เลย

“แล้วทีนี้เอาไงต่อล่ะพ่อหนุ่ม  จะให้เราหลบอยู่ในนี้รึ” ชายแก่คนนั้นเดินเข้ามา แล้วดันหมวกเชฟทรงสูงของเค้าให้ตั้งตรงเหมือนเดิม  โรนัลโด้หันมาสบตาคนที่อายุมากกว่าเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นชายแก่แต่ท่าทางแข็งแรงคนนี้

“ครับ  พวกคุณอยู่ในนี้น่าจะปลอดภัยกว่าเพราะข้างนอกนั่นมีพวกมันเต็มไปหมด  และผมคิดว่าที่นี่คงจะมีประตูหลังให้ออกไปใช่ไหมครับ”  ร่างสูงถาม แต่หัวหน้าเชฟดูท่าทางไม่เข้าใจ

“ออก? ออกไปไหน?  ก็ไหนเธอบอกว่าให้เราอยู่ในนี้ไง”

โรนัลโด้ระบายยิ้มอย่างนอบน้อมเล็กน้อยแล้วพูด “เราสองคนต้องออกไปครับ  พวกนั้นตามหาเรา  เอ่อ...ผมหมายถึงเค้า  และพวกมันคงจะไม่หยุดแน่จนกว่าจะเจอตัวลีโอ  ผมเลยต้องพาเค้าออกไปหาตำรวจข้างนอกก่อนที่พวกมันจะจับเค้าได้” ร่างสูงเพยิดหน้าไปทางร่างเล็กเพื่อประกอบคำอธิบาย

เค้าไม่ต้องการให้คนอื่นมาเดือดร้อนด้วย  และถ้าหากพวกโจรเห็นเค้าสองคนวิ่งอยู่ข้างนอกนั่นคงจะเลิกพยายามเข้ามาในนี้ และทุกคนในห้องเตรียมอาหารก็จะปลอดภัย......พวกเค้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่และไม่จำเป็นจะต้องมาเดือดร้อนด้วย

คนอื่นๆ ภายในห้องต่างมองมาทางชายสามคนซึ่งยืนเต็มความสูงคุยกันอยู่ที่หน้าห้องอย่างเป็นตาเดียว  ใบหน้าแต่ละคนต่างดูสับสนและไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดกำลังเกิดขึ้นจริงๆ  พวกเค้าเป็นคนปรุงอาหารไม่ใช่ตำรวจและไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเว้นแต่จะมีคนสั่ง

เสียงตึงตังที่ทำเหมือนพยายามเข้ามาในห้องยังคงดังต่อไป  แต่ไม่มีทีท่าว่าสิ่งของขวางกั้นจะขยับออกเลยแม้แต่นิดเดียว

เป็นเวลาเกือบพักหนึ่งที่ในห้องนั้นเกิดความเงียบ  มันถูกก่อขึ้นโดยหัวหน้าเชฟที่ก้มหน้าลงมองพื้นอย่างใช้หัวคิด  เค้าไม่ได้ตอบคำถามของโรนัลโด้ว่ามีทางออกหรือไม่ และไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากร่างสูงถามคำถามไป

แต่แล้วชายอาวุโสเชื้อสายอเมริกันก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ถ้าเราไม่มีทางเลือกเราก็คงต้องอยู่ในนี้  และถ้าพวกเธอจะหนีเราก็ยินดีช่วย”

โรนัลโด้โล่งอกและยิ้มให้แก่หัวหน้าเชฟ “ขอบคุณครับ” เค้าพูด

อันที่จริงในฐานะที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ  หัวหน้าเชฟมีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ชายหนุ่มสองคนนี้ออกไปก็ได้  เพราะชายแก่ไม่ค่อยอยากให้สองคนนี้ออกไปผจญภัยข้างนอกนัก และถ้าหากเป็นดั่งเช่นคำกล่าวของโรนัลโด้จริง  มันก็ค่อนข้างอันตราย  ชายแก่ที่ย้ายมาทำงานที่นี่อยากให้อยู่ในห้องนี้ด้วยกันจะปลอดภัยกว่า  หากพิจารณาจากปริมาณข้าวของที่กองขวางประตูอยู่นั้น

แต่สายตาอันแน่วแน่ของโรนัลโด้กลับทำให้ชายแก่ตัดใจบอกทางออกให้แก่คนทั้งสอง  เพราะแววตาอันไม่หวาดหวั่นสิ่งใดของร่างสูงทำให้หัวหน้าเชฟเชื่อว่าเค้าจะทำได้  และไม่เป็นอะไร.........พ่อหนุ่มที่ชื่อโรนัลโด้นี่บอกไว้อย่างแน่วแน่ผ่านแววตาของเค้าเอง

หัวหน้าเชฟพยักหน้า แล้วชี้ไปทางด้านหลังสุดของห้อง “ทางนั้นจะพาพวกเธอไปหาบันไดฉุกเฉินที่ด้านข้างของตึก  และถ้าโชคดีอาจไม่มีพวกมันอยู่แถวนั้น แต่พวกเธอต้องรีบหน่อย”

เสียงทุ้มแหบกดเสียงต่ำลง ราวกับต้องการจะให้ได้ยินกันแค่สามคน  โรนัลโด้พยักหน้ารับ  หัวหน้าเชฟตบบ่าแกร่งไว้ก่อนเค้าจะทันได้ออกตัว

“เธอเป็นตำรวจหรือพ่อหนุ่ม” เค้าถามเสียงเบาคล้ายกระซิบ

ร่างสูงส่ายหน้าที่ติดออกจะงุนงงเล็กน้อย “เปล่าครับ  ผมเป็นนักฟุตบอล”

ชายแก่ทำตาโตไม่อยากเชื่อ  แต่ลึกๆ แล้วก็ยังเชื่อความคิดของตัวเองอยู่ดีอย่างหัวดื้อตามประสาคนแก่ “โอ้ งั้นโทษที  ท่าทางเธอดูเหมือนมากๆ เลยน่ะ  งั้นก็ขอให้พาแฟนออกจากที่นี่ให้ได้เร็วๆ นะ......”

โรนัลโด้หดไหล่ และเมสซี่ก็สำลักอากาศทันที  ร่างเล็กหันควับไปมองหน้าหัวหน้าเชฟเช่นเดียวกับที่ร่างสูงยกมือขึ้นกลางอากาศ (แต่ก็ยังจับมือของร่างเล็กไว้อยู่ดี)

“เอ่อ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่! ........เค้าไม่ได้เป็นแฟนผมครับ  เค้าแค่ เค้าแค่ เอิ่ม....” โรนัลโด้หันไปมองเมสซี่แวบหนึ่ง

“.....แค่เพื่อนร่วมอาชีพเท่านั้นเอง” โรนัลโด้พูดจบตาเลิกลั่กดูผิดไปจากคราแรกที่ทำตัวห้าวหาญ  ในขณะที่เมสซี่ซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังหน้าแดงอยู่

หัวหน้าเชฟมากอายุเพ่งมองไปที่ร่างเล็ก  หยีตาราวกับลืมเอาแว่นมาแล้วเอ่ยเสียงเพิ่งจะเข้าใจ “โอ้! งั้นก็ขอโทษด้วยนะ  มันมองไม่ชัดน่ะ  เห็นตัวเล็กๆ ขาวๆ นี่แล้วนึกว่าเป็นผู้หญิงน่ะ  ฮ่าๆๆ” ชายแก่หัวเราะออกมาแล้วตบบ่าร่างสูงหนักๆ สองสามที  โรนัลโด้ช่วยไม่ได้ต้องยิ้มแห้งๆ ตาม  เค้าสะกิดเมสซี่ อีกคนหนึ่งก็ทำด้วย  ถึงแม้ในใจจะติดหงุดหงิดก็เถอะ

ผมเป็นผู้ชายนะ! ตัวเล็กก็ไม่เห็นเกี่ยวเลยหนิ.........เมสซี่รู้สึกจี๊ดขึ้นมานิดๆ เมื่อส่วนสูงมีผลกระทบต่อเค้าถึงเพียงนี้  ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ไม่พูดอะไรให้คนอื่นสนใจแล้วเชียวนะ


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------

อุก แค่กๆๆ! ว่ากระไรนะคะเชฟอูยย เอาใจไรท์ไปเลยค่ะ //เดินไปจับมือ//  แหม่.....มองเห็นอนาคตด้วยนะคะเนี่ย  5555+

เฮียกะเหมียวกำลังจะมีความรู้สึกดีๆ ที่จะหักล้างทิฐิรกหูรกตานั้นได้แล้วล่ะค่ะ ><  แต่ว่า มีคนโดนด่าแม่........ 555555+  ไรท์เล่นแรงไปป่ะ? 555555

ไม่หรอกเนอะไรท์ว่า  (เพราะในใจไรท์รุนแรงกว่านั้นเยอะ) + (อ้าว!) แต่ว่าไรท์ก็สุภาพและนอบน้อมกับรีดผู้น่ารักทุกท่านเสมอเลยนะคะ

ต่อไปจะเป็นอย่างไรติดตามกันได้เลยค่ะใน Part ต่อไป........ไรท์แอบสปอยล์  จะยิ่งม้วนยิ่งกว่านี้อีกค่ะ  รีดลองนึกภาพแจ็คกะโรสในไททานิกรอไปพลางๆ ก่อนนะคะ //ไรท์วาดมือประกอบให้รีดคิดตาม//

อาฮาาาา  ตามไปติดตามความไร้สาระของไรท์ได้ที่ >>แฟนฟิค  ฮอลลีวู้ด<< เฟสของไรท์เองค่ะ  ขอบคุณทุกท่านมากเลยนะคะที่ตามอ่านและติดตามไรท์ในทุกๆ เรื่อง  และอย่าลืมคอมเม้นท์กันด้วนะคะ

ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund


1 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว หลังจากรอคอยมานานแสนนานน~ //ร้องเป็นเพลง อิอิ// ด้วยความคิดถึงและอยากรู้ ว่าแต่อ่านตอนนี้ก็ทำให้อยากรู้ตอนต่อไปอีกแล้วล่ะค่ะ ว่าจะอะไรยังไง เอ๊ะ! *///*

เอาซี่ พ่อคริสเตียโน่เขาก็มีหลายอาชีพเสียจริง เป็นทุกอาชีพเลยล่ะมังคะนี่ คราวนี้ก็ดูเหมือนตำรวจอีกแล้ว แต่ชอบคำพูดของหัวหน้าเชฟมากค่ะ ใช่แล้ว 'แฟน' สรุปกันเองเล้ยไม่ต้องถามลีโอหรอก เพราะก็รู้ๆกันอยู่ ถึงตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีกหน่อยก็ยอมรับเองล่ะคริสเตียโน่เอ๊ย! เหอๆๆ //หัวเราะเจ้าเล่ห์//

จะว่าเป็นความบังเอิญหรืออย่างไร ไรท์เตอร์บอกให้นึกถึงภาพแจ็คกับโรสไปพลางๆระหว่างรอตอนต่อไป คนอ่านก็บังเอิญเปิดฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ไททานิคอยู่พอดี แบบนี้คิดไม่ยากเลย ;)