สวัสดีค่ะสาวก Peter และ
Harry ทั้งหลายยยยยย ^0^ มาคั้นรายการด้วย
SF สั้นๆ กันสักเรื่องนะคะ (นี่สั้นเหรอ?) ไรท์ขอบอกเลยค่ะว่าแนวๆ
นี้ไรท์ไม่เคยเขียนมาก่อน
ในดินแดนหมันต์ที่ไม่มีใครรู้จักเนี่ยยยย
เป็นถิ่นของพ่อพีทเค้านะคะ
และต้องขอเรียนก่อนเลยว่าเดิมทีไรท์จะเขียนเป็น
Nc ค่ะ
แต่ว่าสาถะยายซะยาวเลยถ้าจะต่อด้วยฉากบ่ะๆ โอ้ บ่ะๆ มันก็จะยาวเยียดเกินไป เพราะงั้นไรท์เลยตัดฉับเอา SF นี่เป็นการเริ่มต้นของพวกเค้าล่ะกันค่ะ
//สักพักรีดเดินมาตบหัวโยก+แว่นเบี้ยว//
ใจเยนๆ น่า.....ถือซะว่าดื่มด่ำความเป็น
The Amezing Spider-Man
2 ให้หายคิดถึงกันไปล่ะกันนะคะ ^^ [SF – TASM 2]
ก็คือ
[SF – The Amazing
Spider-Man2] นะคะเพราะว่าชื่อแฟนดอมก็ยาว ชื่อเรื่องก็ยาวเดียวมันจะยาวเกิ๊นน่ะค่ะ ^.^^ แต่อย่างไรไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ
แฮร์รี่น้อยก็ยังน่าเศร้าอยู่ดี TWT
เอาล่ะค่ะ เชิญไปรับชมกันเลยค่ะ ไรท์เพิ่งจะบุกเบิกแนวของตัวเอง ดีไม่ดียังไงก็ช่วยติชมด้วยนะคะ ไปอ่านกันเลยค่าาาาา ><
----------------------------------------------------------------------------------------------
หิมะโปรยปราย
บางเบา และเย็น
ลอยละล่องตกลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวล ราวกับขนนกที่หลุดลุ้ยออกของลูกนกตัวน้อยๆ
คล้ายหิมะแรกของฤดูหนาว หากแต่ว่าไม่ใช่............
มันคือเกล็ดหิมะโปรยปรายแห่งแดนเหมันต์ ที่ซึ่งหนาวและขาวโพลนตลอดกาล หิมะน้อยหล่นลงมาตามเวลาของมัน และหยุดไปเมื่อถึงเวลา
เพื่อสร้างความสมดุลแก่ดินแดนแห่งนี้
ร่วงโรยแล้วร่วงโรยเล่า หิมะต่างร่วงโรยไปทั่วดินแดน และที่นี่ก็เช่นกัน.......
มันร่วงโรยลงมาท่ามกลางต้นสนใหญ่น้อยที่เรียงรายกันอย่างไม่เป็นระเบียบแต่ทว่าสวยงามอย่างน่าประหลาด และตรงนั้น......
ท่ามกลางต้นสนน้อยใหญ่ที่ขึ้นอยู่เต็มผืนป่าสีขาว พื้นที่ลาดหลุมจนเหมือนรังนกขนาดใหญ่
รอบด้านคือต้นสนที่ถูกเกาะกุมด้วยเกล็ดหิมะขาวสะอาด หิมะร่วงโรยลงอย่างเบาบางและนุ่มนวล
แต่ทว่าตอนนี้กลับเย็นเยียบเสียแล้ว สำหรับคนที่นอนคุดคู้ไม่ได้สติอยู่เป็นเวลานานตรงนั้น..........
ร่างน้อยๆ
ร่างหนึ่งนอนไร้สติอยู่ในพื้นที่ลาดหลุมนั้นราวกับถูกโอบอุ้มและรองรับไว้ด้วยความหนาวเย็น..........
เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเหลือบทอง ผิวขาวซีดไร้ชีวา บาดแผลตรงโหนกแก้มเช่นเดียวกับริมฝีปากที่ช้ำเลือดและโดนแช่แข็งไปพร้อมๆ
กับร่างกายเล็กบางที่น่าสงสาร
.
.
.
***************************************************
“แก! ออกไปนะ เจ้าเด็กประหลาด อย่ามาเล่นกับลูกฉัน!”
“ตะ แต่ว่าผมเปล่า....”
“ออกไป! ทีหลังก็อย่ามาเล่นกับลูกของเราอีกนะ!”
ปัง!!
“ผม....เปล่า”
เสียงปิดประตูกระแทกใส่หน้าของเด็กน้อยอย่างแรงจนเค้าเองก็เผลอสะดุ้ง หลังจากที่ลูกของผู้หญิงเมื่อครู่วิ่งแจ้นมาบอกแม่ของตนในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย จนทำให้เด็กหนุ่มที่ตัวเล็กเกินกว่าเด็กคนอื่นๆ
คนนี้ต้องเดือดร้อนและถูกมองว่าเป็นเด็กที่ชอบรังแกเด็กคนอื่นๆ
............แต่สิ่งนั้นก็เป็นเพียงแค่คำโกหกเท่านั้นเอง..............
การที่โดนคนอื่นรังเกียจนี่สิร้ายกาจกว่า
การที่เป็นในสิ่งที่เลือกไม่ได้
มันผิดด้วยหรือ?........แฮร์รี่เคยตั้งคำถามกับตัวเองในคืนอันมืดมิด
กับกองไฟที่ใกล้มอดดับ ภายใต้บ้านร้างเก่าๆ แห่งหนึ่งในชานเมือง
ทุกวันเด็กหนุ่มสาวทุกคนในหมู่บ้านเล็กๆ
แห่งนี้จะมีแม่เป็นคนเตรียมอาหารไว้ให้ทุกวันหลังจากกลับมาจากเล่นสนุก แต่แฮร์รี่ต้องเดินลึกเข้าไปในป่าเพื่อหาสิ่งที่เค้าคิดว่ากินได้ ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรก็ต้องไป.....ฤดูร้อน ฤดูฝน
หรือไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาว
แฮร์รี่อยู่ด้วยตัวคนเดียวและทำใจไม่สนคำครหาของคนรอบข้างมานานแล้ว
“แก ไอ้ตัวประหลาด....ทำให้ดูหน่อยสิว่าแกทำอะไรได้”
“ใช่ บอบท์มันบอกกับเราและแม่มันว่าเห็นแกทำอะไร....ทำให้ดูหน่อยสิ”
“ให้ตาย เลิกยุ่งกับฉันสักที
ฉันทำอะไรไม่เป็นทั้งนั้นแหละ” เด็กน้อยทำหน้าไม่สู่ดีนัก
“เป็นสิ...แกน่ะทำเป็นแน่”
กลุ่มเด็กพากันผลักตัวของแฮร์รี่ไปมา
“โอ๊ย เลิกยุ่งกับฉันสักที!”
แฮร์รี่รู้สึกโกรธมาก และพอรู้ตัวอีกทีเด็กพวกนั้นก็พากันกระจายเกลื่อนไปบนพื้นแล้วมองมาทางเค้าด้วยสายตาหวาดกลัวระคนตกใจ
“ฉะ
ฉันเปล่านะ....ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พวกนายเป็นอะไรไหม....”
“ว๊ากกก
เจ้าเด็กประหลาดนี่จะฆ่าพวกเรา!”
และก่อนจะทันได้แก้ไขอะไร เด็กๆ พวกนั้นก็วิ่งแจ้นออกไปเสียแล้ว แต่ใช่ว่าจะเข็ดหลาบเสียทีเดียว
หลายปีต่อมาแฮร์รี่หาเงินได้และใช้มันซื้ออาหารได้ด้วยเงินอันน้อยนิดของเค้า
เค้ามีที่อยู่ซึ่งถูกซ่อมแซมจากบ้านร้างหลังที่เป็นที่พักพิงเดียวของเค้า ทุกอย่างดูจะเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
“ไง แฮร์รี่น้อย...วันนี้จะไปทำอะไรล่ะ
ไปหาเงิน หรือหาเรื่องก่อกวนเค้าไปทั่วล่ะ ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะแหบห้าวดังขึ้นดักทางเดินของแฮร์รี่ และไร้วี่แววว่าจะหลบหายไป
แฮร์รี่ซุกมือในกระเป๋าแจ็คเก็ตหนังตัวเก่งและไม่ได้หันไปมอง............เค้าชินชา ไร้ความรู้สึกกับทุกคำพูดและการกระทำที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแต่ไม่เป็นห่วงความรู้สึกของเค้าทั้งสิ้น ทุกคนมองว่าเค้าประหลาดและยากที่จะสนทนาด้วย......แฮร์รี่กลายเป็นไร้หัวใจเมื่ออยู่ท่ามกลางคนพวกนี้
และในเช้าวันนั้นของฤดูหนาวแรกของปี แฮร์รี่ไม่ได้ไปทำงาน และได้แผลกลับมาที่โหนกแก้มกับริมฝีปากหลังจากที่มีเรื่องกับคนน่าหงุดหงิดพวกนั้น........แฮร์รี่เกือบยับเยินและสลบไป
พวกนั้นทิ้งให้เค้านอนจมกองหิมะและไม่มีใครสนใจอีกเลย................
.
.
.
********************************************************************************
พวกนั้นทิ้งให้เค้านอนจมกองหิมะและไม่มีใครสนใจอีกเลย................
“ฮะ!
อึก....” ร่างเล็กๆ ที่เย็นเหยียบสะดุ้งตื่นและรู้สึกเจ็บแปลบตรงกระดูกสันหลัง แขนขาเกือบชาดิกและไร้เรี่ยวแรงที่จะขยับ
ที่นี่ที่ไหน..........
แฮร์รี่ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แม้แต่ป่าที่ลึกที่สุดของหมู่บ้านก็ไม่ใช่ เค้ารู้แต่เพียงว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนกองหิมะที่นุ่มสบายและเย็นมาก
แพขนตาหรี่ขึ้นและกระพริบไปมาช้าๆ
อย่างอ่อนแรง บาดแผลตรงริมฝีปากและโหนกแก้มขาวแห้งกรังไปแล้วและน่าประหลาดที่เค้าไม่ได้รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด
ร่างน้อยถูกปกคลุมด้วยหิมะบริสุทธิ์เกือบครึ่งตัว แฮร์รี่นึกว่าเค้าโดนพวกน่าหงุดหงิดพวกนั้นพามาทิ้งไว้ในป่าที่ไม่มีใครพบเห็น.......และนั่นท่าจะจริง แฮร์รี่คิด
“ฮึก....”
ขยับไม่ไหวแล้ว......แฮร์รี่แนบหน้ากับพื้นหิมะ และเริ่มคิด
บางทีหากเค้าหายไป
คนที่นั่นอาจจะไม่มีใครได้ทันคิดหรือสนใจว่าเค้าหายไปไหน
บางทีถ้าเค้าหลับไป
อาจจะไม่ได้ตื้นขึ้นมาอีกเลยก็ได้
ก็อาจจะดีเหมือนกัน
แพขนตายาวซึ่งถูกเกาะด้วยเกล็ดความเย็น
เริ่มทิ้งตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า
แต่ทันใดนั้นหูที่กำลังจะเลิกรับเสียงส่งไปยังโสตประสาทก็แววได้ยิน
“ไอ้หัวขโมย! อย่าหนีนะ!!”
“ไม่หนีก็โง่ดิ ลุงอ้วน”
“หนอยยย ไอ้เด็กเหลือขอ! แกกลับมานี่เลย!!”
“กลับไปก็โง่อีกนั้นแหละ”
เสียงอะไรน่ะ.......แฮร์รี่คิดได้แค่นั้น ก่อนสติจะดับวูบไป
******************************************************************************
“เฮ้ โหลๆๆ.......ฮัลโหล ฟื้นแล้วนะพวก”
“อืออ”
แฮร์รี่ยักมือขึ้นขยี้ตา และใช้ศอกยันตัวขึ้นมา เค้ามองไม่เห็นคนที่พูดเลย พอลืมตาขึ้นมาเมื่อกี้คนๆ
นั้นก็หายไปแล้ว ร่างเล็กหันไปรอบๆ ไม่รู้สึกหนาว
เพียงแค่เย็นเท่านั้น
“ฉันเห็นนายนอนห่มหิมะอยู่ ก็เลยพามาที่นี่น่ะ” เสียงดังขึ้นมาจากทางซ้าย แฮร์รี่หันไปแต่มองไม่ทัน......คนๆ นั้นไวมาก
“ฉันรู้ว่าชาวเหมันต์นอนอยู่กลางหิมะไม่เป็นไร
แต่ว่าทำงั้นนายก็เสี่ยงที่จะหายใจไม่ออกเพราะโดนหิมะกองท่วมหัวนะ” แฮร์รี่หันตาม
แต่ผู้ชายคนนั้นก็หนีเค้าไปอีกแล้ว ไวมากเหลือเกินราวกับว่าหายตัวได้
ชาวเหมันต์เหรอ? ชาวเหมันต์คืออะไรกัน
แล้วทำไมคนที่ช่วยเค้าไว้ไม่ให้แข็งตายจะต้องหลบเค้าด้วยล่ะ
แฮร์รี่หันมองไปรอบๆ เค้าสังเกตเห็นว่าตัวเองอยู่ในช่องผา
หรืออะไรสักอย่าง และมันสูงจากพื้นดินมากๆ ร่างเล็กเห็นทิวยอดไม้ซึ่งมีหิมะปกคลุมอยู่ห่างออกไปและที่นี่เหมือนเป็นที่ส่วนตัวของใครบางคน
แต่คนๆ นั้นกลับไม่ยอมให้เค้าเห็นตัวเสียนี่......เอาแต่หลบท่าเดียว
แฮร์รี่ไม่พูดในขณะที่สำรวจพื้นที่โดยรอบ
เค้าไม่ได้ลุกไปไหนแต่ที่นี่ก็ไม่ได้กว้างขว้างเสียเท่าไรหรอก
“ไง ถ้ำของฉันเจ๋งดีใช่ไหมล่ะ”
แฮร์รี่ไม่เจอเค้า ร่างเล็กจึงหมดความหวังแล้วที่จะรอให้เจ้าตัวยอมเผยตัวออกมาเอง หนุ่มร่างบางผมสีน้ำตาลอ่อนจึงพูดขึ้นฝืนเสียงที่ฟังดูแหบแห้งของตัวเอง
“เอ่อ คุณ.....สวัสดี
คุณช่วยผมไว้ใช่ไหม?” ร่างเล็กไม่รู้ว่าเค้าควรทำตามมารยาทหรือถามข้อข้องใจออกไปก่อนดีกันแน่
เพราะคนที่ช่วยเค้าไว้ก็ไม่ได้เอ่ยทักทายเค้าก่อนเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรคนที่เค้าพูดด้วยอาจไม่ได้ยินเพราะเสียงของแฮร์รี่ฟังดูเบามากเหลือเกิน
แต่ว่าร่างที่สูงกว่าเค้าได้ยิน และเริ่มโรยตัวลงมาจากผนังถ้ำด้านบน
“ใช่ ฉันเองล่ะ และก็ เอ่อ ใช่ หวัดดีนะ....นายมารยาทดีจนทำฉันรู้สึกผิดไปเลย”
เค้าห้อยหัวลงมา และแฮร์รี่ก็ทำหน้าตกใจก่อนจะถดตัวหนีแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้เพราะร่างกายเค้าเจ็บมาก แต่แฮร์รี่ไม่ได้คิดเรื่องนั้น เมื่อคนที่อ้างว่าช่วยเค้าไว้โยนตัวเองลงมาจากผนังถ้ำแล้วทิ้งตัวนั่งยองๆ
ข้างเค้า แฮร์รี่ตาโตเท่าที่จะทำได้ มือเล็กเรียวทั้งสองข้างท้าวไปข้างหลังอย่างตื่นตัว
“ทำไม ตกใจฉันเหรอ?” ชายปริศนาถาม แฮร์รี่ไม่หยุดตาโต
“ก็คุณใส่ชุดแดง”
“อ๋อ ใช่
น้ำเงินแดงเป็นสีโปรดของฉันน่ะ และนายไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้นะ” คนพูดทำเสียงเหมือนกลั้นหัวเราะ
“คุณปิดหน้าทำไม” แฮร์รี่เถิดตัวหนีอีก
เมื่อชายตัวสีแดงน้ำเงินคนนั้นเคลื่อนมือมาหาเค้าเหมือนลิงกลอลิล่า แต่แฮร์รี่ว่า คนๆ นี้ดูเหมือนแมงมุมมากกว่าเพราะชุดที่เค้าใส่มีเส้นพาดไปมายังกะใยแมงมุม
ชายคนนั้นหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ราวกับคิดคนละอย่างกับแฮร์รี่ที่ตกใจไม่หาย
ก่อนจะใช้มือที่สวมถุงมือสีแดงถอดหน้ากากของตัวเองออก......แฮร์รี่คิดว่ามันเป็นถุงสีแดงแปะเลนส์แว่นตาสีโลหะ
และมันดูยืดหยุ่นมากๆ
บางทีชายคนนี้อาจจะเป็นวัยรุ่นที่ชอบแต่งคลอสเพลย์แล้วออกแบบชุดด้วยตัวเองก็ได้.....แฮร์รี่คิด
และหน้าตาของชายหนุ่มที่ช่วยเค้าไว้ก็ดูเหมือนจะเป็นคนนิวยอร์กเสียด้วย คิ้วเค้าเข้มดก จมูกโด่งมน
เรียวปากหนา และทรงผมยุ่งเหยิงชี้โด่เด่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงชีวิตนักเรียนไฮสคูล เวลาเค้ายิ้มดูเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องดีสำหรับเค้า
แต่แฮร์รี่ไม่เข้าใจ ชายคนนี้มาทำอะไรที่นี่ในเขตพื้นที่รกร้างและหนาวเหน็บ
แฮร์รี่ไม่ได้ยินเสียงของเมืองเลย
เสียงเอะอะวุ่นวาย เสียงรถ เสียงการก่อสร้าง......ไม่มีเลย ที่นี่เงียบสงบเหมือนกับอยู่คนละโลกกันเลย
“ผม...ผมอยู่ที่ไหนเหรอครับ คุณ เอ่อ คุณพอจะรู้ไหม?” เจ้าของเรือนร่างอันอ่อนแรงเสี่ยงถามออกไป
และรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่น้ำเสียงของเค้าฟังดูแหบแห้งอย่างน่าประหลาด
หนุ่มชุดสีธงชาติอเมริกายิ้มขบขันกับตัวเองอีกครั้ง
ราวกับว่าทุกครั้งที่แฮร์รี่พูดแล้วเค้ารู้สึกดี
“แหมพวก....นายไม่จำเป็นต้องสุภาพกับฉันขนาดนั้นก็ได้ มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดยังไงชอบกลแฮ่ะ ฉันคิดว่าเราก็รุ่นเดียวกันน่าจะตีซี้กันได้อยู่......ฉันปีเตอร์ ปีเตอร์ เอ่อ ปราคเกอร์ ปีเตอร์
ปาร์คเกอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก......อ๋อ! ใช่ ให้ตายสิ นายถามใช่ไหมว่าตัวเองอยู่ไหนฉันนี่ไม่ไหวเลยแฮ่ะที่นี่ก็อยู่ชายแดนเหมันต์ไงล่ะ.....ให้เดานะ คงหลงมาล่ะสิ
ที่นี่ไม่มีใครอยากมาหรอกเดี่ยวจะพาลเจอพวกสัตว์แปลกๆ เอา นายเองก็คิดไม่ถึง......นาย เอ่อ
นายชื่ออะไรนะ?”
คนที่รู้เรื่องสถานที่นี่ดีที่สุดเอ่ยปากพูดวาจาจนแฮร์รี่ที่พลัดถิ่นมึนหัว นอกจากจะบอกตำแหน่งปัจจุบันแล้ว ปีเตอร์ยังแนะนำตัวกับเค้าอีกด้วย
มือที่ถูกสวมด้วยผ้าสีแดงยกขึ้นมาให้เค้า แต่แล้วก็ลดลงไปอย่างฉับพลันเมื่อนึกได้ถึงคำถามที่แฮร์รี่ต้องการคำตอบ เจ้าของเรือนผมสีอ่อนไม่เคยลดความกว้างของดวงตาเลยตั้งแต่บุคคลนิรนามผู้นี้ปรากฏตัว
“เอ่อ แฮร์รี่.....แฮร์รี่ ออสบร์อน” ร่างเล็กกว่าพูด
ก่อนจะถูกร่างสูงฉวยมือซ้ายไปเขย่าเบาๆ อย่างยินดี
“หวัดดีแฮร์รี่....ที่นี่เราก็รู้จักกันอย่างเป็นทางการแล้วนะ เราต้องไปแล้วล่ะ”
“ไป? ไปไหนเหรอ?”
“ก็ดูนายสิ คงจะหนาวสินะ
ฉันจะพาไปที่ๆ ช่วยให้นายอุ่นขึ้นได้น่ะ จะได้ไม่หนาวตายไง”
แฮร์รี่รู้สึกงุนงงในคราแรกที่ปีเตอร์บอกว่าเราต้องไป
แต่บัดนี้ความไม่เข้าใจยิ่งกว่ากลับฉาบอยู่ทั่วใบหน้าของร่างเล็กบางเมื่อปีเตอร์รีบร้อนอยากให้ไป เพราะอยากจะช่วยร่างกายของเค้าที่เพิ่งรู้จักกันให้อบอุ่นขึ้น......ฉันจะพาไปที่ๆ
ช่วยให้นายอุ่นขึ้นได้น่ะ........แฮร์รี่ไม่รู้ว่าแม้คนที่รู้จักชื่อเค้ามาแล้วสิบปีจะพูดคำเหล่านี้ออกมาจากปากรึเปล่า แต่ปีเตอร์ทำ
ร่างสูงโปร่งตรงหน้าพูดพร้อมกับยื่นมือมาให้เค้า
แขนยาวแข็งแรงยื่นออกไปแล้ว แต่เหมือนชอบลืมหน้าลืมหลัง เจ้าตัวก็ยิ้มทะเล้นก่อนจะบอกให้แฮร์รี่รอก่อนแป๊บหนึ่งแล้วหายไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับลุคใหม่ที่ร่างบางต้องเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ
...........เสื้อผ้าเหมือนคนปรกติ
ในโทนสีอ่อนหรือรียกว่าขาวไปเลยก็ได้
มันดูเหมาะกับสภาพแวดล้อมของที่นี่เป็นอย่างยิ่ง.........
เค้ามีชุดธรรมดาใส่ด้วยยังงั้นหรือ.......แฮร์รี่ฉงนในใจ แต่แล้วปีเตอร์ผู้เป็นมิตรและมีรอยยิ้มอยู่เป็นนิจก็ยื่นมือแกร่งกลับมาหาเค้าอีก แฮร์รี่จับตอบอย่างค่อนข้างเหม่อลอย และสังเกตได้ว่ามือของปีเตอร์นั้นเรียวยาวและหยาบกร้าน แต่ว่าอบอุ่นมากๆ
และเวลานั้นแฮร์รี่คิดว่าเค้าค้นพบสิ่งมหัศจรรย์แล้วจากคำบอกเล่าเรื่องชาวเหมันต์ที่ไม่เคยหนาวเหน็บจากหิมะเย็นยะเยือกจากปีเตอร์ ในเวลาต่อมานั้นเอง
แฮร์รี่ก็ต้องร้องออกมาอย่างที่เค้าเองก็คิดว่าไม่เคยได้ยินตัวเองทำเสียงแบบนี้มาก่อน
เมื่อปีเตอร์กอดเค้า แล้วดีดตัวเองออกมาจากขอบผาพร้อมกันกับเค้า แฮร์รี่จำได้ ตัวเค้ากอดตอบและขยุ้มเสื้อฮู้ดตัวบางของปีเตอร์ไว้แน่นแล้วเริ่มร้อง........ก่อนปีเตอร์จะเหยียดแขนอีกข้างหนึ่งออกไป
และตัวของพวกเค้าทั้งคู่ก็เหวี่ยงกลับ
ก่อนจะลงสู่พื้นอย่างนุ่มนวล
สาบานได้ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย คนที่เพิ่งจะรู้จักชื่อกันทำเอาแฮร์รี่เกือบยืนไม่ไหว เสื้อฮู้ดสีขาวซับในสีกรมเข้มกระพือน้อยๆ อยู่นอกเสื้อยืดสีขาวของปีเตอร์ที่ส่งยิ้มมาให้เค้า
“นายตกใจเหรอ....ฉันรู้ นายหน้ามันบอกงั้นน่ะ
และยังบอกฉันอีกด้วยว่าไม่เคยเจอเรื่องสนุกตื้นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียว”
ปีเตอร์ที่อยู่สูงกว่าเค้า
ลดระดับหน้าลงมาอย่างเวทนาแล้วเริ่มวาดยิ้มที่แฮร์รี่เริ่มไม่ชอบ เมื่อเหมือนกลายๆ ว่าจะรู้สิ่งที่ปีเตอร์คิดอยู่ ร่างสูงเพรียวใส่ยีนสีซีดเกี่ยวเอวแฮร์รี่แล้วล็อคไว้
“มาเถอะ ก่อนถึงบ่อน้ำพุฉันจะพานายสนุกเอง....ไม่ต้องห่วงฉันกอดนายอยู่”
“ไม่ เดี๋ยว เหวอ...ม่ายยยยย” เสียงที่กำลังกลับมาใสอีกครั้งของแฮร์รี่ ดังก้องและแววหายไปด้วยความเร็วแสงของปีเตอร์ ปราคเกอร์.....หนุ่มชักใยสุดซ่าแห่งแดนเหมันต์
ใช่! ใยนั่นแหละไม่มีผิดเลย! คนที่เพิ่งช่วยแฮร์รี่ไว้มีเส้นใยเหนี่ยวๆ ออกมาจากข้อมือด้วย ยังกะแมงมุมของจริงอย่างนั้นแหละ
“นายเป็นใครกันแน่เนี่ยยยย!--!!” แฮร์รี่ตะโกนแข่งกับกระแสลมแรงเมื่อพวกเค้าทะยานอยู่กลางอากาศ ปีเตอร์ดีดตัวขึ้นมาแล้วปล่อยให้พวกเค้าหล่นลงสู่พื้นก่อนจะพ่นใยออกไปเกาะต้นไม้รองรับน้ำหนักของทั้งสองไว้ จากนั้นก็ไปต่อ......
“อ่าาา! ปล่อยช้านโลงงง”
“ใครๆ ก็ตามหาฉันรู้ไหม ฉันหาตัวจับยาก.....หึ ก็เห็นๆ กันอยู่”
ร่างสูงที่กอดรัดคนขวัญหนีดีฝ่ออยู่อย่างแนบแน่นกล่าวสีหน้าสดใส และเคลื่อนไหวไปได้เร็วดั่งใจจนแฮร์รี่ต้องลับตาปี๋
ไม่ขอมีส่วนร่วมในการเดินทางอีกแล้ว
สงสัยชาวเหมันต์จะทำอะไรแปลกๆ
แบบนี้ได้แฮ่ะ และปีเตอร์คนนี้ก็คงจะไม่ใช่เด็กหนุ่มชอบแต่งคลอสเพลย์อย่างที่แฮร์รี่คิดซะแล้ว ปีเตอร์เป็นชาวเหมันต์จริงๆ !
และชอบทำอะไรบ้าๆ เสียด้วยสิ!!
“วางฉันโลงงงง อ้า!”
เสียงดังตุ้บดังขึ้น
พร้อมกับที่เท้าเค้าสัมผัสพื้น แฮร์รี่ตัวอ่อนยวบในอ้อมกอดของปีเตอร์.....ตัวเล็กๆ
ที่สั่นเทาเป็นเช่นนั้นอยู่ภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตหนังราคาถูกของแฮร์รี่ ปีเตอร์พามาที่แรกเริ่มแห่งความสนุกของเค้า พร้อมกับเล่านู่นเล่านี้ในเรื่องที่แฮร์รี่สงสัย
ไม่ใช่ว่าหลอกถามหรอกนะ แต่แฮร์รี่แค่เริ่มมั่นใจแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ๆ
เค้าเคยมาและไม่คิดด้วยซ้ำว่ามีอยู่จริง!
ที่นี่เป็นที่ของมนุษย์ชายหญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางฤดูหนาวตลอดกาลโดยไม่รู้สึกหนาว และไม่รู้จักมนุษย์ด้วยซ้ำ เพราะปีเตอร์ไม่ได้พูดถึงมนุษย์ธรรมดาๆ เลย พอเค้าถาม ปีเตอร์ก็สาธยายเกี่ยวกับสัตว์แปลกๆ
ที่เจ้าตัวเคยเจอ ไม่มี ไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์เลย.....แฮร์รี่คิดว่าปีเตอร์คิดว่าเค้าเป็นชาวเหมันต์ที่หลงทางกลับบ้านไปเสียแล้ว!
ร่างบางเริ่มกลัว ว่าถ้าหากปีเตอร์รู้ความจริงแล้วจะเป็นอย่างไร บางทีที่ปีเตอร์ไม่พูดถึงอาจเป็นเพราะเกลียดพวกมนุษย์เข้าไส้ก็ได้ใครจะบอกแฮร์รี่ได้ เพราะพวกมนุษย์ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง นึกถึงผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่นึกถึงคนอื่น
แต่ความกลัวนั้นก็เริ่มลดลงไป
จนกลายเป็นหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อปีเตอร์แสดงความเป็นมิตรออกมาอย่างมากมาย แฮร์รี่ถูกถามว่ามีพ่อแม่หรือไม่
และก็ได้รู้ว่าปีเตอร์เองก็กำพร้าพ่อแม่เช่นเดียวกัน พวกเค้าสนุกด้วยกันอย่างที่ปีเตอร์ว่า ปีเตอร์บอกว่าชีวิตเค้าเรื่อยเปื่อยเพียงใดเมื่อไม่ได้มีคนค่อยกำกับเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ต้องอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเองมาโดยตลอด
เช่นเดียวกับแฮร์รี่........
รู้ไหม
ถึงแฮร์รี่กลัวว่าจะโดนปีเตอร์เกลียดเอาที่เค้าเป็นมนุษย์ แต่พวกเค้าทั้งสองก็มีอะไรเหมือนกันเยอะมากๆ
...................
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
แฮร์รี่จะทำอย่างไรต่อและปีเตอร์จะรู้ความลับของเค้าไหม
แล้วร่างสูงแท้จริงนั้นเป็นใครกันแน่
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
หาคำตอบได้ใน Part ต่อไปเลยค่ะ //ผั๊วะ!
เสียงรีดโบกรองเท้า.......แล้วเมื่อไรจะลงล่ะย่ะ!//
ช่วยกันคอมเม้นท์ให้ไรท์มั่นใจหน่อยนะคะว่ายังมีคนที่ชอบคู่นี้อยู่
TYT หลายเรื่องแล้วที่ไรท์ลงแต่ไร้วี่แววของคนที่คอมเม้นท์หรือแฟนคลับหน้าบล็อก(บางคู่ในเฟสก็เงียบค่ะ)
ช่วยกันคอมเม้นท์กันหน่อยนะคะ ให้ไรท์มั่นใจหน่อยว่ายังมีคนอยากให้ไรท์เขียนคู่นี้หรือคู่อื่นๆ
อยู่..........ขอบคุณค่ะ M_ _M
สำหรับท่านใดที่อยากพูดคุย
(หรือติดตามข่าวสารในชีวิตไรท์ -_-“) ก็เข้ามาแอดได้เลยค่ะที่
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสไรท์เองค่ะ จิ้มเล้ยยย ><
รักรีดนะคะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
3 ความคิดเห็น:
ว้าวฉากสวยงามตระการตาหิมะโปรยปราย ว้าวนึกฉากแล้วแบบสวยบาดใจๆๆๆ nc ไวๆๆ เชียร์รัวปรบมือใหัด้วยจ้า
หิมะ หิมะ... โทนเรื่องเปิดมาก็หนูแฮร์รี่รันทดเหลือเกิน... สงสัยอยู่ว่าสรุปแล้วแฮร์รี่มีพลังบางอย่างจริงๆ รึเปล่า (บทนางทำให้นึกถึงนางเอก elfen lied เลยนะคะ รวมถึงพลังด้วย...ถ้าแฮร์รี่มีอะนะ ถ้ามีนี่เหมือนควบคุมไม่เค่ยได้เลยสินะ...)
ปีเตอร์...นายนี่แบบ...นะ... คิดถึงความปลอดภัยหนูแฮร์รี่หน่อยสิ หนูน้อยเค้ามีแผลพกช้ำอยู่นะ -3-
เมื่อกี้พิมพ์ผิดแล้วแก้ไม่ได้งิ...เลยต้องลบนะคะ -3-
อิอิ ไรท์เปิดเรื่องให้ อิอิ สู้ๆ นะเค๊อะ
ด้วยรัก...จากรีด...
แสดงความคิดเห็น