มาต่อ Part 2 กันแล้วนะคะ
(รู้สึกหายไปนานนิสหนึ่ง แฮ่ๆ ^.^^) เรื่องราวจะซับซ้อนขึ้นค่ะสำหรับแฮร์รี่
(และรีดด้วยถ้าไรท์เขียนไม่เข้าใจพอ 555+)+(อะไรของไรท์เนี่ยยยย
บ้าไปกันใหญ่แล้ววว)
ไม่มีอะไรจะบอกมาค่ะ
แอยากจะแป๊ะเฟสไว้ตามธรรมเนียมเท่านั้นค่ะ
อูยยยย
ปีเตอร์นายก็ต้องเข้าใจแฮร์รี่เค้านะ อย่าจู่โจมเร็วปายยยย >> อุ๊บ!
สปอยล์ O}{o
----------------------------------------------------------------------------------------------
แฮร์รี่เงอะๆ งะๆ
ทุกครั้งที่ปีเตอร์พาไปเล่นอะไรใหม่ๆ
ร่างสูงโปร่งทึกทักเอาว่าแฮร์รี่เป็นคนที่อยู่ในกรอบและคงเป็นคนดีของสังคมน่าดู
ถึงทำเรื่องอะไรแพล่งๆ ไม่เป็นเหมือนเค้า......แฮร์รี่เออออตอบไป ไม่ปฏิเสธเพราะไม่อยากให้ปีเตอร์เกลียดเค้า
รู้ไหม ปีเตอร์เรียกเค้าว่าเพื่อนด้วยล่ะ
ไม่เคยมีใครใช้คำนี้กับเค้ามาก่อนเลย............
แฮร์รี่อิ่มเอมใจ คิดๆ กับตัวเองดูแล้วเค้าอาจจะฝันไป
และยังไม่ได้ตื่นจากฝัน
แต่นี่ก็เป็นฝันที่ดีสุดยอดไปเลยล่ะ
พวกเค้าสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
โดยที่ปีเตอร์เองก็ไม่เคยมีเพื่อนเหมือนอย่างแฮร์รี่เช่นกัน พวกเค้าดูสนใจความคิดของกันและกัน
ปีเตอร์จะเป็นพูด แฮร์รี่จะเป็นคนรับฟังและบางทีก็รับมุขเค้าด้วย
ปีเตอร์จะเป็นคนนำ และแฮร์รี่ก็จะเป็นคนทำตาม..........
แฮร์รี่ไม่รู้สึกหนาวเลย
ปีเตอร์พาขาอันอ่อนแรงของเค้าสเก็ตไปทั่วธารน้ำแข็งที่ยาวเหยียด
และพาเค้าไปเร็วขึ้นอีกด้วยเส้นใยน่าพิศวงของเจ้าตัว
และในที่สุดก็มาถึง....ธารน้ำแข็งโล่งกว้างขนาดใหญ่
แฮร์รี่กระซิบกับตัวเองว่าถ้าเป็นฤดูร้อนที่นี่คงจะต้องเป็นทะเลสาบใหญ่แน่ๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอก
...........ที่นี่ ดินแดนเหมันต์ไม่เคยหยุดหนาว..........
แต่ว่าที่นี่
ตรงนี้......เป็นบ่อน้ำพุร้อน!
มีบ่อน้ำร้อน (ซึ่งจริงๆ
แล้วมันอุ่น เพราะตบตีกับสภาพแวดล้อมอันหนาวเหน็บ)
และหลุมเยอะแยะที่ปล่อยลมร้อนออกมายังกะท่อไอเสียเป็นว่าเล่น
ปีเตอร์บอกแฮร์รี่ให้เข้าไปหาความอบอุ่นเสีย
แต่เค้าไม่กล้า.....ร่างบางกลัวเกินไปว่าเค้าจะโดนลวกเอา แต่ปีเตอร์บอกว่าไม่มีใครรู้จักที่นี่นอกจากเค้าเอง
มือแกร่งที่ไม่เคยห่างจากแฮร์รี่เลยทันทีที่เจอกัน
จับไปที่แขนเล็กบางแล้วยื่นมันออกไปเหนือหลุมของลมร้อน
ปีเตอร์อยู่ข้างแฮร์รี่ไม่ห่าง
มุมปากที่ยกขึ้นราวกับมองโลกในแง่ดีตลอดเวลานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้แฮร์รี่รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด
และปราดแรกที่ไอร้อนจากใต้ดินพวยพุ่งขึ้นมา ร่างบางสะดุ้งเฮือก
แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดเลย แฮร์รี่เริ่มสนุกเมื่อมีปีเตอร์เป็นตัวยุยง ร่างเล็กๆ
โดดไปมาข้ามหลุมที่พ่นไอร้อนได้ตามคำบอกของเจ้าถิ่น และหลายครั้งที่ปีเตอร์พ่นใยออกมาเหวี่ยงตัวเค้าให้สูงขึ้นแฮร์รี่หัวเราะอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน.............
และเค้าคิด
ถ้าหากเช่นนั้นก็ขออย่าได้ตื่นจากฝันนี้อีกเลย แต่หากมันฟังดูเหมือนคนเห็นแก่ตัวเกินไป แฮร์รี่ก็ขอให้เค้าได้ฝันให้ยาวขึ้นกว่านี้อีกหน่อย เพราะเค้ารู้สึกรักปีเตอร์เหลือเกิน............
รักที่ปีเตอร์มอบความรู้สึกที่ขาดหายไปในตอนเด็กๆ
ของเค้า
อย่างนี้เองสินะ......ที่มาของเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กๆ
ที่วิ่งวนอยู่รอบตัวเค้า
แฮร์รี่เคยสงสัยมาโดยตลอดว่าเหตุใดเด็กพวกนั้นถึงหัวเราะได้น่ารำคาญยิ่งนัก.............
แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว
ปีเตอร์บอกเค้าว่าให้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกเพราะว่าหนังจะทำให้ร้อนได้ แฮร์รี่ทำตาม
“ฉันมาที่นี่บ่อยๆ น่ะ
เพราะที่นี่ไม่มีใครรู้จักด้วยล่ะมั่ง......แถวนี้เป็นเขตรกร้าง
คนส่วนมากจะไปอยู่ในเมืองกันหมด” ปีเตอร์พูดในขณะที่ขายาวๆ โดดข้ามหลุมมาได้อย่างสบายๆ
“ในเมืองที่นายว่าน่ะเหรอ คงจะเหมือนในเมืองที่ฉัน....เอ่อ
หมายถึงในหมู่บ้านที่ฉันอยู่น่ะ มีคนแกะสลักน้ำแข็งเก่งมากเลย”
ร่างบางที่ถอดแจ็คเก็ตออกแล้ว เกือบหลุดปากพูดออกไปว่าเค้าไม่ใช่คนในพื้นที่
“แล้วทำไมมีคนไล่ตามนายมาล่ะ....ฉันได้ยินเสียงมีคนตะโกนตามนายมา
ตอนที่สลบไปน่ะ”
“อ๋อ หึ.....นายรู้ใช่ไหมว่าฉันหาตัวจับยาก”
ปีเตอร์ชะงักเล็กน้อย เลิกโดดไปมาแล้ว
แต่ยืนหัวเราะในลำคอกับตัวเองแทน
แฮร์รี่หยุดบ้างแต่ก็แค่เล็กน้อยแล้วโดดต่อไปอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
ดวงตาสีฟ้าอัญมณีสวยกลอกไปมา
“อ๋อ ใช่สินะ....ก็นายทำเหมือนหายตัวได้เลย”
แล้วโดดต่อไปอีกเข้าไปหาปีเตอร์
รอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้าซึ่งถูกล้อมกรอบด้วยทรงผมยุ่งเหยิงหายไป เป็นครั้งแรกที่ปีเตอร์หยุดยิ้ม ก่อนเค้าจะพูด
“รู้ไหมที่ฉันหายตัวจับยาก เพราะว่าฉันเป็นหัวขโมย”
โทนเสียงของร่างสูงเปลี่ยนไป เป็นฟังดูราบเรียบไม่ได้ทะเล้นหยอกล้อเหมือนเดิม
แฮร์รี่ชะลอลงทันใดและความสนุกบนสีหน้าเค้าก็หายไป.........
“นั่นฉันก็ได้ยิน
แต่ถ้านายเป็นคนไม่ดีจริงนายก็คงไม่ช่วยฉัน หรือถ้านายแค่สนุก นายก็มีส่วนดีอยู่บ้าง” แฮร์รี่ไหวไหล่
พยายามบอกปีเตอร์ว่าเค้าไม่รู้สึกว่าอีกฝ่ายอันตราย......บางทีเด็กมีปัญหาเรื่องพ่อแม่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
“นายคิดงั้นจริงๆ เหรอ.....ว้าว ไม่เคยมีใครพูดกับฉันแบบนี้มาก่อนเลยนะ”
ในที่สุดมุมปากของคนที่เริงร่าที่สุดก็กลับมาอีกครั้ง แต่ดูขมขื่น
“ฉันเข้าใจนะ
เพราะไม่เคยมีใครมองว่าฉันเป็นอะไรที่มากกว่าตัวประหลาดเลย......และรู้ไหม นายเป็นคนแรกเลยล่ะที่เล่นกับฉัน
ฉันหมายถึงถ้าย้อนไปเมื่อสิบปีที่แล้วน่ะนะ....ฮ่ะๆ เราอาจใช้คำนี้ได้”
“ไม่มีใครเล่นกับนายงั้นเหรอ.......ไม่เอาน่า นายออกจะนิสัยดี” ปีเตอร์ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
“คนที่นั่นไม่ได้มองคนที่นิสัยน่ะ”
คราวนี้เป็นแฮร์รี่บ้างที่ยิ้มขมขื่น
เค้าอ้าแขนออกน้อยๆ ราวกับจะบอกว่า เรื่องนั้นมันก็ช่วยไม่ได้
แต่แล้วจู่ๆ
ลมร้อนหอบใหญ่จากใต้พิภพก็พวยพุ่งขึ้นมาจนแฮร์รี่ซวนเซไปด้านข้างใกล้กับอีกหลุมหนึ่งที่อยู่ถัดออกไป.......แฮร์รี่ยืนอยู่ใกล้มาก
จนทำให้เท้าเสียหลักเอียงตัวเข้าไปหาหลุมที่ภายใต้นั้นเดือดจัด ร่างบางที่ไม่มีอะไรให้จับคว้า
หัวใจหยุดเต้น
ดวงตาสีฟ้าน่าหลงใหลเบิกกว้าง.......ไม่มีเสียงใดๆ
หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากบางของแฮร์รี่เพราะเค้าไม่ทันได้ตั้งตัว แต่กลับมีเสียงหนึ่งดังสวนขึ้นมาแทนที่
เมื่อเค้าเสียหลักเกือบทิ้งตัวลงไปหาหลุมลมร้อน
“แฮร์รี่ อันตราย!”
ปีเตอร์เองผู้ดวงตาเบิกกว้างไม่แพ้กันก็ไวปานแสงเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
มือแกร่งยื่นออกไปพ่นใยเส้นเหนี่ยวแน่นดึงตัวของแฮร์รี่ไว้
แล้วกระชากกลับมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงพอๆ กัน
ร่างบอบบางภายใต้เสื้อยืดตัวบางเฉียบเหมือนถูกเร่งด้วยเครื่องเร่งความเร็วจากอนาคต เค้าถูกดึงเข้าไปหาปีเตอร์ทั้งๆ
ที่แขนขาของตัวเองก็ยังไม่ทันได้ประสานตามกันไปเลยด้วยซ้ำ และเพราะเร็วเกินไปเค้าจึงกระแทกเข้ากับแผงอกปีเตอร์อย่างเต็มรัก ปีเตอร์รับร่างของแฮร์รี่ไว้ เพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองใช้แรงมากเกินไป
เพราะพวกเค้าทั้งคู่ลงมานอนกองอยู่กับพื้นเสียแล้ว
หรือจะพูดให้ถูก
เป็นปีเตอร์เองต่างหากล่ะที่นอนแช่แผ่นน้ำแข็งอยู่
แฮร์รี่น่ะนอนปลอดภัยดีอยู่บนตัวเค้า............
หัวเล็กๆ ซบลงกับอกกว้างของปีเตอร์โดยไม่รู้ตัว แฮร์รี่หอบหายใจ.........เริ่มคิด
ว่านี่อาจไม่ใช่ฝัน
เพราะเค้ารู้สึกใจหายไปเลยเมื่อครู่นี้.......และไม่ได้สะดุ้งตื่น
“อึก...นายโอเคไหม เอ่อ
โทษทีเมื่อกี้ฉันออกแรงมากไปหน่อย....นายเจ็บตรงไหนไหม” ปีเตอร์ที่น่าจะเจ็บที่สุดเอ่ยถาม
และแฮร์รี่ที่เพิ่งจะได้สติว่าเค้าไม่ควรอยู่ในท่านี้นานนัก
ก็ลุกขึ้นจากอกของปีเตอร์
แต่ร่างสูงกลับกอดเค้าไว้และพาลุกขึ้นนั่งมาด้วยกัน
“เอ่อ....ฉันไม่เป็นไร”
ร่างบางที่ถูกกอดราวกับกลัวว่าจะแตกสลาย ออกแรงดันอกของอีกคนหนึ่งออกไป
และเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าของเค้าเริ่มร้อนขึ้นมาแปลกๆ
เสียแล้ว........แต่ปีเตอร์ยังคงไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“ฉันนึกว่านายจะเป็นอะไรไปน่ะ”
และร่างสูงโปร่งที่ทำตัวเป็นเบาะรองนั่งโดยที่ไม่ถามความเห็นอีกคน
ก็ยอมคลายอ้อมแขนลงในที่สุด
ปีเตอร์แอบเห็นสีหน้าที่กำลังเปลี่ยนสีของแฮร์รี่ จึงกระแอ้มไอและเขยิบออกมาพลางเพยิดหน้าไปข้างหลังของอีกฝ่ายหนึ่งที่เค้าทำให้ดูจะเขินอายไปเสียแล้ว
“เอ่อ...อยู่ตรงนั้นน่ะ บ่อน้ำพุร้อน ข้างหลังนาย
นายลงไปแช่สักพักหนึ่งก็ขึ้นมาได้
มันจะช่วยให้นายดีขึ้นยิ่งนั่งอยู่ตรงนี้จะเริ่มหนาว หิมะกำลังจะตกลงมาอีกรอบแล้ว”
ปีเตอร์พูดเสียงเบา เพราะเค้าคิดว่าไม่มีความจำเป็น
หากเค้าอยู่กันแค่สองคนและใกล้กันพอสมควร
แฮร์รี่พยักหน้า
“แต่นายต้องถอดเสื้อผ้าออกด้วยนะ....ถึงจะทำให้นายอุ่นได้ตอนลงไปแช่ แต่พอขึ้นมาเจอลมหนาว นายจะหนาวยิ่งกว่าเดิมอีก นั่นแย่กว่านะ” แฮร์รี่หันหน้ากลับมาเหมือนหูฟังเพี้ยนไป
จนกลุ่มผมด้านข้างเค้าสะบัดไปมา
และเจอเข้ากับปีเตอร์ที่ทำหน้าราวกับจะบอกว่า ช่วยไม่ได้
ก็มันไม่มีทางเลือก
“ฉันต้องถอดจริงๆ เหรอ”
แฮร์รี่ตอบเสียงเบากว่าปีเตอร์ที่ถามเค้า
ปีเตอร์พยักหน้ามาดมั่น
“ใช่...นั่นดีกับนายนะ ไม่เอาน่า เราเป็นผู้ชายเหมือนกันนายจะกลัวอะไร อ๋อ รึว่านายอาย?”
คิ้วทะเล้นยกขึ้นพาให้ใบหน้าของปีเตอร์กลับมาทะเล้นอีกครั้ง แฮร์รี่เสียความมั่นใจนิดๆ
“อายเหรอ? ใครบอกนายว่าอายกัน ฉันไม่ได้อายสักหน่อย!”
คนถูกสบประมาทว่ากลับเสียงฟังดูแข็งข้อนิดๆ มือเล็กคู่นั้นของเค้ากำแน่นอยู่ที่เสื้อบางของตัวเอง........และเค้าไม่รู้สึกหนาวเลย อาจเป็นเพราะไอร้อนจากหลุมที่พวยพุ่งออกมา
หรืออาจเป็นเพราะหัวใจที่ยังไม่เลิกรัวของเค้าก็ไม่รู้แน่
แฮร์รี่ขยับห่างออกมาอีกนิด
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันหลังให้ปีเตอร์ (ซึ่งเค้าก็เพิ่งนึกได้ว่าผู้ชายไม่จำเป็นต้องหันหลังให้กันในเวลาถอดเสื้อ) มือเล็กคู่เดิมรวบสาบเสื้อไว้ ยกขึ้น
และเจ็บเสียดที่กระดูกสะบ้าอย่างเฉียบพลัน
แฮร์รี่ชะงักมือ เค้าเพิ่งจะจำได้ว่าโดนซ้อมมา
ปีเตอร์เดินเข้ามาดู
เมื่อเห็นมุมปากที่มีเลือดแห้งกรังของแฮร์รี่ยกขึ้นบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
“นายมีแผลหนิ เจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า”
“เอ่อ...ไม่ ฉันไม่...” ถึงโกหกไปก็ไม่เนียนแล้ว ปีเตอร์จับสาบเสื้อแฮร์รี่ไว้เสียเอง
..........โอเค นี่ไม่ใช่ฝันแล้ว แฮร์รี่เพิ่งประวิง...........
แฮร์รี่ที่ดวงตาเบิกโพลงอีกครั้งกำลังฉุดคิดว่าเค้ามาที่นี่ได้อย่างไรในที่ๆ
ไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง
ในขณะที่ปีเตอร์ก็เลิกเสื้อเค้าขึ้น
ถอดมันออกไปจากศีรษะของแฮร์รี่อย่างรวดเร็ว.....แฮร์รี่คิดว่าเมื่อลมปะทะเข้ามาแล้วมันก็จะหนาวจับใจจนตัวสั่น แต่ก็ไม่เลย
ไม่ได้หนาวเหน็บอย่างนั้นเลย......ไม่เลยสักนิด
แต่เรื่องนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของแฮร์รี่นัก แขนบอบบางและเล็กกว่าปีเตอร์เป็นไหนๆ
ของเค้ายกขึ้นไขว้รวบอกตัวเองไว้
แฮร์รี่งอตัวตาเบิกกว้างอย่างตื่นตกใจอีก
แล้วถอยห่างออกมาจากปีเตอร์เล็กน้อย
ปีเตอร์ไม่มีแววงุงงงในสายตา
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
“เอ่อ...เปล่าๆ
ฉันแค่...แค่ให้นายดูไม่ได้น่ะ
มันไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่แผลเป็นน่าเกลียดเท่านั้นเอง”
แฮร์รี่บอกปัดออกไปอย่างรวดเร็วว่า ‘เปล่า’ แต่ก็ชังใจว่าไม่ควรโกหกปีเตอร์ที่ช่วยเค้าไว้
ในเมื่อแฮร์รี่ทำร้อนตัวเสียเองแบบนี้ เสียงเบาเริ่มเล็กและแหบแห้งลงเมื่อท้ายประโยคมาถึง
“มันแย่น่ะ...”
ร่างบางกอดตัวเองมากขึ้นอีก......ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่เป็นความหวั่นกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเค้าอยู่ในที่ๆ ไม่รู้จักจริงๆ
หากความลับแตกปีเตอร์ก็จะเกลียดเค้า......และปีเตอร์อาจสงสัยอยู่แน่ๆ
เพราะเค้าเริ่มทำตัวแปลกไป
ปีเตอร์พยายามให้เค้าถอดเสื้ออย่างรวดเร็ว
และในขณะที่แฮร์รี่กำลังกอดตัวเองและยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเล็กลงเข้าไปอีกอยู่นั้น ปีเตอร์ก็โยนเสื้อของอีกคนหนึ่งลงพื้น ไม่ได้มีท่าทางหรืออาการใดๆ
โต้ตอบปฏิกิริยาของแฮร์รี่เลย เหมือนเค้าเองก็รู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้
ปีเตอร์เอียงศีรษะเล็กน้อย
ก่อนจะถอดฮู้ดของตัวเองออกและรวบเสื้อยืดของตัวเองขึ้นบ้าง เค้าถอดมันออกไปโดยไม่ใยดี
และจับจ้องไปที่แฮร์รี่ตาเขม็ง ปีเตอร์พูด
“แผลเป็นเหมือนแบบนี้หรือเปล่า”
อกแกร่งแข็งแรงของร่างสูงโปร่งปรากฏขึ้นต่อหน้าแฮร์รี่
และร่างบางก็หยุดชะงัก.......เมื่อสิ่งที่เค้าเห็นบนอกปีเตอร์คือ
รอยแผลเป็นที่เหมือนจุดแตกร้าวบนอกข้างซ้ายของปีเตอร์
เหมือนกับของแฮร์รี่เลย.........
“ทำไมนาย...”
ร่าบางพึมพำอย่างไม่เข้าใจ วงแขนเล็กค่อยๆ
คลายออกจากกัน แฮร์รี่ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง..........ปีเตอร์รู้ได้ไงว่าพวกเค้ามีเหมือนกัน
แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร
ร่างสูงโปร่งที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามพองามก็เดินเข้ามาประชิดตัวแฮร์รี่
รวบข้อมือเล็กบางไว้แล้วจูบเข้าไปที่ริมฝีปากที่มีรอยเลือดของแฮร์รี่
คนโดนจู่โจมช็อคหนัก
แต่ปีเตอร์ก็ไม่ให้ทางเลือกอะไรเลยแก่แฮร์รี่
มือแกร่งข้างหนึ่งที่ไม่ได้ใช้งานถูกยกขึ้นมากดท้ายทอยเล็กไว้ ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นมือทั้งสองที่ลูบไล้เรือนร่างและขยุ้มกลุ่มผมสีอ่อนเบาๆ ปีเตอร์ไม่ยอมให้แฮร์รี่หนีไปไหนเลย.........
ราวกับว่าโหยหา อนึ่งคิดถึงมาแสนเนินนาน...........
ปีเตอร์ยังคงจูบต่อไป จนแฮร์รี่รู้สึกถึงลำขาแกร่งที่เบียดเข้ามาในหว่างขาของเค้า แฮร์รี่ประท้วง
โดยการทุบเข้าไปที่หน้าอกของคนที่ลิดรอนลมหายใจเค้าเข้าไปเต็มๆ
“ปีเตอร์อย่า....”
“แฮร์รี่...” เสียงประท้วงเมื่อถูกปล่อยปากออกมาของร่างบางถูกหยุดด้วยเสียงเรียกปนลมหายใจหอบพร่าของปีเตอร์
“นายรู้ไหมทำไมนายถึงไม่หนาว”
อีกครั้งที่แฮร์รี่ไม่รู้เรื่อง
“นายรู้ไหมทำไมนายถึงไม่บอกว่าตัวเองนายเองเป็นมนุษย์”
ดวงตาของปีเตอร์เฉียบคมเมื่อประสานกับแฮร์รี่ที่เริ่มตื่นตระหนก
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกนายนะ ฉันแค่....”
“แล้วทำไม
นายถึงไม่ตายเมื่อโดนหิมะห่มเข้าไปถึงครึ่งตัวทั้งๆ ที่ร่างกายนายอ่อนแอ”
ปีเตอร์เหมือนกำลังโกรธ “ฉันรู้ว่านายไม่ได้บอกฉันเรื่องที่ว่านายเป็นมนุษย์ เรื่องนั้นฉันรู้ตั้งแต่เจอนายแล้ว.....ชาวเหมันต์ไม่แต่งตัวแบบนี้ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นแฮร์รี่”
ริมฝีปากของปีเตอร์ยังคงคลอเคลียอยู่ไม่ห่างแม้แฮร์รี่จะพยายามเบี่ยงหน้าหนีเพียงไร
แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเพราะปีเตอร์ขังเค้าไว้ในอ้อกอดที่แข็งแรงแต่ทว่าอ่อนโยนนั้นอยู่ แต่กระนั้นแฮร์รี่ก็ยังพยายามใช้แขนดันหน้าอกที่ประดับด้วยแผลเป็นซึ่งเหมือนของเค้าให้ออกไป
“นายเคยสงสัยไหมว่านายเป็นใคร ตอนเด็กๆ
เคยทำอะไรโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวบ้างรึเปล่า?”
สีหน้าและน้ำเสียงของปีเตอร์กลับดูเหมือนกำลังสนุกที่ไล่ต้อนแฮร์รี่ได้ ร่างบางที่ผลักไสไม่เป็นผลก็ช้อนดวงตาสีฟ้าอัญมณีขึ้นไปมองเพื่อนใหม่ของเค้าอย่างไม่เข้าใจระคนตื่นกลัว
“นายกำลังจะบอกอะไรฉัน....”
เสียงแฮร์รี่แหบแผ่วและเล็กลงจนเจ้าตัวเองก็แปลกใจ
ปีเตอร์ทำเหมือนแสยะยิ้ม
แฮร์รี่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของปีเตอร์หลุดออกมา
“นายไม่ใช่คนที่นายคิดหรอกแฮร์รี่” ร่างสูงโปร่งพูด
และแฮร์รี่ก็ฉุนขาด....เค้าค่อนข้างอ่อนไหวในเรื่องนี้
“ส่วนนายก็เป็นโจร”
คนโดนกอดกระแทกเสียง........ปีเตอร์เป็นใครกัน
ที่จะมาบอกว่าเค้าเป็นคนนั้นคนนี้
แค่แฮร์รี่เองก็ยังไม่รู้ตัวเองเลย
ปีเตอร์ไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายเค้าในเรื่องนี้
ปีเตอร์ยิ้มอย่างชอบใจ เมื่อเห็นแววตาที่เริ่มแข็งกร้าวนั้นของแฮร์รี่
“นายก็เหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละ”
ร่างสูงพึมพำกับตัวเอง.....ราวกับว่าเค้ารู้จักร่างบางมาก่อน แฮร์รี่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ พาให้สีหน้าของเค้าดูอ่อนแรงยิ่งกว่าเดิม
“นายพูดว่าอะไรนะ.....เอ่อ
แต่ช่างมันเถอะ ปล่อยฉัน
และเลิกพูดถึงฉันแบบนั้นสักทีถึงฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครหรือพ่อแม่ชื่ออะไรก็ช่างมันเถอะ นายเป็นใครที่จะมาเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องของฉัน!”
แฮร์รี่ตะคอกแล้วได้ยินเสียงสวบสาบของหิมะที่ยุบตัว ร่างบางจบประโยคแล้วรีบหันรีหันขว้างในอ้อมกอดของปีเตอร์ที่กอดเค้าไม่ยอมปล่อยทันที
ส่วนร่างสูงโปร่งนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
โต้ตอบต่อเสียงสวบสาบทั้งสิ้น
เค้าเพียงแค่เหม่อมองออกไป
แล้วกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างติดจะเบื่อหน่ายเท่านั้น
แฮร์รี่ได้ยินเสียงปีเตอร์ถอนหายใจก่อนมีชายเกือบสิบคนโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มายืนตีแผ่เป็นวง
ล้อมรอบพวกเค้าอยู่
............คนพวกนั้นแต่งตัวแปลกๆ
เหมือนย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นานมาก.........
คนพวกนั้นไม่มีใครกระตุกกระดิกเลยสักคน มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่เอ่ยพูด
และท่าทางเค้าดูนอบน้อมมากกว่าที่จะมาหาเรื่อง
“ราชาปีเตอร์”
ชายคนนั้นเรียกและแฮร์รี่ก็มีสีหน้าตกใจ
ใบหน้าหวานบ่งบอกเลยว่าไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่มันเรื่องอะไรกันนี่!?
ปีเตอร์ไม่ได้ตอบกลับไปราวกับว่าชายด้านหลังของเค้าเรียกหาปีเตอร์คนอื่น ร่างสูงเพียงแค่ก้มหน้าลงมามองแฮร์รี่เท่านั้น
“พระองค์....สภาเรียกประชุมพะย่ะค่ะ”
มาคราวนี้ร่างสูงก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก แต่ดูท่าปีเตอร์จะเบื่อหน่ายมากกว่า
และในที่สุดเค้าก็ยอมปล่อยแฮร์รี่ที่ตามสถานการณ์ไม่ทันแล้วหันหลังกลับไปหาชายที่ดูสูงอายุกว่านิดหน่อย ปีเตอร์ปั้นหน้ายิ้ม
“ไง
ราฟา...มาตรงเวลาเหมือนเคยเลยนะ”
แต่ชายคนนั้นดูจริงจังกว่ามาก
“สภาเรียกประชุมเรื่องสำคัญพะย่ะยค่ะ
พวกเค้าพบ....”
“ข้ารู้แล้ว เรื่องนั้นข้ารู้แล้ว”
ปีเตอร์ขัดและตัดประโยคได้อย่างเฉียบขาด สรรพนามฟังดูเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่แอบสังเกต
สายตาของปีเตอร์ดูเปลี่ยนไปเป็นสุขุมและเด่นคมขึ้น ร่างสูงโปร่งคว้าแจ็คเก็ตของแฮร์รี่ขึ้นมาแล้วคลุมไว้รอบไหล่ขาวสีน้ำนมของเจ้าของตัวเล็ก
สีหน้าของแฮร์รี่นั้นเกิดคำถามมากมายและปีเตอร์ก็รู้ดี
“เค้าเก่งเรื่องขัดเวลาน่ะ
ไม่ต้องห่วงฉันจะบอกนายทุกอย่างเองเมื่อเราไปถึงที่นั่นแล้ว” ปีเตอร์ว่า
พลางกระชับแจ็คเก็ตให้เค้า รอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง
แฮร์รี่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
เมื่อปีเตอร์เดินออกห่างจากเค้าแล้วหันหลังเดินออกไป
“แล้วชายผู้นี้ล่ะพะย่ะค่ะ”
หนึ่งในองครักษ์ถาม
ร่างสูงโปร่งที่มีกางเกงติดกายเพียงตัวเดียวหยุดเท้า
แล้วผินหน้ากลับมาเพียงเล็กน้อย
“เค้ามากับข้า”
............เพียงเท่านั้น
เค้าก็พ่นใยออกไปแล้วโหนตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะหายไปในไม่ช้านั้นเอง
แฮร์รี่โลกเคว้งคว้าทันทีแม้เค้าจะเพิ่งฉุนขาดใส่ปีเตอร์ไปก็ตาม แต่แล้วในทันทีคนพวกนั้นก็พาแฮร์รี่ไปด้วยท่าทางสุภาพและนอบน้อม.....คนพวกนี้พ่นใยไม่ได้อย่างปีเตอร์
และไม่รวดเร็วเท่าดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
แต่แฮร์รี่ก็รู้ดีว่าพวกเค้าคือ ชาวเหมันต์
องครักษ์พาแฮร์รี่ขึ้นนกฮูกขาวตัวใหญ่ยักษ์บินไปทางเหนือ
ซึ่งตื่นตาตื่นใจแฮร์รี่เป็นอย่างมาก.......ที่นี่คงมีอีกหลายอย่างที่แฮร์รี่ไม่รู้ เค้าขาสั่นพอลงมาแม้จะมีคนค่อนรับไว้ก็ตาม
แฮร์รี่สวมแจ็คเก็ตนานแล้ว
ในขณะที่มีหญิงสาวหลายคนกรูเข้ามาหาเค้าแล้วฉุดลากฉุดดึงร่างของแฮร์รี่ไปแต่งตัว.....ใช่
ไม่มีใครพูดอะไรเลยนอกจากคำกล่าวยินดีและออดอ้อนของพวกเธอ ดูเหมือนเธอจะช่างประคบประงมเก่งจริงๆ
แม้จะถึงตอนที่ทานู่นทานี้ประทินผิวให้เค้า พวกเธอก็ยังพูดจาหว่านล้อมให้แฮร์รี่ยอมอย่างจนใจจนได้
............พวกเธอดูน่ากลัวแบบสดใสจริงๆ
..........
แฮร์รี่ที่ทำหน้าเหรอหราไม่เคยหยุด
อยู่ในชุดใหม่ที่สะอาดสะอาน
เสื้อเป็นผ้าเนื้อดีสีขาวขลิบด้วยด้ายเงินและลวดลายพาให้นึกถึงหนังฮอลลีวู้ดย้อนยุคเป็นอย่างมาก
แขนเสื้อยาวกรอมนิ้ว
และกางเกงสีเทากำมะหยี่แบบละเอียดพร้อมกับรองเท้าคู่ใหม่อีกด้วย
ร่างบางถูกทิ้งไว้ในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยม้านเนื้อดีทั้งหนาและดูหนักสีเข้มทั้งเขียว แดงเลือดหมู กรมทา และสีอื่นๆ มันโยงระย้าอยู่เหนือขึ้นไป
รวมทั้งกินพื้นที่ส่วนมากของหน้าตาสูงจากพื้นจรดเพดานอีกด้วย.........ดูเหมือนคนที่ตกแต่งโถงนี้คงจะชอบสีทึบๆ
และไม่ชอบแสงแดดเสียเท่าไร ด้านนอกหน้าต่างออกไปดูอึมครึมเหมือนส่วนนี้ของดินแดนดูไร้ชีวิตชีวา
ห้องเกือบมืดในขณะที่แฮร์รี่นั่งเกี่ยวนิ้วตัวเองอยู่บนเก้าอี้เบาะหุ้มกำมะหยี่สีเลือดหมู
เค้าไม่รู้ว่าปีเตอร์อยู่ที่ไหน........ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ายังรู้จักปีเตอร์อยู่อีกหรือเปล่า
แต่ที่นี่ดูเหมือนจะมีปีเตอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เค้าจะคุยด้วยได้ แต่ปีเตอร์อยู่ที่ไหน?
ข้างนอกหิมะเริ่มตกแล้ว และแฮร์รี่ก็คิดว่าเดินไปไหนมาไหนในโถงหน่อยคงจะไม่เป็นไร
เพราะคนพวกนั้นต้องการจะให้เค้ารออยู่ที่นี่นี่นา
แต่แล้วแฮร์รี่ก็เพิ่งรู้ว่ามันคือห้อง....ห้องใหญ่โต
มโหฬารห้องหนึ่ง ใช่
เหมือนจะเป็นห้องของใครคนหนึ่งที่ดูจะไม่ใส่ใจกับการตกแต่งห้องเป็นอย่างมาก มีเพียงเตียงขนาดใหญ่ โต๊ะเอกสารไร้กระดาษพร้อมเก้าอี้
และผ้าม่านระโยงรยางค์ทั้งห้องนั่นเท่านั้นที่แฮร์รี่สังเกตเห็น
ห้องของใครกันนี่?......แฮร์รี่คิด
ก่อนเสียงเปิดประตูบานใหญ่จรดเพดานห้องจะดังขึ้นก้องไปทั้งห้องมืดสลัว ร่างบางที่ยืนเกาะหน้าต่างสะดุ้ง
เค้าเห็นชายผู้ดันประตูเข้ามามีแสงสีขาวส่องอยู่ด้านหลังของเค้า
ก่อนปล่อยประตูให้ปิดลง
แล้วแสงไฟก็สว่างขึ้น
แฮร์รี่ดีใจแต่ตัวแข็ง
ปีเตอร์.......
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------
อิพีทททททททท แกเป็นอะไรน้าาาา.......อ๊บป่ะ! ไม่นะ คาดไม่ถึงเลย //ผั๊วะ! แววเสียงโดนโบก เขียนเองหวือหวาเองนะแก// เรื่องนี้ไรท์ยอมรับค่ะมันดูหลุดโลกและฝืนธรรมชาติของปีเตอร์ไปซะหน่อย
(ไม่ได้ว่านะปีเตอร์แค่กำลังจะบอกว่านายน่ะเหมาะกับลุคหาเช้ากินค่ำมากกว่า -_-“......//สักพักมีใยพ่นมาพันคอ)
แต่ว่าหนูแฮร์รี่นั้นเป็นคำสำคัญค่ะ จริงสิ
ถ้าไม่สำคัญปีเตอร์จะคลอเคลียทำไม
ฮาาาาา
ฮ๊ากกก แท้จริงแล้วแฮร์รี่จะเป็นใครแล้วปีเตอร์ใยจะต้องโกหกแฮร์รี่
(รึแฮร์รี่เองไม่ได้โกหกแค่ไม่ได้แสดงสูติบัตรเฉยๆ กันค่ะ 555+) //มุกฝืด สักพักโดนรีดตบ// Part หน้าเป็น Part
สุดท้ายแล้วค่ะ!!
ตอนจบจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ในบทสรุปของ Winter Wonderland.....มหัศจรรย์ แดนเหมันต์ ได้ใน Part ที่ 3
ได้เลยค่ะ >[]<!! ไรท์แต่งฟิคยาวไปๆ มาๆ ก็รู้สึกคิดถึงสองคนนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ
ยังไงไม่รู้ค่ะ ก็เลยกลายมาเป็น SF
- The Amazing Spider-Man2 เรื่องนี้นี่เองค่ะ อ่าาา นอกเรื่องเล็กน้อยเพื่อมาสนอง Need
ตัวเอง (เสร็จแล้วกลับไปยิกเรื่องที่ค้างไว้ต่อ)
ชอบหรือไม่กับการหากินใหม่ของปีเตอร์(?)
ก็ช่วยติชมแนะนำกันด้วยนะคะ ^^ รักรีดที่สุดในสามโลกเลยนะเออ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น