สวัสดีค่ะ โผล่มาแล้วค่ะ หลังจากที่ RonalSi แบบไม่ขั้นรายการเลย
-_-“ ต้องขอบคุณรีดที่ยังศรัทธาใน MaLec และตัวไรท์ค่ะ (รึเปล่า?!)
เน็ตจี้ใจที่สุดในสามโลกเลยค่ะ อืดมากกกกก
อืดไปอืดมา หลุดเลย -_-^ ไรท์มิรู้ว่าจะพูดคำใดดีแล้วค่ะ อยากจะชักดิ้นตายเสียให้ได้ตรงนี้ อย่ามัวแต่พูดเลยดีกว่านะคะ ไรท์ไร้สาระเป็นที่สุดอ่ะ
ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ ไรท์จิไม่ทิ้ง MaLec – หมอน้อง หรือใครทั้งนั้นค่ะ.......วางใจในไรท์ได้เลยค่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าอันสดใสของวันทำงานอีกวันหนึ่ง..........
แต่มีคนหนึ่งที่ดูไม่สดใสเท่าไร
“ไง ดินเนอร์สนุกไหม?”
“หุบปากไปเลย”
“ก็เห็นนายโทรมาอวด เป็นอะไรไปซะล่ะ”
คนพูดพลางหมุนหูแก้วกาแฟไปมา
สีหน้าเค้าดูงุนงง
แต่อีกคนหนึ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลับหน้าเบื่อโลก
“อดแ_ก”
จิมเกือบทำกาแฟหก
แต่กลั้นขำไว้ได้ทัน
เสียงของเค้าดูเหมือนโกลเดิ้นจามเอามากๆ
“อะไร! นายจะบอกว่าดินเนอร์กร่อยเหรอ”
จิมพยายามกลั้นยิ้มแต่เค้ากลับหัวเราะออกมา
เมื่อแม็กนัสมีสีหน้าเซ็งกว่าเดิม แล้วตวัดตาขึ้นมามองเค้าช้าๆ
“เปล่า” เสียงเรียบ
“ชวดงั้นเหรอ ห๊ะ?”
จิมยักคิ้วถาม
ดวงตาสีฟ้าสดใสของเค้ายังคงน่ามองเสมอ
แม็กนัสพยักหน้าแล้วเอ่ย “เออ ตรงตัวเลย”
จิมทำเสียงขึ้นจมูกแล้วเริ่มหัวเราะจนตัวงอ
“อะ ฮ่ะๆๆๆๆ......ฮ้า ฮ่าๆๆๆๆๆ”
คนทั้งร้านเริ่มหันมามองพวกเค้าแล้ว
แม็กนัสจึงพูด
“เคยตายไหมจิม...”
ไทบีเรียส เคิร์กพยายามหยุดขำแล้วทำได้สำเร็จในที่สุด
หลังจากปาดน้ำตาตัวเองออกไป
“ขอบคุณ” แม็กนัสงึมงำ คอตกมากกว่าเดิม จิมยิ้มแล้วหลุดขำอีก
เค้าไม่เคยเก่งเลยเรื่องกลั้นขำกับท่าทางห่อเหี่ยวของเพื่อนเลย........ไม่ใช่ว่าชอบซ้ำเติมนะ
แต่เจมส์ ที. เคิร์กคนนี้เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ
แม็กนัสมองโต๊ะ
แล้วขวดคิ้วจมดิ่งสู่โลกมืด
จนเพื่อนฝั่งตรงข้ามเริ่มเห็นใจนิดๆ
“โถ่ๆๆ.....ไม่เอาน่าพวก เธออาจจะมีคิวด่วนก็ได้ใครจะไปรู้”
จิมตบบ่าแม็กนัสข้ามโต๊ะ
“อยู่ๆ
ก็ไปกะทันหันเนี่ยนะ........เราตกลงกันไว้แล้วว่าจะช่วยกันเตรียมดินเนอร์แล้วดินเนอร์ด้วยกันสองคนจนถึงเช้า”
“นั่นเค้าไม่เรียกว่าดินเนอร์แล้วแม็กส์ เค้าเรียกว่าค้างคืนเฟ้ย......นายจะดินเนอร์แล้วต่อด้วยมื้อเช้าของอีกวันโดยไม่นอนเลยรึไง”
จิมเอ่ยเสียงหน่วงๆ แต่ในใจอยากซ้ำเติมเต็มที
“หึ แล้วเธอบอกนายว่าไงล่ะ”
กัปตันผมทองขยับตัวนิดหน่อยเพื่อให้เข้าที่เข้าทาง
แล้วใช้นิ้วเกี่ยวหูแก้วกาแฟขึ้นมาจ่อปากอีกครั้ง
“ผู้จัดการเธอบอกว่ามีเรื่องด่วน ต้องให้เธอไปเดี๋ยวนี้
แต่เธอมีนัดกับฉันผู้จัดการเอลซ่าเลยตัดสินใจโทรมายกเลิกของนัดเธอกับฉันแทนน่ะ”
พอมาถึงตรงนี้แล้วแม็กนัสหมดอารมณ์พูดโดยสิ้นเชิง
จิมดื่มกาแฟเข้าไปแล้วทำเสียงสูง
“โธ่ ฉันเข้าใจเพื่อน มันแย่มาก”
“นายโกหกใช่ไหม”
ร่างสูงสะโอดสะองแต่ห่อเหี่ยวคาดโทษ
“ม่ายย ม่าย
ไม่....ฉันเปล่านะพวก
สป็อคเคยบอกว่ามันแย่ และอะไรที่มันแย่ๆ
ฉันจะไม่ทำมันเด็ดขาดโดยเฉพาะกับเพื่อนของฉัน
“ซ้ำเติมคนอื่นมันไม่ดีนะจิม”
สป็อคเค้าบอกว่าอย่างนั้นน่ะ” ทีนี่จิมยิ้มแป้นพร้อมกับกอดอกอย่างภาคภูมิใจในคำสอนของแฟนตัวเอง
“แต่ฉันยังไม่ได้พูดคำว่าซ้ำเติมเลยนะ นายร้อนตัวไปเองรึเปล่า” แม็กนัสพูด
จิมยิ้มทะเล้น แล้วอ่านสีหน้าแม็กนัสออกว่า “ไปตายซะ”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มแย่แล้วทั้งแม็กนัสที่จะโดนเค้าซ้ำเติมจนจมดิน และเค้าเองที่จะโดนแม็กนัสกระทืบจนจมโลง กัปตันนามว่าจิมมี่ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย
“โอเค
พูดไว้แค่นั้นพอ......แล้วพ่อเด็กเสิร์ฟหนุ่มน้อยของนายล่ะ”
ดวงตาสีฟ้าสดใสของจิมเปล่งประกาย
แต่แม็กนัสไม่เล่นด้วย
“นายหมายถึงใคร”
น้ำเสียงเค้าห้วนเมื่อพูดออกมา
แต่จิมยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่คนที่เริ่มอารมณ์เสียนิดๆ
“ก็......เด็กคนนั้นไง
คนที่เรียนกับนายมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดน่ะ
เค้าชื่ออะไรนะ.....อ๋อ ใช่ อเล็ค
อเล็ค ไลต์วู้ท ไง”
แววตาจิมเป็นประกายอีกครั้งเมื่อพูดถึงชื่ออเล็ค
แต่แม็กนัสกลับขมวดคิ้วแน่น แล้วพิงหลังกับเก้าอี้เมื่อจิมกำลังจะเปิดหัวข้อคุยที่เค้าไม่อยากพูดด้วยเสียเท่าไหร่
จิมยังคงยิ้มและยักไหล่ใส่เค้า
“อะไร ทำหน้างั้นหมายความว่าไง นายไม่ชอบเค้างั้นเหรอ
ตอนที่เรียนกับฉันเห็นนายเล่าถึงเค้าบ่อยๆ หนิ
เค้าดูน่ารักมากเลยนะ”
“แต่ไม่ใช่กับฉันพวก” แม็กนัสหลบตาเพื่อนข้างหน้า
ร่างสูงรู้สึกได้ว่าเค้าเหม่อไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อพูดถึงอเล็ค.........เสียงสะอื้น ตัวสั่นเทา
และท่าทางของอเล็ควันนั้นทำให้เค้ารู้แปลกๆ เหมือนเผลอๆ
อยู่ก็คิดถึงเรื่องนี้เสียแล้ว
และหลายครั้งที่เค้าพบว่าตัวเองเสียสมาธิไปเพราะคิดถึงอเล็ค
“อู่ว์.....ช่ายย ฉันจำได้ล่ะ” ชายผมสีทองกอดอกแล้วพยักหน้า จิมเชิดหน้าขึ้นแล้วหรี่ตามองแม็กนัส
“อะไร” แม็กนัสผายมือเป็นเชิงถาม
น้ำเสียงเค้าฟังดูรำคาญจิมอยู่ไม่น้อย
“ก็
เด็กคนนี้ไงที่แอบชอบนายมาตั้งแต่เรียนไฮสคูลน่ะ
แต่น่าเสียดายที่นายปากแข็งไปหน่อยนะแม็กส์....ไม่ตอบรับเค้าไปน่ะ”
แม็กนัสเหลือกตาใส่ “พ่อแกตายสิจิม คิดอย่างอื่นไม่เป็นแล้วรึไง”
“ฮ่าๆๆๆ
ยอๆ....ไม่เอาน่าแม็กส์
นายก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้เกลียดเด็กคนนั้น แล้วจะเลี่ยงไม่พูดถึงทำไมกัน”
“ฉันเปล่าเลี่ยง และอีกอย่างเค้าไม่ใช่เด็กแล้วด้วย.....ห่างกันสองปีไม่นับเว้ย”
“อ่อเหรอ
สองปีเหรอ.....แต่นายดูแก่ฉิบเป๋งเลยหนิพวก มีใครบอกนายให้ไปโกนหนวดบ้างไหม ฉันนึกว่าโจรเถอะ” จิมเหน็บ เพราเค้าไว้หนวดบางๆ ไม่ดูดีเท่าแม็กนัส แต่กระนั้นจิมก็ไม่พิศวาสการไว้หนวดเสียเท่าไหร่
“โจรบ้านนายเหรอเป็นนายแบบน่ะห๊ะ
ให้ตายนายหุบปากสักทีเถอะจิม คิดๆ
ดูแล้วฉันไม่น่าชวนนายมานี่เลย”
“ทำไม นายไม่ชอบให้ฉันพูดถึงเค้าเหรอ....อเล็คน่ะ เค้าชอบนายนะ”
“ใช่ แต่ฉันมีแฟนแล้วนะ และอีกอย่างฉันก็ไม่ได้ชอบเค้าด้วย”
“เดี๋ยว....เดี๋ยวนะ ถ้านายไม่ได้ชอบเค้านายจะทำเหมือนแคร์เค้าทำไมพวก แล้วร้านประจำของนายก็เป็นร้านที่เค้าทำงานอยู่ ถ้านายบอกว่าเฉยๆ กับอเล็คฉันยังพอเชื่อ แต่ที่นายบอกว่าไม่ชอบนี่
หมดสิทธิ์ที่จะได้ความเชื่อถือจากฉันไปได้เลย.....ไอ้ขี้โม้”
“ฉันเปล่า”
“เปล่าอะไร ฉันเห็นนายเหม่อ
แถมมองหาใครบางคนมาตั้งแต่เข้าร้านสั่งออเดอร์มาแล้ว....ไอ้ปากแข็ง”
“ไอ้ปากแกว่งหาเท้า
ฉันปวดหูชะมัดเวลาคุยกับนาย.....เงียบเสียทีเถอะ” แม็กนัสเริ่มยอมแพ้ เค้าพูดไม่ทันจิมทุกครั้ง บางครั้งเพื่อนร่างสูงก็แอบสงสัยว่ามันกินอะไรมาเป็นมื้อเช้า
จิมเงียบแต่ทำหน้าไม่พอใส่แม็กนัสเมื่อได้ที เค้าพึมพำกับตัวเอง
“ตกลงนายนัดฉันมาจะคุยเรื่องอะไรกันแน่ฟะเนี่ย”
กัปตันผมทองเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว
เมื่อหัวข้อที่เค้าหัวเราะเยาะเพื่อนมาตั้งแต่แรก
แม็กนัสเอนหลังพิงกับพนักบุนวมค่อนข้างแรงและเซ็งจัด
“ฉันแค่อยากหาเพื่อนคุยน่ะ” แม็กนัสยอมสารภาพแต่โดยดี เพื่อนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูชะงักเล็กน้อย
ก่อนจะจิมแล้วตบไหล่เพื่อนเบาๆ ข้ามโต๊ะ
“ถ้านายสบายใจก็ได้เสมอเลยเพื่อน เฮ้ ไม่เอาน่าแม็กส์
เลิกทำหน้าบูดสักทีเหอะน่า”
แต่แม็กนัสก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ดีขึ้นเสียเท่าไร
ดวงตาสีฟ้าสุกใสของกัปตันเคิร์กกลิ้งกลอกไปมา
ก่อนจะพูโออกมาเนื่องๆ “นายอยากคุยกับฉันเพราะเซ็งที่ชวดดินเนอร์กับเอลซ่า
หรือว่าเพราะอย่างอื่นกันแน่เพื่อน”
ถึงจิมจะไม่รู้ว่าเรื่องที่ทำให้แม็กนัส เบน เพื่อนเค้าไม่สบายใจคืออะไร แต่มันก็คงจะไม่ใช่เพราะเรื่องของแฟนสาวของอีกฝ่ายแน่ๆ
เจมส์ ที. เคิร์กมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แม็กนัสมองขอบโต๊ะดูเหมือนเหม่อลอย แต่ไม่ใช่เลย
เค้าแค่กำลังคิด..........เรื่องอะไรกัน อย่างที่จิมว่า และใช่
เรื่องของเอลซ่าไม่ได้เข้ามาก่อความวุ่นวายในใจเค้ามากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เค้าต้องเอาแต่เขม็นตามองขอบโต๊ะอย่างครุ่นคิดนี่สิมันคืออะไรกัน?
แม็กนัสถอนหายใจ เค้ารู้สึกปวดหัวกับวันสบายๆ
กับเพื่อนซี้ซะแล้ว
“ไม่รู้สิเพื่อน ฉันเองก็ไม่แน่ใจตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรแน่ที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้”
แม็กนัสถอนหายใจอีกรอบ แต่คราวนี้ไหล่เค้าตกลงมาตามการปล่อยลมหายใจด้วย
“.....มันทำให้หัวสมองฉันเคร่งตลอดเวลาเลย บ้าชะมัด
ฉันต้องเป็นไมเกรนเพราะเรื่องที่ตัวเองคิดอยู่แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ๆ”
แม็กนัสนวดหว่างคิ้วเบาๆ
.......................และร่างสูงก็ไม่อาจรู้เลย
ว่าหัวใจเค้าเอาแต่คิดวนเวียนวกวนเรื่องความรู้สึกของอเล็ค
ในวันที่เค้าทำร้ายความรู้สึกของอเล็คลงไปอย่างร้ายกาจจนตัวแม็กนัสเองก็ไม่อาจคาดคิดถึงผลที่จะตามมา
มันมากมายมาก
จนแม็กนัสเองที่ไม่รู้ถึงผลของการกระทำของตัวเองยังต้องรู้สึกเหมือนสะกิดแปล็บๆ
ที่หัวใจ
ตั้งแต่เข้าร้านมาสายของเค้าก็เฝ้ามองหาแต่อเล็ค
ตามสัญชาติญาณที่คอยห่วงครั้งเมื่อยังเด็กของเค้า
ทำให้ร่างสูงอยากรู้ความเป็นไปของร่างบางโดยอัติโนมัติ...............
อเล็คเป็นอย่างไรบ้างหนอ?
หัวใจเค้าพร่ำโหยหา.....โดยที่แม็กนัสเองก็ไม่รู้เลย
และยิ่งไม่รู้ว่าเหตุใดจึงทำให้เค้ากังวลมากเช่นนี้
ร่างสูงก็เลยรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
แม็กนัสส่ายหน้าไล่ความว้าวุ่นของตัวเองออกไป
แล้วหันมาพูดกับจิมเสียงกลับมาติดจะเคร่งเครียดเป็นแม็กนัสคนเดิมที่ชอบพูดประชดประชดใส่จิมอีกครั้ง
“ฉันว่าวันนี้ฉันไปมุดหัวนอนอยู่ที่ห้องดีกว่า”
“อ้าว ซะงั้นน่ะ
ชวนฉันออกมาแล้วก็
แค่เนี่ย....ฉันยังไม่ได้คุยอะไรเลยนะ” จิมทำหน้าเหรอหราติดจะไม่พอใจนิดๆ
“พอเลย แค่นี้นายก็พูดซะจนฉันจำไม่ได้แล้ว” แม็กนัสทำหน้ารังเกียจ
“เออ! ไอ้คนพูดน้อย”
จิมมองกลับมาทำหน้ารังเกียจยิ่งกว่าปนถากถางนิดๆ
แม็กนัสกับจิมแยกกันในร้าน เพื่อนกัปตันตาฟ้าเดินออกมาก่อนดูท่าทางชิวล์ๆ
และควงกุญแจรถไปด้วย
แต่แม็กนัสออกไปช้ากว่านั้น ร่างสูงยืดตัวแล้วลุกขึ้นช้าๆ
อย่างอ้อยอิ่ง...........เค้าไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังหวังว่าจะได้เห็นอเล็คกระทั่งเดินออกจากร้านไป..........และแม็กนัสก็คิดว่าคงจะไม่ได้เจอแล้ว
แต่แล้วก่อนออกจากร้าน
แม็กนัสก็เจอเจซที่ไปรับออเดอร์เดินสวนกับเค้า
ร่างสูงโปร่งผมบล์อดเดินสวนใกล้กันกับแม็กนัสมากๆ
และเจซก็ชนไหล่แม็กนัส
ร่างสูงของนายแบบหันมาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะขอโทษหรือหาเรื่องกันแน่
แต่สุท้ายแล้วเค้าก็ไม่ได้ทำมันทั้งสองอย่างเพราะเจซมองหน้าเค้าแทบกินเลือดกินเนื้อ
..............นั่นดูน่ากลัวไปหน่อย
สำหรับเด็กเสิร์ฟนะ.............
แม็กนัส เบนมองเจซที่เดินผ่านไปแล้วนิ่ง รู้สึกงงอยู่ไม่น้อยที่คนซึ่งเค้าไม่รู้จัก
(แต่อเล็คน่าจะรู้จักดี) อยู่ๆ ก็มองเค้าแบบนั้น
ร่างสูงไม่ติดใจมากนักและเลิกคิดถึงสีหน้าของเจซไปแล้วเมื่อตอนที่เค้าขึ้นรถกลับคอนโดไป และพอไปถึงแม็กนัสก็หลับเป็นตาย
ใช่ ถ้าเค้าคิดจะหลับจริงๆ น่ะนะ แต่เรื่องน่าปวดหัวก็ทำเค้าตาค้างอยู่นานพอสมควร.........มันกลับมาเล่นงานเค้าอีกครั้ง
หลายวันแล้ว
ที่อเล็คไม่ได้มาเคาะประตูหน้าห้องเค้า
ไม่ได้เอากาแฟที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหนมาให้เค้า
และเค้าก็ไม่ได้คุยกับอเล็คนานแล้ว.............
อเล็ค........และในที่สุด
ร่างสูงเปลือยครึ่งท่อนที่นอนพลิกไปพลิกมา
และแผ่หราอยู่บนเตียงก็มีเสียงก้องเข้ามาในหัวอย่างแรงกล้า
แม็กนัสคิดถึงอเล็ค
“เฮ้ย บ้าแล้ว
อยู่ๆ ก็......อะไรของนายว่ะแม็กนัส” ร่างสูงสะดุ้งน้อยๆ
ก่อนจะพึมพำบอกตัวเองว่าไม่ควรทำเช่นนั้น
..............เค้าต้องทำให้อเล็คออกห่างเค้าสิถึงจะถูก
และเรื่องง่ายๆ ที่ควรทำก็คือไม่ควรไปนึกถึงอเล็ค
เพราะว่าเค้าไม่ใช่ตอนเด็กๆ แล้วที่ต้องคอยดูแลอเล็คตลอดเหมือนพี่ชาย และอเล็คก็เอาแต่คิดว่ามีเค้าคอยดูแลอยู่ตลอด มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ไม่ใช่...............
แต่แล้วทำไม
แม็กนัสถึงเลิกคิดถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาครั้งนั้นของอเล็คไม่ได้นะ?
ร่างสูงผิวสีแทนเอเชียที่นอนอยู่บนที่นอนซึ่งยับย่นไปหมดแล้ว
เกาหลังคอตัวเองแรงๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเปิดทีวีดูจนถึงโต้รุ่งไปเลย
.
.
.
TBC.
-------------------------------------------------------------------------------------------
อ๊ากกกกก พ่อแม็กนัสสสสส
พ่อความเผือกกก เอ้ย!
ไม่ใช่สิ ความปรกติน่ะถูกแล้วเพราะพ่อสีผิวออกจะเซ็กซี่ อ่ะๆๆ ไรท์ให้เป็นความช็อคโกแล็ตก็ได้ค่ะ.....น่ากินดี พอแล้วแกนอกเรื่อง -_-*
แต่อ่าน Part นี้แล้วคิดถึงสป็อคเคิร์กนะคะ
v
“ม่ายย ม่าย ไม่....ฉันเปล่านะพวก สป็อคเคยบอกว่ามันแย่ และอะไรที่มันแย่ๆ
ฉันจะไม่ทำมันเด็ดขาดโดยเฉพาะกับเพื่อนของฉัน
“ซ้ำเติมคนอื่นมันไม่ดีนะจิม” สป็อคเค้าบอกว่าอย่างนั้นน่ะ”
ทีนี่จิมยิ้มแป้นพร้อมกับกอดอกอย่างภาคภูมิใจในคำสอนของแฟนตัวเอง
^
ด้วยประการฉะนี้แล.....ใบหน้าของชายป็อคเด้งขึ้นมาพร้อมนุ้งจิมที่ทำตากะลิ้มกะเลี่ยเลยค่า
ฮาาาา //เฮ้ย นี่ MaLec!! //
คิดถึ๊งงงงง คิดถึง......เดี๋ยวว่างๆ
ไรท์จะแวะไปหานะค่ะ สป็อคเคิร์ก! >///<
//สักพักโดนตีแซกหน้า....หมอน้องแกก็ยังไม่คืบ//
อะเฮือออ คือไรท์กะลังเคลียร์ค่ะ TUT ............เคลียร์ยาวเลยยยยยย ปิดเทอมนี้ต้องปั่นแหลกแน่เลยนะเออ
//บอกตัวเองในใจเอ็งอย่าสนใจสิ่งใด
ให้สนใจในอนาคตและฟิคก็พอแล้ว//
และสำหรับท่านใดที่เพิ่งแวะมาหรือมานานแล้วก้เข้าไปแกะกระแสการลงฟิคของไรท์ได้เลยค่ะ
ที่
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสไรท์เองค่ะ จิ้มเลย! ยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ
สำหรับ Part นี้ก็ขอขอบคุณแฟนๆ
MaLec ทุกท่านที่อุตส่าห์ติดตามค่ะ ถึงแม้จะช้าหน่อยแต่ก็ขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ M_ _M .........รักสุดหัวใจนะเออ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น