วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[SF - RonalSi] + [Part 2] The Storm...พายุโหมกระหน่ำ – Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 1]


อูว๊าวววววววววว!! //เสียงลิงโลดมากก// ตื่นเต้นค่ะ.....ไม่รู้ว่าที่ผ่านมารีดคิดเช่นไรนะค่ะ  แต่ Part นี้ไรท์จะอุดไว้ค่ะ ให้ไปอ่านกันเอง (เอ๊า!)  และไรท์จะเฉลยแล้วว่าใครเป็นคนมาดักทางของน้องเหมียวค่ะ [เออ....อันที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้นะ -_-“]  อิๆ ไปอ่านกันเลยดีว่าค่ะ  ลงฟิคสั่งลาปิดเทอมอันแสนสุข กับฟิค หลายต่อหลายเรื่องที่ไรท์บรรเลงมาจนร่วมเดือน TT^TT แล้วเรื่องวุ่นวายก็จะประเดประดังเข้ามาหาเราค่ะ

ถึงแม้ไรท์จะหายหน้าไป แต่รีดทั้งหลายก็ยังอยู่ในหัวใจไรท์เสมอค่ะ T^T ตอนที่ทำงานไรท์จะคิดถึงคอมเม้นท์ของรีดทุกท่านเพื่อเป็นกำลังใจค่ะ (เดี๋ยว...เกี่ยวกันไหม?) และถ้าใครคิดถึงหรืออยากติดตามความเคลื่อนไหวของฟิคต่างๆ ว่าไปถึงไหนแล้วก็มาเป็นเพื่อนกะไรท์ได้เลยค่ะที่

>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มโลดดดด >{}<......จิ้มเสร็จแล้วเราก็ไปอ่านฟิคกันเล้ยค่าาาาา >{}< เฉลยกันว่าใครฉุดน้องเหมียววววว


--------------------------------------------------------------------------------------------------


“นายกำลังจะกลับบ้านงั้นหรือ?”


******************************************************************************


เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกอย่างไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี  มือของเค้าทั้งสองเกาะอยู่บนหัวเข่าที่สั่นเทาน้อยๆ และดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนก็ฉายแววสั่นระริกออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ชายหนุ่มที่ถามเค้าไม่ว่ากระไรและดวงตาสีเฉดเดียวกันก็ราบเรียบราวกับจะไม่ต้องการบอกอะไร  เพียงแต่ผินหน้ากลับไปหาเพื่อนทั้งสองที่ยืนคอยอยู่เล็กน้อยเท่านั้น  และแทบจะในทันทีที่เมสซี่อยากจะลุกขึ้นแล้วหมุนตัววิ่งหนีไป  เมื่อชายหนุ่มสองคนนั้นปรี่เข้ามาหิ้วปีกของเค้าคนละข้างและล็อคไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก  เมสซี่ถูกยกลอยขึ้นจากพื้นแล้วถูกหิ้วเข้าไปในตรอกทิ้งขยะข้างๆ  เด็กน้อยดิ้นไปมาอย่างไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

ปล่อย!  ปล่อยผมนะ!  พวกคุณจะทำอะไร  ปล่อยผมลงเถอะ!........พี่ พี่ช่วยผมด้วยพวกเค้าจะ......อึก ปล่อยผมเถอะได้โปรด......” เด็กหนุ่มตะโกนลั่นอย่างเสียขวัญและเค้าคิดว่าคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกันกับเค้าอาจจะไม่ได้ยิน   แต่ไม่ใช่เลย คนๆ นั้นได้ยินแต่กลับเฉย.............

“ไม่  อย่าทำผม  อย่าทำผมเลย......” เค้าเบะปากแล้วทำหน้าเจ็บปวดทันที เมื่อหลังของเค้าถูกกระแทกเข้ากับกำแพงของตรอกทิ้งขยะ........เด็กหนุ่มรู้สึกหมดแรงและมือไม้อ่อน เพราะเค้ากำลังกลัว.......

..............กลัวเอามากๆ.............

ดูแล้วเค้าก็คงจะทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ นั่นแหละ.........แต่เมสซี่ก็ยังคงภาวนาขอให้นี่เป็นเพียงการล้อเล่นแบบสนุกๆ เท่านั้น  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย...........

เด็กหนุ่มน้ำตาคลอแล้วกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเค้าคิดว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้  แต่เมื่อชายหนุ่มคนเดินที่เริ่มต้นประโยคกับเค้าเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเมสซี่ก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งปล่อยเค้าไปให้ได้

“ช่วยบอกเค้าทีว่าให้ปล่อยผมไป  ผม....ผมไม่อะไรติดตัวมาจริงๆ ยกเว้นเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วก็บอล  ปล่อยผมไปเถอะ  แล้วผมสัญญาว่าผมจะเงียบ...ไม่บอกใครทั้งนั้น  นะฮะ....” ไหล่เล็กสั่นหนักขึ้น แล้วเด็กหนุ่มก็เริ่มสะอื้นเพราะรู้สึกเหมือนเข้าตาจน

ชายหนุ่มสองคนยอมปล่อยแขนอันอ่อนแรงของเมสซี่ลงแล้วให้คนที่มาใหม่รับช่วงต่อแทน  บุคคลที่สามรับแขนเล็กไว้แล้วช่วยสอดมือเข้าไปใต้รักแร้ของเด็กน้อยเพื่อช่วยพยุงร่างอันปวกเปียกเอาไว้

สายตาคมมองสำรวจราวกับเลือกสินค้า เค้าส่ายหน้าขณะเบนสายตาไปมา “ไม่....ฉันไม่อยากได้อะไรหรอก”

เมสซี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วยกมือขึ้นเช็ดหางตาที่เริ่มชื้น “จะปล่อยผมไปแล้วใช่ไหมครับ”

“แต่ฉันก็ไม่ได้บอกหนิว่าจะปล่อยนายไปน่ะ” แล้วดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแต่ทว่าแข็งกร้าวนั้นก็ตวัดขึ้นมองเมสซี่ จนทำให้คนถูกมองขวัญหนีดีฝ่อไปเลย  และเมื่อเห็นท่าไม่ดีว่าเค้าคงจะไม่รอดไปได้แน่แล้ว  ร่างเล็กจึงตัดสินใจรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายดิ้นสุดชีวิต เค้าปัดมือที่พยุงเค้าออกพร้อมกับออกแรงดันอกของคนที่อยู่ตรงหน้าให้ออกไป

แต่ร่างสูงกว่ากลับรวบตัวเค้าไว้แล้วเหวี่ยงเค้ากลับไปที่เดิม ก่อนจะกระแทกหมัดใส่ท้องน้อยของเมสซี่เข้าไปอย่างแรง  ร่างเล็กชาดิกและงอตัวลงไปกองกับพื้น  เมสซี่ร้องไห้ออกมาในที่สุด

“อย่าทำผม.....อึก อย่า...ได้โปรด ฮืออ” เด็กน้อยเอ่ยออกมาอย่างหวาดกลัวและหมดแรง  แต่กระนั้นก็ยังไม่ลดละความพยายาม

ชายหนุ่มคนเดิมทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นแล้วดึงเมสซี่ขึ้นมาให้พิงกับกำแพงอิฐสกปรก  เพื่อนอีกสองคนของเค้าทุบกำปั้นกับฝ่ามือแล้วเดินเข้ามาเตรียมจะอัดเด็กที่ไร้ทางสู้อย่างเต็มที่

“พวกนายไม่ต้อง!” แต่แล้วชายผู้มีดวงตาสีน้ำตาลก็พูดขึ้นเสียงดัง  สองคนนั้นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้น

“ก็ไหนนายบอกว่าจะบีบให้เจ้าเด็กนี้ออกจากชมรมไงล่ะ....ก็ต้องอัดสิ” ชายคนที่ใส่หมวกเป๋ไปด้านข้างพูดพลางทำท่าเดิมอีกครั้ง

“ใช่....หรือนายเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาล่ะคุณโรนัลโด้” ชายคนที่ใส่หมวกกลับด้านพูดเสริมพลางทำเสียงล้อเลียน แล้วเหล่ตาไปหาคนที่นั่งทำตาขว้างอยู่ข้างล่าง

“ฉันไม่ได้บอกให้พวกแกมาอัดเด็กคนนี้  แค่บอกว่ามากับฉันก็พอ” ร่างสูงที่มีท่านั่ง 160 เซนฯ พูดเสียงดุดันก่อนจะจับข้อมือของเมสซี่ขึ้นกดไว้กับกำแพง  สีหน้าของโรนัลโด้ตอนนี้เมสซี่อ่านไม่ออก

............ใช่  ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำแบบนี้  ที่บอกว่าจะบีบให้ออกจากชมรมน่ะมันหมายความว่ายังไงกันแน่  เค้าก็ไม่เคยทำตัวไม่ดีให้โรนัลโด้ต้องรู้สึกว่าเป็นภาระนี่นา แล้วทำไมถึง..........

เมสซี่สะอื้นฮั่กอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ทั้งรู้สึกเสียขวัญที่โดนกระทำและความรู้สึกเสียใจที่ไม่ด้อยไม่น้อยไปกว่ากันเลย........ประธานชมรมฟุตบอลกำลังไล่เค้าออกด้วยการกระทำที่ใครๆ ก็ต่างนึกไม่ถึง

โรนัลโด้จ้องมองร่างน้อยๆ ที่สะอื้นน้อยๆ อยู่นานจนเพื่อนที่อยู่ข้างหลังเกิดสังหรณ์ใจบางอย่างขึ้นมา “เฮ้ คริส......นายคิดจะทำอะไรเหรอเพื่อน” ว่าพลางสะกิดเพื่อนที่อยู่ข้างๆ  อีกคนหนึ่งทำหน้าเลิกลั่กแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

“เออ....ใช่ๆ นายไม่ได้บอกเราเลยนะว่านายกะจะทำอะไร  ถ้าให้ฉันออกความคิดเห็นฉันว่าอัดมันดีกว่า ท่าทางหงิมๆ อย่างเงี่ยเจ็บนักเจ็บเบาก็ไม่กล้าบอกพวกผู้ใหญ่แน่นอน...”

“ฉันไม่ได้ถามได้แก!  หุบปากไปเลย....ทั้งคู่นั่นแหละ!” เสียงเข้มตวาดลั่น  รู้สึกปวดหัวตุ้บๆ ด้วยความโกรธ.........เค้ารำคาญเสียงพล่ามของเจ้าสองคนนี้เต็มทีแล้ว

และเสียงตวาดลั่นนั่นก็ได้ผล ฝาแฝดฮิบฮอบก็ถึงกับหุบปากกันแทบไม่ทันด้วยความกลัวกันเลยทีเดียว แล้วพากันถอยหลังไปคนละสองสามก้าว

ส่วนร่างสูงแกร่งที่สงบปากสงบคำคนติดตามได้สำเร็จ ก็หันกลับมาประจันหน้ากับเด็กที่อายุน้อยกว่าเช่นเดิม  แต่ทว่าแววตานั้นกลับดูเปลี่ยนไป.........เป็นวาวโรจน์ด้วยแรงอารมณ์.............

เสียงร้องไห้หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากสีฉ่ำ “อึก...อือ ฮืออ ฮึก..”

“หยุดร้องไห้สักที......” โรนัลโด้ว่า ก่อนจะก้มหน้าลงไปสัมผัสกลิ่นซอกคอหอมๆ ของเมสซี่ท่ามกลางความตื่นตกใจของเจ้าของต้นคอขาว  โรนัลโด้เพิ่งทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเด็กหนุ่มลงไป ด้วยการสูดและดูดเม้นลำคอขาวเนียนนุ่มนิ่มสีน้ำนมนั้นอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่อยู่ตรงนั้นเลย

เมสซี่หดคอหนี  พยายามสะบัดตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมอย่างตื่นตระหนก  แต่ก็หาได้เกิดประโยชน์อะไรไม่  หนำซ้ำร่างสูงของรุ่นพี่ก็ยิ่งลงฟันคมๆ ขบไปที่บ่าเล็กนั้นเพื่อสั่งสอนอีกต่างหาก

“อึก ฮึก...โอ๊ย! ปล่อยผม...ฮือ....ปล่อยผม!” หนุ่มน้อยหลับตาปี๋ พยายามเอี้ยวคอให้ออกห่างจากอีกคนหนึ่งมากที่สุดแต่เค้าคงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในการควบคุมของร่างสูงอยู่  เมสซี่ดิ้นพลาดและร้องไห้ไม่หยุด

..............เค้าทั้งกลัวทั้งรู้สึกตระหนักจนตัวสั่น............

แผ่นหลังกว้างทาบทับจนมิดตัวของเด็กน้อย  ชายหนุ่มฮิบฮอบเห็นเพียงแต่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเมสซี่เท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา.........เด็กคนนั้นดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย

ชายหนุ่มหมวกเป๋เริ่มมีสีหน้าเลิกลั่ก ในขณะที่มองออกไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง เค้าพูดเสียงตื่นกลัว “เฮ้ย....จะเอาตรงนี้เลยเหรอว่ะ  เอาจริงดิ!?” อีกคนหนึ่งมีท่าทางปอดแหกไม่แพ้กัน

............ก็ที่ไอ้เพื่อนจอมบึ้กมันบอกมาก็แค่ให้มาขู่เด็กเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ? ไม่เห็นบอกเลยว่าจะให้มาเป็นสักขีพยานในการปล้ำเด็กที่ตรอกทิ้งขยะครั้งแรกของมันเนี่ยยยย!!..........

“เฮ้ย! ถ้าเรื่องถึงหูผู้ใหญ่ขึ้นมา ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งกันไปทั้งรัฐเลยนะเว้ย.......ฉะ ฉะ ฉันไม่เอาด้วยแล้วนะ.......ปะ ไปดีกว่าา” หนุ่มฮิบฮอบอีกคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะกำคอเสื้อเพื่อนฝาแผดให้ถอยออกห่างจากจุดที่เพื่อนร่างสูงผู้โมโหร้าย กำลังดึงคอเสื้อกล้ามของเด็กหนุ่มให้กว้างขึ้นจนมันแทบจะฉีกขาดออกจากกัน

เสียงเมสซี่ผู้น่าสงสารยังคงดังไล่หลังตามชายหนุ่มผู้หวาดกลัวความผิดจนหัวหดนั้นไปจนถึงปลายทางอีกฝั่งหนึ่ง  และฝาแฝดฮิบฮอบก็รีบวิ่งแจ้นกลับบ้านไปและเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่พูดไม่จากับใครเลยตลอดทั้งสุดสัปดาห์นั้น

“อย่า! ไม่เอา ได้โปรด...อย่าทำผมเลย ฮึก!...ฮืออ” ร่างน้อยของเมสซี่ยังคงถูกกดตรึงไว้แน่นกับกำแพงของตรอกทิ้งขยะ  และร่างสูงของรุ่นพี่ก็ไม่มีทีท่าวางจะคลายแรงลงแต่อย่างใด จนทำให้ข้อมือน้อยๆ นั้นครูดกับกำแพงอิฐจนเป็นรอยแดงช้ำและซิบเลือด

โรนัลโด้ยังคงไล่ลิ้นไปทั่วทั้งบริเวณซอกคอขาวและเนินอกไร้ตำหนิของเด็กหนุ่ม จนกระทั่งตอนนี้สิ่งที่เคยเป็นอยู่กลับถูกแทนที่ด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆ และปื้นยาวเป็นแถบๆ  เสียงร้องของร่างน้อยยังคงกู่ร้องต่อไปโดยที่ไม่มีความหมายของประโยคใดแทรกเข้าโสตประสาทของร่างสูงได้เลย

เมสซี่กล่ำกลืนน้ำตาของตัวเองแล้วกลั้นใจพูดขึ้นเสียงดัง แต่ทว่าดวงตาที่เคยเบิกกว้างนั้นก็ยังคงหลับแน่นอยู่เช่นเดิม “พี่หยุดนะ! ไม่งั้นผมจะตะโกนให้คนช่วย....ผมมีญาติอยู่แถวนี้นะ ผมจะตะโกนเรียกพวกเค้า

และช่างเหลือเชื่อ  เสียงร้องในครั้งนี้ได้ผล.....ผิดกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ว่าวลีใดก็ไม่สามารถฉุดรั้งร่างสูงเอาไว้ได้  โรนัลโด้ถอนปากออกมาจากผิวเนียนนุ่มแห่งใหม่ที่เค้ากำลังจะเปลี่ยนสภาพมันให้น่ามองยิ่งกว่าเก่า  ใบหน้าคมสันเลื่อนสูงขึ้นมาจนถึงบริเวณใบหูนิ่มแล้วหยุดลง  พ่นลมหายใจอุ่นร้อนเข้าใส่จนทำให้เมสซี่ตัวสั่นขึ้นมาอีกรอบ

เมสซี่ค่อยๆ ปรือตาฉ่ำน้ำขึ้นแล้วเอียงคอหนีลมหายใจของร่างสูงก่อนที่โรนัลโด้เองจะเป็นฝ่ายหันหน้ากลับมาสบตาเค้าตรงๆ บ้าง........ตอนนี้จมูกโด่งรั้นทั้งสองแบบอยู่ห่างกันเพียงสองเซนติเมตรเท่านั้น  ผู้ที่ถูกจับกุมกลืนเอาก้อนเหนียวๆ ลงคอไปแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ้อนวอน เผื่อรุ่นพี่จะรู้สึกสมเพชเค้าแล้วปล่อยเค้าไปเสียที “พะ พี่...คริส  ได้โปรดเถอะ....ปล่อยผมไป...”

แล้วริมฝีปากบางนั้นก็หอบเอาออกซิเจนที่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไปจนเต็มปอด  สีหน้าของเค้าดูเหน็ดเหนื่อย  ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จนแม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงมีมาอย่างไม่ขาดสาย......จมูกโด่งน่ารักขึ้นสีแดงก่ำเช่นเดียวกับดวงตากลมโตที่เคยฉายแววสดใสแต่บัดนี้กลับดูเศร้าหมองลงจนน่าใจหาย  โรนัลโด้มองภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างลงตัวและสวยงาม.............

เวลาใกล้ค่ำเต็มที  แสงสีส้มอมแดงที่ส่องผ่านช่วงตึกลงมาที่ตรอกนั้นจึงทำให้ภาพที่มองจากอีกมุมหนึ่งของทั้งสองดูย้อนแสง  เงาของโคร่งหน้าซึ่งแตกต่างกันแต่ทว่าดูเหมาะที่จะจับคู่กันอย่างหน้าประหลาดกำลังประจันหน้ากันด้วยใจจดจ่อ  ริมฝีปากที่เผยอขึ้นน้อยๆ เพื่อตักตวงอากาศของเมสซี่ดูบอบบางและน่าทะนุถนอม จนกระทั่งโรนัลโด้โน้มหน้าลงไปบดทับริมฝีปากน้อยๆ นั้นด้วยริมฝีปากที่อุ่นร้อนของเค้า..........แต่ร่างสูงก็ไม่ได้จาบจ้วงเข้าไปแต่อย่างใด

ร่างสูงสัมผัสถึงความนุ่มหยุ่นและชื่นแฉะของริมฝีปากสีสดของเมสซี่ ก่อนจะดูดเม้มเบาๆ อย่างอ่อนโยน  ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ร่างเล็กเป็นอย่างมาก ร่างเล็กไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดเพราะกลัวว่าจะทำให้รุ่นพี่ที่ครอบครองเค้าอยู่โกรธเอา

แต่แล้วไม่นานร่างสูงก็ถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “.....วันนี้ฉันจะอนุญาตให้นายเรียกฉันชื่อนั้นวันหนึ่ง” แล้วกำคอเสื้อของเมสซี่ไว้ก่อนที่จะออกแรงฉีกมันออกจนเกิดเสียงดัง แคว๊ก! แต่โรนัลโด้ยั้งมือไว้ จึงมีแต่ช่วงคอเสื้อกว้างเท่านั้นที่ขาดเป็นทางยาวลงมาจนถึงอก

เมสซี่ร้องเสียงหลง เมื่อเสื้อตัวโปรดของเค้าถูกกระชาก และยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยท้วงใดๆ โรนัลโด้ก็ปล่อยตัวเค้าแล้วคว้ากระเป๋าสะพายหลังพร้อมกับคอเสื้อของเค้าเอาไว้แน่น  เมสซี่ซวนเซตามแรงกระชากแล้วเริ่มหน้าเบ้อีกครั้ง

โรนัลโด้ดึงเด็กน้อยเข้ามากระซิบข้างหู “นายบอกว่านายมีญาติอยู่แถวนี้เหรอ....ฉันก็จะบอกว่า ฉันก็มีเพื่อนอยู่แถวนี้เหมือนกัน” ว่าแล้วหลังจากเผยรอยยิ้มแสยะจนทำให้เด็กหนุ่มหน้าซีดแล้ว ร่างสูงแกร่งก็ออกแรงดึงเพียงน้อยนิดแต่สามารถทำให้เด็กหนุ่มตัวปลิวติดมือตามมาได้อย่างง่ายดาย  เค้าเดินต่อไปประมาณอีกสองสามเมตรก่อนจะเปิดประตูเข้าทางหลังอาร์พาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ที่อยู่ในซอยนั้น

แอ่งน้ำนองหน้าบันใดของประตูทางเข้าถูกย่ำจนแตกกระจาย ด้วยเท้าเล็กๆ ที่ไม่แม้แต่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้  เมสซี่ร่ำร้องถามเสียงหลงพลางพยายามดิ้นให้พ้นการเกาะกุม.......แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์เช่นเดิม เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของร่างสูงแกร่งผู้นี้

“พี่....ไม่เอา  ปล่อยผม  จะพาผมไปไหน!” สองมือพยายามเอื้อมดึงแกะมือของอีกคนหนึ่งออกแต่มันกลับไม่ทำให้โรนัลโด้สะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย  จนกระทั่งขึ้นบันไดมาถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง  มือแกร่งก็ยกกำปั้นทุบขึ้นเข้าไปที่ประตูไม้สีเขียวลอกๆ อย่างแรงสองสามที ก่อนที่เจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา และเค้าดูตกใจเอามากๆ...........

“อ้าว เฮ้ ว่าไงคริส....มีอะไรเหรอเพื่อน  แล้วนั่นใคร เด็กใหม่นายเหรอ......อ้าว! แล้วทำไมน้อง..”

“เกล็น!” โรนัลโด้พูดเสียงดังฟังชัด เบรกคำพูดของเพื่อนไว้และเห็นได้ชัดว่าร่างสูงมีแววหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว  โรนัลโด้สายตาสอดส่องไปทั่วทั้งห้อง “พ่อแม่นายอยู่ไหม” เค้าถามแต่ไม่ได้สนใจเกล็นเลยสักนิด

เกล็นล้วงกระเป๋ากางเกงยีนลุ่ยๆ แล้วยืดตัวขึ้นอย่างสบายอารมณ์แล้วไหวไหล่ “ไม่อยู่น่ะ...ยังไม่กลับจากฮันนีมูลรอบสี่เลย” ชายหนุ่มผมดำหัวชี้โด่เด่หันไปพยายามยิ้มให้กับเมสซี่ แต่เด็กน้อยกลับร้องไห้ใส่เค้า  เกล็นหน้าเสีย “เอ่อ....คริส น้องเป็นอะไร....”

โรนัลโด้งึมงำกับตัวเอง “ดี...” แล้วก็หันมาผลักตัวเกล็นออกไปจากประตู “นายออกไป” เค้าพูดราวกับว่านี่เป็นบ้านของเค้าไม่ใช่เกล็น   ก่อนโรนัลโด้จะชี้แจ้งแนวทางให้เกล็นผู้ซึ่งตอนนี้เปรียบเสมือนผู้ไร้บ้าน “ไปค้างบ้านบ็อบบี้ซะ แล้วเล่นเกมส์ที่เพิ่งออกใหม่กับหมอนั่นจนถึงเช้า.......แล้วนายค่อยกลับมา” แล้วกระแทกประตูใส่หน้าเพื่อนที่นิ่งงันอยู่หน้าประตู

“ส่วนนาย....” โรนัลโด้ออกแรงกระชาก “.......มากับฉัน” เสียงเข้มพูดฟังดูน่ากลัวกว่าตอนที่ผ่านมา เมสซี่เกือบลื่นรอยน้ำอัดลมเหนียวๆ ตรงหน้าประตู  แต่ก็เป็นแรงกระชากอีกนั่นแหละที่ทำให้เค้าไม่ล้มพับหน้าคะมำลงกับพื้นเสียก่อน  ร่างสูงเดินตรงไปเรื่อยๆ จนเข้าไปในห้องของเกล็น  เค้าเหวี่ยงร่างน้อยๆ ไปข้างหน้า  เมสซี่ถลาไปบนเตียงที่ผ้าปูที่นอนลาย  MARVEL ของเกล็นทั้งหลุดลุ่ยและยับย่น  โรนัลโด้ปิดประตู

เมสซี่มีสีหน้าตื่นตระหนกปนหวาดระแวง  เค้านึกอยากจะทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองได้ออกไปจากที่นี่  แต่เค้าก็รู้ว่าร่างสูงตรงหน้านี้คงจะไม่ยอมให้เค้าทำแบบนั้นเป็นแน่น  ร่างเล็กๆ นั่งหดขาอยู่บนเตียงของใครก็ไม่รู้ที่เค้าไม่รู้จัก อย่างต้องการยึดมันนี้ไว้เป็นปราการสำคัญ  แขนเสื้อกล้ามตัวโคร่งห้อยลงมาข้างหนึ่งอย่างหมดสภาพด้วยความกว้างที่ถูกขยายเพิ่มขึ้นของคอเสื้อเอง  สายกระเป๋าสะพายทั้งสองข้างหลังที่ร่นลงมาหลวมๆ ยิ่งขับให้เด็กหนุ่มที่ตัวสั่นเทาบนเตียงยับยู่ยี่น่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น...............

โรนัลโด้โดดขึ้นไปบนเตียงแล้วรวบตัวเมสซี่ที่พยายามหนีไว้ ก่อนจะออกแรงกอดมากขึ้นเมื่อไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มร่างเล็กนี่ไปขุดเอาแรงมาจากไหนฮึดขึ้นมาต่อต้านเค้าอีก

ปล่อย! ปล่อยผมนะ!....พี่คิดจะทำอะไร  พี่มันสกปรกที่สุดเลยผมเกลียดพี่!!” เมสซี่ตะโกนออกมาอย่างรู้สึกเจ็บแปล็บที่หน้าอกพร้อมๆ กับอีกคนหนึ่งที่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้า  เพราะตลอดมาเมสซี่รู้สึกนับถือคนที่กำลังโอบกอดเค้าอยู่ในตอนนี้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดหวังเอาไว้เงียบๆ ในใจเลยว่าสักวันหนึ่งเค้าจะได้ลงสนามคู่กับรุ่นพี่คนนี้  แต่ทว่าวันนี้ความรู้สึกนั้นกลับถูกหักให้แตกสะบั้นลงด้วยน้ำมือของคนนั้นๆ เสียเอง

...............เมสซี่เสียใจที่มันกลายเป็นแบบนี้  และเค้ารู้สึกเสียใจยิ่งกว่าเมื่อคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้คือคนที่มอบความหวังให้แก่เค้า.................

แม้จะเสียใจเพียงใด แต่เค้าก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้โกรธไม่ได้  น้ำตาที่ไหลออกมาไม่จบไม่สิ้นพร้อมกับมือเล็กๆ ที่ออกแรงตีและผลักไสให้พวกเค้าทั้งสองแยกออกจากกัน   แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยเมื่อร่างสูงผู้มีสีหน้านิ่วคิ้วขมวดรัดร่างเล็กไว้แน่นขึ้น  จนกระทั่งเมสซี่ก้มตัวลงแล้วกัดฟันขาวๆ ลงไปบนต้นแขนแกร่งของโรนัลโด้อย่างแรง

ร่างสูงร้องออกมาเสียงดัง  ก่อนจะเปิดช่องว่างให้เด็กหนุ่มดันตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงนั้นได้สำเร็จ  เมสซี่วิ่งตรงไปที่ประตูด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาแต่แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกครั้งเมื่อขาของเค้าถูกเตะจนล้มลงกับพื้น  โรนัลโด้เดินเข้ามาพลิกตัวของร่างเล็กแล้วเหวี่ยงมัดเข้าใส่เต็มแรง  เมสซี่ตัวงอและร้องไม่ออกเมื่อเค้าถูกต่อยเข้าที่จุดเดิม

เมื่อร่างของเด็กน้อยสิ้นฤทธิ์ โรนัลโด้ก็เกิดอาการหอบนิดๆ แล้วในตอนนั้น  “ชอบให้ใช้กำลังก็ไม่บอก” ร่างสูงพูดก่อนจะอุ้มอีกคนหนึ่งพาดบ่าแล้วโยนลงไปบนเตียงของเกล็นอย่างแรง  เด็กหนุ่มกลิ้งตะแคงไปบนที่นอนแล้วทำสีหน้าเหยเก เค้าซบหน้าลงบนที่นอนยับยู่ยี่อย่างรู้สึกเจ็บปวดแล้วร้องครางเมื่อแขนขาของเค้าโดนกดทับ

“ถ้านายเกลียดฉันนักล่ะก็เกลียดไปเลย......เพราะวันนี้นายจะได้เกลียดฉันมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา”  โรนัลโด้พูดก่อนที่จะบีบเข้าไปที่ต้นคอขาวแล้วก้มลงดูดเม้มอย่างเอาแต่ใจตน ส่วนอีกมือหนึ่งก็กำลังจะล้วงเข้าไปใต้กางเกงของร่างเล็ก  เมสซี่ดิ้นพลาดๆ และผลักไสอกของอีกคนหนึ่งอย่างสุดแรงเกิด

อย่า...ไม่เอา! อย่า อย่าทำแบบนี้นะ! พี่! พี่คริส! ผมไม่...อึก อ่า...ผมเกลียดพี่!!” ไหล่เล็กสั่นมากขึ้นตามแรงสะอื้น  แล้วเมสซี่ก็กำเข้าเสื้อตัวใหญ่ของโรนัลโด้ กระชากมันไปมาก่อนที่ฝ่ามือเล็กๆ นั้นจะถูกยกขึ้นแล้วฟาดเข้าที่แก้มสีแทนของโรนัลโด้เข้าอย่างจัง

เพี๊ยะ!!

ใบหน้าคมหล่อเหลาหันไปตามแรงที่เกิดขึ้น  เมสซี่หดมือกลับแล้วเพิ่งรำลึกได้ว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป  ฝ่ามือร้อนที่เพิ่งตบแก้มโรนัลโด้สั่นน้อยๆ  ก่อนที่ร่างสูงจะหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เดือดดาลเต็มทีแล้วเค้าก็คว้ามือข้างนั้นของเมสซี่ไว้ บีบจนร่างด้านใต้นิ่วหน้า

“นายคงจะชอบกระตุ้นอารมณ์คนอื่นแบบนี้เสมอเลยสินะ......ดีเหมือนกัน ฉันชอบ” ว่าแล้วโรนัลโด้ก็ขยำเสื้อตัวโปรดของเมสซี่จนขาดคามือ แล้วเสียงประท้วงจากร่างเล็กก็ดังขึ้น

“พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! อึก...ผมไม่ใช่พวกอีตัวที่อยู่ตามข้างถนน แล้วพี่อยากเมื่อไรก็เรียกใช้ได้นะ  อย่ามาทำกับผมแบบนี้....ผมไม่ใช่อีตัว!

โรนัลโด้ได้ฟังก็ตาลุกวาว ร่างสูงหล่อเหลายิ้มเย็น “อีตัวอย่างงั้นเหรอ?.....หึ หาคำแทนตัวเองได้เหมาะดีจริงๆ เลยนี่เมสซี่” ใบหน้าของร่างสูงต้องการจะเย้ยหยันเด็กหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด  แล้วแรงบีบที่เกาะกุมเมสซี่ไว้ก็แรงขึ้น  ราวกับร่างสูงกำลังจะชี้ให้เห็นว่าเค้าไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่โรนัลโด้ต้องการเท่านั้น

..........ถ้าร่างสูงต้องการอยากให้เค้าเป็นอีตัว เค้าก็ต้องเป็น............


.

.

.

.

TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------------


ปรากฏ >> เฮียโด้แกไม่ได้มา ช่วย แต่มา ฉุด ค่ะ  รีดบางคนคิดว่าเฮียเค้าจะมาช่วยใช่ไหมค่ะ  วะฮะฮ่าา >3<  มันเหนือความคาดหมายกันรึเปล่าคะ ณ จุดๆ นี้  ไรท์ว่าขี่ม้าขาวมันธรรมดาเกินไป ต้องฉีกกฎ!!  หึๆๆ //หัวเราะในลำคอเสียงชั่วร้ายพลางทำตาเหลือก// (นี่แกจะน่ากลัวไปไหนเนี่ย!)+(เริ่มสะพรึงตัวเอง)  แต่เดี๋ยวรีดๆ ทั้งหลายจะได้สะพรึงเฮียโด้แบบพรั่นพรึงไปพร้อมๆ กับน้องเมสเลยล่ะคะ หึๆๆ //ซาวด์เดิมกลับมาอีกครั้ง//

หวังว่ารีดคงจะชอบค่ะ ขอให้รับชมด้วยความสนุกและขอให้หายคิดถึง RonalSi แบบจุใจกันไปตามๆ กันนะคะ ^^  รักรีดเดอร์ทุกคนมากๆ เลยค่ะ หลายครั้งที่กำลังใจของรีดทั้งหลายเป็นแรงผลักดันทำให้ไรท์ก้าวต่อไปได้ค่ะ........ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ



*************************************************

ภาคสองมาแล้วนะคะ ^^ กดชื่อเรื่องเพื่อตามลิงค์ที่ซ่อนไว้ได้เลยค่าาา


----------------------------- อัพเดต วันที่ 11/2/16 --------------------------------




ด้วยรักและแรงหื่น

Ray - Aund

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[SF - RonalSi] + [Part 1] The Storm...พายุโหมกระหน่ำ – Ronaldo x Messi [Falling In Love Again 1]


อร๊าาาาาา! RonalSi! RonalSi! >{}< //ถือพู่// มาลงแล้วค่าา  ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีรีดๆ ทุกท่านอย่างเป็นทางการค่ะ  แว็บมาอีกแล้วสำหรับฟิค RonalSi อิอี๊วววว >< ไรท์ละหัวใจกระชุ่มกระชวยยยย  แต่ว่าเรื่องนี้มันสมชื่อจริงๆ ค่ะ 555+ //ชั่วร้าย//

คาแรกเตอร์นี้เนี่ยไรท์อยากเห็นเหมียวเป็นมานานแล้วค่ะ แล้ว He ก็จะโดนเฮียโด้.....อร๊ายยย ละไว้ในฐานที่ต้องอ่านกันค่ะ >< ไม่พูดและ  ไปอ่านกันเลยค่าาาา

ปล. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงเลยค่ะ ไรท์ฟินล้วนๆ 555+


---------------------------------------------------------------------------------------


สายตาคมประดุจเหยี่ยวทอดมองออกไปยังกลางสนามหญ้าสีเขียวขจี ซึ่งถูกย้อมด้วยสีส้มของแสงอาทิตย์ในวันศุกร์ที่เด็กทุกคนในเวลานี้ก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วด้วยใจจดจ่ออยากให้วันนี้หมดไปเร็วๆ  แต่ทว่าเด็กที่อยู่ชมรมฟุตบอลของโรงเรียนกลับไม่ใช่อย่างนั้น

ทุกเย็นวันจันทร์  พุธ  และศุกร์เด็กในชมรมทุกคนจะต้องอยู่เย็นเพื่อซ้อมและทำกิจกรรมของทางชมรม  และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน  แต่ต่างกันที่ว่าในเร็ววันนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างโรงเรียนเกิดขึ้น  ผู้ที่เป็นทั้งตัวจริงและตัวสำรองซึ่งเป็นตัวแทนของทางโรงเรียนจึงต้องอยู่ซ้อมกันและค่อนข้างจะจริงจังเป็นพิเศษเพราะใกล้ถึงวันแข่งขันแล้ว

  พวกที่ได้ลงแข่งในทีมหรือจะพูดให้ถูกก็คือพวกที่ฝีมือดีจะได้ใช้สนามหญ้ากว้างใหญ่ของโรงเรียนวิ่งไล่ลูกหนังไปตามสนามและสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย......ซึ่งส่วนมากแล้วตัวแทนของโรงเรียนนั่นก็คือพวกรุ่นพี่ในชมรมนั่นเอง  พวกรุ่นน้องถึงฝีมือจะแจ้งเกิดแต่ก็หมดสิทธิ์

และก็เช่นกันสำหรับรุ่นน้องถึงแม้จะไม่ได้วิ่งในสนามแต่ก็จำเป็นจะต้องอยู่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรุ่นพี่ ในยามที่พวกเค้าต้องการความช่วยเหลือ

“เฮ้ ขอน้ำหน่อยสิ”

“โอ๊ย ไม่ไหวขาฉันแข็งชะมัดเลย....นวดให้ที”

“น้อง......ขอน้ำมันมวยหน่อย”

“เฮ้ยยย  ลูกกลิ้งไปนอกสนามแล้วว!

“ขอผ้าเย็นถังหนึ่ง!

และอีกสารพัดที่รุ่นพี่นักกีฬาสุดฟิตจะบัญชา ให้รุ่นน้องสรรค์หามาให้........อ๋อ ใช่ รุ่นน้อง น่ะนะไม่ใช่ พวกรุ่นน้อง

“เฮ้  ไปเก็บบอลมาให้ทีสิ.....มันไปกองอยู่ตรงนั่นมากเกินไปแล้วนะ นายก็น่าจะรู้หนิว่าต้องเอามันกลับไปใส่ตาข่าย  จะต้องให้ฉันออกปากบอกเองหรือไง  ไม่ได้เรื่องจริงๆ .....อย่ามัวแต่เอาใจประจบประแจงไอ้เจ้าพวกนั่นมันมากนักสิ  นายกำลังจะลืมหน้าที่หลักของตัวเองอยู่นะรู้ตัวไหม” จู่ๆ รุ่นพี่คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาแล้วท้าวเอวพูดเสียงมีอารมณ์นิดๆ กับรุ่นน้องที่กำลังแบกกระติกน้ำใบใหญ่เกินขนาดตัวของเค้าอยู่

รุ่นน้องคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน และไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใดเพราะเค้าเต็มใจที่จะทำ ที่เข้าชมรมฟุตบอลมานี่ก็เพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง  และเด็กหนุ่มก็คิดว่าการฝึกซ้อมหนักๆ และการทำหน้าที่เป็นเด็กข้างสนามที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ

“ครับ....ได้ครับรุ่นพี่  เดี๋ยวผมจะไปเก็บเดี๋ยวนี้เลย” ร่างเล็กๆ ยกไหล่ขึ้นพร้อมกับยกกระติกน้ำให้ลอยขึ้นสูงจากพื้นก่อนจะค่อยๆ เดินโยกเยกอย่างรีบเร่งแต่ทว่าระมัดระวังเอากระติกน้ำไปเก็บไว้ในที่ของมัน นั่นก็คืออีกฝั่งหนึ่งของสนาม...........

เหตุที่ต้องยกข้ามสนามไปก็เพราะมีรุ่นพี่หลายคนที่อยู่อีกฝั่งออกปากสั่งเค้า  เด็กหนุ่มก็เลยต้องทำการยกกระติกน้ำเย็นๆ มาประเคนให้ถึงที่ และขนาดของมันก็เลี้ยงน้ำคนได้ทั้งกองทัพเลยทีเดียว

เมื่อทำการยกกระติกน้ำใบใหญ่เท่าถังเก็บน้ำมาไว้ข้างสแตนเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มก็เริ่มออกวิ่งไปเก็บลูกบอลที่กองเกลื่อนอย่างที่รุ่นพี่คนล่าสุดว่าเอาไว้  แต่คงเป็นเพราะรีบมากเกินไปเด็กหนุ่มร่างเล็กจึงเกือบชนเข้ากับคนที่นั่งอยู่บนสแตนชั้นล่างสุด

“อุ๊บ!.....เอ่อ ขอโทษครับพี่...เอ่อ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ถึงแม้จะไม่ได้ชนเข้าจริงๆ แต่อาการเลิกลั่กของเด็กหนุ่มก็บอกได้เลยว่าเค้าหวั่นเกรงประธานชมรมฟุตบอลคนนี้มากแค่ไหน  และชื่อของเค้าก็ถูกกลืนหายไปราวกับน้ำกรดกัดกร่อน หลังจากที่เด็กหนุ่มเอ่ยคำว่าพี่....เพียงเพราะเด็กหนุ่มไม่กล้าที่จะเอ่ยมันออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นนิ่งเงียบ ยังคงจ้องมองเด็กหนุ่มต่อไป จนคนที่อายุน้อยกว่าต้องเป็นฝ่ายวิ่งเบี่ยงออกไปเสียเอง  และสายตาคมประดุจเหยี่ยวนั้นก็จ้องมองเด็กหนุ่มคนนั้นต่อไป

“เฮ้ย ฉันเห็นนายจ้องตาเป็นมันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว......ข้องใจอะไรว่ะ? น้องคนนี้ฉันจองนะเว้ย.....ขยันดีแถมยังน่ารักอีกต่างหาก” เสียงของเพื่อนข้างกายเค้าดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดูในตอนหลัง  ร่างสูงของประธานชมรมไม่ได้โต้เถียงอะไรเพียงแค่เอ่ยออกมาสั้นๆ ด้วยเสียงทุ้มต่ำแต่ทว่าเยือกเย็น

“เปล่า”

ตัดไปที่กลางสนาม..........

ฮิ้ววว! น้องลีโอคนเก่งขยันจริงๆ ......น่ารักที่สุดเลยอ่ะ!” เสียงโห่แซวดังมาจากข้างประตูในขณะที่เด็กหนุ่มวิ่งหลุนๆ ข้ามสนามมาพร้อมกับตาข่ายเก็บบอลที่เริ่มจะเข้ามาพันตัวเค้าเสียเอง

เด็กหนุ่มเพียงแต่ส่งยิ้มให้เท่านั้น และเค้าไม่รู้เลยว่ายิ้มของตัวเองน่ารักขนาดไหนในสายตาของพวกพี่ๆ จึงทำให้เค้าเป็นขวัญใจของรุ่นพี่หลายๆ คนในชมรมไปโดยไม่รู้ตัว

มือเล็กๆ พยายามแกะตัวเองออกมาจากตาข่ายแล้วเริ่มยัดลูกบอลเข้าตาข่ายอย่างทุลักทุเล  จนเค้าเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของตาข่ายเก็บบอลรึเปล่า  ร่างเล็กๆ ยื้อหยุดกับตาข่ายอยู่นานจนเสียงทุ้มเข้มดังขึ้น

นั่นนายจะเก็บบอลหรือเก็บตัวเองน่ะ....เลือกเอาสักอย่างสิ”

พอเด็กหนุ่มหันควับไปอย่างรวดเร็วก็เจอเข้ากับคนที่เค้าคุยด้วยน้อยที่สุด “อะ เอ่อ....ผมกำลังพยายามอยู่ครับ  พยายามอยู่  แค่......มันติด....” มือเล็กพยายามแกะเส้นตาข่ายที่พันกับเชือกรองเท้าของตัวเองออก

ร่างสูงของประธานชมรมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเข้าไปกระชากตาข่ายออกมาจากตัวเด็กหนุ่มแล้วออกแรงดึงจนเส้นที่พันกับรองเท้าคู่เล็กตึงแน่น  มันหลุดออกมาจากกันในที่สุด และตาข่ายบางส่วนก็ขาดออกจากกันด้วย แต่ก็ถือว่ายังใช้การได้

“เอ่อ ขอบคุณครับ” ถึงแม้ลักษณะการช่วยเหลือจะไม่ได้น่าขอบคุณเลย  แต่เด็กหนุ่มก็อ้อมแอ้มตอบไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเค้าเล็กลง

..............เวลาอยู่กับพี่โรนัลโด้ก็เป็นแบบนี้ทุกทีนั่นแหละ...............

เพราะอีกคนหนึ่งได้เป็นถึงประธานชมรมฟุตบอลของโรงเรียนชั้นนำแห่งนี้และแถมยังมีทักษะการเล่นฟุตบอลที่เยี่ยมยอดขนาดหาตัวจับยากอีกต่างหาก  เค้าจึงเป็นเสมือนไอดอลของเด็กหนุ่มไปโดยปริยาย

............เพราะงั้นเค้าก็เลยตัดสินใจเข้าชมรมฟุตบอลแห่งนี้..............

แต่ทว่ารุ่นพี่กลับค่อนข้างจะมีโลกส่วนคัวสูง และจะไม่ค่อยคุยกับเด็กที่อายุน้อยกว่า  หากจะเห็นว่าชายคนนี้เปิดปากพูดคุยแบบธรรมดาก็เห็นจะมีเพียงแต่ตอนที่อยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันเท่านั้น  แต่ถึงกระนั้นรุ่นพี่ร่างสูงผิวสีแทนตรงหน้าก็เหมือนกับเป็นต้นแบบที่สักวันหนึ่ง ลีโอเนล   เมสซี่ คนนี้จะต้องเป็นอย่างเค้าให้ได้

ร่างเล็กผงกหน้าขอบคุณรุ่นพี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรวบเอาหูของตาข่ายเก็บฟุตบอลมาไว้ในอุ้มมือน้อยๆ ซึ่งบัดนี้มีรอยแดงเป็นปื้นอยู่เต็มฝ่ามือซึ่งมาจากการแบกกระติกน้ำข้ามสนามไปข้ามสนามมา  ร่างเล็กๆ ที่ใส่เพียงเสื้อกล้ามกีฬาตัวโคร่งและกางเกงกีฬาสีดำตัวเก่งกำลังจะเคลื่อนกายลากตาข่ายหนักอึ้งไปเก็บไว้ในที่ของมัน  แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มชวนให้หยุดหายใจก็ดังขึ้น

“เดี๋ยว...”

“อ๊ะ ครับ”

“เพื่อนของนายหายไปไหนหมด” โรนัลโด้ถามเสียงเรียบราวกับมันเป็นแบบทดสอบ

“เอ่อ....พวกเค้าคงมีเรื่องสำคัญต้องไปทำล่ะมั่งครับ เห็นสตีฟบอกว่าที่บ้านเค้ากำลังจะมีน้องและเค้าก็เลยต้องไปเฝ้าแม่ที่....โรง...พ..ยา..บาล.....” เสียงเล็กขาดช่วงและเบาลงจนขาดหายไปในท้ายประโยคเมื่อหันไปเจอสายที่จ้องมองมาราวกับว่าเค้ากำลังทำความผิด

ผิดแล้ว เพื่อนนายไม่มีใครอยากจะอยู่เป็นเด็กรับใช้ในเย็นวันศุกร์กันหรอก ที่บอกนายและฉันมันก็เป็นแค่ข้ออ้าง  และเด็กในชมรมก็ไม่มีใครติดธุระสักคน” เสียงเข้มคมชัดทุกถ้อยคำและการเน้นย้ำคำสุดท้ายก็ราวกับจะบอกว่า มีเพียงเด็กหนุ่มนามเมสซี่เท่านั้นที่เป็นเด็กรับใช้ของรุ่นพี่เพียงคนเดียวในสนาม

เมสซี่ก้มหน้ามองมือของตัวเอง เค้ากำลังกำตาข่ายเก็บบอลอยู่และเมื่อยามคลายมือออกก็เผยให้เห็นรอยแดงจากอาการที่เรียกว่าพุพอง  เด็กหนุ่มไม่ตอบเพียงแต่ก้มมองมือตัวเอง

“แล้วทำไมนายไม่กลับบ้านไป......ฉันเชื่อว่าเพื่อนของนายก็ชวนนายกลับบ้านโดยหาข้ออ้างกับฉันเหมือนกันใช่ไหม” โรนัลโด้ยกมือขึ้นกอดอก

เมสซี่เม้มริมฝีปากเน้นก่อนจะพยักหน้าตอบน้อยๆ “ใช่ครับ...”

“แล้วทำไมนายไม่กลับ”

“ผม...ผมคิดว่ารุ่นพี่น่าจะมีคนคอยช่วย  ถ้าผมไม่อยู่ใครจะเป็นคนยกกระติกน้ำให้รุ่นพี่  ใครจะหาผ้าเย็นมาให้  แล้ว...ใครจะนวดให้ตอนที่พวกพี่ปวดขา........ผมคิดว่า ผมน่าจะพอช่วยได้....” ตลอดประโยคเสียงอ้อยอิ่ง เด็กตัวเล็กไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ผู้น่าเกรงขามเลย  ทุกคำที่เด็กหนุ่มพูดออกไปฟังดูแผ่วเบาจนน่าใจหาย

“นายคิดว่านาย...น่าจะพอช่วยได้ ยังงั้นเหรอ?” ร่างสูงเลิกคิ้วแล้วทำหน้าที่เค้าเรียกกันว่า หงุดหงิด

“คะ ครับ”

“งั้นนายก็เอาตาข่ายเก็บบอลที่เหลือไปเก็บไว้ในที่ของมันด้วยล่ะกันนะ” ร่างสูงตบหน้าขาก่อนจะโน้มตัวลงมาสั่งเด็กหนุ่มเสียงชัดเจน  เมสซี่เงยหน้าขึ้นมาแล้วรับคำอย่างเสียไม่ได้

“คะ ครับผม” ก่อนที่ร่างสูงจะทำหน้าพอใจแบบที่เมสซี่ก็ไม่แน่ใจนักว่าพอใจจริงหรือเปล่า แล้วประธานของชมรมก็วิ่งเข้าไปในสนามแล้วเริ่มซ้อมผลัดบอลกับเพื่อน

เมสซี่หันหลังกลับไปมอง ตาข่ายเก็บบอล สามใบที่บรรจุลูกบอลอยู่เต็มตาข่ายที่มุมอัฒจันทร์อย่างตกใจนิดๆ แล้วก็ต้องเดินคอตกไปลากทั้งหมดนั่นกลับไปเก็บในห้องเก็บอุปกรณ์  และเนื่องด้วยในสนามตอนนี้มีรุ่นพี่ทุกคนซึ่งกำลังซ้อมกันอยู่อย่างจริงจัง  เด็กหนุ่มตัวเล็กจึงตัดสินใจลากตาข่ายอ้อมสนามไปเสียดีกว่า............เดี๋ยวจะไปกวนพวกพี่ๆ เค้าเสียเปล่าๆ...............

มือที่ไม่เคยได้ทำงานหรือยกของหนักมาก่อนก็เกิดอาการพองมากยิ่งกว่าเดิม  แต่เด็กหนุ่มก็ทำเป็นไม่สนใจมันแล้วกัดฟันลากตาข่ายต่อไป จนกระทั่งเกิดแรงฉุดกระชาก แย่งตาข่ายบอลทั้งหมดให้หลุดออกจากมือเค้า

น้องลีโอ....เดี๋ยวพี่จะช่วยเอง  ให้เด็กตัวเล็กๆ ลากของหนักขนาดนี้ข้ามสนามได้ยังไงเนี่ย มือเล็กๆ จะช้ำซะหมด” รุ่นพี่ที่วิ่งเลยออกมาจากสนามด้านในยิ้มแฉ่งให้แก่เค้า หลังจากที่เจ้าตัวทำการแย่งภาระทุกอย่างออกจากมือของเค้าไปเสียหมด

“เอ่อ พี่เนย์มาร์ไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวผมเอาไปเก็บเอง....พี่เนย์มาร์กลับไปซ้อมเถอะครับ นี้มันงานของเด็กเก็บบอลนะครับ” เมสซี่เลิกลั่กและพยายามแย่งตาข่ายกลับมา แต่ทว่าไม่ประสบผมสำเร็จ

“ไม่เอาน่าเบบี้...เดี๋ยวพี่จะจัดการเอง เรายืนอยู่เฉยๆ เถอะ” ว่าแล้วเฮียเนย์ก็ทำการวิ่ง 4 x 100 เมตรผสมกับลากของหนักพุ่งไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำทักท้วงใดๆ ของเด็กเจ้าของสัมภาระเลยสักคำ   เมสซี่ยืนมองพลางกลืนน้ำลายลงคออย่ายากลำบาก

แล้วถ้าพี่โรนัลโด้รู้เค้าจะว่ายังไงล่ะเนี่ย.........เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างหวั่นๆ แล้วรุ่นพี่แสนใจดีก็วิ่งกลับมาหาเค้าอย่างรวดเร็วพลางยีหัวเล็กๆ เล่นอย่างเอ็นดู

“อย่าทำอะไรที่มันเกินตัวมากนักล่ะ  ตัวเล็กๆ อย่างนี้เดี๋ยวจะแย่เอาซะก่อนได้ลงสนามจริงๆ นะ”

“ฮ่าๆๆ ไม่หรอกครับ  อีกอย่างคงจะอีกนานเลยกว่าผมจะได้ลงสนามโรงเรียนเหมือนกับพวกพี่ๆ ..........ขอบคุณมากครับ” เด็กน้อยยิ้มจนตาหยีแล้วกุมมือของตัวเองเอาไว้  เนย์มาร์ยิ้มตอบไปอย่างรู้สึกอยากหยิกแก้มเข้าสักทีหนึ่ง แล้วเค้าก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในสนาม  แต่หลังจากพ้นสายตาของรุ่นน้องมาแล้วสีหน้าหนักใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเนย์มาร์

“นายมันเกินไปจริงๆ” เค้าว่า....แต่หาได้พูดถึงเด็กคนนั้น  แต่กลับเป็นคนที่เค้าวิ่งเข้ามาหาแทน

“นายใช้เค้าหนักเกินไปนะคริส” ร่างสูงที่ถูกพูดด้วยก็เพียงแค่หันมองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและความร้อนจากแสงแดดเท่านั้น

“อะไร” เสียงของร่างสูงผิวสีแทนค่อนข้างห้วน เพราะไม่ได้สนใจเพื่อนข้างๆ เท่าใดนัก

“ฉันหมายถึงเด็กคนนั้น  นายใช้เค้าหนักเกินไป เค้าตัวเล็กกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำนาย....เฮ้ย ฟังฉันอยู่ป่ะเนี่ย?” เนย์มาร์มีสีหน้าอยากเตะคนขึ้นมาทันทีที่โรนัลโด้วิ่งออกไปแล้วแย่งบอลมาจากเพื่อนคนอื่น  ชายหนุ่มผิวสีเข้มกว่าส่ายหน้าอย่างระอาช้าๆ ก่อนที่จะวิ่งตามประกบลูกบอลเช่นคนอื่นๆ ในบริเวณนั้น

ส่วนเด็กที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในชมรมก็ยังคงทำหน้าที่ที่ไม่มีวันจบสิ้นของตัวเองต่อไป  โดยที่เค้าไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาคมกริบของประธานชมรมกำลังจ้องมองเค้าอยู่เป็นระยะๆ

จนกระทั่งได้เวลาที่ทุกคนทำการซ้อมเสร็จสิ้นเสียที แต่นั่นก็เป็นเวลาย่ำเย็นพอสมควรแล้ว  ร่างเล็กกำลังเก็บข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ของเค้าลงในกระเป๋าสะพายใบเล็กของเค้า  รุ่นพี่ผมบล์อนคนหนึ่งก็ทักขึ้นด้วยสีหน้ายินดี

“เลิกซ้อมแล้วน่าลีโอ กลับบ้านได้แล้วล่ะ....วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ”

“ครับ ไม่เป็นไรครับผมยินดีทำอยู่แล้ว.....” แต่ยังไม่ทันที่รุ่นพี่คนเดินจะได้กล่าวอะไรต่อก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มเสียก่อน

“วันนี้นายจะยังกลับบ้านไม่ได้เมสซี่

เมสซี่สะดุ้งเฮือก เพราะเสียงนั้นใกล้ตัวเค้ามาก  ร่วมทั้งรุ่นพี่คนเดิมด้วยที่มีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่พอได้รับสายตาเชือดเฉือนที่ส่งมาก็จำเป็นต้องถอยกรูแล้วหันกลับไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองต่อทันที  เด็กหนุ่มหันไปข้างหลัง

“นายจะต้องไปเก็บกวาดสนามให้เรียบร้อยก่อนที่คนทำความสะอาดจะมา และห้ามใครช่วยนายเด็ดขาด”

“ตะ แต่ว่าพี่...เอ่อ ผม...คือว่ามันจะ...”

อย่ามาแต่กับฉัน......นี่ฉันยังไม่ร่วมที่เนย์มาร์มาช่วยนายอีกนะ”

แล้วร่างเล็กก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกแล้วเดินคอตกกลับเข้าสนามไปอย่างเสียไม่ได้  ท่ามกลางสายตาแห่งความเห็นใจของคนทั้งชมรมที่เหลืออยู่

“พวกนายทุกคนเสร็จแล้วก็กลับบ้านไป อย่ามัวลีลา.....พรุ่งนี้เราต้องมาซ้อมกันแต่เช้า” โรนัลโด้สั่งชัดและไม่มีใครกล้าขัดขืนหรือปฏิเสธ ทุกคนจำต้องยอมรีบอานน้ำ เก็บของแล้วกลับบ้านไป

เมสซี่เดินกลับไปที่สนาม ซึ่งบัดนี้มีเศษขยะและผ้าเย็นที่ใช้แล้วเกลื่อนอยู่เต็มขอบสนาม เด็กหนุ่มลงมือเก็บอย่างรวดเร็วและพบว่ามันเสร็จเร็วกว่าที่เค้าคิดไว้ เพราะโชคดีที่ผ้าเย็นชุดนี้เป็นแบบสำหรับใช้ครั้งเดียวทิ้ง เค้าจึงไม่จำเป็นจะต้องซักแล้วตาก นั่นคงจะใช้เวลาเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว

และเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นาน เด็กหนุ่มร่างเล็กก็เดินลากกระเป๋าลงมาจากอัฒจันทร์แล้วเหวี่ยงมันขึ้นบ่าอย่างเหนื่อยอ่อน............พรุ่งนี้เค้าก็จะมาช่วยพวกรุ่นพี่อีกแน่นอน เพราะเมสซี่คนนี้ไม่เคยพลาดเลยสักนัดเดียว..............

ถึงแม้จะไม่มีคนเอ่ยชวนเค้าก็เถอะ  ลีโอเนล   เมสซี่ คนนี้ก็พร้อมที่จะออกจากบ้านมารออยู่ที่ข้างสนามแต่เช้าอยู่แล้ว

แขนเสื้อกล้ามกีฬาสีขาวเหลือบฟ้าตัวโคร่งขยับไปมาบนไหล่เล็กๆ ยามที่เจ้ากำลังเดินทางกลับแบบอย่างที่เคยเป็นเช่นทุกวัน  เด็กหนุ่มร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร ในมือข้างหนึ่งก็เกี่ยวเกาะลูกฟุตบอลลูกโปรดเอาไว้ข้างเอวเล็ก  กระเป๋าเป้ข้างหลังก็ส่ายไปมาเล็กน้อยยามเมื่อเด็กน้อยก้าวเดินไปบนถนนสายร้างผู้คนเส้นนี้ที่เค้าชอบใช้เพื่อเลี่ยงความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา

ซอยระหว่างบล็อกแคบๆ ทอดยาวอยู่ตรงหน้าเค้า ด้านข้างคือตึกพาณิชย์และอาร์พาร์ทเมนท์ที่แทบจะบีบตัวเข้าหากันได้อยู่แล้ว  แต่มันก็ยังเหลือพื้นที่ขนาดราวๆ สองเมตรให้เค้าได้เดินสบายๆ กลับบ้านทุกวัน

ใกล้ค่ำเต็มทีแล้วในขณะที่เมสซี่เดินอยู่ในซอยเล็กๆ นี้และคาดว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงที่นี่ต้องถูกปกคลุมไปด้วยความมืดเป็นแน่

..........และเค้าก็จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะอาหารที่แม่บอกเอาไว้ว่าวันนี้จะทำของโปรดของเค้าเสียเต็มโต๊ะไปเลย  เมื่อหวนนึกถึงคำพูดและสีหน้าอิ่มเอมของแม่ก่อนออกจากบ้าน เมสซี่ก็ยกยิ้มขึ้นอย่างสดใสราวกับตอนเด็กๆ ที่เค้าได้ไปเที่ยวสวนสนุกเป็นครั้งแรก

..................ชีวิตของเค้ามีความสุขเสมอ เพราะคนรอบข้างล้วนแต่รักเค้าและเค้าก็รักทุกคนมากด้วยเช่นกัน...............

แต่ทว่าวันนี้ต่างออกไป............

แต่แล้วขาเล็กๆ ก็พลันหยุดก้าวเดิน เมื่อมีกลุ่มคนที่ไม่รู้ว่ามาจากทางไหนขว้างทางเค้าอยู่  เมสซี่ชะงักกึกทำหน้าเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ทางกลับบ้านของเค้าไม่ใช่ทางนี้นี่ แล้วทำไม เอ่อ....ช่างเถอะ เค้าอาจมาบ้านเพื่อนก็ได้มั่งเห็นว่ามีเพื่อนอยู่แถวนี้นี่นะ.......ร่างเล็กคิดในใจขณะไม่ไหวติงใดๆ  เด็กหนุ่มยังคงจ้องมองเด็กชายที่อายุมากกว่าสามคนซึ่งขว้างทางเค้าอยู่....หรือเค้าขว้างทางอีกฝ่ายอยู่กันแน่?

เบื้องหน้า........หนึ่งคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเค้า และอีกสองที่อยู่ต่างโรงเรียนและแต่งตัวราวกับศิลปินฮิบฮอบก็ไม่ปาน กำลังยืนกังก้าจ้องเค้าอยู่

เมสซี่กลืนน้ำลายแล้วกระพริบตาหวาดๆ ก่อนจะคิดโยนความผิดให้ตัวเองว่า ดันไปขว้างคนพวกนี้เข้าเสียเองแล้วก้มหน้ายอมรับความผิด เค้าพยายามทำตัวเล็กๆ แล้วหาช่องว่างเดินผ่านคนพวกนี้ไปให้ได้แต่ทว่า...........

“เอ่อ...ขอโทษครับผมขอ....อ๊ะ!” เสียงสั่นๆ ที่กำลังจะเอ่ยขอทางอย่างสุภาพก็สะดุดขึ้นแล้วแทนด้วยเสียงร้องหลงอย่างตกใจของเด็กหนุ่ม  เมื่อหัวไหล่เล็กโดนผลักออกอย่างแรงจนทำให้เมสซี่ล้มลงไปก้นจั้มเบ้ากับพื้น  ลูกบอลนำโชคของเค้ากลิ้งกระดอนไปไกลจนไม่สามารถเอื้อมมือไปเก็บได้  ร่างเล็กมีสีหน้าหวาดกลัวมากกว่าเดิมเมื่อช้อนตามองคนที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหาเค้า

ชายคนนั้น.....ที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเค้า.....คุกเข่าลงตรงหน้า แล้ววางแขนลงบนเข่าที่ชันขึ้นเล็กน้อย เสียงที่ฟังดูชวนหายใจไม่ออกเอ่ยขึ้น

“นายกำลังจะกลับบ้านงั้นหรือ?” สายตาของชายหนุ่มคนนั้นลากไล่ไปทั่วตัวของเมสซี่ตั้งแต่ปลายเท้าที่ชนเข้าหากันไปจนถึงใบหน้าที่แสดงออกมาเลยว่ากำลังเสียขวัญอย่างแรงในขณะนี้

.

.

.

TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------


โอเคค่ะ  รีดคิดว่าใครจะออกมาช่วยเอ่ยย?  อิๆ ไรท์ไม่บอกหรอก [ถึงแกไม่ออก เค้าก็คงจะเดากันออกแหละ -_-“] 555+ เดี๋ยวไรท์จิมาเฉลยใน Part ต่อไปนะค่ะ ^^

อร๊ายย น้องเหมียวน่ารักไหมอ่าา เดี๋ยวไรท์จะลงตอนต่อไปที่เหมียวน่าแกล้งยิ่งกว่านี้อีกค่ะ 555

เม้มท์ให้ไรท์ชื่นใจกันหน่อยนะเออ  แล้วไรท์จะมีกำลังใจแต่งฟิค RonalSi ที่วางพล็อตไว้อย่างยิ่งใหญ่ในตอนแรกค่ะ [แต่พะเอิญว่ามันไม่ฟิน ความรู้สึกที่ผุดขึ้นมามันเป็นโมเม้นประมาณนี้อ่ะค่ะ แบบ The Strom นี่แหละค่ะ ไรท์เลยระบายยยซะจบไปเรื่องหนึ่งเลยนะเออ 55….ฟิค RonalSi เรื่องแรกที่ไรท์ได้บอกไว้นั้นก็รอหน่อยนะค่าาา]

รักรีดทุกท่านค่ะ  ปล. แปะเฟส >>แฟนฟิคฮอลลีวู้ด<<


*************************************************

ภาคสองมาแล้วนะคะ ^^ กดชื่อเรื่องเพื่อตามลิงค์ที่ซ่อนไว้ได้เลยค่าาา



----------------------------- อัพเดต วันที่ 11/2/16 --------------------------------

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund