อูว๊าวววววววววว!! //เสียงลิงโลดมากก//
ตื่นเต้นค่ะ.....ไม่รู้ว่าที่ผ่านมารีดคิดเช่นไรนะค่ะ แต่ Part นี้ไรท์จะอุดไว้ค่ะ
ให้ไปอ่านกันเอง (เอ๊า!)
และไรท์จะเฉลยแล้วว่าใครเป็นคนมาดักทางของน้องเหมียวค่ะ [เออ....อันที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้นะ -_-“] อิๆ ไปอ่านกันเลยดีว่าค่ะ ลงฟิคสั่งลาปิดเทอมอันแสนสุข กับฟิค
หลายต่อหลายเรื่องที่ไรท์บรรเลงมาจนร่วมเดือน TT^TT
แล้วเรื่องวุ่นวายก็จะประเดประดังเข้ามาหาเราค่ะ
ถึงแม้ไรท์จะหายหน้าไป
แต่รีดทั้งหลายก็ยังอยู่ในหัวใจไรท์เสมอค่ะ T^T
ตอนที่ทำงานไรท์จะคิดถึงคอมเม้นท์ของรีดทุกท่านเพื่อเป็นกำลังใจค่ะ (เดี๋ยว...เกี่ยวกันไหม?)
และถ้าใครคิดถึงหรืออยากติดตามความเคลื่อนไหวของฟิคต่างๆ ว่าไปถึงไหนแล้วก็มาเป็นเพื่อนกะไรท์ได้เลยค่ะที่
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มโลดดดด
>{}<......จิ้มเสร็จแล้วเราก็ไปอ่านฟิคกันเล้ยค่าาาาา >{}<
เฉลยกันว่าใครฉุดน้องเหมียววววว
--------------------------------------------------------------------------------------------------
“นายกำลังจะกลับบ้านงั้นหรือ?”
******************************************************************************
เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกอย่างไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี
มือของเค้าทั้งสองเกาะอยู่บนหัวเข่าที่สั่นเทาน้อยๆ
และดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนก็ฉายแววสั่นระริกออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มที่ถามเค้าไม่ว่ากระไรและดวงตาสีเฉดเดียวกันก็ราบเรียบราวกับจะไม่ต้องการบอกอะไร
เพียงแต่ผินหน้ากลับไปหาเพื่อนทั้งสองที่ยืนคอยอยู่เล็กน้อยเท่านั้น และแทบจะในทันทีที่เมสซี่อยากจะลุกขึ้นแล้วหมุนตัววิ่งหนีไป เมื่อชายหนุ่มสองคนนั้นปรี่เข้ามาหิ้วปีกของเค้าคนละข้างและล็อคไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก
เมสซี่ถูกยกลอยขึ้นจากพื้นแล้วถูกหิ้วเข้าไปในตรอกทิ้งขยะข้างๆ เด็กน้อยดิ้นไปมาอย่างไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
“ปล่อย! ปล่อยผมนะ! พวกคุณจะทำอะไร
ปล่อยผมลงเถอะ!........พี่ พี่ช่วยผมด้วย! พวกเค้าจะ......อึก ปล่อยผมเถอะได้โปรด......”
เด็กหนุ่มตะโกนลั่นอย่างเสียขวัญและเค้าคิดว่าคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกันกับเค้าอาจจะไม่ได้ยิน แต่ไม่ใช่เลย คนๆ
นั้นได้ยินแต่กลับเฉย.............
“ไม่ อย่าทำผม อย่าทำผมเลย......”
เค้าเบะปากแล้วทำหน้าเจ็บปวดทันที เมื่อหลังของเค้าถูกกระแทกเข้ากับกำแพงของตรอกทิ้งขยะ........เด็กหนุ่มรู้สึกหมดแรงและมือไม้อ่อน
เพราะเค้ากำลังกลัว.......
..............กลัวเอามากๆ.............
ดูแล้วเค้าก็คงจะทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
นั่นแหละ.........แต่เมสซี่ก็ยังคงภาวนาขอให้นี่เป็นเพียงการล้อเล่นแบบสนุกๆ
เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย...........
เด็กหนุ่มน้ำตาคลอแล้วกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเค้าคิดว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้
แต่เมื่อชายหนุ่มคนเดินที่เริ่มต้นประโยคกับเค้าเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเมสซี่ก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งปล่อยเค้าไปให้ได้
“ช่วยบอกเค้าทีว่าให้ปล่อยผมไป ผม....ผมไม่อะไรติดตัวมาจริงๆ
ยกเว้นเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วก็บอล
ปล่อยผมไปเถอะ
แล้วผมสัญญาว่าผมจะเงียบ...ไม่บอกใครทั้งนั้น นะฮะ....” ไหล่เล็กสั่นหนักขึ้น
แล้วเด็กหนุ่มก็เริ่มสะอื้นเพราะรู้สึกเหมือนเข้าตาจน
ชายหนุ่มสองคนยอมปล่อยแขนอันอ่อนแรงของเมสซี่ลงแล้วให้คนที่มาใหม่รับช่วงต่อแทน
บุคคลที่สามรับแขนเล็กไว้แล้วช่วยสอดมือเข้าไปใต้รักแร้ของเด็กน้อยเพื่อช่วยพยุงร่างอันปวกเปียกเอาไว้
สายตาคมมองสำรวจราวกับเลือกสินค้า
เค้าส่ายหน้าขณะเบนสายตาไปมา “ไม่....ฉันไม่อยากได้อะไรหรอก”
เมสซี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก
แล้วยกมือขึ้นเช็ดหางตาที่เริ่มชื้น “จะปล่อยผมไปแล้วใช่ไหมครับ”
“แต่ฉันก็ไม่ได้บอกหนิว่าจะปล่อยนายไปน่ะ”
แล้วดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแต่ทว่าแข็งกร้าวนั้นก็ตวัดขึ้นมองเมสซี่
จนทำให้คนถูกมองขวัญหนีดีฝ่อไปเลย
และเมื่อเห็นท่าไม่ดีว่าเค้าคงจะไม่รอดไปได้แน่แล้ว
ร่างเล็กจึงตัดสินใจรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายดิ้นสุดชีวิต
เค้าปัดมือที่พยุงเค้าออกพร้อมกับออกแรงดันอกของคนที่อยู่ตรงหน้าให้ออกไป
แต่ร่างสูงกว่ากลับรวบตัวเค้าไว้แล้วเหวี่ยงเค้ากลับไปที่เดิม
ก่อนจะกระแทกหมัดใส่ท้องน้อยของเมสซี่เข้าไปอย่างแรง ร่างเล็กชาดิกและงอตัวลงไปกองกับพื้น เมสซี่ร้องไห้ออกมาในที่สุด
“อย่าทำผม.....อึก อย่า...ได้โปรด
ฮืออ” เด็กน้อยเอ่ยออกมาอย่างหวาดกลัวและหมดแรง
แต่กระนั้นก็ยังไม่ลดละความพยายาม
ชายหนุ่มคนเดิมทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นแล้วดึงเมสซี่ขึ้นมาให้พิงกับกำแพงอิฐสกปรก
เพื่อนอีกสองคนของเค้าทุบกำปั้นกับฝ่ามือแล้วเดินเข้ามาเตรียมจะอัดเด็กที่ไร้ทางสู้อย่างเต็มที่
“พวกนายไม่ต้อง!”
แต่แล้วชายผู้มีดวงตาสีน้ำตาลก็พูดขึ้นเสียงดัง
สองคนนั้นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้น
“ก็ไหนนายบอกว่าจะบีบให้เจ้าเด็กนี้ออกจากชมรมไงล่ะ....ก็ต้องอัดสิ”
ชายคนที่ใส่หมวกเป๋ไปด้านข้างพูดพลางทำท่าเดิมอีกครั้ง
“ใช่....หรือนายเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาล่ะคุณโรนัลโด้”
ชายคนที่ใส่หมวกกลับด้านพูดเสริมพลางทำเสียงล้อเลียน แล้วเหล่ตาไปหาคนที่นั่งทำตาขว้างอยู่ข้างล่าง
“ฉันไม่ได้บอกให้พวกแกมาอัดเด็กคนนี้ แค่บอกว่ามากับฉันก็พอ” ร่างสูงที่มีท่านั่ง
160 เซนฯ พูดเสียงดุดันก่อนจะจับข้อมือของเมสซี่ขึ้นกดไว้กับกำแพง สีหน้าของโรนัลโด้ตอนนี้เมสซี่อ่านไม่ออก
............ใช่ ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำแบบนี้
ที่บอกว่าจะบีบให้ออกจากชมรมน่ะมันหมายความว่ายังไงกันแน่
เค้าก็ไม่เคยทำตัวไม่ดีให้โรนัลโด้ต้องรู้สึกว่าเป็นภาระนี่นา
แล้วทำไมถึง..........
เมสซี่สะอื้นฮั่กอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
ทั้งรู้สึกเสียขวัญที่โดนกระทำและความรู้สึกเสียใจที่ไม่ด้อยไม่น้อยไปกว่ากันเลย........ประธานชมรมฟุตบอลกำลังไล่เค้าออกด้วยการกระทำที่ใครๆ
ก็ต่างนึกไม่ถึง
โรนัลโด้จ้องมองร่างน้อยๆ
ที่สะอื้นน้อยๆ อยู่นานจนเพื่อนที่อยู่ข้างหลังเกิดสังหรณ์ใจบางอย่างขึ้นมา “เฮ้
คริส......นายคิดจะทำอะไรเหรอเพื่อน” ว่าพลางสะกิดเพื่อนที่อยู่ข้างๆ
อีกคนหนึ่งทำหน้าเลิกลั่กแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
“เออ....ใช่ๆ
นายไม่ได้บอกเราเลยนะว่านายกะจะทำอะไร
ถ้าให้ฉันออกความคิดเห็นฉันว่าอัดมันดีกว่า ท่าทางหงิมๆ
อย่างเงี่ยเจ็บนักเจ็บเบาก็ไม่กล้าบอกพวกผู้ใหญ่แน่นอน...”
“ฉันไม่ได้ถามได้แก! หุบปากไปเลย....ทั้งคู่นั่นแหละ!” เสียงเข้มตวาดลั่น
รู้สึกปวดหัวตุ้บๆ
ด้วยความโกรธ.........เค้ารำคาญเสียงพล่ามของเจ้าสองคนนี้เต็มทีแล้ว
และเสียงตวาดลั่นนั่นก็ได้ผล
ฝาแฝดฮิบฮอบก็ถึงกับหุบปากกันแทบไม่ทันด้วยความกลัวกันเลยทีเดียว แล้วพากันถอยหลังไปคนละสองสามก้าว
ส่วนร่างสูงแกร่งที่สงบปากสงบคำคนติดตามได้สำเร็จ
ก็หันกลับมาประจันหน้ากับเด็กที่อายุน้อยกว่าเช่นเดิม
แต่ทว่าแววตานั้นกลับดูเปลี่ยนไป.........เป็นวาวโรจน์ด้วยแรงอารมณ์.............
เสียงร้องไห้หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากสีฉ่ำ
“อึก...อือ ฮืออ ฮึก..”
“หยุดร้องไห้สักที......”
โรนัลโด้ว่า ก่อนจะก้มหน้าลงไปสัมผัสกลิ่นซอกคอหอมๆ
ของเมสซี่ท่ามกลางความตื่นตกใจของเจ้าของต้นคอขาว
โรนัลโด้เพิ่งทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเด็กหนุ่มลงไป
ด้วยการสูดและดูดเม้นลำคอขาวเนียนนุ่มนิ่มสีน้ำนมนั้นอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่อยู่ตรงนั้นเลย
เมสซี่หดคอหนี
พยายามสะบัดตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมอย่างตื่นตระหนก แต่ก็หาได้เกิดประโยชน์อะไรไม่ หนำซ้ำร่างสูงของรุ่นพี่ก็ยิ่งลงฟันคมๆ ขบไปที่บ่าเล็กนั้นเพื่อสั่งสอนอีกต่างหาก
“อึก ฮึก...โอ๊ย! ปล่อยผม...ฮือ....ปล่อยผม!” หนุ่มน้อยหลับตาปี๋
พยายามเอี้ยวคอให้ออกห่างจากอีกคนหนึ่งมากที่สุดแต่เค้าคงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในการควบคุมของร่างสูงอยู่ เมสซี่ดิ้นพลาดและร้องไห้ไม่หยุด
..............เค้าทั้งกลัวทั้งรู้สึกตระหนักจนตัวสั่น............
แผ่นหลังกว้างทาบทับจนมิดตัวของเด็กน้อย
ชายหนุ่มฮิบฮอบเห็นเพียงแต่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเมสซี่เท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา.........เด็กคนนั้นดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย
ชายหนุ่มหมวกเป๋เริ่มมีสีหน้าเลิกลั่ก
ในขณะที่มองออกไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง เค้าพูดเสียงตื่นกลัว “เฮ้ย....จะเอาตรงนี้เลยเหรอว่ะ เอาจริงดิ!?”
อีกคนหนึ่งมีท่าทางปอดแหกไม่แพ้กัน
............ก็ที่ไอ้เพื่อนจอมบึ้กมันบอกมาก็แค่ให้มาขู่เด็กเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?
ไม่เห็นบอกเลยว่าจะให้มาเป็นสักขีพยานในการปล้ำเด็กที่ตรอกทิ้งขยะครั้งแรกของมันเนี่ยยยย!!..........
“เฮ้ย! ถ้าเรื่องถึงหูผู้ใหญ่ขึ้นมา
ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งกันไปทั้งรัฐเลยนะเว้ย.......ฉะ ฉะ
ฉันไม่เอาด้วยแล้วนะ.......ปะ ไปดีกว่าา”
หนุ่มฮิบฮอบอีกคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะกำคอเสื้อเพื่อนฝาแผดให้ถอยออกห่างจากจุดที่เพื่อนร่างสูงผู้โมโหร้าย
กำลังดึงคอเสื้อกล้ามของเด็กหนุ่มให้กว้างขึ้นจนมันแทบจะฉีกขาดออกจากกัน
เสียงเมสซี่ผู้น่าสงสารยังคงดังไล่หลังตามชายหนุ่มผู้หวาดกลัวความผิดจนหัวหดนั้นไปจนถึงปลายทางอีกฝั่งหนึ่ง
และฝาแฝดฮิบฮอบก็รีบวิ่งแจ้นกลับบ้านไปและเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่พูดไม่จากับใครเลยตลอดทั้งสุดสัปดาห์นั้น
“อย่า! ไม่เอา ได้โปรด...อย่าทำผมเลย
ฮึก!...ฮืออ”
ร่างน้อยของเมสซี่ยังคงถูกกดตรึงไว้แน่นกับกำแพงของตรอกทิ้งขยะ
และร่างสูงของรุ่นพี่ก็ไม่มีทีท่าวางจะคลายแรงลงแต่อย่างใด
จนทำให้ข้อมือน้อยๆ นั้นครูดกับกำแพงอิฐจนเป็นรอยแดงช้ำและซิบเลือด
โรนัลโด้ยังคงไล่ลิ้นไปทั่วทั้งบริเวณซอกคอขาวและเนินอกไร้ตำหนิของเด็กหนุ่ม
จนกระทั่งตอนนี้สิ่งที่เคยเป็นอยู่กลับถูกแทนที่ด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆ
และปื้นยาวเป็นแถบๆ
เสียงร้องของร่างน้อยยังคงกู่ร้องต่อไปโดยที่ไม่มีความหมายของประโยคใดแทรกเข้าโสตประสาทของร่างสูงได้เลย
เมสซี่กล่ำกลืนน้ำตาของตัวเองแล้วกลั้นใจพูดขึ้นเสียงดัง
แต่ทว่าดวงตาที่เคยเบิกกว้างนั้นก็ยังคงหลับแน่นอยู่เช่นเดิม “พี่หยุดนะ! ไม่งั้นผมจะตะโกนให้คนช่วย....ผมมีญาติอยู่แถวนี้นะ
ผมจะตะโกนเรียกพวกเค้า”
และช่างเหลือเชื่อ
เสียงร้องในครั้งนี้ได้ผล.....ผิดกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ว่าวลีใดก็ไม่สามารถฉุดรั้งร่างสูงเอาไว้ได้
โรนัลโด้ถอนปากออกมาจากผิวเนียนนุ่มแห่งใหม่ที่เค้ากำลังจะเปลี่ยนสภาพมันให้น่ามองยิ่งกว่าเก่า
ใบหน้าคมสันเลื่อนสูงขึ้นมาจนถึงบริเวณใบหูนิ่มแล้วหยุดลง
พ่นลมหายใจอุ่นร้อนเข้าใส่จนทำให้เมสซี่ตัวสั่นขึ้นมาอีกรอบ
เมสซี่ค่อยๆ
ปรือตาฉ่ำน้ำขึ้นแล้วเอียงคอหนีลมหายใจของร่างสูงก่อนที่โรนัลโด้เองจะเป็นฝ่ายหันหน้ากลับมาสบตาเค้าตรงๆ
บ้าง........ตอนนี้จมูกโด่งรั้นทั้งสองแบบอยู่ห่างกันเพียงสองเซนติเมตรเท่านั้น
ผู้ที่ถูกจับกุมกลืนเอาก้อนเหนียวๆ
ลงคอไปแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ้อนวอน
เผื่อรุ่นพี่จะรู้สึกสมเพชเค้าแล้วปล่อยเค้าไปเสียที “พะ พี่...คริส ได้โปรดเถอะ....ปล่อยผมไป...”
แล้วริมฝีปากบางนั้นก็หอบเอาออกซิเจนที่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไปจนเต็มปอด สีหน้าของเค้าดูเหน็ดเหนื่อย ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
จนแม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงมีมาอย่างไม่ขาดสาย......จมูกโด่งน่ารักขึ้นสีแดงก่ำเช่นเดียวกับดวงตากลมโตที่เคยฉายแววสดใสแต่บัดนี้กลับดูเศร้าหมองลงจนน่าใจหาย
โรนัลโด้มองภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างลงตัวและสวยงาม.............
เวลาใกล้ค่ำเต็มที
แสงสีส้มอมแดงที่ส่องผ่านช่วงตึกลงมาที่ตรอกนั้นจึงทำให้ภาพที่มองจากอีกมุมหนึ่งของทั้งสองดูย้อนแสง
เงาของโคร่งหน้าซึ่งแตกต่างกันแต่ทว่าดูเหมาะที่จะจับคู่กันอย่างหน้าประหลาดกำลังประจันหน้ากันด้วยใจจดจ่อ ริมฝีปากที่เผยอขึ้นน้อยๆ
เพื่อตักตวงอากาศของเมสซี่ดูบอบบางและน่าทะนุถนอม
จนกระทั่งโรนัลโด้โน้มหน้าลงไปบดทับริมฝีปากน้อยๆ
นั้นด้วยริมฝีปากที่อุ่นร้อนของเค้า..........แต่ร่างสูงก็ไม่ได้จาบจ้วงเข้าไปแต่อย่างใด
ร่างสูงสัมผัสถึงความนุ่มหยุ่นและชื่นแฉะของริมฝีปากสีสดของเมสซี่
ก่อนจะดูดเม้มเบาๆ อย่างอ่อนโยน
ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ร่างเล็กเป็นอย่างมาก
ร่างเล็กไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดเพราะกลัวว่าจะทำให้รุ่นพี่ที่ครอบครองเค้าอยู่โกรธเอา
แต่แล้วไม่นานร่างสูงก็ถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“.....วันนี้ฉันจะอนุญาตให้นายเรียกฉันชื่อนั้นวันหนึ่ง”
แล้วกำคอเสื้อของเมสซี่ไว้ก่อนที่จะออกแรงฉีกมันออกจนเกิดเสียงดัง แคว๊ก! แต่โรนัลโด้ยั้งมือไว้
จึงมีแต่ช่วงคอเสื้อกว้างเท่านั้นที่ขาดเป็นทางยาวลงมาจนถึงอก
เมสซี่ร้องเสียงหลง
เมื่อเสื้อตัวโปรดของเค้าถูกกระชาก และยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยท้วงใดๆ
โรนัลโด้ก็ปล่อยตัวเค้าแล้วคว้ากระเป๋าสะพายหลังพร้อมกับคอเสื้อของเค้าเอาไว้แน่น
เมสซี่ซวนเซตามแรงกระชากแล้วเริ่มหน้าเบ้อีกครั้ง
โรนัลโด้ดึงเด็กน้อยเข้ามากระซิบข้างหู
“นายบอกว่านายมีญาติอยู่แถวนี้เหรอ....ฉันก็จะบอกว่า ฉันก็มีเพื่อนอยู่แถวนี้เหมือนกัน”
ว่าแล้วหลังจากเผยรอยยิ้มแสยะจนทำให้เด็กหนุ่มหน้าซีดแล้ว
ร่างสูงแกร่งก็ออกแรงดึงเพียงน้อยนิดแต่สามารถทำให้เด็กหนุ่มตัวปลิวติดมือตามมาได้อย่างง่ายดาย เค้าเดินต่อไปประมาณอีกสองสามเมตรก่อนจะเปิดประตูเข้าทางหลังอาร์พาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง
ที่อยู่ในซอยนั้น
แอ่งน้ำนองหน้าบันใดของประตูทางเข้าถูกย่ำจนแตกกระจาย
ด้วยเท้าเล็กๆ ที่ไม่แม้แต่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้
เมสซี่ร่ำร้องถามเสียงหลงพลางพยายามดิ้นให้พ้นการเกาะกุม.......แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์เช่นเดิม
เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของร่างสูงแกร่งผู้นี้
“พี่....ไม่เอา ปล่อยผม
จะพาผมไปไหน!”
สองมือพยายามเอื้อมดึงแกะมือของอีกคนหนึ่งออกแต่มันกลับไม่ทำให้โรนัลโด้สะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งขึ้นบันไดมาถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง มือแกร่งก็ยกกำปั้นทุบขึ้นเข้าไปที่ประตูไม้สีเขียวลอกๆ
อย่างแรงสองสามที ก่อนที่เจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา
และเค้าดูตกใจเอามากๆ...........
“อ้าว เฮ้
ว่าไงคริส....มีอะไรเหรอเพื่อน แล้วนั่นใคร
เด็กใหม่นายเหรอ......อ้าว! แล้วทำไมน้อง..”
“เกล็น!”
โรนัลโด้พูดเสียงดังฟังชัด เบรกคำพูดของเพื่อนไว้และเห็นได้ชัดว่าร่างสูงมีแววหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว โรนัลโด้สายตาสอดส่องไปทั่วทั้งห้อง
“พ่อแม่นายอยู่ไหม” เค้าถามแต่ไม่ได้สนใจเกล็นเลยสักนิด
เกล็นล้วงกระเป๋ากางเกงยีนลุ่ยๆ
แล้วยืดตัวขึ้นอย่างสบายอารมณ์แล้วไหวไหล่
“ไม่อยู่น่ะ...ยังไม่กลับจากฮันนีมูลรอบสี่เลย”
ชายหนุ่มผมดำหัวชี้โด่เด่หันไปพยายามยิ้มให้กับเมสซี่
แต่เด็กน้อยกลับร้องไห้ใส่เค้า
เกล็นหน้าเสีย “เอ่อ....คริส น้องเป็นอะไร....”
โรนัลโด้งึมงำกับตัวเอง “ดี...”
แล้วก็หันมาผลักตัวเกล็นออกไปจากประตู “นายออกไป”
เค้าพูดราวกับว่านี่เป็นบ้านของเค้าไม่ใช่เกล็น
ก่อนโรนัลโด้จะชี้แจ้งแนวทางให้เกล็นผู้ซึ่งตอนนี้เปรียบเสมือนผู้ไร้บ้าน
“ไปค้างบ้านบ็อบบี้ซะ
แล้วเล่นเกมส์ที่เพิ่งออกใหม่กับหมอนั่นจนถึงเช้า.......แล้วนายค่อยกลับมา”
แล้วกระแทกประตูใส่หน้าเพื่อนที่นิ่งงันอยู่หน้าประตู
“ส่วนนาย....” โรนัลโด้ออกแรงกระชาก
“.......มากับฉัน” เสียงเข้มพูดฟังดูน่ากลัวกว่าตอนที่ผ่านมา
เมสซี่เกือบลื่นรอยน้ำอัดลมเหนียวๆ ตรงหน้าประตู
แต่ก็เป็นแรงกระชากอีกนั่นแหละที่ทำให้เค้าไม่ล้มพับหน้าคะมำลงกับพื้นเสียก่อน ร่างสูงเดินตรงไปเรื่อยๆ
จนเข้าไปในห้องของเกล็น
เค้าเหวี่ยงร่างน้อยๆ ไปข้างหน้า
เมสซี่ถลาไปบนเตียงที่ผ้าปูที่นอนลาย
MARVEL ของเกล็นทั้งหลุดลุ่ยและยับย่น โรนัลโด้ปิดประตู
เมสซี่มีสีหน้าตื่นตระหนกปนหวาดระแวง
เค้านึกอยากจะทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองได้ออกไปจากที่นี่
แต่เค้าก็รู้ว่าร่างสูงตรงหน้านี้คงจะไม่ยอมให้เค้าทำแบบนั้นเป็นแน่น ร่างเล็กๆ
นั่งหดขาอยู่บนเตียงของใครก็ไม่รู้ที่เค้าไม่รู้จัก
อย่างต้องการยึดมันนี้ไว้เป็นปราการสำคัญ
แขนเสื้อกล้ามตัวโคร่งห้อยลงมาข้างหนึ่งอย่างหมดสภาพด้วยความกว้างที่ถูกขยายเพิ่มขึ้นของคอเสื้อเอง สายกระเป๋าสะพายทั้งสองข้างหลังที่ร่นลงมาหลวมๆ
ยิ่งขับให้เด็กหนุ่มที่ตัวสั่นเทาบนเตียงยับยู่ยี่น่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น...............
โรนัลโด้โดดขึ้นไปบนเตียงแล้วรวบตัวเมสซี่ที่พยายามหนีไว้
ก่อนจะออกแรงกอดมากขึ้นเมื่อไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มร่างเล็กนี่ไปขุดเอาแรงมาจากไหนฮึดขึ้นมาต่อต้านเค้าอีก
“ปล่อย! ปล่อยผมนะ!....พี่คิดจะทำอะไร พี่มันสกปรกที่สุดเลย! ผมเกลียดพี่!!” เมสซี่ตะโกนออกมาอย่างรู้สึกเจ็บแปล็บที่หน้าอกพร้อมๆ
กับอีกคนหนึ่งที่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้า
เพราะตลอดมาเมสซี่รู้สึกนับถือคนที่กำลังโอบกอดเค้าอยู่ในตอนนี้เป็นอย่างมาก
ถึงขนาดหวังเอาไว้เงียบๆ ในใจเลยว่าสักวันหนึ่งเค้าจะได้ลงสนามคู่กับรุ่นพี่คนนี้
แต่ทว่าวันนี้ความรู้สึกนั้นกลับถูกหักให้แตกสะบั้นลงด้วยน้ำมือของคนนั้นๆ
เสียเอง
...............เมสซี่เสียใจที่มันกลายเป็นแบบนี้
และเค้ารู้สึกเสียใจยิ่งกว่าเมื่อคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้คือคนที่มอบความหวังให้แก่เค้า.................
แม้จะเสียใจเพียงใด
แต่เค้าก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้โกรธไม่ได้
น้ำตาที่ไหลออกมาไม่จบไม่สิ้นพร้อมกับมือเล็กๆ
ที่ออกแรงตีและผลักไสให้พวกเค้าทั้งสองแยกออกจากกัน แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยเมื่อร่างสูงผู้มีสีหน้านิ่วคิ้วขมวดรัดร่างเล็กไว้แน่นขึ้น จนกระทั่งเมสซี่ก้มตัวลงแล้วกัดฟันขาวๆ
ลงไปบนต้นแขนแกร่งของโรนัลโด้อย่างแรง
ร่างสูงร้องออกมาเสียงดัง
ก่อนจะเปิดช่องว่างให้เด็กหนุ่มดันตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงนั้นได้สำเร็จ
เมสซี่วิ่งตรงไปที่ประตูด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาแต่แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกครั้งเมื่อขาของเค้าถูกเตะจนล้มลงกับพื้น
โรนัลโด้เดินเข้ามาพลิกตัวของร่างเล็กแล้วเหวี่ยงมัดเข้าใส่เต็มแรง
เมสซี่ตัวงอและร้องไม่ออกเมื่อเค้าถูกต่อยเข้าที่จุดเดิม
เมื่อร่างของเด็กน้อยสิ้นฤทธิ์
โรนัลโด้ก็เกิดอาการหอบนิดๆ แล้วในตอนนั้น
“ชอบให้ใช้กำลังก็ไม่บอก”
ร่างสูงพูดก่อนจะอุ้มอีกคนหนึ่งพาดบ่าแล้วโยนลงไปบนเตียงของเกล็นอย่างแรง
เด็กหนุ่มกลิ้งตะแคงไปบนที่นอนแล้วทำสีหน้าเหยเก
เค้าซบหน้าลงบนที่นอนยับยู่ยี่อย่างรู้สึกเจ็บปวดแล้วร้องครางเมื่อแขนขาของเค้าโดนกดทับ
“ถ้านายเกลียดฉันนักล่ะก็เกลียดไปเลย......เพราะวันนี้นายจะได้เกลียดฉันมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา”
โรนัลโด้พูดก่อนที่จะบีบเข้าไปที่ต้นคอขาวแล้วก้มลงดูดเม้มอย่างเอาแต่ใจตน
ส่วนอีกมือหนึ่งก็กำลังจะล้วงเข้าไปใต้กางเกงของร่างเล็ก เมสซี่ดิ้นพลาดๆ และผลักไสอกของอีกคนหนึ่งอย่างสุดแรงเกิด
“อย่า...ไม่เอา! อย่า
อย่าทำแบบนี้นะ! พี่! พี่คริส!
ผมไม่...อึก อ่า...ผมเกลียดพี่!!” ไหล่เล็กสั่นมากขึ้นตามแรงสะอื้น
แล้วเมสซี่ก็กำเข้าเสื้อตัวใหญ่ของโรนัลโด้
กระชากมันไปมาก่อนที่ฝ่ามือเล็กๆ นั้นจะถูกยกขึ้นแล้วฟาดเข้าที่แก้มสีแทนของโรนัลโด้เข้าอย่างจัง
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าคมหล่อเหลาหันไปตามแรงที่เกิดขึ้น
เมสซี่หดมือกลับแล้วเพิ่งรำลึกได้ว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป ฝ่ามือร้อนที่เพิ่งตบแก้มโรนัลโด้สั่นน้อยๆ
ก่อนที่ร่างสูงจะหันกลับมาด้วยสีหน้าที่เดือดดาลเต็มทีแล้วเค้าก็คว้ามือข้างนั้นของเมสซี่ไว้
บีบจนร่างด้านใต้นิ่วหน้า
“นายคงจะชอบกระตุ้นอารมณ์คนอื่นแบบนี้เสมอเลยสินะ......ดีเหมือนกัน
ฉันชอบ” ว่าแล้วโรนัลโด้ก็ขยำเสื้อตัวโปรดของเมสซี่จนขาดคามือ
แล้วเสียงประท้วงจากร่างเล็กก็ดังขึ้น
“พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! อึก...ผมไม่ใช่พวกอีตัวที่อยู่ตามข้างถนน
แล้วพี่อยากเมื่อไรก็เรียกใช้ได้นะ
อย่ามาทำกับผมแบบนี้....ผมไม่ใช่อีตัว!”
โรนัลโด้ได้ฟังก็ตาลุกวาว
ร่างสูงหล่อเหลายิ้มเย็น “อีตัวอย่างงั้นเหรอ?.....หึ
หาคำแทนตัวเองได้เหมาะดีจริงๆ เลยนี่เมสซี่”
ใบหน้าของร่างสูงต้องการจะเย้ยหยันเด็กหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด แล้วแรงบีบที่เกาะกุมเมสซี่ไว้ก็แรงขึ้น
ราวกับร่างสูงกำลังจะชี้ให้เห็นว่าเค้าไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้
ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่โรนัลโด้ต้องการเท่านั้น
..........ถ้าร่างสูงต้องการอยากให้เค้าเป็นอีตัว
เค้าก็ต้องเป็น............
.
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ปรากฏ >> เฮียโด้แกไม่ได้มา
‘ช่วย’ แต่มา ‘ฉุด’ ค่ะ รีดบางคนคิดว่าเฮียเค้าจะมาช่วยใช่ไหมค่ะ วะฮะฮ่าา >3< มันเหนือความคาดหมายกันรึเปล่าคะ ณ จุดๆ
นี้ ไรท์ว่าขี่ม้าขาวมันธรรมดาเกินไป
ต้องฉีกกฎ!! หึๆๆ
//หัวเราะในลำคอเสียงชั่วร้ายพลางทำตาเหลือก// (นี่แกจะน่ากลัวไปไหนเนี่ย!)+(เริ่มสะพรึงตัวเอง)
แต่เดี๋ยวรีดๆ ทั้งหลายจะได้สะพรึงเฮียโด้แบบพรั่นพรึงไปพร้อมๆ
กับน้องเมสเลยล่ะคะ หึๆๆ //ซาวด์เดิมกลับมาอีกครั้ง//
หวังว่ารีดคงจะชอบค่ะ
ขอให้รับชมด้วยความสนุกและขอให้หายคิดถึง RonalSi แบบจุใจกันไปตามๆ
กันนะคะ ^^
รักรีดเดอร์ทุกคนมากๆ เลยค่ะ
หลายครั้งที่กำลังใจของรีดทั้งหลายเป็นแรงผลักดันทำให้ไรท์ก้าวต่อไปได้ค่ะ........ขอบคุณมากๆ
เลยค่ะ
*************************************************
ภาคสองมาแล้วนะคะ ^^ กดชื่อเรื่องเพื่อตามลิงค์ที่ซ่อนไว้ได้เลยค่าาา
----------------------------- อัพเดต
วันที่ 11/2/16 --------------------------------
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund