วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

[FIC – The Maze Runner] + [Part 7] The Scorch Trials – Minho x Thmas [The Maze Runner 2]



สวัสดีค่ะ  รีดๆ ของไรท์ทุกท่านขาาา  ฮ๊ากกกกก  ไรท์เกลียดงานกับคนที่ไม่ทำงานค่ะ! //หยุดพ่น//  โอเคค่ะ  หยุดพ่น 555555  มาต่อกันที่ part ที่เราค้างไว้ดีกว่านะคะ

นี่มันเรื่องอะไรกัน!?  เทเรซ่าไหนเธอลองแก้ตัวมาสิ ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน.....ไม่จ๊ะ ไม่แก้ตัวเลย ไม่มีอะไรจะแก้ //แบมือ ยักไหล่ แล้วเบ้ปาก// โอเค เรื่องของเธอแล้วกัน   อิฉันชิกมินโฮกับโทมัสอยู่นะ สองคนนั้นจิเป็นอย่างไรบ้างเนี่ยยยย   อ๊ากกกกก  ตอนจบของเรื่องทำไรท์ใจสลายปนค้างนิดๆ เลยค่ะ  เอ้ย ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ  นี่จับมินโฮไปเป็นตัวประกันทำไมฟะ//ชี้นิ้ว// แต่จริงๆ แล้วป้าเอวาแกเอาใครไปทำกำไรได้แกก็เอาไปหมดเลยค่ะ   แหม่ มินโฮ ไปกะเค้าแบบง่ายๆ เลยเนอะ 555555

//โดนตบหัวสะบัด// แต่อย่างไรก็ตามมินโฮก็ทำตัวเป็นพระเอก คุ้มกันเพื่อนๆ จนตัวเองโดนช็อตแล้วลากตัวไปนะคะ  เนอะ เราต้องให้ใจเค้าในเรื่องนี้ค่ะ   โทมัสอย่าร้องไห้นะจ๊ะ เพิ่งจะได้...แกร๊ก (ทำเสียงเดาะลิ้น) กันไปเอง //ยิ้ม// + //ก่อนโดนตบอีกรอบ//  5555555 แหมๆๆๆ อยากแซวอ่าาา  5555555

โอเค พอหยุด...หยุดไร้สาระก่อน  ไรท์รู้สึกว่าตัวเองจะหลุดมากขึ้นไปทุกทีแล้วล่ะค่ะ -^-  5-5-5-5  ไม่เสียเวลารีๆ แล้วค่ะ  ไปอ่านกันเลยค่าาา ><

โอ้ ตายตะเถรแหก! ไรท์ลืมค่ะ  ลืมไปเลย  Part นี้จะดำเนินเรื่องถึงตอนจบของเรื่องในหนังค่ะ  แต่จะมีต่อไปอีก (อันที่จริงต้องย้อนความสิเนอะ 555) และนี่แหละค่ะ ทีเด็ดของไรท์ เอาหนังมายำมั่วเขียนตามใจตัวเองล้วนๆ เลยค่ะ 55555  แต่รีดๆ จะต้องอ่านค่ะ  ตอนตัด Part นี่ไรท์คงต้องกระโดหลบเข้าบังเกอร์เลยค่ะ  //ว่าแล้วก็กระโดดเลย 555//



--------------------------------------------------------------------------------------------------



“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ฟรายลุกขึ้นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ พร้อมคิดว่าไม่น่ากอดเธอตอนที่วินสตันตายเลย  และนิวท์ที่ถามตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม  ก่อนโทมัสจะกล่ำกลืนของเหลวหนืดคอลงไปแล้วเอ่ยตอบข้อข้องใจของเพื่อนสั้นๆ

“เธอเป็นพวกเค้าไง” ในน้ำเสียงของโทมัสแฝงไปด้วยความปวดร้าวระคนรังเกียจที่เทเรซ่าทำให้ความไว้วางใจของทุกคนต้องเสียเปล่าไปอย่างไม่น่าให้อภัย  ถึงแม้แจนสันจะบอกว่าการฟื้นความจำของเธอจะเป็นผลดีก็ตาม  แต่พวกเค้าไม่คิดแบบนั้น ถ้าหากจะทำกันแบบนี้ก็ให้เธอกลายไปเป็นพวกวิกเก็ตโดยสมบรูณ์ไปเลยดีกว่า  แม้แต่แอช  แดเนียล  และแอริสเองก็ยังรู้สึกเหมือนโดนฟาดท้ายทอยไปด้วย

การโดนหักหลังทำให้โทมัสเจ็บปวดมาก  มินโฮรู้ดีเค้าจึงเดินเข้าไปแล้วบีบไหล่โทมัสอย่างหนักหน่วง  ตอนนี้ในดวงตาของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญมีแต่ความเจ็บปวดและอ่อนล้า  มินโฮรู้ว่าโทมัสเศร้าใจเพียงใดแต่นั่นก็ไม่อาจทำให้สายตาที่จ้องเขม็งของเค้าอ่อนลงได้ เด็กหนุ่มทุกคนจอบจ้องไปยังผู้หญิงสองคนตรงหน้าที่สมควรเป็นแม่ลูกกันทั้งเทเรซ่าและเอวา  ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะน่ารังเกียจไปมากกว่าพวกเธออีกแล้ว

และแน่นอนถึงเธอจะทำหน้าตาน่าสงสารเรียกร้องขอความเห็นใจจากเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครที่อยากจะเชื่อเธออีกแล้ว  ก่อนหมอแมร์รี่ที่รู้จักกับเอวามาก่อนจะบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เอวาหยิบยกเอามาเกลี่ยกล่อมเด็กๆ  และถึงแม้จะบอกว่าตัวเองเป็นแพทย์หญิงที่ดีแต่เอวาก็พูดคุยกับแมร์รี่ด้วยความเย็นชาอนึ่งคนไม่เคยรู้จักกัน  การเสแสร้งของเธอแย่มาก  กระทั่งจู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้น....

แจนสันยิงแมร์รี่ท่ามกลางความตกตะลึงของเชลยทุกคน  แล้วในตอนนั้นเองความกลัวของโทมัสก็ขาดผึ่ง พลิกกลับมาเป็นความโกรธแค้นแทน  หมอแมร์รี่เธอทำให้เค้ารู้สึกดีเช่นไรนั่นก็ทำให้โทมัสคิดถึงแม่ของตัวเองมากขึ้นเท่านั้นแต่คนพวกนี้ไม่ควรทำ...ไม่ควรทำให้ใครต้องตายอีก

“ถอยออกไป  ถอยออกไปนะ!” โทมัสควักระเบิดกับตัวจุดชนวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเอง  ชูมันขึ้น ขู่ว่าเค้าจะทำหากต้องจำเป็น  แจนสันรีบวิ่งเข้ามาห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ยิงเด็กหนุ่มและตกใจไม่แพ้กันที่โทมัสจะใจหาญกล้าถึงเพียงนี้  ก่อนเทเรซ่าจะเสนอตัวขอพูดคุยเพื่อเกลี่ยกล่อมโทมัสราวกับคนเสียสติหรือบางเธออาจเสียสติไม่แล้วก็ได้ แต่เอวาไม่ได้ฟังเธอเลย

เทเรซ่าจึงบอกข้อเสนอของเธอที่ขอกับเอวาให้โทมัสได้รู้ ทำตัวเหมือนว่าเธอควบคุมได้ทุกอย่าง ก่อนเอวาจะเห็นช่องทาง เสริมคำพูดของเด็กสาวผมเผ้ารุงรังว่าเป็นเช่นนั้นจริง พร้อมด้วยแจนสันที่พยายามบอกว่าทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้หากเด็กหนุ่มอย่างโทมัสไม่ดึงดันและทำตัวดื้อรัน  เค้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้หากโทมัสยอมไปด้วยกันแต่โดยดีและการสูญเสียก็จะไม่เกิดขึ้นหากพวกเด็กทุ่งไม่หนีออกมา แจนสันชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่เด็กๆ ได้ก่อเอาไว้.....

โทมัสรู้สึกเจ็บ  เจ็บที่หน้าอกในตอนที่แจนสันบอกว่าจะไม่เกิดขึ้น  ใช่ หากเค้าไม่พาเพื่อนๆ ทุกคนออกมาวินสตันก็คงไม่ตาย  หมอแมร์รี่  และพวกไรต์อาร์มก็คงไม่โดนพบเข้าแบบนี้

แต่ทว่าความจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นโทมัสไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นมา.....

มินโฮเดินเข้ามาอยู่ด้านหลังโทมัสพร้อมกับนิวท์และฟรายเพื่อบอกว่าเพื่อนจะอยู่ข้างเค้าเสมอไม่ว่าโทมัสจะตัดสินใจเช่นไร  โทมัสไม่ผิดเพราะที่ทุกคนรอดมาได้ก็เนื่องมาจากความกระตือรือร้นของเค้า  ในคราแรกโทมัสคิดจะกดชนวนระเบิดให้ตายกันทั้งหมด เอวา   เพจ จะได้ไม่รอดออกทำเรื่องโหดร้ายกับเด็กคนอื่นๆ ต่อ 

แต่แล้วฮอร์เฮกับเบรนด้าก็กลับมาพร้อมกับรถคันใหญ่ที่เปิดฉากพุ่งเข้าชนเฮลิคอปเตอร์แล้วการจลาจลเพื่ออิสรภาพก็เกิดขึ้น  กองกำลังอันน้อยนิดของไรต์อาร์มและเด็กๆ ลุกขึ้นสู้โต้ตอบกับวิกเก็ตด้วยมือเปล่าและพลิกกลับมาเหนือกว่าได้ในที่สุด ก่อนเอวาจะจำเป็นต้องหนีไปเพราะสถานการณ์เกินจะควบคุมได้แล้วในขณะนั้น

เด็กจากวงกตแห่งท้องทุ่งที่เหลืออยู่เพียงสี่คนวิ่งหลบหนีห่ากระสุนที่สาดใส่กันอย่างบ้าคลั่งของทั้งสองฝ่ายและเอาตัวรอด  มินโฮเป็นคนแรกที่คว้าปืนขึ้นมาได้ก่อนจะยิงคุมกันให้เพื่อนของเค้าปลอดภัย  มินโฮบอกให้ทุกคนไปก่อน เค้าจะยิงคุ้มกันให้จนกว่าจะแน่ใจแต่แล้วกระสุนก็เกิดหมดขึ้นมา ชายหนุ่มเอเชียจึงโดยช็อตไฟฟ้าใส่โดยไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วถูกลากขึ้นเครื่องไปพร้อมกับเอวาและเทเรซ่าที่ยืนอยู่ข้างหญิงจอมเผด็จการอย่างขี้ขลาด

โทมัสวิ่งถลาเข้าไป  ไม่สนใจแล้วว่ากระสุนจะพุ่งมาหาเค้าหรือไม่และเพื่อนๆ จะฉุดรั้งเค้าเช่นไรก็ตาม แต่การที่ได้เห็นมินโฮโดนเอาตัวไปต่อหน้าต่อตาก็ทำให้โทมัสใจสลาย  เด็กหนุ่มที่เอาแต่ร้องเรียกมินโฮไม่สามารถทำอะไรได้เลย  โทมัสสะบัดแขนทุกคนที่กอดรั้งเค้าออกอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแม้แต่ฮอร์เฮที่ดูอาวุธโสที่สุด เด็กหนุ่มซึ่งร้องไห้ออกมาแล้วถึงแม้ว่ายังไม่หยุดดิ้นก็ผลักอย่างแรงเสียจนชายแก่ล้มก้นจั้มเบ้าลงไปกับพื้น

ไม่ โทมัส!” นิวท์ตะโกนก่อนจะหันไปหาเพื่อนๆ ที่เอาตัวรอดหลบกระสุนกันอยู่อย่างอุตลุด “ห้ามเค้าไว้เร็ว!” เจ้าตัวว่า หากให้โทมัสไปเอวาจะถือไพ่เหนือกว่าที่เป็นอยู่และถึงแม้นิวท์จะไปเข้าห้ามเองก็คงจะรั้งโทมัสไว้ไม่อยู่เป็นแน่  จนสุดท้ายแล้วเป็นแอชที่แข็งแรงที่สุดวิ่งออกมาจากกลุ่มควันแล้วดึงรั้งโทมัสไว้ก่อนจะโดนต่อต้านอีก  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งจึงจำต้องจับเด็กชายทุ่งแสนดื้อรั้นคนนั้นขึ้นพาดบ่าโดยไม่สนใจคำทักท้วงหรือแรงทุบตีของเด็กหนุ่มที่กำลังร้องไห้เลยแม้แต่น้อย  โทมัสขอร้องแอชและร้องเรียกหามินโฮที่หมดสติไปแล้ว

“แอชปล่อยฉัน...ปล่อย! ได้โปรดเถอะ...ไม่!  มินโฮ! มินโฮฮ

แต่ถึงกระนั้นแอชที่เห็นใจอยู่สักเพียงไหนก็ไม่สามารถปล่อยโทมัสไปได้  จนกระทั่งเครื่องบินของวิกเก็ตทุกลำลอยลำขึ้นสู่น่านฟ้าแล้วบินหายลับไป  เด็กๆ ทุกคนจำได้ดีถึงใบหน้าที่เย่อหยิ่งของเอวาโดยที่มีเทเรซ่ายืนอยู่ข้างๆ และมินโฮ เพื่อนของพวกเค้าที่หมดสติไปโดยสิ้นเชิง.....

ในยามนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่แอชจะต้องกักขังโทมัสไว้อีกต่อไป  เด็กหนุ่มที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยมินโฮมองเครื่องบินที่พาเพื่อนของเค้าไปจนลับสายตา  เสียงใบพัดขนาดใหญ่  กระแสลมที่บาดเข้าดวงตาไม่สามารถสร้างความสั่นกลัวให้ร่างบางได้อีกต่อไป  แต่ความเสียใจและสูญสลายปรากฏชัดอยู่ในดวงตาของโทมัส  เค้าไม่เคยคิดเลยว่าหากไม่มีมินโฮต่อไปมันจะเป็นยังไง  เค้าจะกล้าหาญเหมือนเดิมได้ไหม

 โทมัสจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีมินโฮ

ชายหนุ่มร่างสูงกำยำคนนั้นเป็นคนสำคัญของเค้า

************************************************************************

รุ่งเช้า ทุกอย่างก็สงบลงอย่างแท้จริง  กองไฟหยุดมอดไหม้  คนตายกับคนเป็นถูกคัดแยกออกจากกัน  และคนที่เหลือรวบรวมทุกอย่างที่พอจะใช้ได้เพื่อนำไปใช้ต่อไป  ความเสียหายในครั้งนี้ทำร้ายความรู้สึกรวมทั้งขวัญและกำลังใจของใครหลายๆ คน  ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเช่นเดียวกับฟรายที่ไม่เก็บความสงสับนั้นไว้ เค้าถามมันออกไปอย่างท้อแท้

“ตอนนี้จะทำไงต่อ?” ถึงแม้จะไม่ได้บอกว่าเค้ารู้สึกแย่เพียงใดแต่ความเหนื่อยล้าและความเสียใจก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของฟราย ก่อนวินซ์จะบอกว่าถึงอย่างไรเค้าคงจะทำตามแผนเดิมคือพาเด็กหนุ่มสาวที่เหลืออยู่ไปที่ปลอดภัยแล้วเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง  แต่ทว่าโทมัสกลับพูดต่างออกไป

“ผมคงไม่ไปกับคุณนะ”

“อะไรนะ?” วินซ์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจพร้อมกับคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้น

“ผมให้สัญญาไว้กับมินโฮ ผมจะไม่ทิ้งเค้าไว้ผมจะกลับไปช่วยเค้า” โทมัสพูด ท่าทางลังเลของเค้าดูเหมือนเด็กที่เพิ่งจะหนีออกจากบ้านเป็นครั้งแรกแต่น้ำเสียงของเด็กหนุ่มก็แฝงไปด้วยความดึงดันไม่แพ้กันเลย

แต่วินซ์ก็พูดต่ออย่างทักทวง “เฮ้ ไอ้หนูมองความจริงหน่อยเราเพิ่งถูกวิกเก็ตเล่นงานมา  คิดดูว่านายต้องเจออะไรบ้าง” ชายซึ่งเป็นผู้นำแห่งไรต์อาร์มแจ้งให้เด็กผู้ชายที่กำสายสะพายกระเป๋าแน่นอยู่ตรงหน้า  บอกโทมัสว่าเค้าจะเจอสิ่งที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความวินาศเมื่อคืนนี้เป็นแน่ แต่นั่นกลับไม่ได้อยู่ในความสนใจของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

“ผมไม่ได้ขอให้ใครไปกับผม” เด็กหนุ่มคนเดิมพูด

“โทมัสฟังฉันพูดนะ ฉันรู้จักมินโฮมา...มานานมากเท่าที่ฉันจำได้ ถ้ามีทางไหนที่จะช่วยเค้านายเชื่อฉันได้ฉันจะขึ้นไปยืนอยู่ข้างนายเลย” นิวท์มองหน้าโทมัส  ไม่อยากจะเสียเพื่อนไปอีกคนหนึ่ง “แต่เรื่องที่นายกำลังพูดเนี่ยมันเป็นไปไม่ได้หรอก” ถึงแม้จะไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนหลังจากเพิ่งเจอเรื่องร้ายมาหมาดๆ เมื่อไม่นานมานี้มากแค่ไหนก็ตาม แต่นิวท์ก็ไม่เห็นว่าโทมัสจะมีทางเลือกมากไปกว่าอยู่เฉยๆ อีกแล้ว

และข้อนั้นแม้แต่ฮอร์เฮก็ยังเสริมทัพกับเค้าด้วย “ไปฆ่าตัวตายซะเปล่าๆ” ชายแก่เดินเข้ามาในวงสนทนาอันเริ่มจะอึดอัดเพราะความแน่วแน่ของโทมัส

“ก็อาจใช่ แต่ผมรู้ว่าผมควรทำอะไรตอนนี้” เด็กหนุ่มคนเดิมตัดบทอย่างนุ่มนวล เค้าคิดว่าทุกคนในที่นี่ไม่มีใครเข้าใจเค้าเลย  โทมัสเพียงแค่อยากจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ บอกทุกอย่างที่พวกเค้าควรรู้เอาไว้ก่อนจะสูดหายใจเข้าเล็กน้อย “มันไม่ใช่แค่มินโฮคนเดียว  มันเกี่ยวกับเราทุกคน...เกี่ยวกับทุกคนที่วิกเก็ตจับตัวไปและกำลังจะถูกจับ”

เด็กหนุ่มที่เคยเป็นที่รักของเอวาชี้ให้ทุกคนฉุดคิดขึ้นมา.....โทมัสไม่รู้ว่าก่อนถูกส่งเข้าไปในวงกตเค้าเคยทำอะไร  เคยสามารถทนมองดูเด็กหนุ่มสาวทุกคนถูกทรมานได้มากแค่ไหน  หรือว่าเคยเป็นที่รักของเอวาจริงหรือไม่  แต่สิ่งที่เธอทำนี้มันดูจะเกินไปเสียหน่อย  ผู้หญิงคนนี้เริ่มห่างไกลจากคำว่ามนุษย์มากขึ้นทุกที

“พวกเค้าจะไม่หยุด  เพราะว่าพวกเค้าไม่หยุดฉันจะหยุดมันเอง” โทมัสนึกถึงใบหน้ามินโฮในคืนแรกของพวกเค้าที่วงกตมฤตยูแสนจะอันตรายนั่น  และจูบแรกที่มินโฮยอมฝืนกฎของอัลบี้เพื่อจูบเค้า

“ฉันจะไปฆ่า เอวา   เพจ” โทมัสพูดขึ้น ไม่มีความขลาดใดแฝงไปทั้งสิ้น  ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนั่นคือคำตอบลึกๆ ในใจของทุกคน.....ต้องยอมรับ เจ้าหนูจอมหาเรื่องคนนี้พูดถูก

ทุกคนคิดเช่นนั้น ก่อนวินซ์จะถามถึงแผนการของโทมัส



.

.

.

*******************************************************

.

.

.

6 วันก่อนหน้านั้น

หลังจากที่สามารถเอาชีวิตรอดจากวงกตมฤคยูมาได้แล้ว เด็กๆ ทุกคนก็ถูกพาเข้ามาในสถานที่แห่งใหม่ที่ซึ่งเปรียบเสมือนปราการแข็งแรงแต่กลับดูน่าหดหู่อย่างประหลาด  เด็กชาวทุ่งจากวงกตมีความรู้สึกสับสนงุนงงไม่น้อย  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนออกมารับประกันว่าที่นี่ปลอดภัยและพวกเค้าสามารถอยู่ได้อย่างเป็นสุขไร้กังวลใดๆ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่มาถึงอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว  และพร้อมกันนั้นแจนสันยังไล่เด็กที่เหนื่อยล้าจากท้องทุ่งทุกคนให้ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดสะอ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอันแสนปรกติอีกด้วย

และเป็นการยากที่จะปฏิเสธน้ำอุ่นที่มีให้ใช้อย่างไม่จำกัดได้ตามใจตนเองอย่างนี้....

เด็กหนุ่มทุกคนต่างเดินแยกย้ายกันไปตามห้องอาบน้ำส่วนตัวของตัวเอง  เสื้อผ้าเก่าของพวกเค้าถูกทิ้งไปโดยไม่มีวันได้นำกลับมาใส่ใหม่  ซึ่งเรื่องนั้นแจนสันจะเป็นจัดหาเสื้อผ้าใหม่ที่ใส่สบายกว่ามาทดแทนให้    และจนกระทั่งเสียงเปิดน้ำดังขึ้นทุกห้องเมื่อเด็กหนุ่มทุกคนพร้อมใจกันรับความสดชื่นนั้นอย่างไม่อิดออด  ความรู้สึกสดชื่นในรอบหลายวันพุ่งปะทะใส่เด็กหนุ่มที่มีแต่คราบไคล หรืออาจจะพูดได้ว่าพวกเค้าไม่เคยรู้สึกสบายตัวเช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้  สายน้ำล้างเหงื่อไคลและคราบเลือดที่แห้งกรังออกไปจากเนื้อตัวจนหมดสิ้นและพวกเค้าก็ไม่ลืมที่จะอ้อยอิ่งอยู่กับสายน้ำที่แสนอุ่นสบายนั้นไปด้วย

ทุกคนดูชื่นชอบห้องอาบน้ำเล็กๆ นี้เป็นอย่างมาก  แต่ทว่ากลับมีเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่ไม่ใคร่จะใส่ใจสายน้ำอุ่นสบายกายนั้นเสียเท่าไรนัก  โทมัสก้มมองเลือดและเศษฝุ่นดินที่ไหลตามน้ำลงไปยังช่องระบายอย่างเหม่อลอย  ในใจเค้ากำลังครุ่นคิดอย่างหนักถึงท้องทุ่งที่เค้าเพิ่งจากมา...ความสูญเสีย  ความทรงจำ  เพื่อนพ้องที่ยังคงอยู่ในวงกต  และการตัดสินใจครั้งสำคัญของเค้า

เจ้าตัวเฝ้าถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าดีแน่แล้วหรือที่พาคนอื่นออกมาด้วยแบบนี้  ทำให้มีคนตายหลายต่อหลายคนในระหว่างทางของการปลดแอกนี้ของเค้า  และพวกผู้ใหญ่พวกนี้จะเชื่อถือได้ไหม  การเชื่อใจเป็นสิ่งที่โทมัสกลัวที่สุด....

แต่แล้วประตูห้องของเค้าก็ถูกเปิดออกอย่างไร้สุ่มเสียง พร้อมกับกายของใครบางคนที่เดินลอบเข้ามาด้านหลังเพื่อหวังไม่อยากให้โทมัสรู้ตัว และผู้มาใหม่ก็ทำสำเร็จ

กายน้อยๆ ที่มีน้ำใสสะอาดไหลย้อนลงมาตามซอกคอขาวผุดผ่องที่ได้รับการขัดถูมาอย่างดีแล้ว สะดุ้งจนตัวโยนเมื่อจู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนึ่งกดทับอยู่บนไหล่ของเจ้าตัว  โทมัสรีบปัดมือนั้นทิ้งไปก่อนจะหันกลับมามองว่าเป็นใครกันที่แอบเข้ามาในพื้นที่ของเค้าในเวลาแบบนี้

“เฮ้ ฉันเอง  ขอโทษนะฉันคงทำนายตกใจใช่ไหม?”

มินโฮ นะ นายนี่เอง” ร่างบางที่สะดุ้งตัวไปเมื่อครู่ได้รับการแถลงแล้วว่าใครกันที่มาเยี่ยมเยือนเค้าในตอนนี้  แต่ทว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก “มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?  นายไม่ควรเข้ามาที่นี่นะ”

ร่างสูงที่โดนสบตาด้วยกระพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมตัวไปเปิดน้ำด้านหลังโทมัสให้แรงขึ้น แล้วเข้าไปกระซิบข้างหูของเจ้าตัวอย่างแผ่วเบา “นายโอเคใช่ไหมโทมัส ฉันเห็นนายทำหน้าไม่ค่อยจะดีตั้งแต่เราเข้ามาแล้ว  ฉันเป็นห่วงนายนะ  เป็นอะไรรึเปล่า?”

“เปล่า ฉันแค่ยังสงสัยอยู่น่ะว่าที่นี่เป็นที่แบบไหน  เราไว้ใจทุกคนได้รึเปล่า” โทมัสกระซิบตอบ  เค้าพอเข้าใจในเหตุผลที่มินโฮเปิดน้ำให้แรงขึ้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามีอีกคนหนึ่งอยู่ในนี้ด้วย  และคำพูดของโทมัสก็ไม่แตกต่างไปจากมินโฮเลยร่างสูงเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตัวเค้าเองและเพื่อนๆ พอจะไว้ใจแจนสันได้รึเปล่า

ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วเพิ่งแค่ยิ้มบางๆ ออกมาประดับมุมปากเพียงเท่านั้น  ก่อนจะท้าวแขนตีกรอบไว้รอบตัวของโทมัส  อีกคนหนึ่งแปลกใจแต่ไม่ได้เสียงดังใส่เช่นยามเมื่อตื่นตระหนก  โทมัสเพียงแค่ดันอกมินโฮที่ยังคงชิดใบหน้ากับใบหูของตนเองเอาไว้เพียงเท่านั้น

“นี่มินโฮ  เดี๋ยวก่อน” โทมัสเบือนหน้าหนี  ก่อนร่างสูงที่โดนเรียกชื่อจะยอมชะงักอยู่ที่ข้างใบหูนิ่ม

มินโฮรอฟัง และปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวตกกระทบจนไหลเป็นสายลงมาตามลำคอแกร่งของเค้าที่เกิดจากการออกกำลังทุกวันอย่างไม่มีวันหยุด  ร่างสูงป้องกันการสาดกระเซ็นของสายน้ำให้แก่โทมัสที่อยู่ใต้ร่างของเค้า

“มันเป็นเรื่องของนิวท์” โทมัสเขยิบเข้าไปกระซิบข้างหูของคนตรงหน้า  ก่อนจะหันมาสบตาเรียวตามแบบคนเอเชียของมินโฮที่เกิดคำถามขึ้นอย่างเฉียบพลัน

“ฮะ?” มินโฮทำเสียงและทวนถาม  นึกไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เรื่องของนิวท์ถึงได้ถูกยกมาเป็นหัวข้อคุยได้  ก่อนโทมัสจะเม้มริมฝีปากเบาบาง บอกเตือนตัวเองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะมามัวลังเลใจอยู่อีกแล้ว

“เอ่อ คือฉันรู้แล้วนะเรื่องที่นายพูดกับนิวท์ในวันนั้นน่ะ” ร่างบางดูใจกล้าแล้วแต่ทว่ามันก็ยังคงไม่พอสำหรับมินโฮที่ไม่เข้าใจว่าโทมัสกำลังต้องการจะพูดถึงเรื่องอะไร ดังนั้นคนเริ่มหัวข้อจึงจำเป็นต้องขยายความอีก “วันแรกที่ฉันได้วิ่งเข้าไปในวงกตกับนายไง.....ที่นิวท์รู้เรื่องของเรา” คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนคนที่อยู่ใต้เงาของเค้าจะเอ่ยคำบอกกล่าวย้ำไปอีก

“วันนั้นที่เค้าคุยกับนาย  นิวท์เป็นคนบอกฉันเอง” พอมาถึงคราวนี้คนที่รอฟังอย่างรอคอยปนงงงวยก็ได้เกิดความประหลาดใจก่อนที่จะถอยหลังไปบ้าง  แต่ทว่าเค้าก็กลับมาตั้งตัวได้ทันแล้วทำหน้าประมาณว่าเค้าเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนักหนากับการแสดงความเป็นเจ้าของๆ ตัวเอง  มันก็เป็นแค่เรื่องที่มินโฮต้องทำเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจที่มีใครต่อใครมาหักห้ามสิทธิ์ของเค้าในตัวของโทมัส

คราวนี้โทมัสขบเม้มริมฝีปากอีกครั้ง คลายช่างใจว่าจะบอกดีไหมแต่กลับทำท่าอมยิ้มออกมาแทนเสียเอง  ร่างเล็กขยับเข้าไปใกล้มินโฮอีกครั้งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่โทมัสรู้สึกสนุก

“ที่จริงเค้าไม่ได้ชอบฉันหรอก นิวท์ไม่ได้คิดกับฉันมากเกินกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ  เค้าบอกฉันว่าตอนแรกที่เห็นฉันเค้าเป็นห่วงมาก...หึ เพราะฉันเอาแต่วิ่งสติแตกไปทั่วทุ่ง” โทมัสพูดกลั้วเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอไปด้วยก่อนจะกระซิบข้างหูเพื่อนร่างสูงอีกครั้ง “ความจริงแล้วเค้าชอบนายต่างหากล่ะ”



.



.



.



TBC.



------------------------------------------------------------------------------------------------



ห่ะ!! อะไรนะโทมัส เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะ!?

นั่นไงคะ ไรท์บอกแล้วค่ะว่าต้องอ่านให้จบเรื่องก่อน (แต่นี่ยังไม่จบนะเออ 555 มีอีกนิดหน่อยค่ะ) ตอนจบของภาคแรกในฟิคไรท์นิวท์ไม่ได้หัวเสียเพราะโทมัสค่ะ  แต่เป็นเพราะมินโฮต่างหาก.....นี่ มินโฮ  ตัวคิดไปเองคนเดียวล้วนๆ เลยนะ 55555555 //ว่าแล้วก็ลั่น...มือมินโฮลั่นโดนหัวไรท์ค่ะ TUT//  ก็นั่นแหละค่ะ เหตุที่ว่าทำไมนิวท์ นิ้วท์ถึงได้บอกให้มินโฮอยู่ให้ห่างๆ โทมัสเข้าไว้  555555  นุ้งนิวท์ต้องเป็นเคะเท่านั้นค่ะ  หน้าตากับหุ่นเพรียวบางแบบนั้นจะต้องเกป็นเคะที่ดีได้แนนอนเลยค่ะ ><  และเค้าคู่กะใครรีดก็น่าจะเดาออกแล้วใช่ไหมคะ  ครั้นจะเหาะไปหาอัลบี้ก็กระไรอยู่  จะลากพี่แกลงมาจากสวรรค์ก็เบียดเบียนค่ะ 5555555

แอชนี่หล่อและเหมาะสุดแล้วค่ะ ถึงแม้จิมโนเอาก็ตาม 555555  แต่ไรท์ก็คัดสรรมาอย่างดีเพื่อนุ้งนิวท์ นิ้วท์ของพวกเราค่ะรีดขาา  ฮาาาา  เดี๋ยวภาคต่อไปจิสาธยายถึงความหล่อเหลาของแอชค่ะ จะทำให้รีดเคลือบเคลิ้มค่ะ //เดี๋ยว...หนูอย่าลืมนะลูก พระเอกเรื่องนี้เค้าชื่อมินโฮจ้ะ  แอชในมโนหนูเป็นพระรองนะจ๊ะ -0-//  555555  แหม  กอดแท่นกันหล่อไปเลยค่ะทั้งสองคนนี้! 5555555  ฮี่ๆๆๆ

และ Part ต้องติดตามค่ะ เอ่อ...ถึงแม้ว่าไรท์จิลงล่าหรือไม่ล่า  ก็ต้องติดตามค่ะรีดๆ ขา! >< เดี๋ยวขาดทุนนะคะ Part หน่ห้ามพลาดค่ะ  มินโฮคงไม่ได้เข้ามาหาโทมัสเพียงเพื่อให้โทมัสบอกเรื่องน่าประหลาดใจกับเค้าแน่ค่ะ  หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ 555555555  โอ้ย พออออออ  โอเคค่ะ นี่เฟสไรท์ค่ะ

>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  คลิกเลยจ๊ะ  แฮ่ๆๆ

วันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามและรับชมค่ะ   ขอบพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ  รักเฟ่อร์เลยนะคะ ><

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



ไม่มีความคิดเห็น: