วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[SF – Fantastic Beasts] + [Part 1] Don’t Rape Me! - Percival x Credence





ฮร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!! สวัสดีค่ะรีดที่รักของไรท์ทุกท่านขาาาา ><  //จรดหน้าผากแนบตัก//  ไรท์ไม่รู้จะพูดยังไงเลยค่ะ  รู้สึกดีใจมากกกก ที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้งค่ะ (อนึ่งอยู่บนเวที)  ในที่สุดก็ได้กลับมาลงฟิคแล้วค่ะ หลังจากที่เอาแต่เวิ่นรั่วๆ ไร้สาระอยู่ในเฟสไปวันๆ หนึ่ง (เฟสไรท์  จิ้มฉึก แล้วไปคุยกันค่ะ 5555  >> แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด)

โอยยยยย แล้วไรท์ก็ต้านทานกระแสคู่จิ้น “ถึงร้ายก็ฟิน” ไม่ไหวค่ะ 555555  หลังจากที่ได้รับคำรบเร้าแล้วก็ซื้อตั๋วขึ้นเรือค่ะ....หลังจากนั้นก็ลอยคอเลยค่ะ  ไม่ลงและ  ไม่สามารถลงได้ค่ะ 55555 อร๊ายยยยยย  คุณเกรฟส์  ถอดเข็มขัดออกมาฟาดน้องซิคะ....เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ว 555555  ต้องถนอมน้องสิ น้องบอบบาง น้องเป็นคนไร้เดียงสา  ต้องการที่พึ่งง ><

            และที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือชื่อเรื่องค่ะ......

อะไรของเอ็งฟ้าาาาาา ?????  (รีดไปหาความหายนะคะ)  คือศูนย์สั่งการไรท์มันบอกอย่างนั้นเลยเขียนไปค่ะ 55555  มันบอกว่า อันนี้แหละแจ่มแต่สิ่งที่รีดกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้จะมีแต่สิ่งที่อ่อนโยนค่ะ  ไรท์รับรองได้เลย  ฮ่าา  //ผายมือ//  

อันที่จริงไรท์กะจะพูดถึงคนอื่นๆ อีกหลายคนด้วยค่ะ  แต่ว่าเอาไว้ในเรื่องยาวเนอะ เพราะรีดๆ จะได้เจอพวกเค้าทุกๆ คนเลยค่ะ ^^  ไรท์แอบบอกแล้วนะค้าาา 55555

ครีเดนซืผู้แสนใสซื่อและคุณเกรฟส์ผู้แสนจะมีมาดของเราจะเป็นอย่างไรในเรื่องเรียกน้ำย่อยนี้  ไปอ่านกันเลยค่าาาา

ปล. ฟิคในเรื่องนี้ถูกบิดเบือนจากฐานของความเป็นจริงจากในภาพยนตร์เล็กน้อย....เช่นเคยค่ะ  ให้ดูหนังแล้วขว้างมันทิ้งไป  ยึดฟิคของไรท์เป็นพอค่ะ  แล้วรีดจะเพลิดเพลินมาก  แต่เรื่องนี้ดูหลายๆ รอบได้ค่ะ  ยิ่งดูยิ่งดีต่อใจค่ะ 5555  (ไม่เหมือน The Hunger Game ที่ดูแล้วอย่าดูซ้ำ...เครียดค่ะ 55555  ให้ดูฟินนิคกับพีต้าพอ กรอดูแค่นั้น 55555)

โอเคค่ะ  เราไปกันเลยยยย >[]< //ขี้ไม้ปั๊มโถส้วม//



------------------------------------------------------------------------------------



“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอครับ คุณเกรฟส์?” เด็กหนุ่มที่ถูกทาบแผ่นหลังด้วยฝ่ามือใหญ่อบอุ่นเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยปนไร้เดียงสา  เมื่อเบื้องหน้าของเค้าคือบันไดวนสีดำสูงขึ้นไปยังที่ใดเจ้าตัวก็ไม่อาจรู้ได้

เพอร์ซิวัลหยุดตามเด็กน้อยผู้แสนว่าง่ายของเค้า แต่ไม่ได้มีทีท่าดุด่าแต่อย่างใด  ชายผู้มีวุฒิภาวะมากกว่าเพียงแค่ยิ้มบางตอบไปพอเป็นปริศนาเท่านั้น “เดี๋ยวพอถึงแล้วเธอก็จะรู้เองล่ะครีเดนซ์” เค้าว่าเพียงเท่านั้นก่อนจะออกแรงรุนหลังของครีเดนซ์ให้เดินขึ้นไปยังบันไดนั้นต่อไป

ครีเดนซ์ทำตาม  เด็กหนุ่มได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน  ตลอดทั้งทางเดินมีช่องหน้าต่างเล็กๆ คอยเปิดรับแสงอาทิตย์ยามเช้าเข้ามาด้วย และเค้าก็พบกับต้นตอของกลิ่นหอมอันพาให้สดชื่นนั้น...

ภายนอกนั้นคือท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ที่มีทุ่งหญ้าและดอกไม้ขึ้นลัดเลาะอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด  เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อและโลกทัศน์ที่ถูกบีบบังคับให้แคบมาตั้งแต่จำความได้นั้นอดไม่ได้เลยที่จะหยุดดูแล้วจ้องภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้  สายลมของความสดชื่นและกลิ่นเค็มของทะเลทำให้ครีเดนซ์รู้สึกถูกทำให้ลอยได้อีกครั้งนับตั้งแต่ได้รู้จักกับ เพอร์ซิวัล   เกรฟส์

เด็กหนุ่มที่วางนิ้วมือทั้งสิบลงบนขอบหินหนาของประภาคารส่งเสียงถามคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังไปหลายครั้งว่าที่นี่คือที่แห่งใดกัน  และสิ่งที่เค้าเห็นนั้นมันเป็นของจริงหรือไม่  เพอร์ซิวัลไม่ได้ว่ากระไรมากนักเพียงแค่ตอบคำถามและหัวเราะในลำคอประกอบไปด้วยเล็กน้อยเพราะเด็กหนุ่มของเค้ามัวแต่ตื่นเต้นจนลืมความขี้อายของตัวเองไปเสียสนิทเลยทีเดียว

“เอาล่ะ เราต้องไปกันแล้วนะครีเดนซ์” คนพามาก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูนิ่มอย่างอ่อนโยน  ทำให้คนถูกกระซิบต้องหดคอหนีแล้วเก็บซ่อนใบหน้าที่ขึ้นสีเพราะลมหายใจอุ่นร้อนนั้นเอาไว้อย่างจ้าละหวั่น

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นจนปวดหน้าอก  ในช่วงหลังๆ มานี้ครีเดนซ์ค้นพบว่าเจ้าตัวดูแปลกประหลาดไปมากแค่ไหนเมื่ออยู่กับคุณเกรฟส์ของเค้า 

ครีเดนซ์เดินต่อไปด้วยความเชื่อฟังอย่างถึงที่สุด  ใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็มาถึงที่หมายเพราะเส้นทางไม่ยาวไกลเท่าที่เจ้าตัวคาดไว้นัก  สถานที่ๆ เพอร์ซิวัลพามาถึงเมื่อสิ้นสุดบันไดนั้นคือห้องกว้างเปิดโล่งรับอากาศบริสุทธิ์ด้วยหน้าต่างกว้างสามบานที่มีผ้าม่านบางสีขาวพลิ้วไหวตามแรงลมของท้องมหาสมุทร

มันเป็นห้องที่น่าอยู่มาก  แต่ในคราแรกที่มาถึงนั้นครีเดนซ์ไม่กล้าเดินขยับตัวไปไหนเลย....เตียงนอนที่เค้ารู้จักเพียงหนึ่งเดียวคือเตียงคับแคบที่อยู่ในส่วนที่คับแคบพอๆ กันในบ้านหลังเก่าซึ่งดูทรุดโทรมของเค้า  เด็กหนุ่มไม่กล้าเดินเข้าไปสำรวจห้องที่สวยและน่าจับจองเป็นเจ้าของขนาดนี้หรอก

เดี๋ยวจะพาลอยากได้เอาน่ะสิ.....ครีเดนซ์คิดอย่างน้อยใจจนดูเหมือนจะตัดพ้อ  สิ่งที่เค้ามีหลายอย่างมักจะดูด้อยกว่าน้องสาวและพี่สาวบุญธรรมอยู่เสมอ  แต่ไม่ว่ายังไงพวกเธอก็ไม่มีวันได้อยู่ห้องสวยๆ แบบนี้หรอก  ครีเดนซ์แน่ใจได้.....แต่ทว่าตัวเค้าเองก็เหมือนกัน  ดังนั้นเจ้าตัวจึงทำได้เพียงแค่ยืนบีบนิ้วมือเข้าหากันไปมาด้วยความหงอยเหงา  สีหน้าของเค้าหงอลงเล็กน้อยและคอยเงี่ยหูฟังเสียงคลื่นทะเลที่พาให้ตื่นเต้นนั้นไปพลางๆ ปลอบใจตัวเอง

ในระหว่างนั้นเพอร์ซิวัลเดินไปสำรวจความเรียบร้อยรอบๆ ห้อง  เมื่อเห็นว่าเด็กที่พามาด้วยไม่ขยับเขยื้อนไปไหนจึงเดินวนกลับมาแล้วพูดใกล้ๆ เสียงไม่ดังมากว่า “เธอเป็นอะไรไป  ไม่สบายอย่างงั้นเหรอ?”

แต่เด็กหนุ่มที่ก้มหน้าชิดอกก็ส่ายหน้าช้าๆ ตอบกลับมา  ครีเดนซ์ไม่ค่อยเก่งนักเรื่องตอบคำถามและสู้หน้าคนอื่น  เค้าค่อนข้างติดลบเรื่องเรียบเรียงคำพูดในใจของตัวเอง

“แล้วเธอเป็นอะไรไปล่ะ?” ชายที่สวมชุดสูทมีผ้าพันคอคล้องห้อยลงมาดูสง่างามถามเสียงค่อนข้างเป็นห่วงอีกครั้งหนึ่ง  ก่อนความเงียบเพียงชั่วอึดใจนั้นจะทำให้เค้าคิดได้....โธ่  จะมีอะไรเสียอีกล่ะ

ดังนั้นหัวหน้ามือปราบมารจึงถอนหายใจอย่างอ่อนใจแล้วลูบหลังของครีเดนซ์ผู้เก็บไหล่ของตนเองเบาๆ “ไม่ต้องกลัว  ที่นี่ปลอดภัยและเธอไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น  ไปนั่งที่เตียงสิ” เค้าว่า “นั่นจะเป็นที่ของเธอนะ”  พร้อมทั้งแนะนำให้เด็กหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่แน่ใจให้ไปทำความคุ้นเคยกับห้องของตัวเอง

ครีเดนซ์ไม่ขัดคำอีกเช่นเดิม  เพอร์ซิวัลเดินตามไปนั่งอยู่เคียงข้างๆ แล้วบอกว่าต่อไปนี้ที่นี่จะเป็นห้องนอนของเค้า  และเค้าสามารถทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการได้เมื่ออยู่ที่นี่ 

นั่นทำให้ครีเดนซ์หัวหมุน  เค้าไม่รู้จักคำว่าทำตามอำเภอใจตัวเองเป็นเช่นไร  จึงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป  แต่ถึงกระนั้นคนพามาก็กระพริบตาจุดความคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง แล้วพูดกับครีเดนซ์เบาๆ อีกครั้ง “ถอดเสื้อออกสิ” เด็กหนุ่มห่อไหล่  ขยับใบหน้าไปมาเลิกลักแล้วก้มมองพื้น

แต่เพอร์ซิวัลก็ไม่ได้ขยายความอะไรต่อ  เด็กน้อยที่ไม่รู้ถึงความหมายจึงจำใจต้องทำตามที่อีกคนหนึ่งบอก.....ครีเดนซ์ไม่มีความต้องการอยากเป็นที่ไม่พอใจของเพอร์ซิวัลเลยแม้แต่น้อย  สิ่งที่เค้าพยายามก็คือเป็นเด็กดีที่สุดในสายตาของอีกฝ่ายหนึ่ง  ดังนั้นความรู้สึกนั้นจึงผลักดันให้มือเรียวขาวถอดร่นเสื้อนอกไปด้านหลัง แต่แล้วจู่ๆ ผู้ใหญ่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็พูดขึ้นมาอีก

หลับตาด้วย” ครีเดนซ์สะดุ้ง มีเสียงอึกอักในลำคอดังเล็ดรอดออกมาเล็กน้อยเพราะตกใจ  แต่ก็ยอมทำตามอย่างแสนซื่อ  เค้าคลำหากระดุมอยู่นานเนื่องจากหลับตาอยู่ จึงเป็นการยากเล็กน้อยที่จะหาตัวกระดุมให้เจออย่างรวดเร็ว  เด็กหนุ่มประหม่ามากเกินไปจึงทำให้ตัวเองค่อนข้างเงอะงะ  ดังนั้นร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจึงเอื้อมมือขึ้นมาช่วยปลดให้ทีละเม็ดอย่างใจเย็น  เค้าทำแม้กระทั่งถอดเสื้อตัวในออกมาให้ครีเดนซ์ด้วยตัวเอง

เนคไทด์ของเด็กหนุ่มถูกปลดออกมาและวางไว้ข้างๆ เตียง  ก่อนคนปลดมันจะเปลี่ยนใจไปมัดไว้ที่ปลายเตียงอีกฝั่งหนึ่งแทน

เพอร์ซิวัลขยับเข้าไปใกล้ชนิดที่ว่าประชิดติดตัวกับเด็กน้อยแล้วค่อยๆ โอบกอดให้อีกคนหนึ่งเอนกายมาซบกับอกของเค้า  ครีเดนซ์หายใจหนัก  มันแรงมากจนไม่ต้องพูดถึงคำว่าพยายามปกปิดเลยแม้สักนิด  ครีเดนซ์ประหม่าเกินไปอีกครั้งและตัวของเค้าก็สั่น เนื่องจากกำลังตื่นเต้นมากนั่นเอง

แต่เพอร์ซิวัลใจเย็นกว่านั้น  ชายผู้มีความเก่งกาจและเคร่งขรึมลูบฝ่ามือไปตามแผลหลัง และหัวไหล่มนของเด็กหนุ่มเพื่อรักษาแผลของความบอบช่ำที่แมร์รี่ ลู  แบร์โบน แม่เลี้ยงของเด็กหนุ่มได้ทำทิ้งเอาไว้  เธอทำร้ายครีเดนซ์ด้วยความไร้เหตุผลอย่างไม่น่าให้อภัย  และนั่นคือหนึ่งในเรื่องทั้งหมดที่เค้าปิดบังครีเดนซ์...

เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเค้าลบความทรงจำของครีเดนซ์  ร่างสูงลบแมร์รี่ ลู ออกไปจากหัวของเด็กหนุ่ม รวมทั้งเรื่องที่ตัวเองเป็นออปส์คูเรียลด้วย...ครีเดนซ์ไม่ควรได้รับรู้ว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้น  เพราะถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก  เนื่องจากทางมาคูซ่าประการจับตัวเค้าอย่างเป็นทางการไปทั่วประเทศแล้ว  และในตอนนี้การลบความทรงจำและพาหลบออกมาให้ห่างไกลจากผู้คนก็ทำให้ครีเดนซ์ปลอดภัย 

อย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดเค้าก็ทำให้เด็กหนุ่มลืมไปแล้วว่า เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ คนนี้เคยโกหกเพื่อหลอกใช้เจ้าตัวมาก่อน

มันเป็นการเริ่มต้นที่ผิดพลาด  เป็นการเริ่มต้นที่เลวร้ายหลังจากที่เพอร์ซิวัลพบว่าเค้ารู้สึกเช่นไรกับเด็กที่น่าสงสารอย่างครีเดนซ์  เค้าเพียงแค่อยากเก็บเด็กหนุ่มไว้  ทะนุถนอมไม่ทำให้เจ็บช้ำอย่างเช่นที่เคยผ่านมา  เมื่อลบล้างความทรงจำเพอร์ซิวัลจึงหลงเหลือไว้เพียงแค่ความรู้สึกดีๆ ของเด็กหนุ่มที่มีให้ต่อเค้าเท่านั้นพอ

เมื่อรักษาแผล เพื่อไม่ให้เจ้าของต้องนึกหาที่มาของมันกับตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย  ร่างสูงจึงจำต้องทำให้รอยตำหนินั้นหายไปซะ  เพอร์ซิวัลสวมเสื้อกลับคืนให้ครีเดนซ์อย่างเบามือ  เด็กหนุ่มยังคงหลับตาปี๋และหายใจเข้าออกแรงมาก  ทุกครั้งที่คุณเกรฟส์โดนตัวเค้าจะสั่นอย่างหาสาเหตุมิได้  และเพอร์ซิวัลก็พูดขึ้นในที่สุด

“เอาล่ะฉันต้องไปแล้ว  ลืมตาขึ้นมาสิ” พูดทิ้งท้ายและโปรยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนอีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบเหลือเชื่อ  แต่ก็แว่วได้ยินเสียงเล็กๆ ที่บ่งบอกถึงความกล้าๆ กลัวๆ ของอีกคนหนึ่ง เค้าจึงชะงักเท้าแล้วหันหน้ากลับมา

“บะ บ๊าย บายฮะคุณเกรฟส์” พร้อมกับโบกมือน้อยๆ อย่างที่เคยเห็นคนอื่นบนถนนทำกันเมื่อยามจากลา  เมื่อเห็นดังนั้นเพอร์ซิวัลจึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ แล้วเอ่ยกลับไป

“แล้วเจอกันครีเดนซ์” พูดเสียงนุ่มพร้อมกับวาดยิ้มน่าประทับใจให้ก่อนจะเดินลงไป

เด็กหนุ่มรีบเดินตามมา แต่คนที่เค้าแสนไว้ใจก็หายไปเสียแล้ว  หายไปได้อย่างไรครีเดนซ์ก็สุดรู้  และในตอนนั้นเองเจ้าตัวก็เพิ่งคำนึงขึ้นได้ว่าเค้าจะอยู่อย่างไรหนอในที่สวยงามแต่กลับอ้างว้างผู้คนเช่นนี้

แต่ไม่นานก็เลิกคิดไปได้เลย  เมื่อมีหลายสิ่งในห้องให้เค้าได้ค้นพบและเรียนรู้  มีหนังสือมากมายกับอะไรหลายอย่างที่เจ้าตัวไม่เคยได้เห็น   และเมื่อถึงเวลาอาหารเด็กหนุ่มก็ได้กลิ่นอาหารหอมฉุยลงมาจากด้านลง  พอไปถึงก็พบเข้ากับโต๊ะอาหารขนาดหนึ่งทีและอาหารหน้าตาน่าทานตั้งรออยู่ข้างล่างแล้ว

เพอร์ซิวัลมักจะมาหาเด็กหนุ่มบ่อยๆ เพื่อพูดคุยถามไถ่  และคอยฟังเรื่องเล่าของเด็กน้อยของเค้าว่าไปพบเจอหรืออ่านพบอะไรในหนังสือมาบ้าง  มือปราบมารรับฟังอย่างเพลิดเพลินและเอ็นดูครีเดนซ์ที่เปลี่ยนกลายไปเป็นอีกคนหนึ่ง  ผิดจากเด็กหนุ่มที่เก็บกดและขี้อายจากเมื่อก่อนนี้ไปโดยสิ้นเชิง

วันนี้ก็เช่นกัน  ครีเดนซ์กำลังเล่าว่าเค้าเจอดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่ป่าใกล้ประภาคาร “ผมวิ่งเข้าไปในป่าครับ  แล้วก็เจอมัน” เด็กหนุ่มชูก้านดอกไม้หนาที่ดูแข็งแรงขึ้นมาให้ดู  แต่แล้วเพอร์ซิวัลก็ต้องขมวดคิ้วแน่น

“ครีเดนซ์อย่าเข้าไปเล่นในป่าสิ  ฉันไม่ได้บอกเธอรึไง” เป็นเพราะความกังวลและร้อนรนมากเกินไปเลยทำให้เสียงนั้นฟังดูห้วนไปจากปรกติ

เด็กหนุ่มเมื่อได้ฟังอย่างนั้นก็หน้าเสีย  รีบโยนดอกไม้ทิ้งแล้วตัวสั่น “ผมขอโทษครับคุณเกรฟส์  ผมขอโทษ  ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว...อยะ อย่าโกรธผมเลยนะฮะ” เด็กน้อยหดขาขึ้นมาบนเตียงที่เจ้าตัวกำลังนั่งอยู่แล้วกอดเข่าเข้าหากันอย่างน่าสงสาร  เสียงเศร้าหมองนั้นพร่ำออกมาเบาๆ “ได้โปรด อย่า...อย่าตีผมเลย คุณเกรฟส์  ฮึก  อย่าตีผม” เพราะเค้าเคยโดนแม่ทารุณอย่างร้ายกาจมาก่อน “อย่าตีผมเลย”

จิตใจของครีเดนซ์นั้นบอบบาง  เมื่อมีคนฉุดรั้งเค้าขึ้นมาจากก้นเหวได้ก็เป็นเรื่องที่ดีกับเด็กหนุ่ม แต่ถ้าหากไปสะกิดโดนร่องรอยเก่าของความทรงจำแย่ๆ เข้าก็สามารถทำให้เด็กหนุ่มเปราะแตกได้ด้วยเช่นกัน

เพอร์ซิวัลขมวดคิ้วแน่นแล้วตำหนิตนเอง เค้ามองดูเด็กน้อยที่ถอยกรูไปติดมุมเตียงแล้วกำมือสองข้างแน่นราวกับว่าถูกมัดด้วยเชือกเส้นใหญ่

“ไม่ ครีเดนซ์” ร่างสูงกล่าวด้วยความเห็นใจเสียงโอนอ่อน “ฉันจะไม่ทำอะไรเธอทั้งนั้น  ฉันแค่เตือนไว้ เพราะถ้าคราวหน้าฉันไม่อยู่ด้วยมันอาจมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น” เธออาจไม่ได้กลับมาที่นี่อีก...เค้าอยากพูดคำนี้เหลือเกินแต่นั่นจะยิ่งทำให้ครีเดนซ์กลัว  มือปราบมารเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่สั่นหงึกๆ มองเค้าด้วยความรู้สึกผิด  เพอร์ซิวัลเอื้อมมือขึ้นไปลูบเรือนผมเงางามที่เริ่มยาวนั้นและครีเดนซ์ก็เอียงศีรษะเข้าหา พร้อมเบะปากร้องไห้อย่างสุดกลั้น

“ผมขอโทษครับคุณเกรฟส์  อึก...ผมขอโทษ...”

“ชู่  ไม่เป็นไรเด็กน้อย  เธอไม่ได้ผิด เข้าใจไหม เธอไม่ผิดอะไรเลย...ไม่เป็นไร  เงียบซะ” เพอร์ซิวัลดึงครีเดนซ์เข้ามากอดไว้แล้วลูบเนื้อตัวที่หวาดวิตกต่อความผิดนั้นเบาๆ อย่างปลอบประโลม 

ครีเดนซ์ยังคงมีท่าทีหวาดกลัวอยู่เหมือนเดิมถึงแม้จะถูกลบความทรงจำไปแล้ว  ถ้าเพอร์ซิวัลอยู่ด้วยตลอดเวลาก็คงจะดี  อาการแบบนี้คงจะได้หายไปในไม่ช้า  แต่ทว่ายังมีอีกหลายอย่างในโลกของความเป็นจริงอันแสนห่างไกลจากที่นี่ที่ค้าต้องจัดการ

“อยะ...ฮึก...อย่าทิ้งผมไปเลยนะ  ผมสัญญาจะไม่ดื้อ  ผมสัญญาจะเป็นเด็กดี  จะไม่ทำอะไรให้คุณเดือดร้อน  ฮึ ฮือ...อย่าทิ้งผมไปเลย  ฮื้ออ” ครีเดนซ์ทิ้งน้ำหนักตัวขดอยู่ในอ้อมกอดของมือปราบมารและร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กน้อย

“ชู่...ไม่  ครีเดนซ์  ไม่ มันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนฉันรับรอง” พ่อมดผู้มีความเก่งกาจเหนือใครในมาคูซ่ากระซับอ้อมกอด  เค้าเกยคางกับเรือนผมของเด็กหนุ่มแล้วใช้มือลูบปลอบไปมา  ดวงตาของเค้าหลุบอยู่ใต้เปลือกตานั้นของตัวเอง

ครีเดนซ์คลายมือที่กำแน่นออกแล้วเปลี่ยนมาเป็นขยำอกเสื้อของอีกคนหนึ่งแทนอย่างหวงแหน  เจ้าตัวจะต้องรู้สึกสลายไปทั้งใจแน่นอนหากได้จากกับเพอร์ซิวัลไปจริงๆ  ทุกสิ่งที่เค้าเหลืออยู่มีเพียงแค่ชายผู้อารีด้วยความอบอุ่นคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น และครีเดนซ์ยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้รับเศษเสี้ยวไออุ่นจากอ้อมกอดนั้นโดยไม่ต้องสงสัยเลย

ผ่านไปครู่หนึ่งได้กว่าเสียงสะอื้นของเด็กหนุ่มจะสงบลง  เพอร์ซิวัลยังคงไม่คลายวงแขนไปไหนก่อนจะผุดคำถามขึ้นมาอย่างไร้การส่งสัญญาณ “เธออยู่ที่นี่แล้วมีความสุขไหมครีเดนซ์?” เสียงของเค้าทุ้ม เนิบช้าและให้ความรู้สึกปลอดภัยได้เสมอ  ครีเดนซ์ขยี้ใบหน้าบนเสื้อกั๊กเนื้อดีที่เริ่มแห้งจากคราบน้ำตาแล้ว

“มีฮะ  ผมมีความสุข” เด็กน้อยตอบอย่างสัจจริงเพราะความบริสุทธิ์

ที่นี่มีอาหารอร่อยๆ ยิ่งกว่าเค้าตัวเค้าเองจะคาดฝันได้ให้ทานครบสามมื้อแถมมีของว่างระว่างวันอีกต่างหาก  มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่  มีสภาพแวดล้อมสวยงามให้ตื่นตาตื่นใจ  และเตียงนอนนุ่มๆ ที่ทำให้ตื่นสายอยู่เกือบทุกวัน  เท่านี้ครีเดนซ์ก็คิดว่าตัวเองโชคดีเกินกว่าเด็กคนอื่นๆ ที่เจ้าตัวเคยพบแล้ว  หากแต่สิ่งที่เค้าต้องการที่สุดคือการได้อยู่กับคุณเกรฟส์ที่รักของเค้า

เพอร์ซิวัลกระพริบตาเชื่องช้า “เธอชอบมันไหม?”

เด็กหนุ่มเงียบ แต่ร่างสูงที่ให้ที่พักพิงก็รู้สึกถึงศีรษะที่เงยขึ้นมามองเค้าอย่างนึกฉงน

“ทั้งหมดนี่น่ะ” เค้าต่อให้  

ชอบครับ” ครีเดนซ์ตอบอย่างรวดเร็ว “ที่นี่มีทุกอย่างที่ผมไม่เคยเห็น  มีดอกไม้  มีทะเล  แล้วก็มีเปลือกหอย  เมื่อวานนี้มีอีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะบนหินใกล้ๆ กับผมในสวนด้วย  มันตัวใหญ่มากเลยครับคุณเกรฟส์  ผมมองมัน  ไม่กล้าขยับไปไหนเลย  แต่มันก็แค่มองผมเฉยๆ แล้วบินหนีไปผม...” ครีเดนซ์ยังชั่งใจว่าจะพูดดีไหมแต่เค้าไม่ควรมีความลับกับคุณเกรฟส์ของเค้า  “...ตกใจมากเลยครับ” เด็กหนุ่มบอกถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญที่สุดตั้งแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่ให้ฟังด้วยความไหลลื่น

“ยังงั้นเหรอ  เป็นอีกาหรอกเหรอ  เธอจะทำยังไงล่ะถ้ามันไม่บินหนีไป” เพอร์ซิวัลวาดยิ้มถาม  นึกอยากลองแกล้งเด็กน้อยของเค้าดูบ้าง  ครีเดนซ์เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบออกมาตรงๆ ว่า

“ผมจะรอจนกว่าคุณจะกลับมา” เสียงนั้นฟังดูหดหู่และแสนซื่อ  มันทำให้ร่างสูงหัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้เลย.....จะนั่งรอเค้าจนกว่าจะมา เพื่อมาไล่อีกาให้เนี่ยนะ  โธ่ ครีเดนซ์

“ผมพูดจริงๆ นะ” เมื่อเห็นท่าว่ากำลังถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก  เจ้าของเหตุการณ์ลุ้นระทึกก็พลิกตัวกลับมาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังป่านน้ำเสียงของตนเอง

“โอเคๆ ก็ได้  แน่นอนมันจะเป็นอย่างนั้นครีเดนซ์” เพอร์ซิวัลยกมือขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงว่าเด็กหนุ่มถูก “และฉันจะบอกนะว่าถ้าเธอเจออะไรแบบนั้นอีกก็แค่ยื่นมือออกไป” แขนแข็งแรงของพ่อมดเหยียดตรงให้ดูเป็นตัวอย่าง “แล้วก็โบกมือไล่มันออกไปเท่านั้นพอ” เค้าโบกมือและทำเสียงไล่ “ทำเหมือนว่ามันเป็นนกพิราบสิ”

“แต่มันเป็นอีกานะฮะ” ครีเดนซ์มีดวงตาที่กลมโตและเจ้าตัวแก้ให้ตามความเป็นจริง

“เอ่อ  นั่นมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” เพอร์ซิวัลส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ไม่นึกเลยว่าเค้าจะถูกยอกย้อนด้วยความไร้เดียงสาของอีกคนหนึ่ง

วันนี้ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยของมาคูซ่าไม่ดูรีบร้อนเหมือนทุกๆ วันที่เค้าเพียงแค่แวะมาดูหน้า มาพูดคุยกับเด็กหนุ่มแล้วก็กลับไป  เพอร์ซิวัลอยู่กับครีเดนซ์จนเด็กหนุ่มผล็อยหลับไปในตอนกลางคืน  เค้าเองก็อยู่ตรงนั้น ส่งครีเดนซ์ในอ้อมกอดเข้านอนแล้วสูดดมกลิ่นหอมจากตัวของอีกคนหนึ่งและใช้ความคิดอย่างเรื่อยเปื่อยอยู่นานก่อนจะลุกขึ้นมาอย่างอ่อนโยนโดยไม่ให้เจ้าของห้องนี้ตื่นตามมา

เพอร์ซิวัลสวมเสื้อโค้ทแล้วคล้องผ้าพันคอตามลงมาเป็นอย่างสุดท้ายเตรียมตัวกลับเข้าสู่ความหนาวเหน็บของมหานครที่เค้าจากมาอีกครั้ง  แต่แล้วก็หันย้อนกลับไปมองเด็กหนุ่มที่นอนทาบแก้มใสปลั่งกับหมอนขนเป็ดสีฟ้าอ่อนอย่างดูสบายก่อนขาของเค้าจะพาตัวเองก้าวเข้าไปหาและทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ อย่างแผ่วเบาเช่นในตอนแรกที่ผละออกมา  มือหนาที่คอยโบกสะบัดไม้กาลสิทธิ์อย่างเด็ดขาดนั้นยกขึ้นเกลี่ยปอยผมที่หล่นลงมาปรกหน้าของเด็กหนุ่มเพื่อกันรำคาญ  เพอร์ซิวัลยกผ้าห่มขึ้นมาสูงอีกหน่อยหลังจากที่ห่มคลุมให้แล้วในตอนแรก

“คุณเกรฟส์...” เสียงครีเดนซ์เปล่งออกมาแผ่วเบาราวกับกระซิบ เป็นเหตุให้คนดูแลชะงักมือที่กำลังจับขอบผ้าห่มนั้นลง แต่เพียงชั่วครู่เดียวเค้าก็รู้ว่าเด็กหนุ่มเพียงแค่ละเมอเท่านั้น  เพอร์ซิวัลหลุบตาต่ำ  ลูบศีรษะของครีเดนซ์แล้วก้มลงจูบมันอย่างแสนห่วงหา

เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเด็กน้อยของเค้าได้อีกแล้วเพราะเค้าจะปกป้องครีเดนซ์เอง  การกีดกันเด็กคนนี้ออกจากโลกภายนอกเป็นความตั้งใจของเค้าเองที่ไม่อยากเห็นอีกฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บปวดหรือโดนรังแกอีก  แต่ครั้นจะให้เป็นอย่างนั้นจริงโดยอยู่ร่วมกับผู้ที่ชอบดูถูกคนอื่นในสังคมมือปราบมารก็ยุ่งเกินไปที่จะสามารถปล่อยครีเดนซ์เอาไว้คนเดียวได้

อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในช่วงนี้

ดังนั้นเค้าจึงจำเป็นต้องพาเด็กหนุ่มออกมาให้ไกลหูไกลตาผู้คนเสียก่อน

และในเวลาต่อมาคุณเกรฟส์เดินเข้าไปในป่าซึ่งอยู่ถัดไปจากทุ่งดอกไม้ล้อมรอบประภาคาร  ภายในนั้นมืดสนิท ไม่มีแสงสว่างใดเลย แม้แต่ดวงจันทร์ก็ไม่อาจทำให้อะไรดูดีขึ้นได้  ร่างสูงไม่ประหวั่นถึงสิ่งใดแม้มืดมิดดั่งเดินทางเยี่ยงคนตาบอด  เค้าเดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ ในมือถือไม้กายสิทธิ์ไว้ข้างลำตัวดูไม่ตื่นตัวเท่าที่ควรเลยเมื่อเข้าป่าที่เงียบสงัดเช่นนี้  เค้าหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเบนฝีเท้าไปทางซ้าย  ลึกเข้าไปอีกจนกลัวว่าอาจจะหลงทางเอาได้หากแต่ไม่ใช่กับ เพอร์ซิวัล   เกรฟส์ คนนี้  ทุกฝีเก้าเค้ามั่นใจ ราวกับว่ากำลังเดินตามรอยเท้าสัตว์ใหญ่อยู่ในที่โล่งแจ้ง

รองเท้าหนังตัดเย็บอย่างดี ไม่เหมือนใครเหยียบลงไปบนพื้นที่นิ่มยวบของดิน  สอดส่องสายตาผ่านเมฆไม้แล้วสะบัดไม้กายสิทธิ์อย่างฉับไวครั้งหนึ่ง ปรากฏเป็นแสงเรืองวาบไปทั่ว  หากครีเดนซ์ที่หลับอยู่มองมาทางนี้ก็จะสามารถเห็นมันได้อย่างไม่ยากนักจนกลายเป็นชัดเจนไปเลย

เพอร์ซิวัลเดินเข้าไปใกล้ซากไหม้และแข็งของสัตว์ชนิดหนึ่ง  เค้าพิจารณามันแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อตัวเองคิดถูก

ที่นี่ไม่มีอีกาเค้ามั่นใจได้เพราะเป็นคนเลือกที่นี่ด้วยตัวเอง  และอีกาที่อยู่บนเกาะห่างไกลผู้คนจะต้องไม่มีเศษหนังสือพิมพ์ติดอยู่บนเท้าแฉะๆ ของมันแน่.....ไม่มีทางที่นกจากถิ่นอื่นจะบินมาถึงที่นี้ได้ด้วยปีกของมันเอง และมันมีสัมผัสของเวทมนต์

เพอร์ซิวัลส่ายหน้าช้าๆ หากโชคดี  มันคงยังไม่ทันได้คาบข่าวไปบอกคนที่ส่งมันมาหรอกนะ...



**************************************************************



มีเวลาไม่มากอีกแล้ว  มือปรามมารจึงจำต้องกลับไปยังมหานครนิวยอร์คแล้วสะสางงานที่ยุ่งเหยิงให้เสร็จ  เมื่อหลายวันก่อนเค้าหักหลังกรินเดนวัลด์และเปิดโปงจอมวายร้ายที่ยื่นข้อเสนอขอความร่วมมือจากเค้าจนไม่มีความผิดติดตัว  อีกฝ่ายหนึ่งพยายามแบ่งปันความผิดมาให้เค้าบ้าง  แต่กรินเดนวัลด์ร้ายเป็นคนเดียวเสียเมื่อไรล่ะ...

เพอร์ซิวัลก็แค่ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ  และเค้าเบื่อแล้วกับการร่วมมือกับผู้ใช้ศาสตร์มืด  เมื่อพบครีเดนซ์ความว่างเปล่าในใจของเค้าก็หายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยใบหน้าอันแสนจะเศร้าหมองแต่ขี้อายของเด็กหนุ่มคนนั้น  ร่างสูงจึงเลือกที่จะส่งตัวกรินเดนวัลด์ให้มาคูซ่าและฉวยโอกาสนี้ลบความทรงจำของครีเดนซ์ในตอนที่เด็กหนุ่มยังไม่ได้สติจากการสลายตัวของออปส์คูรัส แล้วพามาที่ประภาคารซึ่งตั้งอยู่ในท้องทะเลอันไกลโพ้นแห่งนี้

พ่อมดผู้เมินเฉยต่อคำสาปแช่งของกรินเดนวัลด์ ร่ายคาถาคุ้มกันให้ประภาคาร  และครีเดนซ์จะปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่ในเขตอารักขาของเค้า  แต่ทว่าข้อจำกัดสิ้นสุดอยู่ที่เขตป่าใหญ่ใกล้ทุ่งหญ้าถัดจากประภาคารไปเท่านั้น  หากแผ่ขยายวงกว้างเกินไปอาจทำให้คาถาเบาบางและไม่สามารถคุ้มกันครีเดนซ์ได้อย่างเท่าที่ควร  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจำกัดพื้นที่ของเด็กหนุ่มในยามที่เค้าไม่ได้อยู่ด้วย

และอีกไม่นานเมื่อเค้าเคลียร์ปัญหาทุกอย่างเสร็จ  เมื่อส่งกรินเดนวัลด์เข้าคุกไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันได้อีกก็อาจจะมีเวลาอยู่กับครีเดนซ์เพิ่มมากขึ้น

เพอร์ซิวัลยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกน่าสนใจแล้วเดินเข้าไปในสำนักงานแห่งมาคูซ่า  และเพิ่งคิดได้ว่าอีกไม่กี่วันเค้าก็จะมีวันหยุดแล้วนี่นะ



******************************************************************



“แกออกไปซ่าที่ไหนไม่ได้แล้วล่ะคุณกรินเดนวัลด์ที่เคารพ  แล้วอีกไม่นานแกก็จะต้องได้ชดใช้ที่ทำให้พี่น้องมือปรามของเราต้องตาย” มือปราบมารฝีมือฉกาจฉกรรจ์คนหนึ่งว่าเสียงกรรโชกลอดไรฟัน ก่อนจะจับคอเสื้อของบุคคลดังกล่าวไว้แล้วลากขึ้นไปบนรถม้า

แต่ชายผู้มีผมสีขาวและชื่นชอบการเข่นฆ่ามือปราบมารตัวแข็งขืนไม่ยอมตามไปแต่โดยดี  ทว่าใบหน้าของเค้ากลับสงบเยือกเย็นและเหมือนจะมีแผนร้ายผุดพรายออกมาได้ตลอดเวลา  พ่อมดผู้หลงใหลในศาสตร์มืดฝืนตัวขัดขืนกับผู้คุมก่อนจะกวนประสาทด้วยการแสยะยิ้มอย่างเปรมปรี  และในโอกาสนั้นเองเค้าก็กระแทกศอกใส่มือปราบด้านหลังจนเป็นอิสระจากการจับกุมในที่สุด

จับมันไว้!” คนที่จุกเพราะโดนศอกหนักๆ ของกรินเดนวัลด์ตะโกนบอกเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างหลัง  และไม่ต้องให้เร่งซ้ำเลย มือปราบสามคนก็ดักหน้าพ่อมดที่บัดนี้โดนยึดไม้กายสิทธิ์จนไม่เหลือเวทมนต์ใดแล้วแต่ก็ยังมีฤทธิ์อยู่ได้

“มานี่เลยไอ้ตัวปัญหา” คนหนึ่งว่าเอาไว้ ก่อนจะเข้าไปลากตัวนักโทษขึ้นไปบนรถม้าจริงๆ  แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นกรินเดนวัลด์ก็อ้ามือที่โดนใส่กุญแจมือออก  กางมันให้ขยายสัมผัสกับอากาศ  ดูเหมือนเค้ากำลังจะปล่อยอะไรบ้างอย่างให้เล็ดรอดออกไปผู้คุมที่กำลังพยายามลากเค้าให้ขึ้นไปบนรถม้า

ไม่  ไม่ใช่  แต่ทว่ามันกลับว่างเปล่า....

“ฤทธิ์เยอะนักนะ ขนาดถูกระงับเวทมนต์แล้วแกยังคิดอีกเหรอว่าจะหนีไปได้น่ะ” มือปราบมารปิดประตูเหล็กหนากระแทกใส่นักโทษที่เค้าแสนจะชิงชัง  ชายผู้ฝักใฝ่ในศาสตร์มืดนั่งอยู่ภายในรถม้าคุมขังอย่างสงบเงียบอยู่เพียงผู้เดียว  ไม่ได้มีทีท่าต้องการความเป็นอิสระอย่างเช่นในตอนแรกแล้ว  เค้าเงยหน้าขึ้นมาแล้วทอดสายตามองออกไปยังผนังอีกด้านหนึ่งของรถม้าที่ดำมืดตรงหน้าของตัวเอง

มันเป็นมนต์ครั้งสุดท้ายของเค้า  นกของเค้าบินกลับมาส่งข่าวแล้วเมื่อวานนี้  และคำบอกเล่าก็ทำให้พ่อมดผู้แสนเจ้าเล่ห์ถึงกับประหลาดใจไปเลยทีเดียว...

เด็กหนุ่มที่ถูกหลอกใช้คนนั้นคือคนสำคัญของเจ้าคนจอมหักหลังนั่นเองหรอกหรือ

กรินเดนวัลด์ยิ้ม  ก็น่าสนุกดี.....มนต์ล่อลวงที่บิดเกลียวไปด้วยความเป็นจริงของเค้ากำลังโบยบินไปหาครีเดนซ์แล้ว  และไม่ว่าคาถาคุ้มกันของคนทรยศนั่นจะแน่นหนาเพียงใดแต่มันก็คงจะไม่ยากเกินไปนักที่ความแสนเจ้าเล่ห์แสนกลของเค้าจะสามารถกระติกนิ้วล่อเด็กแสนซื่อคนนั้นให้ออกมาได้

มันจะทำยังไงนะถ้าเด็กคนนั้นวิ่งหนีแล้วไม่กลับมาอีกเลย

ผู้สังหารมือปราบมารยิ้มกับตัวเอง



.



.



.



TBC.



-----------------------------------------------------------------------------------------



อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! กกฟกกดหกดฟฟดฟดกด  ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนเลยค่ะตอนนี้  จะพูดว่าคุณเกรฟส์ดูรีบร้อนและพูดจาส่อเสียดในความหมายเกินไปไหมไม่ว่าจะเป็นไอ้บอกว่า ให้ “ไปที่เตียงสิ”  “ถอดเสื้อออกสิ”  “หลับตาด้วย”  โอยยยยยยยยยย  จะปล้ำน้องเหรอคะ?! 555555  //คือแค่ชื่อเรื่องแกมันก็ส่อแล้วป่ะ// คุณเกรฟส์ได้โปรดอย่าใช้คำในแบบสองแง่สองงามค่ะ  มันฟังดูไม่ดีไม่งามนะคะ 5555555  อย่าทำน้อง น้องยังไร้เดียงสาอยู่ค่ะ  ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ อยู่เลยค่ะ 5555 //สักพักโดนช็อต// 

และกรินเดนวัลด์ก็ร้ายเกินค่ะ  แต่ก็ยังไม่สุดของเค้าล่ะเนอะถ้าเอาจริงๆ แบบในเรื่องก็คงจะทำได้มากกว่าปล่อยมนต์แน่นอนเลยค่ะ 5555  เอ....เค้าจะทำอะไรนะ  ชักลุ้นซะแล้วล่ะค่ะ   ต้องติดตามกันนะคะว่าเค้าจะทำอะไร  อีกาตัวนั้นของเค้าถูกเผาไปแล้วค่ะ 5555  //ตอกย้ำ//

อูยยย แต่น้องครีเดนซ์ก็น่ารักเนอะ  ไม่รู้ว่าไรท์ให้เค้าโนเนะไปไหมนะคะ ต้องรบกวนคอมเม้นท์ของทุกท่านด้วยค่ะ M_ _M จะชอบกันไหมเอ่ย?  แต่ไรท์ว่าใสๆ อย่างนี้ล่ะค่ะ มันจะมีผลมากกับแผนการของกรินเดนวัลด์ 555555  แล้วน้องก็แสนจะเจ้าน้ำตาด้วยค่ะ  เอะอะร้องไห้ เอะอะร้องไห้  อร๊ายยยยยยยยย  ไรท์ชอบคนเจ้าน้ำตาค่ะ  ดูน่าปกป้อง อิๆๆๆ  (แต่การปกป้องมันขัดกับชื่อเรื่องนะโว้ย)  เออ....จริงด้วย  ตึงงงงง  [".."]  

อร๊ายยยยย กุมหัวใจอิชั้นทุกผู้ทุกคนเลย! ><  เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ  ถูกใจ  ชอบใจ หรือพอใจกันไหมเอ่ย?  บอกไรท์ด้วยนะเออ ^^  รอติดตาม Part หน้ากันด้วยนะเออ  ขอบคุณสำหรับการแวะเวียนเข้ามาอ่านและพูดคุยกันค่ะ  ร๊ากกกทุกท่านเลยนะคะ ><

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




1 ความคิดเห็น:

Jay KS กล่าวว่า...

เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก อยากรู้แล้วอ่ะว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง น้องน่ารักน่าทนุถนอมมาก คุณเกรฟส์นี่เก๊งเก่งเนอะ ที่สามารถทนอยู่ใกล้สิ่งมีชีวิตที่น่ารักขนาดนี้แล้วไม่จับฟัดได้ ความอบอุ่นของคุณเกรฟส์นี่น่าไปซบอกซะเกลือเกิน รอติดตามตอนต่อไปนะค้าบ กรินเดวัลคงไม่ยอมรามือแน่เลย สงสารน้องอ่า