มาต่อกันแล้วนะคะสำหรับแฟนคลับ
MaLec ><! และไรท์ก็เชื่อว่าความใจร้ายของแม็กนัสคงจะทำให้รีดอยากจะสาปแช่งไปเลยวิมิเคอะ อ๋อย! ยังกะเจ้าชายอสูร (ดั่งที่รีด
Rockettear ได้กล่าวเอาไว้.....อเล็คเป็นราวนางซิน
ฮาาาา นิยามได้ใจไปเลยค่ะ ><)
แต่ว่าหลายอย่างที่รีดไม่รู้เกี่ยวกับแม็กนัสกำลังจะเผยออกมาค่ะ ต้องติดตามๆ อิๆ
ส่วนอเล็คน้อยๆ
ก็ให้กำลังใจเค้าด้วยนะคะ
น่าฉงฉานอันดับหนึ่งเลย T^T เอาล่ะค่ะ ส่วนท่านใดอยากพูดคุยกะไรท์ก็เข้าไปเป็นเพื่อนกับไรท์ได้เลยค่ะที่
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ไปอ่านกันเลยค่าาาา
---------------------------------------------------------------------------------------
เช้าตรู่วันต่อมา..........
เสียงหวีดหวิวของกาต้มน้ำส่งเสียงดังรบกวนสมาธิอยู่บนเตา
เคล้ากับกลิ่นกาแฟที่หอมกุร่นไปทั่วห้อง..........แสงแดดยามเช้าของเมืองสาดส่องมาทางหน้าต่างตรงห้องครัวกระทบต้องทุกอย่างที่เรียงรายวางไว้
ซึ่งเกิดจากการที่เจ้าของยกมันออกมาทุกอย่างเช่นที่เค้าชอบทำจนติดเป็นนิสัย
อเล็คนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนกำลังเขียนสูตรคุกกี้ที่เค้ากำลังคิดค้นขึ้นใหม่อยู่.......รอให้ได้เตาอบจริงๆ
ก่อนเถอะ แล้วเค้าจะลองทำในทุกๆ สูตรที่เค้าคิดเอาไว้เลย
แต่ไม่นานเสียงเคาะประตูอย่างแผ่วเบาของเค้าก็ดังขึ้น และแทบจะทันทีที่สิ้นเสียง ลูกบิดทองเหลืองก็ถูกหมุนแล้วประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่แทรกตัวเข้ามาอย่างสบายๆ
ราวกับนี่เป็นห้องของเค้าเอง
เจซ......
อเล็คที่ผงกหัวขึ้นมาจากขอบเตียงคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเจซ ร่างบางแอบคิดในใจว่าถ้าจะทำแบบนั้นเจซก็ไม่จำเป็นต้องเคาะประตูก็ได้
เดินเข้าเฉยๆ จะไม่ง่ายกว่างั้นเหรอ
เจซดูประหลาดใจ แต่ไม่มากนัก “ฉันคิดว่านายยังไม่ตื่น นี่ยังเช้ามากอยู่เลย”
“ให้ตาย ฉันไม่ใช่คนตื่นสายนะ” อเล็คตอบ รอยยิ้มที่แสดงถึงความขบขันปรากฏขึ้นมาทันใด เพื่อนอายุห่างกันเพียงเล็กน้อยเดินเข้ามาหาเค้าที่เตียงพลางถอดกระเป๋าสะพายออก
“ก็นายป่วย” เจซพูดเสียงต่ำ กลายๆ
ต้องการจะบอกอเล็คว่าควรพักผ่อนเสียมากกว่า
ร่างบางกลอกตากลมๆ ไปมาลอกแลก ก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นนั่งเมื่อเจซเดินมาถึงเตียงของเค้าแล้ว แว่นตายังคงอยู่บนดั้งสวยของอเล็คดั่งเช่นทุกครั้งที่เจ้าตัวต้องอ่านนั้นเขียนนี่อยู่เป็นประจำ
“เจซ
รู้อะไรไหม....นายไม่จำเป็นต้องมาที่นี้ทุกครั้งหลังเข้าและออกกะของนายก็ได้นะ ฉันกำลังหายดีแล้วและจะกลับไปทำงานในไม่ช้า”
อเล็คว่า แต่เจซไม่สนใจฟัง ร่างสูงผมบล์อนกำลังไล่มองเพื่อนร่วมงานที่ยังคงใส่ชุดนอนหัวยุ่งเหยิงนั่งอยู่บนเตียงขนาดเจ็ดฟุตพร้อมกับแว่นตาหนาเตอะและสมุดวาดเขียนในมือ
“และนายก็ควรอาบน้ำก่อนจะจดอะไรๆ นะ”
เจซว่าไม่ว่าเปล่า มือเรียวยาวกว่าของอเล็คมากยกขึ้นถอดแว่นตาของอเล็คออก
แล้วนั่งไขว้ห้างตรงขอบเตียง
อเล็คทำตาหยีพักหนึ่ง ก่อนจะฉวยแว่นคืนมาแต่ไม่ได้ใส่ไว้เหมือนเดิม
“ไม่เอาน่า นี่เวลาส่วนตัวนะ” ว่าแล้วเจ้าของห้องก็ลุกขึ้นดีดตัวจากฟูกนอนแล้วเดินตรงไปยังครัวที่อยู่ห่างไปเพียงแค่สามเมตร อเล็คดูง่วนอยู่กับอะไรบ้างอย่าง
จนไม่ได้หันกลับมามองเจซที่อมยิ้มอย่างไม่รู้สาเหตุคนเดียวอยู่บนเตียงของเจ้าตัว
เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยิ้มทำไมกัน เจซรู้แต่เพียงว่าเวลาอยู่กับอเล็คแล้วเค้ามีความสุข..........
และแล้วกลิ่นหอมกรุ่มที่คลุ้งอบอวลอยู่ในอากาศก็ลอยเข้ามาเตะจมูกของเจซเข้าอย่างจัง จนเค้าเองอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“นายทำอะไรอยู่น่ะ”
“อ้า อืมม” อเล็คส่งเสียงงึมงำในลำคอ และง่วนต่อไป
เค้าเลิกสนใจเจซไปชั่วขณะ
“อะไรนะ”
“อา เอ่อ...อืมม”
“อเล็ค” เจซขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้เขม็ง ร่างสูงผมบล์อนท่าทางไม่รับญาติในเวลาปรกติกำลังยิ้มไปด้วย
พิลึกคน......เจซคิดในใจ
ร่างสูงที่นั่งไขว้ห้างอยู่บนเตียงไม่รู้เลยว่าอเล็คกำลังทำอะไรอยู่ รู้แต่เพียงว่ากำลังชงกาแฟ......เป็นกาแฟที่หอมเอามากๆ
เสียด้วย ร่างบางของชายหนุ่มเรือนผมสีดำขลับกำลังชงกาแฟให้แม็กนัส เบน............
ใช่ มันเป็นกาแฟที่แม็กนัสจะได้ดื่มเพียงแค่คนเดียว
เป็นรสชาติที่แม็กนัสชอบ และอเล็คก็ชอบมันด้วยหากแม็กนัสชอบ.........
............ยิ่งชอบไปใหญ่เมื่อมันเป็นฝีมือของเค้า
เพียงแค่วันนี้เหตุที่อเล็คกำลังตั้งใจและขะมักเขม้นกับกาแฟของแม็กนัสอยู่นั้น
ก็เพราะว่าหลังจากที่เค้าคิดไว้มาแล้วหลายวันก็ตัดสินใจว่าจะเอากาแฟไปให้แม็กนัสอีกสักครั้ง
เพื่อทำให้แม็กนัสมั่นใจว่าเค้าเองไม่ได้โกรธที่อีกฝ่ายโมโหใส่เมื่อครั้งก่อน อย่างน้อยก็ให้แม็กนัสได้รับรู้.......อย่างน้อยตอนนี้แม็กนัสก็ต้องคิดเรื่องนี้อยู่แน่ๆ
อเล็คมั่นใจ
แต่จะเอาไปให้จริงๆ
ในวันพรุ่งนี้นะ
ไม่ใช่วันนี้อเล็คเพียงแค่ตรวจสอบดูฝีมือตัวเองเฉยๆ ว่ายังชงได้รสชาติดีอย่างที่แม็กนัสชอบอยู่หรือเปล่า
ใบหน้าขาวใสเม้มปาก บรรจงเติมส่วนผสมสุดท้ายลงไปอย่างตั้งใจ และไม่รู้ตัวเลยว่าเพื่อนตัวสูงที่อายุน้อยกว่าเค้าสาวเท้าก้าวเข้ามาอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ
แล้ว
“ฉันล้วงสูตรลับนายได้แล้ว”
“อืม อ๊ะ เหวออ.....เจซ!” อเล็คสะดุ้งทำช้อนคนกาแฟตกพื้นเมื่อเจซเข้ามากระซิบและเป่าลมร้อนข้างหูเค้า
ร่างสูงผมบล์อนที่หยอกเล่นแสยะยิ้มหัวเราะกับตัวเองในขณะที่อเล็คหันมาทำหน้าแหวใส่คนแกล้ง
“ฉันตกใจหมดเลย นายไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นก็ได้ฉันจั๊กจี้หูนะรู้ไหม”
ร่างบางผิวขาวยิ่งกว่าสาวสวยบางคนทำเสียงขุ่นก่อนจะก้มลงไปเก็บช้อนที่ทำตกเมื่อครู่ และพบว่าตอนนี้มันไปอยู่ในมือของเจซเรียบร้อยแล้ว
เจซส่งคืนในขณะพูด
“นั่นนายทำอะไรน่ะอเล็ค”
“ก็ชงกาแฟไง” คนถูกถามตอบเสียงอ้อมแอ้ม อเล็คพิงสะโพกกับชั้นทำครัว.........เค้ากลัวโดนเจซจับได้เรื่องกาแฟของแม็กนัสถ้วยนี้
“หอมดีนี่ ฉันเคยเห็นนายชงแต่ไม่ยักเคยลองชิม” เจซเอ่ยเสียงเรียบซึ่งนั่นก็เป็นพื้นเพปรกติของเจ้าตัว แต่ทำเอาอเล็คห่อไหล่ไปเลยในเวลานี้
“เอ่อ....มันก็แค่ กาแฟน่ะ” เจ้าของห้องและกาแฟสูตรลับนึกอยากตีปากตัวเองเสียจริงที่ตำตัวตะกุกตะกักพูดไม่ออก......เค้าไม่คิดว่าเจซที่ทำตัวเหมือนพ่อจะเข้ามาวุ่นวายตอนเค้าลองชงกาแฟให้แม็กนัส
“ฉันขอชิมได้ไหม” เจซว่าในที่สุด ยืนดูปฏิกิริยาที่อเล็คค่อยๆ ยกถ้วยกาแฟมาให้เค้าอย่างจนใจ
ร่างสูงผมบล์อนรับมาแล้วเหลือบมองใบหน้าขาวสะอาดของอเล็ค
พลางเอียงถ้วยกาแฟเข้าปากตัวเอง สัมผัสกลิ่นหอมกรุ่มอันนุ่มนวลผสานความเข้มของกาแฟได้อย่างเป็นลำดับ เจซยกระดับถ้วยให้สูงขึ้นอีกแล้วจิบเอากาแฟที่อเล็คบรรงจงชงลงไป
เค้าหลุบตาเข้าไปในถ้วยกาแฟ
...........นี่สินะ
กาแฟที่เจ้าแม็กนัสนั่นได้ดื่มเพียงคนเดียว............
อร่อยขนาดกาแฟทุกสูตรของทั้งร้านที่เค้าทำงานอยู่ขายไม่ออกไปเลยทีเดียว
อเล็คให้ความสำคัญกับหมอนั่นมากเกินไปจริงๆ
เจซรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อยที่รู้สึกว่าอเล็ครักแม็กนัสมากเพียงใด...........หลังจากจิบแรกเสร็จแล้วเจซก็ถือถ้วยออกห่างจากปาก อเล็คฉวยกลับไปในทันทีทันใดจนคนที่ตัวสูงกว่าอดเลิกคิ้วขึ้นสูงๆ
ไม่ได้
“นั่นฉันเพิ่งจะจิบเองนะ” เจซว่าและขอจิบอีก เพราะต้องการอยากที่จะรู้สึกว่าเป็นคนที่อเล็ครักและห่วงใยบ้าง
แม้สักนิดก็ยังดี..........ที่ทำให้เค้ารู้สึกว่าอเล็คก็รักเค้าเช่นเดียวกับที่เจซเองก็รักอเล็คจนหาคำอธิบายไม่ได้
แต่ร่างบางเม้มปากพลางยกถ้วยกาแฟหนี
“พอแล้ว” อเล็คกระซิบเสียงอ่อนโยน วางถ้วยลงบนโต๊ะทำครัวติดผนังแล้วหันหลังบังมันไว้
“นายไม่รีบไปเข้ากะหรือ?” ร่างบางสีขาวหมดจดเอ่ยถามขึ้นหลังจากหันกลับมา คิ้วเรียวสีดำเข้มยกขึ้นเป็นเชิงถามซ้ำ
ช่วยไม่ได้แฮ่ะ........เจซคิดในใจและคงจะยักไหล่ให้ตัวเองด้วยถ้าทำได้ เค้าคงจะต้องไปเสียทีแล้วล่ะ
ร่างสูงผมบล์อนถอยหลังมาเล็กน้อย
ก่อนจะชูมือขึ้นน้อยๆ “งั้นฉันไปก่อนล่ะกัน
ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะอเล็ค
ล็อคประตูด้วย”
เจซว่า หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาในขณะที่เดินออกประตูไปและไม่ลืมที่จะมองหน้าอเล็คเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดมันลง เจ้าของห้องเคืองขุ่นในใจเล็กน้อย
“นี่ห้องฉันนะ เลิกบอกว่าให้ฉันล็อคประตูได้แล้ว คนที่นี่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นซะหน่อย....เจซบ้า
เจ้าเด็กแก่แดด” อเล็คถลึงตาแล้วกลอกไปมาเล็กน้อย
ก่อนจะเลิกคิดเสียแล้วหันกลับมาให้ความสนใจกับกาแฟของตัวเองต่อ และมันก็ใช้ได้ทีเดียว
************************************************************************************
เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นติดต่อกันเป็นรอบที่สิบได้แล้วในวันนี้ และมันก็ชักจะดังถี่ขึ้นทุกทีพอพลบค่ำ เจ้าของๆ มันเริ่มเบื่อเต็มทนแล้วที่จะรับมันทุกๆ
สาย แต่แล้วเค้าก็เลือกไม่ได้ มือแกร่งเรียวพอเหมาะหยิบสามรท์โฟนขึ้นมา สไลด์และรับอย่างเบื่อหน่าย
“ครับ”
“แม็กนัส....คืนนี้มีปาร์ตี้ของคนดังแถวๆ
นั้นนะ ทายซิว่าใคร? เค้าบอกว่าอยากให้นายไป.....”
“ผมขอโทษครับ ผมไปไม่ได้” และจู่ๆ เสียงร่าเริงที่กรอกตามสายมาก็ถูกตัดบทด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนปวดหัวจัดของคนรับ
.............ไม่อยากไป แค่ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น..........
เสียงคู่สายเงียบไปราวกับตกใจ เพราะนี่เป็นครั้งที่เกือบร้อยได้แล้วมั้งที่แม็กนัสปฎิเสธงานที่เค้าติดต่อมาให้ เมื่อลองถามเจ้าตัวดูแล้วก็ถูกตอบกลับมาว่าไม่สบายท่าเดียวเสมอ และที่สำคัญแม็กนัสไม่เคยหยุดที่จะทำงานหรือ Make money เลย
นายแบบร่างสูงดีกรีฮอตขยันทำงานและจริงจังกับมันเสมอ แต่ดูท่าแม็กนัสอาจจะกำลังมองหาเวลาพักให้แก่ตัวเองอยู่ก็ได้..........แต่ก็ปุบปับเกินไป
“อ๋อ อืม ไม่เป็นไร....นายพักผ่อนเถอะ อีกสามวันมีนัดถ่ายละครนะอย่าลืมไปซะล่ะ”
ผู้จัดการส่วนตัวที่โทรมาทำเสียงร่าเริงในตอนแรก
พูดเสียงอ่อนลงก่อนจะโดนตัดสายไปอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับ” มือแกร่งข้างเดิมโยนมือถือลงบนเตียงอย่างไม่ใส่ใจ แล้วแม็กนัสก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า
ร่างสูงแกร่งของเค้าทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงยับยู่ยี่ที่ไม่เคยคิดจะดูแลมันเลย
หลายวันมาแล้วที่แม็กนัสเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง......หลายวันหลังจากที่แม็กนัสดูทีวีโต้รุ่ง นอนน้อยและรับงานน้อยลง ร่างสูงก็ไม่ได้รับงานอะไรในวันนี้เลย
เค้าบอกกับผู้จัดการส่วนตัวว่าเหนื่อยและป่วยแต่ที่จริงเป็นเพราะซังกะตายจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรก็เท่านั้นเอง
‘ก็เท่านั้น’ ของแม็กนัสหมายถึงเงินมูลค่าเป็นล้านต่อวันที่เค้าจะสามารถกระดิกนิ้วหามาได้
แต่ทว่าวงการบันเทิงในตอนนี้ไม่ได้ทำเอาเค้ารู้สึกสนุกอีกต่อไปแล้วในช่วงนี้ แม็กนัสเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เค้าไม่สามารถตอบตัวเองได้
เป็นเรื่องจริงที่เค้ารู้สึกไม่ดีและเสียใจที่ทำให้อเล็คร้องไห้เพราะตน แต่พอจะลุกไปข้างนอก หรือทำงานก็รู้สึกขี้เกียจเสียอย่างนั้น และสองสามวันมานี้เค้าก็ค้นพบว่าตัวเองเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเลย
“โอ้ย บ้าจริง! เมื่อไหร่จะหายสักทีฟะเนี่ย!!” แม็กนัสเปลี่ยนจากลูบหน้าตัวเองมาเป็นขยี้หัวแรงๆ อย่างไม่ได้ดั่งใจ ผิวสีแทนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามหดเกร็งทุกมัดด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวขึ้นของเจ้าของ........แม็กนัสไม่ได้ใส่เสื้อมาสามวันแล้ว มีเพียงกางเกงยีนส์แบรนด์ดังที่ติดกายตลอดเวลาเพียงเท่านั้น
(แต่เค้าอาบน้ำนะ)
และด้วยอารามโมโหจนฟิวส์เกือบขาด ร่างสูงของนายแบบและนักแสดงชื่อดังก็เดินเข้าครัวไปหาเหล้าที่เค้ามักจะแวะเข้าไปคุยกับมันบ่อยๆ
ในช่วงหลังมานี้...........
และตามทางที่เค้าเดินผ่านไป
ขวดเหล้าวางเกลื่อนบนโต๊ะทุกๆ ตัว
*********************************************************************************
เช้าวันต่อมาที่ห้องอันแสนเล็กและอัดแน่นไปด้วยสูตรคุกกี้กับกาแฟของอเล็ค..............
ร่างบางผิวขาวจัดผิดกับชายธรรมดาทั่วไป กำลังยิ้มบางขณะจัดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลำลองเรียบร้อยของตัวเอง
วันนี้อเล็คโทรบอกเจซว่าไม่ต้องมาหาเค้าที่ห้องแล้วเพราะวันนี้อเล็คแข็งแรงพอและหายดีที่จะทำงานต่อได้แล้ว
หลังจากหยุดมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ อเล็คกำลังจะออกไปพร้อมๆ กับที่เอากาแฟแก้วนั้นไปให้แม็กนัสด้วย และโชคดีที่ไม่ไกลไปจากที่พักของแม็กนัสนักกาแฟที่ตั้งใจจะเอาไปให้จึงไม่เย็นจนเสียรสชาติไปเสียก่อน
ร่างบางออกมาจากห้องด้วยความสดชื่น
เพราะนี่ยังเช้าอยู่มากผู้คนจึงยังไม่ออกมาสัญจรไปมาบนท้องถนน เสียงเลยฟังดูเบาหูกว่าในเวลาปรกติ อเล็คทักทายคาร์ลในขณะที่อีกคนหนึ่งเพิ่งกลับขึ้นมาจากไปเอาหนังสือพิมพ์ด้านล่าง
หนุ่มแว่นดีกรีเอกฟิสิกส์ไฟฟ้าเอ่ยปากอย่างยินดีว่าวันนี้เค้าคงจะได้เจอใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอเล็คสักที
“.....หลังจากที่ทางร้านเหี่ยวเฉามานาน”
คาร์ลกล่าวไว้ว่าอย่างนั้น เรียกรอยยิ้มที่หาได้ยากของเล็คขึ้นมาจนได้ ก่อนแยกกันอเล็คสัญญาว่าวันนี้เค้าจะเพิ่มคุกกี้ให้คาร์ลเป็นพิเศษ แล้วเด็กหนุ่มแว่นหนาก็ตบปากรับคำเข้าห้องของตัวเองไป
ร่างบางผู้เป็นขวัญใจของใครหลายๆ
คนทั้งขาจรและขาประจำของร้านออกจากอาร์พาทร์เมนท์
ขึ้นรถแท็กซี่คันเดิมและคุณลุงคนขับก็ยินดีด้วยเช่นกันที่อเล็คกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
แต่ทว่าวันนี้กลับต่างออกไปเพราะนี่เป็นวันทำงานวันแรกหลังจากหยุดไปหลายวันของเค้า อเล็คจึงไม่คิดใช้เวลาพักในตอนส่ายๆ
ไปกับการออกไปนอกร้าน......นั่นอาจทำให้เค้าถูกเพ่งเล็งจากคุณบีพอทท์ได้ อเล็คจึงคิดจะเอากาแฟที่ถืออยู่ในมือไปฝากแม็กนัสเสียก่อนที่เค้าจะได้ไปเข้ากะแรกของวันนี้
รถแท็กซี่คันสีเหลืองเลี้ยวหักศอก ไต่ไปตามถนนในย่านดาวน์ทาวน์อย่างชำนาญจนกระทั่งมาถึงที่หมายอย่างรวดเร็วเช่นเคย อเล็คลงจากรถกุลีกุจอขึ้นไปชั้นที่แม็กนัสอาศัยอยู่ ในใจก็กล้าๆ กลัวๆ ตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้วว่าตัวเองควรทำอย่างไรดี สารภาพเลย อเล็คไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงหรือพูดอะไรกับแม็กนัสด้วยซ้ำถ้าหากอีกคนหนึ่งยอมเปิดประตูให้เค้า
แต่ว่าถึงยังไงเค้าก็มาด้วยความตั้งใจล่ะนะ ยังไงก็ต้องลองกันสักตั้ง.........
ถ้าแม็กนัสไม่ได้พูดแบบนั้นจริงๆ
น่ะนะ
“ออกไปซะ
ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย.....”
อเล็คหัวใจกระตุกเมื่อคำนั้นก้องซ้ำขึ้นมาในหัวใจของเค้า ถึงแม้ว่าจะย่ำแย่เพียงใดอเล็ค ไลท์วู้ตคนนี้ก็มองโลกในแง่ดีเสมอ
ขณะนี้ร่างบางที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวเก่งและกางเกงสีดำเข้ารูปกำลังยืนอยู่หน้าห้องประตูไม้บานหรูของดารานายแบบชื่อดังที่สุดคนหนึ่งของวงการ
ข้อมือบางที่สวมสายรัดแขนสีดำซึ่งตัดกับสีผิวได้อย่างเด่นชัดยกค้างกลางอากาศ ก่อนริมฝีปากบางจะขบเม้มเข้าหากัน แล้วอเล็คก็บรรจงกดกริ่งหน้าประตูนั้นเข้าไป
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------
แม็กนัสจะเปิดประตูให้อเล็คไหมนะ?! แล้วจะเป็นยังไงต่อไปล่ะนี่ ตามติดต่อ (?)+(เหมือนไรท์ใช้คำแปลกๆ ) ได้ใน Part
ต่อไปเลยค่ะ
แม็กนัสจะรับกาแฟของอเล็ครึเปล่านาาา
แล้วเจซจะสมหวังไหมในท้ายที่สุด
เหมือนวันนี้ไรท์จะรีบๆ เลยล่ะค่ะ ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ รู้สึกช่วงนี้รีดๆ คงจะสอบกันอยู่ใช่ไหมค่ะ ขอให้โชคดีในการสอบและสอบผ่านทุกวิชาเลยนะค้าาาา รักรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
3 ความคิดเห็น:
มาแล้วๆ เมื่อไรแม็กนัสจะเข้าใจตัวเองสักที ไรท์ได้โปรดเต้ารอ nc อยู่น้าาาาาา
#TeamJase
ณ นาทีนี้ยกป้ายไฟเชียร์รัวๆหมั่นใส้แมกนัส
(รมณ์ค้างจากเล่ม5)
แต่รออ่าน NC คู่นี้ด้วยฮี่ๆ
อึ้ยยยยยยย ลุ้นมากค่ะ *0*
ลุ้นคู่นี้สุดๆ แม็กนัส ถ้านายใจร้ายกับอเล็คอีกล่ะก็...
เราจะร้องไห้แล้วนะ ฮือออ T^T
(รอ nc ด้วยคนค่ะ อิอิ )
แสดงความคิดเห็น