สวัสดีค่าาา รีดที่น่ารักของไรท์ทุกท่านนนน >3<!! วันนี้ไรท์มีเรื่องใหม่มาแบ่งปันกันอีกแล้วค่ะ
>< 555555 อย่างที่ชาววายได้กล่าวกันเอาไว้ว่า “คามฟินไม่มีที่สิ้นสุด”
ฉะนั้น ไรท์จึงเดินตามรอยคำกล่าวนั้นค่ะ
55555 //สักพักเก้าอี้ลอย....หัวเราะมากไปแล้วแก -*-//
อร๊ายยยยยยยย ไปดู The Avengers 2 มาค่ะ ฟินโรงแตกเลยค่ะ >///<!! อร๊ายยยยย หนังอะไรคะเนี่ย รวบรวมหนุ่มๆ
หล่อล่ำเอาไว้ให้ได้จิ้นกำเดาหกกันได้ตลอดเลย -.,- ฮาาาาาาา (หื่นนนน) 555555
ไรท์นี่รู้สึกฟินตะหงิดๆ ตั้งแต่เห็นเปโตรวิ่งโฉบเอาธนูที่บาร์ตันยิงไปแล้วค่ะ >< ละ ละ แล้วเค้าก็พูดคำว่า “ไม่รู้ว่าจะโดนเหรอ?”
ใส่กันด้วยค่ะ (จำได้ว่าพูดใส่กันสามครั้ง
*..P) เอื้อออออ นม
เอ้ย! หน้าอกของเปโตรจะแตกจนจะดีดออกมาจากจอปะทะกับหน้าไรท์ได้อยู่แล้วค่ะ
55555 อูยยยยยยย พ่อคุณเอ้ยยยยยยยยยยยย //หื่นนนนนนน -.,-//
แต่ว่าที่เป็น ท็อค ออฟ เดอะ
ทาวด์ จริงๆ ก็ต้องสองคนนี้เลยค่ะ....กัปตันโรเจอร์ กับ โทนี่ !! >< ฮร๊ายยยยยยยย! ฟินโรงแตกระเบิดระเบ้อเลยค่ะ!!
กรี๊ดดดดดดดดด >{}< //กรี๊ดคนเดียวในใจ 555// เฮื่อกกกกก //เสียงสูดหายใจค่ะ แรงมากก 555//
อูยยย อะไรจะสายตา ท่าทาง อาการเป็นห่วงเคืองแคร์กันมากขนาดนั้นค่ะ ><
(เคืองด้วยจริงๆ ค่ะ มีการทำหน้างอนใส่กันด้วย
5555 อย่างตอนที่แคปฉีกฟืนด้วยมือเปล่าก็ฉุนโทนี่ค่ะ) + (อู่ว์ ฉีกฟืนด้วยมือเปล่าาาาาา
*()*)
อูยววววววว
ตอนที่โทนี่โดนแวนด้าเล่นคุณไสย์ใส่(?) //เดี๋ยวเค้าใช้พลังจิตไม่ใช่เหรอ??// เห็นภาพเพื่อนทุกๆ
คนปางตาย เพลย์บอยใจบุญก็เข้าไปดูกัปตันคนแรกเลยค่ะ
คนอื่นๆ เยอะแยะใกล้ตัวไม่ยอมเข้าไปดู >////< อิๆ //เริ่มโหมดสปอยล์ระดับ 1 -..-//
เอิ่มมมม
รู้สึกไรท์จะเมาท์ยาวแล้วล่ะค่ะ อันที่จริงอยากไปดูรอบที่สองมากเลยล่ะค่ะ แต่ว่าเมเจอร์ที่บ้านไรท์ดันเอาออกซะก่อนค่ะ TWT ยังไม่ทนครบเดือนเลยอ่าาาาา บ้าจีงงงงงงงงงง......พอ! พอแล้วอั่น //ไรท์เรียกตัวเองว่าอย่างนั้นค่ะ
มาจาก Ray – Aund 555 เวลาเขียนฟิคช้าชอบว่าตัวเอง//
เอาล่ะค่ะ หวังว่ารีดๆ
ที่เป็นแฟนของ Stony จะชอบกันนะคะ^^ บล็อกไรท์มีคู่นี้แล้วววว มี Fandom – The Avengers แล้ว อ๊ะ! 55555!! //บ้าคลั่ง// ภูมิใจตัวเองค่ะ...ภูมิใจจจจ //หน้าบาน// ปล่อยเรื่องนี้ไว้นานและ ถึงเวลาที่เราจะต้องเขียนสักที 55555 //โดนดันหน้าเบี้ยว/....พอแล้ว!
แกจะฝอยอะไรนักหนาห๊าาาา!//
ไปอ่านกันเลยค่าาาาา >{}<!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------
“งั้นเรื่องนั้นก็เป็นความจริงใช่ไหมล่ะ”
“อะไร? เรื่อง...ความจริงอะไรงั้นเหรอ?”
“ความจริงที่ว่า คุณเองก็เปราะบาง”
.
.
.
คุณจะทำให้คนอื่นเป็นห่วงอย่างมากมาย
เพียงเพราะว่าคุณเป็นห่วงพวกเค้าทำไมกัน?
มันไม่คุ้มกับความรู้สึกเอาเสียเลย.........รู้ไหม?
คุณไม่ควรกังวลและแบกรับเอาคนเดียว
เพราะผมเองก็รู้สึกร้อนรนมากกว่าคุณที่ไม่เคยคิดที่จะรู้สึกถึงมันเลย
เป็นสองเท่า
...........เป็นสองเท่าเชียวนะ...............
โทนี่............
.
.
.
**********************************************************************************
หลังรวมกลุ่ม Avengers............
“เย้-------------!
สนุกให้สุดเหวี่ยงไปเลยพวกเรา.......เอ้า ชนแก้ววว”
“ชนแก้ววววว” เสียงลูกคู่กู่รับกันอย่างแข็งขัน
ก่อนจะดังระงมเต็มไปด้วยเสียงที่ชนกระทบกันของแก้วเนื้อดี รูปทรงสวย
เต็มไปด้วยเครื่องดื่มรสชาติดีมีดีกรีไม่ต่ำซึ่งถูกหยิบยื่นขึ้นมากระทบกันเพื่อแสดงถึงความรู้สึกยินดีอย่างยิ่งยวดให้แก่หลายๆ
สิ่งที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
.........ทั้งความสำเร็จ
และมิตรภาพ............
เหล่าชายหญิงที่ต่างก็ได้จรดขอบแก้วรินรอนของเหลวสีสวยอ่อนนั้นลงคอไปอย่างยินดี
พวกเค้าต่างจิบมันและยิ้มให้แก่กันและกัน......กับการที่พวกเค้าได้มายืนอยู่ตรงนี้พร้อมทั้งได้เฉลิมฉลองเพื่อตอกย้ำความสำเร็จ
“รู้อะไรไหม
ฉันกะจะพาพวกเราไปฉลองกันที่ร้านปาทังก้าร้านแรกที่เราไปหม่ำกันนะพวก....”
ชายที่เกี่ยวแก้วแชมเปญไว้หลวมๆ
ด้วยนิ้วสามนิ้วซึ่งเป็นคนกล่าวเปิดฉากชนแก้วกันไปเมื่อครู่นี้ ง้างนิ้วชี้ที่ว่าง
อยู่ไปที่กลุ่มเพื่อนใหม่ที่เค้าเพิ่งจะได้ทำความรู้จักด้วยเมื่อไม่นานมานี้
พร้อมกับภารกิจที่เหนือความคาดฝัน
ชายนักธุรกิจซึ่งครองตำแหน่งเพลย์บอยใจบุญไปด้วย เอ่ยอย่างออกความคิดเห็น
“แล้วอะไรทำให้นายไม่คิดจะทำตามไอเดียของนายล่ะ”
และแทบจะในทันที
เสียงติดจะขบขันแต่ออกแนวประชดประชันก็ดังขึ้น บาร์ตันพูดจบแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนร่วมงานสาวที่นั่งเอนตัวพิงเก้าอี้อยู่ข้างๆ
“ใช่ ทำไมไม่พาเราไปปิดร้านปาทังก้า แล้วจัดปาร์ตี้มันที่นั่นซะไปเลยล่ะ”
นาตาชาเพยิดพเย้อ ผมสวยตัดสั้นของเธอขยับเล็กน้อย
เผยให้เห็นต่างหูเพชรคู่สวยที่เธอมักใส่มางานเลี้ยงเมื่อยามเข้าสังคม
แต่โทนี่กลับบ่ายหน้า
แล้วยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาโบกผ่านหน้าตัวเองไปเล็กน้อย
“ฉันคิดดูแล้วว่าไม่ดีกว่า....เพราะดูหน้าของใครบางคนที่ความคิดเป็นคุณปู่แล้ว
ฉันทำไม่ลงน่ะ.....ใช่ไหมแคป? โอ้
ฉันไม่ได้หมายถึงนายนะ
อย่าโกรธกัน” โทนี่ปัดมือเป็นพัลวัน สีหน้าเค้าแสดงอาการบริสุทธิ์ใจได้แนบเนียนมาก
จนเป็นเหตุให้บุตรแห่งโอดินต้องระบายยิ้มร่าออกมา ธอร์หัวเราะ
“ข้าว่าคงจะหายาก...ในวันที่สตาร์กเลิกเอ่ยถึงโรเจอร์เช่นนั้น
แม้แต่วันสุดท้ายเค้าก็คงไม่คิดที่จะเบื่อกับการพูดเช่นนั้นเป็นแน่แท้”
บุตรชายคนโตแห่งโอดินเลิกถือแก้วใบเปล่าแล้ว และหันมาถือขวดแทน
“ใช่
นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายในวันโลกแตกที่ฉันคิดจะทำเหมือนกับที่มันเป็นสิ่งแรกของวันที่ฉันคิดอยากทำนั่นล่ะเพื่อน”
สมาชิกในทีม Avengers คนอื่นๆ
ที่เหลือพากันหัวเราะอย่างห้ามไม่ได้เมื่อสิ้นเสียงของเจ้าชายสายฟ้าแห่งแอสการ์ด
แม้แต่หนึ่งในคู่กรณีอย่างโทนี่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มนิดๆ
และน้อมรับข้อกล่าวหาที่เพื่อนขุนค้อนเพิ่งตั้งให้อย่างเสียไม่ได้แต่โดยดี
ซึ่งจะเว้นก็เสียแต่คู่กรณีอีกคนหนึ่งที่โดนเข้าไปเต็มๆ อย่างชายหนุ่มร่างกายกำยำที่นั่งใช้มือแตะขมับตัวเองอยู่ เจ้าตัวส่ายหน้าน้อยๆ
ด้วยสีหน้าที่ไม่รับมุขด้วยอย่างแรง
“ก็ไม่ได้ซีเรียสหรอกนะ แต่ไม่ต้องเอามาพูดก็ได้” สตีฟ โรเจอร์
หรือกัปตันคนเก่งของอเมริกาเอ่ยอย่างรู้สึกเสียเซลฟ์นิดๆ ที่เอะอะอะไร คนอื่นๆ
ก็จะต้องเอาเค้ามาล้อเลียนมันเสียทุกทีไป
“ฉันก็ไม่ซีเรียสแคปฉันยินดีปล่อยให้พวกเค้าพูดได้.....บ่อยๆ
เลย” โทนี่ยิ้ม
ดวงตาเป็นประกายวิบวับนั่นเป็นเช่นนั้นเสมอเมื่อได้สนทนากับอีกฝ่ายหนึ่งอย่างสนุกปาก
สตีฟผายมือ
เค้ารู้สึกว่าตัวเองดูเหมือนคุณลุงในหมู่เด็กนักเรียนมัธยมเสียจริง เมื่อมีโทนี่อยู่ด้วย.......แล้วแต่
งั้นก็เอาที่สบายใจเลย
“เฮ้ นี่ๆๆ เราสั่งปาทังก้ากันได้นะ ใครอยากกินบ้าง.....ธอร์นายเอาไหม?.....เฮ้
ฉันเห็นนายเบิ้ลสี่เมื่อครั้งที่แล้วนะ
แอบติดใจใช่ไหมล่ะ
ไม่ต้องเก๊กหน่าเพื่อน
ครั้งนี้เอามากกว่าครั้งเดิมป่าว” เจ้าภาพงานและเจ้าของไอเดียเปิดโต๊ะปิคนิคในยามวิกาลเช่นนี้เอ่ยออกความคิดเห็น
และถามความเห็นจากสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ
แบนเนอร์ยกนิ้วสั่งอย่างสุภาพ
ธอร์อ่อมแอ้มพยักหน้าตามออเดอร์ที่โทนี่เสนอ ส่วนนาตาชาส่ายหน้าไม่ขอรับ แต่บาร์ตันชูนิ้วให้สาม
“ของนาตาชา”
ฮอว์คอายสนับสนุนให้เพื่อนของเค้าเสียหุ่น
แต่มันกลับไม่มีผลต่อเธอ
“จัดมา”
หญิงสาวพูดเสียงห้วนมากกว่าที่เธอคิด
นั่นก็เป็นเพราะเธอไม่ค่อยชอบร่วมโต๊ะกับผู้ชายที่กินมูมมามเสียเท่าไรนัก
“แล้วแคป นายเอาไหม?”
“ไม่ ไม่เอาล่ะ
ขอบคุณ” ชายหนุ่มร่างสูงที่ใบหน้าอ่อนกว่าวัยที่แท้จริงยิ้ม
แล้วส่ายหน้าช้าๆ ให้ผู้ถาม ก่อนเค้าจะได้สังเกตเห็นใบหน้าที่ชะงักค้างไปเล็กน้อยของโทนี่
............สตีฟเผลอจ้องตอบ แต่ก็แค่แปบเดียว
ก่อนที่อีกฝ่ายหนึ่งจะละสายตาไปแล้วหันไปสั่งปาทังก้าเดลิเวอร์ลี่ให้เพื่อนพ้องต่ออย่างรู้หน้าที่...........
ทุกคนพูดคุยและยิ้มแย้ม แต่เค้ากลับเงียบแถมยังยิ้มบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อถูกพูดคุยด้วย
ซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติในนิสัยพื้นฐานของเค้าไปเสียแล้ว.......ในหน้าประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกไว้ว่ากัปตันอเมริกาฮาเฮชอบปาร์ตี้
แต่สตีฟก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นกลุ่มคนที่เค้ารู้จักได้มีความสุขกัน ร่างสูงไม่ได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว....กี่ปีกันนะ? 68 หรือ 70 ปี
เค้าไม่แน่ใจนัก
ฟิวรี่บอกว่าเค้าหลับไปกี่สิบปีกันแน่
ชายตาเดียวคนนั้นช่างมีปริศนาและเก็บความลับ
ร่างสูงผมบล์อนตาสีฟ้าตามแบบฉบับหนุ่มอเมริกันมองบรรดาเหล่าเพื่อนใหม่ของเค้า
จิบเครื่องดื่มและพุดคุยกันถึงภารกิจสกัดกั้นพวกชิทอร์รี่ที่เพิ่งผ่านมา
แต่ความสนใจของสตีฟก็ใช่ว่าจะเพ่งความสำคัญไปที่หัวข้อสนทนาแต่อย่างใด กัปตันอเมริกากระพริบตาเบาๆ ให้ความสนใจแก่เจ้าของปาร์ตี้
โทนี่ที่นั่งอยู่บนพนักพิงโซฟาตัวหรูที่แพงที่สุดของตึก.......ใช่
สีหน้าและท่าทางของเจ้าตัวดูจะสนุกสนานกับงานเลี้ยงเล็กๆ นี้เป็นพิเศษ
บางทีอาจไม่ใช่เพราะว่าโทนี่เป็นเจ้าพ่อปาร์ตี้
แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังปกปิดอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองอยู่ต่างหากล่ะ
ถ้าโทนี่เอ่ยถึงร้านปาทังก้าอย่างหมายมั่นปั้นมือเสียขนาดนี้
เค้าจะต้องมีความต้องการอยากจะออกไปจัดงานสังสรรค์เล็กๆ นี้ข้างนอกเป็นแน่ คงจะไม่ใช้ตึกของตัวเองที่มีแต่ห้องแล็บ
ไม่เหมาะกับการจัดปาร์ตี้แบบนี้หรอก
แต่ว่าโทนี่คงกำลังรู้สึกแย่..........
“เฮ้....ข้าพูดจริงนะเรื่องปาทังก้า
อาหารของมนุษย์ไม่เคยอร่อยเลิศล้ำสำหรับข้า อาหารของชาวแอสการ์ดน่ะดูดีกว่าเป็นไหนๆ
แต่ข้าก็แค่ปฏิเสธสตาร์กไม่ได้ก็เท่านั้น....ข้าไม่อยากให้เค้าเสียน้ำใจ”
ธอร์ที่ยืนพิงอยู่ข้างๆ
เอ่ยกระซิบแก้ข่าวกับสตีฟเมื่อหลงคิดไปว่ากัปตันอเมริกากำลังคิดเช่นเดียวกับตนอยู่
“อ๋อ นั่นสินะ
คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะ”
ร่างสูงกำยำไม่แพ้กันที่นั่งอยู่ก็พยักหน้ารับ
เห็นด้วยกับคำพูดของเทพสายฟ้าตามมารยาทไป
และเมื่อได้ทำตามดั่งใจปรารถนาแล้วบุตรของราชาแห่งทวยเทพจึงหันไปคุยกับบาร์ตันต่อ
สตีฟมองสองคนด้านข้าง ก่อนจะนึกย้อนไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน.........
หลังจากเหตุการณ์ Avengers
รวมพลอย่างทุลักทุเลภายใต้การต่อสู้จากการปลุกปั่นของโลกิได้สำเร็จ ทายาทคนเดียวของสตาร์กอินดัสทรีหรือไอรอนแมนก็ถูกหมายหัว
และโดนสั่งฆ่า
แต่ทว่าสุดท้ายแล้วโทนี่ก็รอดตายมาได้ ด้วยมันสมองและความสามารถที่ไม่มีใครเหมือน
แต่พอทราบข่าวการโดนไล่ล่าของโทนี่
สตีฟก็กระวนกระวายใจ......ชายร่างกายหนุ่มแน่นที่มีความเก่งกาจเหนือมนุษย์ธรรมดารู้สึกเป็นห่วง ใช่ เค้าเป็นห่วงอีกฝ่ายหนึ่งมาก
แม้ว่าตอนที่เค้ารู้ข่าวโทนี่จะปลอดภัยแล้วก็ตามเถอะ แต่ร่างสูงก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ทำไมตัวเค้าเองจะต้องคอยเป็นห่วงคนที่เอาแต่พูดจาจิกกัดเค้าอยู่ตลอดเวลาที่เจอกันด้วย
แต่ทว่าความรู้สึกของเค้านั้นก็กลับเข้าใจยากขึ้นทุกที..............
และในวันนี้เมื่อสองชั่วโมงก่อน สตีฟมาถึงตึกสตาร์กทาวเวอร์เป็น
(หรือไอ้ตึกอุบาทว์ที่เค้าเกือบหลุดปากเรียกไป) คนแรก
ไปเจอเข้ากับเปปเปอร์ที่กำลังพ่นควันใส่โทนี่อยู่
และด้วยความที่ว่าสตีฟนั้นเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอเค้าจึงมาถึงก่อนคนอื่นๆ
ที่ยังคงไม่โผล่หัวมา
แต่ทว่าเมื่อมาถึงแล้ว ร่างสูงซึ่งสวมแจ็คเก็ทหนังกลับได้เจอเข้ากับบทสนทนาอันไม่น่าอภิรมย์เท่าไรนักของคู่ข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งจะมีเรื่องน่ายินดีกันไป
“โทนี่ ฉันเคยบอกคุณหลายทีแล้วเรื่องนั้น เราจะไม่คุยถึงมันกันอีกนะ”
ถึงแม้รู้ว่าไม่ควรแอบฟัง
แต่ร่างสูงกำยำก็พิงอยู่หลังเสาขนาดใหญ่เพื่อปิดบังตัวเอง
เค้าได้ยินเสียงอ่อนโยนที่เริ่มจะไม่อ่อนโยนแล้วของเปปเปอร์ พูดอย่างเหนื่อยหน่าย
แต่แล้วเสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างหน้าตาเฉยก็ดังขึ้นตามกันทันที
“เราก็พูดถึงมันอยู่นี่ไง ลองมาคุ้ยดูดีๆ
เมื่อกี้คุณนั่นแหละเป็นคนเปิดประเด็นพูดเอง”
สตีฟแทบจะกลอกตาขึ้นฟ้าทันทีเมื่อได้ยินประโยคอันแสนจะเห็นแก่ตัวและไม่แคร์ถึงความรู้สึกของผู้อื่นนั่น
ก่อนจะรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่าทางของโทนี่ที่สื่อออกมานั้น
มันไม่ได้เป็นไปตามที่เค้าคาดไว้
.........โทนี่ สตาร์ก
ผู้มากความรู้และไม่สนใจสิ่งใดรอบกายกำลังขมวดคิ้วตกๆ
อยู่ตรงหน้าของเปปเปอร์...........
สตีฟแปลกใจ เค้าไม่เคยเห็นหน้าลำบากใจแบบนี้
จากอีกฝ่ายหนึ่งที่คอยยุแหย่เค้ามาโดยตลอดเลย.......หากพิจารณาแล้ว
ดูเหมือนกับว่าโทนี่กำลังจะใช้คำพูดติดตลกของตัวเองทำให้ฝ่ายหญิงหยุดทำหน้าไม่พอใจเค้าเสียมากกว่า สตีฟคิดอย่างนั้น
“โอ้ ให้ตายเถอะ” เปปเปอร์หันกายไปทางอื่น แล้วยกมือขึ้นมานวดข้างขมับอย่างประสาทกิน
“เมื่อไรคุณจะเห็นว่ามันสำคัญสักทีนะ”
“อะไร? เห็นว่าการที่คุณต้องการจะถอนตัวออกไปน่ะหรือสำคัญ?”
จู่ๆ โทนี่ก็ทำหน้าเรียกร้องความสนใจขึ้นมาบ้างแล้วเอ่ยเสียงค่อนข้างดัง สตีฟมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย.......ถอนตัวหรือ? เปปเปอร์กำลังจะถอนตัวจากอะไร ทำไมเค้าไม่เห็นรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
...........แต่ก็อย่างว่า
เค้าเพิ่งฟื้นขึ้นมายังไม่ทันครบปีจากการหลับยาวด้วยซ้ำ..........
ยังไม่ทันที่จะได้คิดคำนึงอย่างกระจ่างดี เค้าก็เห็นโทนี่ยกไม้ยกมือน้อยๆ ขณะเดินอ้อมไปพูดตรงหน้าเปปเปอร์
“ใช่สิ
มันสำคัญ....สำคัญกับผมมากด้วยเพราะคุณกำลังจะออกไป ปลีกตัวออกไปและไม่ยุ่งเกี่ยวกับผมอีกเลย....”
สตีฟเห็นโทนี่ผายมือทั้งสองไปด้านข้างเพื่อประกอบคำพูด
“.....เฮ้นี่ เปปเปอร์ ผมรู้นะว่ามันอันตรายมากๆ แต่ว่าคุณก็ผ่านมันมาแล้วหนิใช่ไหม เจอมามากกว่านี้คุณยังเคยรับได้เลย ผมไม่คิดว่าคุณ.....”
“ฉันคิดว่า
ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณอีกแล้ว”
หญิงวัยทำงานที่จัดการงานเก่งมากกว่าที่เห็นแต่ภายนอกพูดแทรกขึ้นมา
เป็นเหตุให้ประโยคที่เหลือของโทนี่ถูกเบรกไปโดยปริยาย
ทายาทคนเดียวของสตาร์กอินดัสตรี้ทำหน้าเหมือนโดนตบ
ก่อนจะทำหน้าสะเทือนใจในแบบของตนเองใส่คู่สนทนา
เปปเปอร์เองก็มีทีท่าอึดอัดใจไม่แพ้กัน
แต่เธอเลือกที่จะพูดต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันคิดและได้บอกคุณไปแล้วโทนี่ และฉันเองก็ยังนึกเสียใจกับตัวเองอยู่ว่าทำงานเป็นเลขาผู้ซื่อสัตย์
อย่างเมื่อสิบปีก่อนก็ดีอยู่แล้ว
ไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวให้ทั้งคุณทั้งฉันต้องเจอเรื่องที่วุ่นวายด้วยกันทั้งคู่ด้วย คุณก็ทำงานอุทิศตัวให้กับทีมของพวกคุณต่อไป
ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าฉันจะเป็นยังไง
และฉันเอง ก็จะได้ไม่ต้องคอยมาระแวงหน้าระแวงหลังเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่มันเกินจะเชื่อได้”
เธอพูดร่ายยาวอย่างชัดเจน
สตีฟเห็นสีหน้าสะอึกของโทนี่
...........อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง เปปเปอร์คงจะทนไม่ไหวแล้วกับหลายๆ
อย่างที่เธอจะต้องแบกรับไว้ในตอนที่คบหาอยู่กับโทนี่..........
ใช่ บางทีเจ้าตัวก็ชอบทำตัวให้น่าเป็นห่วงมากเกินไป ปากแข็งบอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้งๆ
ที่เจ็บเจียนจะตายอยู่แล้ว
โทนี่นิสัยปากแข็งเช่นไร สตีฟคนนี้รู้จักอย่างทะลุปรุโปร่งเลยทีเดียว
นั่นอาจเป็นเพราะเค้าคอยมองการกระทำและท่าทีของอีกฝ่ายหนึ่งมาโดยตลอดก็เป็นได้.......
หนึ่งในข้อสงสัยที่สตีฟนั้นก็ไม่เข้าใจตัวเอง
ร่างสูงไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าต่อไปได้
สตีฟเห็นหญิงเพียงคนเดียวในจุดนั้นยกมือทั้งสองขึ้นแล้วค่อยๆ
ผ่อนลมหายใจใส่โทนี่
“ฉันว่านั้นดีที่สุดแล้วสำหรับเราทั้งคู่นะ”
เธอกล่าว “ฉันไม่อยากจะเจออะไรอย่างคิลเลี่ยนอีกแล้วล่ะ......ขอโทษนะโทนี่”
ก่อนเปปเปอร์จะเดินจากไปอีกทางหนึ่ง อย่างไม่รั้งรออะไรทั้งสิ้น
แม้ว่าชายที่เอ่ยปากรั้งเธอไว้จะพยายามเพียงใดก็ตาม โทนี่เรียกชื่อเปปเปอร์.......เธอไม่หัน
โทนี่จับมือเปปเปอร์ไว้........และเธอก็สะบัดออกอย่างเฉยชา
เปปเปอร์ไปแล้ว
และสตีฟก็สังเกตเห็นใบหน้าที่แสดงถึงความอ้างว้างที่สุดของ
โทนี่ สตาร์ก
คงเป็นเพราะอย่างนี้กระมัง
คืนนี้โทนี่จึงได้มีท่าทางที่แปลกไปในสายตาของสตีฟ
แล้วงานอดิเรกของนายกลายมาเป็นคอยจับตาดูเค้าตั้งแต่เมื่อไรกัน..........ร่างสูงกำยำที่นั่งเอนหลังพิงกับเก้าอี้นวมตัวสวยแข็งแรงคิดเหนื่อยหน่ายกับตัวเองในตอนที่ปาทังก้ามาส่ง
“เอาล่ะพวก ใครสั่งปาทังก้าบ้าง”
เป็นโทนี่เจ้าเก่าที่เริ่มปลุกความสนใจของคนอื่นๆ
และสตีฟก็เห็นพวกที่เหลือทยอยมาเอาออเดอร์ของตนเองยังกะในร้านอาหารย่านบรู๊คลินที่ไม่มีเด็กเสิร์ฟ ซึ่งแน่นอนตัวเค้าเองนั้น
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาหารมื้อดึกนี้ด้วยเลย
แต่ทว่าเค้าก็ได้แปลกใจบ่อยเป็นพิเศษ เมื่อเจ้าภาพที่ออกความคิดเห็นนั้นไม่ได้มีปาทังก้าติดมือมาด้วย..........โทนี่เองก็ไม่ได้สั่งด้วยอย่างนั้นหรือ
สตีฟรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งคงจะรู้สึกแย่น่าดู
และคงต้องการอยากจะให้การสังสรรค์กับเพื่อนพ้องช่วยบรรเทาความไม่สบายใจของตัวเองไปได้บ้าง...........แต่ดูแล้ว สตีฟไม่ค่อยเห็นผลจากการกระทำนั้นเสียเท่าไรเลย
แต่แล้ว
ชายผู้มีมูลค่าหลายล้านก็เดินเยื้องย่างอย่างสบายอารมณ์เข้ามาหาเค้าเสียนี่
ในขณะที่พวกที่เหลือต่างกำลังผลัดกันอวดโฉมหน้าของปาทังก้าที่ดูยังไงก็เหมือนกัน
กับคนอื่นๆ
สตีฟกระพริบตา
ทำเป็นว่ากำลังสนใจปาทังก้าของคนอื่นๆ บ้าง
ก่อนจะปรับโฟกัสมาหาโทนี่ซึ่งถือแก้วแชมเปญเดินเข้ามาหาสตีฟอย่างเงียบเชียบราวกับว่าเค้าไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็น
“ไง งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอคุณปู่บ้านไอติมวอลล์”
โทนี่พิงราวกับกระจกแล้วจกกระเป๋ามองออกไปยังกลุ่มเพื่อนที่ยังคงชุลมุนกันอยู่ คุณปู่บ้านไอติมวอลล์ในที่นี่ของอีกฝ่ายก็คงจะหมายถึง
สตีฟที่โดนแช่แข็งมานานนับหลายปี
“คนน้อยขนาดนี้ไม่น่าเรียกว่างานเลี้ยงนะว่าไหม”
เค้ากวนกลับ
แต่ไม่ยักเห็นแววเสียเซลฟ์ของโทนี่บ้าง
อีกฝ่ายเพียงแค่ยิ้มน้อยๆ
แล้วส่งเสียงหัวเราะกับตัวเองเพียงเท่านั้น..........โทนี่ยิ้ม
แต่ทำไมสตีฟจึงได้คิดว่ามันช่างดูเศร้าและขมขืนยิ่งนักนะ
“ก็คงงั้นล่ะ”
โทนี่ตอบรับประโยคนั้นในที่สุด
ก่อนร่างสูงจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เค้าไม่ได้คิดไว้ออกไป
“คุณน่าจะนั่งลง” เค้าว่า
รู้สึกว่าตัวเองทำหน้างุนงงเมื่อพูดออกไปเช่นนั้น
และโทนี่เองก็มีไม่แพ้กันเมื่อกัปตันอเมริกาเอ่ยชวนเค้าอย่างเป็นมิตร แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งลงข้างๆ ร่างสูงแต่โดยดี
“คุณโอเคไหม”
สตีฟเผลอถามออกไปดั่งใจของตัวเองอีกแล้ว
“ทำไม?” อีกฝ่ายยักไหล่
ยิ่งคำถามมาหาเค้าเสียอย่างนั้น
สตีฟไหวไหล่บ้าง “ก็เปล่า แค่เห็นคุณดูแปลกไป”
เค้าจึงตัดสินใจพูดความจริงออกไป
เค้าได้ยินเสียงโทนี่หัวเราะ และมุมปากประดับหนวดเบาบางที่ยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครั้งแรกในคืนนี้
“บางทีบางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด.....”
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยย
ถูกใจกันไหมอ่าคะ? >< //ไรท์มิแน่ใจ เพราะเพิ่งจะบรรเลง
คู่จิ้น Avengers เป็นครั้งแรกค่ะ// คอมเม้นท์ให้ไรท์กันหน่อยนะคะ ><
เอาเป็นว่าเราใจตรงกันนะคะ
ไรท์จะย้อนไปถึง The Avengers ภาค 1 และ ควบมา Ironman
ภาค 3 เลย แล้วจากนั้นค่อยไป The Avengers ภาค
2 นะคะ^^ ไรท์กำลังมองหาหนทางที่จะเขี่ยเปปเปอร์ออกบนพื้นฐานของความเป็นจริงที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดอยู่ค่ะ
5555 //ไม่รู้ไรท์เป็นอะไรกับผู้หญิงในเรื่องนั้นๆ ค่ะ.....ขว้างหูขว้างตา 5555 โดยเฉพาะแคทนิสกับคาร์ลี่
แต่สำหรับเปปเปอร์ไรท์เฉยๆ ค่ะ ฮาาาา//
เขี่ย ใช้คำนี้แรงไปไหมคะเนี่ยยย 5555 แต่ว่าไรท์คิดว่ามันสมเหตุสมผลค่ะ เป็นไรท์ไม่ทนตั้งแต่จบ Ironman ภาค
3 แล้วค่ะ เต็มกลืนน จะตายเพราะเรื่องไม่คาดคิดอยู่แล้ววว
เปปเปอร์นางเป็นเลขาผู้ซื้อสัตย์น่ะก็ดีแล้ววว//
ต้องสุภาพบุรุษมาดแมนแฮนซั่ม
รับได้ทุกอย่าง อย่างกัปตันสุดหล่อของเราสิรับโทนี่ได้ทุกอย่างเลยยยยยย
555555 //ถูกใจจ// โทนี่ต้องมีคนคอยดุ
และคอยปรามค่ะ
และที่สำคัญถ้าไม่มีคนคอยกัดก็จะไม่ใช่ The Avengers (เอ๊ะ
เดี๋ยววว มันเกี่ยวกันเหรอ)
อร๊ายยยยยย ชอบกันไหมเอ่ยยยย
บอกไรท์ด้วยนะคะ ร๊ากกกกกกกกกก
รีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ >,.< //ส่งจูบ//
สักพักแววเสียงรีดวิ่งมาหา....ถือเก่อี้มาด้วย แล้ว RonalSi กับ MaLec
ของฉันล่ะยะ!! รีดทวง แล้วเหวี่ยงวงสวิง.............ง่าาาาา นี่ Fandom เพิ่มเติมค่ะ
55555 //หัวแตก//
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
4 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากคะแต่งเรื่องสนุกมากให้ มาอัพเร็วๆนะคะ
ท้าดาาาาา เพิ้งตามมาอ่านค้า จริงๆนี่เป็นคู่หนึ่งในอเวนเจอร์ที่ชอบรองจากธอร์กิ คู่นี้จิ้นตอนภาค1ที่นางจะสู้กันเพราะความเห็นไม่ตรงกัน แล้ว สตาร์คบอกไม่อยากรังแกคนแก่ แต่โรเจอร์ไล่บอกไปใส่ชุดมา! ตอนนี้ได้กลิ่นรังสีความวาย55 ชอบมากค่ะไรท์😁😁😁 แต่งต่อๆนะคะ
ชอบคู่นี้พอๆ กับธอร์โลกิ
โดยเฉพาะให้โทนี่เป็นฝ่ายรับ 555
กัปตันดูเย็นชาได้ใจดีจัง555555 ชอบอ้ะ แถมยังเป็นห่วงโทนี่อีกถึงจะชอบกัดกัน -.-
แสดงความคิดเห็น