วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

[SF - The Avengers] + [Part 2] Touch , I knows You - Steve x Tony



อ๊าาาาาา  มาแล้วค่ะ ><!! มาอย่างรวดเร็ว  มาต่อกับ Fandom – The Avengers ที่ไรท์ทนไม่ไหวอีกต่อไป 55555  ได้เขียนแล้ว  ได้ลงตอนแรกแล้ว ไม่คิดว่าจะมีรีดๆ อ่านเยอะขนาดนี้เลยค่ะ  เข้าไปเช็คทีนี่ตะลึงเลยค่ะ  ขอบคุณมากๆ เลยนะคะสำหรับการติดตาม ><

แต่จะว่าไปใน Ironman 3 ที่โทนี่ไม่ได้นอนจนร่างกายอ่อนล้า  มีอยู่ฉากหนึ่งที่เค้าขมตานอนกับเปปเปอร์  เอ่อ...ไรท์หมายถึงข่มตานอนทั้งๆ ที่มีเรื่องกวนใจอยู่นะคะ  ไม่ใช่เพราะนอนกับเปปเปอร์ถึงต้องข่มตา 5555555  โทนี่ฝันร้ายอ่าค่ะ  ละเมอ ฮือ...ฮื้อ...อื้อ...ฮือๆๆ

ฮืออร๊ายยยยยยยยยยยยยย  ไรท์ละยิ้มแบบที่สาววายเค้ายิ้มกันเวลาที่เห็นเคะเจ็บปวดเลยค่ะ  น่าหาคนดูแลอย่างใกล้ชิดจริงๆ เลยนะจ๊ะโทนี่ 5555555 //คิดหื่นในใจ  แต่ว่าตอนนั้นไรท์ไม่ว่างค่ะ เลยไม่ได้เขียนทั้งๆ ที่มือนี่คันยุบยิบ//

ฉากนั้นไรท์กรอดูหลายรอบมากค่ะ //สารภาพ// 55555  น่าให้แคป //เอาแบบเวอร์ชั่นอกล่ำๆ ไม่ใส่เสื้อ// มากอดปลอบมอบความอบอุ่นเสียจริงๆ เลยค่ะ เอื้อออออ 55555 //รู้สึกตัวเองบ้าไปแล้วค่ะ M_ _M

 Part 2 นี้ก็ต่อเนื่องจาก Part ที่แล้วเลยค่ะ ^^  ในเรื่องนี้ดูโทนี่น่าสงสารเนอะ  ไรท์ก็ว่า เอ...ถ้าเอ็งจะเขียนคู่นี้ คาแรกเตอร์ของโทนี่ก็จะต้องเป็นแบบสไตล์เค้าดี่  แต่ว่าหลังจากที่ดู The Avengers 2 แล้วไรท์ก็ได้คุยกับรีดท่านหนึ่งค่ะ  เราเห็นตรงกันว่าโทนี่นั้นลึกๆ แล้วเค้าเป็นคนที่แคร์คนอื่นมากค่ะ  เพียงแต่ว่าเค้าจะแสดงมันออกมาในแบบของเค้าเท่านั้นเองและเค้าก็น่าสงสารมากเลยค่ะ  TUT  เป็นห่วงคนอื่นแต่ไม่แสดงออกโต้งๆ แล้วก็เก็บมากดดันตัวเองคนเดียว..ไม่ดีเลย TWT  ไม่เอานะคะโทนี่ อย่าทำแบบนั้นบ่อยๆ นะ  มันไม่ดีนะเออ ฟ้องแคปนะ  ขอขู่ไว้ก่อน 555555

ดังนั้นไรท์ก็เลยเขียนถึงความน่าเห็นใจนี้ของโทนี่ค่ะ  และเอามาเชื่อมกับหัวข้อที่ว่า “จะทำยังไงให้โทนี่ครองตัวเป็นโสดให้สตีฟเข้ามาจับจองได้” เปปเปอร์ได้ค่าตัวจากไรท์ไปค่ะงานนี้ //แจกซองค่าตัวให้แม่ชี// + //เรียกเปปเปอร์แม่ชีเยอะไปไหม.....วกถามตัวเอง -*- //  และไรท์คิดว่าน่าจะเป็นการดีค่ะ ถ้าสตีฟได้เข้ามาดามหัวใจและดูแลโทนี่ พร้อมทั้งเตือนสติของเจ้าตัวไปด้วยว่า คุณไม่ควรทำแบบนั้นเลย  มันไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นมาเลย  ผมดูคุณอยู่นะ.....ผมรู้จักคุณดี มากกว่าที่คุณรู้จักตัวเองซะอีก //จากการถ้ำมองน่ะหรือคะแคป -..-// + //สักพักโดนโล่เฉาะ//

*** คำว่า Knows จากชื่อเรื่องนั้น เมื่อ Know เติม s แล้ว จะแปลว่า ผมรู้จักคุณอย่างลึกซึ้ง  ผมรู้จักคุณอย่างมากมาย  รู้จักอย่างท่องแท้  หรืออาจจะรู้จักมากกว่าตัวคุณเองเสียด้วยซ้ำ  ค่ะ^^  ถ้าหากเป็นคำว่า Know เฉยๆ จะแปลว่า รู้จักเพียงผิวเผินเท่านั้นค่ะ  บางท่านอาจจะงงๆ ว่าไรท์มึนรึเปล่า  ตอนแรกไรท์ก็ไม่ได้เติม s ค่ะ  แต่ว่าท่านรุ่นพี่ที่แสนจะน่าอิจฉา(ได้หวานใจเป็นฝรั่ง...ชริ)เค้าบอกมาน่ะค่ะ  บอกไว้ก่อนนะคะ เพราะบางท่านอาจงงและเข้าใจผิดกันค่ะ ^^***

อืมมมม รู้สึกไรท์จะเมาท์ยาวไปแล้วค่ะ //เพิ่งรู้ตัวเหรอหล่อน -*-//  เอาล่ะค่ะ ไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ  ไปเลยค่าาาาา


-----------------------------------------------------------------------------------------


“บางทีบางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด.....” ชายที่ครอบครองวิทยาการซึ่งล่ำสมัยที่สุดเอ่ยออกมาพร้อมพรูลมหายใจ  แต่รอยยิ้มก็ยังไม่จางหายไปไหน ถึงแม้มันจะเล็กลงและดูเศร้าสอยก็ตาม

โทนี่เริ่มพูดหลายสิ่งหลายอย่างออกมา ราวกับว่าเค้าต้องการจะสื่อแทนถึงเรื่องที่โดนเปปเปอร์บอกปฏิเสธในวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เลยว่าสตีฟเองก็อยู่ที่นั่นและรู้ว่าโทนี่นั้นรู้สึกเช่นไร  จากแชมเปญแก้วสวยใส กลายมาเป็นวิสกี้เข้มข้นซึ่งเริ่มมีการผสมน้อยลงในทุกครั้งที่รินมาใหม่

โทนี่บอกว่า เค้ารู้สึกชอบสตีฟและรู้สึกดีที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดคุยกับเค้าอยู่เสมอ  สตีฟรับฟังเค้ามากกว่าแบนเนอร์ที่เค้าเคยจับได้ว่าแอบนั่งหลับในตอนเล่าเรื่องซีเรียสให้ฟังเสียอีก  รวมทั้งการพูดคุยที่สร้างความผ่อนคลายพร้อมทั้งความสนุกสนานให้กับโทนี่ไม่น้อยในเวลาที่เจ้าตัวใช้คำประชดประชันในเรื่องอายุราวกับวัตถุโบราณของกัปตันอเมริกาคนเก่ง  และสตีฟก็รู้สึกว่าโทนี่เองก็คงจะเมาแล้ว..........

วิสกี้สามขวด  ซึ่งเกือบจะล่ำหน้าเกินไปถึงขวดที่สี่แล้ว วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะแก้วทรงเตี้ยตรงหน้าของทั้งคู่  ซึ่งทุกหยาดหยดนั้นไม่ได้แตะลงแม้แต่ปลายลิ้นของสตีฟเลยแม้แต่นิดเดียว  และถึงแม้เค้าจะออกปากเตือนโทนี่ไปแล้วหลายรอบก็ตามว่าเจ้าตัวมากเกินไปแล้ว  แต่โทนี่ก็ไม่ฟัง.......ใช่  เตือนแล้ว จนกระทั่งขวดที่สี่

“ผมว่าคุณเมาแล้วนะ” สตีฟกล่าว  มองร่างที่สูงน้อยกว่าเค้าเล็กน้อยกระดกวิสกี้เพียวๆ เข้าปากไป

“ฉันบอกแล้วไงพวก  ว่าให้นายช่วยฉันดื่ม....วันนี้เราสงบศึกกันหนึ่งวัน” โทนี่สะอึกเพราะเมามากแล้ว และหลังก็ลู่ลงกับพนักพิงของโซฟา

กัปตันถอนหายใจพลางส่ายศีรษะน้อยๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังเพื่อนร่วมทีมที่เหลือ.....ซึ่งก็ไม่ต่างกันเท่าไรเลย  แม้แต่ธอร์ก็ยังต้องนั่งพิงกระถ่างต้นไม้สูงเพื่อเป็นการค้ำยัน  ส่วนคนอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง  คงจะได้นอนค้างคืนที่สตาร์กทาวเวอร์เป็นแน่แท้

“อ้าว...เอ่อ  โรเจอร์...อืม...ข้าว่าข้า  อืม  ไปก่อนดีกว่า....ชักจะง่วงแล้ว” เทพเจ้าสายฟ้าเอนตัวออกมาจากกระถ่างต้นไม้เมื่อเห็นว่ายังมีคนที่ได้สติอยู่ที่นี่  เมื่อครู่นี้เจ้าตัวเพิ่งโดนบาร์ตันเล่นงานด้วยการแอบเทเหล้าแรงขนานแท้จากแอสการ์ดลงไปในแก้วที่เค้าดื่มเสียหมดขวดเลย

สตีฟพยักหน้ารับ “อืม  Good Night” เอ่ยสั้นๆ รับคำเพียงเท่านั้น  ก่อนบุตรแห่งโอดินจะเหวี่ยงโยเนียร์ให้เป็นดั่งวงล้อ แล้วพาร่างกายแข็งแกร่งประดุจจอมพลังเหาะขึ้นฟ้า ทะลุกระจกของตึกออกไป  แม้จะไม่รู้ว่าธอร์ไปไหนก็ตาม

.........งั้นธอร์ก็คงจะกรึ่มอยู่พอตัวสินะ..........

“โอเค  ถ้างั้นก็เหลือแค่เราแล้วที่ยังไม่นอนคาพับไปเสียก่อน.....อ้าว โทนี่  เฮ้ เดี๋ยวสิ  คุณจะนอนตรงนี้เหมือนคนอื่นๆ  ในตึกของตัวเองไม่ได้นะ” ร่างสูงที่ยังคงมีสติครบถ้วนสมบรูณ์ดีที่สุดเอ่ยอย่างติดจะโล่งอกที่ในที่สุดเมื่องานเลี้ยงได้จบลง  แต่แล้วเค้าก็ต้องกลับมาทำหน้าเหนื่อยใจอีกครั้งเมื่อเห็นเจ้าของไอเดียคอพับคอคาเก้าอี้นวม

“เฮ้อ  ให้ตายสิ” สตีฟพึมพำกับตัวเองหลังจากถอนหายใจไปเฮือกใหญ่  แต่แล้วเค้าก็นึกอะไรขึ้นได้

ร่างสูงดูไม่ลังเล จนกระทั่งเปล่งเสียงออกไป “จาวิส  เฮ้ จาวิส  ยังอยู่รึเปล่า?” เค้าลองเรียกดู “เอ่อ....ถ้าอยู่ก็ตอบด้วย” เค้าใช้สำเนียงแบบทหาร  แต่มันก็ไม่สามรถใช้กับจาวิสซึ่งจู่ๆ ก็ปิดการทำงานไปเสียอย่างนั้นได้..........ดูเหมือนนี่จะเป็นช่วงเวลาของการพักสำหรับทุกๆ อย่างเสียจริงๆ  สตีฟนิ่งไป ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักมาจากฝั่งตรงข้ามของตัวเอง

เป็นโทนี่ที่หลับตาหัวเราะเค้าอยู่นั่นเอง

“คิกๆ นายนี่คิดจะแย่งตำแหน่งเจ้านายของหมอนั่นไปจากฉันรึไงคุณลุงขายหวานเย็น  คิกๆ” เค้าหัวเราะเหมือนเด็ก ในตอนที่เมา...........สตีฟตั้งข้อสังเกต

“ผมคิดว่าคุณควรจะไปนอนในห้องของตัวเองนะ  ผมเชื่อว่าคุณจะต้องมีมันที่นี่แน่” สตีฟแจงและโทนี่ไม่ขัดศรัทธา  เจ้าตัวรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่กับกัปตันอเมริกา

“ได้สิเดี๋ยวฉันไปส่ง.....มา  ช่วยพยุงที” เจ้าตัวว่า  ก่อนจะโน้มตัวอ้าแขนใส่อีกทางหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นตำแหน่งของสตีฟเพราะโทนี่หลับตาอยู่  สตีฟลุกขึ้นเดินไปหาอ้อมกอดของเจ้าของตึกแล้วคล้องมันไว้กับคอของเค้า ก่อนจะพยุง ประคองอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างไม่ยากเย็นอะไรเลย  ถึงแม้ว่าโทนี่จะเดินไม่ตรงทางแล้วก็ตาม

“ไปกันเลย  ฉันจะพานายไปทัศนศึกษาที่ห้องนอนของฉันเอง” โทนี่ว่าพลางทำท่าไอรอนแมน แล้วบอกทางของคนมีจิตใจดีที่อุตส่าห์ไปส่งให้ ด้วยการเซไปทางนั้นทางนี้เพื่อบอกตำแหน่ง  จนในที่สุดพวกเค้าก็มาถึง และสตีฟก็รู้ว่ามันค่อนข้างไกลจากที่ๆ คนอื่นๆ นอนกองกันอยู่ มากพอสมควร

“เอาล่ะถึงแล้วพวก” โทนี่ที่ฝากการทรงตัวไว้กับอีกคนหนึ่งพูดขึ้นราวกับว่าเป็นเค้าเองที่พามาด้วยสติที่ครบถ้วน “เอ่อ...ม่ายย  ตรงนี้ไม่ใช่เตียงนะสตีฟ  เตียงน่ะอยู่ทางนู่น” โทนี่ที่หน้าเกือบจะถึงเบาะอยู่แล้วก็ต้องรีบออกปากเบรกอย่างรวดเร็วทันทีถึงแม้จะเมามากแล้วก็ตาม  ก่อนจะชี้ไปทางเตียงที่อยู่ใกล้กับบริเวณกระจกซึ่งเปิดให้เห็นทิวทัศน์ของมหานครภายใต้ความสูงของตึกสตาร์ก ทาวเวอร์

และสตีฟก็ต้องจัดให้ตามคำขอ  เค้าเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะส่งคนเมาให้ไปถึงเตียง

“เอาล่ะถึงแล้ว” ร่างสูงที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีอ่อนสุภาพกล่าวขึ้นบ้าง  และดูเหมือนเค้าเหมาะที่จะพูดคำนี้เสียมากกว่า  สตีฟค่อยๆ ทิ้งร่างที่ลืมตาแทบไม่ขึ้นของอีกคนหนึ่งลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา  แต่แขนที่โอบรอบคอเค้ากลับไม่ยอมปล่อย  ดังนั้น สตีฟจึงจำเป็นต้องโน้มกายลงไปด้วย ร่างของโทนี่จึงจะเอนกายลงบนเตียงได้อย่างเต็มที

ชั่วขณะนั้น ร่างสูงผมบล์อนร่างกายแข็งแรงก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเค้าเต้นอย่างหนักหน่วงและได้ยินถึงเสียงที่เต้นตุ้บตั้บไปมา........ไม่รู้ว่าทำไมเมื่ออยู่ในระยะที่ใกล้แสนใกล้แบบนี้แล้วเค้าถึงต้องรู้สึกเช่นนั้นด้วย

สตีฟรีบดึงตัวกลับ  และเค้าก็พบว่าอีกคนหนึ่งนอนหลับไปเสียแล้วในตอนที่เค้าเพิ่งจะเคลื่อนตัวได้นิดเดียว  เสียงหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกได้ถึงข้อนั้นเป็นอย่างดี

..........ให้ตาย  คิดจะหลับก็หลับไปเสียอย่างนั้นเลยหรือไง..........

ร่างสูงที่จริงจังกับทุกสิ่งแอบถอนหายใจเล็กน้อยเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ในคืนนี้  ก่อนจะก้มลงจัดการถอดเสื้อนอกตัวหนาที่แสนอึดอัดนั้นออกไปเพื่อให้อีกคนหนึ่งซึ่งนอนหลับไปอย่างหน้าตาเฉยได้รู้สึกสบายขึ้น  พร้อมทั้งถอดรองเท้าอันแสนหนักนั่นออกไปด้วย  ก่อนจะปิดท้ายการดูแลด้วยการดึงผ้าห่มออกมาจากการกอดก่ายของโทนี่

สตีฟห่มผ้าให้โทนี่  เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เตียง  มองดูอีกฝ่ายขยำผ้าห่มขึ้นมากอดอีกครั้งที่ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเองได้รับการดูแลดีเพียงใด ถึงแม้เปปเปอร์อยู่ เธอก็ไม่ได้ทำให้เค้าถึงขนาดนี้..........สตีฟควรออกไปได้แล้ว  แต่ร่างสูงกลับไม่ทำ  เค้ากลับนั่งลงและมองดูอยู่อย่างนั้น และนึกตั้งคำถามที่ควรต้องหาคำตอบของตัวเองต่อไป

............มีบางอย่างกำลังก่อกวนจิตใจที่แข็งแกร่งดุจหินผาของเค้า  และสิ่งนั้นเกิดขึ้นจากชายผู้ที่เค้าควรจะเกลียดขี้หน้ามากที่สุด............

แต่แง่มุมที่โทนี่ไม่เคยคิดที่จะเผยให้ใครได้เห็น กลับทำให้สตีฟไม่สามารถหยุดเห็นใจอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย.........เพราะอะไรกันนะ  เพราะเค้าสงสารหรือ?  บางทีอาจจะใช่  อาจจะใช่ ถ้าเค้าเดินออกจากห้องนี้ไปซะแล้วกลับบ้านไปนอน

แต่ว่าสตีฟกลับนั่งเอนหลังอยู่นี่  และมองดูความเคลื่อนไหวใหม่ของโทนี่   จู่ๆ โทนี่จิกเล็บสั้นๆ ของตัวเองลงกับหมอนและผ้าห่ม  เหงื่อกาฬเบาบางแม้ในยามที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นสบายนั้นเกาะพราวอยู่บนขมับของอีกฝ่ายตั้งแต่เมื่อไรสตีฟก็ไม่ทราบได้  และท่าทางของโทนี่ดูกระวนกระวายผิดกับตอนแรกที่เค้าพาเข้ามายิ่งนัก

“อึก...ฮือ...อะ..ฮึก...อืออ” ชายเกราะเหล็กส่งเสียงครางเหมือนเจ้าตัวกำลังฝันร้าย

สตีฟมีสีหน้าเปลี่ยนไป  เค้าลุกขึ้นมา เข้าไปดูอีกฝ่ายหนึ่งใกล้ๆ แต่ว่าโทนี่ก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอาการทุรนทุรายนั้นลงเลย

“โทนี่” สตีฟเรียก มือแกร่งยกขึ้นมาไล่จับมือที่ปัดป่ายไปทั่วนั้นมากุมไว้ “เฮ้  คุณโอเคไหม....ตื่นเร็วโทนี่ คุณกำลังฝันร้ายนะ  โทนี่

“อ๊ะ!...อึก” เสียงเรียกที่เพิ่มความดังขึ้นหน่อยได้ผล  แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้โทนี่ซึ่งฝันร้ายอยู่อย่างว่าสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้  ฝ่ามือที่ได้รับการกอบกุมนั้นกระชับตอบอย่างหนักหน่วงและหวาดกลัว  สตีฟจับตอบไว้อย่างมาดมั่นและไม่ได้ปล่อยละออกไปแต่อย่างใด

ร่างสูงเห็นคนที่เพิ่งตื่นเบิกตาโพลงมองเค้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป  ไม่ใช่โทนี่คนเดิมที่เค้ารู้จัก  ในเมื่อมันมีม่านน้ำใสๆ อยู่ในนั้นด้วย

“คุณโอเคไหม?” สตีฟถาม  รู้สึกตกตะลึงไม่หายที่เห็นสีหน้านั้นของโทนี่

ความพรั่นพรึงที่มีนั้นยังคงไม่จางหายไปไหน  โทนี่ยังคงหอบหายใจ  ดวงตากลมโตสีเข้มของเจ้าตัวกวาดมองไปรอบกายของคนปลุก

“โอ้  นายเองเหรอ” คนฝันร้ายพูดในที่สุด  ก่อนจะหอบหายใจอีก “โทษที....ฉันรู้สึกตัวเองอาการหนักมากขึ้นทุกวัน...เอ่อ  ฉัน...”

“ช่างเถอะ  ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกไม่ดี  คุณก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันอีก” สตีฟว่า  ปรามให้อีกคนหนึ่งหยุดตื่นตระหนกเสียที......โทนี่ตื่นจากฝันแล้ว “และผมคิดว่าผมควรกลับได้แล้วเสียที  คุณ...เอ่อ  คุณจะได้พักผ่อนเพราะไม่มีผมคอยกวน” กัปตันอเมริกากล่าว ดูเหมือนเค้าจะรบกวนการนอนของอีกคนหนึ่งจริงๆ

ร่างสูงกำลังจะลุกขึ้นออกไป   แต่เค้ากลับโดนรั้งแขนไว้

ไม่  เดี๋ยวก่อนเถอะ....นายอยู่นี่ดีกว่าให้ฉันอยู่คนเดียว“ โทนี่เอ่ยในที่สุด  และฉายแววตาออกมาอย่างไม่ปกปิด.........จะพูดว่า โทนี่   สตาร์ก คนนี้กำลังเมาก็ได้  แต่ตอนนี้ไม่มีใครที่เค้าจะต้องไว้เชิงแล้ว

ใช่  นั่นอาจฟังดูผิดมหัน  แต่ว่าทุกครั้งที่อยู่กับสตีฟ  โทนี่กลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด  อาจเป็นเพราะกัปตันอเมริกามีความอดทนสูงกับมุขของเค้า  และสิ่งสำคัญที่เค้าไม่เคยบอกใครเลยหรือแม้กระทั่งแต่กับจาวิส..........สตีฟทำให้เค้ารู้สึกปลอดภัยจากฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา

“อยู่กับฉันก่อนได้ไหม” โทนี่ไม่อาจบอกได้ว่ารู้สึกดีเพียงใดที่อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งปั้นหน้างุนงงอยู่ตรงหน้านี้ปลุกเค้าขึ้นมา  โอ้ พระเจ้า  โทนี่อยากจะพูดคำว่าขอบคุณไปเสียจริงๆ ถ้ามันไม่ทำให้ดูเสียฟอร์มมากจนเกินไป...........แต่สตีฟก็รู้ว่าเค้าเมาอยู่  และปล่อยให้คิดเป็นเช่นนั้นไปก็ดีแล้ว

โทนี่อยากให้สตีฟอยู่ที่นี่........อยู่กับเค้าก่อน

อืม.....ตอนนี้เค้าเพิ่งจะฟาดวอดก้าไปหลายขวดเลยทีเดียวนี่  ถ้ามองในแง่ของความเป็นจริง สตีฟอาจจะมองว่าเค้าเมาก็ได้    ใช่  นั่นสินะ บางทีโทนี่ก็คงจะเมาหนักไปจริงๆ นั่นแหละ

ร่างด้านใต้ไม่ได้ต่อความกับตัวเองมากนัก  แต่ทว่าแท้จริงแล้วแอลกอฮอล์ที่คนคอทองแดงเจ้าของปาร์ตี้ได้ดื่มไปนั้น  ไม่ได้ทำให้การครองสติสำหรับเค้าย่ำแย่ขนาดนั้นเลย  เป็นความเศร้าสลดและความอ้างว้างใจมากกว่าที่ทำให้โทนี่สื่ออารมณ์เหล่านั้นออกมาอย่างชัดเจน

เช่นคำพูดที่มีใครเคยพูดไว้......ความรู้สึกมักจะสื่อสัตย์จนส่งผลต่อการกระทำเสมอ......โทนี่อยากให้สตีฟปลอบใจเค้า  ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เค้าจะเอ่ยปากขอร้องออกไปโดยที่คิดว่าเป็นเพราะฤทธิ์เพ้อแอลกอฮอล์ของตนเอง

แต่กัปตันคนเก่งกลับเงียบไป ไม่มีอาการท่าทางตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย  ส่งผลให้เจ้าชายที่ใกล้เวลาเข้านิทราปล่อยมือออกมาจากแขนแข็งแรงนั้น  เพราะคิดว่าเจ้าบ้าคนไหนกันจะยอมทำตามคำขอของคนเมาโดยเฉพาะคนเมาที่ดูไม่ถูกโรคกันอย่างแรง

แต่โทนี่ยังไม่ทันที่จะล้มตัวลงนอนเพื่อตัดปัญหาตามแบบของตน........

“ก็ได้  ผมจะนอนเป็นเพื่อนคุณ” กัปตันอเมริกาเอ่ย ก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม เบียดกายของอีกคนหนึ่งให้เขยิบตัวหนีไปด้านข้างท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนที่เริ่มเมามาย

โทนี่ไม่ว่ากระไร  แม้กัปตันโรเจอร์จะสอดแขนมาให้เค้าหนุนแทนหมอนก็ตาม เพียงเพราะว่าเตียงหลังขนาดหนึ่งคนนอนนี้มีหมอนใบใหญ่เพียงใบเดียวซึ่งสตีฟก็ถือโอกาสจับจองเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนในการนอนร่วมเตียงกันไปเสียแล้ว

เตียงเดี่ยว  หมอนหนึ่งใบ  และชายอีกสองคนที่ต้องหันตะแคงกายกอดก่ายกัน.........จึงจะมีที่พอให้นอนได้

โทนี่นอนไม่หลับแล้ว  เพราะสตีฟซ้อนตัวอยู่ข้างหลังเค้า  ทำให้รู้สึกถึงหน้าอกกำยำ  ไหล่กว้างที่ให้พักพิง  และร่างกายแกร่งแข็งแรงที่ทรงพลังเหนือมนุษย์  ทั้งหมดนั่นทำให้โทนี่อดที่จะเกร็งตัวเองเป็นไม่ได้เลย..........โทนี่ประวิง  ให้ตาย  เค้าเป็นคนเมานะ  คนเมาก็มีสิทธิ์ที่จะได้นอนสิ  แต่ความรู้สึกเจ้ากรรมนี่ดันทำให้เค้ารู้สึกแปลกๆ ไปเสียได้ จะมารู้สึกทำไมตอนนี้กันนะ เป็นคนเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายเองแท้ๆ

งั้นมาดูกันว่าคืนนี้เค้าจะนอนหลับไหม.............


.


.


.


------------------------


--------------------------------------------------------


--------------------------------------------------------


-------------------------


.


.


.


02.36 น.

เสียงโครมคราม  ไม่สิ  เสียงดังกระแทกกันอย่างรุนแรงของกำแพงห้องซึ่งดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างไม่ยอมหยุด..........ใช่  มันไม่ยอมหยุดเลยหลังจากที่.......

“อ๊ะ! อ้าา....ฮึก..อึก...อ่าๆๆๆ”

“อื้ออ...ฮึ...อ๊าา...อ้า..อ่า..อาๆๆ”

“อะ อ๊า....แรงอีกสิ....ฮืออ....อ๊าาา! อา...อ่าา....า”

“อ่า...โทนี่...โอ้...อะ อื้อ..คุณจะไม่ไหวนะ....อืออ  อ๊าาา”


.


.


.


TBC.


-----------------------------------------------------------------------------------------------


เรามาโหวตว่าไรท์จะลง Part ต่อไปเมื่อไรกันดีกว่าค่ะ //วิ่งหนี//

Facebook.com ของไรท์  จิ้มโล้ดค่ะ -////-  >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<


ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund


6 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนหน้าจะมีNCใช่มั้ยคะ
อรั้ยยย รอลุ้นรีบมาอัพต่อนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนหน้าจะมีNCใช่มั้ยคะ
อรั้ยยย รอลุ้นรีบมาอัพต่อนะคะ

Unknown กล่าวว่า...

Wait wait wait.......เดี๋ยวๆ นั่นอะไรหน่ะไรท์แว็บๆ ฮ่าๆ ชี้ทางสายหื่นนะคะเนี้ย😂😂😂😂😂

Unknown กล่าวว่า...

อรั้ยยย ชอบที่ทุกตัวละครยังคีปคาแรกเตอร์ไว้ได้เหมือนตัวละครในเรื่องเลยยย ทั้งคำพูดที่ไรท์ใช้ ท่าทาง เป็นป๋ากับแคปมากๆ แอบสารภาพว่าคู่นี้เราจิ้นป๋าxแคปมาตลอดเลย 555 แบบว่าเห็นหน้าอกล่ำๆ ก้นงอนๆ ตาสีฟ้า ผิวขาวๆของแคป ยิ่งตอนที่ยิ้มมุมปากน้อยๆนี่ สติกระเจิงงมากค่ะ รู้สึกถึงออร่าเคะน้อยๆค่ะ >_____<
แต่แบบบบ..... พออ่านอันนี้แล้ว โอ้ว ลืมภาพแคปน้อยๆไปเฉยเลย 55555555 รู้สึกได้ว่าป๋าเคะเซะซี่ชะมัดดดดด มีพาไปทัศนศึกษาห้องนอน ชวนเค้าอยู่ต่อด้วย อรั่ยยยยย แล้วตอนจบคืออะไรค๊าา ทำอะไรกันตอนตีสองงง //แอบส่องหลังประตูห้อง -.,-

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กรี๊ดดดด รอตอนหน้าอยู่น่ะค่ะ

1321 กล่าวว่า...

ฟินมากกกกก อ่านไปยิ้มไปจนจบตอนเลยอ้ะ คือกัปตันสุภาพบุรุษสุดดด โอ้ยที่รักดูแลโทนี่ประดุจไข่ในหิน เริ่มชอบโทนี่แล้วใช่มั้ยยยยย แถมนอนด้วยกันอีก ตายๆ ฟินมาก แล้วตอนตีสอง..ทำอะไรก๊านนน เราแอบดูอยู่นะ(?)55555