วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 11] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



อร๊ายยยยย RonalSi --- ! //ชูป้ายไฟ//  กลับมาแล้วค่ะกลับมาแล้ววว ^///^ พร้อมกับความฟินจนพุ่งถึงขีดที่ยังไม่จำกัดดี(?)  เฮียก็เป็นห่วงเหมียวซะไรท์แอบตบหน้าขาตัวเองไปหลายทีเลยค่ะ......อะไรจะป่านนั้นค่ะเฮีย! >0<

และ Part นี้ก็จะเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นมานิสหนึ่งค่ะ หลังจากที่ Part ที่แล้วหวานหยดย้อยต้อยติ๋งกันมาแล้วว  แต่ไรท์ชอบคำที่เฮียเค้าพูดนะคะ >>> “คุณไม่ต้องกลัว  ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”

อร๊ายยยย! ทำให้นึกถึงหนังแอคชั่นเรื่องหนึ่งค่ะ ไรท์จำไม่ได้แล้ว //อ้าว// พระเอกเค้าบอกกับนางเอกอย่างนี้ค่ะว่าเราจะปลอดภัย ไรท์ล่ะ....โอ้ ทำไมข้าพเจ้าไม่เจอคนอย่างนี้บ้างนะ //เงียบไปเลย  ผช.สักคนเค้าก็ยังไม่กล้าชายตามองแกเลย แกน่ากลัวมากเวลาเจอผช. 55555//

เอาล่ะค่ะ  ไรท์ว่ารีดไปอ่านกันดีกว่านะคะ  //เมาท์มากไร้สาระค่ะ...ไรท์นี่แหละค่ะ -_-“ // ไปอ่านกันเลยค่ะ ><


--------------------------------------------------------------------------------------


สายลมพัดผ่านใบหน้าอ่อนเยาว์ของร่างเล็ก และแล่นไปไล้เลียผิวหน้าของร่างสูงอีกทีหนึ่ง  ตอนนี้พวกเค้าตัวติดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง  ร่างสูงเห็นว่าอีกคนหนึ่งปรับตัวได้แล้วจึงก้มหน้าลงไปแนบแก้มสีแทนเข้ากับข้างขมับของร่างเล็ก

“คุณไม่ต้องกลัว  ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ” เค้ากระซิบ

“ถ้าคุณพร้อมแล้วก็ก้าวได้เลย” โรนัลโด้กระซิบอีก  แล้วร่างเล็กที่ความมั่นใจมีอยู่เต็มเปี่ยมเพราะคนด้านหลัง ก็เริ่มก้าวลงไป  สายลมพัดหอบมาอีกระรอกหนึ่ง

“ดี...ดีแล้ว  ทีนี้ คุณมองขั้นบันไดไว้นะ  อย่ามองลงไปข้างล่างแค่นั้นก็พอ” เสียงของร่างสูงทุ้มต่ำอย่างชวนฟัง  โรนัลโด้ค่อยๆ ปล่อยมือของเมสซี่ออกมาแล้วเอื้อมมือไปจับราวข้างหน้าของอีกคนหนึ่งแทน  เค้าประคองร่างเล็กไว้ด้วยการจำกัดพื้นที่ให้แคบลง  ให้อีกคนหนึ่งได้รู้สึกว่าก็มีเค้าอยู่ด้วยกันข้างหลังไม่หนีไปไหน

  และเนื่องจากใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเกินไป  เมื่อร่างสูงหายใจออก ลมร้อนจึงเป่ารดหูของร่างที่อยู่ด้านหน้าอย่างช่วยไม่ได้และก็เป็นคนด้านหน้าอีกนั่นแหละที่หน้าแดงออกมาอย่างเสียไม่ได้เลยเช่นกัน

เมสซี่ก้าวลงบันไดได้เร็วขึ้นแม้จะมีคำกำกับของร่างสูงอยู่เล็กน้อย  แต่เค้าก็ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับคนที่กลัวความสูงทั่วไปเมื่ออยู่บนที่สูงนับสิบเมตร

เมสซี่เริ่มเอาชนะตัวเองได้แล้ว(เมื่อมีโรนัลโด้อยู่ด้วย) แต่โรนัลโด้เพิ่งเริ่มหวั่น......เค้ากำลังคิด  ตึกหลักหลังนี้ของโรงแรมมีอยู่เกือบร้อยชั้น  ชั้นแรกเป็นล็อบบี้  ชั้นสองเป็นห้องเตรียมอาหาร  ชั้นสามและสี่เป็นฟิตเนต  ชั้นห้าเป็นสระว่ายน้ำในร่ม  ชั้นหกเป็นโซนช้อปปิ้ง  ชั้นเจ็ดเป็นห้องโถงสำหรับจัดงาน  และที่เหลือก็เป็นห้องพักสุดโก้หรู........ร่างสูงไล่เรียง

แต่ที่นี่มีตึกอยู่ทั้งหมดสามตึกเชียวนะ! และบันไดที่เค้ากับร่างเล็กกำลังลงไปอย่างใจเย็นอยู่นี่ก็ทอดตัวลงสิ้นสุดที่ด้านหลังของตึกหลักหลังนี้  ถ้าหากพวกโจรขึ้นไปอยู่บนตึกรองสองตึกนั้นได้  เค้าทั้งคู่อาจเกิดปัญหา

พวกเค้าจะถูกเจอตัวเอาได้

ด้วยแบบแปรนการสร้างโรงแรมของสถาปนิกที่วางตำแหน่งให้ตึกทั้งสามเรียงตัวล้อมรอบกันเป็นวงกลม  และมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าห้าสิบเมตรตั้งอยู่ตรงกลาง  ถัดลงไปจากบริเวณอาณาเขตของโรงแรมเป็นชุมชนอันไม่เคยหลับของริโอเดจาเนโร

โรงแรมตั้งอยู่บนที่สูงคล้ายเนินเขาแต่สูงกว่ามาก  ด้านล่างเป็นนครริโอ ถัดไปเป็นทะเลกว้างใหญ่ซึ่งทอดตัวอยู่เบื้องหลังของรูปปั้นพระเยซูซึ่งตั้งตระหง่าอย่างใหญ่โตและสวยงาม..........

........เอาเป็นว่าเรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง  เพราะมันไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้เสียเลย!

ร่างสูงกวาดตามองไปรอบด้านอย่างระแวดระวัง  หากเกิดอะไรขึ้นเค้าต้องคิดแผนสำรองเอาไว้ในหัว  โรนัลโด้ก้มลงไปใกล้เมสซี่อีกครั้งหลังจากผละออกมาสังเกตการณ์   เค้ากระซิบ

“ผมอยู่นี่ลีโอ  คุณไม่ต้องกลัว”

.............ราวกับจะย้ำว่า หากเกิดอะไรขึ้นร่างสูงจะไม่ยอมให้ร่างเล็กในอ้อมแขนนี้เป็นอะไรไปเด็ดขาด..............

สายลมไม่อาจพัดเอาคำพูดของเค้าหายไปกับมันได้  เมสซี่ได้ยินชัดเจนและก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หวาดหวั่น  ร่างเล็กรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง  เพราะนี่คือครั้งแรกที่เค้าไม่รู้สึกกลัวความสูงเลยแม้แต่นิดเดียว  เสียงหัวใจโรนัลโด้หายไปแล้วเพราะจังหวะการก้าวเดินที่พวกเค้าจำเป็นต้องขยับห่างกัน  แต่ไออุ่นที่ยังคงอยู่และได้สัมผัสอยู่เป็นพักๆ ของร่างสูงก็ทำให้เมสซี่อุ่นใจได้มากเลยทีเดียว

ในขณะที่ใกล้ถึงพื้น เมสซี่ดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังหัดเดินโดยมีโรนัลโด้เป็นผู้ปกครองคอยสอนให้  บางครั้งแขนแกร่งถูกสอดเข้าไปวงแขนเล็กเพื่อช่วยพยุงและผลักดันให้อีกคนหนึ่งไปต่อ  การรอคอยอย่างใจเย็นใกล้สิ้นสุดลงเมื่อร่างเล็กเดินนำมาถึงสี่ขั้นสุดท้ายก่อนถึงพื้น

แต่การเกร็งเป็นเวลานานในสภาพที่ชวนหวาดเสียว กลับทำให้ขาของเมสซี่หมดเรี่ยวแรง  ว่าที่กัปตันอาร์เจนติน่าขาอ่อนลงอย่างคาดไม่ถึง  แล้วเอนตัวถลาไปข้างหน้า

เมสซี่หยุดหายใจ

โอ้ ไม่!” ร่างเล็กร้องเสียงหลง  อีกคนหนึ่งไม่พูดแต่ไวกว่านั้น  โรนัลโด้คว้าตัวเมสซี่ไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว  อีกมือหนึ่งของเค้าจับราวเหล็กแน่น  และมีเพียงปลายเท้าของเมสซี่เท่านั้นที่สัมผัสพื้นบันได  นอกนั้นแล้ว ตัวของเค้าก็ลอยคว้างอยู่กลางอากาศที่สัมผัสใกล้พื้นดิน

“โอ้! ตายแน่ ตายแน่ๆ --!!” เมสซี่ร้องออกมา เค้าตาโตและหยุดหายใจ  แขนก็กางพับๆ อยู่กลางอากาศ

“ไม่ๆๆ ไม่ตายหรอก ผมจับคุณไว้แล้ว ไม่ตกนะไม่ตก....” โรนัลโด้เม้มปากเข้าหากัน แล้วออกแรง  เพราะเค้าต้องดึงรั้งทั้งตัวเองและให้เมสซี่กลับมาด้วย  มีเพียงแขนอีกข้างหนึ่งเท่านั้นที่เป็นที่ยึดเกาะเดียวของเค้าในตอนนี้  ส่วนอีกมือหนึ่งก็กอดรัดรอบอกของคนตัวเล็กๆ ที่กางปีกพับๆ ไว้อย่างแน่นหนา

หน้าของเมสซี่ที่โรนัลโด้มองไม่เห็น.....ซีดเผือด และเค้ารู้สึกเหมือนหัวใจเกิดหยุดเต้น  แต่แล้วในที่สุดแขนแข็งแรงก็เกี่ยวรั้งน้ำหนักทั้งหมดของผู้โดยสารและตัวเองไว้ได้ แล้วเอนตัวกลับมา ให้เค้าทั้งคู่ได้มายืนอยู่บนขั้นบันไดได้อย่างสมบรูณ์อีกครั้งหนึ่ง 

โรนัลโด้กอดรัดเมสซี่ไว้แน่น  และแผ่นหลังเล็กที่กระเพื่อมขึ้นลงนั่นก็แนบชิดกับแผงอกแข็งแรง   โรนัลโด้คลำดูหัวใจของเมสซี่.......มันกลับมาเต้นอีกครั้ง  แต่เต้นระรัวเลยทีเดียว

“ไง...ทีนี่ไม่ตกแล้วนะ  คุณปลอดภัย” ร่างสูงเกือบหอบตามร่างเล็กข้างหน้า

เมสซี่ใช้หลังมือเช็ดหน้าผาก “โอ้พระเจ้า! ผมเกือบตก! ผม....ผม....” เมสซี่กัดเล็บตามนิสัย  เมื่อเค้าหวาดกลัวสุดขั้ว

เกือบไปแล้ว  เกือบไปแล้วที่เค้ากำลังจะได้จูบพื้น

 โรนัลโด้สวมกอดเค้าจากทางด้านหลัง

“สี่ขั้นลีโอ แค่สี่ขั้นเท่านั้นเอง  เราต้องรีบแล้ว” เค้าพูดเสียงอ่อนโยน แต่ดูเร่งรัดในตอนท้าย  เมสซี่พยักหน้าพลางกลั้นหายใจ เผื่อหัวใจของตัวเองจะเต้นช้าลง  แต่ก็ไร้ผล

“โอเค โอเค  ผมจะไป.....ผม....” ร่างเล็กผ่อนลมหายใจจนไหล่สั่น  แล้วกำราวเหล็กแน่นจนมันแทบติดมือ ก่อนออกเดินต่อไป

ตอนนี้ความมั่นใจทั้งหลายของร่างเล็กพังทลายหายไปในชั่วปริตาและไม่มีทีท่าว่ามันจะกลับมาอีกเลย   ไหล่ที่สั่นอย่างเห็นได้ชัดของเมสซี่ทำให้โรนัลโด้มองตามอย่างอดสงสารไม่ได้  มีอยู่ครั้งหนึ่งเมสซี่ตัวเซแต่เกาะราวไว้ไม่ให้ล้มลงไปได้  ตัวร่างสูงเองก็อ้าแขนไว้เตรียมจะรับเช่นกัน

..................เค้าดูลุ้นไม่น้อยกับการลงบันไดสี่ขั้นของเมสซี่ เช่นเดียวกับเจ้าตัว.................

พอลงมาได้แล้ว  เมสซี่ทรุดนั่งลงกับพื้น  เค้าหอบฮั่ก  ปากอ้าค้าง  และหน้าซีดเผือด  หูเค้าอื้อ  และดูตกใจมาก  ความรู้สึกเหมือนลอยคว้างอยู่ในอากาศและทิ้งดิ่งลงมา ยังคงอยู่ในหัวของเค้า   เมสซี่กอดตัวเอง

และร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เป็นห่วงอีกคนหนึ่งไม่น้อย  แต่ก็ต้องตรวจดูความเรียบร้อยรอบๆ เสียก่อน..........ถือว่ายอดมากที่ไม่มีใครเห็นเค้าสองคนตอนเดินลงมา ถ้าไม่งั้นคงจะต้องแย่แน่ๆ ตอนนี้ถือว่าพวกเค้ายังคงปลอดภัย............

ร่างสูงประเมิน  บันไดทอดตัวสู่พื้นในบริเวณหลังตึกหลัก ในตอนนี้เค้าทั้งคู่จึงอยู่ในที่ลับตาคน แต่ถ้าหากเดินออกไปทางซ้ายอีกประมาณสิบเมตรจะเป็นกระจกแทนซีเมนต์หนา  ข้างในของกระจกเป็นล็อบบี้ของโรงแรม

ใช่ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเองคริส นายทำได้........ร่างสูงคิดในใจ  ใบหน้าของเค้าดูโล่งอกไม่น้อยที่อีกไม่นานเรื่องร้ายๆ ก็จะจบลงและเมสซี่ก็จะไม่เป็นไร  เค้าคิดอยู่แค่นั้น

ร่างสูงหันรีหันขว้าง  ด้านหลังของเมสซี่คือท่อขนาดใหญ่  มีขนาดเล็กด้วย ดูๆ แล้วน่าจะเป็นท่อส่งแก็สขึ้นไปใช้ที่ห้องเตรียมอาหารและน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค 

ร่างสูงคิดในใจ หักมันแล้วเอามาฟาดหัวคนร้ายได้รึเปล่านะ  แต่พอคิดไปคิดมาก็ว่าไม่ดีกว่า  มีหวังได้โดนแก็สพ่นใส่หน้าเอาแหงๆ นั่นไม่คุ้มเอาเสียเลย  แก็สพวกนี้สูดดมเข้าไปแล้วอันตรายมากเกินกว่าที่ใครจะคิดได้

โรนัลโด้ยืดตัวท้าวเข่าแล้วสูดหายใจ  ก่อนจะยืดตัวขึ้นตรงจนเต็มความสูง  เค้าหันไปถามเมสซี่ใกล้ๆ

“คุณดีขึ้นไหม?”

เมสซี่เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมแขนของตัวเองแล้วพยายามทำเสียงให้ปรกติมากที่สุด

“อืม ครับ” โรนัลโด้เดินเข้ามา  ยื่นปลายนิ้วเข้ามาใกล้เค้า  สัมผัสอุ่นๆ ตรงแก้มทำให้เค้าสะดุ้ง  โรนัลโด้เช็ดน้ำตาให้เมสซี่

“อย่าบอกว่าคุณโอเค ถ้าคุณร้องไห้สิ” อีกคนหนึ่งที่ทรุดลงนั่งกับเค้าพูดเสียงกึ่งตำหนิ  แต่เมสซี่รู้สึกได้ถึงความปลอบโยนที่แสดงออกมาทางสายตาและน้ำเสียงนั้นของโรนัลโด้

“ผม....ผมแค่กลัว  มันน่าใจหายชะมัด  ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าอยู่คนเดียวผมคงปล่อยให้ตัวเองหน้าทิ่มไปแล้ว” ร่างเล็กยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ  เค้าดันมือโรนัลโด้ออกอย่างสุภาพ

ร่างสูงวางมือกลับลงบนเข่าแล้วเอ่ยบ้าง “แต่คุณก็ไม่เป็นไร” โรนัลโด้ไม่ได้จะทวงบุญคุณหรือบอกว่าเค้าเป็นคนช่วยไว้  แต่พูดเพื่อให้เมสซี่รู้สึกดีที่ได้ลงพื้นอย่างปลอดภัย  ร่างเล็กพยายามลุกขึ้น เค้าจึงช่วยพยุง

“รู้ไหม  คุณกล้าหาญมากเลยนะ” โรนัลโด้พูดแล้วยิ้มให้พลางยักไหล่  เมสซี่ยิ้มตอบอย่างขอบคุณ

ร่างเล็กไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะมีจิตใจดีถึงเพียงนี้  โรนัลโด้ร่วมทางกับเค้าเปรียบเสมือนเป็นเรื่องของตัวเอง  ทั้งๆ ที่อีกคนหนึ่งเป็นคนบอกเองแท้ๆ ว่า พวกมันตามล่าเค้า  แต่ก็เป็นโรนัลโด้อีกนั่นแหละที่ฉุดมือเค้าวิ่งมาด้วยกัน  อดทนกับเค้า  ช่วยเหลือเค้า  ปลอบใจเค้า  และอ่อนโยน..........ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นต้องทำเลยสักนิด

ภาพความเย้อหยิ่ง  ชายตามองผู้อื่นและพร้อมที่จะเมินหน้าใส่ได้ทุกเมื่อของโรนัลโด้ ในความคิดของร่างเล็กมลายหายไปสิ้น  ที่เค้าเห็นตรงหน้าคือ ใบหน้าหล่อเหลาที่เกือบจะกังวลแทนเค้า  แข็งแรง  และเชี่ยวชาญ  เหลือเชื่อว่าคนตรงหน้านี้ยินดีที่จะช่วยเค้า แม้ในใจรู้ว่ามีชายถือปืนเป็นฝูงวิ่งตามเค้าอยู่  แต่โรนัลโด้ก็ไม่เคยบ่น  ชายคนนี้ฉุดมือเค้าลงมาและหากไม่จำเป็นโรนัลโด้จะไม่ยอมปล่อยมือของเค้าเป็นอันขาด

เมสซี่กระพริบตา  และรู้สึกแสบที่ลำคอ

โรนัลโด้ใจดีกับเค้าเหลือเกิน.................

แม้เค้าจะทำตัวเป็นเด็กแค่ไหน

“ผมว่าเราคงต้องอ้อมไปทางด้านหลัง  แล้วหาช่องทางเข้าไปรวมกับพวกที่รวมกลุ่มอยู่ข้างหน้า  ตอนนี้กำลังเสริมน่าจะมาแล้วนะผมว่า” ร่างสูงยืดคอลอบมองไปทางอีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำ  ว่างเปล่า  ไร้วี่แววของพวกนั้น  โรนัลโด้เห็นเพียงแต่แขกหลายคนซึ่งตกค้างอยู่วิ่งพล่านไปทั่ว 

ร่างสูงดูตกใจเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเค้าก็สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว  ว่าพวกนั้นวางแผนการได้แย่มาก

เหลือแขกไว้ทำไม  ถ้าอยากจะจับเป็นตัวประกันก็คงจะไม่วิ่งไปวิ่งมาแบบนี้หรอก.......ร่างสูงคิด  และรู้ว่าประตูหน้าและทางออกถูกปิดกั้น  คนที่ตื่นกลัวเหล่านี้จึงไม่สามารถออกไปได้  และเค้าเองก็คงจะต้องพยายามอย่างหนักเช่นกัน เพื่อจะพาเมสซี่ออกไปให้ได้ราวกับล่องหน

.......................จะให้พวกมันรู้ก่อนเจอตำรวจไม่ได้เด็ดขาด...........

โรนัลโด้ดึงแขนเมสซี่อย่างแผ่วเบา เป็นเชิงให้ตามมา  แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวต่อไป แขนแกร่งของเค้าก็ถูกฉุดไว้เสียก่อน  ร่างสูงมองกลับมา

“มีอะไรหรือครับ” เค้าพูดสุภาพ  และเห็นเมสซี่ชะงักไปชั่ววินาที  ดวงกลมโตที่เค้านึกพิศวงกระพริบเล็กน้อย  ก่อนเหลือบขึ้นมองเค้า และมันดูกลมโตกว่าเดิม

“ขอบคุณ” เมสซี่พูดอ้อมแอ้ม แล้วหลุบตาลง  หลังจากพูดจบริมฝีปากบางก็เม้มเข้าหากันแน่น

ร่างสูงตาโตบ้าง  แต่ไม่ขนาดนั้น  เค้าค่อนข้างคาดไม่ถึง  และติดใจกับท่าทางเนียมอายที่เมสซี่มีให้กับเค้า  ไม่เอาน่า มันไม่ยากขนาดนั้นสักหน่อย........

หนุ่มโปรตุเกตุอมยิ้มแล้วเปลี่ยนมาเป็นฉีกยิ้มในท้ายที่สุด เมื่อเค้าพบว่าตัวเองห้ามมันไม่ได้  เค้าเอื้อมมือไปจับไหล่เล็กๆ ของคนตรงหน้า

คนโดนจับเงยหน้าขึ้นมาอย่างข้องใจ  เมื่อเจอเข้ากับรอยยิ้มในตำนานที่บาดใจสาวๆ ทั่วทั้งโลก

“คุณรู้ไหม  คุณทำแบบนี้แล้วน่ารักชะมัดเลย” โรนัลโด้ยิ้มจนตาเกือบหยี  และเมสซี่ตะโกนใส่หน้าเค้า

“อ้าาาา!

“ฮ่ะ.....โทษที  ผมไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบให้พูดแบบ.....”

ไม่! อ้าาาาา!.....ข้างหลังคุณ!!” ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนที่ ร่างเล็กจะหมุนไหล่เค้าให้กลับหลังหันไป

...........ชัดเลย.........

ของรางวัลตามมาเอาคืนที่สิบสองนาฬิกา!

“เอาถ้วยบัลลงดอร์ปีหน้าที่ฉันจะได้ ฟาดหัวฉันดีกว่า” โรนัลโด้โอดครวญกับตัวเอง  เมื่อภาพตรงหน้าเค้าคือผู้ร้ายคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปราวๆ หกเมตร  คงจะโผล่ออกมาจากมุมตึกพอดีในตอนที่เมสซี่หันมามองเค้า

เจ้าคนนี้รูปร่างสมบุกสมบัน  มาคนเดียว  และถือปืน AK 47 ติดมือมาด้วย

โรนัลโด้ถอยหลังไปบังอีกคนไว้ 

เค้าคิด แต่ปัญหาก็คือเจ้าหมอนี่จะเดินเข้ามาแล้วต่อยเค้ารึเปล่านี่น่ะสิ!

ชายพื้นเมืองโพกผ้าสีเขียวขี้ม้าคลุมศีรษะ  โบก AK 47 มาทางเค้าแล้วลั่นไก

ไวกว่าความคิด  กัปตันโปรตุเกตุหันกลับไปกระโดดใส่เมสซี่จนล้มลงแล้วเอาตัวเองทับอีกคนหนึ่งไว้

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

โรนัลโด้ฟังจากเสียงแล้วก็รู้ว่าพวกนี้ไม่ต้องการให้โจ่งแจ้งนัก เพราะพวกมันใช้........

ที่เก็บเสียงของรัสเซีย!......ร่างสูงกัดฟัน  เค้าจำมันได้ขึ้นใจ  และรู้สึกได้ว่าหนึ่งในท่อน้อยใหญ่ซึ่งติดอยู่กับกำแพงนั้นถูกยิ่งจนทะลุ.......คงเป็นท่อส่งแก็ส  ร่างสูงได้ยินเสียงแก็สรั่วไหลและได้กลิ่นแสบจมูก

กะแล้วว่ามันต้องยิง!

โรนัลโด้ผงกหัวขึ้น  เค้าเห็นชายบราซิลทิ้งปืนลงข้างตัวแล้วตัดสินใจพุ่งเข้ามาหาเค้า  หลังจากทำหน้าบ้องตื้นอยู่ครู่หนึ่ง

โรนัลโด้กลอกตาขึ้นฟ้า  มีแต่พวกปัญญานิ่มทั้งนั้นเลยสินะ........เค้าคิดในขณะที่ถอดเสื้อนอกออกจากกายอย่างรีบร้อนแล้วคลุมมันให้กับเมสซี่ที่นอนคุดคู้อยู่บนพื้น

“คลุมไว้! หายใจผ่านเสื้อของผม”

ก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน แล้วรอการปะทะ..........

“ย๊ากกกก!” ชายคนนั้นพุ่งเข้ามา  และร่างสูงเพิ่งสังเกต  ชายนั้นนั้นตัวใหญ่กว่าเค้าเสียด้วยซ้ำ  แต่เรื่องนั้นไม่มีผลต่อแนวดิ่งสำหรับเค้า  โรนัลโด้ยืดแขนซ้ายตั้งฉากกับพื้นแล้วกระแทกใส่ลำคอของชายบ้าคลั่งบ้องตื่นคนนั้นในช่วงสุดท้ายก่อนเข้าปะทะกัน  และพอเข้าปะทะโรนัลโด้ก็ชนะอีกเช่นเคย..........

ชายคนนั้นหงายเก๋งลงพื้น  ขาชี้ฟ้า  ผ้าโพกหัวของเค้าพลิ้วไปมาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระแทกลงพื้น  และมีสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะแน่นิ่งไป  โรนัลโด้ทำหน้าหยีตาเหมือนโดนแสงจ้า แต่ที่จริงแล้วเค้ากำลังดูถูกชายคนนี้อยู่ต่างหาก

“หลังออกจากคุกแล้วก็ไปหากระโปงยายมาใส่ล่ะกันนะพวก..... นายไม่เหมาะกับการเป็นโจรเอาซะเลย” เค้าส่ายหน้าเหมือนซื้อของเน่ามาจากตลาด  แล้วทรุดตัวลงค้นตัวชายแน่นิ่งคนนั้น

โรนัลโด้เจอปืนพกเหมาะมืออยู่ที่เข็มขัดด้านหลังของผู้ร้าย  เค้าหยิบมันขึ้นมาแล้วเทแม็กลงบนฝ่ามือ ก่อนสไลด์กลับเข้าไปใหม่.........มีกระสุนอยู่เกือบเต็ม  และพอเอาไปใช้ยามฉุกเฉินได้

ร่างสูงเหน็บปืนหนักๆ ไว้ด้านหลังบริเวณเข็มขัด แล้ววิ่งไปหาเมสซี่  ฉุดอีกคนหนึ่งขึ้น

เมสซี่ที่เอาเสื้อคลุมหัวกลมๆ ของตัวเองอยู่ก็อ้าปากใส่เค้าทันทีเมื่อมาถึง

“คุณเป็น CIA เหรอ!” สีหน้าเมสซี่ดูเสียขวัญอีกครั้ง  แต่ก็มีแววไม่เข้าใจ

“ไม่  ผมเป็นนักฟุตบอล!” กระฉากเสื้อนอกของเค้าออกมาจากหัวของเมสซี่  เมื่อหูเค้าแววได้ยินเสียงวิ่งระรัวของบู๊ตหลายคู่

............จะมีมากันอีก..........


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------------


อั๊ก! ผู้ร้ายมา...เซฟตี้ได้ดีมากเลยค่ะเฮีย >.,<

...............จะมีมากันอีก............

แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมกันได้ใน Part หน้าเลยค่ะ   Part หน้าเป็นฉาก.....เอ่อ....อืมมม ฉากอะไรน้า  ว่าจะแอบสปอยล์นิดหน่อยแต่ว่าลืมไปแล้วค่ะ ฉากหน้ามีอะไรที่สำคัญๆ บ้าง

อาาา งั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงรีดก็จะได้อ่านอยู่ดีนะคะ 55555+

คอมเม้นท์ให้ไรท์หน่อยนะคะ ^^ รักรีดทุกท่านมากๆ เลยค่ะ

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund


2 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

เขินจังเลย~ ไม่รู้จะหาคำไหนมาจำกัดความดีค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งหวานนะรู้สึก เขินได้อีกหนาา >.<

เอ้าต้องขอชมพ่อยอดชายคริสเตียโน่ของพวกเราจริงๆนะคะ ไม่ว่าสถานการณ์แบบไหนก็ดำรงสติได้ดีเหลือเชื่อ แถมไหวพริบดีทุกอย่างอีกต่างหาก ก็แหงล่ะ...ก็ลีโอสำคัญนี่จริงไหม ^^ ดูซิขนาดลีโอยังคิดว่าเป็น CIA เลย คริสเป็นได้ทุกอย่างจริงๆ (นั่นไง...เป็นคนรักก็ได้นะ 555)

ทุกฉากนึกภาพตามได้หมดเลยค่ะ ลุ้นตามประหนึ่งตัวเองเป็นผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ เอ้ย. สังเกตการณ์ -..- ลุ้นแทนว่าจะเป็นอย่างไร จะไปได้สวยไหม ฯลฯ สุดยอดจริงๆค่ะ ยิ่งกว่าดูหนังแอ็กชั่นอีกเอาสิ

รอนะคะ พูดแบบนี้ก็อยากรู้อีกละ อิอิ

Unknown กล่าวว่า...

อิจฉาเหมียวอย่างแรง ทำไมไม่มีใครมาคอยดูแลเราแบนี้บ้าง #ร้องไห้หนักมาก 😭😭😭😭😭
p.s. พาร์ทหน้าคืออะไรยังไงคะไรท์ ลุ้นๆ อย่าลืมมาต่อนะคะ สู้ๆค่ะ ✌✌✌✌✌✌