อร๊ายยยยย RonalSi
--- ! //ชูป้ายไฟ//
กลับมาแล้วค่ะกลับมาแล้ววว ^///^ พร้อมกับความฟินจนพุ่งถึงขีดที่ยังไม่จำกัดดี(?) เฮียก็เป็นห่วงเหมียวซะไรท์แอบตบหน้าขาตัวเองไปหลายทีเลยค่ะ......อะไรจะป่านนั้นค่ะเฮีย!
>0<
และ Part นี้ก็จะเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นมานิสหนึ่งค่ะ
หลังจากที่ Part ที่แล้วหวานหยดย้อยต้อยติ๋งกันมาแล้วว แต่ไรท์ชอบคำที่เฮียเค้าพูดนะคะ >>> “คุณไม่ต้องกลัว ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”
อร๊ายยยย! ทำให้นึกถึงหนังแอคชั่นเรื่องหนึ่งค่ะ
ไรท์จำไม่ได้แล้ว //อ้าว// พระเอกเค้าบอกกับนางเอกอย่างนี้ค่ะว่าเราจะปลอดภัย
ไรท์ล่ะ....โอ้ ทำไมข้าพเจ้าไม่เจอคนอย่างนี้บ้างนะ //เงียบไปเลย ผช.สักคนเค้าก็ยังไม่กล้าชายตามองแกเลย
แกน่ากลัวมากเวลาเจอผช. 55555//
เอาล่ะค่ะ ไรท์ว่ารีดไปอ่านกันดีกว่านะคะ //เมาท์มากไร้สาระค่ะ...ไรท์นี่แหละค่ะ -_-“ //
ไปอ่านกันเลยค่ะ ><
--------------------------------------------------------------------------------------
สายลมพัดผ่านใบหน้าอ่อนเยาว์ของร่างเล็ก
และแล่นไปไล้เลียผิวหน้าของร่างสูงอีกทีหนึ่ง
ตอนนี้พวกเค้าตัวติดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง
ร่างสูงเห็นว่าอีกคนหนึ่งปรับตัวได้แล้วจึงก้มหน้าลงไปแนบแก้มสีแทนเข้ากับข้างขมับของร่างเล็ก
“คุณไม่ต้องกลัว ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ” เค้ากระซิบ
“ถ้าคุณพร้อมแล้วก็ก้าวได้เลย”
โรนัลโด้กระซิบอีก
แล้วร่างเล็กที่ความมั่นใจมีอยู่เต็มเปี่ยมเพราะคนด้านหลัง
ก็เริ่มก้าวลงไป
สายลมพัดหอบมาอีกระรอกหนึ่ง
“ดี...ดีแล้ว ทีนี้ คุณมองขั้นบันไดไว้นะ อย่ามองลงไปข้างล่างแค่นั้นก็พอ”
เสียงของร่างสูงทุ้มต่ำอย่างชวนฟัง
โรนัลโด้ค่อยๆ ปล่อยมือของเมสซี่ออกมาแล้วเอื้อมมือไปจับราวข้างหน้าของอีกคนหนึ่งแทน
เค้าประคองร่างเล็กไว้ด้วยการจำกัดพื้นที่ให้แคบลง
ให้อีกคนหนึ่งได้รู้สึกว่าก็มีเค้าอยู่ด้วยกันข้างหลังไม่หนีไปไหน
และเนื่องจากใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเกินไป เมื่อร่างสูงหายใจออก ลมร้อนจึงเป่ารดหูของร่างที่อยู่ด้านหน้าอย่างช่วยไม่ได้และก็เป็นคนด้านหน้าอีกนั่นแหละที่หน้าแดงออกมาอย่างเสียไม่ได้เลยเช่นกัน
เมสซี่ก้าวลงบันไดได้เร็วขึ้นแม้จะมีคำกำกับของร่างสูงอยู่เล็กน้อย
แต่เค้าก็ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับคนที่กลัวความสูงทั่วไปเมื่ออยู่บนที่สูงนับสิบเมตร
เมสซี่เริ่มเอาชนะตัวเองได้แล้ว(เมื่อมีโรนัลโด้อยู่ด้วย)
แต่โรนัลโด้เพิ่งเริ่มหวั่น......เค้ากำลังคิด
ตึกหลักหลังนี้ของโรงแรมมีอยู่เกือบร้อยชั้น ชั้นแรกเป็นล็อบบี้ ชั้นสองเป็นห้องเตรียมอาหาร ชั้นสามและสี่เป็นฟิตเนต ชั้นห้าเป็นสระว่ายน้ำในร่ม ชั้นหกเป็นโซนช้อปปิ้ง ชั้นเจ็ดเป็นห้องโถงสำหรับจัดงาน
และที่เหลือก็เป็นห้องพักสุดโก้หรู........ร่างสูงไล่เรียง
แต่ที่นี่มีตึกอยู่ทั้งหมดสามตึกเชียวนะ! และบันไดที่เค้ากับร่างเล็กกำลังลงไปอย่างใจเย็นอยู่นี่ก็ทอดตัวลงสิ้นสุดที่ด้านหลังของตึกหลักหลังนี้
ถ้าหากพวกโจรขึ้นไปอยู่บนตึกรองสองตึกนั้นได้ เค้าทั้งคู่อาจเกิดปัญหา
พวกเค้าจะถูกเจอตัวเอาได้
ด้วยแบบแปรนการสร้างโรงแรมของสถาปนิกที่วางตำแหน่งให้ตึกทั้งสามเรียงตัวล้อมรอบกันเป็นวงกลม
และมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าห้าสิบเมตรตั้งอยู่ตรงกลาง
ถัดลงไปจากบริเวณอาณาเขตของโรงแรมเป็นชุมชนอันไม่เคยหลับของริโอเดจาเนโร
โรงแรมตั้งอยู่บนที่สูงคล้ายเนินเขาแต่สูงกว่ามาก ด้านล่างเป็นนครริโอ
ถัดไปเป็นทะเลกว้างใหญ่ซึ่งทอดตัวอยู่เบื้องหลังของรูปปั้นพระเยซูซึ่งตั้งตระหง่าอย่างใหญ่โตและสวยงาม..........
........เอาเป็นว่าเรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง เพราะมันไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้เสียเลย!
ร่างสูงกวาดตามองไปรอบด้านอย่างระแวดระวัง
หากเกิดอะไรขึ้นเค้าต้องคิดแผนสำรองเอาไว้ในหัว
โรนัลโด้ก้มลงไปใกล้เมสซี่อีกครั้งหลังจากผละออกมาสังเกตการณ์ เค้ากระซิบ
“ผมอยู่นี่ลีโอ คุณไม่ต้องกลัว”
.............ราวกับจะย้ำว่า
หากเกิดอะไรขึ้นร่างสูงจะไม่ยอมให้ร่างเล็กในอ้อมแขนนี้เป็นอะไรไปเด็ดขาด..............
สายลมไม่อาจพัดเอาคำพูดของเค้าหายไปกับมันได้
เมสซี่ได้ยินชัดเจนและก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หวาดหวั่น ร่างเล็กรู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนี่คือครั้งแรกที่เค้าไม่รู้สึกกลัวความสูงเลยแม้แต่นิดเดียว
เสียงหัวใจโรนัลโด้หายไปแล้วเพราะจังหวะการก้าวเดินที่พวกเค้าจำเป็นต้องขยับห่างกัน แต่ไออุ่นที่ยังคงอยู่และได้สัมผัสอยู่เป็นพักๆ
ของร่างสูงก็ทำให้เมสซี่อุ่นใจได้มากเลยทีเดียว
ในขณะที่ใกล้ถึงพื้น
เมสซี่ดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังหัดเดินโดยมีโรนัลโด้เป็นผู้ปกครองคอยสอนให้
บางครั้งแขนแกร่งถูกสอดเข้าไปวงแขนเล็กเพื่อช่วยพยุงและผลักดันให้อีกคนหนึ่งไปต่อ การรอคอยอย่างใจเย็นใกล้สิ้นสุดลงเมื่อร่างเล็กเดินนำมาถึงสี่ขั้นสุดท้ายก่อนถึงพื้น
แต่การเกร็งเป็นเวลานานในสภาพที่ชวนหวาดเสียว
กลับทำให้ขาของเมสซี่หมดเรี่ยวแรง
ว่าที่กัปตันอาร์เจนติน่าขาอ่อนลงอย่างคาดไม่ถึง แล้วเอนตัวถลาไปข้างหน้า
เมสซี่หยุดหายใจ
“โอ้ ไม่!” ร่างเล็กร้องเสียงหลง อีกคนหนึ่งไม่พูดแต่ไวกว่านั้น โรนัลโด้คว้าตัวเมสซี่ไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว อีกมือหนึ่งของเค้าจับราวเหล็กแน่น
และมีเพียงปลายเท้าของเมสซี่เท่านั้นที่สัมผัสพื้นบันได นอกนั้นแล้ว ตัวของเค้าก็ลอยคว้างอยู่กลางอากาศที่สัมผัสใกล้พื้นดิน
“โอ้! ตายแน่ ตายแน่ๆ --!!” เมสซี่ร้องออกมา
เค้าตาโตและหยุดหายใจ แขนก็กางพับๆ
อยู่กลางอากาศ
“ไม่ๆๆ ไม่ตายหรอก ผมจับคุณไว้แล้ว
ไม่ตกนะไม่ตก....” โรนัลโด้เม้มปากเข้าหากัน แล้วออกแรง
เพราะเค้าต้องดึงรั้งทั้งตัวเองและให้เมสซี่กลับมาด้วย มีเพียงแขนอีกข้างหนึ่งเท่านั้นที่เป็นที่ยึดเกาะเดียวของเค้าในตอนนี้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็กอดรัดรอบอกของคนตัวเล็กๆ
ที่กางปีกพับๆ ไว้อย่างแน่นหนา
หน้าของเมสซี่ที่โรนัลโด้มองไม่เห็น.....ซีดเผือด
และเค้ารู้สึกเหมือนหัวใจเกิดหยุดเต้น
แต่แล้วในที่สุดแขนแข็งแรงก็เกี่ยวรั้งน้ำหนักทั้งหมดของผู้โดยสารและตัวเองไว้ได้
แล้วเอนตัวกลับมา ให้เค้าทั้งคู่ได้มายืนอยู่บนขั้นบันไดได้อย่างสมบรูณ์อีกครั้งหนึ่ง
โรนัลโด้กอดรัดเมสซี่ไว้แน่น
และแผ่นหลังเล็กที่กระเพื่อมขึ้นลงนั่นก็แนบชิดกับแผงอกแข็งแรง
โรนัลโด้คลำดูหัวใจของเมสซี่.......มันกลับมาเต้นอีกครั้ง แต่เต้นระรัวเลยทีเดียว
“ไง...ทีนี่ไม่ตกแล้วนะ คุณปลอดภัย”
ร่างสูงเกือบหอบตามร่างเล็กข้างหน้า
เมสซี่ใช้หลังมือเช็ดหน้าผาก
“โอ้พระเจ้า! ผมเกือบตก! ผม....ผม....”
เมสซี่กัดเล็บตามนิสัย
เมื่อเค้าหวาดกลัวสุดขั้ว
เกือบไปแล้ว เกือบไปแล้วที่เค้ากำลังจะได้จูบพื้น
โรนัลโด้สวมกอดเค้าจากทางด้านหลัง
“สี่ขั้นลีโอ
แค่สี่ขั้นเท่านั้นเอง เราต้องรีบแล้ว”
เค้าพูดเสียงอ่อนโยน แต่ดูเร่งรัดในตอนท้าย
เมสซี่พยักหน้าพลางกลั้นหายใจ เผื่อหัวใจของตัวเองจะเต้นช้าลง แต่ก็ไร้ผล
“โอเค โอเค ผมจะไป.....ผม....”
ร่างเล็กผ่อนลมหายใจจนไหล่สั่น
แล้วกำราวเหล็กแน่นจนมันแทบติดมือ ก่อนออกเดินต่อไป
ตอนนี้ความมั่นใจทั้งหลายของร่างเล็กพังทลายหายไปในชั่วปริตาและไม่มีทีท่าว่ามันจะกลับมาอีกเลย
ไหล่ที่สั่นอย่างเห็นได้ชัดของเมสซี่ทำให้โรนัลโด้มองตามอย่างอดสงสารไม่ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งเมสซี่ตัวเซแต่เกาะราวไว้ไม่ให้ล้มลงไปได้ ตัวร่างสูงเองก็อ้าแขนไว้เตรียมจะรับเช่นกัน
..................เค้าดูลุ้นไม่น้อยกับการลงบันไดสี่ขั้นของเมสซี่
เช่นเดียวกับเจ้าตัว.................
พอลงมาได้แล้ว เมสซี่ทรุดนั่งลงกับพื้น เค้าหอบฮั่ก
ปากอ้าค้าง และหน้าซีดเผือด หูเค้าอื้อ
และดูตกใจมาก ความรู้สึกเหมือนลอยคว้างอยู่ในอากาศและทิ้งดิ่งลงมา
ยังคงอยู่ในหัวของเค้า เมสซี่กอดตัวเอง
และร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ
เป็นห่วงอีกคนหนึ่งไม่น้อย
แต่ก็ต้องตรวจดูความเรียบร้อยรอบๆ
เสียก่อน..........ถือว่ายอดมากที่ไม่มีใครเห็นเค้าสองคนตอนเดินลงมา
ถ้าไม่งั้นคงจะต้องแย่แน่ๆ ตอนนี้ถือว่าพวกเค้ายังคงปลอดภัย............
ร่างสูงประเมิน บันไดทอดตัวสู่พื้นในบริเวณหลังตึกหลัก
ในตอนนี้เค้าทั้งคู่จึงอยู่ในที่ลับตาคน
แต่ถ้าหากเดินออกไปทางซ้ายอีกประมาณสิบเมตรจะเป็นกระจกแทนซีเมนต์หนา ข้างในของกระจกเป็นล็อบบี้ของโรงแรม
ใช่ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเองคริส
นายทำได้........ร่างสูงคิดในใจ
ใบหน้าของเค้าดูโล่งอกไม่น้อยที่อีกไม่นานเรื่องร้ายๆ
ก็จะจบลงและเมสซี่ก็จะไม่เป็นไร
เค้าคิดอยู่แค่นั้น
ร่างสูงหันรีหันขว้าง ด้านหลังของเมสซี่คือท่อขนาดใหญ่ มีขนาดเล็กด้วย ดูๆ แล้วน่าจะเป็นท่อส่งแก็สขึ้นไปใช้ที่ห้องเตรียมอาหารและน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภค
ร่างสูงคิดในใจ
หักมันแล้วเอามาฟาดหัวคนร้ายได้รึเปล่านะ
แต่พอคิดไปคิดมาก็ว่าไม่ดีกว่า
มีหวังได้โดนแก็สพ่นใส่หน้าเอาแหงๆ นั่นไม่คุ้มเอาเสียเลย แก็สพวกนี้สูดดมเข้าไปแล้วอันตรายมากเกินกว่าที่ใครจะคิดได้
โรนัลโด้ยืดตัวท้าวเข่าแล้วสูดหายใจ ก่อนจะยืดตัวขึ้นตรงจนเต็มความสูง เค้าหันไปถามเมสซี่ใกล้ๆ
“คุณดีขึ้นไหม?”
เมสซี่เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมแขนของตัวเองแล้วพยายามทำเสียงให้ปรกติมากที่สุด
“อืม ครับ” โรนัลโด้เดินเข้ามา ยื่นปลายนิ้วเข้ามาใกล้เค้า สัมผัสอุ่นๆ ตรงแก้มทำให้เค้าสะดุ้ง โรนัลโด้เช็ดน้ำตาให้เมสซี่
“อย่าบอกว่าคุณโอเค
ถ้าคุณร้องไห้สิ” อีกคนหนึ่งที่ทรุดลงนั่งกับเค้าพูดเสียงกึ่งตำหนิ
แต่เมสซี่รู้สึกได้ถึงความปลอบโยนที่แสดงออกมาทางสายตาและน้ำเสียงนั้นของโรนัลโด้
“ผม....ผมแค่กลัว มันน่าใจหายชะมัด ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
ถ้าอยู่คนเดียวผมคงปล่อยให้ตัวเองหน้าทิ่มไปแล้ว”
ร่างเล็กยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ
เค้าดันมือโรนัลโด้ออกอย่างสุภาพ
ร่างสูงวางมือกลับลงบนเข่าแล้วเอ่ยบ้าง
“แต่คุณก็ไม่เป็นไร” โรนัลโด้ไม่ได้จะทวงบุญคุณหรือบอกว่าเค้าเป็นคนช่วยไว้
แต่พูดเพื่อให้เมสซี่รู้สึกดีที่ได้ลงพื้นอย่างปลอดภัย ร่างเล็กพยายามลุกขึ้น เค้าจึงช่วยพยุง
“รู้ไหม คุณกล้าหาญมากเลยนะ”
โรนัลโด้พูดแล้วยิ้มให้พลางยักไหล่
เมสซี่ยิ้มตอบอย่างขอบคุณ
ร่างเล็กไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะมีจิตใจดีถึงเพียงนี้ โรนัลโด้ร่วมทางกับเค้าเปรียบเสมือนเป็นเรื่องของตัวเอง ทั้งๆ ที่อีกคนหนึ่งเป็นคนบอกเองแท้ๆ ว่า พวกมันตามล่าเค้า
แต่ก็เป็นโรนัลโด้อีกนั่นแหละที่ฉุดมือเค้าวิ่งมาด้วยกัน อดทนกับเค้า
ช่วยเหลือเค้า ปลอบใจเค้า และอ่อนโยน..........ทั้งๆ
ที่มันไม่จำเป็นต้องทำเลยสักนิด
ภาพความเย้อหยิ่ง
ชายตามองผู้อื่นและพร้อมที่จะเมินหน้าใส่ได้ทุกเมื่อของโรนัลโด้
ในความคิดของร่างเล็กมลายหายไปสิ้น
ที่เค้าเห็นตรงหน้าคือ ใบหน้าหล่อเหลาที่เกือบจะกังวลแทนเค้า แข็งแรง
และเชี่ยวชาญ
เหลือเชื่อว่าคนตรงหน้านี้ยินดีที่จะช่วยเค้า แม้ในใจรู้ว่ามีชายถือปืนเป็นฝูงวิ่งตามเค้าอยู่ แต่โรนัลโด้ก็ไม่เคยบ่น
ชายคนนี้ฉุดมือเค้าลงมาและหากไม่จำเป็นโรนัลโด้จะไม่ยอมปล่อยมือของเค้าเป็นอันขาด
เมสซี่กระพริบตา และรู้สึกแสบที่ลำคอ
โรนัลโด้ใจดีกับเค้าเหลือเกิน.................
แม้เค้าจะทำตัวเป็นเด็กแค่ไหน
“ผมว่าเราคงต้องอ้อมไปทางด้านหลัง
แล้วหาช่องทางเข้าไปรวมกับพวกที่รวมกลุ่มอยู่ข้างหน้า ตอนนี้กำลังเสริมน่าจะมาแล้วนะผมว่า”
ร่างสูงยืดคอลอบมองไปทางอีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำ
ว่างเปล่า
ไร้วี่แววของพวกนั้น
โรนัลโด้เห็นเพียงแต่แขกหลายคนซึ่งตกค้างอยู่วิ่งพล่านไปทั่ว
ร่างสูงดูตกใจเล็กน้อย
แต่ท้ายที่สุดเค้าก็สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ว่าพวกนั้นวางแผนการได้แย่มาก
เหลือแขกไว้ทำไม
ถ้าอยากจะจับเป็นตัวประกันก็คงจะไม่วิ่งไปวิ่งมาแบบนี้หรอก.......ร่างสูงคิด และรู้ว่าประตูหน้าและทางออกถูกปิดกั้น
คนที่ตื่นกลัวเหล่านี้จึงไม่สามารถออกไปได้ และเค้าเองก็คงจะต้องพยายามอย่างหนักเช่นกัน
เพื่อจะพาเมสซี่ออกไปให้ได้ราวกับล่องหน
.......................จะให้พวกมันรู้ก่อนเจอตำรวจไม่ได้เด็ดขาด...........
โรนัลโด้ดึงแขนเมสซี่อย่างแผ่วเบา เป็นเชิงให้ตามมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวต่อไป
แขนแกร่งของเค้าก็ถูกฉุดไว้เสียก่อน
ร่างสูงมองกลับมา
“มีอะไรหรือครับ” เค้าพูดสุภาพ และเห็นเมสซี่ชะงักไปชั่ววินาที ดวงกลมโตที่เค้านึกพิศวงกระพริบเล็กน้อย ก่อนเหลือบขึ้นมองเค้า และมันดูกลมโตกว่าเดิม
“ขอบคุณ” เมสซี่พูดอ้อมแอ้ม
แล้วหลุบตาลง
หลังจากพูดจบริมฝีปากบางก็เม้มเข้าหากันแน่น
ร่างสูงตาโตบ้าง แต่ไม่ขนาดนั้น เค้าค่อนข้างคาดไม่ถึง
และติดใจกับท่าทางเนียมอายที่เมสซี่มีให้กับเค้า ไม่เอาน่า มันไม่ยากขนาดนั้นสักหน่อย........
หนุ่มโปรตุเกตุอมยิ้มแล้วเปลี่ยนมาเป็นฉีกยิ้มในท้ายที่สุด
เมื่อเค้าพบว่าตัวเองห้ามมันไม่ได้
เค้าเอื้อมมือไปจับไหล่เล็กๆ ของคนตรงหน้า
คนโดนจับเงยหน้าขึ้นมาอย่างข้องใจ เมื่อเจอเข้ากับรอยยิ้มในตำนานที่บาดใจสาวๆ
ทั่วทั้งโลก
“คุณรู้ไหม คุณทำแบบนี้แล้วน่ารักชะมัดเลย”
โรนัลโด้ยิ้มจนตาเกือบหยี
และเมสซี่ตะโกนใส่หน้าเค้า
“อ้าาาา!”
“ฮ่ะ.....โทษที ผมไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบให้พูดแบบ.....”
“ไม่! อ้าาาาา!.....ข้างหลังคุณ!!” ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนที่
ร่างเล็กจะหมุนไหล่เค้าให้กลับหลังหันไป
...........ชัดเลย.........
ของรางวัลตามมาเอาคืนที่สิบสองนาฬิกา!
“เอาถ้วยบัลลงดอร์ปีหน้าที่ฉันจะได้
ฟาดหัวฉันดีกว่า” โรนัลโด้โอดครวญกับตัวเอง
เมื่อภาพตรงหน้าเค้าคือผู้ร้ายคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปราวๆ หกเมตร คงจะโผล่ออกมาจากมุมตึกพอดีในตอนที่เมสซี่หันมามองเค้า
เจ้าคนนี้รูปร่างสมบุกสมบัน มาคนเดียว
และถือปืน AK 47 ติดมือมาด้วย
โรนัลโด้ถอยหลังไปบังอีกคนไว้
เค้าคิด แต่ปัญหาก็คือเจ้าหมอนี่จะเดินเข้ามาแล้วต่อยเค้ารึเปล่านี่น่ะสิ!
ชายพื้นเมืองโพกผ้าสีเขียวขี้ม้าคลุมศีรษะ โบก AK 47 มาทางเค้าแล้วลั่นไก
ไวกว่าความคิด กัปตันโปรตุเกตุหันกลับไปกระโดดใส่เมสซี่จนล้มลงแล้วเอาตัวเองทับอีกคนหนึ่งไว้
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
โรนัลโด้ฟังจากเสียงแล้วก็รู้ว่าพวกนี้ไม่ต้องการให้โจ่งแจ้งนัก
เพราะพวกมันใช้........
ที่เก็บเสียงของรัสเซีย!......ร่างสูงกัดฟัน เค้าจำมันได้ขึ้นใจ และรู้สึกได้ว่าหนึ่งในท่อน้อยใหญ่ซึ่งติดอยู่กับกำแพงนั้นถูกยิ่งจนทะลุ.......คงเป็นท่อส่งแก็ส
ร่างสูงได้ยินเสียงแก็สรั่วไหลและได้กลิ่นแสบจมูก
กะแล้วว่ามันต้องยิง!
โรนัลโด้ผงกหัวขึ้น
เค้าเห็นชายบราซิลทิ้งปืนลงข้างตัวแล้วตัดสินใจพุ่งเข้ามาหาเค้า หลังจากทำหน้าบ้องตื้นอยู่ครู่หนึ่ง
โรนัลโด้กลอกตาขึ้นฟ้า มีแต่พวกปัญญานิ่มทั้งนั้นเลยสินะ........เค้าคิดในขณะที่ถอดเสื้อนอกออกจากกายอย่างรีบร้อนแล้วคลุมมันให้กับเมสซี่ที่นอนคุดคู้อยู่บนพื้น
“คลุมไว้!
หายใจผ่านเสื้อของผม”
ก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
แล้วรอการปะทะ..........
“ย๊ากกกก!” ชายคนนั้นพุ่งเข้ามา และร่างสูงเพิ่งสังเกต ชายนั้นนั้นตัวใหญ่กว่าเค้าเสียด้วยซ้ำ แต่เรื่องนั้นไม่มีผลต่อแนวดิ่งสำหรับเค้า
โรนัลโด้ยืดแขนซ้ายตั้งฉากกับพื้นแล้วกระแทกใส่ลำคอของชายบ้าคลั่งบ้องตื่นคนนั้นในช่วงสุดท้ายก่อนเข้าปะทะกัน และพอเข้าปะทะโรนัลโด้ก็ชนะอีกเช่นเคย..........
ชายคนนั้นหงายเก๋งลงพื้น ขาชี้ฟ้า
ผ้าโพกหัวของเค้าพลิ้วไปมาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระแทกลงพื้น และมีสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะแน่นิ่งไป โรนัลโด้ทำหน้าหยีตาเหมือนโดนแสงจ้า
แต่ที่จริงแล้วเค้ากำลังดูถูกชายคนนี้อยู่ต่างหาก
“หลังออกจากคุกแล้วก็ไปหากระโปงยายมาใส่ล่ะกันนะพวก.....
นายไม่เหมาะกับการเป็นโจรเอาซะเลย” เค้าส่ายหน้าเหมือนซื้อของเน่ามาจากตลาด แล้วทรุดตัวลงค้นตัวชายแน่นิ่งคนนั้น
โรนัลโด้เจอปืนพกเหมาะมืออยู่ที่เข็มขัดด้านหลังของผู้ร้าย เค้าหยิบมันขึ้นมาแล้วเทแม็กลงบนฝ่ามือ
ก่อนสไลด์กลับเข้าไปใหม่.........มีกระสุนอยู่เกือบเต็ม และพอเอาไปใช้ยามฉุกเฉินได้
ร่างสูงเหน็บปืนหนักๆ
ไว้ด้านหลังบริเวณเข็มขัด แล้ววิ่งไปหาเมสซี่
ฉุดอีกคนหนึ่งขึ้น
เมสซี่ที่เอาเสื้อคลุมหัวกลมๆ
ของตัวเองอยู่ก็อ้าปากใส่เค้าทันทีเมื่อมาถึง
“คุณเป็น CIA เหรอ!” สีหน้าเมสซี่ดูเสียขวัญอีกครั้ง
แต่ก็มีแววไม่เข้าใจ
“ไม่ ผมเป็นนักฟุตบอล!”
กระฉากเสื้อนอกของเค้าออกมาจากหัวของเมสซี่
เมื่อหูเค้าแววได้ยินเสียงวิ่งระรัวของบู๊ตหลายคู่
............จะมีมากันอีก..........
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อั๊ก! ผู้ร้ายมา...เซฟตี้ได้ดีมากเลยค่ะเฮีย
>.,<
...............จะมีมากันอีก............
แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
ติดตามชมกันได้ใน Part หน้าเลยค่ะ Part หน้าเป็นฉาก.....เอ่อ....อืมมม
ฉากอะไรน้า ว่าจะแอบสปอยล์นิดหน่อยแต่ว่าลืมไปแล้วค่ะ
ฉากหน้ามีอะไรที่สำคัญๆ บ้าง
อาาา
งั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงรีดก็จะได้อ่านอยู่ดีนะคะ 55555+
คอมเม้นท์ให้ไรท์หน่อยนะคะ
^^ รักรีดทุกท่านมากๆ
เลยค่ะ
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
2 ความคิดเห็น:
เขินจังเลย~ ไม่รู้จะหาคำไหนมาจำกัดความดีค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งหวานนะรู้สึก เขินได้อีกหนาา >.<
เอ้าต้องขอชมพ่อยอดชายคริสเตียโน่ของพวกเราจริงๆนะคะ ไม่ว่าสถานการณ์แบบไหนก็ดำรงสติได้ดีเหลือเชื่อ แถมไหวพริบดีทุกอย่างอีกต่างหาก ก็แหงล่ะ...ก็ลีโอสำคัญนี่จริงไหม ^^ ดูซิขนาดลีโอยังคิดว่าเป็น CIA เลย คริสเป็นได้ทุกอย่างจริงๆ (นั่นไง...เป็นคนรักก็ได้นะ 555)
ทุกฉากนึกภาพตามได้หมดเลยค่ะ ลุ้นตามประหนึ่งตัวเองเป็นผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ เอ้ย. สังเกตการณ์ -..- ลุ้นแทนว่าจะเป็นอย่างไร จะไปได้สวยไหม ฯลฯ สุดยอดจริงๆค่ะ ยิ่งกว่าดูหนังแอ็กชั่นอีกเอาสิ
รอนะคะ พูดแบบนี้ก็อยากรู้อีกละ อิอิ
อิจฉาเหมียวอย่างแรง ทำไมไม่มีใครมาคอยดูแลเราแบนี้บ้าง #ร้องไห้หนักมาก 😭😭😭😭😭
p.s. พาร์ทหน้าคืออะไรยังไงคะไรท์ ลุ้นๆ อย่าลืมมาต่อนะคะ สู้ๆค่ะ ✌✌✌✌✌✌
แสดงความคิดเห็น