สวัสดีค่าาา! หลบไปพักกายและใจอยู่นาน
(หรือเรียกสั้นๆ ว่าอู่นั่นเองค่ะ -.,-) วันนี้ไรท์กลับมาแล้วค่ะ
^^ ฮาาาาา พร้อมกับ Fic – MaLec ที่ไม่รู้เคะแสนน่ารักของเราจะน่าสงสารไปไหนนนน
T^T
แต่ว่าพ่อนายแบบขายถ่านของเราก็เริ่มจะได้สติแล้วนะคะ
เห็นใจอเล็คเสียทีเถอะแม็กนัส เค้ารอให้อเล็คมีความสุขกันทั้งเมืองแล้วนะ T^T และข้อแถลงไขเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวอันน่าหมั่นไส้ของแม็กนัสก็กำลังจะปรากฏแล้วล่ะคะ ติดตามชมกันได้เลยค่ะ อย่าให้เสียเวลาเลยนะเออ
เชิญไปอ่านกันเลยค่าาาาา
>{}< !!!
---------------------------------------------------------------------------------------
ร้านลาเฟ่ต์ในย่านนิวยอร์ก.................
ในตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงจนเกือบบ่ายอ่อนๆ
แล้วสำหรับวันที่หมุนไปเร็วเหลือเกินเช่นชีวิตคนในเมือง และในช่วงเวลานี้คนก็มักจะเยอะเป็นพิเศษเพราะเร่งรีบในนาทีสุดท้ายก่อนจะกลับเข้าไปทำงานในตอนบ่าย ในร้านที่มีคนนิยมเข้าไปใช้บริการจึงยุ่งเป็นพิเศษ
เด็กสาวอ้วนตุ๊ต๊ะยกถาดพายและขนมปังหลายชนิดที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ
จากหลังร้านออกมาเรียงไว้ในตู้เบเกอร์รี่
เธอท้าวตัวช่วงบนหนักหลายปอนด์กับเคาเตอร์ไม้เงางามที่อยู่ถัดออกมา
ในขณะที่มีเด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเดินกลับมาเอาออเดอร์ไปเสิร์ฟ
เด็กสาวพูดอย่างยินดีแต่สีหน้าดูเหนื่อยอ่อน
“ดีใจจังที่เธอกลับมาอเล็ค”
“ดีใจที่ได้กลับมาเหมือนกันฮาร์โมนี่”
อเล็คยิ้มแล้วเดินจากไปพร้อมถาดเครื่องดื่ม
อเล็คเสิร์ฟที่เดียวสี่โต๊ะ
และนั่นเด็กเสิร์ฟในร้านก็ไม่เคยมีใครทำได้เหมือนเค้า
ฮาร์โมนี่ถอนหายใจแล้วยิ้มตามหลังอเล็คไป หลายวันมานี้เธอคงลดไปหลายปอนด์เพราะพ่อกับแม่ทักว่าเธอดูผอมลง......และฮาร์โมนี่ไม่ชอบที่น้ำหนักลด
แต่ยังไม่ที่จะได้แอบอู่นานนักก็มีคนเดินมาสะกิดไหล่เธอ
“ฮาร์โมนี่ทำงาน!”
“ว้ายยยย!....เจซ ให้ตายสิ ฉันเกือบหัวใจวายตายอยู่แล้วนะ”
“อย่าโม้น่า ฉันเห็นเธอนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้วนะ” เจซไม่สนใจ
ใช้ศอกสะกิดฮาร์โมนี่อีกแล้วออกไปรับออเดอร์ ฮาร์โมนี่กลอกตาขึ้นฟ้าก่อนจะเดินกลับเข้าไปช่วยแซมในครัวต่อ
“นายทำฉันหมดอารมณ์ไปเลยเจซ”
แต่เจซไม่ได้ยิน เค้าเดินตามอเล็คไปใกล้ๆ ร่างบางผิวขาวเด่นซึ่งใบหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับเมื่อเจอหน้าลูกค้า...........วันนี้ทั้งวันเจซเอาแต่ตามติดอเล็คแจจนหลายคนอดประหลาดใจไม่ได้เลย
แต่ก็ไม่มีใครท้วงติ่งเรื่องนั้นยกเว้นซะแต่อเล็คเอง แต่เจซเองก็ไม่ได้ฟังอเล็คเลย
การทำงานของพวกเค้าสองคนจึงเป็นไปด้วยกันเกือบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานของเจซ
“นายจะกลับแล้วสินะ” อเล็คที่ยังคงเดินไปเดินมาอย่างไม่รู้จักเหนื่อยพูดขึ้น ในขณะที่เจซกำลังถอดผ้ากันเปื้อนออกและเตรียมตัวจะกลับบ้านเมื่อร้านเริ่มกลับเข้าสู่โหมดสงบสุข เจซตอบกลับไปแล้วทำหน้าไม่เข้าใจเมื่อเห็นอเล็คยังคงทำตัวยุ่งไม่หยุดทั้งๆ
ที่ก็ถึงเวลาเลิกงานของเจ้าตัวแล้วเช่นเดียวกัน
“แล้วนายไม่กลับงั้นเหรออเล็ค?”
เจซหยุดมือแล้วจ้องอเล็ค ซึ่งเจ้าตัวก็ยักไหล่กลับมาเป็นเชิงว่าเจซพูดถูกแล้ว
“ฉันกะว่าจะทำถึงกะสุดท้ายของวันนี้เลยน่ะ”
“แต่นายเพิ่งหายป่วยนะ” เจซท้วงอย่างไม่พอใจ อเล็คก็มองข้ามอารมณ์ฉุนเฉียวนั้นไป
“แต่ฉันก็หายแล้วนี่......ไม่เอาน่า
มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอก
และอีกอย่างนายมีเรียนตอนบ่ายนี่ รีบไปเถอะน่าถ้าไม่อยากสาย”
ร่างบางฉวยถาดที่เจซหยิบหนีกลับมาก่อนจะยิ้มใส่เจซราวกับดีใจที่หนีการเกาะติดของร่างสูงผมบล์อนมาได้
แล้วโบกมือน้อยๆ
“บาย แล้วเจอกัน” ก่อนร่างบางที่ดูสดใสที่สุดในวันนี้จะเดินไปเก็บโต๊ะที่ลูกค้าเช็คบิลเสร็จแล้ว และดูท่าเจซคงจะเป็นคนที่อารมณ์สดใสน้อยที่สุด
“ให้ตายสิ” ร่างสูงผมบล์อนในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำสบถขึ้นก่อนจะต้องจำใจกลับไปเรียนต่ออย่างช่วยไม่ได้
เจซยอมรับว่าเค้าแปลกใจไม่น้อยที่วันนี้อเล็คดูร่าเริงเป็นพิเศษ และทำเหมือนเค้าเป็นคนเอาแต่ใจอยู่ฝ่ายเดียว เหตุผลร้อยแปดในหัวที่เจซคิดได้ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เลยแม้สักข้อเดียว และแน่นอนข้อสุดท้ายที่เค้าไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ก็กลับถูกเทคะแนนให้มากมายอย่างท่วมท้นจนร่างสูงใจไม่ดี
ขออย่าให้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลยเถอะ คนอย่างเจ้าแม็กนัสน่ะเหรอจะทำดีกับอเล็คน่ะ..........เจซคิดในใจอย่างไม่สบอารมณ์เสียเท่าไรที่สิ่งซึ่งเค้าเกลียดที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น
เค้าน่ะรักอเล็คมากกว่าที่แม็กนัสรู้สึกรักแฟนสาวของตัวเองซะอีก...........
เจซก็รู้อยู่หรอกนะว่าอเล็ครู้สึกยังไงกับแม็กนัส อเล็ครักแม็กนัสอย่างหมดหัวใจ.........แต่คนที่ใจร้ายกับอเล็คเสมอมาก็คือหมอนั่นๆ
ล่ะไม่เปลี่ยนคนเลย ทั้งๆ ที่อเล็คเทใจให้ คิดถึงอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างบางรู้ตัวว่าหมดหวังเมื่อไร
เจซก็พร้อมที่จะเป็นคนอ้าแขนรับไว้เอง
เพียงแค่อเล็คร้องขอ เค้าก็พร้อมที่จะทำให้ทุกอย่าง
ทุกๆ อย่างที่เค้าทำได้........ใช่ เจซทำได้ทุกอย่าง
ยกเว้นทำให้อเล็ครักเค้า
บ้าเอ๊ย........เจซสบถในใจอีกครั้ง ก่อนจะคว้ากระเป๋าใบพอเหมาะของตัวเองเดินตึงตังออกไปจากร้านเสียดื้อๆ
เมื่อมีเพื่อนร่วมงานบางคนทักท้วงเค้า
“เฮ้ เจซ นายไม่ได้.....เก็บผ้ากันเปื้อน ช่างเหอะ ทิ้งของเรี่ยราดชะมัดฉันจะต้องตามเก็บตลอดตอนเห็นนายขว้างมันลงพื้นเลยใช่ไหม ให้ตาย ฉันจะบอกคุณบีพอทท์ให้หักเงินเดือนนาย” เพื่อนชายหนุ่มพูดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแล้วคว้าผ้ากันเปื้อนที่เจซทิ้งไว้
เดินไปเก็บยังที่ๆ มันควรจะอยู่อย่างเงียบๆ แต่มิวายบ่นงึมงำไปด้วย
เจซอายุน้อยและอารมณ์ร้ายที่สุดในร้าน แต่เอาเข้าจริงๆ
แล้วก็ไม่มีใครกล้าหือกับเค้าหรอก
ในขณะที่ร่างสูงของลูกชายตระกลูเวย์แลนด์เดินอารมณ์ไม่ดีออกมาจากร้านรอข้ามถนนซึ่งรถราสัญจรไปมาอยู่นั้น
ดวงตาสีอ่อนของเค้าก็กวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาเรื่องคิดใส่หัวให้เย็นลง ผู้คนแย่งกันเดินพอๆ กับรถแท็กซี่เบียดกันอยากจะไปส่งลูกค้าให้ทันเวลา
เสียงแตรดังขึ้น เสียงโทรศัพท์ เสียงพูดคุย
ฟังดูน่าปวดหูชะมัด ดูๆ แล้วมันคงจะทำให้เจซสติแตกยิ่งกว่าเดิมแหงๆ
ร่างสูงผมบล์อนสวมฮู้ดหนังที่เย็บติดกับแจ็คเก็ตสีดำของเค้าจึงเบนสายตาไปโฟกัสที่ร้านขายอาหารฟาดฟู้ดตรงข้ามลาเฟ่ต์ หาอะไรที่ดูหยุดนิ่งคงจะดีกว่าเรื่องจอกแจ่กจอแจรอบตัวเค้า เจซคิดงั้นว่าใจเค้าน่าจะสงบลงได้บ้าง
แต่แล้วก็เปล่าเลย เมื่อสายตาที่มองไปทั่วๆ ร้านฟาสฟู้ดของเจซดันไปสะดุดเข้ากับคนๆ
หนึ่งซึ่งทำเอาเค้าค้างไปเลย คนๆ นั้นนั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ติดกระจกที่สุดของร้าน ไม่ได้สั่งอะไรนอกจากเฟรนฟรายกับเครื่องดื่ม......มาร้านฟาสฟู้ดก็ต้องสั่งฟาสฟู้ดจัดเต็มสิ ไม่ใช่มานั่งจิบนั่งชิมเหมือนมาแอบถ้ำมองคนอื่นเค้าแบบนี้!
ไอ้หมอนั่น คนที่กำลังทำเค้าหงุดหงิดเจียนคลั่ง.......แม็กนัส เบน
แต่เอ๊ะ....จะว่าไปแล้วถ้ำมอง!
ไม่รู้ว่าตัวเองหวาดระแวงเองไปหรือเปล่า เจซ
เวย์แลนด์ผู้ไม่เคยมองโลกในแง่ดีจึงจ้องเขม็งไปทางร่างสูงสะโอดสะองของนายแบบหนุ่มซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน แม็กนัสไม่ได้สนใจจะสังเกตร่างสูงผมบล์อนเลยทั้งๆ
ที่เจซก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังจับตาดูเค้าอยู่
ดูแล้วแม็กนัสคงกำลังมีสมาธิอยู่กับอะไรสักอย่าง..........ร่างสูงอารมณ์ขุ่นมัวผู้สวมฮู้ดสีดำอำพรางใบหน้าจึงมองตามสายตาของคนที่เค้าจับตาดูอยู่ไป
และพบว่าไม่ใช่ที่ไหนไกลเลยที่เจ้าแม็กนัส
เบนนั่นกำลังมองดูอยู่...............
ร้านลาเฟ่ต์ที่เค้าเพิ่งจะเดินออกมาเมื่อตะกี้นี้สดๆ
ร้อนๆ เลยน่ะสิ!
แกมองหาอะไรของแกว่ะ!...........เจซคิดในใจ ทันใดนั้นเค้าก็รู้สึกปวดขมับขึ้นมาตุ้บๆ ทันทีเพราะโมโหจนเลือดขึ้นหน้าอีกแล้วเมื่อนึกถึงคู่กรณีดังกล่าวและตอนนี้ยิ่งปรากฏตัวเป็นๆ
ให้ได้หมั่นไส้มากเข้าไปอีกแล้วเจซก็ปวดขมับมากกว่าเดิม
............และใช่ เค้าหวงอเล็คมากกว่าอะไรทั้งสิ้น..............
คนที่คอยแต่จะทำร้ายจิตใจคนสำคัญของเค้าอย่างเจ้าแม็กนัสนั่นน่ะ
ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้คุยหรือได้พบหน้าอเล็คเลยแม้แต่น้อย ไม่มีทาง
และก็เป็นดั่งเช่นที่ทำให้เจซรู้สึกอยากจะกู่ร้องออกมาดังๆ
เมื่อคนที่แม็กนัสผู้ทำตัวเสมือนคนธรรมดาไม่ต้องการให้ใครจำได้ กำลังจอบจ้องอยู่นั่นก็คืออเล็คนั่นเอง
ให้ตายเถอะไอ้เบื๊อกนี่! มันจะมากเกินไปแล้วนะ
เจซกดด่าในใจอีกครั้ง เค้ากำมือพร้อมกับขบกรามแน่น เค้าไม่รู้หรอกว่าแม็กนัสจะมาที่นี่แล้วนั่งทำตาเยิ้มมองอเล็คทำไม แต่แล้วในขณะนั้นเองเจซก็เห็นแม็กนัสยิ้มมุมปากกับตัวเอง วางเงินลงบนโต๊ะก่อนจะทำท่าลุกเดินออกไปจากที่นั่งของตนเอง
เมื่อเห็นดังนั้นร่างสูงกว่าคนทั่วไปของเจซก็สาวเท้าข้ามถนนซึ่งว่างรถพอดีในขณะนั้นไปที่ร้านฟาสฟู้ดฝั่งตรงข้าม แม็กนัสเลือกทางออกอีกทางหนึ่งซึ่งมีคนเข้าออกไม่มากนักและทางนั้นเป็นทางที่อยู่เยื้องใกล้ร้านลาเฟ่ต์มากที่สุด เจซซึ่งก้าวเร็วๆ ราวกับคนรีบร้อนเดินไปถึงและดักทางแม็กนัสไว้อย่างรวดเร็ว
แต่ร่างสูงสะโอดสะองไม่ทันได้สังเกตเห็นเพราะกำลังมองคนที่เค้ายิ้มละมุนให้โดยไม่รู้ตัวอยู่
จนกระทั่งพ้นออกมาจากร้านแล้วเพียงเล็กน้อย
คอเสื้อของแม็กนัสก็โดนกระชากไปที่ผนังตรอกด้านข้าง
ร่างสูงสะโอดสะองตกใจกำลังจะโต้ตอบกลับไป
เป็นเวลาเดียวกับที่เค้าโดนกระแทกกับตรอกและเห็นหน้าคนที่หาเรื่องเค้าอย่างชัดเจน
“นาย...คนที่ทำงานที่เดียวกับอเล็คนี่
นายทำบ้าอะไรของนายน่ะ!”
แม็กนัสว่าเสียงดัง กำมือของเจซที่ขยำคอเสื้อเค้าแต่ไม่ได้โต้ตอบกลับไปอย่างใจคิดเพราะคนตรงหน้าคือเพื่อนร่วมงานของอเล็ค
............ก็คิดว่าอย่างงั้นน่ะนะ........
เจซไม่พูดเพราะกำลังเดือดจัด มาถึงตอนนี้ร่างสูงผมบล์อนรู้แล้วว่าแม็กนัสคิดจะมาหาอเล็คร้อยเปอร์เซ็น
และเค้าจะไม่ยอมให้อเล็คต้องโดนทำร้ายจิตใจจากคนๆ นี้ซ้ำสองอีกแล้ว
แม็กนัสซึ่งสวมแจ็คเก็ตหนังเช่นเดียวกับเจซแต่ไม่มีฮู้ดและดูนำสมัยกว่า
ดูท่าถึงแม้นายแบบหนุ่มอย่างเค้าต้องการจะปลีกวิเวกออกมาเตร่คนเดียวเงียบๆ แต่ก็ไม่ได้ดูดีน้อยลงเลยทั้งการแต่งตัวและออร่าที่เปล่งประกายออกมารอบตัว ร่างสูงสะโอดสะองและแขนแข็งแรงที่ได้ออกกำลังอยู่บ่อยๆ
กำลังจะออกแรงผลักเจซออกไป แต่แล้วคนที่หงุดหงิดจนเส้นเลือดปูดขึ้นข้างขมับแล้วในขณะนี้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเย็นและสั่นเพราะความโกรธ
“อย่างยุ่งกับอเล็ค”
แม็กนัสดูงุนงงแต่ก็ฉุนไม่น้อยเลยกับคำพูดของคนที่เค้าเกือบจะคิดว่าเสียสติไปแล้ว
นายเป็นใครมาสั่งห้ามฉันยุ่งกับอเล็ค
แต่แม็กนัสใจเย็นกว่าเจซ
“โทษนะ นายหมายความว่าไง” แขนที่ดันคอและตัวของเจซผละออกมา
แล้วชูขึ้นทำท่าราวกับยอมแพ้แต่ทว่าใบหน้าแม็กนัสก็พร้อมหาเรื่องกลับได้ทุกเมื่อ เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเค้ากับอเล็คกำลังโดนคุกคาม
เจซยื้นหน้าเข้าไปใกล้อีกและดูคุกคามมากกว่าแม็กนัส
“อย่ามาเสนอหน้าทำให้อเล็คเสียใจอีก!”
“นายพูดอะไรของนาย แล้วจะมายุ่งกับเราทำไม” แม็กนัสเริ่มฉุนขาด
“เรางั้นเหรอ? นายกล้าใช้คำนั้นได้ยังไงในเมื่ออเล็คร้องไห้เพราะนายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนน่ะ! ไอ้เบื๊อกเอ้ย!” และยังไม่ทันทีคนโดนกล่าวหาจะได้ว่าอะไรต่อ หมัดหนักๆ ของเจซ เวย์แลนด์ก็กระแทกเข้าที่หน้าของแม็กนัสที่อยู่ในอาการงุนงงจัดไปอย่างเต็มรัก.........ในเวลานี้เต็มกลืนแล้วสำหรับเจซ
ร่างสูงของนายแบบฮอตแห่งย่านนี้ถลาล้มลงกับพื้นโดยไม่ทันตั้งตัว และคนเริ่มก่อนก็ยังคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เค้าคิดอยากจะอัดหน้าแม็กนัสมาตั้งนานแล้วพอปล่อยมือไปตามอารมณ์โกรธเคืองเพียงแค่ทีเดียวก็ถึงกับคุมตัวเองไม่อยู่ไปเลย
เจซตามมาคร่อมแม็กนัสไว้ ขย้ำคอเสื้ออีกแล้วง้างหมัดขึ้นเหนือหัว
.............จะไม่ยอมอีกแล้ว จะไม่ยอมให้หมอนี่ทำร้ายจิตใจอเล็คตามใจชอบอีกแล้ว ต้องบอกให้หมอนี่รู้ว่าสิ่งที่สะเออะทำลงไปน่ะมันร้ายแรงแค่ไหน............
“อเล็คดีเกินไปสำหรับนายจำเอาไว้!”
ผวั๊ะ!
“อย่าได้มายุ่งกับเค้าอีก เค้าไม่ใช่ของนาย.....นายมันไม่คู่ควรกับอเล็คเลยสักนิดเดียว!” เจซผู้ซึ่งเลือดขึ้นหน้ากำลังจะต่อยแม็กนัสเข้าไปอีกรอบ
และคนถูกกระทำเองก็ตั้งท่าจะสวนกลับ แต่ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งตะโกนดังมาจากปลายตรอก
“เฮ้ ตรงนั้นมีอะไรกันน่ะ!” ตำรวจนายหนึ่งที่เดินถือถ้วยกาแฟเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นบังเอิญเดินมาเห็นเข้าพอดี แต่ก็อยู่ห่างจากที่ๆ ทั้งสองนั้นต่อยกันอยู่พอสมควร
สองคู่กรณีซึ่งกำลังเปิดสังเวียนย่อมๆ
หันไปมองทางต้นเสียงอย่างตกใจ แต่ดูท่าจะเป็นคนที่เปิดฉากเริ่มก่อนเสียมากกว่า ร่างสูงผมบล์อนที่ง้างมือค้างไว้แต่ไม่ได้ลงหมัดก็หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ก่อนจะตัดสินใจจบเรื่องแบบรวดเร็วเมื่อเจอตำรวจ
เจซใช้สองมือขยำคอเสื้อราคาแพงของแม็กนัส
“อเล็คเป็นของฉัน” เค้าพูดรอดไรฟันก่อนจะกระแทกเสื้อที่เค้าขยำลงกับพื้นแล้วลุกขึ้นวิ่งหนีไป ปล่อยให้ตำรวจเห็นว่าเป็นการทะเลาะวิวาทของเด็กวัยรุ่นก่อนจะเลิกสนใจแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
ตามทาง
เมื่อพ้นตรอกไปแล้วเจซต่อยกำแพงและเตะถังขยะจนปลิวกระจายอย่างรู้สึกเดือดพล่าน
ธรรมดาก็เป็นคนฉุนเฉียวใจร้อนอยู่แล้ว แต่พอได้อัดหน้าคนที่เกลียดขี้หน้าสักครั้งหนึ่งมันก็ยากที่จะห้ามใจไม่ให้ทำต่อไหว..........แต่หมอนี่ดวงดีชะมัด!
เจซพูดออกไปแล้ว......ใช่
รู้สึกสะใจชะมัด
“อเล็คเป็นของฉัน”
ที่เค้าต้องพูดอย่างนั้นออกไปก็เพื่อให้แม็กนัสเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หมอนั่นจะได้ไม่ต้องมาเกาะแกะและเผลอทำร้ายจิตใจอเล็คได้อีก
.....................ใครกันที่คอยเช็ดน้ำตาให้อเล็ค ปลอบใจอเล็คและบอกว่าเค้าจะไม่เป็นไร เค้าต่างหาก
เป็นเจซต่างหากที่เฝ้าดูอเล็คมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เจซเองก็ควรจะมีสิทธิ์ได้ดูแลอเล็คและพูดคำนั้นไม่ใช่หรือ...............
แต่ร่างสูงของเจซ เวย์แลนด์ก็หารู้ไม่เลยว่าคนที่ทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่แรกก็คือแม็กนัส คนที่เค้าว่ากล่าวว่าไม่คู่ควรกับอเล็คที่แสนจะใจดี
พอแล้ว อเล็คเจ็บเพราะนายมามากพอแล้ว..........เจซคิดในใจก่อนจะเตะถังขยะอีกใบปลิวละล่อง
**********************************************************************
ส่วนคนที่โดนต่อยก็นิ่งอึ้งปนโกรธไปเลย
เมื่ออยู่ๆ เด็กเสิร์ฟในร้านลาเฟ่ต์ที่ไม่รู้จักมักจีก็เข้ามาต่อยเค้า ผลักเค้าลงพื้น พูดแปลกๆ แล้วก็จากไปเสียดื้อๆ อย่างนั้น
“อเล็คเป็นของฉัน”
ใช่ พูดแปลกๆ
อเล็คกลายไปเป็นของแกตั้งแต่ตอนไหนกัน!?............แม็กนัสคิดอยากจะสบถออกมา
พลางลูบแก้มตัวเองตรงที่เพิ่งโดนเจซต่อยไป เค้าชันตัวลุกขึ้นนั่ง ลูบแก้มไปมา
“อเล็คเป็นของฉัน” คำพูดของเจซดังขึ้นในหัวแม็กนัสอีกครั้ง และท้ายที่สุดแล้วร่างสูงสะโอดสะองก็พบว่ามันไม่เคยหยุดดังเลย ราวกับหมุดที่ตอกลงบนหัวใจของเค้าและตอกซ้ำลงไปอีกทุกครั้งที่เสียงของเจซดังขึ้น
แม็กนัสกลับมาปวดหัวตุบๆ อีกครั้ง เค้านึกถึงตอนที่คุยกับจิมเพื่อนสมัยมหาลัยของเค้าครั้งล่าสุดและก็ปวดหัวเพราะคิดไม่ตกกับบางสิ่งที่ไม่สามรถหาคำตอบได้ของตัวเอง............ใช่ ตอนนี้แม็กนัสเป็นแบบนั้นเลย กลับมาเป็นอีกครั้ง ทำไมกันนะ?
“อเล็คเป็นของฉัน”
มันดังขึ้นอีก แม็กนัสสบถและทำหน้าไม่ชอบใจเสียงในหัวเสียเท่าไร
เค้าปวดหัวมากขึ้น และรู้สึกโกรธ...........
.............โกรธที่อเล็คกลายไปเป็นของคนอื่น...........
“อเล็ค” แม็กนัสพึมพำ ร่างสูงสะโอดสะองยืนขึ้นจนเต็มความสูงที่เหมาะสมไร้ที่ติของตัวเองและเริ่มเสียสมดุล เมื่อภาพของอเล็คที่ยิ้มให้เค้าดันลอยเข้ามาพร้อมกับคำพูดของเจซ
...........อเล็คเป็นของเจซเหรอ อเล็คที่เค้าคอยดูแลมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กๆ
น่ะเหรอ?.........
บ้าน่า อเล็คเคยวิ่งตามเค้าหนิ ชอบบ่นว่าเค้าเดินเร็วเกินไปให้รออีกฝ่ายหนึ่งด้วย แล้วพออเล็คพูดจบเค้าก็ให้อเล็คขึ้นขี่หลังทุกทีไป.........
“ทำแบบนี้แล้วนาอยย่ามาบ่นเรื่องเดินไม่ทันกับฉันอีกนะ เห็นไหม เดินทันกันแล้ว”
ใช่ แม็กนัสจำได้
เค้าพูดแบบนั้นกับอเล็คไงล่ะและอเล็คก็หัวเราะคิกคักบนหลังเค้าก่อนจะซบศีรษะลงมา..............
แม็กนัสเห็นเหมือนหนังฉายซ้ำ ในขณะที่เดินกลับคอนโดสุดหรูซึ่งอยู่ไกลออกไปของตัวเอง ร่างสูงที่เดินไม่สนใจใครไปเรื่อยๆ ไม่ลืมที่จะล้วงเอาแว่นกันแดดในแจ็คเก็ตขึ้นมาสวมเพื่อช่วยปิดบังรูปลักษณ์หน้าตาของตัวเอง เค้าดูน่าจับตามองและดึงดูดที่สุด แต่ทว่าไร้สติ...............
แม็กนัสไม่เคยเจอคนแปลกหน้าที่พูดแล้วทำเอาเค้าเป็นแบบนี้เลย...........ก็หมอนั่นพูดถึงอเล็คแบบนั้นนี่
เค้าควรจะดีใจรึเปล่า? ควรจะยินดีด้วยไหม? ที่อเล็คมีคนดูแลแล้ว.........แต่เจ้าหนุ่มผมบล์อนนั่นพูดจาส่อไปในแนวอิโรติคยังไงก็ไม่รู้
ซึ่งมันทำให้แม็กนัสรู้สึกไม่พอใจอย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว
อเล็คใสซื่อ อเล็คอ่อนโยน และใจดี ทำไมถึงไปได้คนไม่มีสัมมาคารวะแบบนั้นมาอยู่ด้วยกันนะ อเล็คคู่ควรกับคนที่ดีกว่านี้.........ซึ่งแม็กนัสเชื่อในสิ่งที่เจซพูดทุกคำอย่างสนิทใจเลยทีเดียว
โดยเฉพาะคำสุดท้าย
แม็กนัสเดินเลื่อนลอยไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงห้องพักของตัวเอง ร่างสูงรู้สึกไม่พอใจที่อเล็คอยู่ใกล้เจซ
และรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเมื่อเจซพูดแบบนั้น
แม็กนัสเดือดจัดและกำหมัดที่ซุกอยู่ในแจ็คเก็ตแน่น
ถ้าอเล็คเป็นของหมอนั่นจริง คนนิสัยแย่ๆ แบบโจ่งแจ้งแบบนั้นน่ะ.......จะเป็นใครก็ได้ยังงั้นเหรออเล็ค?
นายจะเป็นแฟนกับใครก็ได้ยังงั้นเหรออเล็ค? หมอนั่นเป็นแฟนนายใช่ไหม!? ถ้าเป็นฉันจะเลือกที่ดีกว่านี้หน่อย......แม็กนัสคิดในใจก่อนสไลด์คีย์การ์ดหน้าประตูบานหรูของตัวเองแล้วใช้กำปั้นเหวี่ยงมันออกไปอย่างอารมณ์เสีย
แม็กนัสถอดแจ็คเก็ตออกแล้วคิดว่าจะสั่งเหล้ายี่ห่อโปรดของตัวเองขึ้นมาซดอีกล็อตใหญ่ ร่างสูงวางหูจากเซอร์วิสด้านล่างแล้วก็ต้องแสยะยิ้มกับตัวเอง
อ่อ เข้าใจแล้ว.....หึ
ในที่สุดร่างสูงซึ่งกำลังกำคอขวดน้ำอัมพันดีไซน์สวยอยู่ก็แสยะยิ้มกับตัวเองอีกรอบ.........เค้าเข้าใจเหตุผลที่ตัวเองไม่เป็นผู้เป็นคนมาทั้งอาทิตย์ก็เพราะอเล็คนั่นเอง
เพราะอเล็คสินะ.......แม็กนัสคิดในใจขณะกระดกขวดเหล้า
“ยินดีด้วยอเล็ค นายมีพระเอกคนใหม่แล้ว”
แม็กนัสพูดดูเหมือนปรีดา แต่เค้ากลับโยนขวดเหล้าใบเปล่าทิ้งไปข้างหลังอย่างไม่ใยดี...............แม็กนัสคิดว่าเค้ายังไม่เมา แต่จริงๆ เค้าเมาตั้งนานแล้ว
และสิ่งที่เค้ายังไม่รู้ก็คือ
ตัวเค้าเองนั้นยังไม่พร้อมที่จะปล่อยอเล็คไป
ให้คนอื่นดูแลน่ะเหรอ? ฝันไปได้เลย สำหรับแม็กนัส เบน น่ะติดร่างบางมากกว่าที่เจ้าตัวติดเค้าซะอีก
ดวงตาสีฟ้าสวยราวกับลูกแก้ว ผิวขาวดุจหิมะ
เรือนผมเส้นไหมสีดำขลับ และรอยยิ้มบางๆ
จนถึงขั้นฉีกยิ้มนั้นน่ะเป็นของเค้า......อันที่จริงมันเป็นของเค้าต่างหาก
ใครจะรู้จักอเล็คมากไปกว่าเค้ากัน! .........แม็กนัสกำลังเมามากและกลับมารู้สึกไม่พอคำพูดของเจซอีกครั้งหนึ่ง
ทุกครั้งที่คอยเดินตามอเล็คไป........แม็กนัสมองผิวขาวเนียนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าของเจ้าตัวเสมอ และเรือนผมสีเข้มสวยธรรมชาติที่พลิ้วสะบัดไปตามลม อเล็คชอบวิ่งหรือเดินหนีเค้าเวลาที่ทำอะไรผิดไปจากคำตักเตือนของเค้า
ทุกครั้งที่อเล็ควิ่งตามแม็กนัส...........แม็กนัสจะคอยฟังเสียงแววของฝีเท้าร่างบางอยู่เสมอ แล้วลอบยิ้มเมื่อเสียงนั้นดังขึ้นดั่งเช่นที่เค้าคิดเอาไว้
แม็กนัสยิ้มโดยที่อเล็คไม่ทันได้เห็นเสมอ.....เรื่องที่ร่างบางไม่เคยจะรู้เลย
และนั่นก็เพราะแม็กนัสไม่รู้ตัวเองด้วยเช่นกัน เค้าปฏิเสธ
และผลักไสอเล็คด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง..........
แต่ความจริงเหล่านั้นก็ไม่ได้เข้าหัวร่างสูงสะโอดสะองเลยในขณะที่แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ต่อจิตใจและสมองของเค้า แม็กนัสกระดกก้นขวดอีกและพบว่ามันหมด
ไม่เหลือแล้วสักหยด
เพราะไม่อยากให้อเล็ครู้สึกแย่เมื่อเวลาที่ไม่มีเค้า แม็กนัสเลยต้องทำให้อเล็คเกลียดเค้า แต่ร่างสูงตัดใจทำได้เสียเมื่อไรล่ะ
ตอนนี้เค้าแค่ต้องการหาอะไรกระแทกปากสักขวด.....อะไรก็ได้ อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ยังไม่ทันที่จะได้สั่ง สองขาของนายแบบดีกรีฮอตแห่งย่านดาว์ทาวน์ก็ลุกขึ้น ปล่อยขวดใบเปล่าในมือให้หล่นร่วงลงไปบนพื้นพรมมีราคา
แล้วตรงไปที่ชั้นเก็บเหล้าของเค้า ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้กวาดของมึนเมาทั้งหลายไปจนหมดตู้เสียแล้ว
แต่พอมาถึง แม็กนัสก็ต้องเปิดตู้ค้างไว้เมื่อมันยังมีเหลืออยู่อีกขวดหนึ่ง
........เอาเถอะถึงจะไม่ใช่เหล้า แต่ไวน์ก็ถือว่าแก้ขัดได้ล่ะน่า............
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยย แม็กนัสอย่าดื่มนะ!! >[]< อย่าดื่มมมม อ๊ากกกก มิสเตอร์เบนจะกระดกน้ำต้องห้ามแล้วค่ะ(?)
แต่ว่าเจซ! นายทำได้ดีมาก โดนใจเราจริงๆ เลยนะเออ
//ตบบ่าพลางเพิ่มค่าตัว// สะใจอ่ะ
แม็กนัสโดนซะบ้าง 555 เหมือนกับว่าเจซเป็นพระเอกเลยค่ะ......พระเอกขี้เหวี่ยง
ฮาาาา //สักพักโดนเจซโบก// ไรท์รู้สึกว่าอเล็คน้อยๆ
ของเราจะน่าอิจฉานิดๆ แล้วล่ะคะ
แหม....มีคนมาห่วงและหวงด้วย อิอิ๊ววววว >///<
Part หน้าจะเป็นเยี่ยงไรติดตามกันด้วยนะคะ
และท่านใดอยากจะเข้ามาร่วมพูดคุยหรือแชร์สิ่งต่างๆ
กับไรท์ก็แอดเฟสมาได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ยินดีรับแอดเสมอเลยค่าาา
สำหรับวันนี้ต้องขอตัวก่อนนะคะ แล้วเจอกันเมื่อชาติต้องการค่ะ 55555 รักรีดเสมอนะเออ จุ๊บุ๊ๆ -3-
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
โอ้ เจชนายทำได้ดีเกินคาด หุหุ ทำให้หมอนี่คลั่งไปเลย...(แต่ถ้าหมอนี่ไปลงกับอเล็คละอุ๊บ ไม่พูดๆ) nc พลีส ไรท์ 555
#กอดขาอย่างเว้าวอน
แสดงความคิดเห็น