วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 15] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec



คำแรกที่พิสูจน์อักษรได้สักพักก็ผุดประโยคนี้ขึ้นมาเลยค่ะ.......แกนี่มาอารมณ์เดียวกับหมอแมคคอยเลยนะแม็กนัส  ตื่นมาเจอเคะนอนอยู่ข้างตัวแล้วช็อค ร่ำถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น?  มันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ! แกฟันอเล็คฉันไปแล้วไงยะ! >{}<

อูยยยยย เป็นเมะคนแรกและคนเดียวในตอนนี้ที่ไม่ได้ดั่งใจไรท์อย่างแรงค่ะ  พระเอกของไรท์มีแต่หล่อลากนิสัยเทพบุตร แถมยังทำตัวแมนโคตรๆ  รึถ้าจะชั่วก็ชั่วสาด ร้ายกาจมาก ทำเอาปฐพีร้าวไปทุกหย่อมหญ้าอะไรทำนองนั้น //สักพักสตารท์ลอย....มาจากเฮียโด้ The Storm - -* อย่าพาดพิงแบบนี้ดิ จะเอ่ยก็เอ่ยเลย...เฮียบอก//

อูยยยย //เอามือกุมหัว// ให้อภัยข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ  M_ _M  แหม่ ใครๆ ก็รู้ว่าเฮียมีเหตุผลชิมิ  แต่เฮียก็เสมอต้นเสมอปลายนะคะ //ยกมือขึ้นป้องสตาร์ทอีกข้าง// แต่ว่าอิตาเบนนี่เมื่อไรจะทำตัวให้มันกล้าๆ สักที  รึยังไม่ชัวร์กะความรู้สึกของตัวเองน่ะหึ!?  จิเอายังไง....จิเอายังไงกะอเล็คของฉันห๊ะ  จะรับผิดชอบเหมือนหมอแมคคอยไหม!? รึว่าจะตื่นแล้วหนีไปเหมือนเฮียโด้ The Storm !?

//สักพักโดนบอลซูเปอร์ฟีคิกอัดหน้า// อือ งืมมมม -.,ไปหาคำตอบกันได้ใน Part นี้ของ MaLec เลยค่ะ.....ไรท์ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อน อนามัยข้างบ้านคงไม่พอ เอาไม่อยู่ค่ะ

ไปอ่านโล้ดดดดดดดดดดด


---------------------------------------------------------------------------------------------------


ฟ้าสางได้สักพักหนึ่งแล้ว  วันนี้มีแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปทั่วทั้งเมืองแสนสวย  มันส่องกระทบกับฝุ่นละอองที่ลอยละลองออกไปทางหน้าต่างระเบียงซึ่งเปิดแง้มไว้  เมื่อวานแม็กนัสลืมปิดและเปิดมันทิ้งไว้จนถึงตอนนี้เค้าก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเดินไปปิดมันแต่อย่างใด

ร่างสูงสะโอดสะองไร้เสื้อผ้าติดกายนั่งท้าวข้อศอกทับเข่าอยู่ที่ขอบเตียง  ใบหน้าเค้าก้มต่ำสองมือประสานอยู่ด้วยกัน  ถัดไปจากด้านหลังของเค้าคือผ้าปูที่นอนพร้อมทั้งผ้าห่มที่ยับยู่ยี่เปรอะเปื้อนคราบแห้งกรังต่างๆ  ไวเบรเตอร์  อุปกรณ์ของเล่นต่างๆ  หลอดเจลหล่อลื่นที่ใช้หมดแล้ว  เชือก  กุญแจมือและสายหนังที่ต่างก็ถูกใช้แล้วทั้งสิ้นวางเรียงรายจนเกลื่อนเตียง  ซึ่งทั้งหมดนี้มันทำให้เตียงแสนแพงและหรูหราของเค้าดูเหมือนเตียงในโรงแรมม่านรูดเก่าๆ ไปเลย

  และตรงนั้นที่มุมสุดอีกฝั่งหนึ่งของเตียงที่แสนจะดูไม่ได้นี้ มีร่างๆ หนึ่งนอนขดตัวหนุนหมอนอยู่ตรงนั้น  หมอนใบใหญ่เกินไป  ดูจะใหญ่เกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่อร่างเกือบทั้งร่างที่มีรอยแผลนั้นขึ้นไปอยู่บนหมอนได้ราวกับเบาะชั้นดีของลูกแมวตัวน้อยๆ ...........ร่างที่เต็มไปด้วยรอบกัด  รอยดูดเม้มสีกุหลาบ  และแผลซึ่งทิ้งรอยเลือดแห้งกรังเอาไว้  ร่างอันอ่อนแรงนอนไม่ได้สติอยู่ติดผนังห้องซึ่งเป็นเขตสิ้นสุดของขอบเตียงอีกฝั่งหนึ่ง

อเล็คไม่ได้สติ ยังคงหลับอยู่...........

เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น? แม็กนัสรวบถามตัวเองในใจเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เค้าไม่คาดฝันว่าจะได้เจอ  ที่ข้างตัวเค้าคืออเล็คที่ขึ้นไปสร้างอาณาเขตของตัวเองบนหมอนใบใหญ่ของเค้า  แต่ว่านั่นมันไม่ใช่ประเด็นประเด็นคือ  นั่นคืออเล็คจริงๆ ใช่ไหม  และอเล็คมาทำอะไรที่นี่

แม็กนัสที่มีอาการเหมือนเพิ่งสร่างเมาเอามือปิดปากตัวเอง  ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นลูบใบหน้าที่ไร้วี่แววการพักผ่อนนั้นของตัวเอง เมื่อจำได้แล้วว่าเมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

............เป็นเค้าเองที่ทำเรื่องเลวร้ายกับอเล็ค เพื่อนรักของเค้า  เพื่อนตัวน้อยที่เค้าคิดจะทะนุถนอมไว้และไม่อยากให้เสียใจไปกับอะไรอีกตลอดกาล..........

แต่แล้วภาพและเสียงร้องของอเล็คเมื่อคืนก็ฉายวนขึ้นมาในหัวเค้า ราวกับภาพหลอนในหนังสยองขวัญ.......อเล็คร้องเสียงดังมาก ทำไมเค้าถึงไม่ได้ยินมันแล้วหยุดการกระทำนั้นกันนะ  พอตื่นมาแม็กนัสก็ทุบหัวตัวเองก่อนจะย้ายร่างออกมานั่งสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงแทน

จนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาน่าจะเกือบสายแล้ว

อา เลยเวลาเข้างานของอเล็คมาแล้วหรือเนี่ย........แม็กนัสคิดในใจในระหว่างที่แหงนหน้ามองดูนาฬิกาติดผนังเรือนไฮเทค  เค้าไม่กล้าปลุกอเล็คหรอกเพราะว่าไม่กล้าพอ  แม้จะรู้ว่าอเล็คเคร่งครัดกับหน้าที่ของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม  แต่อเล็คก็คงจะไม่อยากเห็นหน้าเค้าแล้ว........อเล็คคงจะเกลียดเค้าแหงๆ โดยไม่ต้องเสียแรงเดาเลย

แต่แล้วแพขนตาที่เรียงตัวสวยงามราวกับรังสรรค์มาอย่างดีก็ขยับไหวเล็กน้อย แล้วเปลือกตาบางของอเล็คก็เปิดออก เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าสวยราวกับขวดแก้วแต่ทว่าฉายออกมาให้เห็นถึงความอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด  เรือนร่างที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำเริ่มขยับตัวเล็กน้อย  แต่ก็ต้องสะดุ้งแล้วนิ่งไปเพราะความเจ็บแปลบที่แล่นริ้วเข้ามาหาเค้า

“อะ อึก!” อเล็คครางและหลับตาแน่นเพื่อลืมความเจ็บปวด  แต่ทว่ากลับเป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่วนกลับเข้ามาหาเค้าแทน  พลันอเล็คก็ตัวสั่นแล้วกอดเรียวขาที่ขดงอของตัวเองทันที  แม็กนัสที่สังเกตเห็นตั้งแต่ร่างบางฟื้นแล้ว ก็มีเพียงแค่ใบหน้าคมเท่านั้นที่เบี่ยงไปหาเล็กน้อย...........นั่นไม่ใช่อะไร เป็นเพราะเค้าไม่กล้าจะสู้หน้าอเล็คแล้วต่างหากล่ะ

แต่เสียงอุทานอย่างเจ็บปวดของอเล็คก็ทำให้ความไม่กล้าของแม็กนัสสะบั้นขาดลงไป  ร่างสูงสะโอดสะองหันกายมาอย่างทันทีทันใด  เห็นร่างอันสั่นเทาของเพื่อนเค้ากำลังฝืนลุกขึ้นมานั่งบนพื้นเตียงแล้วกอดตัวเองอีกครั้ง  อเล็คถอยหลังติดกำแพงซุกหน้ากับอ้อมแขนพลางช้อนสายตามองแม็กนัสอย่างหวาดกลัว...........เมื่อคืนแม็กนัสน่ากลัวมากและไม่ฟังเค้าเลย

คนอ่อนแรงพยายามเกี่ยวผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปิดร่างกายของตัวเองไว้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันยากเกินไปสำหรับเค้าในตอนนี้  แม็กนัสจึงดึงผ้าห่มทั้งผืนขึ้นมาแล้วยื่นให้อเล็คแทน เป็นเหตุให้ร่างสูงต้องขยับเข้าไปใกล้คนที่กลัวจนตัวสั่น  อเล็คสะดุ้งกอดเข่ามากขึ้นไปอีก  ไม่รับผ้าห่มจากแม็กนัสเพราะกลัวมาก  สุดท้ายแล้วจึงเป็นแม็กนัสที่อดสงสารเห็นอเล็คเป็นแบบนั้นไม่ได้จึงเป็นฝ่ายเข้าไปห่มห่อกายให้อเล็คเสียเอง

แม็กนัสเม้มปากเข้าหากันแล้วถอนหายใจอย่างหนักหน่วง......เค้าเห็นภาพอเล็คที่ถูกเค้ากระทำอย่างป่าเถื่อน  และอเล็คเองก็ยังคงคิดว่าแม็กนัสยังไม่หายเป็นคนที่เค้าไม่รู้จัก  ในคราแรกที่เพื่อนร่างสูงเคลื่อนกายจะเข้ามาห่มคลุมผ้าห่มผืนหนาให้  อเล็คตัวสั่นและผงะหนีเมื่อคิดว่าแม็กนัสจะเข้ามาทำเรื่องเลวร้ายแบบเมื่อคืนนี้กับเค้าอีก

และเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กทำเช่นนั้น  แม็กนัสก็ต้องฝืนความอยากที่จะหยุดการกระทำของตัวเองแล้วทำใจแข็งห่มให้อเล็คไป...........แม็กนัสแทบหยุดหายใจไปเลยเมื่ออเล็คพยายามจะขยับหนีเค้า  อเล็คไม่เคยทำท่าหวาดกลัวใส่เค้ามาก่อนเลย

ร่างบางร้องไห้อีกครั้งอย่างเงียบๆ และผ้าห่มก็ร่นลงมาประไหล่บางสีน้ำนมที่เต็มไปด้วยรอยแต่งแต้มแห่งความเป็นเจ้าของ  แม็กนัสสะอึกเมื่อเห็นร่องรอยที่ตัวเองทำไว้  อเล็คเช็ดน้ำตากับผ้าที่ห่มกายในขณะที่คนที่นั่งอยู่ด้านหลังสูดหายใจเข้าเล็กน้อย แล้วเริ่มเอ่ยเสียงทุ้มอ่อน

“นายเจ็บมากไหม...”

อเล็คตัวสั่นอีก เพราะกลั้นเสียงสะอื้น......เค้าไม่อยากร้องไห้อีก แต่เสียงสะอื้นก็หลุดรอดออกมาจากริมปีปากบางเฉียบสีสวยจนได้ “ฮะ ฮึก...”

แม็กนัสใจแป้ว “อเล็ค...”

“นายทำแบบนั้นทำไม?” จู่ๆ ประโยคสำนึกผิดของร่างสูงก็ถูกตัดไปโดยสิ้นเชิง  เพื่อนตัวน้อยไม่ได้หันมามองหน้าแม็กนัสเอาแต่กลัดกลืนของเหลวเหนียวข้นลงคอ  ร่างสูงรู้สึกเหมือนโดนทุบหัวแล้วจับท้วงน้ำ

“ฉัน...”

“นายเป็นอะไรไป  ทำไมนายไม่ฟังฉันเลยนาย....เอาแต่ อึก ทำแบบนั้นแล้วก็ทำแบบนั้นอีก....” ร่างบางหันมาทำสายตาตัดพ้อใส่แม็กนัสและประโยคที่เคล้ากับเสียงสะอื้นอย่างห้ามไม่ได้

“ฮือ...นายทำแบบนั้นทั้งคืน....นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”

ไม่ อเล็ค...ฉันไม่เคยเกลียดนายเลยนะ” แม็กนัสพูด พลางจับไปที่ไหล่บางซึ่งกำลังสั่นเนื่องจากแรงสะอื้นแล้วเปลี่ยนไปเป็นกอดเพื่อนร่างบางจากด้านหลังแทน

“ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจอเล็ค  ฉันขอโทษ  นั่นไม่ใช่ฉันเลย”

“ฮึก อึก ฮืออ” และพอเพื่อนร่างสูงที่เคยเป็นดั่งแสงตะวันสำหรับเค้าเข้ามาตระคองกอดมอบอ้อมกอดที่เค้าไม่เคยได้สัมผัสมาแรมปีให้และบอกเค้าว่าเสียใจ  อเล็คก็ห้ามตัวเองไม่ให้เสียใจไม่ได้อีกต่อไป  เค้าปลดปล่อยน้ำตาออกมาแล้วตัวสั่นภายใต้อ้อมกอดของ แม็กนัส   เบน ที่เค้ารัก แต่ตอนนี้เค้าก็ไม่แน่ใจเสียแล้วว่าควรรู้สึกอย่างนั้นต่อไปดีหรือไม่

แม็กนัสทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยให้อเล็คร้องไห้ต่อไป  ร่างสูงรู้จักเพื่อนของเค้าดี ถ้าหากไม่ได้ร้องออกมาให้หมด อเล็คก็จะไม่เลิกเสียใจสักที........ควรต้องให้เวลากับอเล็คบ้าง

จนกระทั่ง คนที่มีรอยแต้มสีกุหลาบสดเต็มตัวเอ่ยขึ้นเบาๆ ราวกับรำพึงกับตัวเอง “ทำไมเรื่องร้ายๆ จะต้องเกิดขึ้นแต่กับฉันคนเดียวด้วย ฮึก...ทำไมถึงยังไม่ยอมหยุดเสียที” อเล็คว่าในขณะที่เอนใบหน้าที่ซีดเซียวซบกับท่อนแขนบางของตัวเอง  ท่าทางร่างบางเหมือนกำลังช็อคและเลื่อนลอย

“ฉันจะไม่ทำให้แบบนั้นกับนายอีกแล้วอเล็ค  ฉันสัญญา”

“แม้แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เข้าใจฉัน.....ฉัน ฉันคงทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้แล้วแน่ๆ ฮึก อึก  แย่ที่สุดเลย”

“อะไร.....เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรืออเล็ค” ร่างสูงสะโอดสะองเอ่ยถามเสียงเบา  เค้าคิด บางที่อเล็คอยากจะโดนทางบ้านกดดันมากเกินไปจนกระทั่งมาเจอเรื่องราวเมื่อคืน........

“แม่เอาเงินไปหมด  ฉันคงเปิดร้านไม่ได้แล้ว....บ้านเรา...กำลังจะถูกยึด” คนที่หัวใจแหลกสลายตอบออกไปอย่างว่าง่ายและดูเลื่อนลอย.......สิ่งที่เค้าเสียใจที่สุดคือความฝันของเค้าได้พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี  ไม่ว่ายังไงแม่ก็ต้องได้เงินก้อนนั้นของเค้าไปจนได้

และแม็กนัสก็เหมือนโดนฟาดอีกครั้ง  สิ่งนี้อเล็คไม่เคยบอกเค้ามาก่อน  จริงอยู่ที่ตัวเค้าเองเคยไถ่ถามหยอกล้อเรื่องนั้นออกไปแต่อเล็คก็ดูเหมือนจะตัดบทไปเสียทุกที เพราะจริงๆ แล้วมันคือความฝันของเพื่อนผิวสีขาวราวหิมะของเค้านี่เอง  เรื่องสำคัญและใหญ่โตขนาดนั้น คงจะต้องสำคัญสำหรับอเล็คมากแน่ๆ แต่แม็กนัสกลับไม่รู้อะไรเลย

..........ร่างสูงสะโอดสะองของนายแบบสุดฮอตจึงเพิ่งตระหนักแล้วว่า เค้าได้เหินห่างจากเพื่อนตัวเล็กออกไปเลยโดยสิ้นเชิง..........

ทำไมนายไม่บอกฉัน......แม็กนัสอยากจะถามออกไป แต่ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความผิดของเค้ามากเข้าไปอีกเมื่อเค้าเป็นคนทำให้อเล็คตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องนี้กับเค้าเอง.........เค้ามันทุเรศที่สุด

“ฉันขอโทษอเล็ค....ฉันขอโทษ” แม็กนัสพร่ำบอก  และมันแปลกชอบกลเมื่อเค้าเองก็รู้สึกเจ็บไปด้วยในขณะที่อเล็คร้องไห้  ทุกเรื่องราวที่ต้องคำนึงถึงในชีวิตของนายแบบร่างสูงได้ลืมมลายหายไปหมดแล้ว.........เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกชาหนึบที่หน้าอก........อเล็คที่เค้าหวังอยากจะให้สักวันหนึ่งเข้มแข็งขึ้นมา  ต้องตัวคนเดียวถึงเพียงนี้เชียวหรือ? 

เป็นเรื่องน่าอายนักที่ตลอดเวลาที่ห่างกัน เค้าไม่เคยรับรู้ถึงทุกสิ่งที่อเล็คต้องแบกรับเลย  ทั้งๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะช่วยกันเมื่อยามพบปัญหา

แต่แม็กนัสก็ไม่รู้เลยว่าอเล็คไม่สามารถห่างเค้าไปได้  พอๆ กับที่เค้าเองก็ห่างร่างบางนี่ไปไม่ได้เหมือนกัน............และก็คงเป็นแม็กนัสเสียเองที่ไม่พร้อมจะออกห่างจากอเล็คไป

.........ที่โมโหหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง  จนกลายเป็นโกรธเคืองที่เจซเข้ามายุ่งย้ามอยู่รอบตัวอเล็คก็เพราะแบบนี้สินะ  อเล็คที่เค้าเป็นห่วงมาตลอดโดยไม่รู้ตัวคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องปรกติไปเสียแล้ว............

หลังจากนั่งกอดกันไปได้สักพักโดยไม่มีการโต้ตอบใดๆ อเล็คก็มีทีท่าไม่ยอมลุกขึ้นมาอาบน้ำหรือใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด  แม็กนัสทำอะไรไม่ได้แต่ก็ไม่อยากให้อเล็คหมกมุ่นอยู่กับความเสียใจของตัวเอง  ร่างสูงสะโอดสะองจึงต้องออกปากเอ่ยชวนเพื่อนร่างบางให้เข้าไปใช้ห้องน้ำของเค้า  อเล็คนิ่งยังคงห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาซึ่งตอนนี้ยกขึ้นมาคลุมทั้งศีรษะจนเหลือแต่ช่วงตาแล้ว

“เถอะนะอเล็ค เดี๋ยวนายจะแย่ไปกว่านี้” แม็กนัสเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ  เค้ารู้ว่าอเล็คอ่อนแอและกำลังทำตัวดื้อดึงเหมือนในยามเด็ก  และแม็กนัสเองก็ดูเหมือนจะไม่ยอมใส่เสื้อผ้าไปด้วยนอกจากกางเกงยีนต์ตัวเดียวถ้าหากอเล็คยังคงไม่ยอมใส่ แม้ร่างสูงสะโอดสะองจะอาบน้ำอย่างรีบๆ เสร็จแล้วก็ตาม

ในใจแม็กนัสอยากจะอุ้มอเล็คขึ้นมาเองเสียให้ได้  แต่ว่าถ้าเอาผ้าห่มลงแช่ไปในอ้างด้วยคงไม่ได้แน่........ดังนั้นร่างสูงรูปร่างไร้ที่ติจึงต้องเปิดสงครามเย็นยื้อหยุดผ้าห่มกับอเล็คอย่างไม่มีทางเลือก  และกลายเป็นสงครามร้อนไปในที่สุดเมื่ออเล็คไม่ยอมมุดตัวเองออกมาเสียที

“ได้โปรดเถอะน่าอเล็ค....เดี๋ยวนายจะป่วยเอานะ  ปล่อย”

อเล็คกอดผ้าห่มไว้แน่  และพอแม็กนัสออกแรงหน่อยประกอบกับที่อเล็คแทบจะไม่มีแรงทำอะไรอยู่แล้ว ตัวเค้าก็ถูกแยกออกจากผ้าผืนหนาอย่างง่ายดาย  อเล็คหลับตาปี๋ในขณะที่แม็กนัสต้องกวาดสายตาไปตามเรือนรางที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เค้าจำความได้เมื่อตอนยังเด็กแล้วลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เมื่อร่างสูงเห็นร่องรอยของการกัดและรอยช้ำต่างๆ บนตัวของเพื่อนตัวเล็ก

อเล็คไม่ขยับไปไหน เอาแต่กอดตัวเองแล้วซบหน้าลงกับเตียงราวกับว่ากำลังอายสุดขีดที่แม็กนัสซึ่งมีสติครบถ้วนเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้  แต่แล้วคนที่อ่อนแรงที่สุดก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างของเค้าถูกยกจนลอยขึ้นจากพื้นเตียงด้วยแขนแข็งแรงของร่างสูง

“ฉะ ฉันเดินเองได้  วะ วางฉันลงเถอะ.....อ๊ะ!” เสียงที่ติดจะแหบแห้งเอ่ยตะกุกตะกักและสุดท้ายก็ต้องเผลออุทานออกมา แล้วสะดุ้งเข้าหาอกแม็กนัสผู้ซึ่งมองตามอย่างเป็นห่วง เมื่อมีของเหลวอุ่นๆ ไหลย้อนออกมาจากช่องทางที่ระบมช้ำของอเล็คอย่างมากมาย  มันหยดลงพื้นเตียง  อเล็คหน้าซีดเซียวอีกครั้งแต่แม็กนัสหน้าเสียไปเลย

และร่างบอบบางสีขาวก็ยืนยันที่จะอาบน้ำด้วยตัวเองคนเดียว  หลังจากหยิบยื่นเสื้อผ้าให้เสร็จแล้วแม็กนัสก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเฝ้าประตูห้องน้ำที่อเล็คกำลังใช้อยู่เสียอย่างนั้น  สมองเค้าไม่สามารถประมวลอะไรได้อีกแล้ว

.........ความรู้สึกผิดกับความหวงอเล็คกำลังตบตีกันอยู่ในหัวเค้า.............

รู้สึกผิดอย่างแรงที่ทำแบบนั้นกำอเล็คไปโดยที่ทุกอย่างมันออกมาเลวร้ายไปหมด

และไม่ชอบใจที่อเล็คถูกรายล้อมไปด้วยคนมากมายนอกเหนือจากเค้า ไม่ได้มีเพียงเค้ากับอเล็คแค่สองคนเฉกเช่นเมื่อก่อน

และทุกอย่างนี้จะสรุปว่าอย่างไรดี?  แม็กนัสส่ายหัวช้าๆ เมื่อเค้าหาคำตอบให้กับคำถามนี้ไม่ได้

เป็นเวลานานมากทีเดียวกว่าคนที่น่าเป็นห่วงจะออกมาได้ ซึ่งหลายครั้งที่แม็กนัสอยากจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูอเล็คให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยเสียให้ได้  แต่เค้าก็ทำได้เพียงส่งเสียงถามไปก็เท่านั้นและได้รับเสียงอ้อนๆ แอ้นๆ ของอเล็คตอบกลับมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก

อเล็คออกมาพร้อมกับชุดเก่าของเจ้าตัวและเสื้อยืดของแม็กนัส...........

“นายไหวไหม” แม็กนัสเอ่ยถาม เอื้อมมือไปเตรียมจะช่วยพยุงอเล็คที่ยืนได้ไม่ตรงนัก

“มะ ไม่เป็นไร ฉัน....ไหว” และอเล็คก็บอกปัดตามสูตรเดิม

แม็กนัสขมวดคิ้วและขบเม้มริมฝีปากของตัวเองอย่างอดกลั้น......เค้าจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย  เพื่อนร่างบางดูจะพยายามอยู่ห่างเค้าตลอดเวลาเลย  จนกระทั่งเค้าต้องขู่เข็ญให้อีกคนทานมื้อเช้าอีกครั้งด้วยความลำบากใจ.........ทำเรื่องเลวร้ายกับอเล็คลงไปแล้วยังจะต้องมาบังคับอีกคนหนึ่งด้วยเสียอีก

อเล็คแตะไปเพียงนิดเดียว ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นอาหารง่ายๆ แต่เป็นเพราะความรู้สึกอยากอาหารของเจ้าตัวถูกสูบหายไปต่างหาก  ร่างบางไม่ทานอีกและบอกว่าอิ่มแล้วเมื่อแม็กนัสก้มหน้าถาม  ร่างสูงสะโอดสะองจึงอาสาไปส่งอเล็คที่ห้องพักเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งทำท่าจะลุกออกไปใช้มือจับสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยพยุงร่างกายที่อ่อนแอ

แม็กนัสก้าวเดินตามไปและช้อนตัวอเล็คขึ้นมาอุ้มอีกครั้งและไม่ลืมที่จะฉวยกระเป๋าของร่างบางติดมือมาด้วย  อเล็คตั้งท่าจะดิ้นอย่างตกใจแต่ก็แจ้งแก่ใจว่าไม่ควรทำแบบนั้นเพราะแค่เดินออกประตูไปอย่างคนธรรมดาเค้ายังทำไม่ได้เลย

“มะ แม็กนัสฉัน.....”

“นายจะกลับไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้นะอเล็ค  เลิกดื้อกับฉันสักที  ฉันรู้ว่าฉันผิดและไม่มีเหตุผลอะไรที่นายจะต้องฟังฉันอีกแต่ว่าที่ทำนี่ก็เพื่อตัวนายเองนะ” แม็กนัสตัดบทว่าเสียงค่อนข้างเด็ดขาด ทำให้อเล็คนิ่งเงียบไป  และราวกับลมพัดเข้ามาหาทั้งคู่วูบหนึ่ง ซึ่งพาเอาความรู้สึกครั้งที่พวกเค้ายังวิ่งตามกันและจับมือกันเอาไว้ มาด้วย

ทั้งคู่ไม่ได้ปรริปากพูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว  ต่างคนต่างเงียบจนมาถึงหนึ่งในรถราคาแสนแพงของเพื่อนร่างสูงที่จอดอยู่ในลานจอดส่วนตัวของร่างสูงเอง  แม็กนัสอุ้มอเล็คที่ตัวเกร็งไปนั่งตรงเบาะข้างคนขับแล้วออกรถไปส่งอเล็คที่อาร์พาร์ทเมนท์ของเจ้าตัวทันที  ร่างบางกำสายกระเป๋าที่เพิ่งได้คืนมาไว้แน่น ยังคงไม่พูดจาหรือโต้ตอบอะไรทั้งสิ้น  และถึงแม้แม็กนัสเองอยากจะพูดอะไรสักแค่ไหน  แต่เค้าก็ไม่สามารถทำได้เลยเพราะเรื่องบัดซบที่เค้าเพิ่งทำลงไปเมื่อคืนนี้

และเมื่อเข้าไปในตัวอาร์พาร์ทเมนท์  คนดูแลก็ถึงกับต้องเผลอทำป็อปคอร์นหล่นออกจากมือที่อวบอ้วนใกล้ปริแตกของตน เมื่อคนที่กำลังดูค้างอยู่ในทีวีนั้นเพิ่งเดินผ่านและยิ้มเล็กๆ พยักหน้าให้หล่อนและผ่านหน้าไปพร้อมกับลูกค้าที่เช่าห้องซึ่งแสนดีคนหนึ่งขึ้นไปด้านบน  แม็กนัสเดินไปส่งอเล็คที่ใช้ราวบันไดพยุงตัวเองขึ้นไป และมองดูอย่างเป็นห่วง   อเล็คปฏิเสธความช่วยเหลือของเค้าไปหลายครั้งกว่าจะถึงห้องที่ไม่ได้ล็อคของเจ้าตัว

อเล็คแปลกใจโดยมีเค้ายืนอยู่ข้างๆ   ร่างที่สูงกว่าของเค้าอยู่ด้านหลังแทบจะติดกับอเล็คในขณะที่เพื่อนร่างบางผิวขาวของเค้าผลักประตูออกไปให้หายข้องใจ  และพวกเค้าทั้งคู่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเจอเจซนั่งอยู่ในห้อง


.


.


.


TBC.


-----------------------------------------------------------------------------------------------


อร๊ายยยยยยยยยยยยย  ปรากฏว่าไม่ได้หนีค่ะ >{}< //โดนบอลอีกลูก// แต่ก็ไม่ได้ตบปากรับคำแบบหมอแมคคอยนะเออ  เจ้าตัวไปส่งอาร์พาร์ทเมนท์เองด้วย ><   เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว  อเล็คหนูจะเข้มแข็งไปไหนค่ะ.....เมะเค้าจะเเสดงความสามารถแล้วให้เค้าทำเถอะค่ะ >0<  ไรท์ว่าอเล็คไม่ได้เข้มแข็งหรอกค่ะ ดื้อมากกว่า  เปลี่ยนคำพูดเเละ -*-

แต่ดันไปเจอะ เจซ เสียนี่สิ  เฮื่อออออออออออออ เจซ   เวย์แลนด์เราจะทำยังไงนะ!?

งืมมมม แต่จะว่าไป....ไรท์ชอบตอนที่อเล็คตื่นมาแล้วหวาดกลัวแม็กนัสจังค่ะ -.,- ตัวสั่นหงึกๆ แล้วก็ขวัญหนีดีฝ่อ  //รีดบอก....ไม่ได้โรคจิตเลยนะแก!!!//  แบบว่าเคะผู้บอบบางเพิ่งถูกกระทำชำเราขืนใจมาหมาดๆ 55555 //สักพักมีดเสียบคอ//

โอ๊ย! จะอะไรนักหนา....นี่จะไม่ให้ไรท์เขียนฟิคต่อไปแล้วใช่ไหมคะ  ฆ่ากันจังเลย -*-  (รู้สึกสมควรโดนจากก้นบึ้งของหัวใจ)  ติดตามไรท์และข่าวคราวของฟิคได้ที่เฟสไรท์เลยค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มเลยค่ะ  ไรท์ยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ ><  และช่วยติชมคอมเม้นท์โจมตีแม็กนัสด้วยนะคะ(?) ......เฮ้ย เค้าเริ่มเป็นคนดีแล้วหนิ 555

และ Part หน้าต้องติดตามค่ะ  เมื่อเจซเจอแม็กนัสกับอเล็คที่ดูจะอ่อนแรงกลับมาด้วยกัน......อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนะ หุๆ   รักรีดหลายๆ เลยค่าาาา ^3^

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund




2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อเล็คน่าสงสารอ่ะ แต่ก็ดื้อซะเหลือเกิน อย่างนี้มันน่าจะจับ...อีกสักรอบสองรอบ ถ้าไม่ติดว่าแม็กนัสบอกไปเสียก่อนว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก บวกกับความรู้สึกผิดของเค้าอีกมากมายที่ได้...เพื่อนรักไปโดยไม่ฟังคำร้องขอวิงวอนใดๆ มิหนำซ้ำยังได้ใช้อุปกรณ์ช่วย&เสริมไปอีก (เฮ้อ...รู้สึกเสียดายมิใช่น้อยเลยทีเดียว(ที่เค้าบอกว่าจะไม่ทำอีก) ถึงจะสงสารและรู้สึกเห็นอกเห็นใจอเล็คแม็กนัสอยู่ แต่ก็อยากจะอัดคลิปเก็บเอาไว้ดูเล่น)

แต่ก็ดีนะ ดูเหมือนแม็กนัสจะรู้ถึงความรู้สึกของตัวมากขึ้น

ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าแม็กนัสจะเป็นยังไงบ้าง ก็ดันมาเจอเจซนั่งตอนรับอยู่ในห้องซะขนาดนั้น หึหึ อย่างนี้ต้องไม่พ้นมีเรื่องแน่ๆ

เออ...ไรท์ค่ะ คือว่าตรงนี้อะ 'พอๆ กับที่เค้าเองก็ห่างร่างบางนี่ไม่ได้ไปเหมือนกัน' เราว่าคำว่า ไป น่าจะอยู่หน้าคำว่า ไม่ได้ มากกว่านะ

แล้วก็ จริงๆแล้วไรท์ไม่ได้โรคจิตหรอกนะ แต่ไรท์เลยคำว่าโรคจิตไปนานแล้ว และเลยไปไกลมากแล้วด้วย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โอ้ยยย รุ้สึกแย่แทนแม็กนัสมารู้ตัวตอนนี้นึ่ต้องรีบไปตามง้ออเล็คให้ไวเลย เอาเลยอเล็คเล่นตัวเข้าไว้ หมั่นไส้แม็กนัส555555 คราวนี้จบไม่สวยแน่เจอเจซที่ห้องพร้อมหน้ากันทั้งสามคน รอตอนหน้าค่าาา