คำแรกที่พิสูจน์อักษรได้สักพักก็ผุดประโยคนี้ขึ้นมาเลยค่ะ.......แกนี่มาอารมณ์เดียวกับหมอแมคคอยเลยนะแม็กนัส ตื่นมาเจอเคะนอนอยู่ข้างตัวแล้วช็อค
ร่ำถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น? มันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ! แกฟันอเล็คฉันไปแล้วไงยะ!
>{}<
อูยยยยย
เป็นเมะคนแรกและคนเดียวในตอนนี้ที่ไม่ได้ดั่งใจไรท์อย่างแรงค่ะ พระเอกของไรท์มีแต่หล่อลากนิสัยเทพบุตร
แถมยังทำตัวแมนโคตรๆ รึถ้าจะชั่วก็ชั่วสาด
ร้ายกาจมาก ทำเอาปฐพีร้าวไปทุกหย่อมหญ้าอะไรทำนองนั้น //สักพักสตารท์ลอย....มาจากเฮียโด้
The Storm - -* อย่าพาดพิงแบบนี้ดิ
จะเอ่ยก็เอ่ยเลย...เฮียบอก//
อูยยยย //เอามือกุมหัว//
ให้อภัยข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ M_ _M แหม่ ใครๆ
ก็รู้ว่าเฮียมีเหตุผลชิมิ แต่เฮียก็เสมอต้นเสมอปลายนะคะ
//ยกมือขึ้นป้องสตาร์ทอีกข้าง// แต่ว่าอิตาเบนนี่เมื่อไรจะทำตัวให้มันกล้าๆ สักที รึยังไม่ชัวร์กะความรู้สึกของตัวเองน่ะหึ!? จิเอายังไง....จิเอายังไงกะอเล็คของฉันห๊ะ จะรับผิดชอบเหมือนหมอแมคคอยไหม!? รึว่าจะตื่นแล้วหนีไปเหมือนเฮียโด้ The Storm !?
//สักพักโดนบอลซูเปอร์ฟีคิกอัดหน้า//
อือ งืมมมม -.,- ไปหาคำตอบกันได้ใน Part นี้ของ MaLec เลยค่ะ.....ไรท์ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อน อนามัยข้างบ้านคงไม่พอ เอาไม่อยู่ค่ะ
ไปอ่านโล้ดดดดดดดดดดด
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟ้าสางได้สักพักหนึ่งแล้ว วันนี้มีแสงแดดอ่อนๆ
สาดส่องไปทั่วทั้งเมืองแสนสวย มันส่องกระทบกับฝุ่นละอองที่ลอยละลองออกไปทางหน้าต่างระเบียงซึ่งเปิดแง้มไว้
เมื่อวานแม็กนัสลืมปิดและเปิดมันทิ้งไว้จนถึงตอนนี้เค้าก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเดินไปปิดมันแต่อย่างใด
ร่างสูงสะโอดสะองไร้เสื้อผ้าติดกายนั่งท้าวข้อศอกทับเข่าอยู่ที่ขอบเตียง ใบหน้าเค้าก้มต่ำสองมือประสานอยู่ด้วยกัน
ถัดไปจากด้านหลังของเค้าคือผ้าปูที่นอนพร้อมทั้งผ้าห่มที่ยับยู่ยี่เปรอะเปื้อนคราบแห้งกรังต่างๆ ไวเบรเตอร์
อุปกรณ์ของเล่นต่างๆ
หลอดเจลหล่อลื่นที่ใช้หมดแล้ว
เชือก
กุญแจมือและสายหนังที่ต่างก็ถูกใช้แล้วทั้งสิ้นวางเรียงรายจนเกลื่อนเตียง
ซึ่งทั้งหมดนี้มันทำให้เตียงแสนแพงและหรูหราของเค้าดูเหมือนเตียงในโรงแรมม่านรูดเก่าๆ
ไปเลย
และตรงนั้นที่มุมสุดอีกฝั่งหนึ่งของเตียงที่แสนจะดูไม่ได้นี้ มีร่างๆ
หนึ่งนอนขดตัวหนุนหมอนอยู่ตรงนั้น
หมอนใบใหญ่เกินไป
ดูจะใหญ่เกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่อร่างเกือบทั้งร่างที่มีรอยแผลนั้นขึ้นไปอยู่บนหมอนได้ราวกับเบาะชั้นดีของลูกแมวตัวน้อยๆ
...........ร่างที่เต็มไปด้วยรอบกัด
รอยดูดเม้มสีกุหลาบ
และแผลซึ่งทิ้งรอยเลือดแห้งกรังเอาไว้
ร่างอันอ่อนแรงนอนไม่ได้สติอยู่ติดผนังห้องซึ่งเป็นเขตสิ้นสุดของขอบเตียงอีกฝั่งหนึ่ง
อเล็คไม่ได้สติ
ยังคงหลับอยู่...........
เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น?
แม็กนัสรวบถามตัวเองในใจเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เค้าไม่คาดฝันว่าจะได้เจอ ที่ข้างตัวเค้าคืออเล็คที่ขึ้นไปสร้างอาณาเขตของตัวเองบนหมอนใบใหญ่ของเค้า แต่ว่านั่นมันไม่ใช่ประเด็น!
ประเด็นคือ
นั่นคืออเล็คจริงๆ ใช่ไหม
และอเล็คมาทำอะไรที่นี่
แม็กนัสที่มีอาการเหมือนเพิ่งสร่างเมาเอามือปิดปากตัวเอง
ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นลูบใบหน้าที่ไร้วี่แววการพักผ่อนนั้นของตัวเอง
เมื่อจำได้แล้วว่าเมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
............เป็นเค้าเองที่ทำเรื่องเลวร้ายกับอเล็ค
เพื่อนรักของเค้า
เพื่อนตัวน้อยที่เค้าคิดจะทะนุถนอมไว้และไม่อยากให้เสียใจไปกับอะไรอีกตลอดกาล..........
แต่แล้วภาพและเสียงร้องของอเล็คเมื่อคืนก็ฉายวนขึ้นมาในหัวเค้า
ราวกับภาพหลอนในหนังสยองขวัญ.......อเล็คร้องเสียงดังมาก
ทำไมเค้าถึงไม่ได้ยินมันแล้วหยุดการกระทำนั้นกันนะ
พอตื่นมาแม็กนัสก็ทุบหัวตัวเองก่อนจะย้ายร่างออกมานั่งสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงแทน
จนกระทั่งตอนนี้เป็นเวลาน่าจะเกือบสายแล้ว
อา เลยเวลาเข้างานของอเล็คมาแล้วหรือเนี่ย........แม็กนัสคิดในใจในระหว่างที่แหงนหน้ามองดูนาฬิกาติดผนังเรือนไฮเทค
เค้าไม่กล้าปลุกอเล็คหรอกเพราะว่าไม่กล้าพอ
แม้จะรู้ว่าอเล็คเคร่งครัดกับหน้าที่ของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม
แต่อเล็คก็คงจะไม่อยากเห็นหน้าเค้าแล้ว........อเล็คคงจะเกลียดเค้าแหงๆ
โดยไม่ต้องเสียแรงเดาเลย
แต่แล้วแพขนตาที่เรียงตัวสวยงามราวกับรังสรรค์มาอย่างดีก็ขยับไหวเล็กน้อย
แล้วเปลือกตาบางของอเล็คก็เปิดออก
เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าสวยราวกับขวดแก้วแต่ทว่าฉายออกมาให้เห็นถึงความอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด เรือนร่างที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำเริ่มขยับตัวเล็กน้อย
แต่ก็ต้องสะดุ้งแล้วนิ่งไปเพราะความเจ็บแปลบที่แล่นริ้วเข้ามาหาเค้า
“อะ อึก!”
อเล็คครางและหลับตาแน่นเพื่อลืมความเจ็บปวด
แต่ทว่ากลับเป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่วนกลับเข้ามาหาเค้าแทน พลันอเล็คก็ตัวสั่นแล้วกอดเรียวขาที่ขดงอของตัวเองทันที แม็กนัสที่สังเกตเห็นตั้งแต่ร่างบางฟื้นแล้ว
ก็มีเพียงแค่ใบหน้าคมเท่านั้นที่เบี่ยงไปหาเล็กน้อย...........นั่นไม่ใช่อะไร
เป็นเพราะเค้าไม่กล้าจะสู้หน้าอเล็คแล้วต่างหากล่ะ
แต่เสียงอุทานอย่างเจ็บปวดของอเล็คก็ทำให้ความไม่กล้าของแม็กนัสสะบั้นขาดลงไป ร่างสูงสะโอดสะองหันกายมาอย่างทันทีทันใด
เห็นร่างอันสั่นเทาของเพื่อนเค้ากำลังฝืนลุกขึ้นมานั่งบนพื้นเตียงแล้วกอดตัวเองอีกครั้ง
อเล็คถอยหลังติดกำแพงซุกหน้ากับอ้อมแขนพลางช้อนสายตามองแม็กนัสอย่างหวาดกลัว...........เมื่อคืนแม็กนัสน่ากลัวมากและไม่ฟังเค้าเลย
คนอ่อนแรงพยายามเกี่ยวผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปิดร่างกายของตัวเองไว้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันยากเกินไปสำหรับเค้าในตอนนี้
แม็กนัสจึงดึงผ้าห่มทั้งผืนขึ้นมาแล้วยื่นให้อเล็คแทน
เป็นเหตุให้ร่างสูงต้องขยับเข้าไปใกล้คนที่กลัวจนตัวสั่น อเล็คสะดุ้งกอดเข่ามากขึ้นไปอีก ไม่รับผ้าห่มจากแม็กนัสเพราะกลัวมาก
สุดท้ายแล้วจึงเป็นแม็กนัสที่อดสงสารเห็นอเล็คเป็นแบบนั้นไม่ได้จึงเป็นฝ่ายเข้าไปห่มห่อกายให้อเล็คเสียเอง
แม็กนัสเม้มปากเข้าหากันแล้วถอนหายใจอย่างหนักหน่วง......เค้าเห็นภาพอเล็คที่ถูกเค้ากระทำอย่างป่าเถื่อน
และอเล็คเองก็ยังคงคิดว่าแม็กนัสยังไม่หายเป็นคนที่เค้าไม่รู้จัก
ในคราแรกที่เพื่อนร่างสูงเคลื่อนกายจะเข้ามาห่มคลุมผ้าห่มผืนหนาให้
อเล็คตัวสั่นและผงะหนีเมื่อคิดว่าแม็กนัสจะเข้ามาทำเรื่องเลวร้ายแบบเมื่อคืนนี้กับเค้าอีก
และเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กทำเช่นนั้น
แม็กนัสก็ต้องฝืนความอยากที่จะหยุดการกระทำของตัวเองแล้วทำใจแข็งห่มให้อเล็คไป...........แม็กนัสแทบหยุดหายใจไปเลยเมื่ออเล็คพยายามจะขยับหนีเค้า อเล็คไม่เคยทำท่าหวาดกลัวใส่เค้ามาก่อนเลย
ร่างบางร้องไห้อีกครั้งอย่างเงียบๆ
และผ้าห่มก็ร่นลงมาประไหล่บางสีน้ำนมที่เต็มไปด้วยรอยแต่งแต้มแห่งความเป็นเจ้าของ
แม็กนัสสะอึกเมื่อเห็นร่องรอยที่ตัวเองทำไว้
อเล็คเช็ดน้ำตากับผ้าที่ห่มกายในขณะที่คนที่นั่งอยู่ด้านหลังสูดหายใจเข้าเล็กน้อย
แล้วเริ่มเอ่ยเสียงทุ้มอ่อน
“นายเจ็บมากไหม...”
อเล็คตัวสั่นอีก เพราะกลั้นเสียงสะอื้น......เค้าไม่อยากร้องไห้อีก
แต่เสียงสะอื้นก็หลุดรอดออกมาจากริมปีปากบางเฉียบสีสวยจนได้ “ฮะ ฮึก...”
แม็กนัสใจแป้ว “อเล็ค...”
“นายทำแบบนั้นทำไม?” จู่ๆ
ประโยคสำนึกผิดของร่างสูงก็ถูกตัดไปโดยสิ้นเชิง
เพื่อนตัวน้อยไม่ได้หันมามองหน้าแม็กนัสเอาแต่กลัดกลืนของเหลวเหนียวข้นลงคอ ร่างสูงรู้สึกเหมือนโดนทุบหัวแล้วจับท้วงน้ำ
“ฉัน...”
“นายเป็นอะไรไป ทำไมนายไม่ฟังฉันเลยนาย....เอาแต่ อึก
ทำแบบนั้นแล้วก็ทำแบบนั้นอีก....”
ร่างบางหันมาทำสายตาตัดพ้อใส่แม็กนัสและประโยคที่เคล้ากับเสียงสะอื้นอย่างห้ามไม่ได้
“ฮือ...นายทำแบบนั้นทั้งคืน....นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ อเล็ค...ฉันไม่เคยเกลียดนายเลยนะ”
แม็กนัสพูด
พลางจับไปที่ไหล่บางซึ่งกำลังสั่นเนื่องจากแรงสะอื้นแล้วเปลี่ยนไปเป็นกอดเพื่อนร่างบางจากด้านหลังแทน
“ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจอเล็ค ฉันขอโทษ
นั่นไม่ใช่ฉันเลย”
“ฮึก อึก ฮืออ”
และพอเพื่อนร่างสูงที่เคยเป็นดั่งแสงตะวันสำหรับเค้าเข้ามาตระคองกอดมอบอ้อมกอดที่เค้าไม่เคยได้สัมผัสมาแรมปีให้และบอกเค้าว่าเสียใจ อเล็คก็ห้ามตัวเองไม่ให้เสียใจไม่ได้อีกต่อไป
เค้าปลดปล่อยน้ำตาออกมาแล้วตัวสั่นภายใต้อ้อมกอดของ แม็กนัส เบน ที่เค้ารัก
แต่ตอนนี้เค้าก็ไม่แน่ใจเสียแล้วว่าควรรู้สึกอย่างนั้นต่อไปดีหรือไม่
แม็กนัสทำอะไรไม่ได้
นอกจากปล่อยให้อเล็คร้องไห้ต่อไป
ร่างสูงรู้จักเพื่อนของเค้าดี ถ้าหากไม่ได้ร้องออกมาให้หมด
อเล็คก็จะไม่เลิกเสียใจสักที........ควรต้องให้เวลากับอเล็คบ้าง
จนกระทั่ง
คนที่มีรอยแต้มสีกุหลาบสดเต็มตัวเอ่ยขึ้นเบาๆ ราวกับรำพึงกับตัวเอง
“ทำไมเรื่องร้ายๆ จะต้องเกิดขึ้นแต่กับฉันคนเดียวด้วย
ฮึก...ทำไมถึงยังไม่ยอมหยุดเสียที”
อเล็คว่าในขณะที่เอนใบหน้าที่ซีดเซียวซบกับท่อนแขนบางของตัวเอง ท่าทางร่างบางเหมือนกำลังช็อคและเลื่อนลอย
“ฉันจะไม่ทำให้แบบนั้นกับนายอีกแล้วอเล็ค ฉันสัญญา”
“แม้แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เข้าใจฉัน.....ฉัน
ฉันคงทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้แล้วแน่ๆ ฮึก อึก
แย่ที่สุดเลย”
“อะไร.....เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรืออเล็ค”
ร่างสูงสะโอดสะองเอ่ยถามเสียงเบา เค้าคิด
บางที่อเล็คอยากจะโดนทางบ้านกดดันมากเกินไปจนกระทั่งมาเจอเรื่องราวเมื่อคืน........
“แม่เอาเงินไปหมด
ฉันคงเปิดร้านไม่ได้แล้ว....บ้านเรา...กำลังจะถูกยึด”
คนที่หัวใจแหลกสลายตอบออกไปอย่างว่าง่ายและดูเลื่อนลอย.......สิ่งที่เค้าเสียใจที่สุดคือความฝันของเค้าได้พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
ไม่ว่ายังไงแม่ก็ต้องได้เงินก้อนนั้นของเค้าไปจนได้
และแม็กนัสก็เหมือนโดนฟาดอีกครั้ง สิ่งนี้อเล็คไม่เคยบอกเค้ามาก่อน
จริงอยู่ที่ตัวเค้าเองเคยไถ่ถามหยอกล้อเรื่องนั้นออกไปแต่อเล็คก็ดูเหมือนจะตัดบทไปเสียทุกที
เพราะจริงๆ แล้วมันคือความฝันของเพื่อนผิวสีขาวราวหิมะของเค้านี่เอง เรื่องสำคัญและใหญ่โตขนาดนั้น
คงจะต้องสำคัญสำหรับอเล็คมากแน่ๆ แต่แม็กนัสกลับไม่รู้อะไรเลย
..........ร่างสูงสะโอดสะองของนายแบบสุดฮอตจึงเพิ่งตระหนักแล้วว่า
เค้าได้เหินห่างจากเพื่อนตัวเล็กออกไปเลยโดยสิ้นเชิง..........
ทำไมนายไม่บอกฉัน......แม็กนัสอยากจะถามออกไป
แต่ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความผิดของเค้ามากเข้าไปอีกเมื่อเค้าเป็นคนทำให้อเล็คตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องนี้กับเค้าเอง.........เค้ามันทุเรศที่สุด
“ฉันขอโทษอเล็ค....ฉันขอโทษ”
แม็กนัสพร่ำบอก
และมันแปลกชอบกลเมื่อเค้าเองก็รู้สึกเจ็บไปด้วยในขณะที่อเล็คร้องไห้
ทุกเรื่องราวที่ต้องคำนึงถึงในชีวิตของนายแบบร่างสูงได้ลืมมลายหายไปหมดแล้ว.........เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกชาหนึบที่หน้าอก........อเล็คที่เค้าหวังอยากจะให้สักวันหนึ่งเข้มแข็งขึ้นมา ต้องตัวคนเดียวถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
เป็นเรื่องน่าอายนักที่ตลอดเวลาที่ห่างกัน
เค้าไม่เคยรับรู้ถึงทุกสิ่งที่อเล็คต้องแบกรับเลย
ทั้งๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะช่วยกันเมื่อยามพบปัญหา
แต่แม็กนัสก็ไม่รู้เลยว่าอเล็คไม่สามารถห่างเค้าไปได้ พอๆ
กับที่เค้าเองก็ห่างร่างบางนี่ไปไม่ได้เหมือนกัน............และก็คงเป็นแม็กนัสเสียเองที่ไม่พร้อมจะออกห่างจากอเล็คไป
.........ที่โมโหหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง
จนกลายเป็นโกรธเคืองที่เจซเข้ามายุ่งย้ามอยู่รอบตัวอเล็คก็เพราะแบบนี้สินะ อเล็คที่เค้าเป็นห่วงมาตลอดโดยไม่รู้ตัวคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องปรกติไปเสียแล้ว............
หลังจากนั่งกอดกันไปได้สักพักโดยไม่มีการโต้ตอบใดๆ
อเล็คก็มีทีท่าไม่ยอมลุกขึ้นมาอาบน้ำหรือใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด แม็กนัสทำอะไรไม่ได้แต่ก็ไม่อยากให้อเล็คหมกมุ่นอยู่กับความเสียใจของตัวเอง
ร่างสูงสะโอดสะองจึงต้องออกปากเอ่ยชวนเพื่อนร่างบางให้เข้าไปใช้ห้องน้ำของเค้า อเล็คนิ่งยังคงห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาซึ่งตอนนี้ยกขึ้นมาคลุมทั้งศีรษะจนเหลือแต่ช่วงตาแล้ว
“เถอะนะอเล็ค เดี๋ยวนายจะแย่ไปกว่านี้”
แม็กนัสเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ
เค้ารู้ว่าอเล็คอ่อนแอและกำลังทำตัวดื้อดึงเหมือนในยามเด็ก
และแม็กนัสเองก็ดูเหมือนจะไม่ยอมใส่เสื้อผ้าไปด้วยนอกจากกางเกงยีนต์ตัวเดียวถ้าหากอเล็คยังคงไม่ยอมใส่
แม้ร่างสูงสะโอดสะองจะอาบน้ำอย่างรีบๆ เสร็จแล้วก็ตาม
ในใจแม็กนัสอยากจะอุ้มอเล็คขึ้นมาเองเสียให้ได้
แต่ว่าถ้าเอาผ้าห่มลงแช่ไปในอ้างด้วยคงไม่ได้แน่........ดังนั้นร่างสูงรูปร่างไร้ที่ติจึงต้องเปิดสงครามเย็นยื้อหยุดผ้าห่มกับอเล็คอย่างไม่มีทางเลือก
และกลายเป็นสงครามร้อนไปในที่สุดเมื่ออเล็คไม่ยอมมุดตัวเองออกมาเสียที
“ได้โปรดเถอะน่าอเล็ค....เดี๋ยวนายจะป่วยเอานะ ปล่อย”
อเล็คกอดผ้าห่มไว้แน่
และพอแม็กนัสออกแรงหน่อยประกอบกับที่อเล็คแทบจะไม่มีแรงทำอะไรอยู่แล้ว
ตัวเค้าก็ถูกแยกออกจากผ้าผืนหนาอย่างง่ายดาย
อเล็คหลับตาปี๋ในขณะที่แม็กนัสต้องกวาดสายตาไปตามเรือนรางที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เค้าจำความได้เมื่อตอนยังเด็กแล้วลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
เมื่อร่างสูงเห็นร่องรอยของการกัดและรอยช้ำต่างๆ บนตัวของเพื่อนตัวเล็ก
อเล็คไม่ขยับไปไหน
เอาแต่กอดตัวเองแล้วซบหน้าลงกับเตียงราวกับว่ากำลังอายสุดขีดที่แม็กนัสซึ่งมีสติครบถ้วนเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้
แต่แล้วคนที่อ่อนแรงที่สุดก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างของเค้าถูกยกจนลอยขึ้นจากพื้นเตียงด้วยแขนแข็งแรงของร่างสูง
“ฉะ ฉันเดินเองได้ วะ วางฉันลงเถอะ.....อ๊ะ!”
เสียงที่ติดจะแหบแห้งเอ่ยตะกุกตะกักและสุดท้ายก็ต้องเผลออุทานออกมา
แล้วสะดุ้งเข้าหาอกแม็กนัสผู้ซึ่งมองตามอย่างเป็นห่วง เมื่อมีของเหลวอุ่นๆ
ไหลย้อนออกมาจากช่องทางที่ระบมช้ำของอเล็คอย่างมากมาย มันหยดลงพื้นเตียง
อเล็คหน้าซีดเซียวอีกครั้งแต่แม็กนัสหน้าเสียไปเลย
และร่างบอบบางสีขาวก็ยืนยันที่จะอาบน้ำด้วยตัวเองคนเดียว หลังจากหยิบยื่นเสื้อผ้าให้เสร็จแล้วแม็กนัสก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเฝ้าประตูห้องน้ำที่อเล็คกำลังใช้อยู่เสียอย่างนั้น สมองเค้าไม่สามารถประมวลอะไรได้อีกแล้ว
.........ความรู้สึกผิดกับความหวงอเล็คกำลังตบตีกันอยู่ในหัวเค้า.............
รู้สึกผิดอย่างแรงที่ทำแบบนั้นกำอเล็คไปโดยที่ทุกอย่างมันออกมาเลวร้ายไปหมด
และไม่ชอบใจที่อเล็คถูกรายล้อมไปด้วยคนมากมายนอกเหนือจากเค้า
ไม่ได้มีเพียงเค้ากับอเล็คแค่สองคนเฉกเช่นเมื่อก่อน
และทุกอย่างนี้จะสรุปว่าอย่างไรดี? แม็กนัสส่ายหัวช้าๆ
เมื่อเค้าหาคำตอบให้กับคำถามนี้ไม่ได้
เป็นเวลานานมากทีเดียวกว่าคนที่น่าเป็นห่วงจะออกมาได้
ซึ่งหลายครั้งที่แม็กนัสอยากจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูอเล็คให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยเสียให้ได้
แต่เค้าก็ทำได้เพียงส่งเสียงถามไปก็เท่านั้นและได้รับเสียงอ้อนๆ แอ้นๆ
ของอเล็คตอบกลับมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก
อเล็คออกมาพร้อมกับชุดเก่าของเจ้าตัวและเสื้อยืดของแม็กนัส...........
“นายไหวไหม” แม็กนัสเอ่ยถาม
เอื้อมมือไปเตรียมจะช่วยพยุงอเล็คที่ยืนได้ไม่ตรงนัก
“มะ ไม่เป็นไร ฉัน....ไหว”
และอเล็คก็บอกปัดตามสูตรเดิม
แม็กนัสขมวดคิ้วและขบเม้มริมฝีปากของตัวเองอย่างอดกลั้น......เค้าจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
เพื่อนร่างบางดูจะพยายามอยู่ห่างเค้าตลอดเวลาเลย
จนกระทั่งเค้าต้องขู่เข็ญให้อีกคนทานมื้อเช้าอีกครั้งด้วยความลำบากใจ.........ทำเรื่องเลวร้ายกับอเล็คลงไปแล้วยังจะต้องมาบังคับอีกคนหนึ่งด้วยเสียอีก
อเล็คแตะไปเพียงนิดเดียว ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นอาหารง่ายๆ
แต่เป็นเพราะความรู้สึกอยากอาหารของเจ้าตัวถูกสูบหายไปต่างหาก
ร่างบางไม่ทานอีกและบอกว่าอิ่มแล้วเมื่อแม็กนัสก้มหน้าถาม ร่างสูงสะโอดสะองจึงอาสาไปส่งอเล็คที่ห้องพักเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งทำท่าจะลุกออกไปใช้มือจับสิ่งต่างๆ
เพื่อช่วยพยุงร่างกายที่อ่อนแอ
แม็กนัสก้าวเดินตามไปและช้อนตัวอเล็คขึ้นมาอุ้มอีกครั้งและไม่ลืมที่จะฉวยกระเป๋าของร่างบางติดมือมาด้วย
อเล็คตั้งท่าจะดิ้นอย่างตกใจแต่ก็แจ้งแก่ใจว่าไม่ควรทำแบบนั้นเพราะแค่เดินออกประตูไปอย่างคนธรรมดาเค้ายังทำไม่ได้เลย
“มะ แม็กนัสฉัน.....”
“นายจะกลับไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้นะอเล็ค เลิกดื้อกับฉันสักที
ฉันรู้ว่าฉันผิดและไม่มีเหตุผลอะไรที่นายจะต้องฟังฉันอีกแต่ว่าที่ทำนี่ก็เพื่อตัวนายเองนะ”
แม็กนัสตัดบทว่าเสียงค่อนข้างเด็ดขาด ทำให้อเล็คนิ่งเงียบไป และราวกับลมพัดเข้ามาหาทั้งคู่วูบหนึ่ง
ซึ่งพาเอาความรู้สึกครั้งที่พวกเค้ายังวิ่งตามกันและจับมือกันเอาไว้ มาด้วย
ทั้งคู่ไม่ได้ปรริปากพูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
ต่างคนต่างเงียบจนมาถึงหนึ่งในรถราคาแสนแพงของเพื่อนร่างสูงที่จอดอยู่ในลานจอดส่วนตัวของร่างสูงเอง แม็กนัสอุ้มอเล็คที่ตัวเกร็งไปนั่งตรงเบาะข้างคนขับแล้วออกรถไปส่งอเล็คที่อาร์พาร์ทเมนท์ของเจ้าตัวทันที ร่างบางกำสายกระเป๋าที่เพิ่งได้คืนมาไว้แน่น
ยังคงไม่พูดจาหรือโต้ตอบอะไรทั้งสิ้น
และถึงแม้แม็กนัสเองอยากจะพูดอะไรสักแค่ไหน
แต่เค้าก็ไม่สามารถทำได้เลยเพราะเรื่องบัดซบที่เค้าเพิ่งทำลงไปเมื่อคืนนี้
และเมื่อเข้าไปในตัวอาร์พาร์ทเมนท์
คนดูแลก็ถึงกับต้องเผลอทำป็อปคอร์นหล่นออกจากมือที่อวบอ้วนใกล้ปริแตกของตน
เมื่อคนที่กำลังดูค้างอยู่ในทีวีนั้นเพิ่งเดินผ่านและยิ้มเล็กๆ
พยักหน้าให้หล่อนและผ่านหน้าไปพร้อมกับลูกค้าที่เช่าห้องซึ่งแสนดีคนหนึ่งขึ้นไปด้านบน แม็กนัสเดินไปส่งอเล็คที่ใช้ราวบันไดพยุงตัวเองขึ้นไป
และมองดูอย่างเป็นห่วง
อเล็คปฏิเสธความช่วยเหลือของเค้าไปหลายครั้งกว่าจะถึงห้องที่ไม่ได้ล็อคของเจ้าตัว
อเล็คแปลกใจโดยมีเค้ายืนอยู่ข้างๆ
ร่างที่สูงกว่าของเค้าอยู่ด้านหลังแทบจะติดกับอเล็คในขณะที่เพื่อนร่างบางผิวขาวของเค้าผลักประตูออกไปให้หายข้องใจ
และพวกเค้าทั้งคู่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเจอเจซนั่งอยู่ในห้อง
.
.
.
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------------------
อร๊ายยยยยยยยยยยยย ปรากฏว่าไม่ได้หนีค่ะ >{}< //โดนบอลอีกลูก// แต่ก็ไม่ได้ตบปากรับคำแบบหมอแมคคอยนะเออ เจ้าตัวไปส่งอาร์พาร์ทเมนท์เองด้วย >< เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว อเล็คหนูจะเข้มแข็งไปไหนค่ะ.....เมะเค้าจะเเสดงความสามารถแล้วให้เค้าทำเถอะค่ะ >0< ไรท์ว่าอเล็คไม่ได้เข้มแข็งหรอกค่ะ ดื้อมากกว่า เปลี่ยนคำพูดเเละ -*-
แต่ดันไปเจอะ เจซ
เสียนี่สิ เฮื่อออออออออออออ เจซ เวย์แลนด์เราจะทำยังไงนะ!?
งืมมมม แต่จะว่าไป....ไรท์ชอบตอนที่อเล็คตื่นมาแล้วหวาดกลัวแม็กนัสจังค่ะ
-.,- ตัวสั่นหงึกๆ
แล้วก็ขวัญหนีดีฝ่อ
//รีดบอก....ไม่ได้โรคจิตเลยนะแก!!!// แบบว่าเคะผู้บอบบางเพิ่งถูกกระทำชำเราขืนใจมาหมาดๆ
55555 //สักพักมีดเสียบคอ//
โอ๊ย! จะอะไรนักหนา....นี่จะไม่ให้ไรท์เขียนฟิคต่อไปแล้วใช่ไหมคะ ฆ่ากันจังเลย -*- (รู้สึกสมควรโดนจากก้นบึ้งของหัวใจ) ติดตามไรท์และข่าวคราวของฟิคได้ที่เฟสไรท์เลยค่ะ
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< จิ้มเลยค่ะ ไรท์ยินดีรับแอดเสมอเลยค่ะ >< และช่วยติชมคอมเม้นท์โจมตีแม็กนัสด้วยนะคะ(?)
......เฮ้ย เค้าเริ่มเป็นคนดีแล้วหนิ 555
และ Part หน้าต้องติดตามค่ะ เมื่อเจซเจอแม็กนัสกับอเล็คที่ดูจะอ่อนแรงกลับมาด้วยกัน......อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนะ
หุๆ รักรีดหลายๆ เลยค่าาาา ^3^
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
2 ความคิดเห็น:
อเล็คน่าสงสารอ่ะ แต่ก็ดื้อซะเหลือเกิน อย่างนี้มันน่าจะจับ...อีกสักรอบสองรอบ ถ้าไม่ติดว่าแม็กนัสบอกไปเสียก่อนว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก บวกกับความรู้สึกผิดของเค้าอีกมากมายที่ได้...เพื่อนรักไปโดยไม่ฟังคำร้องขอวิงวอนใดๆ มิหนำซ้ำยังได้ใช้อุปกรณ์ช่วย&เสริมไปอีก (เฮ้อ...รู้สึกเสียดายมิใช่น้อยเลยทีเดียว(ที่เค้าบอกว่าจะไม่ทำอีก) ถึงจะสงสารและรู้สึกเห็นอกเห็นใจอเล็คแม็กนัสอยู่ แต่ก็อยากจะอัดคลิปเก็บเอาไว้ดูเล่น)
แต่ก็ดีนะ ดูเหมือนแม็กนัสจะรู้ถึงความรู้สึกของตัวมากขึ้น
ตอนนี้ก็รอลุ้นว่าแม็กนัสจะเป็นยังไงบ้าง ก็ดันมาเจอเจซนั่งตอนรับอยู่ในห้องซะขนาดนั้น หึหึ อย่างนี้ต้องไม่พ้นมีเรื่องแน่ๆ
เออ...ไรท์ค่ะ คือว่าตรงนี้อะ 'พอๆ กับที่เค้าเองก็ห่างร่างบางนี่ไม่ได้ไปเหมือนกัน' เราว่าคำว่า ไป น่าจะอยู่หน้าคำว่า ไม่ได้ มากกว่านะ
แล้วก็ จริงๆแล้วไรท์ไม่ได้โรคจิตหรอกนะ แต่ไรท์เลยคำว่าโรคจิตไปนานแล้ว และเลยไปไกลมากแล้วด้วย
โอ้ยยย รุ้สึกแย่แทนแม็กนัสมารู้ตัวตอนนี้นึ่ต้องรีบไปตามง้ออเล็คให้ไวเลย เอาเลยอเล็คเล่นตัวเข้าไว้ หมั่นไส้แม็กนัส555555 คราวนี้จบไม่สวยแน่เจอเจซที่ห้องพร้อมหน้ากันทั้งสามคน รอตอนหน้าค่าาา
แสดงความคิดเห็น