ไรท์มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาบอกค่ะ เนื้อหาส่วนนี้จะไม่ได้ปรากฏอยู่ใน SF เรื่องนี้นะคะ
**ปีเตอร์เป็นชาวเหมันต์ที่ไม่เหมือนใครค่ะ
เพราะเค้ามีเชื้อแมงมุมจากบรรพบุรุษเก่าแก่ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
และในบางคนเท่านั้นที่จะมีค่ะ
ชาวเหมันต์ทั่วไปจะทำได้แค่ทนความหนาวเย็นแม้จะสุดขั้วเพียงใดก็ตามและสร้างความหนาวเย็นได้เล็กๆ
น้อยๆ ค่ะ
แต่พวกที่อยู่ในวังหรือมีความสามารถพิเศษก็จะพิเศษแตกต่างกันออกไปค่ะ
ซึ่งจะมีไม่มากนักค่ะ
ฮ้าาาา Part จบแล้วค่ะไม่รู้ว่า
SF – Spidy เรื่องนี้ผ่านสำหรับรีดๆ รึเปล่านะคะ
แต่ไม่รู้ไรท์เกิดคึกอะไรถึงอยากเขียนค่ะ 555+ สนอง Need ตัวเองประมาณนั้น พีทจะเหมือนว่าร้ายกาจ
แต่ก็ไม่ใช่เลยค่ะเค้าไม่ได้ร้ายกาจเค้ามีเหตุผลค่ะ รีดๆ จะถล้ำลึกสู่โลกแห่งแดนเหมันต์ของไรท์ค่ะ
เชิญรับชมกันด้วยความสำราญนะคะ ไปอ่านกันเลยค่าาาา ^0^
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ปีเตอร์.......
.
.
********************************************************************
.
.
ร่างสูงโปร่งแข็งแรงและขี้ทะเล้นเปลี่ยนไป ปีเตอร์ใส่ชุดที่เท่ระเบิดไปเลย
เค้าใส่เสื้อเป็นทางการแขนเสื้อขลิบด้ายและลวดลายสีทองพร้อมกับผ้าคลุมไหล่ที่สยายใหญ่อยู่เบื้องหลังเค้ายามเมื่อเดินมา
กางเกงหนังสีดำพร้อมกับบู๊ตที่ยาวจนเกือบถึงเข่า
แวบแรกแฮร์รี่เห็นสีหน้าเคร่งขรึมนั้น
ก่อนปีเตอร์จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเข้ามา
ร่างสูงโปร่งที่ลักพาตัวเค้า (ใช้คำนั้นได้รึเปล่านะ)
มีสีหน้าผ่อนคลายและราบเรียบลงเมื่อเจอเค้า
ปีเตอร์มีรอยยิ้มบางๆ ประดับหน้าอยู่เสียด้วยซ้ำเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าแฮร์รี่แล้ว
“ไง ฉันหวังว่าคนอื่นๆ จะต้อนรับนายอย่างอบอุ่นนะ....อ๋อ
และอีกอย่างนายดูดีมากเลย”
ปีเตอร์พูดยิ้มทะเล้นในขณะที่ไล่สายตาลงมาหาชุดของแฮร์รี่
ร่างบางยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้สาเหตุ......เค้าเพียงแค่ไม่อยากสบตากับปีเตอร์ที่ดูเปลี่ยนไป ดูไม่เหมือนปีเตอร์ที่รักสนุกคนแรกเลยสักนิด ร่างสูงดูภูมิฐานขึ้นเป็นกอง
“เอ่อ ไม่รู้สิ ฉันควรขอบคุณใครล่ะ...นายหรือว่าพวกเธอ”
แต่ปีเตอร์กลั้นขำใส่เค้า
“นายเจอแล้วสินะ ฮ่ะๆ รู้ไหม พวกเธออายุมากกว่าฉันเสียอีก”
“ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่”
แฮร์รี่เลิกคิ้ว
ปีเตอร์พูดต่อรอยยิ้มบางยังคงไม่จางหายไปไหน
“ฉันอายุ 200
ปี”ร่างสูงรอดูปฏิกิริยา
เค้าเห็นแฮร์รี่ลู่ไหลลงติดกระจกและอุทานออกมาตาค้างตามคาด
“ไม่ต้องตกใจหรอก
ฉันก็เคยโดนบังคับเหมือนนายนั่นแหละ....อ่อใช่ พวกเธอบอกว่านายน่ารักมากเลย
แล้วตัวนายก็เล็กเอามากๆ ..........เอ่อ
ฉันกำลังจะบอกว่าคนที่นี่ไม่ค่อยมีคนรูปร่างเพรียวบางอย่างนายมากนักน่ะ”
เพรียวบางงั้นเหรอ!?
“ขอโทษนะ ที่นายพาฉันมานี่มีเรื่องอะไรกันแน่ไม่ทราบ!?”
แฮร์รี่ฉุนขาดอีกครั้งเมื่อปีเตอร์มีความสุขโดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจของเค้าเลย......ให้ตาย เหมือนว่ากันทางอ้อมยังไงไม่รู้แฮะ
และพอมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงจะไม่มีอะไรให้ตกใจแล้วล่ะ......แฮร์รี่คิด
(ปีเตอร์อายุตั้ง 200 ปีดูไม่แก่เลยสักนิด)
ปีเตอร์เลิกทำหน้ากลั้นยิ้มแล้วถอดเสื้อคลุมกำมะหยี่สีดำบางเบาออก......ห้องนี้อาจจะเป็นของปีเตอร์
เพราะดูจากโทนของเสื้อผ้าและการตกแต่งห้องแล้ว
มันดูขัดกับชาวเหมันต์คนอื่นๆ
ที่แฮร์รี่เห็นมาก่อนหน้านี้ในระหว่างทางที่มาถึงเป็นอย่างมาก และมีปีเตอร์แค่คนเดียวท่านั้นที่ใส่สีทึบขนาดนี้
“ฉันพูดค้างไว้ถึงไหนนะ”
ร่างสูงเอ่ยสีหน้าเหมือนศาสตราจารย์สอนโบราณคดีสติเฟื่อง.......ท่าทางนั้นทำให้เค้าดูไม่เหมาะกับชุดที่ใส่เป็นอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ใช่คนที่ฉันคิด”
แฮร์รี่ทวนให้
“อ๋อ ใช่...ใช่ ขอบคุณแฮร์รี่
นายได้เอไปเลย”
ปีเตอร์ยิ้มแฉ่งให้ทีหนึ่งก่อนจะมองแฮร์รี่ด้วยสายตามีความหมาย
แล้วเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ที่แฮร์รี่เคยนั่ง
“.....แต่ก่อนอื่นฉันจะเล่าอะไรให้นายฟังก่อนนะ” ปีเตอร์เปลี่ยนบทบาทจากหนุ่มทะเล้นไปเป็นคนที่แฮร์รี่ไม่รู้จักอีกแล้ว
แฮร์รี่จึงตั้งใจฟัง
“นานมาแล้วแต่กาลก่อน ราชาแห่งแดนเหมันต์เป็นดั่งหัวใจสำคัญของดินแดน
เชื่อกันว่าตราบใดที่มีราชาตราบนั้นแดนเหมันต์ก็จะไม่ล่มสาย
เพราะมีแต่ราชาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สั่งหรือกระทำการใดๆ
แก่ชาวเหมันต์อย่างชอบธรรมได้
ดูแลและรักษาประชาชนใต้การปกครองให้อยู่ดีมีสุขและเป็นความลับไว้นิรันกาล.....”
แฮร์รี่ยังคงหลังพิงกระจกอยู่ที่เดิม และเริ่มรู้สึกดีที่แผ่นหลังสัมผัสได้ถึงความเย็น
แต่ดวงตาสีฟ้ากระจ่างไม่เหมือนใครกลับลุกวาวขึ้นราวกับเด็กๆ
ที่ชอบฟังนิทานอย่างตั้งใจ
“แต่ใช่ว่ามีเพียงราชา
แดนเหมันต์จึงจะสมบรูณ์ได้......ในทุกช่วงเวลาที่ดินแดนรุ่งเรืองและผาสุกที่สุดจะมีบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกขานกันว่า
‘ดีว่า’ ชายหรือหญิงผู้นั้นเปรียบเสมือนดั่งลมหายใจแห่งแดนเหมันต์ เมื่อดีว่าอยู่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลองของมัน หิมะจะไม่มีวันละลายหรือพอกพูนมากเกินไป
แสงแดดสัมผัสโดนชาวเหมันต์นานเท่าใดก็ได้โดยที่น้ำแข็งไม่ละลาย นายรู้ไหมว่าทุกวันนี้เราต้องรวบรวมผู้ใช้เวทย์ทั่วทั้งดินแดนให้มาทำพิธีร่ายคาถาเสกหิมะทุกๆ
ปี เพราะทุกวันนี้ดีว่าไม่อยู่แล้ว”
ปีเตอร์มีสีหน้าจริงจังระคนราบเรียบ
แต่สายตาคู่นั้นเมื่อยามช้อนขึ้นมามองแฮร์รี่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
ร่างสูงฝืนยิ้มในขณะที่แฮร์รี่สังเกตเห็นแววไหวระริกในดวงตาซึ่งยากที่จะอ่านออกของปีเตอร์
“พ่อกับแม่ฉันตาย
พร้อมกับดีว่าคนก่อน.....” คนที่นั่งก้มตัวท้าวศอกกับเข่าเอ่ยขึ้น
ร่างบางหัวใจกระตุกและดึงหลังตัวเองออกมาจากกระจกหน้าต่างแสนเย็นสบาย........ที่แท้พ่อกับแม่ของปีเตอร์ไม่ได้อยู่กับเค้าก็เพราะอย่างนี้นี่เองสินะ
“ตอนนั้นเมื่อหลายปีก่อนมีกบฏ......ก็คือลุงของฉันเองนี่แหละ
เค้าอยากได้บัลลังก์ของพ่อก็เลยก่อการกบฏขึ้น ตอนนั้นพ่อกับแม่ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องฉัน
และฝากฉันไว้กับดีว่า เธอพาฉันไปซ่อนกับลูกของเธอ และกลับมาอีกทีพร้อมเลือดอาบตัว ลูกของเธอร้องไห้จ้า ฉันปลอบไว้และเธอก็สิ้นใจหลังฝากสิ่งสำคัญไว้กับลูกของเธอแล้ว
ที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือ..........แม่ของนายเป็นดีว่าแฮร์รี่”
“อะไรนะ”
“นายเป็นชาวเหมันต์ไม่ใช่มนุษย์”
ปีเตอร์ตอบแฮร์รี่ที่ยืนตัวแข็งอย่างนุ่มนวลแต่ทว่าเด็ดขาดในคราวเดียวกัน เค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาแฮร์รี่
ก่อนจับมือแฮร์รี่มากุมไว้.......ปีเตอร์เข้าใจ
เรื่องนี้มันยากและหนักเกินกว่าแฮร์รี่จะรับไหว
“ตะ แต่
แต่ว่าฉันไม่เคยเจอแม่มาก่อนเลยนะ.....”
“ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เราเกิดแฮร์รี่ฉันเลยจำนายได้ดี
แต่ว่าในตอนนั้นที่แม่ของนายตายไปแล้วถ้านายตายอีกคนก็จะไม่มีดีว่าเหลืออยู่อีกต่อไป
นายเป็นสายเลือดคนเดียวของเธอ....จอมเวทย์จากทางเหนืออยู่ที่นี่ในตอนนั้นได้รู้เข้า
เค้าตามหานายจนเจอเราทั้งคู่แล้วส่งนายออกไปยังที่ปลอดภัยในที่ๆ จะไม่มีใครรู้จักนายและนายก็จำอะไรไม่ได้ เราต้องทำเพื่อความปลอดภัยของนายเอง”
“แล้วก็ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวยังงั้นเหรอ! นายเล่าเรื่องได้สนุกดีปีเตอร์ แต่นั่นมันฟังดูจะเกินจริงไปหน่อย”
แฮร์รี่ถอยออกมาจากปีเตอร์แต่โดนอีกคนหนึ่งรวบข้อมือบางไว้ ร่างบางจึงออกแรงบิดแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยในขณะที่น้ำใสๆ
ไหลออกมาจากอัญมณีสีฟ้ากระจ่าง
............เหมือนแฮร์รี่จะไม่อยากชื่อ แต่ทำไมเค้าจะต้องร้องไห้ด้วย..........
“ฉันรู้....ฉันรู้นายอาจไม่เชื่อแฮร์รี่ แต่ฉันตามหานายทุกแห่งหน แม้ว่าลุงฉันจะโดนฆ่าไปแล้วก็ตามแต่ฉันก็ยังตามหานายอยู่
ฉันฝ่าฝืนกฎเหล็กของชาวเหมันต์ออกไปปะปนกับพวกมนุษย์เพื่อตามหานาย
และหวังว่าสักวันฉันจะเจอนาย
ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะไม่ออกไปตามหานาย ฉันไปทุกที่โดยไม่มีจุดหมาย.....ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี
แต่มันยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์สำหรับฉันเหลือเกินแฮร์รี่
แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เคยลืมว่าดวงตานายสวยงามแค่ไหน”
ปีเตอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนและใบหน้าที่ดูเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง
ราวกับว่าความท้อแท้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพิ่งมาปรากฏเดี๋ยวนี้นี่เอง นิ้วยาวกร้านของร่างสูงเกลี่ยไปตามแก้มขาวเนียนที่เค้าแสนจะคิดถึง
และแฮร์รี่ก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมีน้ำตาร่วงริ้นออกมามากมายแค่ไหน
จำได้เหรอ?
แฮร์รี่จำได้ไหม.......เค้าได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงวิ่งเล่น
ลานหิมะสีขาวกว้างไกล ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยที่สุดเท่าที่เค้าเคยเห็น เธอใส่ชุดยาวสีขาวเห็นสัดส่วนแม้กระทั่งผมก็เป็นสีขาวโอบอุ้มเค้าในอ้อมกอด เค้าเห็นรอยยิ้มอบอุ่นของเธอและคนรอบข้าง ชาวเหมันต์
หิมะบางเบาที่ร่วงโรย.............และปีเตอร์
แฮร์รี่เห็นปีเตอร์จับมือเค้าแล้วพาวิ่งออกไปด้วยกัน
จำได้.....แม้กระทั่งตอนที่โหนไปบนใยเหนี่ยวแน่นของปีเตอร์
เค้าจำได้แล้ว
“ฉันไม่หวังให้นายให้อภัยแฮร์รี่
เราทำไปเพื่อความปลอดภัยของนาย.....ฉันตายคงไม่แย่เท่านายตายหรอก”
ปีเตอร์ยอมคลายมือที่รวบไว้ออก
เมื่อแฮร์รี่ไม่ได้บิดไปมาแล้ว
ร่างบางนิ่งเฉยและเพิ่งรู้ว่าร่างเค้าไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว
............อย่างนี้นี่เอง ที่แฮร์รี่ไม่รู้สึกหนาว
และชอบความรู้สึกเย็นเยียบที่แล่นเข้าสู่ร่างกาย...........
“แล้วนายคิดถึงฉันไหม?”
ในที่สุดแฮร์รี่ก็เอ่ยขึ้นบ้าง
แต่คราวนี้หลังจากพูดน้อยกล่าวนิดมานาน
คำพูดของร่างบางก็เอ่ยทิ่มแทงความรู้สึกของปีเตอร์ในทันที........แฮร์รี่จำได้แล้วหรือ!
“คิดถึงสิ! ฉันคิดถึงนาย”
ร่างสูงโปร่งกล่าวตอบในทันที
พร้อมกับที่ฝ่ามืออุ่นกอบกุมเอาพวงแก้มที่เค้าแสนคิดถึงไว้แล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยย้ำไปมา
ซบหน้าผากของตัวเองกับของอีกคนอย่างแสนคิดถึงยิ่งกว่า
.
.
“ไม่ปีเตอร์ ฉันไม่อยากไป! ฉันไม่อยากไปจากนาย!”
“เราจะได้เจอกันอีกแฮร์รี่
ฉันสัญญา ฉันจะตามหานาย.....แต่ตอนนี้นายต้องไปแล้ว”
“ไม่! ได้โปรดเถอะ....ฉันกลัว”
“ฉันจะไม่ลืมนายแฮร์รี่ ฉันจะจดจำทุกอย่างของนายไว้แล้วสักวันหนึ่งเราจะได้เจอกันอีกครั้ง.....ว่าที่ราชาแห่งแดนเหมันต์คนนี้ขอสัญญากับว่าที่ดีว่าคนต่อไป....เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
“ปีเตอร์...อึก ฉันรักนาย”
“ฉันรักนายมากกว่าแฮร์รี่.....พวกนั้นมาแล้ว
นายต้องไปแฮร์รี่ ไปเดี๋ยวนี้...”
“ฉันรักนายปีเตอร์! ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่...อย่า
ได้โปรดเถอะ! อย่าทิ้งฉันไป”
“ไป...จงไปซะ” ร่างสูงเป็นฝ่ายดึงข้อมือของตัวเองออก
ก่อนจะตัดใจเดินออกไปที่ประตูซึ่งถูกกระแทกจากด้านนอกจนสั่นคลอน
.
.
ปากบางเผยอขึ้นประกบจูบกับร่างสูงซึ่งไม่รีรอที่จะสนองตอบเลย
พวกเค้าต่างกอดรัดและดูดดื่มกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ และโหยหาอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
............คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน..........
.
.
“พอถึงเวลาขึ้นครองราชย์ของนายแล้ว นายก็จะได้เป็นราชา ส่วนฉันก็จะได้เป็นดีว่าเหมือนแม่สินะ”
เด็กหนุ่มร่างบอบบางเรือนผมประดับด้วยเส้นไหมสีน้ำตาลเหลือบทองแกว่งขาไปมาบนพื้นน้ำแข็งต่างระดับ
เด็กหนุ่มอีกคนจึงกระโดดลงมาจากที่เคยนั่งอยู่ข้างๆ กัน ก่อนจะรวบผ้าคลุมของตัวเองไว้แล้วก้มตัวจนสุด
“โอ้
ดีว่าผู้ยิ่งใหญ่หากสิ่งใดท่านต้องประสงค์ก็จงบอกข้ามาเถอะ ได้โปรดอย่าทำให้หิมะและความหนาวเหน็บหายไปเลย”
เด็กหนุ่มที่นั่งแกว่งขาอยู่
หัวเราะคิกคักเมื่อเพื่อนของเค้าล้อเลียนท่าทางนอบน้อมของขุนนางชั้นผู้ใหญ่
ก่อนเด็กหนุ่มขี้ทะเล้นคนเดิมจะพูดขึ้นอีกพร้อมฉุดมือเด็กที่หัวเราะคิกไปด้วย
“แต่ก่อนอื่น
ฉันจะพานายโดดเรียนวันนี้ซะก่อน
เรื่องน่าเบื่อที่เรารู้แล้วก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเรียนซ้ำเลย มาเถอะ ฉันจะพาออกไปด้วยใยของฉันเอง”
“มันไม่เคยปลอดภัยนายก็รู้ปีเตอร์”
ถึงแม้คำพูดจะฟังดูเหมือนตักเตือน
แต่ใบหน้าหวานก็ไม่เคยน่าดูน้อยลงเลยเมื่อมีรอยยิ้มสวยงามประดับอยู่บนนั้น
“แต่นายก็ติดใจมันทุกทีนี่
อย่าโกหกฉันซะให้ยากน่าแฮร์รี่....นายน่ะชอบขอเบิ้ลตลอดจนฉันล้าเลย”
.
.
ร่างสูงและร่างที่เล็กกว่าแลกจูบกันอย่างไม่หยุดพัก
ราวกับว่ากำลังขุดหาสมบัติใต้หิมะอันขาวโพลน
ปีเตอร์ดันแฮร์รี่ให้เข้าไปติดกระจกอีกครั้ง
จูบของเค้าอ่อนโยนและซาบซ่านก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเร่าร้อน เสียงจ๊วบจ๊าบจากการแลกลิ้นดังขึ้นและน้ำใสๆ
นั้นก็เริ่มไหลออกมาตามมุมปาก
แต่คนทั้งคู่ก็ไม่มีใครคิดจะยอมแพ้เลย
และเหมือนมีสิ่งสะกิดเตือนใจปีเตอร์ ร่างสูงแกร่งแข็งจึงหยุดการบุกรุกแล้วถอนลิ้นร้อนตัวเองออกมา
ก่อนจะจูบละม่อมดูดดุนริมฝีปากอิ่มสีสดนั้นอย่างเอาใจแล้วผละออกมอย่างรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย.....แฮร์รี่เองก็มองตามปากที่ถอนออกไปของปีเตอร์อย่างงุนงงและติดจะเสียดายอยู่เช่นกัน
ปีเตอร์ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ ร่างสูงมีท่าทางเหมือนกำลังจะหักห้ามใจตัวเองอยู่
และแล้วร่างสูงที่โอบเกี่ยวผู้ที่เค้าคิดถึงมาแสนนานก็ถอดเสื้อของตัวเองออกอย่างแผ่วเบา และถอดให้อีกคนหนึ่งแผ่วเบายิ่งกว่า
ในคราแรกที่ผิวกายพวกเค้าสัมผัสกัน
ชายหนุ่มที่มีผิวสีน้ำนมและตาสีฟ้ากระจ่างน่าหลงใหลราวกับมนต์สะกดประหม่าเล็กน้อย แม้เค้าจะคิดถึงและจำปีเตอร์ได้มากแค่ไหนแต่นั่นก็นานมาแล้ว.......
ร่างสูงเกี่ยวรั้งเอวบางให้เข้าแนบชิดกับเค้า จนทำให้บริเวณเอวของทั้งสองสัมผัสกัน
ปีเตอร์ใช้ปลายนิ้วแตะสัมผัสไปที่แผลเป็นบนอกซ้ายของแฮร์รี่เช่นเดียวกับที่ร่างบางก็ทำเช่นนั้น
“มันหายได้นะ” ปีเตอร์กระซิบ
แฮร์รี่ไม่ตอบเพียงแค่หายใจหนักจากแรงอารมณ์ของการจูบเมื่อครู่ออกมาเท่านั้น
“แม่นายทำมันไว้ก่อนที่จะตายนายคงจะจำไม่ได้ เธอบอกกับฉันว่านายจะต้องหายตัวไป และฉันจะตามหานาย....สักวันฉันจะเจอนาย และโอ้ ใช่ ไม่ต้องสงสัยเลย....นายอยู่นี่ อยู่ในอ้อมกอดของฉัน
และโชคชะตาก็ยังเข้าข้างฉันอยู่ที่ส่งนายกลับมา สิ่งนี้น่ะ.....” ร่างสูงแกร่งของปีเตอร์เอ่ย
พลางไล่นิ้วไปบนอกซ้ายของแฮร์รี่อย่างถนอม
“.....มันเป็นรูปของดาวเหนือ
ดาวเหนือประจำแดนเหมันต์.....ไม่ใช่รูประเบิดหรอกนะ” ปีเตอร์
ปล่อยมุกอีกและแฮร์รี่ก็ต้องหลุดขำออกมา
นึกเสียบรรยากาศอยู่ไม่น้อยที่ปีเตอร์ยังคงเป็นคนรักสนุกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“ฮ่ะๆ งั้นเหรอ
เรื่องนั้นฉันไม่รู้เลย....นึกว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้เพราะโดนระเบิดจนความจำเสื่อมซะอีก”
“เอาจริง? นายไม่ต้องรับมุกฉันตลอดก็ได้นะฉันชักจะหมั่นเขี้ยวนายจนอยากจะทำให้นายหายใจไม่ออกขึ้นมาซะแล้วสิ”
ปีเตอร์ว่ากรุ่มกริ่มไม่ทันขาดคำ
ก็ตรงเข้าไปแลกจูบกับแฮร์รี่อีกรอบอย่างดูดดื่ม ร่างบางก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรตอบรับการล้วงล้ำนั้นด้วยการกระทำที่เสมือนเชื้อเชิญยิ่งกว่า
ทั้งคู่แลกลิ้นกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะผละริมผีปากบวมเจ่อออกมาจากกัน
“นายจำได้ทุกอย่างไหมแฮร์รี่”
ร่างสูงแกร่งว่าในขณะที่ไล่มือไปตามกลุ่มผมสีอ่อนอย่างนึกถนอม คนถูกถามส่ายหน้าอย่างนึกเสียดาย
“ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้นน่ะ....ฉันจำได้เป็นบางอย่าง”
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวนายก็จะค่อยๆ จำได้เองฉันจะช่วยนายเอง”
ปีเตอร์เลื่อนฝ่ามือลงมาประกบแก้มใสของแฮร์รี่
และขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นบาดแผลที่ริมฝีปากและโหนกแก้มของแฮร์รี่
“ใครทำนายงั้นเหรอ?
ฉันกะจะถามนายมาตั้งนานแล้ว” ปีเตอร์ว่าแต่แฮร์รี่ทำหน้าราวกับเก็บซ่อนความขมขื่นไว้ได้แต่ก็ไม่เลย
“ช่างมันเถอะ
นายอย่าใส่ใจเลยฉันโดนบ่อยจนชินแล้วล่ะ....พวกชอบหาเรื่องก็สติไม่ดีกันทุกคนนั่นแหละ”
“ให้ตาย นายมองโลกในแง่ดีไม่เคยเปลี่ยน”
ร่างสูงทำหน้ายู่และกอดอีกคนหนึ่งไว้หลวมๆ
อย่างหวงแหนแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้ตัวร่างบางในอ้อมกอดคืนกลับมา
“ฉันดีใจนะที่นายกลับมา.....ฉันคิดถึงนาย”
ปีเตอร์กระซิบ
และทอดสายตามองคนตรงหน้าด้วยความเสน่หาอย่างยิ่งยวด..........ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร
ปีเตอร์ก็ไม่เคยมองใครอื่นเลย เช่นเดียวกับที่ออกตามหาแฮร์รี่ไม่เคยหยุดหย่อน
แฮร์รี่หัวใจพองโต
ไม่เคยมีใครต้องการการกลับมาและการคงอยู่ของเค้ามาก่อน
หรือบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ขาดหายไปของเค้ากันแน่..........
ความรู้สึกหวงหาและอาทรของปีเตอร์
...........ราวกับว่าทุกคำพูดของปีเตอร์ช่วยเติมเต็มหลายสิ่งที่ขาดหายไปสำหรับเค้า เช่นเดียวกับความรู้สึกที่มากมายยิ่งกว่าของปีเตอร์ที่ส่งมาให้
“ฉันก็คิดถึงนาย” แฮร์รี่ยิ้ม
ก่อนจะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นจุมพิตที่สุดแสนจะเร่าร้อนจากปีเตอร์ ร่างสูงระดมจูบต่อไปอย่างไม่นึกเบื่อ
จนแฮร์รี่ต้องเบนหน้าหนี
“ไหนนายบอกว่าจะช่วยฉันฟื้นความจำไง”
ปีเตอร์ชะงักมองแฮร์รี่แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ก่อนร่างบางคนสำคัญจะหน้าขึ้นสีแล้วก้มหน้าเข้าหาอกแกร่งอย่างเนียมอายในคำพูดของตัวเอง
“นายจะทำมันด้วยวิธีไหนล่ะ?”
.
.
.
FIN.
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ย๊ากกก นายจะทำมันด้วยวิธีไหนล่ะ?
>{}< ฮ๊ากกก แสดงว่าก่อนเกิดเหตุการณ์กบฏเค้าจะต้องรู้ๆ
กันอยู่แน่เลยค่ะ >///<
จบแล้วค่าาาา เม้นท์ๆ
กันด้วยนะเออ ฝากเฟสตามธรรมเนียมค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< ติดตามเกาะข่าวสารของฟิคได้ที่นี่เลยค่ะ(แต่ช่วงนี้ไรท์อาจจะเงียบๆ
นะคะ เพราะยังไม่ค่อยว่างค่ะ แฮ่ๆ)
สำหรับแฟนๆ MaLec และ
RonalSi ก็ติดตามกันต่อไปเลยนะคะทั้งสองเรื่องกำลังเข้มข้นค่ะ
โดยเฉพาะ MaLec ค่ะ
และสำหรับเรื่องหน้า ไรท์จะหยิบคู่ไหนมาเขียน SF อีกนั้นก็ต้องติดตามกันค่าาา
ปล. ตอนนี้ไรท์มีคู่ SF
ในใจและ ฮิๆๆ //สักพักโดนโบก//
รักรีดสุดหัวใจค่ะ.......ปายล่ะนะค้าาาา
^3^
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
1 ความคิดเห็น:
Oh my good หวานสุดๆๆไปเลยคะ (หวัง nc อยู่ลึกๆ) SF. อยากให้เป็นตีฟนี่ จริงงง 555 1000000 คะแนนนคะ
แสดงความคิดเห็น