วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 13] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi


อร้ายยยยย  กลับมาแล้วค่ะ  หลังจาก So Sad  เรื่องสมองตันตีบไปแล้ว ไรท์ก็ต้องมานั่งร้องไห้เรื่องลูกแมวน้อยผู้ไม่รู้อะไรที่ผูกพันทั้งหลายค่ะ T^T  อึก พูดแล้วมันเศร้าค่ะ.....พวกใจมารรร //พอ  ข้าม!//

เรื่องฟิคของเรานั้นก็เริ่มมีฉากที่ไรท์อยากให้รีดๆ อ่านกันเยอะขึ้นแล้วค่ะ  ไม่อยากเก็บไว้คนเดียวต้องเกี่ยวก้อยแชร์  ฮาาาา ^3^   

และถ้าหากรีดท่านใดที่เพิ่งเข้ามา  และอยากจะติดตามข่าวสารว่าฟิคไหนไปถึงไหนยังไงแล้วก็แอดเข้ามาเป็นเพื่อนกะไรท์ได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  และช่วงนี้พิเศษสำหรับแฟนคลับ RonalSi ค่ะ  ไรท์จิทำการแจกการ์ดขอบคุณฉลองปิด Fic – เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! ค่ะ  ต้องตามฟีคข่าวในเฟสของไรท์ไว้ให้ดีๆ นะคะ  และคอมเม้นท์หรือเข้ามาคุยกะไรท์ได้เลยค่ะ ^^ 

เฮือกกกกก  เอาล่ะค่ะ  ที่นี้ไปอ่านต่อกันนเลยค่าาาา >0<!!!


-------------------------------------------------------------------------------------------------


คริส! ข้างหลังคุณ!” ร่างเล็กเขย่าปกเสื้อของคนตรงหน้าที่มัวแต่พูดกับเค้าจนลืมฟังเสียงไป 

เพิ่งมีชายวัยกลางคนแต่งตัวเข้าขั้นสมุนชั้นสูงคนหนึ่งวิ่งหลงกลุ่มผ่านมาพอดี  และเห็นแผ่นหลังที่โผล่ออกมาจากฐานรูปปั้นของโรนัลโด้  ชายคนนั้นจึงพุ่งเข้ามาเพราะคิดว่าการกระทำที่ลับๆ ล่อๆ หลังรูปปั้นนั้นน่าสงสัย

โรนัลโด้หันกลับไป......ยังไม่ใกล้เท่าไหร่........และเค้าไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนี้  จะได้ไม่ต้องแห่กันมาเพิ่มอีก  ร่างสูงจึงวิ่งออกไปแล้วถีบเข้าไปที่ท้องของชายที่วิ่งมาอย่างจัง

แต่ชายที่มาคนเดียวไม่เป็นไร  หนำซ้ำยังกระแทกกลับร่างสูงไปอย่างหน้าตาเฉย  โรนัลโด้ล้มลง  เสื้อนอกเปิด  และผู้ร้ายก็เห็นปืนที่เหน็บอยู่ตรงเข็มขัดด้านหลังของเค้า  จึงหมายจะแย่งมายิงร่างสูงให้ได้แต่ก็เกิดการแย่งชิงปืนขึ้น  ปืนกระบอกดำบรรจุกระสุนอยู่เกือบเต็มถูกชูขึ้นกลางอากาศด้วยมือของชายทั้งสอง

เมสซี่เกือบหยุดหายใจ  หากเค้าเข้าไปจะเป็นตัวถ่วงของร่างสูงเสียเปล่าๆ และที่เค้านั่งลุ้นอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยเช่นกัน..........เค้าได้แต่ภาวนาในใจขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกเค้า และขอพระองค์อย่าทรงทอดทิ้งผู้ที่ศรัทธาเช่นโรนัลโด้เลย

ปืนตกลงพื้น  เมสซี่ได้ยินเสียงกระดูกกระทบกันจากลูกเตะของโรนัลโด้โดนโหนกแก้มอีกคนหนึ่งเข้าอย่างจัง  ร่างสูงจึงใช้จังหวะนี้หันมาหาเค้าในขณะที่ชายผู้ร้ายกำลังมึนหัวนอนเกลือกอยู่กับพื้น

“ลีโอหยิบปืน!

“ห๊ะ...อะไรนะ” ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยิน  แต่เมสซี่แค่ไม่อยากเชื่อ

“หยิบปืนเร็ว....” แต่พูดได้แค่นั้น ชายร่างสูงไม่แพ้โรนัลโด้ก็ลุกขึ้นมาแล้วเหวี่ยงหมัดใส่   ร่างสูงหลบได้ทันแล้วพุ่งเข้าใส่หน้าท้องของชายคนนั้นเพื่อหยุดความเคลื่อนไหวแทน

ในขณะที่ชายสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นั้น  ปืนที่ถูกแย่งจนตกลงมา ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น  และเมสซี่ไม่กล้าหยิบมันขึ้นมา  มันคงเคยใช้ฆ่าคนมาแล้วและต้องได้อาบเลือดของใครสักคนมาแล้วแน่ๆ แค่คิดเมสซี่ก็เกือบอ้วก  เค้ารู้สึกสะอิดสะเอียนมันเกินกว่าจะหยิบมันขึ้นมาจริงๆ

ถึงแม้มันจะช่วยได้  แต่เค้าไม่คิดว่าจะแตะมันได้จริงๆ

“ลีโอ...หยิบปืนนน” โรนัลโด้หันมาพูดเสียงยาวกับเค้า ในขณะที่เจ้าตัวก็กำลังดันแขนของชายข้างหน้าที่หมายจะบีบคอเค้าให้ออกไป

แต่เมสซี่ไม่หยิบปืน

“ไม่ ผมไม่หยิบมันหรอก!” ร่างเล็กตะโกน

โรนัลโด้หันกลับมามองมีสีหน้าจนใจอย่างเห็นได้ชัด  ร่างสูงล้มเลิกความคิดที่จะเขี้ยวเข็ญให้เมสซี่หยิบปืนแล้ว  เพราะเค้าเองก็เพิ่งนึกได้ว่า ยากถ้าจะให้อีกคนทำแบบนั้น......เพราะเมสซี่ไม่ใช่เค้า

แต่ว่าถ้าไม่ฆ่าเค้า  ไอ้หมอนี่มันก็จ้องจะหยิบปืนขึ้นมายิงหัวเค้าอีท่าเดียวเลยน่ะซี่!!

“โอ๊ย ให้ตาย....มีตัวเลือกให้ฉันเยอะจริงๆ ” ร่างสูงประชด  ชายที่จ้องจะบีบคอและจ้องจะหยิบปืนมีสีหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้ผ่อนแรงลงเลย

โรนัลโด้เตะขาชายตัวใหญ่จนพับและล้มลง

..............ถ้าจะให้ล้มชายคนนี้ เค้าจะต้องมีสมาธิมากกว่านี้.........

นานแล้วที่ไม่ได้ทำ  นานแล้วที่ร่างสูงไม่ได้ทำแบบนี้..........

แต่เค้าแค่กลัวว่ามันจะผิดคาด แล้วปืนก็จะถูกหยิบขึ้นมายิงใครคนใดคนหนึ่ง  ไม่เค้าเองก็เมสซี่

ดังนั้น ถ้าจะฝากปืนให้ร่างเล็กถือคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง  ก็ไม่ได้ให้เหนี่ยวไกนี่.........

“ลีโอรับ!

โรนัลโด้สไลด์ช่วงตัวไปหาปืน แล้วโยนมันให้เมสซี่

“อ๊ะ ห๊ะ...”

แกร็ก

ปืนหล่นลงมาอยู่บนมือคู่บอบบางพอดีเป๊ะๆ

แล้วก็ไม่ต้องนับเลขในใจเลย..............

เฮ้ยยยย! ไม่อาวว ผมไม่ถือปืนน!” ชายอาร์เจนติน่าตัวเล็กดีดมันออกจากตัว โดยการโยนต่อจากโรนัลโด้........ซึ่งเค้าโยนมันสุดแรงเลยทีเดียว  มือทั้งสองของเมสซี่ชูขึ้นกลางอากาศพร้อมกับปืนที่ลอยละลิ่วไปไกล

มันตกกระทบพื้น......

ปังง!

มีเสียงปืนดังขึ้น

“อั๊กก!

โอ้ พระเจ้า!

แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เมื่อในจังหวะที่ปืนเจ้ากรรมกระทบพื้นแข็งๆ นั้นเอง  มันก็เกิดลั่นขึ้นมา ไปโดนเอาชายฉกรรจ์อีกคนซึ่งวิ่งเข้ามาพอดิบพอดี

ปืนลั่น ยิงโดนจุดสำคัญของผู้ร้ายคนนั้น  และเค้าตายสนิท......

เมสซี่อ้าปากค้าง พร้อมกับอุทานเสียงดัง  โรนัลโด้เหวี่ยงอัปเปอร์คัทเสยคู่กรณีได้พอดี

โจรร่างใหญ่คนแรกล้มตึง  พร้อมกับโรนัลโด้ที่หันมาเห็นเหตุการณ์ ทำหน้าติดจะรู้สึกทึ่งเมสซี่อยู่ไม่น้อย ก่อนจะยิ้มแล้วชูนิ้วโป้งให้คนเก่ง

“คุณเก่งมาก” เสียงโรนัลโด้ดูเหลือเชื่อ และชื่นชมร่างเล็กจากใจจริงจากวีรกรรมสุดเจ๋ง ที่เมสซี่เพิ่งทำปืนลั่นใส่โจรที่วิ่งออกมาจากมุมตึกเมื่อกี้นี้

แต่เมสซี่เริ่มหายใจไม่ออกเสียแล้ว

“ผม ผมยิงเค้าเหรอ....” เค้ากำลังช็อค และไม่สนใจว่าตัวเองจะดูเท่ขนาดไหน

“ไม่  ไม่...ลีโอ  คุณไม่ได้ยิงเค้า  ปืนต่างหากที่ยิงเค้า  ไม่เป็นไรนะ คุณเก่งมากที่นำทางปืนไปอย่างถูกวิธี”

“ถูกวิธีบ้าอะไรล่ะ ผมยิงเค้านะ!” เมสซี่ตะโกน แล้วงอตัวเหมือนกำลังหนาวและร้องไห้

ร่างสูงที่ยืนห่างออกไปก็ไม่รีรอเลยที่จะวิ่งเข้ามาปลอบ  บอกว่าร่างเล็กทำดีมากและไม่ได้ตั้งใจ เพราะงั้นเค้าไม่ผิด และที่สำคัญหากร่างเล็กไม่ทำเช่นนั้น ร่างสูงก็อาจจะรับมือไม่ไหวเพราะต้องรับมือกับคนสองคนในเวลาเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  เมสซี่เกือบเชื่อและคล้อยตามแล้ว เค้าหยุดร้อง แม้น้ำตาไม่ได้ไหลอาบแก้มแต่ก็หยุดซบหน้ากับแขนตัวเองแล้ว

“แล้ว....แล้วเค้าตายไหม” เมสซี่ถามเสียงเบา หวังว่าอย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้ฆ่าคนตายจริงๆ

“ตายสนิทเลยล่ะ......เฮ้ยยย ไม่ใช่ๆ! ผม....โธ่ อย่าร้องไห้สิลีโอ”

โรนัลโด้หลุดปากออกไป เป็นเหตุให้ร่างเล็กต้องปล่อยเสียงโฮออกมาอีกรอบแต่ครั้งนี้เค้าซบหน้าเข้ากับอกของโรนัลโด้ ผู้ซึ่งกอดปลอบเค้าเป็นสองเท่า และอยากตบปากตัวเองเสียให้ได้ที่ปากพล่อยออกไปแบบนั้น

ตายสนิทงั้นเหรอคริส! แกพูดอะไรของแก.....ซื่อตรงและจริงใจจริงๆ ไอ้บ้าเอ้ย!......ร่างสูงกดด่าตัวเองในใจ พลางกอดคนที่โทษตัวเองไม่หยุด

ให้มันได้ยังงี้สิ!

แต่เวลาไม่เคยคอยใคร ถ้าหากยังคงนั่งโอ๋กันอยู่ตรงนี้ อีกไม่นานจะต้องมีคนมาเจอพวกเค้าแน่ๆ

“เราอยู่ตรงนี้ไม่ได้ลีโอ  เราต้องไปแล้ว” โรนัลโด้เอ่ยด้วยสายตาอ้อนวอน

“......ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ความผิดผมเอง  ถ้าผมไม่โยนมันใส่คุณ มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น  โอเคนะ ผมขอโทษ” โรนัลโด้พูดในที่สุด เพราะเหตุผลสารพัดร้อยแปดที่ได้หยิบยกมาก็ไม่สามารถชักหาแรงจูงใจของร่างเล็กได้เลย กระทั้งร่างเล็กเจ้ากรรมหยุดและฟังเค้า  ยอมลุกตามร่างสูงแต่โดยดีเมื่อโดนชักจูง

............แต่ที่ยอมฟังไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ  เมสซี่รู้สึกเหมือนโรนัลโด้กำลังจะยกความผิดไปให้ตัวเองเสียอย่างนั้น  และจากทุกอย่างที่ผ่านมา เค้าไม่ควรทำแบบนั้นเลย............

เพราะงั้นร่างเล็กจึงยอมลุกขึ้นมาแต่โดยดี เพราะไม่อยากให้ร่างสูงรู้สึกผิด  มือเล็กๆ ของเมสซี่กำกระชับกับมือกร้านที่เกาะกุมเค้าเอาไว้

โรนัลโด้รู้สึกถึงมือเย็นๆ ที่กระชับตอบเค้า  เค้าประหลาด นึกว่าเมสซี่จะโกรธเค้าและโทษเค้าเสียอีกที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องเมื่อครู่  แต่อีกคนหนึ่งทำเหมือนกับไม่ยักกะโกรธเค้าเลย

ร่างสูงยังคงวิ่งต่อไป เก็บเรื่องนั้นไว้ในใจแล้วมองหาช่องทางที่ปลอดคนซึ่งติดตามพวกเค้า  แต่ไม่มีหวังเลย........ไกลออกไป ในบริเวณที่สิ้นสุดเขตของโรงแรมอันกว้างใหญ่ มีพวกผู้ร้ายวางกำลังคุ้มกันกันอย่างหนาแน่น  ไม่มีทางที่เค้าทั้งสองจะออกไปได้อย่างสบายๆ

อย่าว่าออกไปได้อย่างสบายๆ เลย  แค่เกิดอะไรขึ้นใกล้ๆ นิดหน่อยพวกนั้นก็แห่กันมาเป็นฝูงแล้ว

โรนัลโด้พาเมสซี่วิ่งลัดเลาะไปทางตึงรองของโรงแรมอย่างเงียบเชียบ  ข้างนอกนั้นมีพวกมันเต็มไปหมด  ร่างสูงดึงร่างเล็กให้แนบหลังกับกำแพงตึกเช่นเดียวกันกับเค้า โรนัลโด้ลอบมองออกไป  หน้าอกของเค้ากระเพื่อมขึ้นลงจากจังหวะการหายใจ  ส่วนอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วถามออกไปอย่างรู้สึกเป็นห่วง

“คุณโอเครึเปล่า” เมสซี่ถามเช็คความรู้สึกของร่างสูงเป็นครั้งแรก หลังจากเค้าได้รับมาแล้วเกือบนับไม่ถ้วนในคืนนี้

โรนัลโด้ส่ายหน้า บอกว่าเค้าไม่เป็นอะไร  และถึงแม้ร่างสูงซ่อนสิ่งใดไว้ในใจ ร่างเล็กก็ไม่สามารถอ่านมันออกได้เลย.........เพราะชายคนนี้อ่านออกได้ยากนัก  ดวงตาคู่คมที่มีเสน่ห์คู่นั้นสะท้อนเงาของเมสซี่กลับมาเมื่อยามมองเค้า

ร่างเล็กแตะไหล่อีกคนหนึ่งเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร  ความห่วงใยแฝงมากับมือขาวๆ และโรนัลโด้รู้สึกได้ถึงสิ่งนั้น  เค้ายิ้มละมุนก่อนจะจับมือนั้นตอบ ร่างสูงวางมือลงบนมือของเมสซี่ที่ทาบลงมาบนต้นแขนเค้า

“ขอบคุณ”

ชายหนุ่มทั้งสองมองหน้ากัน  ดวงตาของพวกเค้าต่างสะท้อนภาพของกันและกัน  แต่แววตาเป็นกังวลของร่างเล็กฉายแสดงออกมาอย่างปิดไม่มิด

“คุณกลัวรึเปล่า” โรนัลโด้เอ่ย  เสียงทุ้มต่ำนุ่มละมุน......และใช่  แน่นอนเค้ารู้  ว่าคนข้างกายเค้ากลัวแค่ไหน  แต่คำถามของเค้ามาจากใจจริงด้วยความเป็นห่วง เพียงเพราะอยากให้เมสซี่รู้สึกถึงความอารีของเค้า

และเสียงที่อบอุ่นราวกับปลอบประโลมนั้นของโรนัลโด้ก็ทำให้เมสซี่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

เมสซี่พยักหน้าในที่สุดอย่างไม่แน่ใจนัก รู้สึกตัวเองเป็นภาระของอีกคนอย่างเห็นได้ชัด  แต่โรนัลโด้เลื่อนมือมาโอบรอบไหล่ของเค้า

“ไม่ต้องกลัวลีโอ คุณยังมีผมอยู่” เค้าเอ่ย  ก่อนร่างเล็กจะรู้สึกถึงฝ่ามือแข็งแรงและอบอุ่น ค่อยๆ ลูบแผ่นหลังเล็กของเค้าอย่างแผ่วเบา  ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปถึงทุกที่ๆ มือของร่างสูงปัดผ่านไป  เมสซี่รู้สึกเหมือนตัวเล็กลงไปเลย

“เราอาจอยู่ตรงนี้ได้สักพักหนึ่ง  หากคุณอยากพัก” โรนัลโด้ไม่ได้ปล่อยมือออกจากเมสซี่ “พวกนั้นจะไม่วิ่งมาตรงนี้ เพราะมีคนยืนเฝ้ายามอยู่ข้างหลังเราอยู่แล้ว.....พวกนั้นมีน้อยไปเลยเมื่อแทบกันขนาดของโรงแรมนี้  และผมเชื่อว่าพวกที่อยู่ข้างหลังเราก็คงจะไม่รู้หรอก  พวกมันไม่ขยับไปไหนไกลด้วยซ้ำ”

ร่างสูงกล่าว และร่างเล็กเห็นด้วย  พวกเค้านั่งหลบกันอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้ๆ แถวนั้น  หลังของทั้งสองพิงกับกำแพงอย่างเหนื่อยอ่อน  ยกเว้นโรนัลโด้ เค้าดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง

“ลีโอ อย่างอตัว....คุณหายใจเร็วมากๆ เลยนะ” ร่างสูงบอกเป็นอีกนัยหนึ่งว่า อีกคนหนึ่งกำลังหอบ  เค้าบอก และเมสซี่ก็ยืดหลังตรงแนบกำแพงเพื่อหายใจได้สะดวกขึ้น  เสียงปืนยังดังอยู่ในหูของร่างเล็ก

 เมสซี่เพิ่งเล่นบทเป็นห่วงโรนัลโด้ได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง ตอนนี้ร่างสูงพลิกกลับมาเล่นบทเดิมของตนอีกแล้ว หลังจากที่ร่างเล็กทำตัวน่าเป็นห่วงเสียเอง

“พระเจ้า ผมยังได้ยินเสียงวิ้งๆ ในหูอยู่เลย” เมสซี่บอก เสียงเค้าเบาคล้ายกระซิบ  ในขณะที่คลำๆ จับๆ หูของตัวเอง

“คุณต้องเลิกคิดถึงมันนะ”

“ผมไม่แน่ใจ ไม่รู้จะทำได้ไหม” ร่างเล็กพึมพำตอบ  ก็เมื่อกี้เค้าเพิ่งยิงคนตายนี่นา

“อยู่กับผมสิ  คุณเห็นใบไม้นี่ใช่ไหม  รู้สึกถึงลมของทะเลที่พัดมาหรือเปล่า”

“ผม...ผมพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้” เมสซี่ยอมแพ้  เสียงร้องของชายคนนั้นดังขึ้นในหูของเค้าถัดจากเสียงปืน

เมสซี่รู้สึกไม่ดี  ร่างสูงเองก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย........

ชายร่างสูงโปร่งรูปร่างกำยำเชื้อสายโปรตุเกตุแท้จับมือชายหนุ่มอาร์เจนติน่าแล้วพบว่ามันเย็นชืดจนน่าใจหาย  ราวกับว่าเมสซี่เพิ่งฝ่าพายุหนาวเหน็บออกมา  มันชื้นเหงื่อและเย็นตามสภาพอุณหภูมิของเวลากลางคืน

 โรนัลโด้เอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสแก้มของร่างเล็ก  แต่อีกมือหนึ่งของเค้าก็ยังกุมมือเย็นๆ ของอีกฝ่ายไว้ด้วยเช่นกัน

“ตัวคุณเย็นเชียบ”

และโรนัลโด้ก็พบว่าเมสซี่เย็นไปทั้งตัว  และเริ่มรู้สึกชา

“คุณกลัว” ร่างสูงพึมพำ เหมือนจะพูดกับตัวเอง  ในขณะที่ก้มมองฝ่ามือของอีกคนหนึ่งซึ่งขาวและไร้สีอมชมพูอย่างที่เค้าเคยสังเกตเห็น


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------------------


อร้ายยยยเฮีย หวานเว่อร์อ่ะ >///<  >> “ไม่ต้องกลัวลีโอ คุณยังมีผมอยู่”  นั่นๆๆ ดูพ่อคุณพูดสิคะ....พ่อยอดชายยยย คุณกำลังจะทำให้พวกเราหัวใจเกือบจะหยุดเต้นนะคะ  สวีทกันตล๊อด ตลอดเลยนะคะ ^^ .............แหม่  ช่างผิดกับรุ่นพี่คริส ใน The Storm จริงๆ เลยนะเออ  บุรุษท่านนั้นช่างโหดร้ายและลึกล้ำ  ฮาาาาา  แต่ถึงเฮียร้ายแต่เฮียก็รักค่ะ  ฮิ้ววววววว >{}< !!!  เล่นเอาลีโอของเราเจ็บช้ำระบมทั้งกายและหัวใจกันไปเลยทีเดียว  555555

แล้วไหนยังจะคำพูดอื่นๆ ที่ออกมาอย่างจริงใจอีกล่ะคะ  โอ๊ยยย ไรท์แทบจะจำที่ตัวเองเขียนไม่ได้เลยค่ะ 5555555 //วกกลับเข้าเรื่องเดินจนรีดตามไม่ทัน//

พ่อยอดชายนายโด้ของเราจะทำอย่างไรเพื่อปลอบใจเหมียว  ติดตามกันได้ใน Part หน้านะค่ะ  อิๆ ติชมให้ไรท์เสียหน่อยนะคะ........รักรีดตลอดเวนะเออ จุ๊บบบ ^3^

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



1 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

รู้สึกเหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์อีกแล้วล่ะค่ะ ฉากแอ็กชั่นนี่สุดยอดจริงๆ แน่นอนว่าพ่อคริสเตียโน่เขาก็สุดยอดมากๆเหมือนกัน * *b

'ไม่...ลีโอ คุณไม่ได้ยิงเขา ปืนต่างหากที่ยิงเขา' ประโยคนี้ชอบมากกกค่ะ อ่านทวนอยู่สอง-สามรอบได้ คริสเข้าใจพูดปลอบใจลีโอนะ มันเป็นคำพูดธรรมดาแต่เจ๋งสุดๆเลยล่ะ!

คนอ่านยังคิดเลยว่า คริสค่อนข้างจะอ่านยากจริงๆ แต่ดวงตาคู่นั้นก็มีเสน่ห์มากเหลือเกินใช่ไหมลีโอ? ;) แหม คิดถึงรุ่นพี่คริส ใน. The Storm เหมือนกันค่ะ //นั่นไงล่ะ 555//

สู้ๆๆ