วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

[Fic – RonalSi] + [Part 12] เรื่องวุ่นวายของนายตัวดี! – Ronaldo x Messi



สวัสดีค่ะ >//<  มาลงให้แล้วค่ะ  วันนี้ Part นี้น่าสนใจค่ะ  เป็นฉากมือบุบที่ไรท์ได้เคยสปอยล์ไว้ค่ะ  อร้ายยยย ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากกัดมือตัวเองอีกค่ะ //กัดไว้เดี๋ยวกรี๊ดแตก แม่จะด่าเอาค่ะ แฮ่ๆ //

มีรีดท่านหนึ่งเคยบอกไรท์ว่าอยากได้ การ์ดขอบคุณรีดๆ เนื่องในโอกาสปิดฟิค RonalSi ของไรท์ค่ะ  ไรท์ก็อยากให้มากๆ เลยค่ะแต่อยากมีอะไรตอบแทนรีดที่อุตส่าห์ติดตามด้วย  ตอนนี้ก็ยังไม่มีไอเดียดีๆ เท่าไรเลยค่ะ  แต่ว่าไรท์อยากแจกค่ะ!!

สำหรับแฟนคลับ RonalSi นะคะ  ไม่ว่าคุณจะรักเค้าทั้งสองอย่างเหนี่ยวแน่นหรือไม่ ขอให้ติดตามเฟสของไรท์ไว้เนื่องๆ ค่ะ  เพราะวันดีคืนดีไรท์อาจจะออกมาประกาศแจกการ์ดขอบคุณให้แก่ทุกท่านค่ะ ให้ทุกท่านได้ร่วมส่งรายชื่อในเวลาที่กำหนด......หากท่านใดช้า หมดเขต ท่านอาจจะพลาดโอกาสได้การ์ดและของขวัญขอบคุณจากไรท์ได้ค่ะ!

นี่คือเฟสของไรท์ค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<<  เข้าไปแอดและทักทายกับไรท์ได้เสมอเลยค่ะ  ไรท์ยินดีพูดคุยและแลกเปลี่ยนได้เสมอเลยค่ะ ^^  ไม่เพียงแต่คู่นี้ คู่อื่นๆ ไรท์ก็เมาท์กระจายค่ะ 55555 

ติดตามข่าวในเฟสของไรท์ไว้นะคะ 

เอ่อ.....นี่หล่อนจะมาลงฟิคหรือโฆษณาชิงโชคกันแน่ยะ!!   อ่อ ลืมไปค่ะรีด! อุ๊บ ไรท์ลง Fic อยู่นี่นา  แฮ่ๆ Part นี้สนุกค่ะ  ไปอ่านกันได้เลยค่าาาา  ^0^  //รู้สึกเมื่อกี้น้ำลายแตกฟอง//


-------------------------------------------------------------------------------------------


............จะมีมากันอีก..........

“แต่คุณทำแบบนั้นได้ไง ทำเค้าหมอบลงกับพื้นยังกะหมาโกลเดิ้นได้ยังไง!” ร่างเล็กพยายามแย่งกลับ แต่ก็เพิ่งนึกได้ว่ามันไม่ใช่ของเค้า

โรนัลโด้ชูเสื้อนอกเนื้อดีของเค้าไว้เหนือศีรษะ  แล้วนิ่งเพื่อคิด ก่อนพูดออกมาอย่างชัดเจน

“ผมชอบดูหนังน่ะ และผมก็ไปพิพิธภัณฑ์ของทหารผ่านศึกปีละครั้งด้วย ผมเลยรู้ไง”

“แล้วคุณทำงั้นได้ไง!

“ผมจำเค้ามาอีกทีหนึ่งน่ะ  และลีโอ...คุณกำลังกลัวอีกแล้วนะ” โรนัลโด้พูดเสียงนิ่ง  เมสซี่จึงหุบปากไปไม่ตะโกนอีก

“โอเค  เราต้องไปแล้ว” ร่างสูงพูดแค่นั้น  ก่อนจะตวัดเสื้อนอกในมือคลุมหัวของเมสซี่ไว้ราวกับว่าเค้าเป็นโจรเรียกค่าไถ่มาลักพาตัวเมสซี่เสียเอง

 โรนัลโด้ออกเดินในขณะที่เหน็บร่างเล็กๆ ไปด้วย  แผ่นหลังแกร่งบดบังร่างของกัปตันอาร์เจนติน่าเอาไว้เมื่อผ่านเส้นทางที่แก็สพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับท่อประปาแตก

พวกเค้าวิ่งตรงมาจากฝั่งตรงข้ามที่ชายคนนั้นโผล่ออกมา  ชั่วอึดใจเดียวทั้งคู่ก็วิ่งขนานคู่กับเงาของตัวเองซึ่งสะท้อนมาจากกระจกของชั้นล็อบบี้  โรนัลโด้พยายามมองออกไปเพื่อเช็ดดูสถานการณ์  แต่อุปกรณ์ตกแต่งบดบังเค้า  ร่างสูงจึงไม่ได้อะไรกลับมาเลย

โรนัลโด้เห็นเพียงแขกชายหญิงไม่กี่คนที่วิ่งกันอุตลุด   หลายคนโดนคนร้ายจ่อปืนใส่แล้วบังคับให้ถอดเครื่องประดับออก  พวกมันยึดไป  แล้วมีผู้ชายในงานหลายคนที่โดนตรวจสอบใบหน้า

คาดว่าพวกนั้นคงจะกำลังตามหาเมสซี่อยู่เป็นแน่

 โรนัลโด้กอดเมสซี่แน่น  แล้วหันไปเจอชายถือปืนกลุ่มใหญ่ด้านหน้า  แต่พวกนั้นไม่เห็นเค้า เหมือนกำลังเข้าประจำตำแหน่งอะไรสักอย่างอยู่  และเสียงบู๊ตที่ไล่หลังเค้าทั้งคู่มาก็ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วด้วย

ทำยังไงดี  ถ้าวิ่งต่อไปพวกข้างหน้าจะต้องเจอเมสซี่แน่  แต่ถ้าหยุดวิ่งพวกข้างหลังก็จะเจออยู่ดี!

โรนัลโด้ไม่มีเวลาคิด  เค้าหยุดวิ่งแล้วดึงเสื้อนอกออกมา ก่อนจะสวมคืนให้กับตัวเอง  เมสซี่ยกมือขึ้นมาระดับปากแล้วอ้าปากค้างน้อยๆ  ดวงตากลมโตฉายแววสั่นระริก

“อะไรเหรอ  มีอะไร” ร่างเล็กถามเสียงสั่น  เค้าเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นที่ขมับของร่างสูง

โรนัลโด้จับไหล่เค้าไว้แน่นก่อนจะพูดว่า

“จูบผม!

“ห๊ะ! อะไรนะ!

“คุณต้องจูบผม!

“ไม่! ผมจะไม่จูบคุณ” เมสซี่มึนงง ปะติดปะต่อสาเหตุคำพูดของร่างสูงไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น  เค้ายืดตัวแล้วหันหลังชนกระจกหนาแต่ใสแจ๋ว  โรนัลโด้ทำหน้าเหมือนจะบอกว่า “ก็มันช่วยไม่ได้หนิ”  แล้วพูดซ้ำ

“จูบผมสิ![เฮียใจเย็น!]

“ม่ายอ๊าววว!” เมสซี่หลังเบียดกับกระจก  หัวเด็ดตีนขาดเค้าก็จะไม่ยอมทำเด็ดขาด

โรนัลโด้จิปากอย่างติดจะหงุดหงิดแล้วต้องเป็นฝ่ายตรงเข้าไปจูบเมสซี่เสียเอง...........

.............ร่างสูงใช้มือทั้งสองทาบผิวแก้มใสของร่างเล็กไว้แล้วประกบปากเข้าไปอย่างไม่รีรอ ริมฝีปากของทั้งสองประกบรอบกันพอดีแป๊ะ  เมสซี่หยุดหายใจ  ดวงตากลมโตของเค้าเบิกกว้างและจ้องค้างอย่างตกใจ

เค้าถอยหลังไม่ได้ แต่ถึงได้ก็คงไม่ทำเพราะเค้าไม่สามารถขยับขาของตัวเองได้อย่างใจสั่งเลย  มือเล็กทั้งสองข้างได้แต่เพียงยกขึ้นมาทาบคอแกร่ง  และพยายามดันศีรษะของอีกคนหนึ่งออกไป  แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเพราะคนรุกจับใบหน้าเค้าไว้แน่น  จึงทำให้ดูเหมือนร่างเล็กสมยอมที่จะจูบอีกคนหนึ่งไปโดยปริยาย

เมสซี่หยุดหายใจ  เค้าจ้องโรนัลโด้  และโรนัลโด้ก็จ้องตอบ.....ในระยะที่ใกล้จนประชิด  ก็แหงล่ะ เค้าจูบกันอยู่นี่นา  ร่างเล็กรู้สึกถึงฝ่ามือที่เปลี่ยนเป็นอุ่นร้อนของคนที่จูบเค้าเลื่อนไปประคองไว้ตรงท้ายทอย  แล้วกดเค้าให้เข้ามาใกล้อีก

แววเสียงวิ่งระรัวของบู๊ตเกือบสิบคู่  โรนัลโด้ก็ทำในสิ่งที่เมสซี่ต้องใจหายอีกครั้ง  ร่างสูงเบียดตัวเข้าหาอีกคนหนึ่งจนแผ่นหลังเบียดติดกระจก และอกของเค้ากดทับกัน.......ไม่มีช่องว่างระหว่างเค้าทั้งสอง.............ร่างเล็กใจเต้นจนสั่นไปทั้งร่างกาย  และทั้งคู่ก็ได้สัมผัสจังหวะหัวใจของกันและกัน

ทำให้เมสซี่ได้รู้ว่าพวกเค้าใจเต้นในอัตราที่เร็วและแรงพอๆ กันเลย...............

เสียงบู๊ตที่วิ่งตามมาใกล้เข้ามาแล้ว

 ร่างสูงที่มือหนึ่งประทับท้ายทอยร่างเล็ก  ก็ไล่อีกมือหนึ่งของเค้าไปตามแก้มเนียนใสของร่างที่มอบริมฝีปากให้เค้าตรงหน้า  มันอุ่นตัดกับอากาศเย็นของยามราตรีนี้เป็นอย่างยิ่ง คนที่โดนจับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของฝ่ามือนั้น

และดวงตาคมที่บัดนี้ดูเปล่งประกายท่ามกลางความมืดสลัวภายใต้เงา ก็ตวัดมองประสานกับดวงตากลมโตของอีกคนอย่างมีความหมาย  ก่อนร่างสูงจะหลับตาลงแล้วเอียงหน้าปรับองศาการจูบให้ริมฝีปากของพวกเค้าจรดสัมผัสกันอย่างแนบชิด.........ไม่มีช่องว่างใดคั่นกลางพวกเค้าได้  แม้แต่อากาศก็ไม่อาจผ่านไป

โรนัลโด้หลับตาลงราวกับว่ามีเพียงแค่พวกเค้า  ถึงแม้ไม่มีเหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร  แต่ร่างสูงก็เหมือนจะขอให้เมสซี่เชื่อใจ

และใช่........เมสซี่เชื่อใจเค้า

ร่างเล็กจึงคล้ายมือแล้วโอบรอบคอของร่างสูง  ก่อนจะหลับตาพริ้มแล้วรับจุมพิตนั้นบ้าง

โรนัลโด้กับเมสซี่กอดกัน

สวนคนที่วิ่งถือปืนห่อตะบึงมาทีหลังก็ชะลอความเร็ว   ชายคนแรกของแถวกำลังจะจ่อแยกทั้งคู่ออกจากกันเพื่อดูหน้า แต่พอเห็นว่าบุคคลที่กำลังดูดปากกันนั้นเป็นผู้ชายทั้งคู่จึงทำหน้าราวกับเห็นผีแล้วพากันผละออกไปอย่างนึกรังเกียจ  ก่อนจะวิ่งไปบอกพรรคพวกที่อยู่ด้านหน้า  แล้วลงความเห็นกันว่าเผ่นหนีดีกว่า การอยู่ในบริเวณนี่ที่มีผู้ชายจูบกันคงไม่ดีนัก

สำหรับเมสซี่โลกหยุดหมุนเมื่อเค้าเสียจูบให้กับโรนัลโด้  แต่ร่างสูงผู้จู่โจมก็ได้ยินทุกอย่าง เสียงวิ่งที่หยุดอยู่ข้างเค้า  เสียงวิ่งดังต่อไปอีก  และเกิดเสียงพูดคุยกัน พวกมันพูดถึงพวกเค้าว่าจูบกันในที่โล่งแจ้งแบบไม่กลัวฟ้าผ่า (ใช่  พวกมันพูดกันแบบนั้น)  กระทั่งพวกมันพากันวิ่งออกไปและห่างไกลจากพวกเค้าแล้ว

พวกมันไปแล้ว  ร่างสูงเลื่อนมือทั้งสองไล่ไปตามผิวแก้มนิ่มมืออย่างแผ่วเบาและอ้อยอิ่ง  ก่อนจะผละริมฝีปากออกมาอย่างต้องการจะให้มันแผ่วเบายิ่งกว่า  แต่กลับเกิดเสียงดังขึ้น เพราะเค้าทั้งสองเผลอดูดกันจริงๆ  โรนัลโด้ถอนปากออกมา ทั้งเค้าและเมสซี่ค่อยๆ คลายเปลือกตาขึ้น

บริเวณนั้นแทบไม่เหลือใครแล้ว  นอกจากพวกโจรที่อยู่ห่างออกไปและมองไม่เห็นพวกเค้า  แสงจันทร์สาดส่องโรนัลโด้และเมสซี่ที่ตัวติดกัน  มือแกร่งข้างหนึ่งยังคงวางเกลี่ยอยู่บนพวงแก้มนิ่มของเมสซี่  ทั้งคู่ปากเจ่อ และขึ้นสีระเรื่อโดยเฉพาะเมสซี่

ทั้งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นประกอบกับบรรยากาศในตอนนี้คงจะทำให้ร่างทั้งสองยังคงถูกตรึงอยู่กับที่อีกนาน  หากร่างสูงไม่ได้สติเสียก่อน

“เออะ เอ่อ....” โรนัลโด้กระพริบตา

“.......ผมขอโทษ” เค้าพูด “ขอโทษครับ” เค้าพูดซ้ำอีกทีหนึ่ง

และเมสซี่ก็ก้มหน้างุด หันไปมองซ้ายบ้างขาวบ้าง  เช่นเดียวกับโรนัลโด้ที่ก้มลงมองต่ำ  แล้วเมสซี่ก็กระแอ่มไอ ก่อนโรนัลโด้จะพูดเสียงเบา

“พวกนั้น....รับไม่ได้กับพวกเพศที่สามน่ะ  พวกเค้ารังเกียจพวกที่พระเจ้าทอดทิ้งหรือนั่นก็คือพวกที่รักกันเองนั่นเอง  ผมเลยต้องทำแบบนี้เพื่อให้พวกนั้นเลิกสนใจคุณ”

เมสซี่นิ่งไม่ได้พูดอะไร  เพราะพูดไม่ออก  สีแดงบนแก้มเค้าจากที่เป็นริ้วก็เปลี่ยนไปเป็นแดงทั้งหน้าแทน “คุณน่าจะบอกเรื่องนี้กับผมก่อน” และท้ายที่สุดร่างเล็กก็พึมพำ

“ผมก็บอกคุณไปแล้วไง” โรนัลโด้ยังคงพูดเสียงเบา  แต่น้ำเสียงเค้าฟังดูเหมือนจะบอกว่าตัวเองไม่ผิดนะ

“หมายถึงที่คุณสั่งให้ผมจูบคุณยังงั้นเหรอ!” เมสซี่เอ็ดเบาๆ เนื่องจากห่างออกไปก็ยังมีพวกนั้นอยู่ประปราย  และตัวของเค้าทั้งสองยังคงสัมผัสกันแนบชิด ยังไม่มีใครได้สติว่าต้องแยกตัวออกจากกัน

“นั่นผมให้โอกาสคุณ”

“โอกาส? โอกาสอะไร  ผมนึกว่าที่ผมเลือกได้คือทำกับไม่ทำเท่านั้นเอง” เมสซี่ทำหน้าเหมือนเค้าเป็นคนเดียวที่มีปัญหา

โรนัลโด้ก้มเข้ามาใกล้ขึ้นอีก “ก็ให้โอกาสคุณเลือกองศาจูบไง”

เมสซี่หน้าร้อนและแดงแปร๊ด “โอ๊ยย พอเลย  ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วผมรู้สึกเหมือน......เหมือนกับ  อ้า ช่างมันเถอะ” ร่างเล็กระเบิดลงน้อยๆ กับตัวเองก่อนจะหันหน้าหนีโรนัลโด้ ที่ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าควรถอยห่างออกมาได้เสียที

เมสซี่เม้มปากแน่น

“ให้ตาย  อยากเก็บจูบผมไว้ก็ไม่บอก.....โอ๊ย!

“เงียบไปเลยย!

ร่างเล็กเอ็ดใส่คนที่หยอกเค้าเล่นอย่างเหลืออด พร้อมทั้งชกเข้าไปเต็มแรงที่หัวไหล่ของคนแซวจนเจ้าตัวต้องโอดเสียงครวญ  แต่กระนั้นร่างสูงก็ยังคงไม่หุบยิ้มของตัวเอง

“คุณสนุกงั้นเหรอ! และอีกอย่างผมไม่ได้อยากเก็บจูบของคุณไว้สักหน่อย” ร่างเล็กเอ็ดไม่หยุด  แต่ทุกประโยคของทั้งคู่ก็เป็นเพียงแค่การสนทนารอดไรฟันเท่านั้น  จึงไม่เสียหายหากพวกเค้าจะต่อล้อต่อเถียงกันสมใจร่างสูง

“ไม่เอาน่าลีโอ  ผมแค่ไม่อยากให้คุณเครียด.......เฮ้ นี่ต่อยจริงเหรอ ผมเจ็บจริงนะเนี่ย อูยย” โรนัลโด้กุมไหล่  เมสซี่เอาหัวชนกระจกแล้วซบค้างไว้...........เค้าอายเกินกว่าจะพูดต่อแล้ว

“โอเค  ไปเถอะ  เราต้องไปแล้ว” โรนัลโด้เลิกเล่นแล้วดึงข้อมือของเมสซี่ไว้  ร่างเล็กเดินตามและยกศีรษะตามมาทีหลัง  เค้าชักไม่อยากเดินตามแล้วเมื่อรู้ว่าโรนัลโด้ก็เป็นคนช่างแซวเช่นเนย์มาร์

ร่างเล็กหน้ามุ้ย  เมื่อนึกถึงคำว่า “ก็ให้โอกาสคุณเลือกองศาจูบไง” ของโรนัลโด้

..................นั่นมันตัดโอกาสพูดต่อของเค้าชัดๆ ...................

ในขณะที่ร่างเล็กกำลังปล่อยให้ข้อมือของตัวเองถูกฉุดไปเรื่อยๆ และใบหน้าก็ร้อนไม่หายอยู่นั้น  โรนัลโด้ก็หันมาพูดเสียงเรียบกับเค้า  แต่เมสซี่รู้สึกได้ถึงความประหม่าน้อยๆ ในน้ำเสียงนั้น

“แต่ผมว่าความเชื่อเรื่องเพศที่สามของพวกเค้ามันไม่ถูกนะ  พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา.....ไม่ว่าใครก็ตาม” สายตาของร่างสูงไม่ได้เฉียบคมเด็ดเดี่ยว  แต่เป็นครุ่นคิดอยากออกความคิดเห็น

เมสซี่มองโรนัลโด้ตอบ  แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะไม่คิดว่าร่างสูงจะพูดถึงเรื่องนี้  เค้าแอบเห็นแวววาบหวามและใบหน้าที่ขึ้นสีเข้มขึ้นของร่างสูงด้วย

ร่างเล็กได้ข่าวว่า  ถ้าหากมีเวลาว่างแล้วโรนัลโด้ก็จะเข้าโบสถ์ทุกๆ วันอาทิตย์เสมอ  การมองโลกในแง่ดีเช่นนี้คงจะเป็นสิ่งดีๆ ที่คนบนโลกนี้ควรมี  เช่นเดียวกับโรนัลโด้ที่กำลังพาเค้าวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ

ร่างเล็กสังเกต ร่างสูงตรงหน้าเค้าหันไปมองล็อบบี้ของโรงแรมผ่านกระจกเป็นพักๆ ในขณะที่พวกเค้าวิ่งเหยาะๆ ไปตามขอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่  สีหน้าของโรนัลโด้แม้อ่านไม่ออก  แต่เมสซี่ก็รู้ว่าเค้าทั้งสองต้องออกไปข้างนอกได้แน่ๆ  เค้าทั้งคู่วิ่งช้าๆ ต่อไป

..............ถึงแม้มันจะน่าอารมณ์เสียไม่น้อยที่อีกเคยเอื้อม  พวกเค้าก็จะออกไปกันได้อยู่แล้ว  แต่เมสซี่ก็ไม่คิดเช่นนั้นเลย เค้าไม่ต้องการให้โรนัลโด้ลำบากมากไปกว่านี้เพื่อเค้าอีกแล้ว  ร่างสูงใจดีกับเค้าที่แทบไม่รู้จักกันมากๆ เมสซี่ไม่รู้จะขอบคุณอีกคนด้วยคำพูดเช่นไร...........

เมื่อวิ่งช้าๆ เพื่อสังเกตการณ์ผ่านกระจกใสในชั้นล็อบบี้แล้ว  โรนัลโด้ก็มาหยุดอยู่ตรงผนังซีเมนต์ถัดมาจากกระจกใสซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งจากที่พวกเค้าวิ่งมา

ร่างสูงแนบแผ่นหลังกับผนังปูน เช่นเดียวกับที่เค้าบอกให้ร่างเล็กทำเช่นเดียวกัน

“ไม่มีทางออกเลย  พวกมันปิดไว้หมด  สิบคนตรงประตูทางออก....ถือปืน  ไม่มีทางออกอื่นแล้ว นอกจากเราจะอ้อมไปซึ่งมันเสี่ยงมากเกินไป” ร่างสูงรายงานสถานการณ์สั้นๆ เมสซี่ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงต่อไป  จึงหอบหายใจหนักตอบไปแทน

ร่างสูงมอบไปรอบๆ  เค้ากวาดตาแล้วพูดขึ้นในที่สุด

“งั้นเราก็ต้องอ้อมไปแล้วล่ะ  ถ้าออกทางประตูหน้าแล้วมันจะเจอพวกเราจริงๆ ล่ะก็......จะให้พวกนั้นเห็นคุณไม่ได้”

“ดะ เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนคริส......หวาา” ร่างเล็กกำลังจะออกปากห้าม ให้รอสักพักหนึ่งก่อน  แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว โรนัลโด้กระชับข้อมือของเค้าแล้วออกแรงดึงไปเสียแล้ว

คุณสนุกนักเหรอ ที่ได้เสี่ยงตายแบบนี้บ่อยๆ น่ะ!.........เมสซี่กู่ร้องในใจ

แต่แล้วพอวิ่งไปได้ยังทันถึงมุมตึกดี  ร่างสูงของชายโปรตุเกตุก็ต้องชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน  เมื่อมีเสียงย่ำบู๊ตดังขึ้นทางด้านหน้าของพวกเค้านี่เอง

“บ้าเอ้ย” โรนัลโด้สบถ

“เกิดอะไรขึ้น”

“ผมไม่แน่ใจว่าพวกมันมีกำลังเสริมกันมารึเปล่านะ  แต่มันดูยั้วเยี้ยมากขึ้นทุกทีเลย” ร่างสูงพูดไว้แค่นั้นก่อนจะดึงเมสซี่ไปหลบอยู่ตรงรูปปั้นตกแต่งสระว่ายน้ำที่ใกล้ที่สุด

ทั้งสองทิ้งตัวลง และกระแทกหลังเข้ากับฐานสี่เหลี่ยมสูงและแข็งแรง  พวกเค้าถูกบังจนมิด

“เราอ้อมไปไม่ได้ใช่ไหม”

โรนัลโด้ไม่ตอบ  เอาแต่ชะโงกหน้ามองไปข้างหลัง  เค้าดูเหมือนได้กลับไปเข้าค่ายฤดูร้อนอีกครั้ง ในช่วงที่ฝึกการเอาตัวรอดในป่า และใครที่เอาธงแคมป์กลับมาได้เป็นคนแรกจะเป็นผู้ชนะ

และเมสซี่คิดว่าโรนัลโด้จะต้องเป็นคนแรกแหงๆ

“เราไม่จำเป็นต้องอ้อมไปก็ได้นะ  แค่รอให้พวกนั้นเดินไปลาดตระเวนที่อื่นก่อน แล้วเราค่อยออกไป”

“ไม่  คุณดูสิ....” ร่างสูงกระซิบ พร้อมชี้ให้เมสซี่ดู เหมือนเค้าชี้ให้อีกคนหนึ่งดูกระต่ายโดดออกมาจากพุ่มไม้  เมสซี่ชะโงกหน้า

“พวกที่อยู่ข้างหน้านั่น  สิบคนถืออาวุธ เราห่างจากคนข้างนอกพอสมควร  ผมไม่เห็นตำรวจเลย  ตายกันหมดแล้ว...”

“คุณรู้ได้ไง” คนที่อยู่ข้างๆ เสียงเล็กลง

“ผมเห็นศพพวกเค้า”

เมสซี่เกือบลมจับ

“เพราะฉะนั้นไม่มีใครช่วยเรา  พวกที่วิ่งมาลาดตระเวนเมื่อกี้ผ่านไปแล้ว คุณเลิกทำตัวลีบติดรูปปั้นได้แล้วล่ะ.....ลีโอ ไม่เอา  อย่าทำอย่างนั้น  ผมบอกว่าเค้าไปกันหมดแล้วไงครับ  ไม่ต้องกลัว”

“คุณชัวร์ไหม  ว่าเค้าจะไม่ฆ่าเราทันทีที่เจอน่ะ” เมสซี่ถูกโรนัลโด้แกะออกมาจากฐานรูปปั้น

ร่างสูงส่ายหน้า นึกอยากหยิกแก้มของอีกคนเล่น  เมสซี่ทำให้เค้านึกถึงเนตรนารีที่มาเคาะประตูเพื่อขายคุกกี้ให้กับเค้าในวันหยุด “ไม่  ผมแน่ใจ  มันไม่ทำอย่างนั้นแน่” รอยยิ้มละมุนปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา

“และผมเชื่อว่า...”

คริส! ข้างหลังคุณ!” ร่างเล็กเขย่าปกเสื้อของคนตรงหน้าที่มัวแต่พูดกับเค้าจนลืมฟังเสียงไป 


.


.


.


TBC.


----------------------------------------------------------------------------------------------------


อร้ายยยยยยยยย เฮียยยยยยยย!! >///<!!!!  นี่มันอาร้ายยยยยยยยยย “จูบผมสิ!”  ใจเย็นค่ะเฮียขาาา  อ้าาาา งานนี้ต้องตรงเข้าไปจัดการเองด้วยความเร็วสูงเลยนะคะ 5555555+

เฮียทำไรท์เขินนะคะเนี่ย อ่านไปก็....อ้าวเฮ้ยย! //เหมือนลืมไปว่าตัวเองเขียนฉากนี้ด้วย ทำไมมันโผล่มาเร็วจัง -..- // เฮีย อูยยยยย!   หมะ เหมียววว.....เหมียวไม่ปากแตกไปแล้วรึค่ะนั่น  5555+

รีดรู้สึกเขินเหมือนไรท์ไหมคะ  ถ้าใช่ ก็คอมเม้นท์บอกเล่ากันด้วยนะคะ -/////-  ฮร้ายยย เฮียนี่พระเอกแอบร้ายนะคะเนี่ยยย เจ้าเล่ห์เป็นที่สุดอ่ะ

Part หน้าก็มีโมเม้นท์ของทั้งคู่มาให้ได้ยิ้มกันอีกค่ะ  ติดตามกันด้วนะคะ  สำหรับวันนี้ขอตัวกลับไปปั่นฟิคต่อก่อนนะคะ M_ _M  รักรีดจุงเบยยยยยย

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund

ป.ล. อย่าลืมติดตามข่าวในเฟสของไรท์นะคะ มันอาจมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว  เหอๆ


5 ความคิดเห็น:

demon กล่าวว่า...

นั่นไง...ทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนาอีกแล้ว จะเกิดอะไรต่อไป!?

โอ้ย! เขินมากกก~~ ไม่กัดหลังมือบุบเหมือนไรท์เตอร์ แต่กัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดเกือบออก 555 //ดีเลือดไม่ออกนะ ยังได้อยู่ค่ะ//

อยากจะกรี๊ดดดจริงๆๆ 'จูบผมสิ' แหม่ๆคริสเตียโน่~~ นี่ก็พูดออกมาถามลีโอหรือยัง เขินจริงๆ อยู่ดีก็บอกให้จูบผมสิ ใครจะไม่เขิน โดยเฉพาะลีโอ คงจะเขินสุดๆไปเลยเนอะคะ XD แต่ดูเหมือนคริสจะรอไม่ไหวนะ //ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละ//

ตอนนี้มันช่างกิ๊บกิ้วอะไรอย่างนี้ อืม...สองคนนี้รู้สึกว่าใกล้ชิดกันแค่ไม่นาน จะมีความรู้สึกที่(เริ่มจะ)ลึกซึ้งต่อกัน ช่างน่ายินดีจริงๆ :):) เพิ่งจะรู้นะว่าพ่อยอดชายของพวกเราจะชอบแซวลีโอเหมือนเนย์มาร์ ...คริสเขาเอ็นดู(?)นะลีโอ

ชอบบบ~

Unknown กล่าวว่า...

ฟินแป๊บ อือหือออออ ทำไมมันมุ้งมิ้งเช่นนี้ล่ะคะไรท์ น่ารักจังเลยคู่นี้ >///<
ดามเมจประโยคนี้มาก"จูบผมสิ" /ใจเย็นค่ะพี่ (ดึงแขนเสื้อพี่โด้ไว้)/ เหมียวเขินแย่สิคะ พูดตรงๆแบบนั้น แต่หลังพี่โด้เริ่มมีเกรียน 555

Unknown กล่าวว่า...

แหมะ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเฮีย ทำเอาเหมียวเขินเลย(คนอ่านก็เขินตาม) -////-
เหมียวน่าร๊ากกกก เฮียก็เก่งซะ เก่งจนน่าหมั่นไส้ คนอาไร๊!! ทำได้ทุกอย่าง
พวกโจรเพิ่มระดับความซีเรียสขึ้นซะแล้ว ตอนหน้าจะเป็นยังไงนะ ลุ้นๆๆ

Cindy2202 กล่าวว่า...

ง่อวววววววววว จูบกันแล้วววววววววววว >//////<
ฟินมากกกก มุ้งมิ้งมากที่สุดดด
แซวน่ารักมาก "ให้โอกาสคุณเลือกองศา" โอ๊ยยย มันไม่ใช่ล่ะ 555555

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เขินมากเลยค่ะไรท์ โดยเฉพาะที่เฮียบอกว่า ‘ก็ให้คุณเลือกองศาจูบไง’ โอ้ยยย จิกหมอนแทบขาด >////<

สารภาพว่าเพิ่งมาชิปโด้เมสตอนนี้ (ช้ามากกกก) แล้วตอนนี้เฮียแกไปอยู่จูเวนตุสแล้ว จะมีมม.ให้เห็นอีกมั้ยก็ไม่รู้ T^T

ไม่รู้ว่าไรท์จะได้มาอ่านคอมเม้นนี้มั้ยเพราะนี่ก็ล่วงเลยมาหลายปีแล้ว 55555 แต่ชอบงานเขียนของไรท์มากเลยค่ะ อยากให้เขียนคูนี้อีก