สวัสดีค่ะ >//< มาลงให้แล้วค่ะ วันนี้ Part นี้น่าสนใจค่ะ เป็นฉากมือบุบที่ไรท์ได้เคยสปอยล์ไว้ค่ะ อร้ายยยย ยิ่งพูดก็ยิ่งอยากกัดมือตัวเองอีกค่ะ
//กัดไว้เดี๋ยวกรี๊ดแตก แม่จะด่าเอาค่ะ แฮ่ๆ //
มีรีดท่านหนึ่งเคยบอกไรท์ว่าอยากได้
การ์ดขอบคุณรีดๆ
เนื่องในโอกาสปิดฟิค RonalSi ของไรท์ค่ะ ไรท์ก็อยากให้มากๆ
เลยค่ะแต่อยากมีอะไรตอบแทนรีดที่อุตส่าห์ติดตามด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่มีไอเดียดีๆ เท่าไรเลยค่ะ แต่ว่าไรท์อยากแจกค่ะ!!
สำหรับแฟนคลับ RonalSi นะคะ ไม่ว่าคุณจะรักเค้าทั้งสองอย่างเหนี่ยวแน่นหรือไม่
ขอให้ติดตามเฟสของไรท์ไว้เนื่องๆ ค่ะ
เพราะวันดีคืนดีไรท์อาจจะออกมาประกาศแจกการ์ดขอบคุณให้แก่ทุกท่านค่ะ
ให้ทุกท่านได้ร่วมส่งรายชื่อในเวลาที่กำหนด......หากท่านใดช้า หมดเขต ท่านอาจจะพลาดโอกาสได้การ์ดและของขวัญขอบคุณจากไรท์ได้ค่ะ!
นี่คือเฟสของไรท์ค่ะ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เข้าไปแอดและทักทายกับไรท์ได้เสมอเลยค่ะ ไรท์ยินดีพูดคุยและแลกเปลี่ยนได้เสมอเลยค่ะ ^^ ไม่เพียงแต่คู่นี้ คู่อื่นๆ
ไรท์ก็เมาท์กระจายค่ะ 55555
ติดตามข่าวในเฟสของไรท์ไว้นะคะ
เอ่อ.....นี่หล่อนจะมาลงฟิคหรือโฆษณาชิงโชคกันแน่ยะ!! อ่อ ลืมไปค่ะรีด! อุ๊บ
ไรท์ลง Fic อยู่นี่นา
แฮ่ๆ Part นี้สนุกค่ะ ไปอ่านกันได้เลยค่าาาา ^0^
//รู้สึกเมื่อกี้น้ำลายแตกฟอง//
-------------------------------------------------------------------------------------------
............จะมีมากันอีก..........
“แต่คุณทำแบบนั้นได้ไง
ทำเค้าหมอบลงกับพื้นยังกะหมาโกลเดิ้นได้ยังไง!” ร่างเล็กพยายามแย่งกลับ
แต่ก็เพิ่งนึกได้ว่ามันไม่ใช่ของเค้า
โรนัลโด้ชูเสื้อนอกเนื้อดีของเค้าไว้เหนือศีรษะ แล้วนิ่งเพื่อคิด ก่อนพูดออกมาอย่างชัดเจน
“ผมชอบดูหนังน่ะ และผมก็ไปพิพิธภัณฑ์ของทหารผ่านศึกปีละครั้งด้วย
ผมเลยรู้ไง”
“แล้วคุณทำงั้นได้ไง!”
“ผมจำเค้ามาอีกทีหนึ่งน่ะ และลีโอ...คุณกำลังกลัวอีกแล้วนะ”
โรนัลโด้พูดเสียงนิ่ง
เมสซี่จึงหุบปากไปไม่ตะโกนอีก
“โอเค เราต้องไปแล้ว” ร่างสูงพูดแค่นั้น
ก่อนจะตวัดเสื้อนอกในมือคลุมหัวของเมสซี่ไว้ราวกับว่าเค้าเป็นโจรเรียกค่าไถ่มาลักพาตัวเมสซี่เสียเอง
โรนัลโด้ออกเดินในขณะที่เหน็บร่างเล็กๆ
ไปด้วย
แผ่นหลังแกร่งบดบังร่างของกัปตันอาร์เจนติน่าเอาไว้เมื่อผ่านเส้นทางที่แก็สพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับท่อประปาแตก
พวกเค้าวิ่งตรงมาจากฝั่งตรงข้ามที่ชายคนนั้นโผล่ออกมา
ชั่วอึดใจเดียวทั้งคู่ก็วิ่งขนานคู่กับเงาของตัวเองซึ่งสะท้อนมาจากกระจกของชั้นล็อบบี้ โรนัลโด้พยายามมองออกไปเพื่อเช็ดดูสถานการณ์ แต่อุปกรณ์ตกแต่งบดบังเค้า ร่างสูงจึงไม่ได้อะไรกลับมาเลย
โรนัลโด้เห็นเพียงแขกชายหญิงไม่กี่คนที่วิ่งกันอุตลุด
หลายคนโดนคนร้ายจ่อปืนใส่แล้วบังคับให้ถอดเครื่องประดับออก พวกมันยึดไป
แล้วมีผู้ชายในงานหลายคนที่โดนตรวจสอบใบหน้า
คาดว่าพวกนั้นคงจะกำลังตามหาเมสซี่อยู่เป็นแน่
โรนัลโด้กอดเมสซี่แน่น แล้วหันไปเจอชายถือปืนกลุ่มใหญ่ด้านหน้า แต่พวกนั้นไม่เห็นเค้า
เหมือนกำลังเข้าประจำตำแหน่งอะไรสักอย่างอยู่
และเสียงบู๊ตที่ไล่หลังเค้าทั้งคู่มาก็ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วด้วย
ทำยังไงดี
ถ้าวิ่งต่อไปพวกข้างหน้าจะต้องเจอเมสซี่แน่ แต่ถ้าหยุดวิ่งพวกข้างหลังก็จะเจออยู่ดี!
โรนัลโด้ไม่มีเวลาคิด เค้าหยุดวิ่งแล้วดึงเสื้อนอกออกมา
ก่อนจะสวมคืนให้กับตัวเอง
เมสซี่ยกมือขึ้นมาระดับปากแล้วอ้าปากค้างน้อยๆ ดวงตากลมโตฉายแววสั่นระริก
“อะไรเหรอ มีอะไร” ร่างเล็กถามเสียงสั่น เค้าเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นที่ขมับของร่างสูง
โรนัลโด้จับไหล่เค้าไว้แน่นก่อนจะพูดว่า
“จูบผม!”
“ห๊ะ! อะไรนะ!”
“คุณต้องจูบผม!”
“ไม่! ผมจะไม่จูบคุณ” เมสซี่มึนงง
ปะติดปะต่อสาเหตุคำพูดของร่างสูงไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เค้ายืดตัวแล้วหันหลังชนกระจกหนาแต่ใสแจ๋ว โรนัลโด้ทำหน้าเหมือนจะบอกว่า “ก็มันช่วยไม่ได้หนิ” แล้วพูดซ้ำ
“จูบผมสิ!” [เฮียใจเย็น!]
“ม่ายอ๊าววว!”
เมสซี่หลังเบียดกับกระจก หัวเด็ดตีนขาดเค้าก็จะไม่ยอมทำเด็ดขาด
โรนัลโด้จิปากอย่างติดจะหงุดหงิดแล้วต้องเป็นฝ่ายตรงเข้าไปจูบเมสซี่เสียเอง...........
.............ร่างสูงใช้มือทั้งสองทาบผิวแก้มใสของร่างเล็กไว้แล้วประกบปากเข้าไปอย่างไม่รีรอ
ริมฝีปากของทั้งสองประกบรอบกันพอดีแป๊ะ
เมสซี่หยุดหายใจ
ดวงตากลมโตของเค้าเบิกกว้างและจ้องค้างอย่างตกใจ
เค้าถอยหลังไม่ได้ แต่ถึงได้ก็คงไม่ทำเพราะเค้าไม่สามารถขยับขาของตัวเองได้อย่างใจสั่งเลย
มือเล็กทั้งสองข้างได้แต่เพียงยกขึ้นมาทาบคอแกร่ง และพยายามดันศีรษะของอีกคนหนึ่งออกไป
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเพราะคนรุกจับใบหน้าเค้าไว้แน่น จึงทำให้ดูเหมือนร่างเล็กสมยอมที่จะจูบอีกคนหนึ่งไปโดยปริยาย
เมสซี่หยุดหายใจ เค้าจ้องโรนัลโด้
และโรนัลโด้ก็จ้องตอบ.....ในระยะที่ใกล้จนประชิด ก็แหงล่ะ เค้าจูบกันอยู่นี่นา
ร่างเล็กรู้สึกถึงฝ่ามือที่เปลี่ยนเป็นอุ่นร้อนของคนที่จูบเค้าเลื่อนไปประคองไว้ตรงท้ายทอย แล้วกดเค้าให้เข้ามาใกล้อีก
แววเสียงวิ่งระรัวของบู๊ตเกือบสิบคู่
โรนัลโด้ก็ทำในสิ่งที่เมสซี่ต้องใจหายอีกครั้ง
ร่างสูงเบียดตัวเข้าหาอีกคนหนึ่งจนแผ่นหลังเบียดติดกระจก
และอกของเค้ากดทับกัน.......ไม่มีช่องว่างระหว่างเค้าทั้งสอง.............ร่างเล็กใจเต้นจนสั่นไปทั้งร่างกาย และทั้งคู่ก็ได้สัมผัสจังหวะหัวใจของกันและกัน
ทำให้เมสซี่ได้รู้ว่าพวกเค้าใจเต้นในอัตราที่เร็วและแรงพอๆ
กันเลย...............
เสียงบู๊ตที่วิ่งตามมาใกล้เข้ามาแล้ว
ร่างสูงที่มือหนึ่งประทับท้ายทอยร่างเล็ก
ก็ไล่อีกมือหนึ่งของเค้าไปตามแก้มเนียนใสของร่างที่มอบริมฝีปากให้เค้าตรงหน้า
มันอุ่นตัดกับอากาศเย็นของยามราตรีนี้เป็นอย่างยิ่ง
คนที่โดนจับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของฝ่ามือนั้น
และดวงตาคมที่บัดนี้ดูเปล่งประกายท่ามกลางความมืดสลัวภายใต้เงา
ก็ตวัดมองประสานกับดวงตากลมโตของอีกคนอย่างมีความหมาย ก่อนร่างสูงจะหลับตาลงแล้วเอียงหน้าปรับองศาการจูบให้ริมฝีปากของพวกเค้าจรดสัมผัสกันอย่างแนบชิด.........ไม่มีช่องว่างใดคั่นกลางพวกเค้าได้
แม้แต่อากาศก็ไม่อาจผ่านไป
โรนัลโด้หลับตาลงราวกับว่ามีเพียงแค่พวกเค้า ถึงแม้ไม่มีเหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ร่างสูงก็เหมือนจะขอให้เมสซี่เชื่อใจ
และใช่........เมสซี่เชื่อใจเค้า
ร่างเล็กจึงคล้ายมือแล้วโอบรอบคอของร่างสูง ก่อนจะหลับตาพริ้มแล้วรับจุมพิตนั้นบ้าง
โรนัลโด้กับเมสซี่กอดกัน
สวนคนที่วิ่งถือปืนห่อตะบึงมาทีหลังก็ชะลอความเร็ว
ชายคนแรกของแถวกำลังจะจ่อแยกทั้งคู่ออกจากกันเพื่อดูหน้า
แต่พอเห็นว่าบุคคลที่กำลังดูดปากกันนั้นเป็นผู้ชายทั้งคู่จึงทำหน้าราวกับเห็นผีแล้วพากันผละออกไปอย่างนึกรังเกียจ ก่อนจะวิ่งไปบอกพรรคพวกที่อยู่ด้านหน้า แล้วลงความเห็นกันว่าเผ่นหนีดีกว่า
การอยู่ในบริเวณนี่ที่มีผู้ชายจูบกันคงไม่ดีนัก
สำหรับเมสซี่โลกหยุดหมุนเมื่อเค้าเสียจูบให้กับโรนัลโด้ แต่ร่างสูงผู้จู่โจมก็ได้ยินทุกอย่าง
เสียงวิ่งที่หยุดอยู่ข้างเค้า
เสียงวิ่งดังต่อไปอีก
และเกิดเสียงพูดคุยกัน พวกมันพูดถึงพวกเค้าว่าจูบกันในที่โล่งแจ้งแบบไม่กลัวฟ้าผ่า
(ใช่ พวกมันพูดกันแบบนั้น)
กระทั่งพวกมันพากันวิ่งออกไปและห่างไกลจากพวกเค้าแล้ว
พวกมันไปแล้ว
ร่างสูงเลื่อนมือทั้งสองไล่ไปตามผิวแก้มนิ่มมืออย่างแผ่วเบาและอ้อยอิ่ง
ก่อนจะผละริมฝีปากออกมาอย่างต้องการจะให้มันแผ่วเบายิ่งกว่า แต่กลับเกิดเสียงดังขึ้น เพราะเค้าทั้งสองเผลอดูดกันจริงๆ โรนัลโด้ถอนปากออกมา ทั้งเค้าและเมสซี่ค่อยๆ คลายเปลือกตาขึ้น
บริเวณนั้นแทบไม่เหลือใครแล้ว
นอกจากพวกโจรที่อยู่ห่างออกไปและมองไม่เห็นพวกเค้า
แสงจันทร์สาดส่องโรนัลโด้และเมสซี่ที่ตัวติดกัน มือแกร่งข้างหนึ่งยังคงวางเกลี่ยอยู่บนพวงแก้มนิ่มของเมสซี่ ทั้งคู่ปากเจ่อ และขึ้นสีระเรื่อโดยเฉพาะเมสซี่
ทั้งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นประกอบกับบรรยากาศในตอนนี้คงจะทำให้ร่างทั้งสองยังคงถูกตรึงอยู่กับที่อีกนาน หากร่างสูงไม่ได้สติเสียก่อน
“เออะ เอ่อ....” โรนัลโด้กระพริบตา
“.......ผมขอโทษ” เค้าพูด
“ขอโทษครับ” เค้าพูดซ้ำอีกทีหนึ่ง
และเมสซี่ก็ก้มหน้างุด หันไปมองซ้ายบ้างขาวบ้าง เช่นเดียวกับโรนัลโด้ที่ก้มลงมองต่ำ แล้วเมสซี่ก็กระแอ่มไอ
ก่อนโรนัลโด้จะพูดเสียงเบา
“พวกนั้น....รับไม่ได้กับพวกเพศที่สามน่ะ
พวกเค้ารังเกียจพวกที่พระเจ้าทอดทิ้งหรือนั่นก็คือพวกที่รักกันเองนั่นเอง ผมเลยต้องทำแบบนี้เพื่อให้พวกนั้นเลิกสนใจคุณ”
เมสซี่นิ่งไม่ได้พูดอะไร เพราะพูดไม่ออก
สีแดงบนแก้มเค้าจากที่เป็นริ้วก็เปลี่ยนไปเป็นแดงทั้งหน้าแทน
“คุณน่าจะบอกเรื่องนี้กับผมก่อน” และท้ายที่สุดร่างเล็กก็พึมพำ
“ผมก็บอกคุณไปแล้วไง”
โรนัลโด้ยังคงพูดเสียงเบา
แต่น้ำเสียงเค้าฟังดูเหมือนจะบอกว่าตัวเองไม่ผิดนะ
“หมายถึงที่คุณสั่งให้ผมจูบคุณยังงั้นเหรอ!” เมสซี่เอ็ดเบาๆ
เนื่องจากห่างออกไปก็ยังมีพวกนั้นอยู่ประปราย
และตัวของเค้าทั้งสองยังคงสัมผัสกันแนบชิด
ยังไม่มีใครได้สติว่าต้องแยกตัวออกจากกัน
“นั่นผมให้โอกาสคุณ”
“โอกาส? โอกาสอะไร ผมนึกว่าที่ผมเลือกได้คือทำกับไม่ทำเท่านั้นเอง”
เมสซี่ทำหน้าเหมือนเค้าเป็นคนเดียวที่มีปัญหา
โรนัลโด้ก้มเข้ามาใกล้ขึ้นอีก
“ก็ให้โอกาสคุณเลือกองศาจูบไง”
เมสซี่หน้าร้อนและแดงแปร๊ด “โอ๊ยย
พอเลย
ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วผมรู้สึกเหมือน......เหมือนกับ อ้า ช่างมันเถอะ” ร่างเล็กระเบิดลงน้อยๆ
กับตัวเองก่อนจะหันหน้าหนีโรนัลโด้
ที่ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าควรถอยห่างออกมาได้เสียที
เมสซี่เม้มปากแน่น
“ให้ตาย อยากเก็บจูบผมไว้ก็ไม่บอก.....โอ๊ย!”
“เงียบไปเลยย!”
ร่างเล็กเอ็ดใส่คนที่หยอกเค้าเล่นอย่างเหลืออด
พร้อมทั้งชกเข้าไปเต็มแรงที่หัวไหล่ของคนแซวจนเจ้าตัวต้องโอดเสียงครวญ แต่กระนั้นร่างสูงก็ยังคงไม่หุบยิ้มของตัวเอง
“คุณสนุกงั้นเหรอ! และอีกอย่างผมไม่ได้อยากเก็บจูบของคุณไว้สักหน่อย”
ร่างเล็กเอ็ดไม่หยุด
แต่ทุกประโยคของทั้งคู่ก็เป็นเพียงแค่การสนทนารอดไรฟันเท่านั้น
จึงไม่เสียหายหากพวกเค้าจะต่อล้อต่อเถียงกันสมใจร่างสูง
“ไม่เอาน่าลีโอ ผมแค่ไม่อยากให้คุณเครียด.......เฮ้
นี่ต่อยจริงเหรอ ผมเจ็บจริงนะเนี่ย อูยย” โรนัลโด้กุมไหล่
เมสซี่เอาหัวชนกระจกแล้วซบค้างไว้...........เค้าอายเกินกว่าจะพูดต่อแล้ว
“โอเค ไปเถอะ
เราต้องไปแล้ว” โรนัลโด้เลิกเล่นแล้วดึงข้อมือของเมสซี่ไว้ ร่างเล็กเดินตามและยกศีรษะตามมาทีหลัง เค้าชักไม่อยากเดินตามแล้วเมื่อรู้ว่าโรนัลโด้ก็เป็นคนช่างแซวเช่นเนย์มาร์
ร่างเล็กหน้ามุ้ย เมื่อนึกถึงคำว่า “ก็ให้โอกาสคุณเลือกองศาจูบไง”
ของโรนัลโด้
..................นั่นมันตัดโอกาสพูดต่อของเค้าชัดๆ
...................
ในขณะที่ร่างเล็กกำลังปล่อยให้ข้อมือของตัวเองถูกฉุดไปเรื่อยๆ
และใบหน้าก็ร้อนไม่หายอยู่นั้น
โรนัลโด้ก็หันมาพูดเสียงเรียบกับเค้า
แต่เมสซี่รู้สึกได้ถึงความประหม่าน้อยๆ ในน้ำเสียงนั้น
“แต่ผมว่าความเชื่อเรื่องเพศที่สามของพวกเค้ามันไม่ถูกนะ
พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา.....ไม่ว่าใครก็ตาม”
สายตาของร่างสูงไม่ได้เฉียบคมเด็ดเดี่ยว
แต่เป็นครุ่นคิดอยากออกความคิดเห็น
เมสซี่มองโรนัลโด้ตอบ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
เพราะไม่คิดว่าร่างสูงจะพูดถึงเรื่องนี้ เค้าแอบเห็นแวววาบหวามและใบหน้าที่ขึ้นสีเข้มขึ้นของร่างสูงด้วย
ร่างเล็กได้ข่าวว่า ถ้าหากมีเวลาว่างแล้วโรนัลโด้ก็จะเข้าโบสถ์ทุกๆ
วันอาทิตย์เสมอ
การมองโลกในแง่ดีเช่นนี้คงจะเป็นสิ่งดีๆ ที่คนบนโลกนี้ควรมี
เช่นเดียวกับโรนัลโด้ที่กำลังพาเค้าวิ่งตามทางไปเรื่อยๆ
ร่างเล็กสังเกต
ร่างสูงตรงหน้าเค้าหันไปมองล็อบบี้ของโรงแรมผ่านกระจกเป็นพักๆ
ในขณะที่พวกเค้าวิ่งเหยาะๆ ไปตามขอบสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สีหน้าของโรนัลโด้แม้อ่านไม่ออก แต่เมสซี่ก็รู้ว่าเค้าทั้งสองต้องออกไปข้างนอกได้แน่ๆ เค้าทั้งคู่วิ่งช้าๆ ต่อไป
..............ถึงแม้มันจะน่าอารมณ์เสียไม่น้อยที่อีกเคยเอื้อม พวกเค้าก็จะออกไปกันได้อยู่แล้ว แต่เมสซี่ก็ไม่คิดเช่นนั้นเลย
เค้าไม่ต้องการให้โรนัลโด้ลำบากมากไปกว่านี้เพื่อเค้าอีกแล้ว ร่างสูงใจดีกับเค้าที่แทบไม่รู้จักกันมากๆ
เมสซี่ไม่รู้จะขอบคุณอีกคนด้วยคำพูดเช่นไร...........
เมื่อวิ่งช้าๆ
เพื่อสังเกตการณ์ผ่านกระจกใสในชั้นล็อบบี้แล้ว
โรนัลโด้ก็มาหยุดอยู่ตรงผนังซีเมนต์ถัดมาจากกระจกใสซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งจากที่พวกเค้าวิ่งมา
ร่างสูงแนบแผ่นหลังกับผนังปูน
เช่นเดียวกับที่เค้าบอกให้ร่างเล็กทำเช่นเดียวกัน
“ไม่มีทางออกเลย พวกมันปิดไว้หมด สิบคนตรงประตูทางออก....ถือปืน ไม่มีทางออกอื่นแล้ว
นอกจากเราจะอ้อมไปซึ่งมันเสี่ยงมากเกินไป” ร่างสูงรายงานสถานการณ์สั้นๆ
เมสซี่ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงต่อไป
จึงหอบหายใจหนักตอบไปแทน
ร่างสูงมอบไปรอบๆ เค้ากวาดตาแล้วพูดขึ้นในที่สุด
“งั้นเราก็ต้องอ้อมไปแล้วล่ะ ถ้าออกทางประตูหน้าแล้วมันจะเจอพวกเราจริงๆ
ล่ะก็......จะให้พวกนั้นเห็นคุณไม่ได้”
“ดะ เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนคริส......หวาา”
ร่างเล็กกำลังจะออกปากห้าม ให้รอสักพักหนึ่งก่อน
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว โรนัลโด้กระชับข้อมือของเค้าแล้วออกแรงดึงไปเสียแล้ว
คุณสนุกนักเหรอ
ที่ได้เสี่ยงตายแบบนี้บ่อยๆ น่ะ!.........เมสซี่กู่ร้องในใจ
แต่แล้วพอวิ่งไปได้ยังทันถึงมุมตึกดี
ร่างสูงของชายโปรตุเกตุก็ต้องชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน เมื่อมีเสียงย่ำบู๊ตดังขึ้นทางด้านหน้าของพวกเค้านี่เอง
“บ้าเอ้ย” โรนัลโด้สบถ
“เกิดอะไรขึ้น”
“ผมไม่แน่ใจว่าพวกมันมีกำลังเสริมกันมารึเปล่านะ แต่มันดูยั้วเยี้ยมากขึ้นทุกทีเลย”
ร่างสูงพูดไว้แค่นั้นก่อนจะดึงเมสซี่ไปหลบอยู่ตรงรูปปั้นตกแต่งสระว่ายน้ำที่ใกล้ที่สุด
ทั้งสองทิ้งตัวลง และกระแทกหลังเข้ากับฐานสี่เหลี่ยมสูงและแข็งแรง
พวกเค้าถูกบังจนมิด
“เราอ้อมไปไม่ได้ใช่ไหม”
โรนัลโด้ไม่ตอบ เอาแต่ชะโงกหน้ามองไปข้างหลัง เค้าดูเหมือนได้กลับไปเข้าค่ายฤดูร้อนอีกครั้ง
ในช่วงที่ฝึกการเอาตัวรอดในป่า และใครที่เอาธงแคมป์กลับมาได้เป็นคนแรกจะเป็นผู้ชนะ
และเมสซี่คิดว่าโรนัลโด้จะต้องเป็นคนแรกแหงๆ
“เราไม่จำเป็นต้องอ้อมไปก็ได้นะ แค่รอให้พวกนั้นเดินไปลาดตระเวนที่อื่นก่อน
แล้วเราค่อยออกไป”
“ไม่ คุณดูสิ....” ร่างสูงกระซิบ
พร้อมชี้ให้เมสซี่ดู เหมือนเค้าชี้ให้อีกคนหนึ่งดูกระต่ายโดดออกมาจากพุ่มไม้ เมสซี่ชะโงกหน้า
“พวกที่อยู่ข้างหน้านั่น สิบคนถืออาวุธ เราห่างจากคนข้างนอกพอสมควร ผมไม่เห็นตำรวจเลย ตายกันหมดแล้ว...”
“คุณรู้ได้ไง” คนที่อยู่ข้างๆ
เสียงเล็กลง
“ผมเห็นศพพวกเค้า”
เมสซี่เกือบลมจับ
“เพราะฉะนั้นไม่มีใครช่วยเรา พวกที่วิ่งมาลาดตระเวนเมื่อกี้ผ่านไปแล้ว
คุณเลิกทำตัวลีบติดรูปปั้นได้แล้วล่ะ.....ลีโอ ไม่เอา อย่าทำอย่างนั้น ผมบอกว่าเค้าไปกันหมดแล้วไงครับ ไม่ต้องกลัว”
“คุณชัวร์ไหม ว่าเค้าจะไม่ฆ่าเราทันทีที่เจอน่ะ”
เมสซี่ถูกโรนัลโด้แกะออกมาจากฐานรูปปั้น
ร่างสูงส่ายหน้า
นึกอยากหยิกแก้มของอีกคนเล่น
เมสซี่ทำให้เค้านึกถึงเนตรนารีที่มาเคาะประตูเพื่อขายคุกกี้ให้กับเค้าในวันหยุด
“ไม่ ผมแน่ใจ มันไม่ทำอย่างนั้นแน่”
รอยยิ้มละมุนปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา
“และผมเชื่อว่า...”
“คริส! ข้างหลังคุณ!” ร่างเล็กเขย่าปกเสื้อของคนตรงหน้าที่มัวแต่พูดกับเค้าจนลืมฟังเสียงไป
.
.
.
TBC.
----------------------------------------------------------------------------------------------------
อร้ายยยยยยยยย
เฮียยยยยยยย!! >///<!!!! นี่มันอาร้ายยยยยยยยยย “จูบผมสิ!” ใจเย็นค่ะเฮียขาาา อ้าาาา งานนี้ต้องตรงเข้าไปจัดการเองด้วยความเร็วสูงเลยนะคะ
5555555+
เฮียทำไรท์เขินนะคะเนี่ย
อ่านไปก็....อ้าวเฮ้ยย! //เหมือนลืมไปว่าตัวเองเขียนฉากนี้ด้วย
ทำไมมันโผล่มาเร็วจัง -..- // เฮีย อูยยยยย! หมะ เหมียววว.....เหมียวไม่ปากแตกไปแล้วรึค่ะนั่น 5555+
รีดรู้สึกเขินเหมือนไรท์ไหมคะ ถ้าใช่ ก็คอมเม้นท์บอกเล่ากันด้วยนะคะ
-/////- ฮร้ายยย
เฮียนี่พระเอกแอบร้ายนะคะเนี่ยยย เจ้าเล่ห์เป็นที่สุดอ่ะ
Part หน้าก็มีโมเม้นท์ของทั้งคู่มาให้ได้ยิ้มกันอีกค่ะ ติดตามกันด้วนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวกลับไปปั่นฟิคต่อก่อนนะคะ M_
_M รักรีดจุงเบยยยยยย
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray – Aund
ป.ล. อย่าลืมติดตามข่าวในเฟสของไรท์นะคะ
มันอาจมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว เหอๆ
5 ความคิดเห็น:
นั่นไง...ทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนาอีกแล้ว จะเกิดอะไรต่อไป!?
โอ้ย! เขินมากกก~~ ไม่กัดหลังมือบุบเหมือนไรท์เตอร์ แต่กัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดเกือบออก 555 //ดีเลือดไม่ออกนะ ยังได้อยู่ค่ะ//
อยากจะกรี๊ดดดจริงๆๆ 'จูบผมสิ' แหม่ๆคริสเตียโน่~~ นี่ก็พูดออกมาถามลีโอหรือยัง เขินจริงๆ อยู่ดีก็บอกให้จูบผมสิ ใครจะไม่เขิน โดยเฉพาะลีโอ คงจะเขินสุดๆไปเลยเนอะคะ XD แต่ดูเหมือนคริสจะรอไม่ไหวนะ //ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละ//
ตอนนี้มันช่างกิ๊บกิ้วอะไรอย่างนี้ อืม...สองคนนี้รู้สึกว่าใกล้ชิดกันแค่ไม่นาน จะมีความรู้สึกที่(เริ่มจะ)ลึกซึ้งต่อกัน ช่างน่ายินดีจริงๆ :):) เพิ่งจะรู้นะว่าพ่อยอดชายของพวกเราจะชอบแซวลีโอเหมือนเนย์มาร์ ...คริสเขาเอ็นดู(?)นะลีโอ
ชอบบบ~
ฟินแป๊บ อือหือออออ ทำไมมันมุ้งมิ้งเช่นนี้ล่ะคะไรท์ น่ารักจังเลยคู่นี้ >///<
ดามเมจประโยคนี้มาก"จูบผมสิ" /ใจเย็นค่ะพี่ (ดึงแขนเสื้อพี่โด้ไว้)/ เหมียวเขินแย่สิคะ พูดตรงๆแบบนั้น แต่หลังพี่โด้เริ่มมีเกรียน 555
แหมะ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเฮีย ทำเอาเหมียวเขินเลย(คนอ่านก็เขินตาม) -////-
เหมียวน่าร๊ากกกก เฮียก็เก่งซะ เก่งจนน่าหมั่นไส้ คนอาไร๊!! ทำได้ทุกอย่าง
พวกโจรเพิ่มระดับความซีเรียสขึ้นซะแล้ว ตอนหน้าจะเป็นยังไงนะ ลุ้นๆๆ
ง่อวววววววววว จูบกันแล้วววววววววววว >//////<
ฟินมากกกก มุ้งมิ้งมากที่สุดดด
แซวน่ารักมาก "ให้โอกาสคุณเลือกองศา" โอ๊ยยย มันไม่ใช่ล่ะ 555555
เขินมากเลยค่ะไรท์ โดยเฉพาะที่เฮียบอกว่า ‘ก็ให้คุณเลือกองศาจูบไง’ โอ้ยยย จิกหมอนแทบขาด >////<
สารภาพว่าเพิ่งมาชิปโด้เมสตอนนี้ (ช้ามากกกก) แล้วตอนนี้เฮียแกไปอยู่จูเวนตุสแล้ว จะมีมม.ให้เห็นอีกมั้ยก็ไม่รู้ T^T
ไม่รู้ว่าไรท์จะได้มาอ่านคอมเม้นนี้มั้ยเพราะนี่ก็ล่วงเลยมาหลายปีแล้ว 55555 แต่ชอบงานเขียนของไรท์มากเลยค่ะ อยากให้เขียนคูนี้อีก
แสดงความคิดเห็น