MaLec มาแล้วค่าาาา
--- ^^ รีดๆ ที่เป็นแฟนของทั้งสองคนนี้คงจะบ่นหากันนานแล้วว่าเมื่อไร
Nc ของคู่นี้จะมา......ไรท์ขอบอกเลยค่ะว่าใกล้แล้วค่ะ ไรท์เพิ่งเขียนเสร็จไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ แหม่......กว่าจะเขียนเสร็จนี่บอกเลยค่ะว่าเลือดเกือบจะเยิ้มออกมาเสียให้ได้ ไรท์ก็คิดในใจค่ะ แม็กนัสจะเสียบก็เสียบเถอะ จะลีลาอะไรนักหนา..............อ๊ากกก
ข้ามไปค่ะ –[]-
-.,- รู้สึกว่าช่วงนี้ปล่อยปากไปไวกว่าใจค่ะ ใน Part นี้แม็กนัสเค้าจะ
!@*&^(*)&&*^*+_((16/* ค่ะ ^^ //ผั๊วะ!!// เดี๋ยวรีดก็รู้แล้วอ่าาา ไปอ่านกันเลยค่ะ
555.........รู้สึกช่วงนี้ไรท์มึนๆ ค่ะ ค่อนไปทางรั่วเสียด้วยซ้ำนะเออ ฮาาาา
---------------------------------------------------------------------------------------------
ขณะนี้ร่างบางที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวเก่งและกางเกงสีดำเข้ารูปกำลังยืนอยู่หน้าห้องประตูไม้บานหรูของดารานายแบบชื่อดังที่สุดคนหนึ่งของวงการ
ข้อมือบางที่สวมสายรัดแขนสีดำซึ่งตัดกับสีผิวได้อย่างเด่นชัดยกค้างกลางอากาศ ก่อนริมฝีปากบางจะขบเม้มเข้าหากัน
แล้วอเล็คก็บรรจงกดกริ่งหน้าประตูนั้นเข้าไป
***********************************************************************************
..............
............
......เงียบ......
------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ผมนั่งอยู่บนโซฟาตัวงามกดรีโมททีวีไปเรื่อยๆ
พอได้ยินเสียงแปลกใหม่ของวันดังขึ้นก็รีบหันคอควับไปมองทันที
............ให้ตายสิ ใครกันนะ?
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
ก็ผมบอกพวกเค้าไว้แล้วหนิว่าต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆ
แล้วนี่ปล่อยให้ใครเข้ามาอีก............
ผมแค่อยากอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าทำไมแต่........
โอ้ เอาเถอะ ผมคงต้องไปเปิดประตูใช่ไหม!
ผมลุกขึ้นติดจะหัวเสียนิดๆ เดินอ้อมโซฟาสีม่วงเข้มตัวโปรดของตัวเองไปบนพื้นห้องที่เพิ่งสะอาดสะอ้านของผม........
อ่อใช่.......แม่บ้านเพิ่งจะมาทำความสะอาดเมื่อเช้านี้เอง ป้าคนนั้นดูตื่นตะลึงกับสภาพห้องที่รกน้อยๆ ของผมเป็นอย่างมาก........อะไรกันก็แค่ถูกปล่อยไว้แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง
และสุดท้ายแล้วป้าคนนั้นก็ชวนเพื่อนของป้ามาแท็คทีมช่วยกันเก็บกวาดห้องอันกว้างขว้างของผมให้สะอาดเอี่ยมภายในเวลาไม่นานนัก เมื่อผมยืนกรานว่าจะไม่ออกไปข้างนอก ผมนั่งรออยู่ในห้องนี้เพราะไม่มีกะใจอยากจะออกไปข้างนอกหรือเที่ยวเล่นอะไรเลย
และผมก็รู้สึกแปลกใจมากที่เอลซ่าไม่แอบเข้ามาทำความสะอาดอย่างที่เธอชอบทำบ่อยๆ ผมเคว้งคว้างขึ้นเหมือนมีหลายสิ่งหายไป
แต่เพียงแค่เอลซ่าไม่ได้ย่องเบาเข้าห้องผมก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรขนาดนั้น ผมแค่คิด.......แค่รู้สึกว่ามันแปลกไป
ตั้งแต่วันที่ผมทะเลาะกับอเล็คทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนไป........
...........อเล็ค.........
อ่า
ผมคิดถึงเค้าอีกแล้วในขณะที่จู่ๆ ก็หยุดเดินเสียอย่างนั้น
อเล็คทำให้ผมหยุดชะงักมาได้ตลอดเวลาเกือบสิบวันนี้แล้ว
ผมยอมรับ เป็นผมเองล่ะที่หาเรื่องทะเลาะกับเค้า
เพราะผมต้องการให้เค้าเลิกคิดว่าผมชอบและเลิกคิดถึงผมเสียที
อันที่จริงผมไม่โทษเค้าหรอกที่ชอบผม
บางทีอาจเป็นเพราะผมทำตัวเหมือนพี่ชายคอยบอกนี่ห่วงนู่นไปหมด
อเล็คที่เคยงึมงำว่าอยากมีพี่ชายก็เลยติดผมแจเสียอย่างนั้น
...........ผมก็ชอบนะที่เราทำตัวติดกันแบบนั้น
แต่เราไม่ได้อยู่ไฮลสคลูหรือมหาลัยกันแล้วและผมก็รักผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างหมดหัวใจ............
ผมมีแฟนแล้วและไม่แน่อาจจะเต่งงานในไม่ช้า
ถ้าถึงเวลานั้นอเล็คคงจะรู้สึกแย่ที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ผมห่างเหินจากเค้ามากขึ้นเมื่อคบกับเอลซ่า
เพราะเธอทำตัวเป็นแฟนที่ดีเหลือเกิน
ผมเลยชอบที่จะอยู่กับเธอบ่อยๆ ไปนู่นมานี่
พอพูดอะไรเธอก็จะยิ้มและพยักหน้ารับอย่างอ่อนหวานเสมอ ผมไม่รู้จะหาผู้หญิงที่แสนดีขนาดนี้ได้ที่ไหนอีกแล้ว..........
[ขออนุญาตนะคะ......แม็กนัสไอ้ความยย!
ขอหน่อยเหอะ ทนไม่ไหวแล้วค่ะ -{}- : Ray - Aund ]
ผมเชื่อว่าในที่สุดอเล็คคงจะเข้าใจและเข้าหาผมน้อยลง
แต่ว่าให้ตายเถอะพระเจ้าคงจะเล่นตลกกับผมจนเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วเพราะผม –
คิดถึง – อเล็ค – อีกแล้ว!
นี่ขนาดใครก็ไม่รู้มาก่อกวนผมถึงหน้าห้องนะเนี่ย
ผมยังมีกะใจจะคิดถึงว่าตอนนี้อเล็คเป็นอย่างไรบ้าง........ถ้าผมเปิดออกไปแล้วโดนบ่นว่ามาเปิดช้านะผมจะด่ากลับไปเลยล่ะ
ให้ตาย ก็นี่พื้นที่ส่วนตัวผมนี่
ผมสูดหายใจยืดตัวตรงก่อนจะพ่นออกมาแล้วหลังงอเหมือนเดิม แล้ววางมือบนลูกบิดอย่างเกียจคร้าน
----------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------
......เงียบ......
เงียบฉี่เลยแฮ่ะ หัวใจของอเล็คเริ่มสูบฉีดเลือดแรงขึ้น
มันดังจนแทบจะเด้งออกมาได้อยู่แล้ว
หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรให้เค้าต้องเข้าไปโดยพละการเหมือนอย่างตอนนั้นอีกหรอกนะ
อเล็คเริ่มใจไม่ดี
แต่แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นและหัวใจของอเล็คก็เต้นแรงอีกครั้ง
แม็กนัสเปิดประตูมาแล้ว
แม็กนัสท้าวแขนกับลูกบิดราวกับว่าไร้เรี่ยวแรง
แต่นั้นเป็นเพราะเจ้าตัวกำลังขี้เกียจอยู่ต่างหากล่ะ........อเล็คจำได้เสมอ
แต่พอรู้แล้วว่าเป็นใครกันที่มารบกวนเค้าแต่เช้า แม็กนัส
เบนก็รีบสะบัดความง่วงงุนและเกียจคร้านทั้งหลายทิ้งไปราวกับถูกเตะโดยอัตโนมัติ..........ก็ในหัวเค้าน่ะทั้งปรากฏใบหน้าและเรียกร้องอเล็คมาเป็นอาทิตย์แล้ว!
ไม่ใช่เอลซ่าหรอกที่เค้าเคยบอกและหลอกตัวเองไว้......ไม่ใช่เธอเลยสักนิด
แล้วอเล็คเข้ามาอยู่ในจิตใต้สำนึกของเค้าได้รุนแรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันและมันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร แม็กนัสก็ไม่สามารถตอบได้เลย เพราะมันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แต่ไหนๆ อเล็คก็มาอยู่ตรงหน้านี่แล้วสินะ
แม็กนัสยืดตัวตรง สภาพเค้าในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากตอนก่อนหน้านี้ที่อเล็คมักจะเจออยู่เสมอนั่นล่ะ ปราศจากเสื้อแสงติดกายและแม็กนัสก็ปิดปากเงียบ
“งะ ไง อรุณสวัสดิ์” จนกระทั่งต้องเป็นอเล็คเองที่เริ่มพูดเป็นคนแรกเพื่อทำลายความเงียบที่ชวนน่าอึดอัดนี้
ร่างบางกำลังหวั่นว่าเค้าจะโดนแม็กนัสปฏิเสธหรือเปล่า
แต่กลับไม่มีคำพูดขับไสไล่ส่งจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้า.......แม็กนัสไม่ได้มีท่าทีเช่นเดียวกับครั้งล่าสุดที่พวกเค้าได้เจอกัน
เยี่ยม! อเล็คเริ่มรู้สึกดีที่กาแฟของเค้ามีโอกาสไปถึงมือแม็กนัสมากขึ้น
“อืม อรุณสวัสดิ์อเล็ค....”
และแล้วแม็กนัสก็ทำในสิ่งที่อเล็คไม่คิดว่าเค้าจะได้รับ
เพื่อนร่างสูงทักทายตอบเค้าด้วยน้ำเสียงที่ไม่ติดจะประชดประชันเช่นเมื่อก่อน.......เสียงของแม็กนัสฟังดูอ่อนลงมาก แต่อเล็คก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ร่างบางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ
แม็กนัสมองตอบ ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
อเล็คหายใจยากขึ้น
และเริ่มคิดแล้วว่าเค้าควรจะบอกเรื่องนั้นกับแม็กนัสอย่างไรดี เค้ายกกาแฟควันฉุยขึ้นมาคั้นกลางระหว่างกันและกันไว้
ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง
“คือฉัน” อเล็คพูดแค่นั้นก่อนจะดันกาแฟไปข้างหน้า แม็กนัสรู้และรับมันไว้แต่โดยดี.......ครั้งก่อนร่างสูงเคยพูดอะไร
ตอนนี้กลับลืมมันไปเสียแล้ว
แม็กนัสรู้สึกยินดีอย่างน่าประหลาดที่ได้เห็นหน้าอเล็คอีกครั้งในแบบไร้คราบน้ำตา ในใจร่างสูงอยากจะถามว่า “นายสบายดีไหม”
ออกไป
แต่ก็กลัวว่าจะโดนอเล็คทำหน้าขุ่นเคืองแล้วพูดว่า “โดนนายด่าไปแล้วคิดว่าฉันจะรู้สึกดีอยู่หรือไง!”
(แม็กนัสมักคิดมากไปเองในบางเวลา)
“ขอบคุณสำหรับกาแฟ”
ร่างสูงจึงเลือกพูดประโยคขอบคุณก่อน เมื่ออเล็คทำท่าจะถอยห่างออกไป
.............วันนี้ไม่มีคุกกี้
แสดงว่าอเล็คยังไม่ได้เข้าร้าน...........
อเล็คยิ้มน้อยๆ
ตอบรับคำขอบคุณนั้นของแม็กนัส
แต่ทว่าในใจของชายหนุ่มผมสีดำขลับกลับพองโตจนแทบจะทะลุออกมาจากอกได้อยู่แล้ว อเล็คยิ้มให้แม็กนัส
เพื่อเป็นเชิงบอกว่าเค้าไม่ได้โกรธแม็กนัสในเรื่องของวันนั้น
และเมื่อเห็นเช่นนั้นแม็กนัสที่ขมวดคิ้วเพราะกลัวอเล็คจะวิ่งหนีเค้าไป
ก็ถึงกับต้องคลายปมที่หว่างคิ้วออก
สีหน้าของแม็กนัสดูจะคล้อยยิ้มตามอเล็คไปด้วย เพื่อนร่างสูงผิวสีแทนกำลังจะออกปากถามบางอย่างไป
แต่จู่ๆ เสียงมือถือของเค้าก็ดังขึ้นขัดจังหวะขึ้นมาเสียนี่
อเล็คสะดุ้งกระพริบตาไม่สบกับแม็กนัสอีก
ในขณะที่แม็กนัสอารมณ์เสีย
ใครอีกฟะ!.........ร่างสูงสะโอดสะองคิดสถบในใจก่อนจะทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อเล็คก็ก้มหน้าหนีเค้าเสียแล้ว
“นายรอตรงนี้ก่อน”..........แม็กนัสอยากจะพูดออกไปแบบนั้นเพื่อให้อเล็ครั้งรอเค้าก่อน
แต่หากนั้นก็หมายความว่าจะทำให้เสียเวลางานของอเล็คด้วยเช่นกัน
(แม็กนัสไม่รู้เรื่องที่อเล็คป่วยและหยุดงานไปหลายวัน)
แต่ว่าแม็กนัสอยากคุยกับอเล็ค
“อเล็คเดี๋ยวก่อน......” และในท้ายที่สุดแล้วจนเกือบในเวลาที่ร่างบางกำลังจะหมุนตัวแล้วลากลับไป
ร่างสูงที่กำลูกบิดประตูอยู่ก็เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่ทว่ากลับเรียกให้ร่างของอเล็คหยุดชะงักได้อย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
............แม็กนัสยอมคุยกับเค้าด้วย ทั้งๆ ที่คิดว่าอาจจะเกลียดเค้าไปแล้วแท้ๆ
.............
แต่ก็ไม่สินะ ใช่ไหม?
อเล็คหันกลับมา
ฝืนความพยายามที่จะฉีกยิ้มไว้ในใจ
แม็กนัสทำหน้าเหมือนตอนที่เห็นอเล็คใส่เสื้อเชิ้ตที่เค้าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีที่แล้ว
“ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับนาย....หลังเลิกงานแล้วนายช่วยมาหาฉันหน่อยได้ไหม”
“หา”
อเล็คเลิกคิ้วใส่คนที่เอ่ยปากชวนเค้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เมื่อคำพูดที่แม็กนัสนั้นคุยกับเค้าช่างเหนือความคาดหมายเสียจริง........ไม่เพียงแค่แสดงออกมาว่าไม่ได้โกรธอเล็คเท่านั้นแต่ยังอยากคุยกับร่างบางอีกด้วย
นั่นจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสุดๆ
ได้รึเปล่านะ?
อเล็คลอบกัดริมฝีปากบางเฉียบของตัวเองซึ่งเป็นสีชมพูประกายมุขระเรื่อเพราะต้องใช้ความพยายามมากเข้าไปอีกเมื่อเค้าอยากจะยิ้มออกมาเสียให้ได้.........แต่มันดูจะออกนอกหน้าเกินไป
“อืม ได้สิ....ฉันจะมาหานาย” ร่างบางว่า แต่รอยยิ้มน้อยๆ น่ามองก็เล็ดรอดออกมาจนได้
แม็กนัสทำหน้าเหมือนเห็นอเล็คใส่เสื้อเชิ้ตตัวนั้นอีกครั้ง
รอยยิ้มของอเล็คน่ามองเสมอ แม็กนัสเองก็เพิ่งจะจำได้...........
ร่างสูงสะโอดสะองดีกรีนายแบบฮอตอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ
ตอบไปบ้าง.......แม็กนัสรู้สึกหัวใจกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง และในเวลาเดียวกันมันก็รู้สึกกระตุกไม่น้อยเลยที่เคยทำร้ายจิตใจร่างตรงหน้าไป.......เค้าทำผิดไป แม็กนัสเพิ่งรู้ตัวว่าทำผิดไป
ทั้งสองมองตากันเล็กน้อย
ก่อนจะบอกลากันและแยกจากกันแต่แล้วก็เกิดเสียงดังกรีดแก้วหูของพวกเค้าขึ้น มันดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งจนอเล็คต้องเผลอสะดุ้งตามสุดตัว
ก่อนจะเป็นแม็กนัสเองที่วิ่งออกมาจากห้องเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์แล้วเข้ามากอดอเล็คไว้เมื่อจู่ๆ
ก็มีแสงไฟสีแดงวาบขึ้นไปมา พร้อมกับเสียงที่ดังเสียดแก้วหู เสียงโทรศัพท์แม็กนัสดับไปแล้วเมื่อไม่มีการตอบรับ
อเล็คตกใจแน่นอนอยู่แล้ว แต่แม็กนัสทำให้เค้าตกใจยิ่งกว่า
.........ทำไมถึงกอด? ทั้งๆ
ที่นายเคยบอกว่าไม่ชอบ ทำไมถึงออกมาหา?
ทั้งๆ ที่นายบอกว่าไม่อยากเจอหน้าฉันอีก.........
อเล็คไม่เข้าใจ
แม็กนัสทำเอาเค้างุนงงยิ่งกว่าสถานการณ์ตอนนี้เสียอีก ร่างสูงรูปร่างดีที่กอดรัดอเล็คจากข้างหลังอย่างตื่นตัวนั้น ได้ยินเสียงผู้คนดังแว่วมาด้วย คนพวกนั้นพูดกันว่า
ไฟไหม้!
ก่อนแม็กนัสจะเงยหน้าไปบนเพดานเจอสปริงเกอร์ที่จ่ายน้ำพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ไฟไหม้น่ะ....อะไรกันบ้าฉิบ”
ร่างสูงผิวเข้มว่า แต่ก็ยังคงไม่ยอมคลายกอดจากอเล็ค
“เหรอ ไม่เห็นได้กลิ่นควันเลย....นายได้กลิ่นไหม?”
อเล็คที่เริ่มตื่นตัวตามสถานการณ์แล้วเมื่อได้ยินคำว่าไฟไหม้
ร่างบางสังเกตสิ่งรอบตัวตามสัญชาติญาณและถามความเห็นจากแม็กนัสเช่นที่พวกเค้ามักจะทำกันบ่อยๆ
ในตอนที่ยังเรียนอยู่ด้วยกัน
แม็กนัสยืดหลังขึ้นตรงแล้วส่ายหน้า
“สงสัยจะเป็นแค่ประกายไฟเล็กๆ
น่ะ
ที่นี่เข้มงวดมากเรื่องไฟไหม้ก็เลยแฉะไปทั่ว อเล็ค.........โอ๊ยตายแล้ว ชุดนายอเล็ค!”
แม็กนัสว่าเสียงดังราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ก่อนจะลากอเล็คหลบกระแสฝนจากสปริงเกอร์ตรงระเบียงไปที่ห้องของเค้า
“ให้ตาย...บ้าชะมัดเลย” เจ้าของห้องที่เข้ามามีหยดน้ำพราวเกาะเต็มตัวจนหยดติ้งๆ
ลงพื้น
แม็กนัสสะบัดน้ำออกจากตัวอย่างไม่ค่อยชอบใจในเหตุการณ์เมื่อครู่เสียเท่าไหร่นัก
แต่ผู้มาเยือนนี่สิ
ถึงกับยืนแข็งทำอะไรไม่ถูกไปเลย.......เหมือนโลกตีกลับสำหรับอเล็ค เมื่อแม็กนัสทำเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอีกครั้ง เป็นห่วงในเรื่องที่ตัวเค้าเองก็ไม่คิดจะใส่ใจ
---------------------------------------------------------------------------------
“นายเปียกอีกแล้วนะอเล็ค
ฉันอยู่ห่างนายตอนหน้าฝนไม่ได้เลยสิน่า”
“แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก
เดี๋ยวก็เปลี่ยนชุดแล้ว”
“อย่ามาตีหน้าใสใส่ฉันนะเจ้าหนูกินน้ำฝน....ทำไมนายถึงไม่เคยพกร่มกับเค้าเลยนะ”
“ก็ฉันไม่ชอบนี่...”
เด็กที่โดนดุทำหน้าหงอยขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงสิ่งที่เค้าไม่ชอบที่สุดในหน้าฝน แม็กนัสเห็นแล้วก็ดุไม่ลง
จึงต้องลดมือที่ท้าวเอวลงก่อนจะถอดแจ็คเก็ตของตัวเองออกมาวางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้ออีกตัวของตัวเองออกมาเช็ดผมให้อเล็ค
“ถ้านายไม่ชอบก็ต้องกลับบ้านพร้อมฉันตลอดรู้ไหม” แม็กนัสว่า
ก่อนจะหยิบแจ็คเก็ตขึ้นมาคลุมบังฝนให้ทั้งตัวเองและอเล็คผู้ยิ้มแฉ่งใส่เค้า.........ถึงเค้าจะเป็นคนเอาร่มมาเองก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะอเล็คไม่ชอบร่ม ข้อนั้นแม็กนัสรู้ดี.........
-------------------------------------------------------------------------------------------
“อเล็ค....นายเป็นอะไรไหมอเล็ค เฮ้ นายฟังฉันอยู่รึเปล่า”
“อะ ฮ่ะ.....เอ่อ ไม่ ฉันไม่เป็นไร” อเล็คที่รู้สึกเหมือนถูกเตะมาจากเหตุการณ์ในอดีตพูดตอบออกไปติดจะตะกุกตะกักเล็กน้อย เมื่อเค้ายืนตัวแข็งทื่อราวกับไม่เคยเข้ามาในห้องนี้มาก่อนในขณะที่แม็กนัสส่งผ้ามาให้เค้า
“นายต้องใช้มันนะ”
แม็กนัสพูดแต่อเล็คอยากหัวเราะ
ร่างบางจึงเพียงแค่แค่นยิ้มออกมาเพียงเท่านั้นเพราะถ้าขืนหัวเราะแม็กนัสคงต้องทำหน้าแปลกๆ
ใส่เค้าแหงๆ
อเล็คผลักมือแม็กนัสคืนไปพลางส่ายหน้า
“ไม่ นายต่างหากที่ต้องใช้มัน”
เพราะดูก็รู้ว่าใครกันที่เปียกที่สุด
ตัวอเล็คเองแทบจะไม่โดนน้ำเลยด้วยซ้ำ
เพราฉะนั้นเป็นแม็กนัสต่างหากที่ต้องใช้ผ้าอย่างเร่งด่วน
แต่แม็กนัสก็กัดริมฝีปากอย่างหมั่นเขี้ยว
ก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนสะอาดคลุมศีรษะของอเล็คอย่างผู้ชนะ
“ใช้ซะ ก่อนนายจะเป็นหวัดอเล็ค นายหัวไวเรื่องฝนมากกว่าคนทั่วไป”
และเป็นอีกครั้งที่อเล็คไม่สามารถโต้เถียงแม็กนัสได้อีกต่อไป คนที่โดนบังคับทำได้เพียงแค่ขยุ้มผ้าไปบนกลุ่มผมตัดสั้นนั้นของเค้าเพียงเท่านั้น
เพราะมันเพียงแค่ชื้นและไม่ได้เปียกเลย
เสร็จแล้วอเล็คก็โยนกลับไปให้แม็กนัสที่ยืนมองหยดน้ำบนตัวของตัวเองอยู่
ต้องทำอย่างที่ตัวเองเห็นชอบเสมอแม็กนัสจึงจะพอใจ......อเล็ครู้ดี
แม็กนัสรับผ้ามาแล้วเริ่มเช็ดให้ตัวเองบ้าง
และรู้สึกไม่สนิทใจอยู่ไม่น้อยที่พวกเค้าทำตัวราวกับว่ามันเป็นเรื่องปรกติทั้งๆ
ที่มันไม่ได้ปรกติอีกต่อไปแล้ว
ร่างสูงหันตัวมาด้านข้าง
ใช้ผ้าซับน้ำตามเรือนร่างแล้วลอบมองอเล็คเป็นระยะๆ
ส่วนร่างบางที่ไม่รู้ถึงสิ่งนั้นก็ถอดกระเป๋าของตัวเองออกมาเพื่อตรวจสอบดูว่ามีอะไรเปียกหรือไม่ก็ง่วนอยู่กับการคุ้ยตรวจดูความเรียบร้อยของทรัพย์สินอันสุดแสนจะสำคัญของตัวเอง และเค้าก็รู้สึกโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี
แม็กนัสลอบมองอยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งอเล็คผู้ซึ่งแอบย่องเข้ามาในห้องนี้บ่อยๆ กวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวแล้วก็ต้องเก็บความอยากที่จะจับนู่นจับนี่ขึ้นมาอีกครั้ง
“ห้องนายดูรกนะ”
อเล็คพูดเสียงเบาคลายกระซิบ แต่ ณ
ที่นั้นเงียบงันจนแม็กนัสได้ยินอย่างชัดเจน
ร่างสูงที่ปราศจากเสื้อยักไหล่......ก็มันเป็นธรรมดานี่
“แม่บ้านเพิ่งจะเข้ามาทำความสะอาดเมื่อไม่นานมานี้นี่เองนะ”
แม็กนัสว่า พลางถูผ้ากับหูตัวเอง
อเล็คหันมาทำหน้าคล้ายจะยิ้ม
“แบบนี้ฉันไม่เรียกว่าเพิ่งหรอกนะ”
แต่แล้วเมื่อเค้าจะยิ้มจริงๆ พอสบตาเข้าดวงตาคู่คมของเพื่อนร่างสูง
รอยยิ้มนั้นก็หายไปทันทีเหลือไว้เพียงแต่คำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อเล็ค.....
แม็กนัส......
ทั้งสองต่างพร่ำเรียกชื่อของกันและกันในใจ อีกคนหนึ่งเกิดคำถาม ส่วนอีกคนหนึ่งต้องการจะบอกบางอย่าง...........
แม็กนัสลดมือที่ถือผ้าขนหนูลง
ในขณะที่อเล็คเหลือบมองข้ามไหล่อีกคนหนึ่งไปเห็นเครื่องบอกเวลา
“โอ้ตายแล้ว! กะแรกของฉัน!” อเล็คตาโต ลูกแก้วสีฟ้าสวยกลมโตอยู่ตรงหน้าแม็กนัส
“นายสาย...?”
แม็กนัสเลิกคิ้วแต่เค้าเพิ่งตื่น ดูจะสมองช้ากว่าอเล็คนิดหน่อย
“ใช่ ฉันสายแล้ว....โอ้พระเจ้า
คุณบีพอทท์ต้องฆ่าฉันแน่เลย!”
อเล็คว่าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายแล้วทำท่าเหมือนกระโดดได้ในเวลาที่เจ้าตัวตื่นเต้น ก่อนจะวิ่งอย่างกระตือรือร้นไปที่ประตูซึ่งแม็กนัสเป็นฝ่ายเปิดประตูให้อเล็คออกไปอย่างติดจะแปลกใจเล็กน้อย
อเล็คเป็นคนตรงเวลาเสมอหากเค้าไม่ลืม.........
“โชคดีอเล็ค”
แม็กนัสกระซิบในขณะที่อเล็ควิ่งออกไปตามระเบียงซึ่งสปริงเกอร์ฉุกเฉินหยุดทำงานแล้ว อเล็คดูรีบและร่างบางที่วิ่งไปอย่างกระตือรือร้นนั้นก็สูงขึ้นมากกว่าเดิมเกินกว่าที่แม็กนัสจำได้
เหมือนอเล็คกระชากบางอย่างออกไปจากตัวของแม็กนัสด้วย
แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่ติดตัวร่างบางผิวขาวสะอาดไปเลย........แม็กนัสมองตามไปอย่างไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง แต่แล้วคำว่าไม่มีสิ่งใดติดตัวก็ทำเอาเค้าเพิ่งนึกได้
“อเล็คนายลืมกระเป๋า!”
แม็กนัสกระตุกร่างกายชะโงกหน้าไปที่ประตูอยู่พักหนึ่ง
ก่อนจะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“แกพูดกับใครน่ะแม็กนัส...”
ร่างสูงสะโอดสะองบ่นตัวเองออกมาเบาๆ กับความซื่อบื้อที่เค้าไม่เคยเป็นมาก่อน และเค้าเองก็ไม่เข้าใจ
ตัวเค้าเองไม่เคยต้องทำตัวเฉยหรือวางตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าอเล็คมากก่อนเลย.........
...........ในตอนนี้มีบางอย่างแปลกไป
ร่างสูงผิวสีแทนหันไปมองกระเป๋าซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของอเล็ค
แล้วปิดประตูเสียงเงียบเชียบก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปหากระเป๋าใบนั้นอย่างไม่ต้องคิดเลย
............แม็กนัสก็ยังเป็นจอมค้นข้าวของอย่างที่อเล็คไม่ชอบเหมือนเดิม.............
และทันทีที่แม็กนัสเปิดดูกระเป๋า
คาราวานใบบิลทั้งหลายก็โผล่ออกมาทักทายเค้าจน ร่างสูงถึงกับต้องเลิกคิ้วน้อยๆ แม็กนัสรู้ เค้าอาจดูเสียมารยาทเกินไปหน่อยแต่เค้าเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
แล้วล่ะ พอเป็นของๆ
อเล็คทีไรแม็กนัสก็จะเป็นคนแรกเสมอที่รู้ว่ามันคืออะไร
ร่างสูงดูบิลทั้งหมด
กระทั่งอ่านจดหมายของแม่อเล็ค
แม็กนัสหน้าเบ้แต่ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่เสียมารยาท
“แม่นายไม่ได้ถามนายเลยใช่ไหมว่านายจ่ายไหวรึเปล่าน่ะอเล็ค”
แม็กนัสยังคงดูไปเรื่อยๆ แม้จะซ้ำอีกรอบก็ตาม
“ถ้าเป็นฉันคงจะต้องมีบ่นแม่บ้างล่ะ”
ร่างสูงส่ายหน้าแล้ววางไว้บนโต๊ะด้านหน้าของเค้า ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแล้วแต่งตัว
...............แปลกที่สุดในรอบเจ็ดวันที่แม็กนัสอยากจะออกไปข้างนอก
.
.
.
TBC.
--------------------------------------------------------------------------------------------
อืมม รู้สึก Part นี้จะยาวเป็นพิเศษค่ะ ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้นแล้วค่ะ......แม็กนัสอย่าทำให้เสียเรื่องเด็ดขาดเลยนะ! ถ้าทำอเล็คเสียใจอีกจะจัดการจริงๆ
ด้วย TT_TT แต่ไรท์ชื่อค่ะว่าวันฟ้าใสของอเล็คกำลังมาถึงค่ะ ชะวิ้งงงงง //ผายมือปล่อยประกายร่วงกราว//
อร๊ายยยย Nc ><!!
ยังไม่มาค่ะ //ผั๊วะ!!//
อ่า เดี๋ยวก็มาค่ะ -^- จายเยนๆๆๆๆๆ
และสำหรับท่านใดที่อยากเข้าไปติดตามข่าวสารนู้นนี่ในบล็อกว่าคู่ไหนไรท์กำลังเขียนหรือมีพล็อต-แพลนไว้แล้วก็สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนกับไรท์ได้เลยค่ะที่
>>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสไรท์เองค่ะ ว่างๆ ก็เข้ามาทักเข้ามาคุยกันได้ค่ะ
รักรีดมากมายเลยนะคะ อา อืมม ถ้ามีคอมเม้นท์ Nc ก็จะมาเร็วนะเออ
ฮาาาา (มิค่อยชั่วเลยไรท์
แต่ปรากฏไม่ว่าไงก็จะลงตามที่ตัวเองตั้งใจไว้อยู่ดี 55555)
ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund
2 ความคิดเห็น:
อ๊ายยยยยยย McCain รอนานเกินไปแล้วววว อยากอ่านมากคะไรท์อย่าทำให้คลั่งสิคะ
#รีดพลอยคนเดิมคะ(ชื่อนี้ชอบมากๆๆๆคะ)
#ไรท์ตบหัวโยกใครสนละ
ฮ้าาา ในที่สุดก็หาเจออ เพราะฟ้คมาเล็คมีน้อยมากค่ะ
(เราแต่งเองยังดองไปแล้วเลย//ทรุด) ขอเม้นรวบยอดเลยนะคะ สงสารอเล็คแท้OTZ นางซินชัดๆ (นายซินกับเจ้าชายอสูร??) ไปๆมาๆเราเริ่มเชียรฝ์เจซแบ้วนะเนี่ย55555แสนดีอ่ะ ทั้งดูแลและปกป้อง ต้องให้แม็กนัสมาทำคะแนนแล้วนะคะ!!55555
แสดงความคิดเห็น