วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

[FIC - TMI] + [Part 11] Your Heart……หัวใจนายเป็นของฉัน – Magnus x Alec



 MaLec มาแล้วค่าาาา --- ^^ รีดๆ ที่เป็นแฟนของทั้งสองคนนี้คงจะบ่นหากันนานแล้วว่าเมื่อไร Nc ของคู่นี้จะมา......ไรท์ขอบอกเลยค่ะว่าใกล้แล้วค่ะ  ไรท์เพิ่งเขียนเสร็จไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ  แหม่......กว่าจะเขียนเสร็จนี่บอกเลยค่ะว่าเลือดเกือบจะเยิ้มออกมาเสียให้ได้  ไรท์ก็คิดในใจค่ะ  แม็กนัสจะเสียบก็เสียบเถอะ จะลีลาอะไรนักหนา..............อ๊ากกก ข้ามไปค่ะ –[]-

-.,- รู้สึกว่าช่วงนี้ปล่อยปากไปไวกว่าใจค่ะ  ใน Part นี้แม็กนัสเค้าจะ !@*&^(*)&&*^*+_((16/* ค่ะ ^^ //ผั๊วะ!!// เดี๋ยวรีดก็รู้แล้วอ่าาา ไปอ่านกันเลยค่ะ 555.........รู้สึกช่วงนี้ไรท์มึนๆ ค่ะ ค่อนไปทางรั่วเสียด้วยซ้ำนะเออ ฮาาาา


---------------------------------------------------------------------------------------------


ขณะนี้ร่างบางที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวเก่งและกางเกงสีดำเข้ารูปกำลังยืนอยู่หน้าห้องประตูไม้บานหรูของดารานายแบบชื่อดังที่สุดคนหนึ่งของวงการ  ข้อมือบางที่สวมสายรัดแขนสีดำซึ่งตัดกับสีผิวได้อย่างเด่นชัดยกค้างกลางอากาศ  ก่อนริมฝีปากบางจะขบเม้มเข้าหากัน แล้วอเล็คก็บรรจงกดกริ่งหน้าประตูนั้นเข้าไป


***********************************************************************************


..............

............

......เงียบ......


------------------------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------------------------


เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น  ผมนั่งอยู่บนโซฟาตัวงามกดรีโมททีวีไปเรื่อยๆ พอได้ยินเสียงแปลกใหม่ของวันดังขึ้นก็รีบหันคอควับไปมองทันที

............ให้ตายสิ ใครกันนะ?

ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว  ก็ผมบอกพวกเค้าไว้แล้วหนิว่าต้องการอยู่คนเดียวเงียบๆ แล้วนี่ปล่อยให้ใครเข้ามาอีก............

ผมแค่อยากอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าทำไมแต่........

โอ้ เอาเถอะ  ผมคงต้องไปเปิดประตูใช่ไหม!

ผมลุกขึ้นติดจะหัวเสียนิดๆ  เดินอ้อมโซฟาสีม่วงเข้มตัวโปรดของตัวเองไปบนพื้นห้องที่เพิ่งสะอาดสะอ้านของผม........

อ่อใช่.......แม่บ้านเพิ่งจะมาทำความสะอาดเมื่อเช้านี้เอง  ป้าคนนั้นดูตื่นตะลึงกับสภาพห้องที่รกน้อยๆ ของผมเป็นอย่างมาก........อะไรกันก็แค่ถูกปล่อยไว้แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง

และสุดท้ายแล้วป้าคนนั้นก็ชวนเพื่อนของป้ามาแท็คทีมช่วยกันเก็บกวาดห้องอันกว้างขว้างของผมให้สะอาดเอี่ยมภายในเวลาไม่นานนัก  เมื่อผมยืนกรานว่าจะไม่ออกไปข้างนอก  ผมนั่งรออยู่ในห้องนี้เพราะไม่มีกะใจอยากจะออกไปข้างนอกหรือเที่ยวเล่นอะไรเลย

และผมก็รู้สึกแปลกใจมากที่เอลซ่าไม่แอบเข้ามาทำความสะอาดอย่างที่เธอชอบทำบ่อยๆ  ผมเคว้งคว้างขึ้นเหมือนมีหลายสิ่งหายไป  แต่เพียงแค่เอลซ่าไม่ได้ย่องเบาเข้าห้องผมก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรขนาดนั้น   ผมแค่คิด.......แค่รู้สึกว่ามันแปลกไป

ตั้งแต่วันที่ผมทะเลาะกับอเล็คทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนไป........

...........อเล็ค.........

อ่า ผมคิดถึงเค้าอีกแล้วในขณะที่จู่ๆ ก็หยุดเดินเสียอย่างนั้น  อเล็คทำให้ผมหยุดชะงักมาได้ตลอดเวลาเกือบสิบวันนี้แล้ว

ผมยอมรับ  เป็นผมเองล่ะที่หาเรื่องทะเลาะกับเค้า เพราะผมต้องการให้เค้าเลิกคิดว่าผมชอบและเลิกคิดถึงผมเสียที

อันที่จริงผมไม่โทษเค้าหรอกที่ชอบผม  บางทีอาจเป็นเพราะผมทำตัวเหมือนพี่ชายคอยบอกนี่ห่วงนู่นไปหมด  อเล็คที่เคยงึมงำว่าอยากมีพี่ชายก็เลยติดผมแจเสียอย่างนั้น

...........ผมก็ชอบนะที่เราทำตัวติดกันแบบนั้น  แต่เราไม่ได้อยู่ไฮลสคลูหรือมหาลัยกันแล้วและผมก็รักผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างหมดหัวใจ............

ผมมีแฟนแล้วและไม่แน่อาจจะเต่งงานในไม่ช้า  ถ้าถึงเวลานั้นอเล็คคงจะรู้สึกแย่ที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม  ผมห่างเหินจากเค้ามากขึ้นเมื่อคบกับเอลซ่า เพราะเธอทำตัวเป็นแฟนที่ดีเหลือเกิน  ผมเลยชอบที่จะอยู่กับเธอบ่อยๆ ไปนู่นมานี่  พอพูดอะไรเธอก็จะยิ้มและพยักหน้ารับอย่างอ่อนหวานเสมอ  ผมไม่รู้จะหาผู้หญิงที่แสนดีขนาดนี้ได้ที่ไหนอีกแล้ว..........

[ขออนุญาตนะคะ......แม็กนัสไอ้ความยย! ขอหน่อยเหอะ ทนไม่ไหวแล้วค่ะ -{}- : Ray - Aund ]

ผมเชื่อว่าในที่สุดอเล็คคงจะเข้าใจและเข้าหาผมน้อยลง  แต่ว่าให้ตายเถอะพระเจ้าคงจะเล่นตลกกับผมจนเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วเพราะผม – คิดถึง – อเล็ค – อีกแล้ว!

นี่ขนาดใครก็ไม่รู้มาก่อกวนผมถึงหน้าห้องนะเนี่ย  ผมยังมีกะใจจะคิดถึงว่าตอนนี้อเล็คเป็นอย่างไรบ้าง........ถ้าผมเปิดออกไปแล้วโดนบ่นว่ามาเปิดช้านะผมจะด่ากลับไปเลยล่ะ

ให้ตาย  ก็นี่พื้นที่ส่วนตัวผมนี่

ผมสูดหายใจยืดตัวตรงก่อนจะพ่นออกมาแล้วหลังงอเหมือนเดิม  แล้ววางมือบนลูกบิดอย่างเกียจคร้าน


----------------------------------------------------------------------


------------------------------------------------------------------------------------------------------


......เงียบ......

เงียบฉี่เลยแฮ่ะ  หัวใจของอเล็คเริ่มสูบฉีดเลือดแรงขึ้น มันดังจนแทบจะเด้งออกมาได้อยู่แล้ว

หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรให้เค้าต้องเข้าไปโดยพละการเหมือนอย่างตอนนั้นอีกหรอกนะ  อเล็คเริ่มใจไม่ดี  แต่แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นและหัวใจของอเล็คก็เต้นแรงอีกครั้ง

แม็กนัสเปิดประตูมาแล้ว

แม็กนัสท้าวแขนกับลูกบิดราวกับว่าไร้เรี่ยวแรง  แต่นั้นเป็นเพราะเจ้าตัวกำลังขี้เกียจอยู่ต่างหากล่ะ........อเล็คจำได้เสมอ

แต่พอรู้แล้วว่าเป็นใครกันที่มารบกวนเค้าแต่เช้า  แม็กนัส   เบนก็รีบสะบัดความง่วงงุนและเกียจคร้านทั้งหลายทิ้งไปราวกับถูกเตะโดยอัตโนมัติ..........ก็ในหัวเค้าน่ะทั้งปรากฏใบหน้าและเรียกร้องอเล็คมาเป็นอาทิตย์แล้ว!

ไม่ใช่เอลซ่าหรอกที่เค้าเคยบอกและหลอกตัวเองไว้......ไม่ใช่เธอเลยสักนิด

แล้วอเล็คเข้ามาอยู่ในจิตใต้สำนึกของเค้าได้รุนแรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันและมันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร  แม็กนัสก็ไม่สามารถตอบได้เลย  เพราะมันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน  แต่ไหนๆ อเล็คก็มาอยู่ตรงหน้านี่แล้วสินะ

แม็กนัสยืดตัวตรง  สภาพเค้าในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากตอนก่อนหน้านี้ที่อเล็คมักจะเจออยู่เสมอนั่นล่ะ  ปราศจากเสื้อแสงติดกายและแม็กนัสก็ปิดปากเงียบ

งะ ไง  อรุณสวัสดิ์” จนกระทั่งต้องเป็นอเล็คเองที่เริ่มพูดเป็นคนแรกเพื่อทำลายความเงียบที่ชวนน่าอึดอัดนี้  ร่างบางกำลังหวั่นว่าเค้าจะโดนแม็กนัสปฏิเสธหรือเปล่า  แต่กลับไม่มีคำพูดขับไสไล่ส่งจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้า.......แม็กนัสไม่ได้มีท่าทีเช่นเดียวกับครั้งล่าสุดที่พวกเค้าได้เจอกัน

เยี่ยม! อเล็คเริ่มรู้สึกดีที่กาแฟของเค้ามีโอกาสไปถึงมือแม็กนัสมากขึ้น

“อืม  อรุณสวัสดิ์อเล็ค....” และแล้วแม็กนัสก็ทำในสิ่งที่อเล็คไม่คิดว่าเค้าจะได้รับ  เพื่อนร่างสูงทักทายตอบเค้าด้วยน้ำเสียงที่ไม่ติดจะประชดประชันเช่นเมื่อก่อน.......เสียงของแม็กนัสฟังดูอ่อนลงมาก  แต่อเล็คก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง  ร่างบางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ

แม็กนัสมองตอบ  ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

อเล็คหายใจยากขึ้น และเริ่มคิดแล้วว่าเค้าควรจะบอกเรื่องนั้นกับแม็กนัสอย่างไรดี  เค้ายกกาแฟควันฉุยขึ้นมาคั้นกลางระหว่างกันและกันไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง

“คือฉัน” อเล็คพูดแค่นั้นก่อนจะดันกาแฟไปข้างหน้า  แม็กนัสรู้และรับมันไว้แต่โดยดี.......ครั้งก่อนร่างสูงเคยพูดอะไร ตอนนี้กลับลืมมันไปเสียแล้ว

แม็กนัสรู้สึกยินดีอย่างน่าประหลาดที่ได้เห็นหน้าอเล็คอีกครั้งในแบบไร้คราบน้ำตา  ในใจร่างสูงอยากจะถามว่า “นายสบายดีไหม” ออกไป  แต่ก็กลัวว่าจะโดนอเล็คทำหน้าขุ่นเคืองแล้วพูดว่า “โดนนายด่าไปแล้วคิดว่าฉันจะรู้สึกดีอยู่หรือไง!

(แม็กนัสมักคิดมากไปเองในบางเวลา)

“ขอบคุณสำหรับกาแฟ” ร่างสูงจึงเลือกพูดประโยคขอบคุณก่อน เมื่ออเล็คทำท่าจะถอยห่างออกไป

.............วันนี้ไม่มีคุกกี้ แสดงว่าอเล็คยังไม่ได้เข้าร้าน...........

อเล็คยิ้มน้อยๆ ตอบรับคำขอบคุณนั้นของแม็กนัส  แต่ทว่าในใจของชายหนุ่มผมสีดำขลับกลับพองโตจนแทบจะทะลุออกมาจากอกได้อยู่แล้ว  อเล็คยิ้มให้แม็กนัส เพื่อเป็นเชิงบอกว่าเค้าไม่ได้โกรธแม็กนัสในเรื่องของวันนั้น

และเมื่อเห็นเช่นนั้นแม็กนัสที่ขมวดคิ้วเพราะกลัวอเล็คจะวิ่งหนีเค้าไป ก็ถึงกับต้องคลายปมที่หว่างคิ้วออก  สีหน้าของแม็กนัสดูจะคล้อยยิ้มตามอเล็คไปด้วย  เพื่อนร่างสูงผิวสีแทนกำลังจะออกปากถามบางอย่างไป แต่จู่ๆ เสียงมือถือของเค้าก็ดังขึ้นขัดจังหวะขึ้นมาเสียนี่

อเล็คสะดุ้งกระพริบตาไม่สบกับแม็กนัสอีก ในขณะที่แม็กนัสอารมณ์เสีย

ใครอีกฟะ!.........ร่างสูงสะโอดสะองคิดสถบในใจก่อนจะทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง  แต่อเล็คก็ก้มหน้าหนีเค้าเสียแล้ว

“นายรอตรงนี้ก่อน”..........แม็กนัสอยากจะพูดออกไปแบบนั้นเพื่อให้อเล็ครั้งรอเค้าก่อน  แต่หากนั้นก็หมายความว่าจะทำให้เสียเวลางานของอเล็คด้วยเช่นกัน (แม็กนัสไม่รู้เรื่องที่อเล็คป่วยและหยุดงานไปหลายวัน) 

แต่ว่าแม็กนัสอยากคุยกับอเล็ค

“อเล็คเดี๋ยวก่อน......” และในท้ายที่สุดแล้วจนเกือบในเวลาที่ร่างบางกำลังจะหมุนตัวแล้วลากลับไป  ร่างสูงที่กำลูกบิดประตูอยู่ก็เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่ทว่ากลับเรียกให้ร่างของอเล็คหยุดชะงักได้อย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

............แม็กนัสยอมคุยกับเค้าด้วย  ทั้งๆ ที่คิดว่าอาจจะเกลียดเค้าไปแล้วแท้ๆ .............

แต่ก็ไม่สินะ  ใช่ไหม?

อเล็คหันกลับมา ฝืนความพยายามที่จะฉีกยิ้มไว้ในใจ  แม็กนัสทำหน้าเหมือนตอนที่เห็นอเล็คใส่เสื้อเชิ้ตที่เค้าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีที่แล้ว

“ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับนาย....หลังเลิกงานแล้วนายช่วยมาหาฉันหน่อยได้ไหม”

“หา” อเล็คเลิกคิ้วใส่คนที่เอ่ยปากชวนเค้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  เมื่อคำพูดที่แม็กนัสนั้นคุยกับเค้าช่างเหนือความคาดหมายเสียจริง........ไม่เพียงแค่แสดงออกมาว่าไม่ได้โกรธอเล็คเท่านั้นแต่ยังอยากคุยกับร่างบางอีกด้วย

นั่นจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสุดๆ ได้รึเปล่านะ?

อเล็คลอบกัดริมฝีปากบางเฉียบของตัวเองซึ่งเป็นสีชมพูประกายมุขระเรื่อเพราะต้องใช้ความพยายามมากเข้าไปอีกเมื่อเค้าอยากจะยิ้มออกมาเสียให้ได้.........แต่มันดูจะออกนอกหน้าเกินไป

“อืม  ได้สิ....ฉันจะมาหานาย” ร่างบางว่า  แต่รอยยิ้มน้อยๆ น่ามองก็เล็ดรอดออกมาจนได้  แม็กนัสทำหน้าเหมือนเห็นอเล็คใส่เสื้อเชิ้ตตัวนั้นอีกครั้ง

รอยยิ้มของอเล็คน่ามองเสมอ  แม็กนัสเองก็เพิ่งจะจำได้...........

ร่างสูงสะโอดสะองดีกรีนายแบบฮอตอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ ตอบไปบ้าง.......แม็กนัสรู้สึกหัวใจกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง และในเวลาเดียวกันมันก็รู้สึกกระตุกไม่น้อยเลยที่เคยทำร้ายจิตใจร่างตรงหน้าไป.......เค้าทำผิดไป  แม็กนัสเพิ่งรู้ตัวว่าทำผิดไป

ทั้งสองมองตากันเล็กน้อย ก่อนจะบอกลากันและแยกจากกันแต่แล้วก็เกิดเสียงดังกรีดแก้วหูของพวกเค้าขึ้น  มันดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งจนอเล็คต้องเผลอสะดุ้งตามสุดตัว  ก่อนจะเป็นแม็กนัสเองที่วิ่งออกมาจากห้องเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์แล้วเข้ามากอดอเล็คไว้เมื่อจู่ๆ ก็มีแสงไฟสีแดงวาบขึ้นไปมา พร้อมกับเสียงที่ดังเสียดแก้วหู  เสียงโทรศัพท์แม็กนัสดับไปแล้วเมื่อไม่มีการตอบรับ

อเล็คตกใจแน่นอนอยู่แล้ว  แต่แม็กนัสทำให้เค้าตกใจยิ่งกว่า

.........ทำไมถึงกอด? ทั้งๆ ที่นายเคยบอกว่าไม่ชอบ  ทำไมถึงออกมาหา? ทั้งๆ ที่นายบอกว่าไม่อยากเจอหน้าฉันอีก.........

อเล็คไม่เข้าใจ  แม็กนัสทำเอาเค้างุนงงยิ่งกว่าสถานการณ์ตอนนี้เสียอีก  ร่างสูงรูปร่างดีที่กอดรัดอเล็คจากข้างหลังอย่างตื่นตัวนั้น  ได้ยินเสียงผู้คนดังแว่วมาด้วย คนพวกนั้นพูดกันว่า ไฟไหม้! ก่อนแม็กนัสจะเงยหน้าไปบนเพดานเจอสปริงเกอร์ที่จ่ายน้ำพรั่งพรูออกมาไม่หยุด

“ไฟไหม้น่ะ....อะไรกันบ้าฉิบ” ร่างสูงผิวเข้มว่า แต่ก็ยังคงไม่ยอมคลายกอดจากอเล็ค

“เหรอ  ไม่เห็นได้กลิ่นควันเลย....นายได้กลิ่นไหม?” อเล็คที่เริ่มตื่นตัวตามสถานการณ์แล้วเมื่อได้ยินคำว่าไฟไหม้  ร่างบางสังเกตสิ่งรอบตัวตามสัญชาติญาณและถามความเห็นจากแม็กนัสเช่นที่พวกเค้ามักจะทำกันบ่อยๆ ในตอนที่ยังเรียนอยู่ด้วยกัน

แม็กนัสยืดหลังขึ้นตรงแล้วส่ายหน้า

“สงสัยจะเป็นแค่ประกายไฟเล็กๆ น่ะ  ที่นี่เข้มงวดมากเรื่องไฟไหม้ก็เลยแฉะไปทั่ว  อเล็ค.........โอ๊ยตายแล้ว  ชุดนายอเล็ค!” แม็กนัสว่าเสียงดังราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ก่อนจะลากอเล็คหลบกระแสฝนจากสปริงเกอร์ตรงระเบียงไปที่ห้องของเค้า

“ให้ตาย...บ้าชะมัดเลย” เจ้าของห้องที่เข้ามามีหยดน้ำพราวเกาะเต็มตัวจนหยดติ้งๆ ลงพื้น  แม็กนัสสะบัดน้ำออกจากตัวอย่างไม่ค่อยชอบใจในเหตุการณ์เมื่อครู่เสียเท่าไหร่นัก

แต่ผู้มาเยือนนี่สิ  ถึงกับยืนแข็งทำอะไรไม่ถูกไปเลย.......เหมือนโลกตีกลับสำหรับอเล็ค  เมื่อแม็กนัสทำเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอีกครั้ง  เป็นห่วงในเรื่องที่ตัวเค้าเองก็ไม่คิดจะใส่ใจ


---------------------------------------------------------------------------------


“นายเปียกอีกแล้วนะอเล็ค  ฉันอยู่ห่างนายตอนหน้าฝนไม่ได้เลยสิน่า”

“แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวก็เปลี่ยนชุดแล้ว”

“อย่ามาตีหน้าใสใส่ฉันนะเจ้าหนูกินน้ำฝน....ทำไมนายถึงไม่เคยพกร่มกับเค้าเลยนะ”

“ก็ฉันไม่ชอบนี่...” เด็กที่โดนดุทำหน้าหงอยขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงสิ่งที่เค้าไม่ชอบที่สุดในหน้าฝน  แม็กนัสเห็นแล้วก็ดุไม่ลง จึงต้องลดมือที่ท้าวเอวลงก่อนจะถอดแจ็คเก็ตของตัวเองออกมาวางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้ออีกตัวของตัวเองออกมาเช็ดผมให้อเล็ค

“ถ้านายไม่ชอบก็ต้องกลับบ้านพร้อมฉันตลอดรู้ไหม” แม็กนัสว่า ก่อนจะหยิบแจ็คเก็ตขึ้นมาคลุมบังฝนให้ทั้งตัวเองและอเล็คผู้ยิ้มแฉ่งใส่เค้า.........ถึงเค้าจะเป็นคนเอาร่มมาเองก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี  เพราะอเล็คไม่ชอบร่ม  ข้อนั้นแม็กนัสรู้ดี.........


-------------------------------------------------------------------------------------------


“อเล็ค....นายเป็นอะไรไหมอเล็ค   เฮ้ นายฟังฉันอยู่รึเปล่า”

“อะ ฮ่ะ.....เอ่อ ไม่  ฉันไม่เป็นไร” อเล็คที่รู้สึกเหมือนถูกเตะมาจากเหตุการณ์ในอดีตพูดตอบออกไปติดจะตะกุกตะกักเล็กน้อย  เมื่อเค้ายืนตัวแข็งทื่อราวกับไม่เคยเข้ามาในห้องนี้มาก่อนในขณะที่แม็กนัสส่งผ้ามาให้เค้า

“นายต้องใช้มันนะ” แม็กนัสพูดแต่อเล็คอยากหัวเราะ  ร่างบางจึงเพียงแค่แค่นยิ้มออกมาเพียงเท่านั้นเพราะถ้าขืนหัวเราะแม็กนัสคงต้องทำหน้าแปลกๆ ใส่เค้าแหงๆ  อเล็คผลักมือแม็กนัสคืนไปพลางส่ายหน้า

“ไม่  นายต่างหากที่ต้องใช้มัน” เพราะดูก็รู้ว่าใครกันที่เปียกที่สุด  ตัวอเล็คเองแทบจะไม่โดนน้ำเลยด้วยซ้ำ  เพราฉะนั้นเป็นแม็กนัสต่างหากที่ต้องใช้ผ้าอย่างเร่งด่วน

แต่แม็กนัสก็กัดริมฝีปากอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนสะอาดคลุมศีรษะของอเล็คอย่างผู้ชนะ

“ใช้ซะ ก่อนนายจะเป็นหวัดอเล็ค  นายหัวไวเรื่องฝนมากกว่าคนทั่วไป” และเป็นอีกครั้งที่อเล็คไม่สามารถโต้เถียงแม็กนัสได้อีกต่อไป  คนที่โดนบังคับทำได้เพียงแค่ขยุ้มผ้าไปบนกลุ่มผมตัดสั้นนั้นของเค้าเพียงเท่านั้น เพราะมันเพียงแค่ชื้นและไม่ได้เปียกเลย  เสร็จแล้วอเล็คก็โยนกลับไปให้แม็กนัสที่ยืนมองหยดน้ำบนตัวของตัวเองอยู่

ต้องทำอย่างที่ตัวเองเห็นชอบเสมอแม็กนัสจึงจะพอใจ......อเล็ครู้ดี

แม็กนัสรับผ้ามาแล้วเริ่มเช็ดให้ตัวเองบ้าง และรู้สึกไม่สนิทใจอยู่ไม่น้อยที่พวกเค้าทำตัวราวกับว่ามันเป็นเรื่องปรกติทั้งๆ ที่มันไม่ได้ปรกติอีกต่อไปแล้ว  ร่างสูงหันตัวมาด้านข้าง  ใช้ผ้าซับน้ำตามเรือนร่างแล้วลอบมองอเล็คเป็นระยะๆ

ส่วนร่างบางที่ไม่รู้ถึงสิ่งนั้นก็ถอดกระเป๋าของตัวเองออกมาเพื่อตรวจสอบดูว่ามีอะไรเปียกหรือไม่ก็ง่วนอยู่กับการคุ้ยตรวจดูความเรียบร้อยของทรัพย์สินอันสุดแสนจะสำคัญของตัวเอง  และเค้าก็รู้สึกโล่งอกที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี

แม็กนัสลอบมองอยู่อย่างนั้น  จนกระทั่งอเล็คผู้ซึ่งแอบย่องเข้ามาในห้องนี้บ่อยๆ กวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวแล้วก็ต้องเก็บความอยากที่จะจับนู่นจับนี่ขึ้นมาอีกครั้ง

“ห้องนายดูรกนะ” อเล็คพูดเสียงเบาคลายกระซิบ  แต่ ณ ที่นั้นเงียบงันจนแม็กนัสได้ยินอย่างชัดเจน  ร่างสูงที่ปราศจากเสื้อยักไหล่......ก็มันเป็นธรรมดานี่

“แม่บ้านเพิ่งจะเข้ามาทำความสะอาดเมื่อไม่นานมานี้นี่เองนะ” แม็กนัสว่า พลางถูผ้ากับหูตัวเอง  อเล็คหันมาทำหน้าคล้ายจะยิ้ม

“แบบนี้ฉันไม่เรียกว่าเพิ่งหรอกนะ” แต่แล้วเมื่อเค้าจะยิ้มจริงๆ พอสบตาเข้าดวงตาคู่คมของเพื่อนร่างสูง รอยยิ้มนั้นก็หายไปทันทีเหลือไว้เพียงแต่คำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

อเล็ค.....

แม็กนัส......

ทั้งสองต่างพร่ำเรียกชื่อของกันและกันในใจ  อีกคนหนึ่งเกิดคำถาม  ส่วนอีกคนหนึ่งต้องการจะบอกบางอย่าง...........

แม็กนัสลดมือที่ถือผ้าขนหนูลง ในขณะที่อเล็คเหลือบมองข้ามไหล่อีกคนหนึ่งไปเห็นเครื่องบอกเวลา

“โอ้ตายแล้ว! กะแรกของฉัน!” อเล็คตาโต  ลูกแก้วสีฟ้าสวยกลมโตอยู่ตรงหน้าแม็กนัส

“นายสาย...?” แม็กนัสเลิกคิ้วแต่เค้าเพิ่งตื่น  ดูจะสมองช้ากว่าอเล็คนิดหน่อย

“ใช่ ฉันสายแล้ว....โอ้พระเจ้า คุณบีพอทท์ต้องฆ่าฉันแน่เลย!” อเล็คว่าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายแล้วทำท่าเหมือนกระโดดได้ในเวลาที่เจ้าตัวตื่นเต้น  ก่อนจะวิ่งอย่างกระตือรือร้นไปที่ประตูซึ่งแม็กนัสเป็นฝ่ายเปิดประตูให้อเล็คออกไปอย่างติดจะแปลกใจเล็กน้อย

อเล็คเป็นคนตรงเวลาเสมอหากเค้าไม่ลืม.........

“โชคดีอเล็ค” แม็กนัสกระซิบในขณะที่อเล็ควิ่งออกไปตามระเบียงซึ่งสปริงเกอร์ฉุกเฉินหยุดทำงานแล้ว  อเล็คดูรีบและร่างบางที่วิ่งไปอย่างกระตือรือร้นนั้นก็สูงขึ้นมากกว่าเดิมเกินกว่าที่แม็กนัสจำได้

เหมือนอเล็คกระชากบางอย่างออกไปจากตัวของแม็กนัสด้วย  แต่กลับไม่มีสิ่งใดที่ติดตัวร่างบางผิวขาวสะอาดไปเลย........แม็กนัสมองตามไปอย่างไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง  แต่แล้วคำว่าไม่มีสิ่งใดติดตัวก็ทำเอาเค้าเพิ่งนึกได้

“อเล็คนายลืมกระเป๋า!” แม็กนัสกระตุกร่างกายชะโงกหน้าไปที่ประตูอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“แกพูดกับใครน่ะแม็กนัส...” ร่างสูงสะโอดสะองบ่นตัวเองออกมาเบาๆ กับความซื่อบื้อที่เค้าไม่เคยเป็นมาก่อน  และเค้าเองก็ไม่เข้าใจ ตัวเค้าเองไม่เคยต้องทำตัวเฉยหรือวางตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าอเล็คมากก่อนเลย.........

...........ในตอนนี้มีบางอย่างแปลกไป

ร่างสูงผิวสีแทนหันไปมองกระเป๋าซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของอเล็ค แล้วปิดประตูเสียงเงียบเชียบก่อนจะสาวเท้าก้าวเข้าไปหากระเป๋าใบนั้นอย่างไม่ต้องคิดเลย

............แม็กนัสก็ยังเป็นจอมค้นข้าวของอย่างที่อเล็คไม่ชอบเหมือนเดิม.............

และทันทีที่แม็กนัสเปิดดูกระเป๋า คาราวานใบบิลทั้งหลายก็โผล่ออกมาทักทายเค้าจน ร่างสูงถึงกับต้องเลิกคิ้วน้อยๆ  แม็กนัสรู้ เค้าอาจดูเสียมารยาทเกินไปหน่อยแต่เค้าเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ  พอเป็นของๆ อเล็คทีไรแม็กนัสก็จะเป็นคนแรกเสมอที่รู้ว่ามันคืออะไร

ร่างสูงดูบิลทั้งหมด กระทั่งอ่านจดหมายของแม่อเล็ค  แม็กนัสหน้าเบ้แต่ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่เสียมารยาท “แม่นายไม่ได้ถามนายเลยใช่ไหมว่านายจ่ายไหวรึเปล่าน่ะอเล็ค” แม็กนัสยังคงดูไปเรื่อยๆ แม้จะซ้ำอีกรอบก็ตาม

“ถ้าเป็นฉันคงจะต้องมีบ่นแม่บ้างล่ะ” ร่างสูงส่ายหน้าแล้ววางไว้บนโต๊ะด้านหน้าของเค้า ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแล้วแต่งตัว

...............แปลกที่สุดในรอบเจ็ดวันที่แม็กนัสอยากจะออกไปข้างนอก


.


.


.


TBC.


--------------------------------------------------------------------------------------------


อืมม รู้สึก Part นี้จะยาวเป็นพิเศษค่ะ  ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้นแล้วค่ะ......แม็กนัสอย่าทำให้เสียเรื่องเด็ดขาดเลยนะถ้าทำอเล็คเสียใจอีกจะจัดการจริงๆ ด้วย TT_TT  แต่ไรท์ชื่อค่ะว่าวันฟ้าใสของอเล็คกำลังมาถึงค่ะ  ชะวิ้งงงงง //ผายมือปล่อยประกายร่วงกราว//

อร๊ายยยย Nc ><!!

ยังไม่มาค่ะ  //ผั๊วะ!!//

อ่า เดี๋ยวก็มาค่ะ -^-  จายเยนๆๆๆๆๆ 

และสำหรับท่านใดที่อยากเข้าไปติดตามข่าวสารนู้นนี่ในบล็อกว่าคู่ไหนไรท์กำลังเขียนหรือมีพล็อต-แพลนไว้แล้วก็สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนกับไรท์ได้เลยค่ะที่ >>แฟนฟิค ฮอลลีวู้ด<< เฟสไรท์เองค่ะ  ว่างๆ ก็เข้ามาทักเข้ามาคุยกันได้ค่ะ

รักรีดมากมายเลยนะคะ  อา อืมม ถ้ามีคอมเม้นท์ Nc ก็จะมาเร็วนะเออ ฮาาาา (มิค่อยชั่วเลยไรท์  แต่ปรากฏไม่ว่าไงก็จะลงตามที่ตัวเองตั้งใจไว้อยู่ดี 55555)

ด้วยรักและแรงหื่น
Ray - Aund



2 ความคิดเห็น:

Titanium snow กล่าวว่า...

อ๊ายยยยยยย McCain รอนานเกินไปแล้วววว อยากอ่านมากคะไรท์อย่าทำให้คลั่งสิคะ
#รีดพลอยคนเดิมคะ(ชื่อนี้ชอบมากๆๆๆคะ)
#ไรท์ตบหัวโยกใครสนละ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฮ้าาา ในที่สุดก็หาเจออ เพราะฟ้คมาเล็คมีน้อยมากค่ะ
(เราแต่งเองยังดองไปแล้วเลย//ทรุด) ขอเม้นรวบยอดเลยนะคะ สงสารอเล็คแท้OTZ นางซินชัดๆ (นายซินกับเจ้าชายอสูร??) ไปๆมาๆเราเริ่มเชียรฝ์เจซแบ้วนะเนี่ย55555แสนดีอ่ะ ทั้งดูแลและปกป้อง ต้องให้แม็กนัสมาทำคะแนนแล้วนะคะ!!55555